The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 3 ตอนที่ 8

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 3 ตอนที่ 8
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 3
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 3 ก.พ. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

หมู่บ้านชาติพันธ์มู่เหลา  คุนหมิง
 
มุมมองสายตา ชเว จูยอน
พฤศจิกายน ค.ศ.2020

            วันสุดท้ายของการจากลา...
สายลมหนาวเย็นของฤดูหนาวพัดเอื่อย รถยนต์ตรวจการณ์แฮมเมอร์ สีเหลืองเด่นสะดุดตามองเห็นแต่ไกล จอดสงบนิ่งใต้ร่มนนทรีใหญ่ ริมฝั่งบนเนิน ชาวบ้านชนเผ่าชาติพันธุ์มู่เหลาในชุดชนเผ่าหลายสิบคนวิ่งมามุงดูกันที่ริมตลิ่งใต้ต้นตะแบกนา สะพานไม้ทอดยาวลงมาในทะเลสาบ หัวเรือของเราพุ่งเข้าเทียบข้างสะพาน
ซอนดับเครื่องเรือ เดินมาดึงมือหมวดจางขึ้นเดินไปสุดสะพานแล้วปีนบันไดขึ้นบนเนิน ตกลงคู่นี้เขายังไงกัน? แล้วนาตาลีคิดอะไร? ไม่เข้าใจพวกเขาเหมือนกัน
พวกเราขนอาวุธกันคนละไม้ละมือ เดินผ่านร้านค้าเก่า ๆ เล็ก ๆด้านขวามือเอาไปเก็บที่รถสีเหลืองด้านซ้ายใต้ต้นนทรี เสียงนาฬิกาแขวนที่ผนังหน้าร้านบอกเวลา 13.00 น.พอดี ชาวบ้านในชุดชนเผ่าฯเดินเข้ามาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
หนีห่าว! ฟ้าคุ้มครอง! กลับมาแล้วเหรอ หายกันไปนานเลย? เสียงชื่นชมจากกลุ่มชาวบ้านดังไม่ขาดปาก
“อั๊ว!สวดมนต์ให้พวกลื้อทุกวัน” คนเฒ่าคนแก่เข้ามาจับมือ พวกเขามารออยู่ตรงนี้กันหนาตา
สักพักอาหนานกับพ่อก็ขับเรือเข้ามา พวกเขาเดินยิ้มกว้างขึ้นมาหาพวกเราด้านบน ฉันตกลงจะยกค่ามัดจำให้เขาทั้งหมดถ้าเขาช่วย ถึงได้เรือลำนี้มาด้วยราคาค่อนข้างแพง เหมือนซื้อใหม่แต่ก็คุ้มค่ามาก 
ฉันวางของลงบนรถเหลืองแล้วเดินออกไปคุยด้วย
หนีห่าว! ปลอดภัยดีใช่มั้ยครับคุณ?อาหนานวิ่งยิ้มกว้างมา
“หนีห่าวอาหนาน!” ฉันยื่นมือไปจับทักทายกับอาหนานแล้วหันไปจับมือกับพ่อของเขาด้วยรอยยิ้ม
ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เรือก็ไม่เสียหายฉันยิ้มกับสองพ่อลูกด้วยความดีใจ
พวกคุณเก่งมากเลยที่รอดมาได้ ผมดีใจจริง ๆ พ่อของอาหนานยิ้มตาใสซื่อ หนุ่มน้อยของฉันยืนบิดตัวอยู่ข้าง ๆ
ในเรือมีน้ำมันเหลือเอาไปใช้เลยค่ะ ยกให้!” ฉันบอกกับพ่ออาหนาน
งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า จะรีบเอาเรือไปคืนเขาก่อน เดี๋ยวพวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับได้ผมจะซวย
สิ้นสุดกันเสียทีกับเรื่องเลวร้ายทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย สถานที่เร้นลับอย่างนี้ปล่อยให้ซ่อนอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางขุนเขาดีที่สุดแล้วเพื่อสัตว์ทั้งหลายจะได้ดำรงเผ่าพันธุ์ในวัฎจักรของตัวเอง ไม่ต้องถูกรบกวนจากโลกภายนอก
ถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ยากที่จะมีคนเชื่อว่าสถานที่นี้จะมีอยู่จริง และพวกมนุษย์ใจหยาบก็จะเข้ามาทำลายทุกอย่างเช่นเคย โดยใช้ข้ออ้างเดิม ๆ...พวกมันเป็นอันตรายกับมนุษย์ แต่ฉันว่ามนุษย์นั่นแหละน่ากลัวกว่าสัตว์

