
เป่ยซี มณฑลหนาน
มุมมองสายตา แทน
มิถุนายน ค.ศ.2021
พวกเรานั่งทานข้าวกันอย่างเงียบเหงาผิดปรกติ ขาดไป่ไป๋คนเดียว ทุกอย่างเงียบหงอยลงไปถนัดตา พี่ซอนกลับเข้ามาบ้านช้ากว่าพวกเรา เขาบอกด้วยสีหน้าเครียดว่า ไป่ไป๋ต้องไปถ่ายงานแค่นั้น และไม่ได้พูดอะไรต่อ หม่าม้าก็พยายามทำหน้าที่แทนลูกสาว ชวนพวกเราคุย แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนกัน
ผมรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป เธอเคยเดินพะเน้าพะนอคลอเคลียไม่ห่างกาย ส่งเสียงเจื้อยแจ้วเหมือนเด็กน้อยชวนคุยตลอดเวลา จนผมเคยชินรู้สึกว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว
หลังทานข้าว ผมล่ำลาผู้ใหญ่เสร็จก็เดินมาเก็บของส่วนตัวในห้องรับแขก ล้มตัวลงนอนบนผ้านวมที่พวกเรานอนด้วยกัน รู้สึกใจหาย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเธอยังติดตรึง คิดถึงเสียงหัวเราะสดใส ท่าทางทะเล้น สาวน้อยที่คอยแหย่คนนั้นคนนี้ ไม่อยู่ด้วยกันแล้ว
ผมมองไปรอบห้องรับแขกอย่างอาลัย...เธอเคยนั่งเล่นกับนาตาลีตรงนี้ เธอเคยนอนไขว่ห้างตรงนั้น มันว่างเปล่าเงียบเหงาจับใจ ไม่ได้ลาจากกันดี ๆ ต้องมากลุ้มใจอีก ช่วงเวลาที่สวยงามพังครืนลงมาเหลือเพียงซากของความเจ็บปวด ไม่สบายใจเลยเวลาคิดถึง
“แทน!..ออกไปข้างนอกกัน” ซอนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับหมวดจางเอ่ยชวน ผมลุกหยิบเป้และกระเป๋าโน้ตบุ๊กเดินตามอย่างว่าง่าย
“รู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรผิด?” พี่ซอนท่าทางตึง ๆ ถามเสียงเครียด
“อ้าว! ขอโทษนะพี่?” ผมยกมือไหว้
เขาพยักหน้าช้า ๆ มองอย่างตรึกตรอง ผมพยายามนึกว่าไปขัดใจเขาตอนไหน พี่ตุ๋ยไม่อยู่ด้วยก็ได้พี่ซอนนี่แหละ คอยสอนและช่วยเหลือในหลาย ๆ เรื่อง ผมไม่กล้าปีนเกลียวแน่
“ไปพูดกับน้องยังงั้นได้ยังไงวะ? แกบอกกับไป่ไป๋เหรอว่าจะเอาเธอไปทิ้งเหรอ? เธอน้อยใจหนีไปแล้ว”
“อ้าว! ผมแค่ล้อเล่น เธอห้ามผมชอบนาตาลี แต่นาตาลีกลับขี่ม้าบอกชอบผมต่อหน้าเธอ ผมเลยล้อเล่นแก้สถานการณ์ ไม่ได้คิดไล่เธออย่างนั้นแม้แต่นิดเดียว เธอโกรธผมเรื่องนี้จริงเหรอ? เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว” ผมรู้สึกไม่ดีเลย ที่เป็นต้นเหตุให้นาตาลีและไป่ไป๋ต้องแยกทางกัน ผมจะทำยังไง?
“เล่นแรงไปไหม?” เขาดุ
ผมก้มหน้ารับผิด...
“ผมไม่ได้ตั้งใจ เธอตั้งกฎให้ผมอยู่ห่าง ๆ และห้ามผมชอบนาตาลี ผมก็ตามใจมาตลอด”
“เหรอ? มึงโดนขนาดนั้นเลยเหรอ? หึหึ!” เขาหัวเราะเบา ๆ
“ผมก็ยังมองเป็นเรื่องขำ ๆ ตอนนาตาลีขี่ม้าเลย ผมเตรียมตัวถอยจากพวกเธอแล้ว เพราะผมก็เดาไว้ว่าไป่ไป๋มีปัญหาแน่ สุดท้าย!..ก็มีปัญหาจริง ๆ ผมไม่อยากกลับบ้านไปแบบนี้เลยว่ะพี่! ไม่สบายใจเลย” ผมก้มหน้าเหนื่อยใจ เสียดายวันเวลาที่สวยงาม ลึกลึกในใจก็เจ็บ
“แกชอบไป่ไป๋หรือเปล่า?” พี่ซอนถามในสิ่งที่ผมไม่อยากจะพูดเลย
“เห่อ!” ผมโคตรหนักใจเลย
“แล้วตอนนี้ไป่ไป๋ ไปไหนแล้ว?” ผมตอบไม่ได้หรอก ขยับลุกเตรียมตัวกลับ
“พี่ก็ไม่รู้ว่ะ? เห็นบอกว่าอยากกลับบ้าน ร้องไห้เกือบตาย ให้พี่ไปส่งที่หน้าสนามบิน พี่ไม่ได้ตามเข้าไปส่งข้างในด้วย ส่งแค่ข้างนอก” เขามองหน้าแล้วถอนหายใจเฮือก ...
“คงเกลียดผมแล้วล่ะ”
“หาทางแก้ไขซะนะ อย่าเสียเพื่อนดี ๆ ไป”
“สิ่งที่ผ่านมาพังไปหมดแล้ว ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรแล้วครับ ผมจะเอารถยนต์ไปจอดไว้บ้านพี่นะ”
“จะกลับจริง ๆ เหรอคะ?” หมวดจางนั่งมองอยู่นาน
“ครับ!” ผมลุกยืน หันมองกลับเข้าไปในบ้าน นาตาลีคุยกับคุณหมอติดพันไม่ได้ออกมาส่ง ผมยิ้มให้กับแผ่นหลังของเธอ แล้วเปิดประตูขึ้นรถ...
“รู้หรือเปล่า? ไป่ไป๋รักมึงมากเลยนะ เธอน้อยใจที่มึงไม่รัก ทึกทักเอาเองว่า มึงกับนาตาลีหักหลัง นาตาลีก็ชอบมึงนะแทน อย่ามองข้าม ถ้ายังไงก็อย่าให้เธอคิดไปเอง จะทำยังไงก็ลองเคลียร์กัน” พี่ซอนเตือน
หมวดจางหันขวับ…
“มากไปไหมซอน? พูดจาให้มันมีขอบเขตหน่อย” เสียงเบา ๆ ของเธอปิดปากเขาได้สนิท
“ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความตั้งใจของทุกคนก็แล้วกัน ผมจะไม่ติดต่อกับใครอีก ถ้าพวกเธอไม่เห็นผมอีกก็คงปรับความเข้าใจกันได้เอง ผมแก้ปัญหานี้ไม่ได้หรอก มันเห็นแก่ตัวเกินไป” ผมหยิบโทรศัพท์มาโทรหาไป่ไป๋...
“ไม่มีสัญญาณตอบรับ จากเลขหมายที่ท่านเรียก”
“ติดต่อไม่ได้เลย” กลุ้มใจจัง
“เธอกลับบ้าน ไม่ต้องห่วงหรอก หม่าม้ายังไม่ห่วงลูกสาวเลย เขาโทรคุยกันแล้ว” ซอนหัวเราะเบา ๆ
“งั้น! ผมไปก่อนนะครับ!”
“ไม่บอกลานาตาลีเหรอ รอเธอก่อนสิ!”
“ผมทนไม่ได้ที่ต้องลาเธอ ผมขอมองเธอแล้วจากไป อาจจะเสียใจและโกรธ ซึ่งมันจะดีกับเธอทั้งสองคน ให้ความเกลียดมาลงที่ผมคนเดียว”
“แทน!” หมวดจางผวาเข้ามากุมมือ
“ผมลาก่อนนะครับ ขอให้รักกันจับมือกันไปจนแก่เฒ่า มีลูกหลาย ๆ คน สุภาพแข็งแรงและโชคดีทุกวัน”
ผมจากลาด้วยหัวใจห่อเหี่ยว รู้สึกผิดกับนาตาลีที่ไม่รอให้เธอเจรจากันให้จบก่อน ถึงจะเศร้าใจแต่ก็ยังเชื่อว่า ผมทำอย่างดีที่สุดแล้ว และยังคงเชื่อลึก ๆ ในใจว่าทั้งสองคงเชื่อมต่อกันได้ในไม่ช้า แต่ถ้าผมยังอยู่ ปัญหาจะวนเวียนจนกลายเป็นสงครามขึ้นมาอีก
ผมกลับมาอยู่กับความจริง คนอย่างผมไม่สามารถจะเซอร์ไพรส์นาตาลีและไป่ไป๋ได้เลย ผมไม่มีรายได้และยังไร้งานจะเอาเงินที่ไหนมาสร้างความประทับใจให้กับพวกเธอ
การปล่อยมือนั้นยากกว่าการรั้งไว้ แต่เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เรารัก ผมไม่คาดหวังอะไรอีกแล้ว บ้านตัวเองก็กลับไม่ได้ พี่ชายก็บวช ตอนนี้เงินติดตัวก็มีน้อยนิด น้ำมันรถยนต์ก็จะหมดอีกในไม่ช้า.
...............................................................................................

“you are not alone. I am here with you.
Though you're far away. I am here to stay.”
ผมปล่อยใจไปกับเสียงเพลง มองรถยนต์ที่สวนมาเรื่อย ๆ เหลือบมองป้ายเข้าเมืองปู้เอ๋อ เขตปกครองตนเองสิบสองปันนาแล้วใจหาย อีกไม่ไกลก็ถึงบ้านซอน ดูเวลาเกือบจะสองทุ่มแล้ว ยิ่งใกล้ออกจากจีนหัวใจยิ่งเศร้า
“เอี๊ยด!” แวะพักสักร้านสะดวกซื้อข้างถนน หยิบโทรศัพท์...
“ไม่มีสัญญาณตอบรับ จากเลขหมายที่ท่านเรียก” ติดต่อไป่ไป๋ก็เงียบเหมือนเดิม แค่จะบอกลาว่า กลับบ้านแล้วนะ ยังทำไม่ได้
ผมเข้าไปเลือกน้ำเลือกขนมออกมานั่งกินหน้าร้าน หยิบโน้ตบุ๊กออกมา มันเป็นสิ่งเดียวที่จะรู้ความเคลื่อนไหวของสองสาว
“โอมเพี้ยง! ขอให้เจอทีเถอะ” ผมเอาโน้ตบุ๊กขึ้นจบหัวก่อนจะเปิดมันขึ้นมา ในยามที่จิตใจตกต่ำ เมื่อเข้าตาจนก็เอาทุกอย่างเหมือนกัน พึ่งไสยศาสตร์ก็เอา เริ่มเข้าใจนาตาลีแล้วทำไมต้องทำขนาดนั้น
“Rrrrrrr” โทรศัพท์ดัง
“แทนคะ ถึงไหนแล้ว?” พี่สะใภ้เสียงใสเชียว
“นั่งอยู่ข้างถนนที่สิบสองปันนาครับ หมวดจางมีอะไรให้รับใช้ครับ?”
“ไม่มีค่ะ! เป็นห่วงเลยออกมาโทรหา ขับรถไกล ๆ คนเดียวอันตราย”
“นาตาลีล่ะครับ?”
“ร้องไห้ขี้มูกโป่งหลับไปแล้ว น้อยใจที่ทุกคนทิ้งไปหมด ด่าฉันยับเลย หาว่าเป็นสารตั้งต้นของความเลวร้าย” เธอหัวเราะลั่น
ผมยิ้มที่เห็นไฟกะพริบบนจอคอมฯ
“ผมทำได้ไม่ดีเลย รักษาความสัมพันธ์ไว้ไม่ได้ ฝากขอโทษและดูแลเธอด้วยนะครับ เวลาที่ผ่านมาไม่สูญเปล่าหรอกครับ อย่างน้อยผมก็ยังเห็นเธอปลอดภัย” ผมเลื่อนดูเส้นสัญญาณสีเหลืองของไป่ไป๋ แต่ทำไมไกลนักวะ
“หมวดจาง! ไป่ไป๋อยู่อู่ฮั่นไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่สิ!”
“แล้วทำไมเธอเลยไปไกลจัง”
“ดูสิ! ไปไหน? ยายตัวแสบ เอาแต่ใจตัวเอง!” หมวดจางบ่นอุบ
ผมซูมภาพขยายเพื่อดูชื่อเมืองที่สัญญาณกระพริบ
“เสิ่นหยาง!ดูเหมือนกับจะเป็นที่เดียว ที่คุณพานาตาลีไปครั้งก่อน” ผมรำพึงเบา ๆ
“ฮ้า! พูดอีกทีสิ!” หมวดจางร้องลั่น
“สัญญาณมันไปกะพริบที่เสิ่นหยาง เธอไปหาใครเหรอ?” สัญญาณของไป่ไป๋หลงไปไกลมาก คนละซีกของประเทศเลย เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเดินทางไม่กี่ชั่วโมงไปไกลขนาดนั้น
“นั่นมันเขตของกองพันที่ 8 นี่ ไป่ไป๋จะไปที่นั่นทำไม?” เสียงหมวดจางตื่นตระหนก...
ทันใดนั้น....
“ตายแล้ว! ฉันลืมไปสนิทเลย” หมวดจางครวญเสียงหลง ยิ่งทำให้ใจสั่น
“มีอะไรครับ?”
“ฉันลืมบอกให้เธอ ปิดโทรศัพท์ งานเข้าแล้วล่ะ! คงโดนทหารจับตัวไปอีกแล้วล่ะสิ!” เธอถอนหายใจแรง
“ฮ้า!” ผมใจหายวาบ...
“หมวดจาง! บอกพี่ซอนด้วย ผมจะไปสนามบินสิบสองปันนา จะทิ้งรถยนต์ไว้ที่นั่นนะ บอกให้ลูกน้องมารับรถกลับไปด้วย” ผมตัดสินใจทันที
“คุณจะไปไหน?”
“ไปที่นั่นแหละครับ”
“ไม่ได้นะแทน นั่นค่ายทหารนะ คุณเข้าไปไม่ได้ อันตราย” หมวดจางร้องห้ามเสียงหลง
“พวกนั้นไม่รู้จักผมหรอก ผมขอไปก่อน ผมร้อนใจอยู่ไม่ได้หรอก เธอต้องกลัวมากแน่ ๆ เลย ผมต้องไปแล้ว” ผมรีบเก็บอุปกรณ์
“ไม่ได้นะ! อย่าไป!”
“ขอโทษนะครับ ผมทิ้งเธอไว้แบบนั้นไม่ได้” ผมปิดโทรศัพท์ ก้าวขึ้นรถยนต์เรื่องอื่นสำคัญน้อยลงไปหมด ใจของผมตอนนี้อยู่ที่มณฑลเสิ่นหยางแล้ว
............................................................................................