The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 8 ตอนที่ 11

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 8 ตอนที่ 11
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 8
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 23 มิ.ย. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


Kala city

ริมถนน นอกสนามบิน...

กลุ่มของผู้หญิงแยกย้ายกันไปเปิดไฟอาคารซ่อมบำรุงและโรงจอดยานพาหนะหนัก ทุกอาคารริมกำแพงสว่างไสวเป็นแถวยาวล่อเป้าให้นักบินทิ้งระเบิด

“เรียบร้อยแล้วตามหนูมาค่ะ” หยกโบกมือเดินนำกลุ่มผู้หญิงข้ามถนนเข้าโรงพยาบาลที่มืดมิด

ริมถนนด้านนอก...พอดีนั่งกอดเข่าก้มหน้าร้องไห้ปานจะขาดใจอยู่คนเดียวหลังจากได้ยินรายงานจากวิทยุ

“หนูขอโทษ! ให้อภัยหนูด้วย! ฮือฮือ!

เธอพนมมือร้องไห้มองท้องฟ้าที่มืดมิดอย่างสิ้นหวัง โศกเศร้ากับการจากไปอย่างกะทันหันของพี่น้องชนเผ่า คุณป้าท่าทางใจดีเดินเข้ามานั่งลงเคียงข้างเธอแล้วโอบไหล่...

“หนูพอดี! รู้จักพวกนั้นได้ยังไงไว้ใจได้แน่นะ ฉันเชื่อใจเธอนะแต่ฉันขอถามให้หายสงสัยแค่นั้นเอง แล้วมันเกิดอะไรขึ้น”เสียงถามอ่อนโยนจากคุณป้าเพื่อนร่วมชะตากรรมมาพร้อมกลิ่นยาผสมกลิ่นเน่าคละคลุ้งไปทั่วโรงพยาบาล ศพหมอและนางพยาบาลนอนพุงอืดเกลื่อนพื้น

“พวกเขามาเพื่อช่วยเรา แต่โดนแผนชั่วของพวกเจ้าสัวป้ายสี พวกเขาต้องรีบกลับไปพร้อมความเสียใจที่โดนหักหลัง ฮือฮือ!” น้ำตาสาวน้อยไหลอาบ สะอื้นไห้ตัวโยน

“ป้าขอโทษนะ ป้ากลัว! กลัวจนไม่รู้จะเชื่อใครดี”

หญิงสาวรุ่นพี่เดินเข้ามานั่งคุยด้วย...

“ทำไมคะ มันเกิดอะไรขึ้น?”

“เครื่องบินโดนยิงตกหมดเลย ฮือฮือ!

“ฮ๊า! แล้วพวกเขาล่ะ?”

“ฮือฮือ! พอดีร้องไห้เสียงดังจนพวกเธอต้องเข้ากอดปลอบใจร้องไห้ตามกัน

“นี่! จู่จู่!...เสียงตวาดห้วนเด็ดขาดดังจากด้านหลัง

ป้าเมดูซ่าก็เดินกร่างเข้ามา ใบหน้าที่เหี่ยวอยู่แล้วบวกกับความขัดใจยิ่งดูเถื่อนไม่น้อยกว่าผีดิบ...

“พาพวกฉันมาแล้วทำไมไม่เข้าไปจัดที่นอนให้ด้วย”

“............” ทั้งสามคนหันไปมองทั้งน้ำตา คุณป้าเงยหน้า...

“น้องกำลังเสียใจ คุณเป็นผู้ใหญ่ก็ทำแทนเด็กมันหน่อยสิ แต่ฉันว่าใช้ให้เด็กไปปูที่นอนให้มันก็เกินไปหน่อยนะ” ท่านพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“อ้าว! ทั้งหมดนี่เป็นความคิดของพวกมันนะ อยากได้แสงก็รับผิดชอบสิ” เมดูซ่าเมินหน้า

“พวกคุณหมดความชอบธรรมไปแล้ว มีสิทธิ์อะไรถึงกดหัวคนอื่นไปใช้งาน” ป้าเสียงสูงขึ้นมานิด

“นี่! เธอไปเข้าข้างคนอื่นได้ยังไง ไอ้พวกนั้นเป็นคนอื่น”

“หือ!” คุณป้าใบหน้าแดงดวงตาแข็งกร้าวพูดช้า ช้า ชัด ชัด...

“ฉันจำได้ว่าคุณขอไปหาเจ้าสัวแล้วกลับมาอีกทำไม กวนตีนหลายรอบแล้วนะพวกมึงเนี่ย?” ท่านเสียงเข้มมาก

“เจ้าสัวให้ฉันมาคอยอำนวยความสะดวกและดูแลความเรียบร้อย พวกเธอชักศึกเข้าบ้านแท้ ๆ ยังจะมีหน้ามาออกคำสั่งอีก”

ความอดทนของคุณป้าขาดผลึ๋ง...

“มึงจะโทษเด็กไปถึงไหน มึงไม่มีลูกหลานเหรอถึงเหยียบย่ำลูกคนอื่นได้ขนาดนี้” ป้าตวาดลั่น แต่ก็หยุดไม่อยู่

“ฉันไม่ได้อยากคุยกับเธอ ถอยไป!” เมดูซ่าปาดเข้ามาหา พอดีลุกขึ้นยืนน้ำตานอง...

“เหยียดย่ำหนูเถอะไม่เป็นไร คุณป้าอยากไปอยู่กับเจ้าสัวก็รีบไป หนูปวดหัวและอย่ามาเรียกร้องอะไรจากหนูอีก!

คุณป้าเดินมาขวางพร้อมขยับปืนสั้นในมือ...

“ไม่ได้! ใครจะมาเหยียบย่ำเด็กคนนี้ไม่ได้ ไม่มีใครมีสิทธิ์ไปเหยียบย่ำคนอื่นเพียงเพราะเขาเด็กกว่า พอดีก็เป็นลูกสาวที่น่ารักของพ่อแม่ เป็นที่รักของเพื่อน และตอนนี้เธอเป็นคนที่ฉันรัก ฉันจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องเธออีก”

“ป้าคะ! ช่างมันเถอะ อายุ การศึกษา ฐานะ ชาติตระกูลไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกคุณค่าของคน มันเหมือนเปลือกหอยที่สวยงามห่อหุ้มตัวตนที่อ่อนแอไว้ข้างใน แท้ที่จริงแล้วมันเป็นเพียง...ปรสิต ” พอดีส่ายหน้าอย่างเหลือทน

“อีเด็กเมื่อวานซืน ฉันพูดด้วยดี ๆ มาด่าฉันทำไม รู้จักหัวหงอกหัวดำบ้าง?...” ป้าเมดูซ่าเกรี้ยวกราดเสียงดัง

กลุ่มผู้อพยพเริ่มเดินกลับมาล้อมวง น้องหยกถกแขนเสื้อเดินแหวกผู้คนเข้ามาแหงนหน้าท้าทาย...

“เป็นผู้ใหญ่ทำไมพูดม้า ๆ ยังงั้นล่ะป้า? เจ้! เหนื่อยมาตลอด เธอเสียใจอยู่ไม่เห็นรึไง?” เด็กนักเรียนโวยใส่หน้า คุณป้าเข้าช่วย...

“เด็กมันก็พูดถูกทุกคำ มึงก็เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมมึงถึงหูหนวกตาบอดเข้าข้างพวกมัน มึงเข้าข้างพวกมันมาตลอด กูเชื่อเด็ก! กูไม่เชื่อพวกมึงอีกแล้ว”

“เฮ้ย!มึงให้เกียรติคุณหมอด้วย อย่าลามปาม! เสียงสนับสนุนจากผู้ชาย 4-5 คนของเมดูซ่าแข็งขัน วงเริ่มแตกอีกรอบ...

“พวกเธอมันขายชาติ คงจะพวกเดียวกันสินะเข้ากันเป็นหมามุ่ยกับตำแยเลยนะ” สมุนผู้ชายชี้กราดเริ่มเปิดศึก

หยกเข้าปกป้องพี่สาวที่อยู่ในสภาพไม่พร้อม ชี้หน้ากลุ่ม FC ของเมดูซ่าอย่างไม่เกรงกลัว...

“หุบปาก!เธอตวาดแล้วเดินเข้าไปกอดพอดี ก่อนจะหันกลับไปโยนลูกอมให้

“เอ้า! กินซะ พูดมากปากเหม็น!” ตัวตึงรุ่นเล็กไม่น้อยหน้า เมดูซ่าเดินตามไปดึงแขนเสื้อ...

“นี่! ยายหัวทอง เธอไปรวมกลุ่มกับเจ้านายสิจะได้ช่วยกันกู้ชาติ อย่าเชื่อไอ้พวกพม่า แล้วก็อย่าไปเชื่อยายนี่!” ป้าเมดูซ่าตาถลนใส่พอดี

คุณป้าอีกคนยืนมองอยู่นาน ขยับเข้ามาเอามีดปังตอชี้หน้า...

“อีปากพล่อยยุให้เด็กทะเลาะกัน เดี๋ยวกูเอามีดฟันปากแม่งเลย กูเห็นเด็กมันล้างขี้ล้างตูดให้มึงโดยไม่รังเกียจ หมึกบนหน้าผากมึงยังไม่ลบเลยนะ ถ้าไม่ขอบคุณก็อย่าเนรคุณ อย่าหาเรื่องมาให้ปวดหัวได้มั้ย? มึงคนเดียวที่สร้างแต่ปัญหา มึงเงียบโลกสงบ!

“ชิชะ!เนรคุณเหรอ? มึงใช้คำพูดนี้กับกูไม่ได้ กูเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทำความดีตั้งแต่พวกมึงยังไม่เกิด ชาวบ้านอย่างพวกมึงเป็นหนี้บุญคุณกู! ต้องฟังพวกกู!

ป้าเบะปากมองค้อน...

“มึงจะคุยโม้ไปถึงไหนวะแค่ทำงานในหน้าที่ ถ้างั้น! ใครซื้อกล้วยทอดของกูแดก เท่ากับมันต้องติดหนี้บุญคุณกูด้วยสิ! เดี๋ยวร่อนแม่งด้วยมีดเลย! มึงก็รับเงินเดือนให้ไปทำหน้าที่นั้นเหมือนกัน เสือกมาเรียกร้องบุญคุณ เอาซะดีมั้ย! ฟันหน้าซะดีมั้ย?” ท่านขยับมีด

“เขาจ้างมันมาทำไมต้องขอบคุณ ไร้การศึกษาอย่างนี้ถึงเลือกข้างไม่เคยถูกสักที” เมดูซ่ามองค้อนก่อนจะเชิดหน้าผยอง

“ปากก็หมาหน้าก็ผี ทำคดีก็วุ่นวาย หน้าไม่อาย GT-200” หยกท่องเป็นกลอนใส่หน้า

“อีนี่จะมากไปแล้วนะ! ไม่รู้จักหยุดสร้างปัญหา” เมดูซ่าชี้นิ้วด่ากราด พอดีหลับตาสูดลมหายใจลึก ดึงน้องหยกมากอด...

“ป้า! พาเพื่อนของป้ากลับไปหาเจ้าสัว เดี๋ยวนี้!” สีหน้าของพอดีกลับมาเหี้ยมอีกครั้ง

ชิชะ! มึงจะมากไปแล้ว ฉันเป็นผู้ใหญ่! ฉันเป็นหมอ! มีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉัน”

“ไปเดี๋ยวนี้!เธอชี้นิ้วไล่

“กูไม่ไปมึงจะทำไม?”

แกร่ก! เธอดึงปืนออกจากเอวขึ้นลำทั้งน้ำตา

“เชอะ! เค้าให้กูมาคุมพวกมึง มึงแน่จริงยิงเลย” เธอยืดอกท้า ไม่สนปืนในมือของพอดีเลย

“มาคุมเหรอ! ยังมีหน้ามาพูดอย่างนี้อีกเหรอ?” สาวน้อยสูดลมหายใจสะอื้นยกปืนจ่อหัวตามคำท้าทาย

“อย่านะ! พอดี! ไม่เล่นปืนนะลูก” คุณป้ามือมีดเดินเข้าไปจับมือของน้อง

เมดูซ่ายื่นหน้าเยาะ...

“มึงไม่ต้องห้าม! อีเด็กเวรพวกนี้มันโดนล้างสมอง แน่จริงก็ยิงสิวะ!

พอดีขยับตัวอีกครั้ง ป้าพุ่งเข้ารวบเอว...

“พอดี! อย่า!มันจะเป็นฝันร้าย”

“มึงอย่าห้าม! กูอยากรู้นักว่ามันจะแน่สักแค่ไหน กูอยู่กับผีมาทั้งชีวิต กูไม่กลัวตาย!” เธอกดดันจิกสายตาดูแคลนไปที่สาวน้อย

หยกขยับเข้ามาขวางแล้วแหงนหน้าถามตาใส...

“ป้า! เป็นหมอเหรอ?”

“เออ!

“รักษาตัวเองบ้างนะ ใกล้บ้าเข้าไปทุกวันแล้ว หน้าตาฟ้องมาก!

“อีเด็กนรก! สร้างแต่เรื่องสร้างแต่ปัญหา มานี่! ฉันจะเอาเลือดหัวออกซะบ้าง ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่” เมดูซ่าปรี๊ดแตก พุ่งขยำคอหยก

“ปัง! เสียงปืนดังสนั่นโรงพยาบาล

“.............” เมดูซ่าหน้าหงายล้มตึงลงไป

“ฮือฮือ! พอดีร้องไห้แล้วตะโกนเสียงดัง...

“ใครที่จะกล่าวหาหนูอีกแยกกลุ่มกันไปเลย หนูจะไม่เสียเวลาทำความเข้าใจอีกแล้ว ถ้าหนูเลวร้ายนักก็อย่าอยู่ร่วมกันเลย” จิตใจของสาวน้อยแหลกละเอียด เธอตัวสั่นระริกแววตาสิ้นหวัง

“............” กลุ่มสนับสนุนหมอเมดูซ่า 2-3 คนถอยหลังกรูด ป้ามือปืนเดินโผเข้าหาแล้วกอดเธอแนบอก ...

“โถลูก! คงคับแค้นใจมาก ไม่เป็นไรนะ ใจเย็น ๆ ป้าทำเอง ป้าเป็นคนทำเอง”

ป้ามือมีดเดินเข้ามา...

“พอดี! ถึงป้าจะจน แต่โลกของป้าครอบครัวของป้าก็อบอุ่นและมีความสุข ถ้ารอดไปได้เราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะ ทิ้งทุกอย่างมันไว้ที่นี่และลืมมันซะนะลูก” มือเหี่ยวที่ทำงานหนักจนหยาบกร้าน เปี่ยมเมตตาลูบหลังมืออย่างอ่อนโยน

พอดี เงยหน้าน้ำตานอง ตะโกนเสียงดัง...

“แยกย้ายกันหาที่หลบในอาคาร ปิดไฟให้หมดนะคะ ทำตามที่คุณลุงแนะนำ จำคำพูดหนูไว้นะคะถ้าใครขยับตัวให้ทหารจีนรู้เท่ากับตายทั้งหมด ตัวใครตัวมันนะคะ! หนูไม่ยุ่งด้วยแล้ว! เธอสะบัดหน้าเดินหนี เด็กสาวในวัย 19 ร้าวใจเดินเหม่อไปริมถนน

“เจ้...! หยกวิ่งตาม

“ไปนอนสิหยก ไม่ง่วงเหรอ?” พอดี น้ำตาไหลกำปืนมือสั่นระริก

“เจ้!เอาใจหนูไปเลย ผู้ใหญ่ปากพล่อยแบบนี้อย่าให้มันมีปากเลย ตายไปก็ขอให้เป็นเปรตปากเท่ารูเข็ม” หยกพูดเป็นต่อยหอย เธอเป็นคนเดียวของกลุ่มที่ไม่ตื่นตระหนกและไม่เสียใจใด ๆ เลย

“ฉันกลัว! กลัวใจของพวกมัน ฉันไม่อยากผิดโดยที่ไม่ได้ทำผิดอีกแล้ว พวกเขาชอบยัดความผิดมาให้โดยอ้างว่า เราเป็นเด็ก” พอดีสะอื้นเบาๆ

“เจ้! ร้องไห้เหรอคะ?” หยกเดินต้อนหน้าต้อนหลัง

“ฉันเสียใจ พี่อาซากับพี่แป้งดูแลฉันอย่างดี พี่น้องชนเผ่าก็มาด้วยใจ พวกเขาต้องจ่ายทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิตเพื่อช่วยพวกเรา ไม่คุ้มค่าเลย พวกเขาไม่น่ามาที่นี่เลย” เธอสะอื้นหนัก

“ไอ้พวกเจ้าสัวนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุ ถ้าเชื่อพวกเจ้ตั้งแต่ต้น มันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก” เธอโบ้ยส่ง

“ไม่ว่าโลกจะหมุนไปอีกกี่รอบ ประชาชนก็ยังคงเป็นหนูถีบจักรของพวกมัน วิ่งไล่ยังไงก็ไม่มีวันถึงจุดหมาย โรงเรียนก็เป็นเพียงศูนย์ผลิตคนงานเป็นที่อบรมทาสสมัยใหม่ ถ้าขัดขืนหัวแข็งก็โดนกำจัด เธอโดนกี่คดีเหรอหยก?” พอดีถามเหมือนเป็นเรื่องปรกติของสังคม

15 ค่ะ! เจ้ล่ะโดนเยอะมั้ย?” ยายเด็กน้อยยักไหล่ไม่สะทกสะท้าน

“ฉันโดนเหมาตัดสินจำคุก 30 ปี ดีแล้วล่ะที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ลืม ๆ มันไปซะนะเราต้องใช้ชีวิตต่อสู้กับโลกที่เหลือ เราไม่ต้องอยู่ใต้กฎหมายบ้า ๆ นี้อีกแล้ว” พอดีถอนหายใจยาว

“หนูไม่ต้องติดคุกแล้วหรอ? หนูก็ยังมึน ๆ อยู่นะคะ มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ? ทำไมหนูต้องมาอยู่สนามบิน แล้วทำไมถึงมีคนตายเพียบเลย? เจ็บใจมากที่โทรศัพท์มือถือโดนขโมย ถ้าหนูรู้ว่าใครเอาไปจะข่วนหน้าให้ยับเลย” เธอบ่นไปเรื่อยทั้ง ๆ ที่ในมือของตัวเองก็ถือโทรศัพ์ตั้งหลายเครื่อง

“เธอตายไปตั้งนานแล้วล่ะหยก” พอดีเปรย

“หือ! หนูตายไปแล้วเหรอ?” หยกหันขวับ

“อืม! ตายเพราะฉีดวัคซีน คุณลุงกับพี่แทนมาช่วยทุกคนไว้”

“จริงดิเจ้ เฟี้ยวอ่ะ!หนูเกิดใหม่ได้ด้วย หนูเป็นแมว 9 ชีวิตสุดยอดอ่ะ!เธอกระโดดกระเด้งเต้นยึกยักสนุกสนาน ไม่มีความทุกข์ในใจวัยรุ่น คุณสมบัติพิเศษเฉพาะวัยเท่านั้นที่เป็นตัวเองและมองโลกสวยงาม

“ฉันเข้าใจว่า ทุกคนคงยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขายังไม่มีข้อมูลและก็คงงงเหมือนกับเธอทุกคน”

“หนูไม่ต้องไปโรงเรียนแล้วใช่มั้ย?” สายตาดื้อบ่งบอกว่า ไม่ได้อยากไปเลยสักนิด

“บอกแล้วไงคะ ลืม ๆ มันไปซะ”

“เราจะอยู่ต่อไปยังไงคะไม่มีโทรศัพท์แล้วด้วย” คราวนี้เสียงของหยกอ่อนลง

“ฝึกหุงข้าวกันก่อนมั้ย? โทรศัพท์ช่างมันเถอะ!” พอดีหันไปจับไหล่จ้องตาน้อง....

“หยก! หลังจากนี้ ระเบียบ ธรรมเนียม กฎ กติกาและวิถีชีวิตเราต้องสร้างขึ้นมาใหม่ ทุกอย่างสูญสิ้นไปแล้วเพียงแต่ว่า เราจะสร้างมันเองหรือให้กลุ่มเจ้าสัวสร้าง พวกเธอต้องเลือกเอาเอง”

“หนูหนีมานี่เพราะเลือกเจ้นะ เอาไงเอากันอยู่แล้ว เจ้! มีอะไรให้หนูทำบ้าง? หนูอยากช่วย!” หยกเข้าไปตีซี้ กอดแขนเดินเคียง

“ช่วยมีชีวิตที่แข็งแรงยาวนาน มีลูกหลานเยอะ ๆ นะคะ” เธอดึงแก้มน้อง

“พวกทหารจีนมันจะกลับมาอีกเหรอคะ? เจ้! คิดว่าพวกคุณลุงจะสู้ได้เหรอ พวกนั้นน่าจะเยอะกว่าแน่”

“ไม่รู้สิ! ฉันก็คอยฟังคำสั่งของคุณลุงอยู่ เธอเข้านอนซะนะ ฉันจะเป็นยามให้”

“หนูจะอยู่เป็นเพื่อนค่ะ เจ้เคยมีแฟนมั้ยคะ?” หยก เบม่อนยิ้มร่า

“วัยรุ่นเอ้ย! เอาชีวิตให้รอดคืนนี้ก่อนดีกว่ามั้ย? ในหัวไม่คิดอะไรเลยสินะ น่าอิจฉาจัง!” พอดีเกาหัว

“อ้าว! ก็เจ้บอกว่าให้มีลูกมีหลานเยอะ ๆ หนูก็ต้องหาผัวก่อนสิ ต้องศึกษาจากผู้รู้ เจ้เคยยัง?” หยกยิ้มหน้าทะเล้น เอานิ้วชี้มาจิ้มกันจึ๊ก ๆ

“กูจะบ้าตาย!” พอดีตีหน้าผากตัวเองแล้วเดินหนีไปตามถนนที่เงียบสงัด

“เจ้! ลุงแทนหล่อระดับสามีแห่งชาติเลยนะ หล่อบรรลัยเลย”

“ชอบเหรอ?”

“เปล่า? แค่บอกว่าโคตรหล่อเลย แต่จะว่าไปลุงผมยาวนั่นก็ไม่ธรรมดาหรอกถึงจะแก่ไปหน่อย อิอิ!” ยายหยกหน้าทะเล้น

“หยก! ต้องมองพวกเขาแบบขอบคุณนะคะ อย่าทำอย่างที่คิดในหัวก็แล้วกัน ฉันรู้นะว่าเธอคิดอะไรอยู่” พอดีดักคอ น้องหยกยิ้มกริ่ม...

“เจ้!...หนูยังเด็ก ไม่สนคนแก่หรอก” กะล่อนไปอีก

หยก เบม่อน วัยรุ่นวัยสดใสร่าเริงเต้นกลางถนนที่ไร้ผู้คน ประหนึ่งว่าโลกใบนี้เป็นของเธอผู้เดียว วัยรุ่นวัยที่ความเจ็บปวดอะไรก็ตามไม่สามารถบั่นทอนความตั้งใจได้ นอกจาก...เพื่อน.

“ไอแอมมะควีนขาด ยูวอนนาบีอะควีนคาด อัมมะควีนขาด อัมมะควีนขาด อัมมะ อัมมะ อัมมะ อัมมะควีนขาด” ผู้ไม่สนโลกย่อมไม่มีทุกข์ เธอเต้นกระจายเมามันอยู่คนเดียว

แรงกดดันทั้งภายนอกภายใน เป็นเครื่องทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจ การผ่านไปได้ในแต่ละครั้งไม่ว่าผลจะมาเป็นรอยยิ้มหรือน้ำตา มันเท่ากับหนึ่งประสบการณ์ที่ล้ำค่าและถ้าทำมันซ้ำ ๆ ต่อไปจะกลายเป็นมืออาชีพ

..................................................................


หอคอยวิทยุการบิน ขอบลานด้านทิศใต้...

ห้องกระจกใสสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวได้รอบทิศ สนามบินกว้างใหญ่ไฟดับมืด อาคารซ่อมบำรุงริมรั้วเปิดไฟสว่างเป็นแถวยาว เจ็ทโด้นั่งมองเครื่องบินรบที่กำลังจะเหินทะยานแล้วหยิบวิทยุเรียกอย่างร้อนรน...

“คิมซองบก! นาจองรี!

“เย่!

“สหายจะทำอะไร เอาเครื่องไปไหน?”

“ผมจะเข้าไปโจมตีกองบินลำเลียงของมันครับ”

“เครื่องบินสู้มันไม่ได้ สหายจะขึ้นบินทำไม?”

“บ้านของสหายครูฝึกบอบช้ำมาก ประชาชนก็ตายเกือบหมดแล้ว ขอให้ผมได้ตอบแทนเถอะครับ สหายครูฝึกทั้งสองคนเหนื่อยกับพวกผมมามากแล้ว ทุ่มเทกับเกาหลีมามากแล้ว” เสียงขอคิมซองบกหนักแน่นกินใจ

“ไม่เป็นไร สหายไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้”

“บีอันนิดะเซม! อีกอย่างผมจะทำเพื่อแป้งด้วยครับ ผมเสียใจ” เสียงนักบินอ่อนลง

“...........” เจ็ทโด้ อึ้งไป...

“สหายแน่ใจนะ! ผมจะไม่สั่งแต่ให้สิทธิ์ตัดสินใจอีกครั้ง การเข้าไปหาศัตรูที่พร้อมกว่าเท่ากับฆ่าตัวตาย สหายต้องคิดถึงครอบครัวด้วย”

“ขอให้ผมได้ทำงานครั้งนี้นะครับ ผมไม่อยากให้มันติดอยู่ในใจ ผมขอตอบแทนความสุขที่เคยได้รับจากทุกคน” คิมซองบกเสียงสั่น

“ก่อนไป...ช่วยถล่มให้หลงซันด้วย”

“เย่!

“ขอให้สหายโชคดี ผมจะรอสหายกลับบ้านพร้อมกัน”

“เย่!” นักบินทั้งสองขานรับพร้อมกัน

“หลงซัน! เจ็ทโด้เรียกวิทยุ

“ครับ!

“ถอนกำลัง พาลูกน้องไปซ่อนตัวก่อน นักบินกำลังจะเข้าถล่มกองบัญชาการ พวกเราเจอกันพรุ่งนี้เช้า”

“ครับ!

เขานั่งมองเครื่องบินรบทะยานขึ้นไปกลับลำ แล้วเดินสำรวจมองรอบอาคารก่อนจะหันมาหาพ่อ ...

“เฮ้อ! ผมคงต้องกำจัดความคิดจริง ๆ แล้วล่ะครับ ผมปล่อยให้กลุ่มเจ้าสัวเป็นผู้นำต่อไปไม่ได้หรอก” เขาถอนหายใจ

“ถ้าพวกนั้นยังอยู่น่าจะมีประโยชน์มากกว่านะ พวกเขาเคยบริหารคนมามากมาย เขาน่าจะมีวิธีที่ดีกว่า”

“พ่อยังเชื่อแบบนั้นอยู่อีกเหรอครับ ถ้าเอาเศรษฐกิจเป็นตัววัด หรือทำงานเพื่อเงินผมพอเข้าใจได้ว่าไอ้พวกนี้มันเก่ง แต่ในสถานการณ์นี้ถ้าพวกมันรอด ชาวบ้านก็ตายอยู่ดี”

“อืม!"

“ผู้ที่รอดชีวิตไม่จำเป็นต้องมีผู้นำหรอกครับพ่อ ไม่จำเป็นต้องมีรัฐ พวกเขาต้องซ่อนตัว ถ้าไปอยู่ใต้อาณัติของพวกมันก็คงไม่พ้นเป็นทาส โลกใบเดิมหมุนกลับมาครอบหัวชาวบ้านอยู่ดี” เขายังคงใจเย็นอธิบาย

“ไม่ใช่สิ! นายก็แค่ปราบศัตรูแล้วให้พวกเขาดูแลกันต่อ ให้พวกเขาปกครองดูแลชาวบ้านต่อไป”

“เพื่อ...?” เจ็ทโด้เสียงสูงปรี๊ด

“...........”

“เอื้องและคุณพ่อก็ตายเพราะเกมการเมืองของคนพวกนี้ พ่อคงไม่รู้ว่าเจ้าแทนก็เกือบตายเพราะสมุนของพวกมัน ผมจะไม่สร้างอาณาจักรแห่งความกลัวให้พวกมันหรอกครับ เราเริ่มต้นใหม่เถอะครับรอให้เด็กรุ่นใหม่เกิดมาเลือกทางเดินเอาเอง เราทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้ขนาดนี้พวกเขาคงไม่ลำบากเท่าไหร่? ถ้าโง่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว”

“แต่ถ้าไร้รัฐ โจรจะครองเมืองได้นะ” พ่อเห็นแย้ง

“โจรครองเมืองนี้มาหลายรูปแบบหลายศตวรรตแล้วครับพ่อ พวกเขาใช้อำนาจเกินขอบเขตจนไปริดรอนสิทธิ์ของผู้อื่น มันไม่มีความชอบธรรมมาตั้งนานแล้ว ปล่อยให้เด็ก ๆเติบโตขึ้นไปเองดีกว่า มันจะได้วิธีการอยู่รวมกันแบบใหม่ที่สมดุลกว่าแน่ ผมเชื่อเช่นนั้น”

“มันจะได้เรื่องเหรอ เด็ก ๆ จะทำอะไรได้ เด็ก ๆ ไม่มีประสบการณ์อะไรเลยจะกอบกู้ชาติได้อย่างไร?”

 “ชาติไม่ใช่ทรัพย์สินนะครับ ชาติคือชีวิตและลมหายใจของพวกเขาทุกคน แค่พวกเขารักษาชีวิตไว้ได้ก็เท่ากับรักษาชาติไว้ได้ จากนี้ไปไม่ว่าพวกเขาจะไปตั้งรกรากที่ไหนก็ตาม ที่นั่นคือชาติของเราครับ”

“แต่ยังไงก็ตามมันต้องมีผู้นำ พ่อก็ไม่ชอบพวกมันสักเท่าไหร่ถือว่าแลกกับประสบการณ์ของมัน ทุกอย่างจะได้เป็นระบบ”

“เอาไว้ให้พวกเขาเลือกกันเองภายหลังเถอะ อย่าเตะหมูเข้าปากหมาเลย ถ้าเจ้าสัวเก่งจริงก็ไปรวบรวมคนเอาเอง คนกลุ่มนี้ไม่เอาพวกเขาอีกแล้ว เชื่อผมเถอะ!

“แต่ถ้าพวกเจ้าสัวคุยกับจีนได้ ชาวบ้านก็อาจจะปลอดภัยทรัพย์สินต่าง ๆ ก็ยังคงอยู่ ไม่โดนทำลายลงไปนะ”

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง! คราวนี้ชาวบ้านโดนล็อก 2 ชั้นเลย”

“ยังไง?”

“ก็เป็นทาสทั้งคนในและคนนอก ไม่ต่างจากสัตว์ที่เลี้ยงไว้ใช้งานแล้วเชือดกินเลยนะครับ”

“เอ่อ...

“โลกที่สร้างสรรค์แปลกใหม่จะมาจากจินตนาการของเด็ก ให้พวกเขาเริ่มต้นใหม่โดยไม่มีรากฐานจากความคิดเดิม ให้เขาสร้างสังคมที่ไม่เคยมีมาก่อน ผมเริ่มจะเชื่อแล้วว่าวิธีคิดที่เอาเงินเป็นจุดศูนย์กลางแบบคนรุ่นเรามันเลวร้ายทำลายครอบครัว สร้างความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ ฉกฉวยแย่งชิง เอารัดเอาเปรียบ การช่วยเหลือเป็นเพียงคอนเทนต์”

“แล้วสิ่งที่พวกเราสร้างไว้ล่ะ?”

“อย่ายึดติดครับทิ้งมันไป มันไม่ต่างกับอาณาจักรโรมันและหลายอาณาจักรที่เคยรุ่งเรือง เมื่อถึงวันเวลามันก็ล่มสลายแต่มนุษย์ก็ยังคงอยู่ต่อไป ขอโทษนะครับพ่อ! ตอนนี้เรากำลังโดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากทหารจีน อย่าเอาชีวิตไปแลกกับสิ่งก่อสร้างเลย ไม่คุ้ม!

“แต่...” พ่อจะพูดต่อ เจ็ทโด้โบกมือดัก...

“อีกไม่นาน! คนจีนโพ้นทะเลก็ทะลักเข้ามายึดครองทรัพย์สินเหล่านี้ เราจะสร้างชาติใหม่ได้ก็ต่อเมื่อทำลายจีนลงไปก่อน” ทั้งน้ำเสียงและสายตาบ่งบอกว่าเขาไม่ยอม

“นายจะเข้าโจมตีประเทศจีนเหรอ?” พ่อตาเหลือกตกใจ

“พ่อ!...กองทัพจีนเชียวนะ พวกผมมีอยู่กะจึ๋งเดียวเอง มันตดทีเดียวก็ปลิวหมดแล้ว พ่อดูโน่นสิ!” เขาชี้ไปที่เครื่องบินรบ 2 ลำบนฟ้ากำลังทิ่มหัวลงหย่อนระเบิด 2 ลูกลงบริเวณอาณาจักรของเจ้าสัว

“บรึ้ม! บรึ้ม!! แสงสว่างวาบเปลวไฟแดงพวยพุ่งลุกท่วม

“ฟ้าว!เครื่องบินรบโฉบขึ้นฟ้าแล้วพุ่งหายไปในความมืด

“ลุงฉุนอยู่ในนั้นหรือเปล่า พ่อไม่เคยเห็นลุงฉุนออกมาเดินกับพวกเจ้าสัวเลย?”

“พวกเราสันนิฐานว่าอยู่ เพราะที่นั่นเป็นกองบัญชาการใครก็เข้าใกล้ไม่ได้ ทหารยามหนาแน่นกว่าทุกที่จะเป็นคนอื่นได้ยังไง?”

“แง้! น้องน้อยตื่นแหกปากร้อง ทั้งสองกระโดดพรวดเข้าไปหา.

“โอ๋โอ๋! จิตใจโหดแค่ไหนก็ยอมสยบให้กับเสียงเด็ก เสียงสวรรค์ของวันพรุ่งนี้ที่เปล่งร้องออกมา มันคือชะตาของผู้กำหนดอนาคตรุ่นต่อไป

………………………………………

เหนือน่านฟ้า Kala Democracy

ภายในเครื่องบินรบกริพเพน...

คิมซองบกหันมองเพื่อนด้านข้างแล้วชูกำปั้นให้นาจองรีในเครื่องบินรบ F-16 ที่บินคู่กัน

“จองรี! เราโฉบแล้วยิงกองกำลังของมัน ไม่ต้องออกจากรัศมีการบิน มันไม่กล้ายิงเราหรอกกลัวพลาดโดนพวกเดียวกัน”

“เย่!

“สหาย!เครื่องบินรบของมันออกมาแล้วแยกกัน” ซองบกโฉบเครื่องแยกซ้าย จองรีแยกไปขวา

“สหายซองบก! ลุยเข้าไปถล่มมันเลย ผมจะหลอกให้มันตาม”

“เย่!

กองบินทหารจีน 20 ลำปรับขบวนกระจายกันออกไปเพื่อหลบหลีกเครื่องบินกริพเพน ไม่ต่างจากฝูงนกพิราบกระจายตัวเมื่อเห็นเหยี่ยว

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!

ซองบก ยิงกระสุนทักทายชุดแรกเพื่อกะระยะ บังคับเครื่องบินรบปราดเปรียวม้วนตัวเข้าหา

ฝูงบินลำเลียงใหญ่เทอะทะพยายามโฉบหลบ เจ้าเหยี่ยวร้ายบินสูงแล้วเล็งเหยื่อก่อนจะทิ้งตัวลงมาอย่างเร็ว

“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม! โฉบแรกซองบกเล่นไป 3 ลำแล้วบินมุดลงด้านล่าง

“เฟี๊ยว! J-10 ของจีนพุ่งมาจากด้านขวา J-20 โฉบขึ้นสูง ในขณะที่กริพเพนอยู่ด้านล่างบินหลบหลังกองบินลำเลียงที่อยู่ตรงกลาง พอเครื่อง J -10 ลงต่ำเขาก็ขึ้นสูง

“มาเจอกันอีกรอบ” กริพเพนดันตัวเองขึ้นสูงอีกครั้ง J-20 พุ่งขึ้นตาม เครื่องบินทั้ง 2 ลำม้วนตัวดิ่งลงแล้วพ่นกระสุนใส่

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!

“ฟ้าว! กริพเพนหมุนควงหลบกระสุนจากด้านหลัง กระสุนของผบ.ทหารเรือซัดโดนเครื่องบนลำเลียงพวกเดียวกัน...

“บรึ้ม! เครื่องบิน C 130 ปีกขาดควันโขมงร่วงลงด้านล่าง

“เฟี๊ยว! ฟ้าว...วว!! เครื่องบินรบจีนรุกไล่ตามจี้ติดตูด แต่ก็โดนคิมซองบกเล่นแมวจับหนูบินวนกองบินลำเลียงของจีน

“คิมซองบก!” เสียงเจ็ทโด้เรียกมา

“เย่!

“สหายไหวมั้ย?”

“สบายมากครับ เซม!

“นาจองรีไม่อยู่แล้วนะ เขาหายไปจากจอเรดาร์”

“..............” พยัคฆ์น้อยแบ็กตูนิ่งเงียบ...

“เจ็ทโด้ซอนเซงนีม! ผมรู้สึกมีเกียรติมากที่ได้เป็นลูกศิษย์ ผมสัญญาว่าจะกลับบ้านพร้อมกัน ไม่ต้องห่วงผม! ถึงน้ำเสียงเขาจะมั่นใจแต่มันเหมือนกับการบอกลา

“หนีทันมั้ยน้องชาย กลับมา!” เสียงของเจ็ทโด้เต็มไปด้วยความเป็นห่วง

“ผมขอโทษครับเซม! ผมจะสู้กับมัน!

“หนีเถอะ! การหนีไม่ได้หมายความว่าแพ้นะสหาย อย่าแลกกับมัน รีบกลับมา!

“ผมขอยิงมันให้ร่วงอีกลำ แล้วจะหนีครับ”

“หนีเดี๋ยวนี้! เจ็ทโด้ตะโกนลั่น ในสนามรบจะไม่มีผู้นำทหารคนไหนสั่งให้ลูกน้องหนีศัตรู เขายอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อปกป้องชีวิตของลูกน้อง

แต่...

“ตื้ด! ตื้ด! ตื้ด! ซองบกกระชากสายวิทยุทิ้ง

ในขณะเดียวกันเครื่องบินรบของจีนทั้ง 2 ลำกลับมาเคียงคู่กัน ผบ.ทหารเรือสั่งนักบินลำเลียง C130...

“นักบินทุกนาย! กระจายกันอย่ารวมกลุ่ม” ฝูงบินกระจายตัวแยกจากกัน

เขาเรียกนักบินรบ...

“อาฟ่ง! มันใช้เครื่องบินของเราเป็นที่กำบัง คุณลงล่างไปต้อนมันมา ผมจะดักยิงมันข้างบนเอง”

“ครับ!” เครื่องบินรบ J-10 โฉบลงล่างพร้อมลั่นกระสุน

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ซองบกโฉบขึ้นประกบข้าง C130

“ท่าน ผบ.ครับ ไอ้นี่ฉลาดมาก ฝีมือดีเชียว” นักบินจีนโต้ตอบกับเจ้านาย

“เก็บมันซะ! เพื่อนคุณอีกลำไปไหนแล้ว?”

“กำลังเข้าโจมตีทิ้งระเบิดที่กองทัพอากาศของมหานคร น่าจะถึงแล้วครับ”

……………………………………

หอวิทยุการบิน

สนามบิน Middle Kala...

คนสามรุ่นในชะตากรรมเดียวกันนั่งมองผ่านกระจกใสรอเวลาที่เครื่องบินรบจะเข้ามาโจมตี น้องน้อยหลับสนิทในอ้อมกอดของคุณปู่

“เล่าเรื่องแฟนของแทนให้พ่อฟังหน่อยสิ!” พ่อนั่งเหม่อมองไปด้านนอกของหอวิทยุการบิน

“พ่อไม่อยากรู้เรื่องของภรรยาผมบ้างเหรอ?” เจ็ทโด้ยิ้มตาเชื่อม

“อยากรู้สิ หึหึหึ!” พ่ออมยิ้มโบกมือไล่ยุงให้น้องที่นอนหลับไหลบนตัก

“พ่อมาคิดแล้วก็โกรธตัวเอง พ่อกลัวจะมีปัญหากับครอบครัวใหม่ พอต้องตัดสินใจพ่อกลับเลือกไปลงที่ลูกเพราะเห็นว่าเขาเป็นเด็กและไม่มีปากเสียง ส่งไปอยู่ไกลตาเพียงเพื่อให้อีกคนสบายใจ” ท่านหน้าจ๋อยคงจะสำนึกได้จริง ๆ

“ผมเป็นลูกกำพร้าไม่รู้ว่าความรักของพ่อแม่เป็นแบบไหน พ่อรักเจ้าแทนมันจริงหรือเปล่าครับ?” ลูกกำพร้าที่ไม่เคยได้รับความรักจากผู้ให้กำเนิดจินตนาการถึงความรักไม่ออก

“รักสิ! แต่พ่อแสดงออกไม่ได้เลย พอเจ้าแทนโตขึ้นพ่อก็ไม่กล้าเจอหน้าไม่กล้าคุย เพราะความห่างเลยไม่รู้จักนิสัยใจคอกัน พอเขามีปัญหากับรัฐทุกคนผลักให้เลือกข้าง เขาต้องออกจากบ้านไปเผชิญกับปัญหาเอาเอง”

“ช่วงนั้น แทนมาอยู่กับผมครับ ผมพาไปทำงานในจีน”

“นายไม่ใช่ญาติแต่ก็ดูแลเจ้าแทนยิ่งกว่าญาติ ยิ่งตอนนี้ได้เห็นเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีใจกล้า พ่อยิ่งละอายใจ”

“ผมเองยังไม่มีลูก แต่ผมเคยรับเด็กมาอุปการะ ผมไม่รู้ว่าการที่ผมเป็นห่วงคอยดูเรื่องอาหาร เสื้อผ้าและการเรียนมันคือความรักหรือเปล่า แต่ผมก็ทำเพราะผมเห็นสายตาของพวกเขา ผมรู้ว่าคนที่ขาดโอกาสมันสาหัสขนาดไหน ร้องขอก็ไม่ได้หรือร้องขอก็ไม่ให้”

“สิ่งเหล่านั้นพ่อก็ทำให้ แทนไม่ได้ใช้ชีวิตลำบากมีเงินใช้อย่างสบายมือแต่พ่อทำได้แค่นั้น พอเขาออกจากบ้านเขาก็ไม่รับเงินที่พ่อให้อีกเลย”

“พ่อครับ เรื่องเลวร้ายมันผ่านไปหมดแล้ว ถ้าถึงเกาหลีเมื่อไหร่พ่อจะยิ่งภูมิใจในตัวของลูกชาย เจ้าแทนมันเป็นฮีโร่ เป็นที่รักของคนมากมายยากที่พ่อจะจินตนาการได้ ลูกชายของพ่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไว้ครับ” เจ็ทโด้ยิ้มดวงตาพราว

“ขนาดนั้นเลยเหรอ? ถ้าพ่อไปที่นั่นจะเป็นคนทำให้เขาเสื่อมเสียหรือเปล่า อดีตจะทำให้เขามีบาดแผลหรือเปล่า?”

“พ่ออย่าคิดมากเลยครับไม่มีใครคิดอะไรทั้งนั้น ตอนนี้พ่อมาอยู่กับมันแล้ว ทุกอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว”

“โน่นดวงไฟอะไร?” พ่อชี้ไปบนท้องฟ้าไกลลิบ เจ็ทโด้หันไปมองเรดาร์...

“มันมาแล้วครับ ก้มต่ำแอบหลังโต๊ะไว้ครับ”

เพียงแค่อึดใจ...ระเบิดชุดแรกก็ลงตามเป้าหมายอย่างที่คาดไว้อาคารซ่อมบำรุงเปิดไฟสว่างเป็นแถวยาวโดนกระแทกจากแรงระเบิด...

“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม! เฉิงตู J-10 เหินขึ้นฟ้ากลับลำมาอีกครั้ง

“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม! ระเบิดชุดที่ 2 ลงอาคารสนามบินไฟลุกท่วม

“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม! เครื่องบินทิ้งระเบิดปูพรมไปทั่วบริเวณอาคารเปลวไฟเผาผลาญลุกท่วม

“ตรึ่ด!!!!!!!!! เฉิงตูโฉบลงต่ำซัดรถยิงปืนต่อสู้อากาศยานล้มระเนระนาด นักบินเลือกยิงได้อย่างสบายใจ

เจ็ทโด้นั่งในมุมมืด วิทยุไปบอกกับเพื่อน ๆ....

“ทุกคน! ปล่อยให้มันทิ้งระเบิดลงมา ปล่อยให้มันตายใจ อยู่ในที่ซ่อนห้ามออกมาเด็ดขาด เราจะรอให้มันลงพื้นก่อน”

พ่อนั่งอุ้มหลาน แอบข้างโต๊ะทำงาน

“ตุ๋ย! มันจะเห็นเรามั้ย?”

“ถ้าเห็นเดี๋ยวมันก็มา”เจ็ทโด้อำขำ ๆ

“อย่าล้อเล่นอย่างนี้สิ พ่อวิ่งไม่ทันนะโว้ย”

“นั่นไง! มันมาแล้ว มุดเร็ว” เขาชี้ไปที่เฉิงตู J -10 แล้วก้มลงคลาน

“หึ่ม...มม!! เครื่องบินรบลำมหึมาลอยลำนิ่งคู่กับหอคอย นักบินสวมแว่นอินฟาเรตสำหรับมองกลางคืน ส่องหาคนภายในเรือนกระจกกลม

“พ่อนิ่งไว้ นิ่งไว้ใจเย็น ๆ ” เจ็ทโด้เตือนเบา ๆ  J-10 ค่อย ๆ ขยับทีละนิดตามจังหวะการหายใจของผู้หลบซ่อน พอได้จังหวะเจ็ทโด้ร้องสั่ง...

“พ่อ! ลงข้างล่างเร็วก้มหลังไว้นะ” เขาคอยระวังเจ้ายักษ์ใหญ่ที่ลอยนิ่งวนด้านนอก

“แก๊ก! เจ็ทโด้แง้มประตู

“พ่อลงไปก่อน” เขาดันหลังผู้ใหญ่ให้ลงบันไดวน

“ฟ้าว!!!! เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มจากไป กระจกสะเทือนรอบด้าน

“หูย! ลุ้นมาก นึกว่ามันจะเห็นซะแล้ว” พ่ออุ้มหลาน ยิ้มร่าเดินลง

“ถ้าเห็นเดี๋ยวมันก็กลับมา หนีดีกว่าเอาชัวร์ไว้ก่อน” เจ็ทโด้เดินตามพ่อลงบันไดวน

ทั้งคู่ลงมาได้ 2 ชั้น พ่อก็หยุดเดิน...

“ลงไปก่อนนะ! พ่อลืมแว่นตาขอขึ้นไปเอาก่อน” พ่อบอกแล้วหมุนตัวอุ้มน้องเดินกลับขึ้นไป

“พ่อ! ไม่ต้องหรอก ทิ้งไปเลย”

“พ่อมองไม่เห็นว่ะ ลืมกระเป๋านมเจ้านี่ด้วย เดี๋ยวมา!

“เร็ว ๆ นะครับ” เจ็ทโด้เดินออกมายืนรอริมคูน้ำนอกหอคอย

ด้านบนหอคอย...

พ่ออุ้มน้องนางฟ้าเดินวนหาแว่นตาตามโต๊ะ ก่อนจะถอนหายใจยาว

“เฮ้อ! อยู่นี่เอง!” แว่นตาอยู่คู่กับกระเป๋านมบนโต๊ะริมกระจก

ทันใดนั้น....

“เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง! กระจกรอบด้านแตกละเอียด กระสุนจากเครื่องบินรบจีนสาดเข้ามาจากทิศเหนือ

“แง้! เด็กร้องไห้จ้า

“ฟ้าว! ท่านหันมองเครื่องบินมัจจุราชแล้วหันมองประตู...

“ไม่ทันแน่” สายลมแรงพัดวูบจากหน้าต่างที่แตกละเอียด เขาหันมองก่อนจะอุ้มน้องมาที่ขอบกระจก

“ตุ๋ย! ตุ๋ย! เขาป้องปาก

“ลงมาครับ มันมาแล้ว” เจ็ทโด้ตะโกนอย่างร้อนรน

“พ่อลงไม่ทันแล้ว รับน้องด้วยนะ”

“ไม่เอาครับ! พ่อรีบลงมาเลย” เจ็ทโด้พะวักพะวง

“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด! ฟุ่บ! กระสุนสาดเข้ามาอีกรอบพร้อมปล่อยจรวดพุ่งตามมา พ่อก้มหลังกอดเด็กในอ้อมกอด...

“โอ้ย!

“พ่อ!โดดเลย โดดลงน้ำมาเลย”

“ตุ๋ยรับนะ! พ่อหนีไม่ทันแล้ว” ร่างโชกเลือดของเขาอุ้มน้อง ในจังหวะที่จรวดกำลังจะถึงหอคอย

“ฟู้ว...วว!!

“ฝากดูแลแทนด้วยนะ บอกแทนด้วยว่าพ่อมีความสุขมาก พ่อรักแทนนะเจอกันชาติหน้า รับน้องด้วย อึ้บ!” เขากัดฟันโยนเด็กลงจากหอคอยสูงราวตึก 5 ชั้น

“บรึ้ม!!! ระเบิดเข้ากระแทกหอคอยหงายหลัง ล้มครืน

“แง้!!!! เด็กน้อยในห่อผ้าลอยละลิ่ว เจ็ทโด้วิ่งกางมือรอจังหวะ เด็กอยู่ห่างออกไปมากและกำลังจะถึงพื้น เขาวิ่งก้าวขึ้นบนโต๊ะหินแล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดเด็กกลางอากาศม้วนตัว....

“ตูม!!! ตกลงไปในคูน้ำ

“...........”

การพบก็ต้องมีการจาก แทนพึ่งได้เคลียร์เศษแก้วในใจของตัวเองและพ่อออกไปและสัญญากันว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันกลับกลายเป็นเพียงคำสัญญาที่ว่างเปล่าอีกครั้ง เขาพึ่งจะเสียไป่ไป๋ไปไม่นานหรือจะเป็นดวงชะตาที่เขาต้องผจญ

                            ..............................................


เหนือน่านฟ้า Kala Democracy

แถบภาคกลาง...

เครื่องบินรบของจีน 2 ลำ บินหาจังหวะจู่โจมเครื่องบินรบกริพเพนที่ลอยลำอยู่หน้าเครื่องบินลำเลียง C130

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! เครื่องบินจีนคอยดักยิงเมื่อได้โอกาส

“ไอ้ตัวนี้แสบจริง หลบเป็นลิงเลย”

“รีบจัดการ เดี๋ยวมันยิง C130 ร่วงหมดเราแพ้เลย” ผบ.ทหารสั่ง

“ดูจากระยะเวลาที่ทิ้งห่างขนาดนี้ พวกมันคงเหลือแค่นี้แหละครับ ไม่อย่างนั้นฝูงบินมันต้องมาแล้ว คงหมดพิษสงแล้วล่ะครับท่าน”

“ผมก็คิดเช่นนั้น คงโดนระเบิดตายหมดแล้วล่ะ เก็บไอ้นี่ให้ได้แล้วลงพื้นกัน คุณบินขึ้นแล้วจี้ไปหามันต้องลงล่าง ผมจะยิงมันเอง”

“เฟี้ยว! เครื่องบินพุ่งเหนือหัว C130 ซองบก โฉบขวาหนีไปอีกทาง

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! แล้วซัด C130 ร่วงไปอีก 2 ลำทำให้ท้องฟ้าด้านนั้นเปิดโล่ง เปิดโอกาสให้ศัตรู....

“ตอนนี้เหมาะแล้ว ยิงเลย!” ผบ.ทหารเรือสั่ง

“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด! สายกระสุนทั้ง 2 พุ่งใส่หางกริพเพน เครื่องบินเสียการทรงตัวหมุนคว้างร่วงลงด้านล่าง ทหารจีนใช้โอกาสได้คุ้มค่า เพียงครั้งเดียวที่นักบินเกาหลีพลาด เขาก็ฉวยโอกาสนั้นได้ทันที

“เรียบร้อย! แม่งเอ๊ย! เสียเวลาจริง ๆ เครื่องบินเราเหลือกี่ลำ?”

15 ครับ!

เสียงวิทยุเรียกมา...

“ท่าน ผบ.ครับ ผมเคลียร์ทางให้เรียบร้อยแล้วครับ แต่คนที่นั่นขอเจรจา ท่านจะคุยก่อนมั้ย?”

“ผบ.ทหารอากาศไม่อยู่แล้วลองคุยดูก่อนก็ได้ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามีอะไรปกปิดไว้ คุณตกลงกับเขาไปให้พวกเขาออกมาตัวเปล่า ยืนกลางลานโล่งถ้าตุกติกยิงทิ้งไปเลย”

นักฆ่าพร้อมล่าได้ในทุกโอกาส แต่การล่าทุกครั้งไม่ได้หมายความว่าจะต้องกินเสมอไป หลายครั้งที่นักฆ่าก็ล่าเพียงเพื่อเล่นสนุก แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด เหยื่อก็ต้องเจ็บตัวทุกครั้ง

………………………………………………….

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,861 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,977 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม