หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 10 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 20 ต.ค. 2568 |
ถ่งเหลียว มณฑลเหลียวหนิง
มุมมองสายตา ซอน
พระอาทิตย์อ่อนแรงใกล้ค่ำกำลังนำพาวันนี้จากไปเป็นอดีต ผมนั่งส่องกล้องบนดาดฟ้าของโรงแรมฟีนิกซ์ในเมืองถ่งเหลียวที่อึมครึมเหม็นกลิ่นไฟไหม้ แม้ด้านล่างจะมีผู้คนเดินมากมายแต่ไร้เสียงของการมีชีวิต การถกเถียง เสียงโวยวาย หัวเราะหรือร้องไห้หายไปจากแผ่นดิน
“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม!” เครื่องบินจีนหลุดเข้ามาทิ้งบอมบ์ F-22 Raptor ของเกาหลีบินเข้าจับทันที
“ฟ้าว!...” SU35 ของจีนโฉบเข้ามาช่วย
“เฟี้ยว!...” สนามบนฟ้าไล่ล่ากันไม่พัก
“แว๊น!...” ด้านล่างเดอะแก๊งกระจายไปตามตรอกซอกซอย
กลิ่นควันไฟเหม็นคลุ้งลอยขึ้นมาเตะจมูก การกดดันของผมยังไม่ได้ผล มันยังคงโจมตีโต้กลับโดยไม่ยอมเจรจา ชีวิตของประชาชนไร้ค่าเมื่อเทียบกับความปรารถนาของผู้นำ ผมไม่ได้สบายใจนักที่ต้องกดดันหวังฉวนด้วยวิธีนี้ แต่การรบกับกองทัพมหาอำนาจถ้าหงอก็โดนบี้ขยี้เป็นผุยผง ถ้าแพ้สงครามจะไม่มีคำว่าสงสารและเห็นใจให้กับเรา
“ไป่ไป๋เรียกซอนเซม! ไป่ไป๋เรียกซอนเซม!”
“เย่! ฮองเฮา”
“ซอน!...ไอ้หวังฉวนมันใจดำมาก เอาไงต่อ หนูไม่กล้าดูจอภาพเลย สยองมาก!”
“ผมจะกดดันมันอีก ตอนนี้หนทางข้างหน้าโล่งแล้ว”
“ทำไมคะ?”
“Tamer 30ไปถึงก่อน กว่าเด็ก ๆ จะไปถึงพวกมันฆ่ากันเองเกือบหมดแล้ว” ผมคาดว่าก่อนถึงเช้าพรุ่งนี้ทั้งสามมณฑลจะร้างผู้คน แต่ต้องผ่านคืนนี้ไปให้ได้ก่อน
“แอนนาเจอกับอนนี่แล้วนะกำลังไปปักกิ่งกัน” ไป่ไป๋ปลดความทุกข์ในใจให้ ผมโล่งอกไม่ต้องกังวลอีก...
“ฮู่ว! เยี่ยมมาก คอยช่วยเหลือแอนนานะ”
“แหงอยู่แล้ว หนูจะไม่นอนมาบอกแค่นี้แหละ”
กองทหารราบเคลื่อนรถยิงขีปนาวุธแล่นรุดหน้าขยับตำแหน่งรุกคืบเข้าใกล้กรุงปักกิ่ง ขยายแนวป้องกันกว้างมากขึ้น
“โนยุนซอเรียกซอนเซม” เดอะแก๊งเรียกวิทยุมา...
“ยุนซอว่าไง?”
“สะพานฉีเฟิ่งขาดข้ามแม่น้ำไม่ได้ครับ” น้องรายงานอุปสรรคใหม่เข้ามาให้แก้ปัญหา
“ยุนซอกระจายคำสั่ง!...หยุดพักกันก่อนเอาแบตเตอรี่โดรนส่งให้ทีมสนับสนุนไปชาร์ตแล้วกระจายกันซ่อนตัวไว้ รอคำสั่งใหม่!”
ถ้าเป็นอย่างนี้เท่ากับรัฐบาลทอดทิ้งชาวบ้านทั้งสามมณฑลแล้ว อันตรายกำลังจะเข้ามาหาพวกเราในไม่ช้า
ผมหยิบแท็บเลตมาเปิดดูแผนที่หาทางหนีทีไล่ ถ้าข้ามฉีเฟิ่งไปได้ก็จะติดแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลเชี่ยวกรากและต้องข้ามกำแพงเมืองจีนที่ผ่านพาดขวางตามแนวแม่น้ำอีก ปราการธรรมชาติบีบให้พวกเราต้องไปตามถนน
เสียงวิทยุเรียกมา...
“นินจาเซมเรียกซอนเซม”
“ว่าไงแทน?” เจ้าแทนมาได้จังหวะพอดีเสียงระริกระรี้ดีใจมาเลย
“พี่ซอนเหมือนจะชนะง่ายกว่าที่คิดนะ มันตั้งตัวไม่ทันถอยไม่เป็นขบวน เครื่องบินก็เข้าไม่ถึงพวกเราเลย”
“มันเข้าไม่ถึงแต่เดอะแก๊งไปต่อไม่ได้ มันถล่มสะพานขาดแล้วมึงสั่งนักบินมายันมันไว้ก่อนที่มันจะทิ้งระเบิดใส่หัวกู” ผมแกล้งแหย่
“เอ่อ!ครับ” เสียงของผู้บัญชาการจ๋อยไปเลย
“เปิดแผนที่ขึ้นมาคุยกันหน่อยซิ!”
“ได้ครับรอเดี๋ยวนะ...พร้อมแล้วครับ!” เจ้าแทนมันน่ารักอย่างนี้แหละ ไม่เถียง ไม่บ่น
“ตอนนี้กูอยู่กลางเมืองถ่งเหลียวอีกเดี๋ยวจะไปฉีเฟิ่ง ถ้าดูจากแผนที่ตอนนี้เด็ก ๆ ยังตกอยู่ในอันตราย กูต้องข้ามแม่น้ำให้เร็วที่สุดต้องเข้าใกล้มันให้เร็วกว่านี้ ตัวประกันฝั่งนี้ไร้ความหมายแล้วต้องข้ามไปหาใหม่ฝั่งโน้น” ผมหมายถึง Soulless ที่ไม่มีประโยชน์ในการต่อรองแล้ว
ผมลากนิ้วไปตามสายน้ำหลวนเหอที่ไหลจากทิศเหนือผ่านเมืองเฉิงเต๋อไปลงทะเลต้าเหลียนที่เมืองฉินหวงเต่า แม่น้ำสายนี้แยกสามมณฑลของจีนไปรวมกับเกาหลีเหนือ
“มึงดูที่แม่น้ำหลวนเหอนะ ถ้าคืนนี้มันเอาเครื่องบินทิ้งระเบิดถล่มปูพรม แล้วสั่งกองเรือรบจากทะเลเหลืองและทะเลญี่ปุ่นยิงขึ้นฝั่งพร้อมกัน เกาหลีจะเหลืออะไร?”
“โห! โคตรวัดใจเลยนะเนี่ย มันจะกล้าทำลายผู้คนจำนวนมากและบ้านเมืองของตัวเองด้วยเหรอ? พี่ดูพื้นที่สิกว้างมากเลยนะครับ!” เจ้าแทนเป็นคนจิตใจดีมักติดกับดักความสงสาร
“รัฐทิ้งชาวบ้านแล้ว คำสั่งเพื่อความมั่นคงของชาติใช้ฆ่าคนได้”
“............” แทนนิ่งไม่ตอบ
“พอตั้งตัวได้...มันจะถล่มจากแดนไกล คราวนี้มึงจะได้เห็นขีปนาวุธความเร็วสูง ถ้าพรุ่งนี้กูข้ามแม่น้ำไม่ได้ก็เอาแบคโฮมาโกยกระดูกกลับได้เลย”
“พี่คิดอย่างนั้นจริงเหรอ?”
“ถ้ากูเป็นหวังฉวนกูจะถล่มทั้งหมด พื้นที่แค่นี้ไม่มากหรอก ทิ้งระเบิดสัก 7 - 8 แสนปอนด์พวกเราก็เป็นปุ๋ยหมักกันหมดแล้ว กองทัพจีนมีศักยภาพทำลายล้างได้ในพริบตา ถ้ามันปล่อยให้พวกเราข้ามแม่น้ำไปได้ กรุงปักกิ่งเป็นทะเลเพลิงแน่ หวังฉวนมันคงคิดไม่ต่างกันหรอก” ผมเชื่อว่า เมื่อจวนตัว ผู้นำก็ไม่สนชีวิตชาวบ้านอยู่แล้ว มันมีวิธีแถมากมายที่จะปัดความผิดให้พ้นตัวและนั่งบัลลังก์ต่อ
“พี่ซอน! นายพลห่าวบอกว่า ถ้าเรามีเรดาร์ดี ๆ จะสกัด ICBM ได้ด้วยการยิงดักหน้ามันได้ จริงมั้ย?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ผมหลุดขำเต็มที่
“ เขาอำมึงน่ะสิ สกัดไม่ได้ มันยิงขึ้นชั้นบรรยากาศแล้วแตกตัวลงมา กูถึงต้องรีบเข้าปักกิ่งให้ได้เร็วที่สุดไงล่ะ!”
“อ้าว!” เจ้าแทนไม่เหมาะกับอาชีพทหารเลย ถ้าไม่มีเจ็ทโด้ยืนเคียงข้างเขาคงตายไปนานแล้ว
ผมแหงนมองกองบินจีนดาหน้าหลุดเข้ามามากขึ้น ในขณะที่ฝูงบินเกาหลีก็ยังให้ความอุ่นใจเข้ารุกไล่ทันที อันนี้ต้องชมเจ้าแทนว่า มันฉลาดไปโขมยเครื่องบินและอาวุธต่อต้านอากาศยานมามากมาย
“คืนนี้น่าจะโดนถล่มหนัก”
“คืนนี้ผมจะยันกับมันเอง พี่พาเด็ก ๆ ซ่อนตัวเงียบ ๆ เลยนะ” ผู้บัญชาการของผมเสียงมั่นใจมาก
“นักบินของมึงจะสู้จีนได้มั้ย?” ผมไม่ได้สงสัยเพราะรู้อยู่เต็มอก
“พี่ไม่ได้เจอสหายโกมีทักนานแค่ไหนแล้ว?”
“ก็นานแล้วนะ ทำไม?”
“เขาเดินไม่เหมือนพวกเราหรอกนะ ทำ Flying Roll ทั้งวันทีมนักบินทุกคนก็เป็นเหมือนกัน ร่อนบ้าง หมุนตัวบ้าง สร้างจินตนาการในการบินทั้งวันและทุกวัน ผมเชื่อมือเจ้าคิมซองบก” เจ้าแทนมั่นใจขั้นสุด
“อ๋อ! กูเคยเห็นพวกมันรำด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า!” ผมชอบอำเจ้าแทนเล่น
พวกนักบินต้องฝึกประสานร่างกายให้เป็นหนึ่งเดียวกับเครื่องบินรบ ผมเคยพาเดอะแก๊งไปดูพวกเขาจำลองการฝึกนั่งเก้าอี้หมุนต่อสูงแรงG ลงมาเวียนหัวอ้วกแตกกันหมด
“เอาอย่างนี้นะแทน มึงส่งเฮลิคอปเตอร์ไปรับเดอะแก๊งที่ยังตกค้างอยู่ด้านหลังกลับบ้านให้หมด ส่งสะพานไปที่ฉีเฟิ่งให้ด้วยคืนนี้กูจะเดินทางไปเฉิงเต๋อ”
“เย่!”
ผมยกวิทยุเรียก...
“ซอนเซมเรียกซนบ๊กซู”
“เย่ซนบ๊กซู!” เสียงสนั่นจนต้องเบือนหน้าหนี
“รายงานมา”
“เฉาหยางมีจรวดตกลงมาพร้อมฝนประปราย บนท้องฟ้ามีแต่จรวดวัดดวงไม่รู้ว่าจะตกที่ไหนครับ เดอะแก๊งเสร็จภารกิจสั่งให้พักอยู่ อีก 1 ชั่วโมงรถโมบายล์จะหยุดปฎิบัติการครับผม” น้ำเสียงของเขามั่นคงแสดงว่าไม่มีเรื่องเลวร้าย
“พักเสร็จแล้วตุนเสบียงไว้ เปลี่ยนไปใส่ชุดดำเดินทางต่อเที่ยงคืนมาเจอกันที่เฉิงเต๋อ”
“ผมขอขึ้นไปหาของกินบนโรงแรมได้มั้ยครับ?” เสียงทะเล้นมาก
“กระจายคำสั่ง...ผมอนุญาตให้ทำทุกอย่างได้อย่างที่ใจอยากทำ!”
“เย่!”
ชีวิตของทุกคนอยู่บนขอบเหวแห่งความตายจะวงเล็บความอยากไว้ทำไม อยากทำอะไรทำเลยเพราะมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่มีโอกาส
ผมเรียกใหม่...“ซอนเซมเรียกมินจอง”
“เย่ชามินจอง!”
“สหายอยู่ที่ไหนรายงานด้วย”
“ผมอยู่ที่จินโซวครับ ภารกิจเรียบร้อย”
“หาอาหารกินและตุนเสบียงเปลี่ยนใส่ชุดดำกระจายตัวกันเดินทางต่อไปฉินหวงเต่า ขับห่างกัน 1 กิโลเมตรหลีกเลี่ยงเส้นทางหลักรวมตัวกันกลุ่มละ 5 คัน”
“เย่!”
“นักบินฮันไปฉีเฟิ่งกันเถอะ”
“พั่บ!พั่บ!พั่บ!”
ผมยังคิดไม่ออกว่าจะหาประโยชน์กับ Soulless ได้ยังไง แต่ผมจะไม่ให้พวกนี้ผุพังเน่าเปื่อยหรอกจะใช้วิธีเดียวกับที่จูยอนช่วยชีวิตพวกเขา
“ตากล้องแพ็ค!”
“เย่!”
“ตัดต่อคลิปได้เยอะมั้ย?”
“เพียบเลยครับ”
“ดี! ส่งคลิปกลับไปฐาน สหายไม่ต้องถ่ายแล้วเตรียมจับปืนออกรบ”
“เย่!”
“เซมครับดูด้านบนสิ ทำไมมันมากมายขนาดนั้น?” เขาไปบนฟ้าด้านหน้าควันขาวพาดท้องฟ้าเสียงดังกัมปนนาท
“เหี้ยแล้ว!” ผมใจหายวาบ ขีปนาวุธระยะกลาง MRBM ยิงมาเป็นขบวนลอยข้ามหัวไป
“มันเริ่มโจมตีเกาหลีแล้ว นักบินลดเพดานบินลง” ผมยกวิทยุเรียก
“เดอะแก๊งออกจากเมือง เดี๋ยวนี้!” ของแข็งมาแล้ว นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปฝูงจรวดจำนวนมหาศาลน่าจะพุ่งเข้ามาไม่ขาดสายแน่
“ซอนเซมเรียกนินจาเซม”
“เย่!”
“เตรียมสกัด MRBM ด้วยมันไปทางมึงแล้ว” ผมเป็นห่วงคนที่อยู่ในโรงพยาบาลจังเลย
“เย่!”
ตากล้องแพ็คแหงนมองตามจรวดขีปนาวุธไปด้านหลัง
“สงครามน่ากลัวแบบนี้นี่เอง เซมต้องชนะนะครับผมยังอยากมีชีวิตอยู่”
“สิ่งที่จะตัดสินแพ้ชนะไม่ใช่อาวุธ ของพวกนี้ทำอะไรเกาหลีไม่ได้หรอก นินจาเซมไปขนอาวุธต่อต้านมาเตรียมพร้อมไว้แล้ว” ผมหันไปยิ้มปลอบใจ
“ถ้าไม่ใช้อาวุธจะชนะได้ยังไง?” ตากล้องแพ็คสายตาถอดใจ เด็กหนุ่มจากมหาวิทยาลัยเจอสงครามจริงถึงกับหน้าถอดสี
นักบินฮันหันมาตอบ...
“เซมหมายถึงนกหวีดของเด็ก ๆ ไงล่ะ”
“รีบไปเถอะ! พวกมันยังคลำเป้าไม่เจอ เราเข้าใกล้มันอีกดีกว่า”
อุปสรรคชิ้นใหญ่ขวางหน้า แม่น้ำสายใหญ่เชี่ยวกรากเป็นปราการป้องกันการรุกของเรา ผมต้องรีบเข้าใกล้แม่น้ำก่อนที่จรวดจะกินพื้นที่เข้ามา
.......................................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,906 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 11,022 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 23 ต.ค. 2568 |