The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 4 ตอนที่ 30

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 4 ตอนที่ 30
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 4
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 23 ก.พ. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

ฉางชุน มณฑลจี้หลิน

มุมมองสายตา นาตาลี
กรกฎาคม ค.ศ.2021
เสียงปืนสงบลง ทุกอย่างรอบตัวเงียบกริบ ภาพข้างหน้าเหมือนค่อย ๆ หมุนผ่านไปอย่างช้า ๆ ใบไม้ปลิดปลิวล่องลอยไปตามกระแสลม ทหาร 10 นายถือปืนวิ่งกระจายล้อมลานจอดด้านหน้า รถหุ้มเกราะล้อยางอีก 5 คันเคลื่อนตัวขึ้นมา ตามด้วยทหารราบเดินแอบข้างรถมาอีกประมาณ 40 นาย
นายทหารตัวผอมสูงสวมหมวกแดง เดินก้าวออกจากแถว ท่าทางองอาจ...             
“ออกมามอบตัวซะดี ๆ! ทหารจีนในชุดนักรบลายพรางอาวุธพร้อมสวมหมวกแดงป้องปากร้องตะโกน
“พรึบ!พรึบ!พรึบ! ทหารลูกแถวก้าวเท้าขยับรุกคืบเข้ามาช้า ๆ ทีละก้าว ๆ             
“อยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ต้องเข้ามา!ซอนตะโกนบอกไป
“พรึบ!พรึบ!พรึบ! แต่ไม่เป็นผลพวกเขากระจาย ก้าวขามา
“ปัง! ซอนยิงปืนสั้นในมือ ลูกปืนไปตกแถว ๆ รองเท้าของทหารหินแตกกระจาย
“หมอบ! กองทหารทิ้งตัวนอนพร้อมยิง ซอนหันมาโบกมือให้ทุกคนเข้าที่กำบัง             
“ยิง! สิ้นเสียงสั่ง
“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!..ดดด!! เสียงปืนก็ดังหูดับตับไหม้สนั่นไปทั่วภูเขาปลุกวิญญาณจากหลับใหล 
“ปุ!ปุ!ปุ!ปุ! ลูกปืนกระทบผนังปูนกะเทาะเป็นรูพรุน เสียงปืนจากทหารจีนดังก้องฟ้า
“บรื้น! บรื้น! บรื้น! รถหุ้มเกราะขยับตัว ปืนกระบอกใหญ่ติดรถพร้อมยิงส่ายไปมา หมู่ทหารเดินดาหน้ากระหน่ำยิงเข้ามาใกล้ 
“ปัง!ปัง!ปัง!  หมวดจางหันยิงปืนสั้นโต้
 ทหารค่อย ๆ อ้อมขนาบบีบเข้ามาเรื่อย ๆ            
 “ตรึ่ดดด!!...ปัง!ปัง!ปัง!เสียงปืนสารพัดกระบอกพุ่งเป้ามาที่กลุ่มของเรา ฉันเอาชัวร์ไว้ก่อน...นั่งหลบหลังแท่นวางกระถางธูปบูชา ตรงนี้ป้องกันได้ทั้งระเบิดทั้งปืนแน่นอน 
หมวดจางขยับวิ่งมาจูงมือฉัน...
“เผ่นเถอะ! ออกไปข้างหลัง ตามมานะ! เธอวิ่งนำกระโดดผ่านหน้าต่างออกไป
“ไป! ซอนตะโกนไล่
ฉันคิดไม่ผิดเลยต้องโดนวิ่งอีกแล้ว กระโดดออกหน้าต่างวิ่งเข้าซอกกำแพงรั้ว ไป่ไป๋วิ่งตามมาติด ๆ
หมวดจางวิ่งนำหน้า หันมาตะโกนสั่ง...              
“ซอน! พาแทนลงตามมานะ” เธอหันวิ่งไปต่อ ลงไปตามทางเดินของชาวบ้าน
ไวปานลิงลม ในชั่วพริบตา ซอนพาแทนวิ่งลุยป่าตามลงมาทัน
“เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เขาหันกลับไปยิงเป็นระยะ และคอยเอื้อมมือมาพยุงฉันตลอด         
“ดอกเตอร์! ปืนในมือยิงมันเข้าไป อย่าให้มันประชิดตัว” เขามองย้อนกลับขึ้นไป /ฉันยิงปืนไม่เป็น/
“ว๊าย!          
“ตุ่บตั่บ!ตุ่บตั่บ! ไป่ไป๋ลื่นล้มกลิ้งไถลลงไปด้านล่าง
 “หยุดนะ! จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว” เสียงทหารร้องเตือน ฉันชะเง้อมองตามเสียง ไม่เห็นว่าพวกเขาอยู่ตรงไหน?
“หนีอย่างเดียว ไม่ต้องสนใจมัน!ซอนเข้ามาจูงมือวิ่ง
ทางลงจากภูเขาเต็มไปด้วยก้อนหินเล็กใหญ่ขวางทาง ต้องโหนต้นไม้บ้าง กระโดดบ้าง หนามเกี่ยวเสื้อผ้าขาดกระจุย ทุลักทุเลจนมาทะลุถนนด้านล่าง
พวกเราวิ่งตะลุยออกจากป่าเข้าไปในตัวหมู่บ้านชนบท ชาวบ้านเริ่มแตกตื่น เมื่อเห็นพวกเราถือปืนวิ่งกันพล่าน ฉันกวาดสายตามองหาหมวดจาง 
“ทางนี้!” เธอโบกมือไหว ๆ อยู่มุมบ้านด้านหน้า                       
หมวดจางชี้มือไปบนเนินเตี้ยด้านหลัง โกดังไม้สนโบราณขนาดใหญ่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ ตั้งในซอกภูเขาเป็นป้อมปราการได้เป็นอย่างดี โขดหินธรรมชาติป้องกันแข็งแรง             
พวกเราวิ่งผ่านลานกว้างที่ล้อมรอบด้วยบ้านไม้โบราณหลังเล็ก ก่อนจะถึงซอยเข้าไปโกดังท้ายหมู่บ้าน
                          ..............................................................................................



ภายในโกดังร้าง...
พื้นที่ตรงกลางโล่ง ฝาผนังทั้งสี่ด้านเป็นชั้นวางเครื่องมือเกษตรที่ใช้งานไม่ได้แล้ว ขื่อคานหลังคาเป็นท่อนไม้สี่เหลี่ยมใหญ่ดูมั่นคง เสาค้ำยันทำจากต้นไม้ทั้งต้น ดูแล้วน่าจะก่อสร้างมานานจากช่างฝีมือในอดีต ซอนนอนกลิ้งไปมาหายใจหอบเหนื่อย
หมวดจางเดินเข้าไปหาแล้วทรุดตัวลงนั่งข้าง...             
“ซอน!..คุณดูแลดอกเตอร์ด้วย ห้ามให้บาดเจ็บนะ” เธอลูบใบหน้าเขาอย่างอ่อนโยน             
“ครับผม!” ซอนรับคำหนักแน่น             
แทนยืนแอบข้างประตูหันมามองนิ่ง ทำไมแววตาเศร้าจังเลย? หันมองไป่ไป๋แล้วใจหายวาบ เธอมีเลือดไหล
“ไป่ไป๋! เลือดออกนี่นา” ฉันรีบคลานไปหาแล้วดึงขากางเกงผ้ายืดขึ้นดู แผลสดจากรอยไม้ข่วนเลือดไหลเป็นทาง               
“โดนเฉี่ยว ๆ ต้องใส่ยาก่อนที่จะติดเชื้อ หมวดจาง! ขอผ้าเช็ดหน้าหน่อย” ฉันรีบจัดการปฐมพยาบาล บาดแผลไม่ลึกเท่าไหร่ไม่น่าเป็นห่วง             
“เจ็บมากมั้ยคะ?” ฉันโอบลูบหลังประโลมใจ             
“หายแล้วค่ะ!” สาวน้อยยิ้มหน้าบานทำให้โล่งใจ               
แทนของฉันแอบข้างประตูด้านข้าง ชะโงกหน้ามองทหารด้านล่าง   ใบหน้ามีแต่รอยช้ำ ฉันมองสำรวจไปตามร่างกายตามลำตัวของเขา ไม่มีบาดแผล ไม่มีเลือดไหลก็โล่งใจ ทนกันอีกหน่อยก็ได้กลับแล้ว
“หนูเชื่อว่า ซอนพาเราหนีออกไปได้” ไป่ไป๋ดึงปากกาจากกระเป๋าเสื้อของฉัน         
“นี่อะไรคะ?”เธอหยิบปากกาเลเซอร์ไปพลิกดู
ฉันหยิบมาแล้วกดให้เธอดู เธอยิ้มดีใจเหมือนได้ของเล่น หยิบปืนสั้นขึ้นมามัดด้วยปากกาที่ปลายกระบอกก่อนจะส่งให้แทน               
“แทนคะ เล็งแล้วยิง”เธอบอกแล้วลุกขึ้นไปแอบข้างเสา ห้าวดีจริงนะฮองเฮาของฉัน อย่าเจ็บตัวล่ะ!
เสียงปืนด้านอกสงบลง ฉันลุกไปหาหมวดจางที่แอบหลังเสา มองผ่านรอยห่างของฝาบ้านไม้สนออกไปด้านนอก รถหุ้มเกราะทั้ง 5 คันเคลื่อนตัวเข้ามาจอดกันคนละมุม กระจายตัวรอบลานกว้างที่ปากซอย  มองเห็นปืนยาวบนหลังรถแล้วใจหวั่น      
ทหารยืนเรียงหน้ากระดานบนลานกว้าง พวกเขาหยุดคอยอะไรกัน? ฉันคิดในใจ...พักรบเหรอ? ดีเหมือนกันจะได้หายใจคล่องขึ้นหน่อย
          “แทนคะ! มานี่สิ”เขาเดินยิ้มมา ฉันสวมกอดเอามือลูบหลังขวัญเอ๋ยขวัญมา เราไม่เคยได้นั่งคุยกันดีๆเลย
ฉันตื่นเต้นกับกิจกรรมของฮองเฮา จนลืมที่จะดูร่องรอยบาดแผลให้ เขาเสี่ยงตายมาช่วยจนตัวเองเจ็บ กดมือไปตามแผ่นหลังของเขาอย่างแรง บีบจับแขนเขา สังเกตมองใบหน้าที่ซีดเซียวมอมแมม รอยช้ำที่โหนกแก้มเป็นจ้ำแดง เขาเหนื่อยกับพวกเรามาตลอดและไม่เคยคิดเล็กคิดน้อย
ฮองเฮาตอบแทนการมาช่วยเหลือครั้งนี้คุ้มค่ามาก อยากกลับบ้านเร็ว ๆ อยากเจอเจ้างางอนแล้ว...คิดถึง ลื่นปรื๊ด!ลื่นปรื๊ด!          
“ถอดเสื้อสิคะ! เหนื่อยมาเยอะแล้ว ฉันจะดูแลคุณบ้าง เราเป็นแฟนกันแล้วนะ”
เขาเลิกคิ้วมอง อมยิ้มอาย
“อื้อ! ฉันพยักหน้าเป็นเชิงออกคำสั่ง         
เขาจึงถอดเสื้อกันหนาวสีขาวของกองทัพจีนออก แล้วถอดเสื้อยืดแขนยาวคอกลม เหลือกางเกงยีนเลอะคราบเลือดตัวเดียว เอื้อมมือลูบลอนกล้ามท้องที่คุ้นตา
“หมุนตัวสิคะ!” ฉันบอกแล้วนั่งยอง บีบตั้งแต่โคนขายันปลายเท้าทั้งสองข้าง สำรวจหาบาดแผลตามร่างกาย               
“ไม่มีบาดแผล เก่งมาก!” ฉันลุกขึ้นไปกอดร่างเปลือย หางตาเหลือบเห็นไป่ไป๋เดินเข้ามา ฉันจะโดนเธอจวกหรือเปล่าวะเนี่ย? ยังระแวงนิดหน่อย...แอบลุ้นในใจ 
“อนนี่จ๋า!” เสียงหวานเดินลากขากะแด็ก ๆ มา
“หือ!มีอะไร?”ฉันเสียวสันหลังหันไปยิ้มให้
เธอเดินเข้ามาใกล้ เอื้อมมือมาจับหัวฉัน แล้วอีกมือโน้มคอของเขาลงมา นี่เธอเห็นฉันเป็นอะไรกันแน่ เอาแต่ใจตัวเองจริง ๆ จะมาทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันดิ้นสะบัดหน้า...
“อุ้บ! ปากของเราชนกัน              
“อืม! เสียงครางออกจากลำคอเบา ๆ พอมันลงรอยก็รับรู้แล้วว่าเรากำลังจูบกัน จูบแรกที่ฉันรอคอย ทำไมมันขาด ๆ เกิน ๆ ไม่ปะติดปะต่อเลย ไม่โรแมนติกเลย โดนยายฮองเฮาบังคับตลอด 
ไป่ไป๋ผีเข้ารึเปล่านะ? ทำไมวันนี้มาแปลก? จัดให้ตลอด ไม่หึง! ไม่งอน! ฉันดูดดื่มกับจูบที่เขามอบให้จนใจสั่นไหวอยากไปต่อ สูดกลิ่นกายของเขาลึกสุดใจแล้วตัดใจ...       
“แทนคะ! อย่าทำอะไรเสี่ยง ๆ อีกนะ ออกจากที่นี่ไปให้ได้และต้องปลอดภัยด้วย” ฉันเตือนเพราะอีกก้าวเดียวก็กลับได้แล้ว 
เสียงซอนตะโกนลั่น เขามองออกไปด้านนอก         
“เฮ้ย!..ออกมาได้ยังไง กลับเข้าไปในบ้านเร็ว!” เขาเดินไปที่หน้าประตูแล้วโบกมือไล่              
เราปล่อยมือออกจากกัน แทนวิ่งกลับไปแอบหน้าประตูยืนคนละฝั่งกับซอน ฉันวิ่งไปหาหมวดจางริมหน้าต่างผนังด้านหน้า ไป่ไป๋เดินตามมานั่งกับพื้นด้านหลัง
“แกวก! แกวก! แกวก!ฝูงห่านขาว เดินชักแถวชูคอร้อง  
“แง!แง! เด็กหญิงราว ๆ 4-5 ขวบเดินร้องไห้จ้า แก้ผ้าโทง ๆ  ออกมาจากบ้านข้าง ๆ น้ำตานองหน้า ยืนลังเลหันซ้ายขวาอยู่กลางถนนหน้าโกดัง
ทันใดนั้น..             
“ตรึ่ด...ดด!!...ปัง!ปัง!ปัง!การปะทะครั้งใหม่เริ่มขึ้น ห่ากระสุนปืนสาดเข้ามากระทบฝาบ้านข้างเด็กหญิงแตกกระจาย
“แง!แง! เธอกลัวจนตัวสั่น หันมองหาพ่อแม่ ฝูงห่านตื่นตกใจวิ่งเข้ามาชนเด็กล้มกลิ้ง ...              
“แง้! หม่าม้า! หม่าม้า! กรี๊ด!!  เด็กหญิงร้องกลัวจนเสียสติ  มือหงิกตัวงอ 
แทนหันมา...             
“ผมจะไปเอาตัวเด็กมานะครับ” เขาบอกแล้วพุ่งพรวดออกไปอย่างไม่ลังเล 
ซอนตะโกนลั่น...             
“ไอ้แทน! อย่าออกไป!            
“วี้ด!!! เสียงหวีดจากหางจรวดลอยมาบนอากาศ 
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว...   
“บรึ้ม!! เสียงระเบิดกัมปนาทบีบหัวใจ โกดังไม้สนสั่นไหว
ระเบิดลงข้างบ้านเศษไม้กระจัดกระจายฝุ่นตลบ เสี้ยววินาทีนั้นเงาดำผ่านวูบมากระชากร่างฉันปลิวล้มลงพื้น
“..........” ฉันหลับตานิ่งใต้ร่างของใครบางคน เสียงเศษไม้หล่นกระทบพื้น ฝุ่นฟุ้งไปทั่ว
เขาดันตัวลุกขึ้นนั่ง เป็นซอนนั่นเองที่กระโดดมาป้องกันให้ฉัน
“มี..ใครเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ไป่ไป๋ถามเสียงสั่นจากข้าง ๆ ใบหน้าของเธอมีแต่ฝุ่นมอมแมม             
“ฉันไม่เป็นไร!” หมวดจางบอกพร้อมปัดฝุ่นฟุ้งกระจายออกจากหัว
          “หนีไปจากที่นี่เถอะ อันตรายเกินไป” เธอมองหน้าซอนเชิงปรึกษา             
“ไปสิ! แทน! พานาตาลีหนีเร็ว! ถอยไปหลังบ้านก่อน” ซอนหันไปสั่งแทน 
“วี้ด...ดด!ซอนพุ่งมาหาฉัน
“บรึ้ม...มม!
ระเบิดลงอีกข้างของโกดังพังกระจาย ฝาผนังไม้สนหายไปในพริบตา ทุกคนต่างหมอบลงกับพื้น
“โครม! ตึง! ตึง! 
“...............”
หลังจากเสียงเศษไม้หล่นลงมาเงียบลง เงยหน้าขึ้นมา หน้าตามอมแมมไปด้วยฝุ่นกันทุกคน ความน่ากลัวของอาวุธมันหลอกหลอนในใจทุกวินาที ระเบิดทำลายล้างทุกอย่าง สภาพรอบกายมีแต่ฝุ่นกับซากปรักหักพัง เปลวไฟเริ่มไหม้ กลิ่นควันไม้หลอนประสาท
ความกลัวทำให้มนุษย์ยอมจำนนสินะ! คนถึงได้พยายามขึ้นไปมีอำนาจทางกฎหมาย พวกทหารถึงชอบใช้แต่กำลังในการห้ำหั่นคู่ต่อสู้ ใช้อาวุธในการเอาเปรียบเพื่อชนะ            
“หนีเถอะ! หมวดจางลุกขึ้นดึงมือ 
“แทนไปกันเถอะ!” ฉันหันกลับไปหาแทน เขายังนอนคว่ำหน้าในท่าเดิม เอื้อมมือไปดันไหล่ของเขาให้พลิกหงายหน้า
“ห่ะ! ฉันช็อก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เสียขวัญ หวีดร้องสุดเสียง...                    
“แทน! เลือดแดงสดเลอะเต็มใบหน้าที่นอนหลับตาไร้ความรู้สึก 
“แทน! แทนได้ยินฉันมั้ย? แทนลืมตาสิ” ฉันผวาประคองศีรษะของเขา หัวใจรัดตัวกลัวมากที่เห็นเลือดนองพื้นรอบ ๆ ตัวของเขา มือสั่นไร้เรี่ยวแรงที่เห็นเขาไม่รู้สติ   
“แทน! ไป่ไป๋ตาเหลือกลานพรวดเข้ามา รีบถอดเสื้อกันหนาวรองหัวเขาไว้  เราต้องกลับบ้านด้วยกันนะ ลืมตาขึ้นมาสิคะ
ฉันเคยอยู่ในโลกที่มีแต่ความสะดวกสบาย มีแต่คนประเคนของมาให้เลือก ทุกคนให้ความเกรงใจ ไม่เคยได้รับรู้ความยากลำบากของคนอื่น สังคมที่ซับซ้อนซ้อนเร้น เต็มไปการดิ้นรนเอาตัวรอด ยื้อแย่งแข่งขันเพียงเพื่อความอยู่รอด มันต้องมีอะไรผิดพลาดบางอย่างสังคมจึงเละเทะเช่นนี้ ช่องว่างของคนแตกต่างกันมาเกินไป ผู้มีอำนาจถึงไล่ฆ่าคนอื่นโดยไม่ต้องละอายแก่ความผิดแม้แต่น้อย
                        ...........................................................................................

 

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,861 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,977 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม