
ป่าโบราณ
มุมมองสายตา ตุ๋ย เจ็ทโด้
พฤศจิกายน ค.ศ.2020
เวิ้งน้ำกว้างใหญ่โค้งมุดหายใต้เทือกเขาสลับซับซ้อนไกลสุดสายตา พวกเราออกเดินทางค้นหากันทุกวัน เรือ 2 เครื่องยนต์พุ่งทะยานแหวกน้ำไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เจ้าซอนขับเรือเลาะตามชายหาดด้านซ้ายติดแนวป่า พุ่งลงทิศใต้จ้องสายตามุ่งมั่นจดจ่อ เวลาเคลื่อนผ่านตามตะวัน คลื่นน้ำสะท้อนแสงแดดยามเที่ยงจนแสบตา เรือแล่นอ้อมแท่งเขาหินปูนลูกแล้วลูกเล่ากว่าจะหลุดออกมาถึงอ่าวโค้งลึก
แถบนี้เป็นแหล่งน้ำโบราณ เขตป่าดึกดำบรรพ์ใต้น้ำย่อมมีสัตว์แปลก ๆ ที่ตกสำรวจอยู่อีกมาก และสิ่งที่น่ากลัวคือเรื่องราวของดินแดนแห่งความตายที่ไม่เคยมีใครรอดไปจากที่นี่ เรื่องเล่านี้กวนใจพอสมควร ยอมรับว่าหวั่นใจไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
“บรื้น!!...นน!” ซอนโยกเรือโฉบเข้าซ้ายห่างจากชายหาดพอสมควร ผมส่องกล้องมองดูตามชายหาดยาว มีแต่สัตว์ป่าหลากชนิดลงมากินน้ำกับฝูงนกกระเรียนขาวขายาวปากดำและนกกระทุงเล่นน้ำกันอย่างสบายใจ
จูยอนยืนส่องกล้องข้างซอน...
“ข้างหน้าโน้นมีอ่าวด้วยค่ะ!” จูยอนตะโกนแข่งกับเสียงเรือ ชี้ไปอ่าวลึกด้านหน้าหันคุยกับซอน
หาดทรายยาวด้านซ้าย เว้าลึกโค้งครึ่งวงกลมไปจรดแหลมชายเขาดำทะมึน
“เดี๋ยวหาแถวนี้ก่อน ผ่านแล้วผ่านเลย อย่าให้หลุดสายตา” มันหันหน้ามาบอก จูยอนพยักหน้ายกกล้อง ถ้าไม่ติดความคิดเรื่องการเมืองบ้า ๆ นั่น เธอก็น่ารักมากทีเดียว
“เมื่อวันก่อนคุยอะไรกันครับ?” ไอ้ซอนจุดชนวนอีกแล้ว
“การกดขี่และความเหลื่อมล้ำค่ะ” เธอส่องกล้อง
“เสียเวลาคุยกับพวกขวาจัด โดนกดหัวจนเคยตัวไปแล้ว” ไอ้ซอนตอบกวนตีนมาก ผมขัดใจหันขวับ...มันอมยิ้มแก้มบุ๋มลอยหน้าลอยตา
“ใช่ค่ะ! เขาเข้าใจผิดระหว่างความรักชาติกับความกลัวอำขาจ” เธอลดกล้องหันมายิ้มเยาะ
มันเริ่มกันอีกแล้ว ซอนยิ้มฟันขาวหันมาชงต่อ...
“หน้ามืดตามัวเชียร์รัฐ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำร้ายเด็ก ฆ่าเด็กกลางถนน ขังเด็กโดยอ้างกฎหมายความมั่นคง ประเทศเปราะบางมาก แค่คำพูดไม่กี่คำก็จะล่มสลายแล้ว” ซอนกระเซ้ายิ้มกว้าง อย่างนี้ก็เข้าทางยายนี่สิ
“ตัวเองกลัว! เลยไปยืนข้างอำนาจ ไม่ได้มีอุดมการณ์รักชาติอะไรหรอก นักรบทะเลทรายหัวใจยังสู้เด็กมัธยมไม่ได้เลยค่ะ” โห!..น้ำเสียงหยามหยันอย่างนี้ ปล่อยไม่ได้แล้ว
ผมชี้หน้าทั้งคู่...
“ถ้าไม่หยุดพูด!... มึงตกน้ำทั้งสองคน”
“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!” สองคนหัวระลั่นหันมาตีมือกัน ไม่มีสลดจะกวนตีนไปถึงไหน หึ๋ย!ล่อซะดีมั้ย?
ผมตัดใจหันมาส่องกล้องต่อ...
“หือ!” สะดุดตากับสิ่งเคลื่อนไหวชายหาด
“จูยอน 11 นาฬิกา” ผมร้องเสียงหลงเมื่อหัวเรือผ่านชายเขาเข้าสู่อ่าวโค้ง เห็นเหมือนเรือบนชายหาดยาว ชี้มือนำทิศให้จูยอนส่องกล้อง
เธอตื่นเต้น...
“นาตาลีค่ะ! เจอแล้ว เจอแล้ว!” เธอดีใจกระโดดเข้ามาหาส่งกล้องมาให้ ผมส่องกล้องไล่ตามชายหาด
“เจ้าแทนล่ะ แทนอยู่ไหน?” ผมจดจ่ออยู่กับน้องชายคนเดียว
ทหารสองนายกับนาตาลีกำลังขับเรือออกไป เรือตรวจการลำนั้นอยู่ด้านซ้ายของเราออกตัวด้วยความเร็ว ทะยานไปทางใต้ ผมพยายามกวาดสายตามองไปทางชายหาดก็ไม่มีแม้เงาของน้องชาย เจ้าแทนของผมไปไหน ใจยิ่งเสียหนักขึ้นที่เห็นนาตาลีคนเดียว
“ซอน! ไล่ให้ทัน จับตัวมันให้ได้” ผมตีไหล่ซอน
“Yes sir!”
“บรื้น...นน!!” เรือยาวสองเครื่องยนต์120แรงม้า คำรามกระหึ่มทำงานเต็มสปีด ห้อตะบึงไล่ตามเรือตรวจการท้องแบนที่แล่นเรียบชายหาดมาห่าง ๆ
“บรื้น...นน!!” เรือเล็กขับโฉบหลบกระแสน้ำจากน้ำตกใหญ่ทางซ้าย พุ่งออกทางขวามากลางทะเลสาบ
“ซู่ซ่า! โครมคราม!” เสียงน้ำตกกระแทกพื้น ดังกลบเสียงเครื่องยนต์เรือ
“เร็ว! ๆ ๆ ๆ” จูยอนยิ้มสดใสโยกตัวให้จังหวะ ในมือถือปืนสั้นเตรียมพร้อม เป็นงานดีเหลือเกิน
“บรื้น...นน!!” เจ้าซอนก็ขับเรือได้สะใจ เจ้านี่เชื่อมือได้ในทุกเรื่อง ยกเว้นจีบสาว คนที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีก็เหมือนผ้าขาวม้า สารพัดประโยชน์ไปทุกอย่าง
ผมส่องกล้องไล่ดูเรื่อยไปตามชายหาด แปลกใจที่เห็นจระเข้ตัวใหญ่มากนอนตายที่ชายหาด
“ลองดูที่นั่นสิ” ผมชี้ไปที่ฝั่งเธอส่ายหน้า
“เห็นแล้วค่ะ”
ผมเลื่อนกล้องตามเรือลำนั้น พอเรือผ่านน้ำตกใหญ่พ้นปลายแหลมออกไปสักพัก คลื่นน้ำหลังเรือมันแปลก ๆ แทนที่จะแหวกออกข้างเหมือนเรือทั่วไป มันกลับค่อย ๆ ก่อตัวสูงขึ้น ทีละนิด คลื่นน้ำม้วนตัววิ่งไล่จี้ตูดเรือเล็กไปอย่างกระชั้นชิด ค่อย ๆ สูงขึ้น... สูงขึ้น เรือของเราเข้าใกล้ด้านหลังของมันไปทุกขณะ
“อะไรวะซอน?” ผมหันไปตะโกน สายตามองไปที่จุดเดียวกัน
“ไม่รู้สิ!” ซอนไม่ลดความเร็ว สายตาเพ่งมองไปที่คลื่นน้ำ
ดูเผิน ๆ เหมือนขณะนี้เรือสองลำกำลังไล่กวดกันกลางท้องน้ำ พื้นน้ำด้านหน้าระหว่างเรือจู่ ๆ ก็ยกตัวขึ้นสูงตั้งฉาก แล้วค่อย ๆ แยกตัวออกจากกัน
ทันใดนั้น...
“เฮ้ย!!!” มันกลายเป็นงูยักษ์สามหัว สะบัดส่ายหางรี่เข้าหาเรือเล็ก ก่อนที่จะแยกออกเป็นสามตัว เลื้อยลอยตัวขึ้นเหนือน้ำเหมือนงูจงอางว่ายน้ำ
หางสะบัดกวัดแกว่ง เลื้อยไล่สลับกันเข้าฉกไปที่เรือลำเล็กนั่นด้วยความเร็วไล่เลี่ยกัน พอได้เห็นขนาดตัวของมัน เรือลำนั้นดูเล็กไปถนัดตา
“คุณคะ! ฉันยืนไม่ไหว” จูยอนเสียงสั่น
“คุณต้องสู้แล้วล่ะ! อดทนมองมันไว้ มองให้หายกลัวไปเลย” ผมปลอบใจ เธอตัวสั่นค่อย ๆ นั่งลงหรี่ตาจ้องไปที่พญางู
เจ้าซอนหัวเราะร่า...
“งูอะไรวะพี่ แม่ง!คงเป็นปู่ของปู่ของปู่งูมั้ง?” ไม่เคยมีความกลัวในใจของเจ้าซอนแม้แต่น้อย
“ซึ่ม!ซึ่ม!ซึ่ม!”เจ้างูยักษ์หลายตัวสายตาดุดัน ลำตัวสีส้มแดงสลับน้ำตาลเข้ม เกี้ยวกราดสลับกันอ้าปากฉกเฉี่ยวซ้ายทีขวาที
“บรื้น...นน!!” คนขับเรือหันหน้าหันหลัง พะวักพะวงคอยประคองหลบ หัวเรือส่ายฉวัดเฉวียนเสียอาการ เรือเล็กขนาดนี้ความเร็วขนาดนี้ ผมสันนิฐานว่า....ไม่น่ารอด
“ปัง!ปัง!ปัง!” เสียงปืนสั้นดังจากเรือลำนั้นแล้วเงียบไป
“ซึ่ม!ซึ่ม!ซึ่ม!” งูไล่ฉกมาไกลมากทีเดียว พวกเราออกมากลางทะเลสาบกว้างไม่เห็นฝั่ง และดูทีท่าว่ามันจะยังไม่หยุดไล่ล่าง่าย ๆ
“ครึ่ก! ครึ่ก!” จู่ ๆ...เรือตรวจการณ์ก็สะอึกสำลัก เครื่องยนต์สะดุดความเร็วลดลง ในจังหวะที่งูยักษ์ตัวกลางฉกหัวฟาดลงไปที่ลำตัวของคนขับเรือพอดี
“เฮ้ย!!!” ผมอ้าปากค้าง ลำตัวกลมใหญ่ขนาดท่อส่งก๊าซกระแทกลงพื้นท้ายเรือด้วยความเร็วแรง
“โครม!” พื้นน้ำแตกกระจาย ปากงูยักษ์คาบทหารหนุ่มตกลงน้ำไปด้วยกัน เลือดแดงละลายเต็มพื้นน้ำ
“บรื้น...นน!!” ท้ายเรือโดนแรงกดอย่างรุนแรง จนหัวเรือเชิดปลิว หงายท้องขึ้นไปหมุนคว้างกลางอากาศ
“ว้าย!!!” สองคนบนเรือกระเด็นตีลังกาลอยคว้าง งูยักษ์อีกสองตัวเสียจังหวะโฉบเข้าฉกทันที
“ควับ!” ตัวซ้ายม้วนตัวกลับโฉบไปทางทหารหญิง
“หวืด!” ส่วนตัวขวาพุ่งเข้าคว้านาตาลี แต่ด้วยความเร็วในการเลื้อยและเรือเล็กพลิกกะทันหัน ทำให้มันกะระยะผิด ฉกพลาดเป้าไปนิดเดียว
“ว้าย!!!” ร่างทั้งสองปลิวเหมือนเศษกระดาษ ลอยละลิ่วคู่กันไปตามแรงเหวี่ยงตกลงไปในน้ำใกล้กัน
“ตูม! ตูม!” งูยักษ์ทั้งสองตัวแฉลบไถลผ่านหัวทั้งคู่..ลื่นเลยออกไปด้วยความเร็วของแรงเฉื่อย
“ซึ่ม!ซึ่ม!” ฝูงจระเข้ใหญ่ค่อย ๆ ว่ายตีวงล้อมใกล้เข้ามา
“ซอน!..นาตาลีขวามือ” ผมตะโกนสั่งเสียงหลง ใจหายวาบที่มือของนาตาลีโดนกุญแจล็อค ช่วยตัวเองไม่ได้
ผมทิ้งตัวลงนอนทับแคมเรือด้านขวา ยืดตัวออกไปนอกเรือครึ่งลำตัว ยื่นมือเอื้อมออกไปคอยคว้าตัว จูยอนรีบกระโดดนอนข้าง ๆ แล้วทำเหมือนกัน
“บรื้น...นน!!!” ซอนร่อนเรือเอียงโค้งครึ่งวงกลม โฉบตัดคลื่นปาดหน้าจระเข้ใหญ่เข้าไปหานาตาลี
“ช่วยด้วย!” เธอสำลักน้ำพยายามพยุงตัวให้ลอย ชูสองมือยื่นมาหาตาเหลือกลาน
“บรื้น...นน!!!” ผมตั้งใจมั่น สายตาจับจ้องไปที่มือของเธอ
ทุกอย่างเหมือนหยุดอยู่กับที่ รอบตัวเหมือนภาพสโลว์โมชั่น ทุกอย่างเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ ตึ๊ด// ตึ๊ด// ตึ๊ด
เธอพยายามถีบขาให้ตัวเองขึ้นสูง ชูสองมือเหนือหัว แล้วจมลงน้ำสลับกับทะลึ่งน้ำตลอดเวลา เธอช่วยตัวเองไม่ได้เลย
“บรื้น...นน!!!” เรือเอียงจนน้ำเกือบเข้าแคม โฉบเข้าไปหานาตาลีอย่างช้า ๆ ตึ๊ด //ตึ๊ด //ตึ๊ด
ผมมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าพลาดหมายถึงนาตาลีต้องโดนจระเข้กินแน่นอน มือต่อมือกำลังจะถึงกันในอีกไม่กี่วินาที ตึ๊ด// ตึ๊ด// ตึ๊ด // ปลายนิ้วแตะกันแล้ว.
“เจ็ทโด้!...” ใจหายวาบ...มือของนาตาลีจมลงไปต่อหน้าต่อตา
ก่อนที่จระเข้ยักษ์จะพุ่งเข้ามาถึงตัวของเธอ เสียงใสของจูยอนร้องดีใจขึ้นมา...
“ได้แล้วค่ะ” จูยอนคว้าไปติดที่คอเสื้อดึงจนยืด นาตาลีลนลานรีบคว้าข้อมือจูยอนไว้ได้ทันท่วงที
“ฮึบ!” ผมโดดนั่งทับหลังจูยอนเข้าไปคว้าข้อมือนาตาลีช่วยอีกแรง
เสี้ยววินาทีนั้น...
“วูบ!!!” ทันทีที่ผมคว้ามือของนาตาลีได้ ร่างของเธอกระตุกเหมือนถูกกระชากแรงจนเกือบหลุดมือ
“ว้าย!” ทั้งจูยอนและนาตาลีร้องพร้อมกัน ทหารหญิงรอจังหวะได้ดี คว้าเอวของนาตาลีไว้ทันท่วงที
“โอ้ย!เจ็บ!” เสียงนาตาลีร้องดัง
ผมหันไปหาเจ้าซอน...
“ซอน!..เร่งสุดแรง”

เงาดำวูบลงมา...
“ตูม!” น้ำสาดกระเด็นเข้าเรือ ลำตัวงูใหญ่โฉบลงมาข้างเรือเฉียดฉิว น้ำกระจายเต็มหน้า
ซอนขับฉีกโฉบออกกลางน้ำกว้างหลบหลีกฝูงจระเข้ใหญ่ ผมดึงทั้งสองสาวที่ลำตัวยังอยู่ในน้ำขึ้นเรือ ส่วนทหารหญิงเธอยังสติดีกว่าช่วยตัวเองได้คว้าเสาท้ายเรือ
“ซึ่ม!ซึ่ม!!” เจ้างูยักษ์ยังไล่หลังมาอย่างกระชั้นชิดแลบลิ้นเกือบโดนก้นทหารหญิงแล้ว
ผมคว้าปืนอูซี่ซัดใส่...
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!” มันทิ้งตัวมุดลงน้ำ
“เฮ้ย!” ยังไม่ทันได้หันหลังกลับ อีกตัวโฉบพุ่งไล่เข้ามาอีกครั้ง ลำตัวยาวของมันเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ ดวงตาดำจ้องเขม็ง
“อี๋!!” จูยอนก้มหน้ามุดไม่กล้ามอง ผมคลานไปคว้าระเบิดลูกเกลี้ยง 2 ลูกดึงสลักออก แล้วถือไว้...นับในใจ
“1 2 3 4” แล้วโยน ลอยละลิ่วลงน้ำ
“5-6-7”
บรึ้ม! บรึ้ม!” เสียงระเบิดมือM67 สองลูกแตกดังสนั่น พื้นน้ำระเบิดฟุ้งกระจาย แรงอัดทำให้งูยักษ์ทั้งสองตัวสิ้นฤทธิ์ลอยนิ่งบนผิวน้ำ
“ซอนย้อนกลับไปดูหน่อยสิ”
“Yes sir!” ซอนม้วนเรือกลับไปทางงูใหญ่ที่ลอยเหนือผิวน้ำ
“ยังไม่ตายเลยพี่” งูยังขยับตัวไปมา ดูเหมือนว่ามันแค่สลบไป ใกล้กันมีจระเข้และปลาขนาดใหญ่อีกหลายตัวลอยขึ้นเหนือน้ำหงายท้อง สังเวยระเบิดมือ M67
เทือกเขาล้อมรอบทะเลสาบมาบรรจบกันเป็นช่องประตู แง่งหินยื่นออกมาเหมือนจระเข้ตัวมหึมา เสียงประหลาดคุ้น ๆ หูแว่วดัง...
“โครงสร้างและส่วนประกอบของเซลล์สัตว์ 1. เยื่อหุ้มเซลล์ มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆประกอบด้วยโปรตีนและไขมัน ทำหน้าที่ควบคุมเซลล์ให้คงรูปอยู่ได้และทำหน้าที่ควบคุมการผ่านเข้าออกของสารบางอย่าง เช่น น้ำ อากาศ และสารละลายต่างๆ” นาตาลีหลับหูหลับตาบ่นอะไรพึมพำ ๆ หมดสภาพน่าสงสาร ท่าทางตกใจมากคงกลัวสุดขีดหน้าซีดขาว ทหารสาวก็ช็อกไม่ต่างกัน ปากซีดตัวสั่น
“ซอน! กลับไปชายหาด ช่วยเจ้าแทนก่อน”
“อ้าก!” หมวดสาวอ้วกแตกอ้วกแตน นาตาลีเสื้อยืดขาดยาวผิวขาวผ่อง สวมกางเกงในตัวเดียวนั่งสั่นเป็นผีเข้า
“ดีใจจังเลย เก่งจังเลย!” จูยอนกางผ้าเช็ดตัวโผเข้ากอดนาตาลี หอมแก้มซ้ายขวา เธอไม่ได้เหลียวมองทหารหญิงที่นั่งตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำตรงนั้นเลย ผมสะดุดตาใบหน้าของเธอดูคุ้น เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?
“จูยอน! ฉันเจ็บ ฮือฮือ!” นาตาลีร้องไห้จ้า ยกมือสองข้างให้จูยอนผมรีบเดินเข้าไปปลดกุญแจมือ แขนโดนกุญแจมือบาดเลือดนองพื้น
“กล่องยาอยู่ไหนคะ?” จูยอนลนลานไปที่กลางเรือรื้อกระเป๋า
“อู้ยส์! ซี๊ดส์! ฮือฮือ!!” นาตาลีร้องลั่นน้ำตาไหล จูยอนราดทิงเจอร์ลงบนแผลสด ทหารสาวนั่งตัวสั่นปากสั่น
“เจ็บ! จูยอนฉันเจ็บ ยายนี่!...มันดึงฉัน” เธอโบ้ยไปหาทหารหญิง จูยอนยิ้มพันแผลให้อย่างคล่องแคล่ว
ผมหันไปมองทหารสาวจีน…
“เอ้าหมวด!...เช็ดตัวซะ” ผมโยนผ้าขนหนูให้ทหารหญิงยศร้อยโทที่นั่งสั่นหน้าตาตื่นกลัว ผมเผ้ายุ่งเหยิงเปียกปอน ผู้หมวดรับผ้าไปเช็ดเนื้อตัวแล้วห่มผ้าไว้
“ซอน! มึงอ้อมหน่อยนะ อย่ากลับทางเดิม มันน่าจะมีอีกหลายตัว” ผมหันไปตะโกนบอกซอน ที่นี่มีแต่สัตว์แปลก ๆ
“รับทราบ!”เขาดันคันเร่งสุด เอียงเรือโฉบอ้อมไกลจากจุดเดิม เรือลำนี้ก็เร็วเหมือนจรวดเลย
“เจ็ทโด้คะ!..ขอบคุณมากนะคะ ถ้าไม่ได้คุณคราวนี้ ฉันตายจริง ๆ กลัวที่สุดเลย” นาตาลีดวงตาแดง น้ำตารื้นเสื้อคอกลมย้วยขาดเห็นรูปร่างเปลือยขาว คลานน้ำตาคลอสะอึกสะอื้นเข้ามากอดขา แล้วร้องให้เสียงดัง
“ฮือฮือ!!! ฉันขอโทษ ฉันไม่ดีเอง พาทุกคนมาลำบากกันหมด” เธอสะอึกสะอื้นน่าสงสาร
จูยอนยังคลานตามมาเลิกเสื้อยืดของนาตาลีสำรวจร่างกาย นั่งลูบคลำยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะไปรื้อกระเป๋าหยิบเสื้อผ้าออกมาเลือกแล้วส่งให้เธอสวม ผมลูบหลังปลอบใจเบา ๆ ใคร ๆ ก็กลัวความตายกันทั้งนั้น แอบนึกชมในใจ...ยายนี่!เป็นหญิงเหล็กเหมือนกัน ตกเขายังไม่ตายเลย
“รีบกลับไปช่วยสองคนนั้นเถอะ ฉันกลัวจังเลย สองคนนั้นยังอยู่ แต่โดนทหารไล่ยิงอยู่” นาตาลีละล่ำละลักสะอึกสะอื้น
“หือ! เจ้าแทนอยู่ไหน?” ผมห่วงเจ้าแทนมากกว่าใคร เธอยังใจเสียกอดเอวแน่น ผมยังไม่ชินกับนาตาลี จู่ ๆ มากอดกันแบบนี้ทำตัวไม่ถูก หันมองจูยอนขอความช่วยเหลือ แต่เธอยิ้มส่ายหน้าไม่ช่วย
นาตาลีขยับตัวเงยหน้า…
“อยู่ในป่าตรงนั้นแหละค่ะ! ทหารพวกนี้ไล่จับตัวไป่ไป๋กับแทนไป มันสั่งให้ลูกน้องยิงทิ้งด้วย ตอนนี้เป็นยังไงก็ไม่รู้? ฮือฮือ!!” นาตาลีร้องไห้หันไปชี้ที่ทหารสาว
“ซอน! รีบหน่อย แทนโดนล่า!” ผมใจร้อนรุ่ม ใครจะเป็นอะไรก็ช่างมันเถอะ เป้าหมายของผมคือพาเจ้าแทนกลับบ้าน
“แล้วทหารนี่มายังไง เกี่ยวอะไรกับคุณ?” ผมพยักหน้าให้นาตาลีแล้วมองไปทหารหญิง
“พวกเธอตามมาจับฉัน ยายคนนี้ที่ขโมยผลงานของฉัน แล้วเอาไปผสมในวัคซีน Tame26 ไปหลอกแจกว่าเป็นวัคซีนแก้โควิด-19 ที่วุ่นวายไปทั้งโลกทุกวันนี้ ก็ฝีมือพวกทหารเลวพวกนี้แหละ เธอจะยิงฉันด้วย” นาตาลีหันไปชี้หน้าหมวดสาว
จูยอนหันขวับ...
“อ้าว!..โจรในเครื่องแบบสินะ!” เธอพึมพำ แล้วหันมา...
“นี่ไงล่ะคุณ!ทหารคนดีของคุณ กินภาษีของเขาแล้วยังเนรคุณ เอาอาวุธที่เขาซื้อให้มาไล่ล่าเขาอีก” เธอเสียงเข้มดังขึ้นมาทันที หันมาทำตาดุใส่...เกี่ยวอะไรกับผม นั่นทหารคอมมิวนิสต์จีนไม่เกี่ยวกับผม...ผมเมิน
“ฉันคิดบัญชีให้” เธอแกะมือนาตาลีออกแล้วลุกขึ้น สีหน้ายิ้มแย้มแววตาใจดีหายวับไป เปลี่ยนเป็นนิ่งดุแข็งกร้าว มองจ้องเขม็งไปที่หมวดสาวสายตาดูว่างเปล่า
จูยอนขมวดคิ้วมองครุ่นคิด...
“ฉันจำเธอได้แล้ว วันก่อนเอาน้ำแข็งขว้างใส่โต๊ะของเรา” เธอเปลี่ยนท่าทีเป็นคนละคนกับเมื่อสักครู่เลย
“หมับ!!” เอื้อมมือจิกหัวให้เงยหน้าขึ้น แล้วเงื้อมือตบไปที่ใบหน้าสุดแรง
“เพี๊ยะ!” หมวดสาวหน้าสะบัด
“ของเก่าฉันยกให้ แต่ของใหม่อภัยไม่ได้ เก่งมาจากไหนเหรอถึงทำร้ายเพื่อนฉัน?”
“เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!” เสียงตบต่อเนื่องรอยนิ้วแดง เลือดซึมปาก ทหารสาวไม่ปริปากแววตาเจ็บปวดหวาดระแวง ผมแปลกใจที่ไม่มีแววโกรธในดวงตาคู่นั้นเลย
“ถีบลงน้ำไปเลยดีกว่ามั้ง? ถ้าแทนกับไป่ไป๋เป็นอะไรไป ฉันจะฆ่าเธอเอง” จูยอนจิกหัวจนหน้าหงาย สายตาโกรธจัดหุนหันกระชากหมวดจางลุกขึ้นยืน แล้วง้างหมัด…
“ตุ่บ!!ตุ่บ!!ตุ่บ!!” เธออัดเข้าชายโครงจนตัวงอ ผมแอบสะใจเอาให้สาสมที่คิดจะยิงเจ้าแทนของผม ผู้หมวดทรุดลงไปกองกับพื้นมือกุมท้อง
จูยอนจิกหัวให้เงยหน้าขึ้นอีก ...
“ดูหน้าผู้หญิงคนนี้ไว้ดี ๆ นะ! ห้ามแตะต้องแม้แต่ปลายเล็บ” เธอชี้มาที่นาตาลีแล้วตบเข้าไปที่ครึ่งปากครึ่งจมูกเลือดไหลกบปาก ไม่มีเสียงร้อง เธอกัดฟันแน่นถุยน้ำลายที่มีแต่เลือดลงพื้น
“หึ๋ย! มันขึ้นว่ะ!” จู่!จู่! จูยอนก็เปลี่ยนท่าที หงุดหงิดเดินไปหยิบปืนสั้น
“อย่าอยู่เลยดีกว่า ฉันเกลียดคนพวกนี้ มียศแล้วข่มเหงคนอื่น” นายทหารหญิงเกาหลีเหนือหันหยิบปืนมากระชากขึ้นลำ...
“แกรก!” เสียงเหล็กกระชากใจ เธอหันกระบอกปืนจ่อหัว...
ในจังหวะนั้น...
“พอก่อน! ค่อย ๆ คุยกัน ผู้หญิงเหมือนกัน” เจ้าซอนร้องห้าม เสียงของมันเหมือนระฆังหมดยก เธอรอดตายอย่างหวุดหวิด จูยอนยังโกรธเดินวนหาของรื้อตรงนั้นตรงนี้ได้เชือกมาเส้นหนึ่ง…
“ลุกขึ้น! แล้วหันหลัง” เธอสั่งแล้วเอาเชือกมัดมือ
ผมนั่งอึ้งตั้งแต่เธอเข้าไปตบครั้งแรกแล้ว ได้แต่คิดในใจ...ดุจังเลยว่ะ เสือกมาชอบกูอีก ถ้ากูขัดใจจะตบกูมั้ยนี่ ///
เสียงเจ้าซอนลั่นจากหัวเรือ...
“นาตาลี ไฮ! ” ว้าว...ไอ้ซอนสวมหัวใจสิงห์หันมาทัก โบกมือยิ้มให้นาตาลี สงสัยคราวนี้มันได้เมียแน่
“ขอบคุณมากค่ะ!” เธอรีบลุกขึ้นยืนโค้งศีรษะให้ซอนอย่างสุภาพ
ผมยิ้มพอใจที่ได้เห็นมุมนี้ของเธอ นึกว่าจะคอแข็งหน้าเชิดใส่ซะอีก จะว่าไปนาตาลีก็น่ารักเหมือนกัน ตอนนี้เธอดูวิตกกังวล ถึงแม้ซอนจะขับเรือเร็วแค่ไหน ก็ยังไม่ทันใจเธอ ...
“เจ็ทโด้คะ...คุณจะช่วยแทนได้ใช่มั้ย ต้องช่วยให้ได้นะ ไป่ไป๋ด้วย” นาตาลีออดอ้อนขยับมาเขย่าแขน เรื่องช่วยเจ้าแทนเป็นเป้าหมายหลัก ส่วนไป่ไป๋เป็นของแถม
“ใกล้ถึงแล้ว!” ซอนชี้ไปที่ชายหาดยาวเลยจากน้ำตกใหญ่ไกล ๆ สายน้ำตกขาวขนาดมหึมาทิ้งตัวลงทะเลสาบ
“นั่นไงที่พักฉัน เห็นเพิงมั้ยคะ? แทนทำให้พวกเราพักที่นั่น ฮือฮือ!” นาตาลีโผกอดจูยอนแล้วร้องไห้ไปด้วยกัน
ผมส่ายสายตามองหาเจ้าแทนไปตามแนวชายหาด น่ายิงหัวยายทหารหญิงนี่จริง ๆ ถ้าเจ้าแทนเป็นอะไรไป...เธอตายก่อน
.........................................................
ติดตามความสนุกเล่มต่อไป...