หมวดจางนั่งแกว่งขาท้ายรถยนต์ หันมาคุยสนิทสนมกับพวกเรา หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเตรียมตัวกลับบ้าน ส่วนแทนและสองสาวเดินผ่านแปลงกุหลาบแดงลงเนิน หายเข้าไปในหมู่บ้าน
เด็กผู้ชายตัวน้อยในชุดชนเผ่า เดินเอียงคอยิ้มอายเข้ามา ฉันและหมวดจางลุกไปจูงมือเด็กชายตัวน้อยเดินไปร้านค้าหาขนมให้กิน เด็กคนอื่นในบริเวณยืนมองไม่กล้าเข้ามา
“มากินขนมกันค่ะ!” ฉันกวักมือเรียกทีเดียววิ่งยิ้มแป้นตามมาเป็นพรวน คงไม่มีอะไรที่สวยงามไปกว่ารอยยิ้มไร้เดียงสาของเด็กน้อยวัยเยาว์อีกแล้ว
ต้นประดู่อังสนาไม้ยืนต้นให้ร่มเงาอยู่เยื้องหน้าร้านไปกลางลานบนเนินเตี้ย ๆ แปลงกุหลาบแดงปลูกล้อมลานสี่เหลี่ยมเพิ่มสีสัน
ฉันหันคุยกับหมวดจาง
คุณจะเอายังไงต่อ หมวดจาง?” ฉันสงสัยความคิดของเธอและไม่เข้าใจความคิดของทุกคน พวกเขาใจดีเกินไปหรือเปล่า? ถึงได้ปล่อยให้ศัตรูลอยนวลแบบนี้ เธอโชคดีมากที่เจอกับนาตาลี ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงตายไปแล้ว          
กองทัพไม่รู้เรื่อง ฉันจะไปตั้งหลักบ้านซอนก่อนค่ะ นาตาลียังไม่พร้อมให้ฉันตามไปด้วยหมวดจางตอบเรียบ ๆ สายตาผิดหวัง
คุณไม่กลับเข้ากองทัพอีกเหรอ?” ฉันซักไซ้ ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เธอพูด
งานในกองทัพไม่ใช่ฝันของฉันแล้ว ฉันไม่รู้สึกตื่นเต้นตอนสวมเครื่องแบบอีกแล้ว ฉันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ สักวันฉันจะตามไปหานาตาลี ให้เธอได้ที่ทำงานก่อน เธอยิ้มหวานตาใสซื่อ 
เธอก็แปลก คนทั่วไปวิ่งเข้าหาแกนอำนาจ แต่เธอกลับวิ่งหนี ฉันยังลังเลไม่อยากเชื่อเหมือนเดิม
ใคร ๆ ก็อยากเข้าถึงแกนอำนาจ ถ้าฉันเป็นคุณฉันไม่ออกมาหรอกฉันคิดเช่นนั้นจริง ๆ ฉันอยากมีอำนาจ ฉันอยากล้างแค้น
ฉันทำเรื่องผิดพลาดไว้ ฉันอยากลืมมันค่ะ!”  
คำพูดแค่นี้ ไม่ทำให้ฉันเชื่อหรอก แต่นาตาลีให้อภัยไปแล้วก็ช่างเธอ เราไม่ได้เป็นศัตรูกันโดยตรง เธอเลือกขนมกินอย่างสบายใจ
ซอนเดินยิ้มเข้ามา
“หมวดจาง อิ่มหรือยัง? ส่งแขนมา” เขายกกุญแจมือ
“ฮื้อ! เอาสิ แต่ฉันชื่อแอนนานะ” เธอยื่นมือให้เขาสวมอย่างว่าง่าย
“เรียกเหมือนกับนาตาลีแหละง่ายดี อยากกินอะไรอีกรึป่าว? ผมจะป้อนให้”
“เอาไปกินที่โต๊ะกันดีกว่า ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ” เธอชี้ขนมให้ซอนดึง แล้วเดินไปนั่งที่ใต้ต้นไม้
ส่วนเจ็ทโด้พ่อรูปหล่อของฉัน ได้แต่นั่งยิ้มมองนั่นนี่เพราะไม่รู้ภาษาจีน สักพักก็เดินมาหาฉันที่ร้านค้า
จูยอน!  อยากกินไอ้นี่เขายิ้มแล้วชี้ไปที่หลิวต๋ากุ่น
หลิวต๋ากุ่น...ขนมโบราณของจีน รูปทรงของขนมหน้าตาคล้ายแยมโรลช็อกโกแลต ชิ้นเล็ก ๆ เนื้อแน่นไม่นุ่มฟูรสชาติอร่อย ไม่ค่อยหวาน ไม่ค่อยมัน เหนียวหนึบเล็กน้อย เขาคงสั่งกินไม่เป็นและคงไม่รู้ว่าจะถามยังไงด้วย            
ฉันยังคงสนุกกันอยู่ในร้านค้า ยื่นขนมแจกเด็ก ๆ เรียกว่าเหมาร้านกันเลยทีเดียว อะไรที่กินได้ก็ดึงมาแจกหมด กลุ่มเด็กรายล้อมรอบตัว
“มาสิคะ! เดี๋ยวหมดก่อนนะคะ” ฉันส่งขนมให้เด็กหญิงที่ยืนกัดนิ้วมอง ไม่กล้าเข้ามาหา แล้วยัดหลิวต๋ากุนใส่ปากเจ็ทโด้
“คุณคะ! อ้าม!
“..........” เขาหมุนมองรอบตัวก่อนจะอ้าปากรับไปเคี้ยวตุ้ย ๆ
ฉันได้ยืนข้างเขาหัวใจก็เปี่ยมสุข บรรยากาศของหมู่บ้านโบราณรูปทรงคล้ายบ้านในชนบทของเกาหลีเหนือ อยู่อย่างสงบริมทะเลสาบกว้าง บรรยากาศช่างน่าอยู่เหลือเกิน
ทันใดนั้น...
“บรื้น...นน!เสียงรถยนต์แล่นมาด้วยความเร็วสูง
ฉันขมวดคิ้ว เมื่อรถแวนสีดำวิ่งมาฝุ่นตลบเข้ามาบนลาน จอดเทียบใต้ต้นไม้
เอี๊ยด! 
ฉันหันไปมองหน้าเจ็ทโด้ พวกเขาก็มองด้วยสายตาสงสัย แต่ไม่มีใครระวังตัวเลย
ทันทีที่รถหยุดสนิท ฝรั่งตัวอ้วนสูงก็ก้าวออกจากรถ
“โมเสสนี่นา! ฉันอุทานเบา ๆ ฉันรู้จักฝรั่งตัวใหญ่คนนี้ เขาคือคนจัดงานวัคซีน Tame ที่เกาหลีเหนือ
           เขาก้าวลงจากรถเดินพุงล้ำหน้าอุ้ยอ้ายเข้ามา ลูกน้องผมทองตัวโตเดินตามมาเป็นพรวน...
หมวดจางมานี่ เร็ว! เขาตะโกนเรียก เธอกรอกตาไปมาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาเขา พวกเราได้แต่มองตาม สัญชาตญาณป้องกันตัวเริ่มทำงาน
ซอนลุกวิ่งเข้ารวบเอวทันที...
“จะไปไหน?” เขาล้มลงไปกับพื้นพร้อมกัน
 “พรึ่บ! ผู้ชายฝรั่งร่างสูงอีก 6 คนในสูทสีดำกระโดดลงมาพร้อมอาวุธปืนในมือ ฉันหันหลังวิ่งหมายจะกลับไปที่รถเพื่อเอาปืนมาสู้กับพวกนี้ พวกมันไม่ได้มาดีแน่ ๆ  ขยับวิ่งได้ไม่กี่ก้าว
ปัง!” เสียงปืนดังแสบหู
ทั้งกลุ่มหันกระบอกปืนใส่พวกเรา...
หยุดอยู่ตรงนั้น ห้ามขยับ!” คำสั่งดังหนักแน่น
“..........” ฉันหยุดกึกหันไปมอง โมเสสก้าวเข้าหาหมวดจาง แล้วหันกระบอกปืนใส่ซอน
“ไขกุญแจมือเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นพวกแกตาย”
“ปัง!เขายิงปืนขู่ ซอนไขกุญแจปล่อยตัว เมื่อได้รับอิสระ เธอก็เดินเข้าไปหาโมเสส สิ่งที่ฉันคิดมาตลอดไม่ผิดจริง ๆ ยายทหารนี่เขี้ยวเล็บเยอะมาก
พวกนี้เป็นใคร?” ไอ้ฝรั่งอ้วนกวาดตามองมาที่พวกเรา
เพื่อนนาตาลี หมวดจางกัดฟันตอบ สายตาเธอหลุกหลิกลังเล
“ไอ้พวกนี้สินะ ที่ถล่มแก๊งมังกรอู่ฮั่น” โมเสสยิ้มมุมปากแล้วหมุนมอง...
แล้วนาตาลีไปไหน?” โมเสสน้ำเสียงเต็มไปด้วยอำนาจ
หมวดจางชะโงกมองไปด้านหลัง ในจังหวะนั้นทั้งสามคนกำลังยิ้มเริงร่าวิ่งออกมาจากหัวมุมบ้านด้านหลังพอดี
“เฮ้อ!” ฉันหลับตาเมินหน้า ไม่น่ากลับมาเลย
หมวดจางชี้ไปที่พวกเขา
ไปจับพวกมันมา!”
“ครับ!” ชายสามคนวิ่งเข้าไปหาทั้งสามที่ยังไม่รู้ตัว
เจ็ทโด้กับซอนขยับจะวิ่งออกไปที่รถ แต่ช้ากว่าชายสองคนที่ยืนคุมเชิงอยู่ก่อน เขาควักปืนยิงขึ้นฟ้า
ปัง!” เสียงปืนทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก 
หยุดตรงนั้น อย่าขยับ สิ้นเสียงเขาทั้งคู่ก็หยุดหันมองหน้ากัน ชาวบ้านยืนล้อมวงไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย                 
พวกคุณเป็นใคร?” เจ็ทโด้ร้องถาม สายตามองจ้องไปที่ปืน
ไม่ต้องรู้หรอก! เดี๋ยวก็ตายแล้วจะรู้ไปทำไม?” โมเสสบอกเสียงดัง 
ชาวบ้านค่อย ๆ ถอยออกห่าง ยืนสังเกตการณ์ด้วยความตกใจ สามหนุ่มสาวโดนรวบตัวเดินคอตกกลับมา พวกเราถูกต้อนมาไว้รวมกันท้ายรถแวนดำกลางลานใต้ต้นประดู่อังสนาหน้าร้านค้า หมวดจางตอนนี้เธอกลับไปเป็นทหารเหมือนเดิมแล้ว ยืนนิ่งมองอยู่ ข้างโมเสส
"หนีเก่งนักใช่มั้ยนาตาลี? ยิงทิ้งให้หมด! อย่าให้เหลือรอดกลับไป  โมเสสสั่งเสียงดัง
ลูกน้องทั้ง 6 กระชากปืนขึ้นลำ
แกรก!! เหมือนเสียงมัจจุราชกวักมือเรียกหา
พวกเราโดนจู่โจมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ในมือไม่มีอาวุธไปต่อกรกับพวกมันได้เลย เจ็ทโด้ดึงฉันไปกอด แทนดึงนาตาลีกับไป่ไป๋เข้าหาตัวเองทั้งสองสาวหันกอดเขา ซอนกัดฟันยืนนิ่งมองหมวดจางที่ท้ายรถแวนสายตาเศร้า 
ทันใดนั้นเอง...
ยิงเลย!” โมเสสหมุนตัว
"วี๊ดดดดด!!! เสียงเล็กแหลมเป็นคลื่นพลิ้วทำนองเพราะเสนาะหู ของอะไรบางอย่างดังขึ้นข้างรถอีกฝั่ง 
เสียงมันดังใกล้ ๆ นี้เอง หรือเป็นขลุ่ยผิวของจีน พวกเราหันมามองหน้ากันอย่างสงสัย  และตอนนั้นเองที่ชาวบ้านก็ขยับตัวพร้อมกัน ต่างก็วิ่งกรูเข้ามา 
หมวดจางก้าวออกจากท้ายรถยนต์
Messiah! หมวดจางยืดอกตะโกน
ฉันตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ชาวบ้านวิ่งกรูเข้าหาเธอ...
Messiah! Messiah! Messiah!” เสียงกระหึ่ม สยองขวัญ
ท่ามกลางความชุลมุน ชาวบ้านนับร้อยวิ่งจากตรอกซอกซอยร้องขาดสติเข้ามารวมกันบนลานจนแน่น ทุกสายตาจับจ้องไปที่หมวดจาง
เธอท่าทางทะมัดทะแมงยืดอกตัวตรง ปากคาบนกหวีดอันจิ๋ว ฉันเคยเห็นเธอห้อยคอไว้
หยุด!” หมวดจางสั่งเสียงดัง
“...........” ชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่กว่า 300 คน หยุดวิ่งทันทีค่อย ๆ เดินยิ้มเข้าหาเธอ อาการดีใจปรากฏชัดในสายตา ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความดีใจโหยหา เหมือนสุนัขได้เจอเจ้าของที่คิดถึงมาหลายปี
Messiah! Messiah! Messiah!ปากร้องต่อเนื่อง มือไขว่คว้า ผู้คนเหล่านี้เป็นอะไร? มันเกิดอะไรขึ้น? เสมือนประหนึ่งว่า แฟนคลับรอรับศิลปินคนโปรดที่สนามบิน
เงียบ!” หมวดจางสั่งอีกครั้ง
“.............”
ฉันมองด้วยความตะลึงและทึ่งในอานุภาพของนกหวีดอันเล็ก ในหัวคิดฉันสับสนไปหมด หมวดจางเล่นกลหรือไง? หรือเธอมีวิชาไสยศาสตร์ หรือวัคซีนที่เธอวิจัยออกฤทธิ์ร้ายแรงขนาดนี้เลยหรือ? ทำไมทุกคนถึงอยู่ในโอวาท? เด็กน้อยคนเฒ่าคนแก่แสดงอาการเหมือนกันหมดนี่มันคืออะไร?
โมเสสหลอกให้ผู้นำของประเทศต่างๆ มาเอาวัคซีนไปฉีดให้ประชาชนอย่างนั้นหรือ? หรือนี่คือสิ่งที่นาตาลีกลัว ชาวบ้านกลุ่มนี้โดนทำลายความเป็นมนุษย์ไปแล้ว สติสัมปชัญญะไร้ความหมาย มีค่าไม่ต่างจากสัตว์เชื่อง ๆ ที่คอยเชื่อฟังผู้ออกคำสั่ง 
ฉันหันไปมองนาตาลี ตอนนี้เธอยืนก้มหน้าเอามือปิดปากตัวเอง มีแต่เสียงบ่นอะไรเล็ดลอดออกมา ดูเธอกลัวมากกับกลุ่มคนพวกนั้น
โครงสร้างและส่วนประกอบของเซลล์สัตว์ 1.เยื่อหุ้มเซลล์ มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆประกอบด้วยโปรตีนและไขมัน ทำหน้าที่ควบคุมเซลล์ให้คงรูปอยู่ได้และทำหน้าที่ควบคุมการผ่านเข้าออกของสารบางอย่าง เช่น น้ำ อากาศ และสารละลายต่างๆ เธอหลับตาตัวสั่นพึมพำอย่างน่าสงสาร                    
ไปจับพวกนั้นไว้!  สิ้นเสียงคำสั่งของหมวดจาง 
Messiah! Messiah! Messiah!ฝูงชนก็หันมาที่พวกเรา ผู้ชายสูทดำทั้งหมดเดินเข้าล้อมหมวดจางอย่างเร็ว                 
ว๋าย!!!” นาตาลีสติหลุดหันหลังวิ่งหนีก่อนใคร ลงไปที่ปลายสะพาน


           พวกเรากระโจนพรวดวิ่งตาม ฝูงชาวบ้านนับร้อยคนรายล้อมบริเวณร้านค้าวิ่งกรูชูแขนเข้ามาถึงตัวพวกเรา
เจ็ทโด้สะบัดเด็กน้อยสองคนที่จับขาคนละข้างกระเด็นออกไป หันมาดึงหญิงแก่เจ้าของร้านชำที่กำลังกอดเอวฉันออก แล้วจูงมือวิ่งผลักชาวบ้านที่ห้อมล้อมเข้ามาจับ
“ไม่อยากรุนแรงเลยว่ะ มีแต่ชาวบ้าน” เขาบ่นเบา ๆ ในขณะวิ่ง
Messiah! Messiah! Messiah!    
“จับมัน!หมวดจางสั่งเสียงดัง          
จับมัน! จับมัน! จับมัน! จับมัน!” เสียงอื้ออึงชุลมุนฟังไม่ได้ศัพท์ บนลานยั้วเยี้ยไปด้วยชาวบ้านที่ขาดสติ
“เอ้ย!!” เสื้อของฉันถูกดึงยืด ฉันแกะคนโน้นออก โดนคนนี้ดึง มั่วซั้วอีลุงตุงนัง ซอนและไป่ไป๋ดิ้นอยู่ข้างหน้าของแทน ที่ท้ายรถแวน
“จูยอน ช่วยฉันด้วย!  นาตาลีโชคร้ายกว่าใครโดนชายร่างบึกบึน สี่คนหิ้วปีกกลับมาผ่านหน้าของฉันไปหาหมวดจางแล้ว
ฉันกับเจ็ทโด้ก็หนีไม่ได้เหมือนกันยังดิ้นเอาตัวรอดกันอยู่บนลานข้างรถแวนสีเหลืองของซอน  มือของพวกเขาจับพวกเราตรึงกับที่ ซอนไม่ต่อสู้เขาปล่อยตัวไปตามแรงดึงของชาวบ้าน สายตาของซอนเหมือนคนผิดหวัง เขาโดนเท้าเหยียบหน้าอก นอนนิ่งหันหน้ามองหมวดจางด้วยสายตาปวดร้าว
ทำไมหักหลังกันอย่างนี้ล่ะ? หมวดจาง!” ซอนตะโกนถาม
หมวดจางเดินยิ้มหน้าเหี้ยมเข้าไปหา...
คุณโชคดีนะ ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว ไม่งั้น! คุณก็เป็นอย่างนี้แหละ
โมเสสยืนจ้องมองเธอไม่วางตา เธอเดินกลับเข้ามาที่รถแวนแล้วหยิบปืนสั้นขึ้นมา ก้าวเดินอย่างมาดมั่นทระนงผ่านหน้าฉันไปหยุดมองหน้าแทน สักพักก็เดินผ่านไปหาไป่ไป๋
เสียงโมเสสตะโกนจากด้านหลัง
ยิงมันทิ้งซะ! อย่าให้มีคนรอดกลับไปได้ พวกนี้รู้มากไปแล้วเขาเดินอุ้ยอ้ายมายืนข้างฉันที่กำลังดิ้นหนีชาวบ้าน
“พรึบ!พรึบ!พรึบ!                  
ลูกน้องฝรั่งร่างกายสูงใหญ่ในท่าเตรียมพร้อมขึ้นลำปืน เดินย่างสามขุมเข้าไปหาซอน  มัจจุราชกำลังจะลงมือแล้ว...
“หยุดนะ อย่าทำอะไรเขานะ” ฉันดิ้นสุดแรงพยายามสลัดให้หลุดเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดในไม่กี่วินาทีข้างหน้า....แต่ไม่เป็นผล
ฉันเลื่อนสายตามองไปที่เจ็ทโด้ที่พื้น เขาก็ดิ้นจะเข้าช่วยซอนเช่นกัน แต่ไม่สามารถเอาชนะเรี่ยวแรงชาวบ้านที่ยื้อยุดได้
ฝรั่งร่างสูงเข้าไปเอาปืนจ่อหัวซอน ตอนนี้เขาล้มลงกับพื้น ไม่สะทกสะท้าน ไม่ขัดขืน สายตานิ่งมองที่หมวดจาง
แกรก!” เสียงขึ้นลำปืนนั้นสั่นเข้าไปลึกสุดใจ
“ซอนหนีสิ! หนีเร็ว! ฮือฮือ!น้ำตาไหลของการยอมจำนนไหลพราก สงสารเขาจับใจ อย่ายอมตายนะ ซอนคนเก่งของฉัน หนีสิ!
“ฮือฮือ!ฉันช่วยใครไม่ได้เลย ทำไมฉันไร้ค่าอย่างนี้นะ? ให้ฉันตายแทนพวกเขายังดีกว่า ชีวิตฉันไม่มีประโยชน์กับใครเลย
อย่านะ อย่า!!” ฉันดิ้นร้องขอชีวิตให้ซอน
มือปืนหันมามอง
ยิงฉันนะ ยิงฉันแทน แล้วปล่อยทุกคนไป ฉันหมดหนทางน้ำตาไหลพราก ชีวิตพวกเขามีความหมายกว่าฉัน พวกเขาเป็นคนดี ฉันยกชีวิตของฉันให้ทดแทนที่ทุกคนเคยช่วยไว้
ฝรั่งตัวโตไม่สนคำร้องขอ หันกลับเอาปืนจ่อหัวของซอน ใจฉันสลายน้ำตาไหลพราก
ไม่นะ! อย่าทำ อย่าทำเลย ปล่อยพวกเขาไป แล้วเอาชีวิตฉันไปแทน ฉันร้องสุดเสียงขออย่างสิ้นหวัง ไม่อยากเห็นภาพคนที่ช่วยชีวิตฉันต้องตายต่อหน้า  
ทันใดนั้น!...
ช้าก่อน!” หมวดจางตะโกนลั่น แล้วเดินเข้าหา
คนนี้ฉันยิงเอง! เดี๋ยวฉันจัดการกับพวกมันเอง คุณไปรอที่รถ เธอเหลือบมองนาฬิกา แล้วดึงปืนจากมือเขา
หมวดจาง! คนสารเลว เธอมันไม่ใช่คน ตายไปซะ!” เสียงนาตาลีตะโกนด่ามาจากด้านหลัง
แต่หมวดจางไม่สะทกสะท้าน เธอจ่อปืนไปที่ซอน ในขณะที่ซอนก็จ้องตาไม่กะพริบ
“ถ้ามันทำให้คุณสมหวัง คุณยิงได้เลย แต่ปล่อยเจ็ทโด้ไปซะ อย่าทำอันตรายพี่ชายของผม ผมขอร้อง”
สิ้นเสียงซอน...
            ปัง!” ใบหน้าของซอนสะบัด เลือดไหลเลอะใบหน้า ซอนกระตุกน้อย ๆ ก่อนคอพับนิ่งไป
กรี๊ด!!!..โฮ!.. ฮือ!..ซอน! เสียงร้องระงมของพวกเราไม่ได้ทำให้เขาขยับตัวเลย ซอนยอมตายเพื่อศักดิ์ศรี ฉันไม่น่าปล่อยเธอให้รอดเลย
“ซอน!” ฉันเรียกเขาสุดเสียง หวังให้เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง
เจ็ทโด้สะบัดจนหลุดวิ่งเข้าไปประคองหัวเขา...
“ซอน! ซอน!
“อั๊ก! กลุ่มชาวบ้านกรูตามไปจับเขากดกับพื้นอีกครั้ง
กรี๊ด!!!..โฮ!.. ฮือ!..ซอน! เสียงนาตาลีร้องกรี๊ด ดิ้นพล่านจนรถยนต์สะเทือน
“โฮ!โฮ!” ไป่ไป๋สะบัดหลุดร้องไห้ทิ้งตัวลงพื้น
หมวดจางเดินเข้าไปหาแล้วเชยคางของเธอขึ้นมา
เพี๊ยะ!” เธอซัดไปเต็มแก้มของไป่ไป๋ที่กำลังร้องไห้
โอ๊ย!.เจ็บนะ! คนสารเลว! คนเนรคุณ!” ใบหน้าขาวขึ้นเป็นรอยนิ้ว น้ำตาไหลนองหน้า เธอกัดฟันจ้องหน้าโกรธจัด          
เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!เพี๊ยะ! ตีก้นฉันลายเลย หมวดจางกระหน่ำตบไปที่ใบหน้าของไป่ไป๋จนเลือดกบปาก
อย่า! อย่าทำอะไรไป่ไป๋นะ หมวดจาง นาตาลีร้องลั่น
ไป่ไป๋หันมองแทน...
แทน!ช่วยหนูด้วย!” แขนถูกตรึงโดยชายชราสองคน
“หมวดจาง! ทำผมสิ ตีผมสิ อย่าทำร้ายไป่ไป๋! ปล่อยเธอไป เธอยังเด็กไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา” แทนดิ้นเฮือกสุดท้ายสะบัดชาวบ้านจนหลุด วิ่งเงื้อไม้เข้าไปช่วย...
“แน่ใจเหรอ พ่อหนุ่ม ฉันยิงนะ?” หมวดจางยกปืนจิ้มไปที่หัวไป่ไป๋ 
“เอ่อ!” แทนชะงัก ในจังหวะนั้นชาวบ้านสี่ห้าคนโถมตัวเข้ามารวบเขา จนเสียหลักล้มลงไปนอนกับพื้น
หมวดจางเมินหน้าจากแทนเดินไปหาซอนแล้วยืนมองหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเลยไปหานาตาลี
ยิงฉันเลย! ฆ่าฉันซะเลย นาตาลีร้องไห้คร่ำครวญ น้ำตาไหลนองสองแก้ม
หมวดจาง! ผมสั่งให้ยิงนาตาลีทิ้งไป  โมเสสร้องสั่ง
เธอตวาดกลับไป
ท่านนายพล! สั่งให้เอาตัวกลับไปที่เสิ่นหยาง
งั้น!ก็ยิงคนอื่นให้หมด เขาตวาดกลับก่อนเตะก้อนหินเล็ก ๆ ที่พื้นด้วยอาการขัดใจ
โมเสส! คุณเอานาตาลีขึ้นรถไปก่อน ที่เหลือฉันจัดการเอง เธอสั่งเขาแล้วเดินมาหาฉัน
ถึงคิวคุณแล้ว!” เธอยิ้มมุมปาก พูดเสียงเย็นยะเยือก ฉันเสียวสันหลังวาบ วันนี้คงเป็นวันตายของฉัน
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!”
ฉันโดนทั้งแบ็คแฮนด์และโฟแฮนด์เป็นชุด ปากแตกเลือดหยดลงพื้น  แขนขาโดนลุงกับป้านี่ฉุดอยู่ขยับตัวไม่ถนัด
เจ็ทโด้!...อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ อย่าทำร้ายจูยอน มึงอยากทำอะไรมาหากูนี่เจ็ทโด้ตะโกนออกมา
เขาก็ติดหนึบอยู่ข้าง ๆ โดนดึงชักคะเย่อกันไปมา          
อดทนไว้อีก 5 นาที!” นาตาลีตะโกนหน้าตาตื่นจากในรถ โดนจับนั่งคุมตัวไว้บนรถ
คราวนี้คุณแพ้มั่งแล้วนะ!” เธอเดินเข้าไปเอาปืนไปจ่อหัวเจ็ทโด้ ฉันก้มหน้าหลับตา
สักพัก...
โอ๊ย!!!  เจ็ทโด้!!!ปล่อย!!!” เสียงเขาร้องลั่น ฉันรีบเงยหน้าเห็นเขาหน้าตาเหยเกด้วยความเจ็บปวด เขาร้องทำไมหมวดจางยังไม่ได้ยิงสักหน่อย
ยิงกูดีกว่า อีผีบ้า! เขาจ้องหน้า พยายามดิ้นให้หลุดจากกรงเล็บของเธอ
ฉันประหารคุณบ้างนะ ทหาร!” เธอบีบไปที่หว่างขาของเขา แล้วบีบอย่างแรง...
“เจ็ทโด้!!!ปล่อย!!!” เสียงเจ็ทโด้ร้องโหยหวนดิ้นทุรนทุรายสักพักแล้วเงียบคอพับไป หมวดจางเล่นจุดตายที่ทรมานที่สุดของผู้ชาย
ได้เอาคืนแค่นี้ก็พอใจแล้ว แต่ก็ต้องปิดปากพวกแกอยู่ดี ฉันจะให้โอกาสพวกแกเวลาที่เหลือ ถ้าหนีได้ก็ถือว่าโชคดีไป....ฉันไปก่อน
ก่อนจะจากไปเธอแวะมาต่อยท้องฉันอีกสองสามหมัดจุกจนตัวงอ
เธอเดินไปขึ้นรถมองแล้วหันมามอง
“Messiah! ฆ่ามันทิ้งให้หมด!”
รถยนต์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้พวกเราต้องผจญกับชาวบ้าน               
Messiah! Messiah! Messiah!          
ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! 
ฉันขนหัวลุกซู่ เสียงก้าวร้าวดุดันดังขึ้นโดยรอบ ไป่ไป๋สลัดหลุดวิ่งเข้าหาซอน
ซอนคะ! ซอน!” เธอพูดได้แค่นั้น หน้าก็คว่ำลงไปตามแรงถีบ เธอนอนคร่อมกอดร่างของซอนไว้
“อึก! อั๊ก! เธอใช้ร่างกายบังไม้ที่ฟาดลงมาให้กับซอน
หลังจากคำสั่งเปลี่ยนเป็นให้ฆ่า จากอาการแค่พยายามจับกลับรุนแรงขึ้น สีหน้าชาวบ้านเปลี่ยนเป็นนักฆ่า สายตาดุร้ายถมึงทึง 
“โอ๊ย! ฉันโดนชกที่ท้องอย่างแรงจนตัวงอ
“ถอยไป ผมไม่อยากทำร้ายพวกคุณ” แทนดิ้นหลุดจากการควบคุมคว้าไม้ขนาดเหมาะมือ ไล่ตีหัวชาวบ้านร่วงไปทีละคนทีละคน เข้าไปช่วยไป่ไป๋



           ฉันหันไปมองทางเจ็ทโด้ เขายังโดนรุมกระทืบทั้งที่ตัวเองสลบอยู่ และโดนทำร้ายทั้ง ๆ ที่ไร้สติ ฉันดิ้นสลัดจนหลุดโผวิ่งเข้าไปกอดร่างไร้สติของเขาไว้ เพื่อกำบังไม่ให้เขาถูกทำร้ายเข้าจุดสำคัญ
“อึก! อั๊ก! แรงกระทืบอย่างกระหายเลือด ลงมาที่หัวและลำตัว จนปวดระบม
หัวใจฉันภาวนาให้มันผ่านพ้นไป ความเจ็บปวดทั่วร่างจนตัวชา ในห้วงของความตายใกล้เข้ามา ฉันคิดย้อนกลับไปถึงบ้าน คิดถึงแค้นที่เคยมีที่บ้านเกิด ฉันคงไม่ได้กลับไปอีก คังซังอา อะป้า ออมม่ารอด้วย
ฉันขอเอาร่างกายเป็นเกราะกำบังให้เขา ขอตอบแทนให้กับเพื่อนกลุ่มนี้ด้วยชีวิต
“ฉึก! รู้สึกเย็นวาบที่แถวเอวด้านหลัง
“อึก! อั๊ก! แรงกระทืบที่ประเคนมาพร้อมกันทั้งหัวทั้งลำตัวทำให้ความรู้สึกในตัวด้านชา ไม่รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวด
จู่ ๆ ทำไมอากาศวันนี้ถึงหนาวจับใจจังเลย ดวงอาทิตย์ตกแล้วเหรอทำไมมืดอย่างนี้สติสัมปชัญญะฉันดับลง
                                    .........................................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,861 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,977 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม