The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 ตอนที่ 29 (จบเล่มที่ 7)

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 ตอนที่ 29 (จบเล่มที่ 7)
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 25 พ.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


Kala Democracy

มีนาคม ค.ศ.2026

มุมมองสายตา แทน

อาคาร Hiland ...

ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป แสงไฟไม่สว่างเหมือนเดิมไฟติด ๆ ดับๆสยองไปทั่วเมือง ควันไฟดำคุกรุ่นลอยคลุ้งไปทั่วบรรยากาศน่าสะพรึงกลัวคล้ายกับเมืองร้าง สายลมพัดพากลิ่นเหม็นไหม้ปนกลิ่นเน่าของซากศพลอยมาตามสายลม ศพนอนอืดเกลื่อนกราดอุจาดตาระเนระนาดเต็มท้องถนน

หลังจากสำรวจเมืองเสร็จ ผมเลี้ยวรถแฮมเมอร์เหลืองเข้าจอดหน้าอาคาร Hiland ตึกสูงตรงกันข้ามกับสนามบินภายในประเทศ นั่งเหม่อมองไปด้านในสนามบิน        

“แทน!เสียงเรียกจากวิทยุ...

“หัวหน้าหลงมาถึงแล้วเหรอ?” ผมรีบถามกลับ

“ใกล้ถึงแล้ว ตอนนี้เลยนิคมอุตสาหกรรมมาแล้ว”

“รีบ ๆ มานะ ผมร้อนใจจังเลย” ผมถอนหายใจแรง

“ทำไมถึงติดต่อเจ็ทโด้ไม่ได้ เกิดอะไรขึ้น?” หลงซันร้องถาม

“นี่แหละ! ที่ผมไม่สบายใจ” จู่ ๆ ลูกพี่ก็หายไปเฉยเลย

“มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”

“ไม่แน่ใจ! รีบมานะครับจะได้คุยกัน”

ทันใดนั้น...

“ปัง!ปัง!ปัง! เสียงปืนดังจากถนนหน้าสนามบินเกิดอะไรขึ้น ผมหยุดยืนมอง

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! เสียงปืนดังใกล้เข้ามา

 “แว๊น! แว๊น! พอดีบิดมอเตอร์ไซด์หน้าตั้งเหินข้ามทางรถไฟพุ่งเข้ามา

“บรื้น!... รถมอเตอร์ไซด์เป็นฝูงไล่ตามเธอมาห่าง ๆ

“เดี๋ยวผมติดต่อกลับไปนะ งานเข้าแล้วล่ะ?” ผมรู้สึกเป็นห่วง

“แทน! มีอะไร เสียงปืนอะไร?” หลงซันร้องเสียงหลง

“แทน!

“..............”

“แว๊น! มอเตอร์ไซด์เหินบิน ลอยขึ้นมาบนลานจอด

“โครม...! มอเตอร์ไซด์ล้มสไลด์ หญิงสาวกอดถุงไว้แนบอกม้วนตัวกลิ้งไปบนพื้น

“พี่แทน! ช่วยหนูด้วย” พอดี ลุกขึ้นได้วิ่งหน้าตั้งเข้ามา

“ยายตัวยุ่ง ขึ้นรถเร็ว!” ผมเปิดประตูผลักน้องขึ้นรถเหลืองแล้ววิ่งมาขึ้นนั่งที่คนขับ

“ไปทำเรื่องอะไรมาอีกเนี่ย? ยังเก็บน้องไว้อีกเหรอ?” ผมหันมองหน้าเด็กสาวแล้วมองไปที่กระเป๋าใส่ Soulless นางฟ้าตัวน้อยของเธอที่หน้าอก

“ไอ้พวกนั้นมันตามหนูมา มันจะจับหนู” เธอชี้ไปที่ถนน

“พวกมันเป็นใคร?”

“บรื้ม! บรื้ม! เสียงกองทัพบิ๊กไบท์กำลังใกล้เข้ามา

“ไม่รู้! หนูขับรถตามหาครอบครัวในค่ายทหารตั้งแต่แยกกับพี่ แล้วหนูเห็นพวกมันไล่จับคน หนูเลยแอบตามมันไปพวกมันร่วมมือกับทหารจีนอยู่ในกองทัพอากาศ”

“บรื้ม! บรื้ม! กลุ่มมอเตอร์ไซด์10 คัน แล่นเข้ามากลางลานหน้าอาคาร ทั้งคู่ก้มหัวลงต่ำคอยแอบมองผู้มาเยือน

ผมกระซิบเบา ๆ

“มันตามมาจากไหน?”

“ในกองทัพ” เด็กสาวกระซิบกระซาบ คอยชะเง้อมอง

“แยกกันไปค้นหา! ถ้าจับเป็นไม่ได้ก็ยิงทิ้งไปเลย” เสียงตวาดจากชายฉกรรจ์ด้านนอก ชายร่างป้อมเตี้ยยืนองอาจท่าทางจะเป็นผู้นำทีม ชี้นิ้วสั่งกลุ่มชายฉกรรจ์ให้กระจายตัวเดินหา บางส่วนวิ่งขึ้นบนอาคาร

ชายตัวผอมในกลุ่มเดินอาด ๆ ผ่านมาที่รถยนต์ของผม ยายพอดีรีบมุดหัว...

“มุดเลยพี่แทน มันมาแล้ว! แต่เธอขยับตัวแรงจนรถสะเทือน  

“เฮ้อ! งานงอกอีกแล้ว ยายล้นเอ้ย! อย่าชื่อพอดีเลย” ผมหันไปดุแล้วส่ายหัว 

“วี่วี๊ด! ชายนอกรถเป่าปากเรียกเพื่อนแล้วชี้มา เพื่อน ๆ 4 คนวิ่งกลับมากระจายตัวล้อม

“เอาไงดีล่ะพี่แทน มันเห็นแล้ว?” เธอตื่นเต้นเสียงเล็กเสียงน้อย

“เอาไงล่ะ! หนีสิจะอยู่ทำไม?” ผมบอกแล้วสตาร์ทรถยนต์...

“บรื้น!กลุ่มชายฉกรรจ์ยกปืนเล็งมา

“ก้มหัวไว้!ผมร้องสั่ง

“เอี๊ยดดด!! แฮมเมอร์กระชากตัวอย่างแรง ถอยพุ่งเข้าใส่กลุ่มชายฉกรรจ์แตกกระเจิง

“เหวอ! พี่แทน! เธอแหกปากตาค้างเมื่อรถยนต์สะบัดกลับหมุนคว้าง พลังรถยนต์ถูกปลดปล่อยล้อยางกัดถนนเสียงดังโหนหวน...

“เอี๊ยด!...ดด! รถยนต์หมุนสะบัดใส่พวกมันแตกกระเจิง ก่อนจะหักหัวลงถนน

“ตามไปจับให้ได้” หัวหน้าทีมสั่งแล้ววิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซด์ จะจับก็ออกแรงหน่อยก็แล้วกัน ผมเหยีบคันเร่งส่งแล้วหันไปถามพอดี...

“นิคมอุตสาหกรรมไปทางไหน?”

“ออกถนนใหญ่ เลี้ยวซ้ายยาวไปเลย ว๊าย!” พวงมาลัยหมุนยายล้นห้อยโหนเหมือนกระเป๋าสองแถว

“เมื่อกี๊! พี่เกือบจำไม่ได้” ผมขับรถยนต์ขึ้นไปทางทิศเหนือ

“จำใครไม่ได้คะ หนูเหรอ?”

“อือ! ได้กลับบ้าน แต่งตัวแล้วสวยเหมือนกันนะเรา” ผมได้เห็นลุคใหม่ที่สวยงามของเธอถึงกับอึ้ง

“ใคร ๆก็พูดเหมือนพี่แหละ” ยายล้นยืดอกยิ้มกว้าง

“ขับรถยนต์เป็นมั้ย?”

“ไม่เป็นค่ะ!

“โตมายังไงวะ ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง?”

“หนูพูดอังกฤษได้ค่ะ เรียนเก่งมาก ท่องสูตรคูณย้อนหลังได้ด้วย” เธอยิ้มภูมิใจแต่ผมไม่ถูกใจ...

“แล้วมันทำอะไรได้มั่งล่ะ?” ผมเริ่มหงุดหงิด ถนนก็มีแต่อุปสรรคขับรถยนต์โยกเลื้อยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ทั้งศพทั้งรถยนต์เกลื่อนถนน กลุ่มมอเตอร์ไซด์ตามหลังมาติด ๆ

“ข้ามไปด้านหลังหยิบปืนสั้นมาให้หน่อย” เขาหันสั่งเด็กสาวปีนข้ามเบาะไปด้านหลัง ค้นของเสียงดังกุกกัก

“พี่แทน! ทำไมมันเยอะอย่างนี้ล่ะ? เอาอันไหนดีน้า พี่แทนมันมาแล้ว!” เธอร้องโวยวายลั่นอยู่คนเดียว

“อันไหนก็ได้ หยิบมา”

“เอาอันนี้ก็แล้วกัน จับถนัดมือดี” เธอปีนกลับส่งของมาให้ ผมแทบจะเอาเคาะของเธอ...

“เอามาตีหัวเธอหรือไงไอ้นี่มันกระบอกเก็บเสียง?” ผมอึดอัดร้อนใจอยากจะไปหยิบเอง ยายล้นเกาหัวกระโดดข้ามเบาะไปอีกครั้ง

“คราวนี้ได้แน่ โครม! ” เธออุ้มปืนสั้นมาโยนกอง ผมอดยิ้มไม่ได้...

“ฉลาดนี่หว่า? หึหึหึ!” ผมคว้า Colt.45 ขึ้นลำแล้วเปิดกระจกในจังหวะที่มอเตอร์ไซด์บิ๊กไบท์ตีขึ้นมาขนาบข้าง

“บรื้น! บรื้น!นักบิด3-4 คันซัดมาตัวปลิว

“มันมาแล้ว พี่แทน!เด็กสาวร้องตลอดทาง ผมหันกระบอกปืนไปที่หัวของนักซิ่ง

“เอี๊ยด! โครม!...” มอเตอร์ไซด์ล้มสไลด์ครูดถนนไฟแลบ

“พี่แทนยิงมันเหรอคะ?” เธอหน้าตื่นชะเง้อมองหลัง

“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรมันเลย มันล้มเอง”

“พี่จะขับรถออกนอกเมืองเหรอ? เดี๋ยวหนูยิงพวกมันให้นะ” เธอดึงปืนของตัวเองขึ้นมา

“ไม่ต้องยิง พี่จะล่อมันให้มาไกลจากกองทัพ นับให้ทีซิ! มีรถตามมากี่คัน”

“เหลือ 9 คันค่ะ คุณลุงไปไหนล่ะยังไม่กลับมาเหรอ?”

“สงสัยโดนไอ้พวกนี้จับไป”

“เฮ้อ! คุณลุงต้องกลัวมากแน่ ๆ คุณลุงกับพี่แทนใครเก่งกว่ากันคะ” เธอทิ้งตัวลงเบาะมองหน้าผมอย่างสงสัย

“เดี๋ยวก็รู้!” ผมโฉบขึ้นสะพานกลับรถเมื่อเห็นรถยนต์ของหลงซันจอดกะพริบไฟอยู่ฝั่งตรงข้าม

“บรื้น! บรื้น!!

“พี่แทน! มันตามขึ้นมาแล้ว อยู่กลางสะพาน” เธอหันหลังชะเง้อคอกลับไปมอง

“เอี๊ยด!! ผมจอดรถขวางทางลง แล้วยกวิทยุ...

“ตอนนี้แหละ! หัวหน้าหลง ซัดให้ด้วย” พอสิ้นเสียงของผม...

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ประกายไฟจากปลายกระบอกปืนซัดขึ้นมากลางสะพานกลับรถ นักรบจากไทใหญ่กระหน่ำใส่ทันที

“เย้! พี่แทนเพื่อนพี่มาแล้ว ดูพี่หล้าสิ! ยืนบนหลังคายิงโคตรเท่เลย” พอดีกระโดดดีใจชี้นิ้วลงไปกลางถนน

“หมอบลง เดี๋ยวโดนลูกหลง” ผมต้องรีบกดหัวเธอลงต่ำ

หล้าประทับปืน AK104 ซัดใส่กลุ่มมอเตอร์ไซด์บนสะพาน หลงซันยืนข้างรถยนต์คนละฝั่งกับเจ้าฮัก ยก M16A10 ยิงระเบิดใส่สะพานดักหน้าพวกมัน ที่คิดจะวกรถกลับ

“บรื้ม!! ผนังสะพานแตกพังพาบ พวกมันทิ้งรถวิ่งกลับมากลางสะพานผมเห็นจังหวะเหมาะคว้าปืนกระโดดลงแอบข้างรถเหลือง

“พี่แทนจะไปไหน?” พอดีผวาร้องไปเรื่อย

“มันโดนกระสุนร่วงไป 6 ราย เหลืออีก 3 ยังหมอบอยู่” ผมวิทยุรายงานมือปืนด้านล่าง แล้วตะโกน เล็งปืนไปหาชายหัวหยิกตัวเตี้ยที่กำลังคลานหลบวิถีกระสุนโดยไม่สนใจมองด้านบน...

“เฮ้ย! คุณจะยอมรึยัง?”

“อ๊ะ! หัวหน้าทีมหันมาเห็นรีบโยนปืนทิ้งแล้วยกมือ อีก 2 คนโยนปืนทิ้งแล้วลุกขึ้นยกมือแต่พอหัวของเขาพ้นขอบสะพาน...

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! หล้าดักรออยู่แล้วซัดทันที

“โอ๊ย! ทั้งคู่กระเด็นล้มลงจากคมกระสุน

“หยุดยิง! ผมร้องสั่งเดินเข้าไปหาหัวทีมที่นั่งตัวสั่นยกมือไหว้ประลก ๆ

“เอาไงล่ะทีนี้ เหลือคนเดียวแล้ว?” ผมเดินไปเขี่ยปืนออกให้พ้นทาง กลุ่มเพื่อนวิ่งตามขึ้นมาพร้อมกับยายล้นที่ใบหน้าบูดเบี้ยว...

“ย๊าก!!! มึงไล่ยิงกูทำไม อย่าอยู่เลย! เธอแหกปากวิ่งเข้าใส่อย่างไม่ลังเล

“พลั่ก! เตะเข้าเต็มปากเลือดสาดทันที เด็กสาวจับราวสะพานกระทืบเชลยอย่างโกรธจัด

“ตุ่บตุ่บ! อั่กอั่ก!หญิงสาวที่เรียบร้อยดูธรรมดากลับเกรี้ยวกราดดุร้ายราวกับเป็นคนละคน

หล้าเดินสะพายปืนยาวเข้ามาหา...

“ลูกพี่โดนจับไปเหรอครับ?” เขาสีหน้ากังวล

“คงต้องสอบถามจากมันก่อน” ผมมองไปที่เชลยใต้เท้าของน้อง

“ลุยมันเลยก็แล้วกัน เดี๋ยวลูกพี่ได้รับอันตราย” หล้าเสริม หลงซันยกมือดัก...

“ลูกพี่ไม่เป็นอะไรหรอก คงตั้งใจเข้าไปแหละ” น้ำเสียงเขาเชื่อมั่น

“งั้น!ต้องสอบสวนมันก่อน พื้นที่กว้างมากเราต้องหาจุดที่แน่นอน ถ้าเข้าไปผิดมุม วิ่งหนีไม่ทันหรอก ไปกันเถอะ!” ผมขยับเดิน หล้าลุกเดินไปหาเด็กสาวที่ยังสนุกกับการกระทืบ ปากก็พูดไปเรื่อย เท้าก็ทั้งเตะทั้งกระทืบแล้วแต่ถนัด

“ไล่จับกูทำไม ยิงกูทำไม กูไปขี้ใส่บ้านมึงตั้งแต่เมื่อไหร่?” เธอคงแค้นมาก สังเกตจากที่เธอโกรธจนขาดสติแสดงว่าต้องมีเรื่องที่คับแค้นใจจากคนกลุ่มนี้

“ถ้ามึงเป็นคนจีนก็ว่าไปอย่าง กูเข้าใจว่ามันคือสงคราม แต่มึงเป็นคนชาติเดียวกับกู ทำไมมึงถึงทำร้ายพวกกูไม่เลิก ไอ้ชั่ว!” เธอระบายความในใจพร้อมระบายอารมณ์ใส่เชลยจนเลือดเต็มปาก

หล้าเดินเข้าไปตบไหล่ของเธอเบา ๆ

“น้อง!...พอแล้ว” เขาพูดสำเนียงเพี้ยน ๆ ตั้งใจจะห้ามให้หยุด

เธอหันขวับ ตาขวางอย่างกับหมาบ้า...

“หนูชื่อ...พอดี! ไม่ใช่...พอแล้ว! เด็กสาวกระทืบต่อ

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ผมหลุดหัวเราะแล้วตะโกนแซว...

“เรียกเธอว่า ยายล้นนะ ไม่เคยพอดีสักเรื่อง นางฟ้าของเธอตายไปแล้วมั้งน่ะ ดูน้องดี ๆ ด้วยสิ” ผมขำที่เห็น Soulless ตัวน้อยหัวสั่นหัวคลอนในอกของเธอ

“ลุกขึ้น! หล้าสวมกุญแจเชลยแล้วดึงมือ แต่ยายล้นของผมยังตามเตะตามต่อยจนลงไปถนนด้านล่าง

เธอกัดกราม สายตาเขม็งเดินไปตบหน้าเชลย แล้วชี้หน้าขู่...

“ถึงคิวกูมั่งแล้ว พี่หล้า! ยิงหัวแม่งเลย” เธอหันไปยุส่ง

“พอแล้ว! ฮักเอาตัวขึ้นรถ” หล้าอมยิ้มส่ายหัว

“เข้าเมืองไปหาข้าวกินกันแล้วสอบสวนไอ้นี่ก่อน” ผมบอกแล้วก้าวขึ้นรถยนต์

ความอึดอัด ขมขื่น น้อยใจ เสียใจ โกรธทั้งหมดของความเกลียดชัง แสดงออกในสายตาของสาวน้อย เพื่อนร่วมชาติรุ่นต่อไปที่มองไม่เห็นความหวัง มรดกที่ผู้ใหญ่สร้างไว้ให้พวกเขาคือวัฒนธรรมการโกง การเอาเปรียบ เห็นแก่ตัว โหนกระแส รัฐบริหารสังคมโดยสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนดังที่ช่วยกันสร้างอาณาจักรซ้อนอาณาจักรจนเป็นวังวนการแก่งแย่งชิงดีที่หาจุดสิ้นสุดไม่ได้

ผมคิดถึงคำพูดของจูยอน...รัฐที่เป็นศัตรูกับประชาชนมันต้องพินาศ รัฐต้องไม่มีเจ้าของ ถ้ายายล้นของผมได้คุยกับเธอสักนิด ผมคาดเดาได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคนกลุ่มนี้ ยายล้นได้ตอกย้ำในสิ่งที่ผมเชื่อเสมอมาว่า อะไรก็ตามที่ผู้ชายทำได้ ผู้หญิงทำดีกว่าเสมอ

                                    .....................................................................

จบเล่มที่ 7

โปรดติดตามเล่มต่อไป


 

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม