The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 3 ตอนที่ 11

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 3 ตอนที่ 11
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 3
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 3 ก.พ. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

เป่ยซี  เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง
 
มุมมองสายตา แทน
พฤศจิกายน ค.ศ.2020
 
น้าเอื้อง! ผมคิดถึงแม่จังเลย ทำไมไม่ให้แม่กลับมานอนที่บ้านล่ะครับ?” ผมแหงนหน้าถามน้าเอื้องในชุดนักศึกษา ท่านน้ำตานองหน้าหันหลังกลับไปมองปล่องควันของเมรุ พวยพุ่งขึ้นฟ้า
“คุณแม่ขึ้นสวรรค์ไปเป็นนางฟ้าแล้ว ท่านไปไกลแสนไกลแล้ว ท่านสะอื้นน้ำตาไหลตลอดเวลา ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงร้องไห้ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอาแม่มาที่วัด แล้วทำไมผู้คนมามากมาย          
แล้วแม่จะกลับบ้านเมื่อไหร่ครับ?” ผมหันกลับไปมองเห็นคนมากมายสวมเสื้อผ้าสีดำเดินเต็มวัด น้าเอื้องเดินไปหยิบน้ำกับขนมมาส่งให้
เมื่อน้องแทนกินข้าวเยอะ ๆ และเป็นเด็กดี ท่านจะกลับมา  น้องแทนครับ ทุกครั้งที่มีปัญหาให้นึกถึงน้าเอื้องคนแรกนะคะ  น้าจะไปหาน้องแทนคนแรกเลยท่านปาดน้ำตาตลอดเวลา
“ขอบคุณค่ะ!” ท่านหันไปยกมือไหว้ผู้ใหญ่ใส่ชุดดำที่กำลังเดินกลับ คุณป้าเสื้อดำเดินเข้ามากอด น้าเอื้องยิ่งร้องไห้เสียงดัง...
ฮือ!ฮือ!.หนูจะทำยังไง หนูต้องทำยังไง?” ท่านร้องไห้สะอื้นแรง
          
เขาจะรับน้องแทนกลับไปเหรอ?” คุณป้าถามเบา ๆ น้าเอื้องสะอื้นตัวโยน
เดี๋ยว! เดี๋ยวพ่อของเขา ก็มารับน้องแทนไปอยู่ด้วย  ท่านกัดฟันแน่น ทรุดตัวลงนั่งมองฟ้าที่
“มันเป็นสัจธรรม” คุณป้าเอามือลูบหลังเดินจากไป          
ผมไม่ไป ผมจะอยู่กับน้าเอื้อง
ไปอยู่กับคุณพ่อ แล้วน้าเอื้องจะไปหาทุกอาทิตย์ตกลงไหม?” ท่านดึงผมเข้าไปกอดแน่น ผมไม่เข้าใจผู้ใหญ่เลย ทำไมต้องไปหา ก็ให้ผมอยู่ด้วยสิ
ไม่เอาครับ ผมจะอยู่ที่นี่กับคุณตากับน้าเอื้อง รอแม่กลับบ้าน
น้องแทนต้องเรียนหนังสือ ถ้าไม่เรียนหนังสือก็ไม่เป็นเด็กดี แล้วแม่จะกลับมาได้อย่างไร?” ท่านใบหน้าเศร้าน้ำตาเลอะ
แค่เรียนหนังสือก็เป็นเด็กดีได้แล้วเหรอครับ
เรียนหนังสือด้วย น้องแทนเป็นผู้ชายใช่ไหมคะ?น้าเอื้องลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน
ใช่ครับ!
น้องแทนต้องโตเป็นลูกผู้ชายด้วยถึงจะเป็นคนดี ท่านจ้องหน้านิ่ง
แล้วแม่จะกลับมาหาใช่ไหมครับ?
น้องแทนต้องช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่านะลูก เราต้องแบ่งปันของที่เรามีมากกว่าให้กับคนที่เขาไม่มี เราต้องช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า ท่านจับไหล่ผมจ้องหน้า
“ครับ!” ผมพยักหน้ารับ พอดีเห็นเด็กผู้หญิงกำลังเดินผ่านไป ผมจึงวิ่งเอาขนมกับน้ำไปให้แล้ววิ่งกลับมา
อย่างนั้นแหละลูก ทำถูกแล้ว ทำบ่อย ๆ ให้เป็นนิสัยนะครับ!” ท่านยิ้มบอกทั้งน้ำตา 
ว้าย!ช่วยด้วย เสียงเด็กหญิงเมื่อสักครู่ร้อง ลิงวัดสองตัวกำลังเข้าแย่งขนมในมือเด็กหญิง
“หยุดนะ!” ผมก้มหยิบไม้ที่พื้นเดินเข้าไปฟาดใส่
เจี๊ยก ๆ ๆ!” เจ้าลิงตกใจวิ่งหนี ท่านยิ้มพยักหน้าเดินเข้ามา นั่งคุกเข่ากับพื้น...          
ลูกผู้ชายไม่รังแกคนที่ไม่มีทางสู้และปกป้องผู้หญิง น้องแทนจำไว้นะครับ แล้วแม่จะได้กลับมาหา
“บรื้น!  รถเก๋งสีดำคันใหญ่ปราดเข้ามาจอดข้าง ๆ          
“ฮือฮือ! น้าเอื้องมองไปที่รถคันใหญ่ แล้วร้องไห้หนักสะอื้นดึงผมเข้าไปกอดแน่น
น้องแทน!” เสียงหนักแน่นเรียกผมหันไปมอง
ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนนี้ ผมเคยเห็นสักครั้งสองครั้ง แม่เคยบอกว่าเป็นพ่อ ผมรู้สึกกลัววิ่งไปหลบหลังน้าเอื้อง
น้องแทนครับ! ไปกับคุณพ่อนะคะมือของท่านสั่นมาก
ไม่ไป! ผมไม่ไป! ผมจะอยู่กับน้าเอื้องผมกอดหลังน้าเอื้อง
แทน! แทนคะ!”
“หือ! เสียงไป่ไป๋นี่นา...
ผมสะอื้นลืมตาขึ้นมาน้ำตายังไหลอาบแก้ม เหนื่อยจวนเจียนจะขาดใจ หัวใจวูบวาบเต้นรัว นอนฝันถึงน้าเอื้องหรอกเหรอ? ภาพชัดเหมือนมันพึ่งผ่านไป
ฝันไม่ดีเหรอคะ? เราต้องไปกันแล้ว เธอบอกแล้วเดินออกจากห้องไป ผมนั่งใจหายกับฝันของตัวเองก่อนไปอาบน้ำแต่งตัว
                                         …………………………………………………………….


           
           หมู่บ้านชุมชนชาติพันธ์ชาวจ้วง อยู่ทางตอนใต้ของจีนแถวตอนเหนือของประเทศเวียตนาม บ้านพักคุณหมอออกมาชานเมืองไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก
ไป่ไป๋พามาเดินตลาดเป่ยซี ยามเช้าผู้คนคึกคักชาวบ้านออกมาจับจ่ายใช้สอย เราสองคนเดินไปหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้พี่ตุ๋ยกับพี่ซอนเปลี่ยน ผมคิดว่า พี่ซอนไม่รอดซะแล้ว ตอนนี้ลุ้นจูยอนคนเดียว
           เรื่องร้ายวิ่งเข้ามาประดังจนอึดอัดใจไปหมด ผมพยายามหลอกตัวเองว่าฝันไป มันแค่ฝันไม่ใช่ความจริง หัวใจของผมร้อนรุ่มอยากกลับบ้านไปหาน้าเอื้อง ถึงจะไม่ทันได้เผาศพแต่อย่างน้อยยังได้กลับไปกอดเถ้ากระดูกของแม่คนที่สอง                  
ไปกันเถอะ!” ไป่ไป๋เข้ามากอดแขนเดินคลอเคลีย
“อุดหนุนหน่อย” แม่ค้าในตลาดต่างมองแล้วยิ้มด้วยสายตาเป็นมิตร ผมหันไปมองอาหารคล้าย ๆ ป่อเปี๊ยะสด
“แทนเคยกินรึป่าวคะ! โป้จีเฝิ่น?” เธอถามเสียงใส
“ไม่เคยครับ”
“หม่าม้าบอกว่า มันเป็นอาหารเช้าของคนท้องถิ่นกว่างซีจ้วง” เธอจูงมือเดินไปยืนมองหน้าร้าน
“หม่าม้า! บอกว่าในประเทศจีนมีที่เดียว ต้องกินให้ได้”
แม่ค้าสาวกำลังเอาแป้งจากโม่หิน ราดลงบนกระด้งสีดำ แล้วเอาน้ำร้อนมาราดจนมันสุกก่อนจับมันม้วนเป็นเส้นแล้วหั่นเป็นชิ้น ใส่หมูใส่ผัก
“เอา 2 อันค่ะ” เธอรับของมาแล้วเดินทางกันต่อ
บรื้น...นน!! รถแฮมเมอร์สีเหลืองคันเก่ง แล่นมาจอดหน้าโรงพยาบาล
“แป้งมันนิ่มดีนะ อร่อยดี!” ผมอ้าปากรับโป้จีเฝิ่นชิ้นสุดท้ายเข้าปาก รสเค็ม ๆ เปรี้ยว ๆ ก็โอเค
“อร่อยใช่ม้า? เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปซื้อกินอีก” เธอตาแป๋ว ย้มมองผมกิน
สาวน้อยชาวชนเผ่าชาติพันธ์จ้วงเดินมาหา เครื่องแต่งกายชุดชนเผ่าถักทออย่างประณีต ตุ้งติ้งเครื่องประดับสั่นไหวกับท่าทางจริงใจดูช่างงดงาม เธอคุยกันสักครู่
ไป่ไป๋หันมายิ้มกว้าง...             
ฟื้นสองคนแล้วค่ะ เธอคว้าข้อมือผมจูงเข้าไปข้างในอย่างเร่งรีบ
ผิดแล้วค่ะ! ไม่ใช่ทางนั้นค่ะ!” เด็กสาวพาเราเดินเลี้ยวไปด้านขวามือผ่านสวนผลไม้เล็ก ๆ
ภายใต้ร่มเงาไม้ใหญ่รั้วรอบขอบชิด เราก้าวเข้าไปด้านในห้องสี่เหลี่ยมมีเตียงนอนคนป่วยฝั่งละ 5 เตียง พี่ตุ๋ยนั่งเก้าอี้ริมหน้าต่างข้างเตียงพี่ซอนทางมุมด้านขวาสุด
ไง?  พี่ตุ๋ยหันมายิ้มหน้าบานยกมือทัก ตามแขนมีรอยเขียวช้ำ
ผมเดินเข้าไปกอดคอจากด้านหลัง ใจสะท้านวูบวาบแอบถอนหายใจ ไม่รู้แกได้ดู we chat หรือยัง? แต่ดูจากอาการคงยังไม่รู้ข่าวเรื่องน้าเอื้อง กลับกลายเป็นผมเสียอีกที่ห้ามใจไม่ได้ พอเห็นหน้าพี่ตุ๋ยก็คิดถึงน้าเอื้อง น้ำตาไหลออกมาอัตโนมัติ
           ไป่ไป๋คงสังเกตเห็นอาการแปลก ๆ เข้ามาจับแขนผมบีบเบา ๆ
แต่มันช่วยอะไรไม่ได้เลย น้ำตาพรั่งพรูจนสะอื้นฮัก แต่พยายามกัดฟันหลบหลังพี่ตุ๋ยไม่ให้เขาเห็น พี่ซอนนอนมองอยู่บนเตียงขมวดคิ้ว ส่งสายตาสงสัย
นึกว่าตายไปแล้วซะอีก กระดูกเหล็กเหมือนกันนี่นา” เขายังหันไปแซวไป่ไป๋ แต่เธอเงียบไม่โต้ตอบ
เจ็ทโด้! รั่วไปเลยเร้อ?พี่ตุ๋ยยังสนุกกับการแหย่ เธอก็ได้แค่ยิ้ม สายตาเธอเศร้าอย่างเห็นได้ชัด
เจ็ทโด้เป็นอะไรโดน เจ้าแทนปล้ำเหรอ? เดี๋ยวผมจัดการให้ยิ่งเขาหัวเราะสนุกสนาน ผมยิ่งไม่กล้าพูดพยายามหลบหลังเขาไว้
เป็นอย่างไรบ้างคะ? ยังเจ็บอีกไหมคะ?” ไป่ไป๋โน้มตัวลงไปถาม
           
อูย!! ขนลุก พูดดีแล้วกลัว เจ็ทโด้ทำไมวันนี้เรียบร้อยจังเลย ไม่สนุกอ่ะ! สงสัยตัวปลอม เขาหันไปพยักหน้าขำกับพี่ซอนที่ถูกผ้าพันเป็นมัมมี่ เห็นแต่ลูกตากะพริบปริบ ๆ
ใครพามาที่นี่?” เขาพูดอยู่คนเดียว                
หนูเองค่ะ!
พามาได้ไง?”              
หม่าม้าอยู่ที่นี่
 พี่ตุ๋ยพยักหน้ารับรู้ แต่เขากลับขมวดคิ้วสงสัย..
"เจ็ทโด้ตกลงบ้านเธอไม่ได้อยู่อู่ฮั่นเหรอ? งงเหมือนกันนะชีวิตเธอเนี่ยะ?เขายังไม่เลิกกวนง่าย ๆ
เรื่องมันยาว คุณไม่อยากรู้หรอก!” เธอตอบแล้วนั่งลงบนเตียงพี่ซอน
ซอน! โอเคมั้ยคะ?เธอก้มลงไปถาม เขากะพริบตาแทนคำตอบ
ผมได้แต่คิดในใจว่าจะให้เขารู้เรื่องเองดีหรือจะบอกเขาดี  ตัดสินใจไม่ถูกจะทำอย่างไร? ในหัวใจร้าวรานเหมือนไฟรน
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงขัดจังหวะเข้ามา
มีข่าวดีมาบอกค่ะ!” หม่าม้าก้าวเข้ามาในห้องพร้อมรอยยิ้มสดใส  เธอเป็นผู้ใหญ่ที่จัดว่าสวยสง่ามาก รูปร่างดีไม่แพ้ลูกสาว  
ไป่ไป๋วิ่งเข้าไปหา...                  
ข่าวดีอะไรคะ?  จูยอนฟื้นแล้วเหรอ?” เธอท่าทางดีใจดวงตาแดงน้ำตารื้น               
ใช่แล้ว! เธอเป็นนักสู้ตัวจริง ท่านบอกข่าวดี 
“เย้! จูยอนรอดแล้ว! ไป่ไป๋น้ำตาไหลดีใจกระโดดโลดเต้น ผมยิ้มอย่างกล้ำกลืนทั้งดีใจและเสียใจ ในใจนึกอยากให้น้าเอื้องฟื้นขึ้นมาด้วย ถ้าน้าเอื้องฟื้นด้วยก็ดี
มานี่หน่อยค่ะ!” เธอจูงมือคุณแม่มาใกล้ พี่ตุ๋ยหันมองแบบแปลกใจ
หม่าม้าของหนูค่ะ สวยมั้ย?” เธอแนะนำหน้าทะเล้น พี่ตุ๋ยค่อย ๆ ขยับลุกขึ้นด้วยความลำบาก
ท่านวิ่งเข้าไปจับแขน...
ไม่เป็นไรค่ะ! ไม่ต้องลุก รบกวนคุณแล้วท่านยิ้มแล้วประคองให้นั่งลง  พี่ซอนทำได้เพียงกะพริบตา แววตาของเขาแสดงความขอบคุณ
หม่าม้า! ขอบคุณมากเลยครับ ที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้ ขอโทษด้วยนะครับ  แนะนำตัวช้าไปพี่ตุ๋ยนอบน้อมอย่างสุภาพ ก้มหัวผมกระจาย
เออเว้ย! พวกเขาเรียกฉันว่าหม่าม้าทุกคนเลย ฮ่า!ฮ่า! ได้ลูกชายมาอีก 3 คน ฝากดูแลน้องด้วยนะ ยายนี่ดื้อ! รบกวนช่วยสอนน้องด้วย” ท่านหันไปยีหัวลูกสาว
“รับ ๆ ไปเถอะ...ลูกชายตัวเท่าควายกันทุกคนแล้ว จะได้ใช้งานได้เลย เสียดายนะบ้านเราไม่ได้ทำนา” เธอหันไปยิ้มล้อกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า! พี่ตุ๋ยลั่น ผมหัวเราะไม่ออก
ไปหาจูยอนดีกว่า? ไป่ไป๋ขยับจะเดิน แต่โดนหม่าม้าดึงมือไว้
"ห้ามเยี่ยมค่ะ! คุณหมอสั่งมา ถ้าเรียบร้อยดี จะพามาพักฟื้นที่นี่ ตอนนี้รอไปก่อน ฉันไปล่ะ! แค่แวะมาบอกข่าวดี  ไป่ไป๋! มากับฉันหน่อย  ท่านกอดคอลูกสาวเดินกลับออกไป
“เฮ้อ! ผมถอนหายใจหลายครั้ง ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร? สุดท้ายก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริง ขยับไปนั่งบนเตียงตัดสินใจต้องบอกกับเขาก่อนที่ใจของผมจะพังมากไปกว่านี้ ฮึดรวบรวมความกล้า
พี่ตุ๋ย! ผมมีเรื่องจะบอกแค่สบสายตาของเขา ผมก็ใจจะขาด กัดกรามแน่น จุกอกพูดไม่ออก
มีอะไร ว่ามา? มึงนี่ โชคดีตลอดเลยนะ ไม่เคยเจ็บตัวกับเขาสักทีเขายังอารมณ์ดี
เอ่อ!..เอ่อ!.. มันร้าวใจ ยากมากที่จะเปิดปาก ผมมองหน้าเขาด้วยความเศร้าใจ เขารักน้าเอื้องมาก ผมจะพูดยังไงดี   
อย่ามองอย่างนั้นสิวะ! ใจไม่ดี มีอะไร?”เขาถามเข้าจังหวะพอดี
เรื่องน้า...เอื้องผมพูดได้แค่นั้น น้ำตาก็ไหลพูดต่อไม่ได้ ก้มหน้าลงสะอื้นลำคอจุกด้วยก้อนบางอย่างหายใจขัดไปหมด
เจ็ทโด้! มึงเป็นอะไร? เอื้องทำไม?” พี่ตุ๋ยลืมตัวลุกขึ้นยืน
           
โอ๊ย!” แต่ก็เจ็บจนเขาต้องทรุดนั่งลงไปอีก
มีอะไร! เกิดอะไรขึ้น มึงร้องไห้ทำไม?” เขาร้องถามอย่างร้อนใจ
ผมไม่กล้าสบตา ความรู้สึกเสียใจมันพลุ่งพล่านจนทำอะไรไม่ถูก น้าเอื้องยังสาวอายุแค่ 35 เองต้องมาตายจาก ต่อไปผมจะไปหาเธอได้ที่ไหน เวลาคิดถึงผมต้องทำอย่างไร?
“ฮือ!ฮือ!ฮือ!ฮือ! ผมหยิบโทรศัพท์ส่งไปให้แล้วร้องไห้แทบขาดใจอีกครั้ง ที่พักใจคนสุดท้ายจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ไม่มีโอกาสได้เห็นภาพสุดท้ายของน้าเอื้อง ภาพต่าง ๆ ลอยเข้ามามากมาย ขุดมาตั้งแต่สมัยเด็ก สมองเหมือนแกล้งขุดหาภาพที่ลืมไปแล้วมาจนได้         
“หือ! เขาเลื่อนโทรศัพท์ดูอย่างเร็ว สีหน้าเครียดกัดกรามแน่น สักพักแกก็นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาแดงก่ำกัดฟันอย่างขมขื่นใจ
 “ฮือ!ฮือ!ฮือ!ฮือ! ผมเข้าใจความรู้สึกพี่ตุ๋ยรักน้าเอื้องมาก
“...............” ทุกคนนั่งเงียบไม่มีการพูดคุยกันจนเวลาผ่านไปเย็นคล้อยเกือบมืดอีกครั้ง         
ทานข้าวกันค่ะ!” เสียงใสของหม่าม้าดังมาก่อนประตูจะเปิด ไป่ไป๋ผลักประตูเดินยิ้มกลับมา
อุ๊ยตายแล้ว!..เกิดอะไรขึ้น?” ท่านเอามือปิดปากด้วยความตกใจ  ก่อนจะหลบให้เด็กสาวเข็นรถอาหารเข้ามา
บรรยากาศในห้องสี่เหลี่ยมเศร้าสร้อย เงียบหงอยมีเพียงเสียงภาชนะก็อกแก๊กที่เด็กสาวจัดวางของ พี่ตุ๋ยนั่งก้มหน้าข้างเตียงของพี่ซอน เขานิ่งไม่ขยับตัวนานแล้วเส้นผมยาวตกลงมาปิดบังใบหน้า
เอารถอาหารจอดไว้ที่นี่ค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการเองไป่ไป๋หันบอกหม่าม้า
แกไหวเหรอ? ตัวแกเขียวไปหมดเลยนะสายตาท่านมองลูกสาวด้วยความห่วงใย              
หนูไม่เป็นหรอกม้า แค่ช้ำในนิดหน่อย เธอพยายามปกปิดสีหน้า ท่านส่ายหน้าแล้วเดินจากไปอีกคน
ไป่ไป๋จัดการกับอาหารยกมาให้พี่ตุ๋ย                       
กินข้าวสักนิดนะคะ!” เธอจัดแจงเตรียมป้อนข้าว แต่เขาส่ายหัวไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา                      
นิดนึงนะ! อะอ้าม!” เธอคุกเข่าเอาช้อนไปจ่อปาก แต่เขานิ่ง ไป่ไป๋ก็เจ็บตัว พลาสเตอร์แปะเต็มตัว เธอหน้าเสียทุกครั้งที่ขยับตัว            
คุณเป็นพี่ใหญ่ของพวกเรานะ กินคำนึงก็ยังดีเธอแตะมือเบา ๆ  พี่ตุ๋ยยังคงส่ายหน้า                    
แทนก็กินด้วยนะ คำนึงก็ยังดีเธอคงเข้าใจสภาพของพวกเรา  ความด้านชาเข้าครอบงำจิตใจของพวกเรา  มันไม่อยากอาหาร 
เธอพยายามอ้อนเราทั้งสองคนอยู่นานก็ไม่สำเร็จ จึงหันไปป้อนให้พี่ซอนก่อน หลังจากจัดการอาหารให้พี่ซอนแล้ว จึงหันกลับมาหาอีกครั้ง        
หนูเป็นห่วงจริง ๆ นะคะ อย่าทำอย่างนี้สิ เธอเริ่มหน้าเสียตาแดงอีกคนแล้ว
ถ้าพวกคุณเป็นอะไรไปอีก หนูจะทำยังไง? หนูอยู่ไม่ได้นะ เธอเริ่มร้องให้สะอึกสะอื้นเอาช้อนทิ่มข้าวไปเรื่อย
คำเดียวนะ!” ดวงตาแดงน้ำตาคลอ สายตาอ้อนวอนของเธอทำให้ผมรู้สึกผิด ผมพยักหน้าตอบรับ
ขอน้ำหน่อยครับ!”
เธอรีบกุลีกุจอรินน้ำส่งให้ ผมถือแก้วน้ำไว้
ขอกินข้าวหน่อย ผมร้องขอเธอรีบลุกเตรียมจะหาให้ แต่ผมยกมือห้ามไว้แล้วชี้ไปที่ถ้วยของพี่ตุ๋ย
เธอพยักหน้าอย่างกล้ำกลืนตักข้าวป้อนเข้าปาก ผมพยายามเคี้ยวและกลืนแต่มันกลืนไม่ลง ต้องกินน้ำตามถึงจะลงได้ แล้วโบกมือเป็นสัญญาณว่า พอแล้ว
เจ็ทโด้คะ!
เงียบ............พี่ตุ๋ยไม่กระดิกตัวเลย เส้นผมยาวห้อยปิดหน้า   
                                               ……………………………………………..
พวกเราขอนอนกันในห้องพักคนไข้ ไป่ไป๋คงไปเล่าเรื่องของพวกเราให้หม่าม้าฟังแล้ว ทางคุณหมอก็อนุญาตและให้เด็กเตรียมอาหารไว้ให้ตอนกลางคืน
หม่าม้าเดินเข้ามาหาลูกสาว...            
แกจะนอนกับเขาที่นี่เหรอ?” ท่านถามลูกสาวก่อนจะกลับ
ค่ะ!”เธอตอบสั้นๆ
มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น... ท่านพูดแค่นั้นแล้วก็หยุดไป
ไป่ไป๋พยักหน้าแล้วยิ้มให้ท่าน
ถ้าไม่มีพวกเขา หนูก็ไม่ได้กลับมาแล้วค่ะ หนูทิ้งพวกเขาไม่ได้ค่ะ สาวน้อยใจดีอย่างที่ผมคิดไว้ ถึงจะปากร้ายเอาแต่ใจ เมื่อถึงเวลาสำคัญเธอไม่ใช่เด็กงอแงและไร้ความรับผิดชอบ เธอเป็นที่พึ่งของเพื่อนในยามยากได้อย่างดี
“เฮ้อ! ผมอึดอัดใจกับปัญหาสารพัน อยากให้ทุกอย่างมันผ่านไปเร็ว ๆ ปัญหาวิ่งเข้ามาต่อเนื่อง เหมือนพระเจ้าได้วางบทบาทเอาไว้ ให้พวกเราต้องเจอแต่ความยากลำบาก ต้องผ่านผ่านบททดสอบนี้อีกนานแค่ไหนกันนะ                       
                                                        ...................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,861 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,977 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม