The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 11 ตอนที่ 5

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 11 ตอนที่ 5
หมวดหมู่ the last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 11
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 3 ต.ค. 2568
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

เทียนอันเหมิน...

มหาศาลาประชาชนปักกิ่ง

ภายในห้องประชุม...

ผู้บริหารระดับสูงและนายทหารทุกเหล่าทัพนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องมองดูภาพจากมุมสูง การบุกโจมตีจากทหารเกาหลีรุกคืบเข้ามาเรื่อย ๆ เปลวไฟเผาเมืองเป็นวงกว้าง

นายพลทหารบกยืดอกยกมือ...

“ท่านมีแผนจะยิงนิวเคลียร์หรือเปล่าครับ?”

รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงขยับ...

“ไหน ๆ ก็จะเปิดตัวแล้วก็ให้มันยิ่งใหญ่ไปเลย ปรกติเราก็จุดพลุจุดปะทัดให้ชาวบ้านดูอยู่แล้วได้ดูพลุดอกเห็ดเป็นขวัญตาก็ดีนะครับท่าน จบสงครามให้ไวที่สุดน่าจะดีกว่า”

นายทหารอากาศหันมองสายตาวิตกกว่าใคร...

“เราไม่เหลือทางให้เลือกเท่าไหร่ ท่านสั่งไม่ให้เข้าใกล้ก็ต้องใช้อาวุธหนัก เราเสียทั้งทหารและอาวุธมากมาย ได้ไม่คุ้มเสียเลย”

หวังฉวนนั่งหัวโต๊ะเคาะนิ้วใบหน้านิ่ง สายตายังสนใจกับการโจมตีบนจอภาพจากมุมสูง จรวดมิสไซน์ยิงขึ้นจากกองเรือถล่มขึ้นฝั่งเกาหลีต่อเนื่อง เครื่องบินรบทั้งสองชาติโรมรันกันบนฟ้ากว้าง

นายทหารบกเอ่ยขึ้น...

“ตอนนี้พวกมันข้ามแม่น้ำมาตามแผนแล้ว ติดอยู่ที่ย่านกู่เซิงยังมาไม่ถึงถังซาน ตรงนั้นจะเป็นสุสานของกองกำลังเกาหลีเหนือ” นายทหารยืนยันหนักแน่น

แต่หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงยกมือดัก...

“คุณปล่อยมันข้ามมาได้ยังไง ท่านประธานาธิบดีครับแล้วอย่างนี้จะทำยังไง?” เขาชักสีหน้าไม่เห็นด้วย

นายทหารบกหันมองหน้า...

“มันเป็นยุทธวิธีในการรบครับ”

“ถ้าทหารต้านไม่อยู่จะให้พวกผมทำยังไง?”

เราล้อมยิงขนาดนั้น ต่อให้มีปีกพวกมันก็ออกจากย่านกู่เซิงไม่ได้ ถ้าหลุดออกมาได้ก็เจอกองกำลังที่ถังซาน คนไม่มีทางแข็งกว่ากระสุน” นายทหารบกมั่นใจ

หวังฉวนยกมือขัดจังหวะ...

“ตัดสัญญาณสื่อสาร ปล่อยภาพกองเรือโจมตีชายฝั่งให้ชาวบ้านดูก็พอ อย่าให้พวกนักข่าวเข้าพื้นที่” เขาชี้ขึ้นไปบนจอ

นายพลเรือยกมือ...

“ท่านประธานาธิบดี!...กองเรือของเราก็ยกพลขึ้นบกไม่ได้ทำอะไรเกาหลีเหนือไม่ได้เลย ยิงไปก็ติดจรวดต่อสู้อากาศยาน สิ้นเปลืองอาวุธเปล่า ๆ ครับ” เขานั่งตัวตรงมองหวังฉวน

“ถล่มมันไปเถอะ! เราสิ้นเปลืองมันก็สิ้นเปลืองเหมือนกัน ในสภาวะอย่างนี้มันจะหาอาวุธสำรองจากไหนมาสู้กับเรา อีกไม่นานอาวุธต่อสู้อากาศยานของมันก็หมด ส่วนเรื่องยิงนิวเคลียร์ผมจะตัดสินใจเอง” หวังฉวนนั่งโยกตัวสบาย ๆ  สายตายังสนใจกับจอภาพก่อนจะหันไปหานายทหารบก...               

“ท่านนายพล! ย่านกู่เซิงเป็นยังไงบ้าง พวกมันข้ามมาแล้วเหรอ? คุณแน่ใจนะว่าจะกำจัดมันได้”

“ทหารที่โอบล้อมอยู่กำลังโจมตีถล่มพวกมันอยู่ครับ พวกมันเข้ามาในกับดักแล้ว ส่วนด้านชีเฟิงและเฉิงเต๋อถล่มต่อเนื่องอยู่ครับ” เขารายงานเสียงดังแล้วหันไปสั่งเจ้าหน้าที่...

“ส่งภาพมาให้ดูหน่อยสิ!

ภาพบนจอเปลี่ยนจากกลางทะเหลืองเป็นที่ราบแอ่งกะทะริมแม่น้ำหลวนเหอ ย่านกู่เซิง...

“เฮ้ย! หวังฉวนเด้งจากเก้าอี้...

“นั่น! มันอะไรวะ?” เขาเสียอาการลนลานชี้นิ้วไปด้านบน

จอภาพผ่านดาวเทียม ถ่ายจากมุมสูง...เทือกเขาเขียวยาวขนานกัน โอบล้อมท้องทุ่งนากว้างใหญ่ไปจรดริมแม่น้ำ เนินเขาบนพื้นที่กว้าง หนาแน่นไปด้วยฝูงคนที่กำลังวิ่งลงมาอย่างกับฝูงควายป่าอพยพในทวีปแอฟริกา กลุ่มทหารเกาหลีผ่านหมู่บ้านแรกกำลังแยกย้ายแทรกซึมเข้าทุกตรอกซอกซอย มุ่งตรงเข้าย่านกู่เซิง         

รถถังจีนแล่นเข้าหาพร้อมยิงระเบิดโจมตี ชีวิตแล้วชีวิตเล่าต้องสังเวยให้กับสงคราม ฝูง Tamer 30 กระเด็นกระดอนยามระเบิดลงใกล้ ยิ่งโดนระเบิดยิ่งขาดสติวิ่งใส่ด้วยความโกรธ รถถังกลางทุ่งหมุนลังเลไม่กล้ายิง

ทันใดนั้น...

“บรึ้ม! จรวดจาวาลีนของเกาหลีวูบลงกลางลำ รถถัง V4 ของจีนระเบิดพินาศ

“วื้ด!..”

“อึ้ด!...อึ้ด!...”ปากกระบอกปืนรถถังจีนหมุนมายิงใส่กันเองหลังจากเดอะแก๊งขับมอเตอร์ไซด์ผ่าน

พวกที่กลายเป็น Soulless ก็เดินเรื่อยเปื่อยไร้ทิศทาง เป็นโล่กำบังสะเก็ดระเบิดอย่างดี พวกที่เป็น Tamer30 วิ่งตามรถยนต์อย่างไม่คิดชีวิต

“แว๊น! แว๊น!... กลุ่มมอเตอร์ไซด์กระจายตัวเป็นฝูงมด ไล่ต้อนฝูงนกกระจอกเทศเข้าเขตเทือกเขา ภาพบนจอเลื่อนไปทางไหนจะเห็นแต่มอเตอร์ไซด์เหลืองไปทั่วสารทิศ กินพื้นที่ลึกเข้ามาทุกที

หวังฉวนลุกเต้นเป็นเจ้าเข้า...

“หยุดพวกมันให้ได้”

“.........” นายทหารบกอึ้งที่ผิดไปจากแผนที่วางไว้ เขาไม่รู้จักอานุภาพของนกหวีด เสียงหวีดหวิวเล็กน้อยนี้สร้างความทุกข์ใจมาแล้วทั่วโลก

“ตรงนั้นมีทหารเท่าไหร่?” หวังฉวนถามลั่น

“รวมกับที่ถังซาน 3 แสนนายครับ” นายพลทหารบกยืดอก

“ระดมยิงเข้าไป อย่าให้มันเข้าใกล้ตัวได้เอาเครื่องบินไปทิ้งระเบิดปูพรมให้ตายห่าไปให้หมดเลย เรียกระดมทหารจากทุกที่เข้ามาป้องกันปักกิ่ง” เขาตวาดบอกแล้วจ้องหน้านายทหารบกก่อนจะหันหน้าไปหานายตำรวจ

“นายพลไห่!..เอานาตาลีมา”

นายตำรวจก้มหน้ากุมเป้า

“หนีไปได้ครับ”

F*ck! ไปตามจับมาให้ได้ ไป!!!” หวังฉวนแหกปากใส่หน้า นายตำรวจก้มหน้าเดินหลบออกไป

“อีกแค่ 3 ชั่วโมง! อีก 3 ชั่วโมงจะเริ่มงานแล้ว!” หวังฉวนหงุดหงิดงุ่นง่านหันไปชี้หน้านายทหารบก...

“ออกไปเดี๋ยวนี้! ไปจัดการเดี๋ยวนี้! ส่งทหารไปถังซานแล้วอย่าชะล่าใจอีก มีอาวุธอะไรยิงใส่มันให้หมด”

กลุ่มนายทหารเดินทยอยกันออกไป

“ครับท่าน” 

“ไปเตรียมยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์”

เลขาอูหันมองหน้าประตู แขกเดินลับหายไปแล้ว

“ไป่ไป๋ติดต่อมา คุยกับเธอสักหน่อยมั้ยดูเหมือนว่าอำนาจการตัดสินใจจะอยู่ที่เธอนะ?”

“ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว ติดต่อทีสิ!

……………………………………………………..

เกาหลีเหนือ

กลางทะเลเหลือง...

กองเรือฝูเจี้ยนลำใหญ่กว่าสนามฟุตบอล 3 สนามกำลังแล่นเข้าสู่น่านน้ำเกาหลีเหนือ หัวเรือเชิดเป็นรันเวย์ให้เครื่องบินรบทะยานขึ้นบิน เรดาร์สี่เหลี่ยมบนหลังคาหมุนคว้างรับสัญญาณ

“ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!ปืนใหญ่ด้านข้างลำเรือกระหน่ำยิงจรวดขึ้นฝั่งเกาหลีตั้งแต่เช้ามืดไม่ขาดสาย กองเรือพิฆาตอารักขา 5 ลำแล่นประกบข้างมุ่งตรงเข้าอ่าวเมืองนัมโพ

“ผู้บัญชาการครับ ส่งเรือลาดตระเวนเข้าทำลายฐานยิงขีปนาวุธชายฝั่งเกาหลีออกไปแล้วครับ! เรือดำน้ำมาถึงแล้วครับ”  ทหารส่องกล้องรายงานผู้บัญชาการ

“ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!แท่นปืนยิงจรวดประจำปีกเรือแหงนปากกระบอกส่งจรวดขึ้นฟ้าต่อเนื่อง ลูกกระสุนถูกป้อนเข้าสู่รังเพลิงอัตโนมัติ...

“ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!”  เรือพิฆาตทั้ง 5 ลำพิษสงไม่ต่างกัน ช่วยกันระดมยิงจรวดขึ้นฝั่งทุกวินาที                        

“แปลกนะ! ทำไมพวกมันไม่ส่งเรือรบออกมา เรดาร์ก็ไม่เจอสัญญาณเรือดำน้ำ” ผู้บัญชาการเปรยเบา ๆ                       

“ก็ดีแล้วนี่ครับ เราโจมตีฝ่ายเดียว” ลูกน้องตอบในขณะส่องกล้องทางไกล              

“ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!”                  

“ถ้าต่อยกระสอบทรายแล้วสนุกจะมีมวยไปทำไม? นักสู้ที่เก่งก็อยากเจอคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่าหรือใกล้เคียงกันสิ ถ้ายิงเข้าไปอย่างเดียวไม่ต่างอะไรกับผู้ใหญ่รังแกเด็ก สนุกตรงไหนกัน?” เขาหันไปยิ้มกับลูกน้อง
           “พูดถึงก็มาแล้วครับ โน่นไง
!”  จ่าอากาศชี้ขึ้นฟ้า                  

“ตื้ด! ตื้ด! ตื้ด! ตื้ด! ตื้ด! ตื้ด! เสียงเรือร้องเตือน โดนล็อคเป้า

“เออ! ให้มันได้อย่างนี้สิวะถึงจะสนุก” ผู้บัญชาการเรือยิ้มมุมปาก 

“ฟุ่บ!ฟุ่บ!ฟุ่บ!ฟุ่บ!ฟุ่บ!ปืนกลข้างลำเรือ หมุนอัตโนมัติสลับกันยิงเข้าหาฝูงบิน ปากกระบอกกวัดแกว่งเหมือนดาบซามูไร

“ตึง!ตึง!ตึง!ตึง! ฝากลมที่พื้นเด้งขึ้นจากด้านข้างรันเวย์ บนกาบเรือบรรทุกเครื่องบินฝูเจี้ยน

“ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ปล่อยจรวดหัวแดงขนาดแขนขึ้นพร้อมกันเป็นแถวยาว

“ฟ้าววว!...

“ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! กลุ่มเครื่องบินรบเกาหลีปล่อยเป้าหลอกกระจายกันบินหลบหลีก ต่างฝ่ายต่างต้องใช้ความรวดเร็ว เส้นไอพ่นขาวปุยพันกันมั่วบนท้องฟ้าฝูงบินจีนตามเข้ามารุมสกรัม

"เฟี้ยว...วว!!...” เครื่องบินเกาหลีเหนือโดนยิงปีกซ้ายไฟไหม้ควันโขมงเอียงดิ่งลงทะเล

“มากันเลย  มากันเยอะ ๆ” นายทหารหัวเราะชอบใจ

เรือพิฆาตทั้ง 5 ลำสยายปีกกว้างคุมพื้นที่

“ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! กระบอกปืนใหญ่หมุนควงตามไล่ยิงMIG -23 อุตลุต

“เฟี้ยว!!....”  จรวดจากเรือดำน้ำขึ้นสมทบ

“ท่านครับ! ฝูงบินของมันทำไมมากมายขนาดนั้น? กองทัพอากาศของมันใหญ่กว่าของเราอีกนะนั่นน่ะ” ทหารร้องถามเมื่อท้องฟ้าดำทะมึนเข้ามา

ฝูงบินเกาหลีบินเกาะกลุ่ม ๆ ปิดท้องฟ้า ค่อย ๆ บินแยกกันเมื่อจรวดต่อสู่อากาศยานจากเรือรบไล่ขึ้นไป

“ดูท่าแล้ว! พวกมันยังไม่เก่ง ยิงโดนกันเองก็มี” นายทหารพูดกลั้วหัวเราะ

“ไปตั้งรับกัน เริ่มสนุกแล้ว” นายทหารเดินนำเข้าห้องบัญชาการ

“ผมว่า จะดูเขาปราศรัยสักหน่อย” จ่าเดินตามไป

“อีกตั้งนาน เรารบให้ชนะก่อนเถอะ!

นายทหารยกวิทยุ...

“ผู้การเจียง ทำลายทุ่นระเบิดใต้น้ำเบิกทางให้ด้วย”

 

……………………………………………………..

เกาหลีเหนือ

เกาะจุงฮวา... 

เกาะที่ไม่เคยพ้นน้ำกลางทะเลเหลือง กว้างและตื้นจนมองเห็นพื้นทรายขาวซ้อนใต้ผืนน้ำสีฟ้าใสแผ่ขยายเป็นวงกลมกว้าง เรือประมงลำน้อยจอดลอยลำโต้คลื่นที่ท้ายเกาะอย่างเดียวดาย

เด็กชายสองคนนั่งโอนเอนอยู่หัวเรือ น้ำทะเลใสเหมือนกระจกสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ฝูงปลารับแขกตัวลายหลากสีสันล้อเล่นกับปะการังเขากวางใต้ผิวน้ำ สายลมทะเลพัดเอื่อยเรือโยกโคลงเคลงสันโดดและสงบเงียบ แต่บนฟากฟ้ากว้างเส้นใยไอพ่นพันกันสับสนวุ่นวาย เสียงเครื่องบินเสียดหู สองหนุ่มน้อยยิ้มมองท้องฟ้า...

“อู้หู!!สหายหัวหน้าดูสิ เราว่าเป็น 100 ลำเลยนะเนี่ย” ลีซุกอึนยิ้มแหงนมองฟ้า ฝูงบินรบของเกาหลีเหนือลอยมามืดฟ้า

“เราว่าน่าจะสัก 200 ลำ เครื่องบินของบ้านเรามีเยอะ เซม! เคยบอกว่าสหายเสือน้อยแบคตูเก่งมาก” อุงอิลหยิบเนื้อปลา

“อืม! เราเคยถามอะป้าว่า ประเทศของเรามีเครื่องบินรบกี่ลำ? เขาบอกว่ามีพันกว่าลำ พวกทหารไปเอาของเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นมาด้วย” เจ้าตัวน้อยเอียงคอยิ้ม ปากเคี้ยวอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

“เรายังเคยนั่งเรือไปขโมยน้ำมันของญี่ปุ่นกับนินจาเซมเลย” อุงอิลแหงนมองเส้นใยไอพ่นบนฟ้า

“พันจังนีมเยี่ยมว่ะ ได้ไปตั้งหลายที่”

“เราอยากทำก็ไปทำ มีหลายอย่างที่เราอยากเรียนรู้”

“พันจังนีม! ลองกินเนื้อปลาควางอนี่สิ จิ้มกับโคซูจังเด็ดมาก!”  เจ้าเด็กหนุ่มตัวน้อยแล่เนื้อปลาสดเนื้อขาวนุ่มส่งเข้าปากเพื่อน

“อู้ว! แทบั่ก! ละลายในปากเลย อร่อยมากจริง ๆ สหายโชคดีจังเลยรู้จักของกินอร่อยแบบนี้ด้วย” จองอุงอิลเคี้ยวเนื้อปลาแก้มป่อง

“เราออกเรือมากับอะป้าตั้งแต่เด็ก เขาชอบตกปลาให้เรากิน ปลาพวกนี้ราคาแพงมาก ถ้าไปซื้อกินนี่...ตัวเบากระเป๋าเงินลอยเลย” ลีซุกอึนยิ้มกว้างลำตัวโอนเอนไปตามแรงคลื่น เด็กหนุ่มสองคนกินไปมองทะเลไปอย่างไม่รีบร้อน

เจ้าตัวน้อยหยิบปลาตัวใหม่มาทุบหัวขอดเกร็ด แกว่งล้างด้วยน้ำทะเลก่อนจะแล่ด้วยมีดคมกริบจัดเรียงใส่จานสวยงาม จองอุงอิลหยิบปลาใส่ปากแล้วถามเพื่อน

“สหายแน่ใจนะว่าเรือรบจีนจะผ่านทางนี้? เราเห็นแต่จรวดไม่เห็นเรือสักที มันยิงมาตั้งแต่เช้ามืดแล้ว”

“อะป้าของเราเคยบอกว่า พ้นเกาะปะการังนี้ไปตรงนั้นเป็นร่องน้ำลึก เรือเดินสมุทรต้องผ่านจุดนี้” เขาชี้ไปข้าง ๆ อย่างมั่นใจ ท้องน้ำเป็นสีน้ำเงินเข้มลึกลับ

“เห็นไหมที่น้ำทะเลสีเข้มน่ะ? ตรงนั้นลึกมาก อะป้าบอกว่าเป็นรอยแยกของพื้นโลก เราเคยเห็นเรือสินค้าแล่นผ่านบ่อย” เจ้าตัวน้อยยิ้มมีความสุข เริงร่าสบายใจ

ความสัมพันธ์ของเพื่อนก่อตัวดังเกลียวคลื่นในท้องทะเล ต่างคนต่างมาจากต่างครอบครัว ถ้อยทีถ้อยอาศัยเข้าอกเข้าใจและพึ่งพากัน จองอุงอิลในฐานะหัวหน้ากลับเป็คนที่ต้องคอยฟังความเห็นจากเจ้าตัวน้อยเกือบทุกเรื่อง

เขามองไปกลางทะเลครวญเสียงหลง...

“แล้วมันมีฉลามหรือเปล่า เรากลัวนะ?”

“พันจังนีมสังเกตผิวน้ำดี ๆ นะครับ ตรงที่น้ำตื้นจะดูสว่างกว่า ฉลามมันไม่ขึ้นมาบนนี้หรอกไม่ต้องกลัว ถ้ามาเราจะจับมันแล่จิ้มโคซูจังให้กินเอง” ยิ่งเห็นเพื่อนกลัวเจ้าตัวน้อยยิ่งอวดเก่ง

เขาชี้ชวน...

“เดี๋ยวไปรอจับเรือรบที่หัวเกาะนู้นดีกว่า เอาเรือเราทิ้งไว้ที่นี่หลอกพวกมันไว้ เชื่อเราเถอะ เราจับเรือรบจีนได้แน่” เขาวางแผนเสร็จสรรพหรือว่าโม้ไปเรื่อยกันแน่

อุงอิลลังเลเกาหัวขมวดคิ้วมอง แต่ด้วยท่าทางที่มั่นใจของเจ้าตัวเล็กและตัวเองก็อ่อนประสบการณ์จำเป็นต้องพยักหน้าเห็นด้วยไปก่อนหรือเขาอาจจะไม่มีทางเลือกอื่นก็เป็นได้

“อิ่มหรือยัง? เราตกปลาได้อีกหลายตัวตอนสหายหลับ เราแล่ให้กินอีกนะ มีโซจูด้วยกินหรือเปล่า?” ซุกอึนยิ้มเดินไปหยิบขวดเหล้ายกให้เพื่อนดู

“ไม่ได้นะสหาย! เรามาทำงาน แล้วอีกอย่างเราก็ยังอายุไม่ถึง18เลย ถ้าพวกทหารรู้ก็ถูกดุ เราอิ่มแล้วพอแล้ว!” เขาส่ายหน้า

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! เด็กจริง ๆ เจ้าตัวเล็กหัวเราะลั่นหันมองไปกลางทะเล อุงอิลทำปากมุบมิบค้อนประหลับประเหลือก

“ฟี๊ด...ดด!!! เสียงแหลมดังยาวเสียดแทงหัวใจ ด้านบนจรวดเต็มท้องฟ้า

“หึ่ม!หึ่ม!หึ่ม!หึ่ม! เงาทะมึนของฝูงบินดำพรืดเรียงเหมือนฝูงปลากระเบน

“รู้สึกเหมือนว่า เครื่องบินมาอยู่เหนือหัวของเราแล้วนะ เขามายิงกันอยู่แถวนี้แล้ว” ซุกอึนแหงนมองฟ้าหน้าตาเลิ่กลั่ก...

“สหายหัวหน้าเตรียมโดรนไว้สิ เราเห็นเสากระโดงเรือแล้ว” เจ้าซุกอึนเดินไปหยิบโดรนโยนใส่กล่องโฟมพร้อมเสื้อชูชีพแล้วนั่งสวมรองเท้าผ้าใบ

อุงอิลมองด้วยสีหน้ายุ่งร้องถาม...

“สหายสวมรองเท้าผ้าใบทำไม ลงน้ำไม่หนักเหรอ?” เขาเอาโดรนใส่กล่องโฟมลอยไป

“พันจังต้องใส่ไว้นะ เราต้องเดินในน้ำไม่อย่างนั้น...อาจตายเพราะเหยียบปลาหินหรือโดนเพรียงบาดนิ้วขาด ตามมาครับ!” ซุกอึนบอกแล้วทิ้งตัวลงน้ำกระจาย

ระดับน้ำสูงขนาดสะดือเด็กชายวักน้ำเล่นสนุกสนาน พื้นเป็นหินโสโครกตะปุ่มตะป่ำเป็นบ้านของปะการังโบกพริ้ว ฝูงปลาสีฉูดฉาดละลานตาว่ายล้อมรอบตัวของซุกอึน

“ตูม! อุงอิลลิงโลดกระโดดตาม

เกาะยอดภูเขาใต้น้ำกลางทะเลกินพื้นที่กว้างราวสนามฟุตบอล เด็กชายสองคนเกาะกล่องโฟมเอาขาตีน้ำลอยไปด้านเหนือ

“พันจังแกะหอยมือเสือก่อนเหอะ ไอ้นี่อร่อย?” ซุกอึนชี้ชวนแวะข้างทางเก็บหอยซะงั้น

“ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! เสากระโดงเรือพิฆาตแทงขึ้นเหนือโค้งน้ำสีนำเงินเข้ม เรือใหญ่ 5 ลำแล่นแหวกน้ำมาด้วยความเร็วสูง กองเรือพิฆาตของจีนบีบตัวร่องน้ำลึก

“พันจังไปริมชายขอบด้านเหนือกัน ไปใกล้ ๆ เรือรบของมัน” ซุกอึนลอยคอลากกล่องโฟมเลาะตลิ่ง

อุงอิลเริงร่าขาสะบัดตีน้ำหัวเราะร่วน...

“ปลาสีสวยมาล้อมเราเต็มเลย ชอบจังเลย”

ทั้งสองยังไร้เดียงสากับสงครามแวะช็อปปิ้งดูปลากันก่อน 

“สหายหัวหน้าชอบปลาเหรอ? วันหลังเราจะจับไปฝากเลี้ยงในตู้ก็ได้ สวยดี!” ซุกอึนคุยเก่งไปทุกอย่าง

ไม่มีความกังวลใด ๆ ทำลายความซื่อสดใสของพวกเขาได้เลย จากเป้าหมายจะไปหัวเกาะก็เปลี่ยนเป็นลอยคอ ชี้ชวนกันดูฝูงปลาหลากสีเล่นน้ำกันจนเพลิน เด็กที่พึ่งโต...ความรับผิดชอบขึ้นอยู่กับอารมณ์

เรือพิฆาตโผล่หัวเหนือโค้งน้ำมาแล้ว เรียงหน้ากระดานเข้ามายิงจรวดโจมตีใกล้เข้ามา              

“ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! จรวดโค้งขึ้นฝั่งเป็นชุด

ซุกอึนชะเง้อคอมองแล้วหันบอกอุงอิล...

“สหายหัวหน้าลอยคอไว้ พวกมันไม่เห็นเราหรอกแสงแดดมันสะท้อน”

ท้องทะเลคลื่นสงบเรือพิฆาตยังอยู่ไกล

ทันใดนั้น...

ตูม! ตูม! ตูม! กลางร่องน้ำลึกระเบิดขึ้นเป็นดอกเห็ด คลื่นใต้น้ำปะทะเกาะม้วนตัวสูงถาโถมใส่

อุงอิลจาเหลือกชี้ลนลานร้องเสียงหลง...

“อะไรเนี่ย?”

“พันจังเกาะกล่องไว้น้า...”

“ซึ่ม!..” คลื่นซัดร่างเล็กปลิวตามแรง

ตูม! ตูม! ตูม! ตลอดแนวร่องน้ำลึกระเบิดจากใต้น้ำทำงานต่อเนื่อง

คลื่นซัดทั้งคู่ลอยห่างจากเกาะพื้นน้ำรอบตัวสีเข้มจัด ทั้งสองตีขาลอยคอกลับ น้ำทะเลสีเข้มดูลึกล้ำน่ากลัว เจ้าตัวเล็กคึกคะนองตีขาหันมาชวน...

“พันจัง! รีบไปเตรียมตัวกันเถอะ”

แต่

“ย่าห์!!...อุงอิลเสียอาการร้องเสียงหลงสายตาลนลานจ้องกระโดงสามเหลี่ยมพุ่งเข้ามา...

“สหายซุกอึน! ฉลาม! ฉลามมา”

ฉลามพลิกตัวท้องขาววาบ

“หนี!...” เขาตะเกียกตะกายว่ายน้ำหนี

ฉลามขาวมหึมากระโดดขึ้นหมุนตัวเหนือน้ำดักหน้า...

“ซ่าส์! คลื่นน้ำแตกฟอง

“พันจังนีมหนีเร็ว! ซุกอึนจ้วงน้ำแข่งกันเข้าฝั่ง

“ไม่เอาแล้ว ออมม่าช่วยด้วย” อุงอิลสติแตกตีขาน้ำกระจาย

เจ้าตัวเล็กขึ้นฝั่งได้ก่อนส่ายตูดหัวเราะร่า ยื่นมือไปดึงเพื่อน...

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! มันช้ากว่าเรา!” กวนตีนไม่มีใครเกิน

อุงอิลมองค้อนไม่กล้าขยับเข้าใกล้ชายขอบน้ำสีเข้ม

“บรื้น...นน!!

กองเรือพิฆาตของจีนเคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกวินาที เสากระโดงของเรือจ่าฝูงโผล่พ้นโค้งน้ำ ยิ่งเข้ามาใกล้ขนาดของมันก็ขยายใหญ่ขึ้น

“เดี๋ยวถ้ามันมาใกล้เราปล่อยโดรนเลยนะ” ซุกอึนดึงกล่องโฟมมาใกล้มือ

“สหายมั่นใจนะว่ามันจะไม่เห็นเรา”

“เรามั่นใจ” เจ้าตัวเล็กหยิบช้นส่วนประกอบโดรน

“บรื้น...นน!!

เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินฝูเจี้ยนพ้นขอบโค้งน้ำเข้ามาจนเห็นเต็มลำ เรือพิฆาต 5 ลำที่แล่นมาก่อนเล็กลงไปถนัดตา

เจ้าซุกอึนก้มหน้าก้มตาดูโปรแกรมเงยหน้าไปเห็น ตาเหลือกอ้าปากค้างร้องเสียงหลง...

“ไอ๊กู่!...พันจังนีม! เราไม่คิดว่ามันจะโคตรอภิมหาเบิ้มใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ เราสู้ไม่ได้หรอก!! เขาทรุดตัวแช่น้ำใบหน้าถอดสี

“สหายหมายความว่ายังไง?” อุงอิลเลิ่กลั่ก

“เราคิดว่าเหมือนเรือบรรทุกสินค้า ถ้ามันใหญ่ขนาดนี้จะสู้ได้ยังไง ทำไมพันจังนีมไม่บอกกันก่อน?” เจ้าตัวเล็กโยนความผิดให้เพื่อน จากเด็กห้าวชวนเขามาด้วยความมั่นใจ...ตอนนี้ถอดใจหน้าซีดเผือด

“ออม่อ!...อุงอิลเกาหัว

เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่เกินจินตนาการของเด็กน้อย ระวางขับน้ำ 85,000ตัน ความยาว 320 เมตร ความกว้างรันเวย์หัวเรือยาว 76 เมตรขนาดใกล้เคียงห้างสรรพสินค้า

อุงอิลจ๋อยส่ายหน้า...

“เราจะรู้ได้ยังไงบ้านเราไม่ได้อยู่ริมทะเล เรายังไม่รู้จักเรือสินค้าเลย...สหายบอกว่าให้เราเชื่อใจไง?” เขาเสียงอ่อยหันมองกองเรือที่รุกเข้ามาตาละห้อย

ซุกอึนถอดใจลอยคอถอยขึ้นเกาะ สายตายอมแพ้...

“ลำใหญ่ขนาดนี้ใครจะสู้ได้?”             

“แล้วจะทำไงต่อล่ะทีนี้?” อุงอิลหันรีหันขวางเมื่อที่พึ่งเดียวของเขาถอดใจ

เจ้าตัวเล็กหันมองเรือแล้วสูดลมหายใจลึกแล้วเสนอทางออก...              

“งั้น! เราหนีกันมั้ย? เราว่า ยังหนีทันนะ”

“อ้าว!” จองอุงอิลเกาหัวโวยหน้าเสีย...

“เราไม่น่าเชื่อสหายเลย ไม่น่ามาที่นี่เลย...”

ทันใดนั้น..

“ฟู้ว!!!... คลื่นน้ำฟองขาวฟุ้งพุ่งเป็นเส้นตรงเข้ามาจากเรือพิฆาตลำหน้า

อุงอิลมองเห็นก่อนชี้ให้เพื่อนดู...             

“อะไรอีกล่ะ ฉลามมาอีกแล้วเหรอ?” เขารับรู้อันตรายโดยสัญชาตญาณขยับถอยห่างจากฝั่ง

“วาฬมั้ง มันวิ่งมาทางเราด้วย”  ซุกอึนหันมองแล้วขยับขาถอย

“ฟู้ว!!! น้ำแหวกเข้ามาหาสองหนุ่มน้อยอย่างเร็ว

“เอาไง! เอาไง! ซุกอึน?” อุงอิลร้อนใจยิ่งคับขันยิ่งขาดสติร้อนรนอยู่ไม่ติด

ปลายจรวดโผล่ขึ้นเหนือน้ำ อุงอิลแหกปากลั่น...

“จรวดมา เอาไงดี?”

เจ้าตัวเล็กแหกปากกดดันกลับมา...

“สหายเป็นหัวหน้าต้องตัดสินใจสิ!” เจ้าตัวเล็กยืนขาตาย

“ฟู้ว!!! จรวดพุ่งแหวกน้ำมาห่างไม่ถึง 20 เมตร

อุงอิลพุ่งตัวเข้าไปกอดซุกอึนที่ยืนตัวแข็งทื่อมองเพชฆาตเข้ามา ร้องลุ้น...

“จะชนมั้ย?”

“ฟู้ว!!!  จรวดพุ่งเสมอผิวน้ำพุ่งมาหา

เจ้าตัวเล็กแหกปากร้องไห้จ้า...

“อยากกลับบ้าน!...”

“จะชนมั้ย?....!

“ฟู้ว...วว!! ทั้งสองหลับตาจรวดพุ่งเฉียดแขนของอุงอิลผ่านเลยไปกลางเกาะ

“แทบัก!  ทั้งสองตีมือดีใจกระโดดกอดกัน  

“ถ้าอย่างนี้มันทำอะไรเราไม่ได้หรอก พวกแกเสร็จแน่! เจ้าซุกอึนได้ทีโม้ใส่

แต่อุงอิลสายตากังวลจ้องมองตามจรวดไม่วางตา...

“จะชนมั้ย? ชนมั้ย? ชนมั้ย?” เขากัดนิ้วลุ้น

“มันผ่านไปแล้วไม่ชนแล้ว” เจ้าตัวเล็กมัวแต่ดีใจที่รอดตาย

“ชนแล้ว! ชนแล้ว!อุงอิลเบือนหน้า

“บรึ้ม...มม!!!

เรือคู่ชีพของทั้งสองระเบิดต่อหน้าต่อตา

“ฮ้า!... ซุกอึนตาเหลือกแหกปากร้องไห้จ้า...

“แง!!! เอาเรือกูคืนมา โดนอะป้าตีแน่เลย ฮือ!ฮือ!แง!!  ตัวตึงทีมเดอะแก๊งแหกปากร้องไห้เสียงดัง

ทันใดนั้นเรือลาดตระเวนของจีนพุ่งเข้ามา...

“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ห่ากระสุนจากเรือพิฆาตไม่อนุญาตให้ใครโศกเศร้า

กระสุนกระตุ้นเตือนให้รู้ว่าสนามรบไม่เหมือนสนามหลังบ้าน ในทุกสมรภูมิย่อมมีทั้งวีรชนและวีรบุรุษ ทุกสมรภูมิเป็นเรื่องของทหารที่ถูกฝึกมาเพื่อการรบ ไม่มีคำว่าเห็นใจ ขออภัย ขอร้อง แม้ศัตรูเป็นผู้หญิงและเด็ก

               ................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,886 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด11,002 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท3 ต.ค. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม