The last man stand วบัติ 2026 เล่มที่ 10 ตอนที่ 14

The last man stand วบัติ 2026 เล่มที่ 10 ตอนที่ 14
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 10
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 20 ต.ค. 2568
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


เสิ่นหยาง

มุมมองสายตาแทน                       

7 กันยายน ค.ศ.2026

ตั้งแต่โดนแอนนาถีบให้มาเป็นผู้นำ ผมรู้สึกเหมือนโดนถีบลงบ่อจระเข้ทั้งมึนงงกังวลใจและกลัวมาพร้อมกัน คิดถึงคำพูดของนาตาลีเคยบอกไว้ว่า ถ้าประสบการณ์ไปไม่ถึงเราจะมองไม่เห็นภาพและจินตนาการไม่ออกนั้นเป็นความจริงทุกประการ แม้จะเคยเป็นทหารรับจ้างแต่ก็แค่ทหารจู่โจมปลายแถวที่ไม่เคยบัญชาการรบ

จากนักกิจกรรมทางการเมืองที่คิดเพียงแค่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับสังคมไม่เคยคิดจะแย่งชิงอำนาจของใคร ต้องการเพียงให้รัฐเป็นที่พึ่งพาของประชาชนจนเป็นเหตุให้ต้องร่อนเร่พเนจรผ่านวิกฤตมาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดก็หลายครั้งจมดิ่งอยู่ในคราบอสูรร้ายก็หลายปี ถึงชีวิตจะเจอเรื่องเลวร้ายมากมายก็ยังไม่รู้สึกหนักใจเท่ากับภาระทางใจในตอนนี้เพราะต้องแบกรับชีวิตของชนชาติ

สงครามครั้งนี้จะเป็นสงครามสั่งลายุคสมัยของโลก การต่อสู้ระหว่างความโลภของมหาอำนาจกับความอยู่รอดของชนชาติที่เล็กกว่า การรบที่ไม่มีรูปแบบ ไม่มีกติกา ไม่มีกรรมการ ผลของสงครามครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงสังคมวัฒนธรรมของโลกไปตลอดกาลและไม่มีวันย้อนคืน

เที่ยงคืน...ป่าละเมาะข้างสระน้ำภายในกองพันที่ 8 ฝั่งตะวันออก

“เราจะแยกเป็นสองกลุ่ม จินอาพาทีมไปวางระเบิดเครื่องบินรบด้านเหนือทั้งหมด จองซุกไปโรงเก็บรถถังและรถยิงขีปนาวุธทางทิศตะวันตกเสร็จแล้วไปเจอกันที่สนามยิงปืนทางเข้าอาคารผลิตวัคซีน ปฎิบัติ!

“เย่!” จินอาวิ่งนำทหาร 5 นายไปโรงจอดเครื่องบินรบทางทิศเหนือ จองซุกตะลุยดงหญ้ามุ่งหน้าทิศตะวันตก

ผมยกโทรศัพท์เรียกอีกกลุ่มที่กองพันที่ 12...

“พี่ซอนเข้าค่ายได้หรือยังครับ?” ผมไม่เคยทำงานร่วมกับซอน แต่เคยทำงานกับนักรบไทใหญ่และยังซาบซึ้งใจไม่ลืมเลือน

“เข้ามาแล้วน้องชาย ไม่ต้องเป็นห่วงพี่พรุ่งนี้เจอกัน!” น้ำเสียงของเขาเครียด

“ครับพี่!” ผมไม่กล้าหืออือกับเขามากนัก

เขาเงียบขรึมไปมากหลังจากพี่ชายเจ็บและที่สำคัญฝีมือของผมยังห่างชั้นปล่อยให้เขาทำงานตามสะดวกจะดีกว่า

ผมลุยกอหญ้าจนทะลุออกมาเห็นถนนขวางหน้าไฟสว่าง ระยะทางไปโรงจอดยุทโธปกรณ์ทางบกยังอีกไกล ในใจยังโดนรบกวนด้วยความเป็นห่วงยกโทรศัพท์อีกครั้ง...

“แอนนาเจอนาตาลีหรือยัง?”

“ยายตัวแสบยังไม่เปิดโทรศัพท์สักที ไม่รู้ว่าแอบไปนอนอยู่ที่ไหน อากาศหนาวมากด้วย” น้ำเสียงของเธอไม่ได้กังวลใจ

“เธอจะเป็นอันตรายมั้ย?” ผมห่วงนาตาลีแต่ก็รู้ว่า เส้นที่เธอขีดไว้ไม่มีใครก้าวข้ามได้

“อย่ากังวลใจ อย่าว่อกแว่ก ศัตรูของคุณอยู่ข้างหน้า สนใจซะ! แค่นี้นะ!” เธอไม่แยแสความรู้สึกของผมเลย

ผมอยากจะตัดความกังวลใจทิ้งตามคำแนะนำ แต่ยังไม่ทันสิ้นสุดลมหายใจก็หวนคิดถึงและเป็นห่วงเหมือนเดิม นาตาลีไม่เหมือนกับไป่ไป๋ที่ผมสามารถชี้นำหรือห้ามได้บ้าง

“หึ๋ย! ผมทิ้งตัวลงพื้น

มัวแต่ใจลอยแสงไฟสาดแวบเข้ามาเกือบพุ่งหลบไม่ทัน รถกอล์ฟแล่นขึ้นเนินสูงต่ำสลับบ่อน้ำและหลุมทรายข้างหน้า

“เซมติดสนามกอล์ฟ!” เสียงวิทยุจากจองซุกเรียกมา

“ไปทางขวาเจอกันที่อาคารซ่อมบำรุง”

หน่วยคอมมานโดให้เคลื่อนตัวในเงามืดผ่านกลุ่มบ้านพักของทหารชั้นผู้น้อยรุกคืบเข้าไปสู่ใจกลางค่าย

ผมออกจากป่าละเมาะวิ่งเลาะสนามบาสเก็ตบอลมาจนถึงอาคารสำนักงานซ่อมบำรุงรถยนต์ทหาร นั่งรอทีมวิ่งเข้ามาจนครบแล้วหยิบแผนที่ขึ้นมากาง...

“ผ่านจุดนี้ไปจะเจอโรงจอดรถถัง MT4 จองซุกไปทางซ้าย ผมจะไปทางขวาแล้วไปเจอกันที่เสาธงสนามฟุตบอล”

“ฮูย่าห์!” จองซุกลุกวิ่งไปกับเพื่อน

ผมย่องเงียบเข้าหาเป้าหมายอาคารสองชั้นปิดไฟมืด คอมมานโด 2 นายประกบซ้ายขวากวาดสายตามองหาทางสะดวก...

“ไป!

ทหารพุ่งพรวดวิ่งไปแนบหลังกับผนังอาคาร ค่อย ๆ ขยับไปที่มุม สหายหารยื่นหน้าออกไปมอง...

“โล่งครับ!

พอเขาก้าวขา...

โฮ่ง!โฮ่ง!โฮ่ง!!แหง่ง!หมาดำพุ่งใส่

“เฮ้ย! ผมหงายท้องขาชี้ เมื่อเจ้ายักษ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ขนฟูแยกเขี้ยวกระโดดใส่

“ฟึ่บ!ฟึ่บ!ฟึ่บ! 

เจ้าหมาที่ดุร้ายที่สุดในโลกชักกระตุกสิ้นใจทันที

“เซมครับ! หมาหรือหมี?”

“หมาทิเบตขนฟูเขี้ยวยาวตัวใหญ่ที่สุดในโลก โดนมันกัดทีเดียวคอขาด” ผมสยองกับเขี้ยวใหญ่ยาวขนาดนิ้วชี้

“หาไปเลี้ยงที่เกาหลีบ้างดีกว่า”

“ถ้าสหายเจอลูกมันก็หิ้วกลับไปได้เลย ตัวละ 100 ล้านวอนเอง”

“โอ้โห!...ค่าตัวมากกว่าผมอีก”

“เมื่อก่อนอาจจะเป็นเช่นนั้น หมาอาจมีค่ามากกว่าคนหลายคน มันอยู่ที่ว่าเป็หมาของใคร ตอนนี้มันไม่มีค่าอะไรหรอก สหายอย่าดูถูกตัวเองแบบนั้น”

ผมย่องหลบมาจนถึงอีกมุมอาคารให้สัญญาณทุกคนนั่งลง มองลอดพุ่มไม้ออกไปลานเขียวกลางสวนหย่อม ทุกอย่างเงียบสงัดไม่มีคนเดินเพ่นพ่าน แสงไฟยอดเสาสว่างไสวส่องอาคารเก็บยุทโธปกรณ์ทางทหาร

2 คน ไป!” ผมหัวใจเต้นรัวชี้ไปที่โรงจอดเฮลิคอปเตอร์

ทหาร 2 นายกระโดดผล๋อยวิ่งหลบหลังต้นไม้ก้มหลังวิ่งแอบข้างรถยนต์ที่จอดขอบสนาม

ผมวิ่งผ่านลานขึ้นไปด้านเหนือย่องเงียบเข้ามาในโรงเก็บรถถัง MT4 จนถึงมุมอาคารทหารยามนั่งหลับพิงเสา เขาคงไม่มีโอกาสได้ตื่นอีกแล้ว ผมดึงปืนออกมาเล็งในจังหวะที่นิ้วกำลังจะเหนี่ยวไก...

“วี๊วี๊ดวิ้ว” ทหารจีน 2 นายเดินฮัมเพลงผิวปากพ้นผนังทึบข้างอาคารออกมา

ผมคลายนิ้วปลอบใจตัวเองเบา ๆ...

“เกือบไปแล้วมึง แทนเอ๋ย!” เอามือลูบหน้าอกไล่ความตกใจแล้วนั่งมองเงียบ ๆ

พวกเขาคุยกันเสียงดังแต่ผมไม่เข้าใจเลยได้แต่สังเกตท่าทาง นั่งมองจนแน่ใจว่าพวกเขาแค่แวะมาสูบบุหรี่ด้วยกันเท่านั้น ผมรีบก้มหลังวิ่งไปอีกด้านเจอกระบอกปืนรถถังยื่นยาวออกมา

“เสร็จกูล่ะ! ผมแปะก้อนระเบิด C4 ใต้ท้องรถถัง VT7 ด้วยหัวใจเต้นรัว สายตายังคงจ้องรอจังหวะไปที่ทหารยามบนสนามผลีผลามจะไม่ได้กลับบ้าน พอขยับจะวิ่งโทรศัพท์สั่นขึ้นมาก่อน...

“เซมอยู่ที่ไหนครับ ผมวางระเบิดเสาสัญญาณเสร็จแล้ว” ลีจองซุกเรียกมา

“ผมกำลังจะไปโรงจอดรถหุ้มเกราะ”

“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ มินซ็อกกำลังไปโรงรถถัง VTR5 และไทป์ 69 ครับ”

“เสร็จแล้วไปที่เสาธง” ผมวิ่งผ่านโรงรถหุ้มเกราะเหลือบไปเห็นจีมินซ็อกกำลังมุดใต้ท้องรถถังไทป์ 69 ใกล้เสร็จภารกิจแล้วหัวใจชื้นขึ้น

ผมวิ่งลัดสนามฟุตบอลไปที่สนามซ้อมยิงปืนจุดนัดหมาย ถนนยาวขวางหน้ามาจากอาคารเขียวทิศเหนือตัดผ่านไปทางรันเวย์และไปสุดที่กำแพงค่ายแถวบ้านของหมวดจางทางทิศตะวันออก แค่เดินข้ามถนนไปก็เข้าป่าด้านในเป็นโกดังวัคซีนที่หมวดจางและไป่ไป๋เคยทำงาน

“จินอาเสร็จหรือยัง รายงานด้วย?” ผมวิทยุถามเมื่อสหายจองซุกวิ่งเข้ามา

“ยังครับ! ทหารมันรวมกันอยู่ตรงนี้เป็นพันคนเลยมันคงจะเข้าถล่มเกาหลีแน่ สหายนาจินเข้าไปวางระเบิดบ้านพักผู้บัญชาการค่ายยังไม่ออกมาเลย รออีกเดี๋ยวครับ” เสียงเขากระซิบมา

“สหายรีบหน่อยนะ”

“เย่!

ทุกอย่างผ่านไปอย่างง่ายดายหัวใจเริ่มเบาลง คิดถึงอีกหน่วยที่ทำภารกิจเดียวกันรีบติดต่อไป...

“พี่ซอนเสร็จหรือยัง?”

“รอคำสั่งโจมตีพร้อมกัน ตอนนี้กูพร้อมมาก” น้ำเสียงของเขาอำมหิตจนผมขนลุก

“รอผมอีกนิดนะ”    

“ลูกน้องของมึงแม่งสุดยอดเลยว่ะ”

“ยังไงครับ?”  ผมรู้สึกดีใจที่เขาชม                 

“กูยก 2 นิ้วบอกให้พวกมัน 2 คนวางระเบิดที่อาคาร Operation System มึงรู้ไหมมันทำยังไงกับกู?”

“ยังไงครับ?”

“มันเอาบุหรี่มาเสียบนิ้วกู”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ถึงน้ำเสียงของเขาจะเครียด แต่ผมก็อดขำไม่ได้

ทันใดนั้น...     

“หวอ...ออ! เสียงไม่พึงปรารถนาดังขึ้น

จองซุกวิ่งเข้ามาหา...“เซมพวกมันเห็นนาจินแล้ว”

“หือ! ผมตกใจรีบบอกซอน ...

“ผมพลาดแล้วพี่ มันรู้ตัวแล้ว”

งานใหญ่แน่ การหนีออกจากที่นี่ไม่ง่ายซะแล้ว

“จัดการเลย ลงมือก่อนที่มันจะตั้งตัว” ซอนวางสายไป

ผมเรียกวิทยุไปอีกครั้ง...

“จินอากดระเบิดแล้วถอยมาที่จุดนัด”

“จองซุกกดระเบิดเสาสัญญาณก่อน”

“สหายวิ่งข้ามถนนเข้าป่า”  

“หวอออ! เสียงเตือนภัยโหยหวนชวนเวียนหัวดังกร้าว แสงสปอร์ตไลท์จากยอดเสาสูงเปิดสว่างจ้าทั่วกองพันฯ

“บรึ้ม!...” ผมหันตามเสียงไปทางทิศตะวันตก เสาสัญญาณวิทยุไฟลุกกำลังเอียงล้ม

“จินอามาโน่นแล้วครับ” ทหารชี้ไปด้านเหนือ เงาตะคุ่มวิ่งผ่านตัวอาคารสำนักงานกำลังตรงมาทางนี้

ผมยกวิทยุเรียก...

“จินอาวิ่งตรงมา ผมอยู่ในป่าข้างหน้าสหาย!

“วาบ! แสงไฟจากรถยนต์แวบมาทางซ้ายผมทิ้งตัวนอนราบ

บรื้น!!บรื้น!!บรื้น!!” เสียงเครื่องยนต์เคลื่อนตัวดังกระหึ่ม

“กดระเบิด!

“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม! พื้นดินสั่นสะเทือนอาคารไหวเอนทางทิศเหนือ

“ลงไป!” ผมตบหลังให้ทหารทั้ง 5 กระโดดลงหลุมเพลาะ

“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม! เปลวไฟเผาทำลายโรงรถถังและรถหุ้มเกราะที่ทิศตะวันตก สร้างความสับสนให้กับศัตรู

ท้องฟ้าสว่างจ้าด้วยเปลวเพลิง ทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจน ทหารจีนอาวุธครบมือวิ่งสลับไปมามองหาเป้าหมาย

“สหายวิ่งไปต่อ”

หลุมเพลาะเป็นคูน้ำแห้งขอบสูงท่วมหัวเป็นเกราะป้องกัน

“บรึ้ม!บรึ้ม!บรึ้ม...มม! ระเบิดทำลายโรงจอดเฮลิคอปเตอร์ CAIC Z-10 หลังสนามฟุตบอลไฟลุกท่วม

“หวอ...ออ!เสียงออดเตือนภัยร้องกดดันต่อเนื่อง

“วิ่งต่อไป อย่ายิงโต้!” ผมเกรงมันจะรู้ตำแหน่ง

“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!

“แอ่ด! แอ่ด!ต้นไม้หักลั่น

“เซมระวังหัว!จินอาชี้นิ้วขึ้นไป

“เฮ้ย! ผมทิ้งตัวลงพื้น

“โครม! ต้นไม้ใหญ่พาดขอบหลุม

ดูเหมือนว่า พวกมันจะรู้ที่ซ่อนของเราแล้ว

“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด! ทหารฝั่งจีนระดมกำลังกันมาบนถนนไม่ขาดสาย กระจายตัววิ่งอ้อมมาด้านหลังของเราแล้ว

“ฟึ่บ!ฟึ่บ!ฟึ่บ!ฟึ่บ!” กระสุนสาดเข้ามาใกล้ใบไม้ร่วงกราว ทหารจีน 4-5 คนวิ่งตัดป่ามาจากด้านหลัง

“ยิงสกัดไว้! ผมเดาว่ามันคงตามมาจากกล้อง CCTV

“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!”

“ปัง!ปัง!ปัง!

“โอ้ย!สหายของเราล้มลง

“นาจิน! ผมใจหายวาบผวาเข้าไปลากเข้ามุม       

“ยิงโต้ไว้! ผมสั่งแล้วประคองหัวสหาย...

“เจ็บตรงไหน?” ผมมองสำรวจไปตามมือ เขากุมน่องขาขวา

“เซม! พาพวกเราหนีไปก่อน ผมไหวยังมี C4 อีก 2 ลูก” เสียงของสหายขาดหายหอบเหนื่อย

แม้สายตาเจ็บปวดแต่หัวใจนักสู้ยังลุกโชน เขาเอาด้ามปืนดันพื้นพยุงตัวลุกยืน หันปากกระบอกปืนซัดทหารจีนที่แอบหลังต้นไม้

“ปัง!” แม่นเหมือนจับวางทหารจีนหงายหลัง

“สหายอดทนอีกหน่อย!” ผมปักมอร์ฟีนลงที่หน้าขาแล้วลุกเขย่งมองไปบนถนน ทหารจีนเข้ายึดพื้นที่ยิงคุมเชิงจากริมถนน

“บรื้น!! บรื้น!! เสียงกระหึ่มพื้นสะเทือนรถถังหลายกำลังมา

“คลึ่กคลัก!คลึ่กคลัก!” เสียงล้อสายพานขยี้ใจมาจากทางขวา กระบอกปืนยาวน่าสะพรึงมาถึงสนามยิงปืนแล้ว

“บรื้น!! บรื้น!! ทางซ้ายก็ทั้งคนทั้งรถหุ้มเกราะมากันเป็นแถวยาว

“บรึ้ม!บรึ้ม!บรึ้ม! จองซุกกดระเบิด

C4 ขนาดกำปั้นทำลายกองพันฯไปมากกว่าครึ่ง เปลวไฟพิโรธโหมเผาผลาญไปทั่วค่าย

ผมใจระทึกเมื่อรถหุ้มเกราะและหน่วยรถถังเข้ามาเทียบริมถนน มีเพียงคูน้ำกั้นขวาง

“อึ๊ด...ดดด!... กระบอกปืนค่อย ๆ หันมา

“เซมทางตัน! ในขณะเดียวกันพวกเราวิ่งมาสุดทาง

“ตูม!

“บรึ้ม! ลูกปืนจากรถถังตกระเบิดข้างหน้าหลุมก้อนดินแตกกระจาย

“บึ้ม!บึ้ม!บึ้ม! ระเบิดมือขว้างใส่มาเหมือนของไร้ค่า

“ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!”

“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม! ระเบิดตกหน้าหลุมก้อนดินกระเด็น ทหารราบจีนรุกต้อนเข้ามา

“หวอ...ออ! เสียงหวอเสียดหัวใจ

“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม! ลูกปืนใหญ่โค้งจากปลายกระบอกรถถังตกไล่ระยะเข้ามาใกล้ทุกขณะ พวกเราไม่ได้ต่างจิ้งจกที่ตกลงไปในตู้ปลามังกร ต้องเร็วเท่านั้นที่จะรอด

“แชะ!แชะ!แชะ!” กระสุนปืนของสหายค่อย ๆ หมดทีละคน ผมร้องสั่ง...“ถนอมกระสุนเอาไว้ เลือกยิงเฉพาะคนที่เข้ามาใกล้”

“พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! เฮลิคอปเตอร์จีนขึ้นบินได้แล้ว มันโดนทำลายไปเยอะแต่ก็ยังเหลืออีกเยอ

“อื้ด! โทรศัพท์สั่นพี่ซอนโทรมา...

“เป็นไงมั่งมึง?” น้ำเสียงใสเชียวหายเครียดแล้วมั้ง?

“กำลังมั่วเลยพี่” แต่ผมเครียด

“กูเสร็จแล้วนะ เอาตัวรอดให้ได้ล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า!” อ้าว! ไม่ช่วยแล้วยังจะเย้ยกันอีก นิสัยเหมือนเมียไม่มีผิด กวนตีนทั้งครอบครัวยันไอ้ตัวเล็ก

“พี่ทำยังไง?” ผมก็ทำตามยุทธวิธีแล้วนี่หว่า

“ไม่บอกหรอก! กูเข้าฐานยิงขีปนาวุธไม่ได้ หาวิธีจัดการด้วย” ที่เขาพูดมาผมนึกภาพออกทั้งหมด ที่นั่นมีฐานยิงนิวเคลียร์

“แป๊นแป๊น! เสียงแตรดึงความสนใจ รถแวนสีดำวิ่งผ่ากองทหารจีนเข้ามาจอดหลังรถถัง นายทหารร่างสูงสง่าท่าทางองอาจกระโดดลงมาพร้อมโทรโข่งในมือ

“พี่แค่นี้ก่อนนะ ผมจะจัดการกับมันแล้ว”

“เดี๋ยวเจอกัน!” เขาวางสายไป

ทหารจีนตะโกนผ่านโทรโข่ง...

%%@$!!#%&$!$&%!%!$!Y&

ผมหันไปมองหน้าลีจองซุก เขารีบแปลทันที...

“มันให้ออกไปมอบตัว ให้เวลา 1 นาทีครับ ผมคิดว่ามันคงดึงเวลาให้กองทหารจัดทัพเล่นเรามากกว่า”

“.............” เสียงปืนสงบลงจนได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ลอยลำมาแต่ไกล

“พั่บ!พั่บ!พั่บ!พั่บ!”

“เราต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่ทหารจากหน่วยอื่นจะมาถึง” จองซุกหันมาบอก

“หายใจคล่องหน่อย พวกมันหยุดยิงแล้ว” จินอาเขย่งมองไปบนถนน

“พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! เสียงเฮลิคอปเตอร์ใกล้เข้ามา

“ปัง!ปัง!ปัง!” เสียงปืนดังขึ้นฟ้าจากนายทหารเรียกความสนใจ เขาตะโกนผ่านโทรโข่ง…“$#!&^%*^%@**^@%$$&

ลีจองซุกแปล...“หมดเวลา! มันจะนับ 3  ถ้าไม่ออกมาก็ตายอยู่ในนั้นแหละ”

“พั่บ!พั่บ!พั่บ!พั่บ! เฮลิคอปเตอร์ลอยลำ ทหารด้านหน้าเริ่มขยับปืนประทับบ่า

เสียงทหารจีนตะโกนมา... “3 #@!&*

จองซุกตะโกนตาม..

“3! ฆ่ามัน! แม่ง!...นับ 3 จริง ๆ ด้วยเซม 1กับ 2 ไปไหนวะ?”

“ปัง! ปัง! ปัง!” ทหารจีนเดินรุกคืบเข้ามาพร้อมสาดกระสุนไฟมาราวห่าฝน

พวกเรารีบนั่งลงกับพื้นหลุมเศษก้อนดินกระจายลงมาเต็มหัว

“พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! เฮลิคอปเตอร์สาดกระสุนมาใส่ไม่ขาดสาย

ผมได้เวลาเช็คบิล...

“วี๊ด!...โบ๊ะ!!! ลูกพลุไฟสีแดงลอยคว้างกลางท้องฟ้า

จังหวะนั้นเอง...เฮลิคอปเตอร์ CAIC Z-10 บินมาลอยลำอยู่เหนือหัวพร้อมยิงใส่...

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! สายกระสุนสาดซัดกิ่งไม้หักกราวเพื่อเปิดทาง

“โครม! กิ่งไม้ใหญ่หักโค่นลงมาเปิดเป้าหมาย

“พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! พลปืนเล็งลงมาที่ก้นหลุม

ผมแหงนมองท้องฟ้า เทวดาผู้ปกป้องมาถึงแล้ว

 

“เฟี๊ยว!!!

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ฝูงบิน MIG -35 หมากตัวสำคัญโฉบมาตามนัดพร้อมระเบิด 500 ปอนด์ดิ่งลงมา

“วี้ด...ดดด! เสียงหวีดแหลมจากหางระเบิดเสียดสีกับอากาศพุ่งลงมาพร้อมกับสายกระสุนจาก MIG-35

“บรึ้ม!บรึ้ม!บรึ้ม! ลูกไฟจากฟ้าร่วงลงพื้นด้านหน้า

รถถังกระเด็นหงายท้องรถหุ้มเกราะโดนระเบิดเสียหายระเนระนาด ทหารจีนนอนดิ้นร้องโอดโอยทุรนทุราย รถยนต์ของนายทหารคันนั้นหายไปจากจุดเดิม

“ไป! ผมตบหลังจองซุกกระโดดขึ้นไปปากหลุมคอยดึงมือทหารให้วิ่งต่อเข้าอาคารสูบน้ำ

“วื้ด!วื้ด!วื้ด!... เฮลิคอปเตอร์จีนโดนกระสุนไฟลุกตะแคงหมุนเอียง

“วิ่งตามมา” ผมวิ่งนำไปทางรันเวย์

“บรึ้ม!บรึ้ม!บรึ้ม! ระเบิดชุดที่ 2 ลงพื้นสะเทือนจนเซ

“บรึ้ม!บรึ้ม!บรึ้ม! สหายนักบินเข้าถล่มโรงจอดเฉิงตู J-10 ด้านเหนือ

“จองซุกยิงพลุเขียว”

“เย่!

“โบ๊ละ!!!

ผมรู้สึกโล่งอกออกมาสูดลมหายใจลึกกลางรันเวย์ สหายนาจินขี่คอเพื่อนกลับมา ลีจองซุกเดินเข้าไปกอดคอ

จินอาวิ่งเข้ามายืนเคียง...“เซมครับ! โคตรสะใจเลย” เขาหันไปยกนิ้วโป้งให้ฝูงบิน

“ถนนเส้นนี้ยังไปอีกยาวไกล สหายยังสู้มั้ย?”

“เย่!

ผมตบไหล่นาจินผู้บาดเจ็บ....

“เอาชัยชนะแรกกลับไปฝากสหายแล้วพักผ่อนให้สบายใจ ไม่ต้องเป็นห่วงสนามรบ พวกเราจะจัดการที่เหลือเอง”

“ฮูย่าห์!!! ทหารกล้าของผมยืดอก

“พั่บ!พั่บ!พั่บ! เสียงใบพัดแหวกอากาศดังแว่วมา ดวงไฟกะพริบของเฮลิคอปเตอร์ 3 เครื่องลอยลำมาแต่ไกล

“อื๊ด! โทรศัพท์สั่นขึ้นมาอีกครั้งหวังว่าจะเป็นนาตาลี แต่ต้องผิดหวังที่เป็นซอน...

“เสร็จแล้วครับพี่” ผมหวังว่าจะได้คำชมสักหน่อย

“กูถึงเกาหลีแล้วนะ มึงรีบกลับมาบัญชาการรบและรอรับการติดต่อจากจีน มอบภาระกิจนี้ให้ไป่ไป๋เป็นคนเจรจา”

อะไรวะ! มาถึงก็สั่ง ๆ ๆ ไม่ท้าวความให้เข้าใจเลย ผมหงุดหงิดกับสองผัวเมียนี้จังเลย สั่งอย่างกับว่าผมเป็นลูกน้องปลายแถวเลย

“ผมจะไปตามนาตาลีก่อน” ผมงอน

“มึงรู้เหรอว่าอยู่ที่ไหน?”

“ไม่รู้”

“งั้นกลับมาซะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแอนนา”

“ผมเป็นห่วงนาตาลีจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ แล้วเข้าไปคนเดียวอย่างนั้นมันเสี่ยงจนไม่กล้าคิดเลย” ผมหาเรื่องจะไป

“แทน!...สิ่งที่ดอกเตอร์ทำลงไปนายทหารทั้งโลกก็คิดแต่ไม่กล้าทำ เธอเดินเลยจุดที่มนุษย์ธรรมดากล้าทำไปแล้ว การตัดสินใจรุกของเธอเป็นการปลดความลังเลใจของทุกคน มึงยังจะลังเลต่อไปก็ช่วยไม่ได้นะอยากปล่อยให้คนเกาหลีตายก็เรื่องของมึง” โดนตะคอกใส่อีก /ตกลงว่าผมเป็นคนผิดใช่มั้ย?

กวนตีนไม่มีใครเกิน แต่คำตอบของเขาก็ทำให้อึ้งนิดหน่อย

“เตรียมส่งเครื่องบินมาสนับสนุนกูด้วย พรุ่งนี้เช้าจะกดดันมันด้วยคนตาย ถ้าหวังฉวนไม่ยอมกูจะล้างมันทั้งประเทศ” น้ำเสียงนี้ไม่ค่อยได้ยินแต่สัมผัสได้ถึงความโกรธ

“พี่จะทำอะไรไม่บอกบ้างเลย ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย” ผมน้อยใจ โดนสองผัวเมียปั่นหัวเป็นจิ้งหรีดเลย

“มึงคอยตามฟอลโล่ให้ดีก็พอ กูไปก่อนนะ!” ซอนทิ้งปริศนาไม่รู้ว่าจะทำอะไรอีก

“เฮ้อ!...” ผมระบายความอัดอั้น วิกฤติทะลักเข้ามานาตาลีก็หนีไป ไป่ไป๋ก็ยังงอแง

“ไป่ไป๋” ผมเรียกวิทยุด้วยหัวใจห่อเหี่ยว

“เย้! เย้! หนูรออยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ” เสียงใสดีใจสุด

“ภารกิจสำเร็จกำลังกลับครับ” อยู่กับคนเอาแต่ใจ บางทีก็หลอน

“เจออนนี่มั้ยคะ?” เธอถามในสิ่งที่ผมร้าวใจไม่อยากตอบ

“ไม่เจอ! คงต้องติดต่อกับแอนนาบ่อย ๆ ผมเป็นห่วงจังเลย”

“คุณไม่ต้องกังวลใจนะคะ รีบกลับมาช่วยกันคิดหน่อยว่าเธอจะไปที่ไหนจะได้ส่งแอนนาตามไปประกบ” น้ำเสียงกระตือรือร้นมาก ก่อนผมจะมาทำภารกิจเธอยังงอแงอยู่เลย ทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ล่ะ?

“แอนนาบอกว่า นาตาลีจะไปหาหวังฉวน” ผมหนักใจมาก

“เธอไปหาไม่ได้หรอกค่ะ ไม่ต้องกังวลคุณรีบกลับมานะคะ หนูจะไปรอที่ค่ายโชซอน ซอนกำลังจะถึงแล้ว” ยิ่งเธอไม่งอแงผมยิ่งแปลกใจ แต่ที่แปลกใจมากอีกอย่างคือ ทำไมซอนทำภารกิจลุล่วงง่ายมาก?

“พั่บ!พั่บ!พั่บ!พั่บ!เฮลิคอปเตอร์ลงจอดบนรันเวย์

“กลับกันเถอะสหาย เครื่องบินจีนมาแล้ว” ผมโบกมือให้ทหารขึ้นเครื่อง

“ฮูย่าห์!!

“พั่บ!พั่บ!พั่บ!พั่บ!

มองย้อนกลับไปที่กองพันที่ 8 อีกครั้ง...สิ้นสุดกันเสียทีนะ จุดเริ่มต้นของความชั่วร้าย เปลวไฟลุกท่วมท้องฟ้าแดงฉานคลังสรรพาวุธระเบิดกึกก้องเหมือนเสียงคำรามประกาศสงคราม

“นินจาเซม!” สหายโกมีทักเรียกมา

“เย่!

“ภารกิจสำเร็จแล้ว ผมจุดคบเพลิงให้แล้วนะครับ”

“ดีมาก! สหายไปดูที่ฉางชุนให้หน่อยสิ ไม่รู้ว่าซอนเซมทำยังไง?” ผมคาใจกับเรื่องนี้

“อ๋า!...ฮ่าฮ่าฮ่า! ผมทราบแต่บอกไม่ได้ ซอนเซมไม่ให้บอกครับ” เขาหัวเราะร่วน ซอนก็ยังคงกวนตีนได้เสมอต้นเสมอปลายไม่รู้ซ่อนอะไรไว้อีก /นึกแล้วเจ็บใจ...กูเป็นผู้บัญชากรทหารสูงสุดนะโว้ย/

          ............................................................

 
 

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,906 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด11,022 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท23 ต.ค. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม