The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 3 ตอนที่ 20

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 3 ตอนที่ 20
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 3
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 9 ก.พ. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


รัฐฉาน
มุมมองสายตาไป่ไป๋

มีนาคม ค.ศ.2021

หมู่บ้าน มงยัง

การเดินทางครั้งใหม่ของฉันเริ่มต้นอีกครั้ง นาตาลีของฉันเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ คือฉันเริ่มรู้สึกมีความหวัง ก่อนกลับอู่ฮั่น แทนชวนมาเยี่ยมบ้านของซอนที่ฉานสเตท ฉันไม่เคยไปมาก่อนรีบตกลงทันที อยากเห็นว่า เขาเป็นอยู่อย่างไรบ้าง? บาดแผลหายดีหรือยัง?           

“บรื้น...นน!!รถแล่นผ่านประตูกำแพงสูงเข้าจอดข้างโรงโต๊ะสนุกเกอร์

“อู้หู! กลุ่มวัยรุ่นชายท่าทางเอาเรื่องเดินปรี่เข้ามาหา ท่าทางพวกเขาน่ากลัว หน้าตาแต่ละคนเหมือนโจรฆ่าข่มขืน

“ไหม่สุงค่า!” แทนเดินลงไปทักทายกลุ่มมหาโจร พวกเขาท่าทางไม่เป็นมิตรพร้อมที่จะขย้ำคอ สายตาระแวงมองตรวจสอบ ลูกน้องของซอนหน้าตาดุ ๆ ทั้งนั้นเลย ที่นี่ดูเหมือนซ่องโจรมาก//อ๋า! ซอนเป็นหัวหน้าโจรนี่เอง...//

บ้านของซอนร่มรื่นเงียบสงบ เย็นสบายในรั้วรอบขอบชิด ด้านหลังเป็นป่าเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ปรับปรุง รอบนอกบ้านเป็นภูสูง อากาศหนาวเย็นมากกว่าบ้านเจ็ทโด้...

“ซอนล่ะคะ! หันไปมองเจ้ารถบรรทุกสีเทาแดงคันใหญ่ของเขาแล้วก็ยิ้มให้กับมัน ฉันยังจำมันได้ดี

“สงสัยอยู่ในบ้าน เราเข้าในบ้านกัน” แทนจูงมือเดินเลาะผ่านบ่อน้ำทางขวา ด้านหลังเป็นสวนป่า

ฉันดึงแขนให้หยุดเจรจา...

“เรายังคุยกันไม่จบเลยนะคะ!

“เรื่องอะไรอีก?” เขาเมินหน้าหนี น้ำเสียงไม่ดี

“ก็จะเรื่องอะไรล่ะ?” อย่ามาทำน้ำเสียงไม่พอใจนะ เดี๋ยวโดน.

“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ?”

“คุณเป็นแฟนกับน้องแหม่มเหรอ? หนูถามหลายครั้งแล้วนะ เมื่อไหร่จะตอบตรง ๆ สักที?” ฉันยังขุ่นใจไม่หาย ชวนเขาทะเลาะมาทั้งทาง แค่ข้องใจเฉย ๆ ไม่ได้พิศวาสอะไรเขาหรอกนะ

ขับรถข้ามมาประเทศที่ 3 แล้วยังไม่ได้คำตอบเลย ไม่รู้ล่ะ!หงุดหงิด เขาตอบยียวนมาตลอดทาง ไม่ชอบใจเลย แต่ฉันไม่ได้ชอบเขาหรอกนะ         

“คุณจะรู้ไปทำไม? เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ผมยังไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของคุณเลย คุณเคยมีแฟนหรือเปล่า? คุณผ่านผู้ชายมากี่คนแล้ว? ผมไม่เคยก้าวก่ายและไม่สนใจกับอดีตของคุณ” เขาโยกโย้อย่างนี้ตลอด ยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิด ตอบไม่เคยตรงคำถาม

ตอนอยู่ที่บ้านของเขา ฉันก็ไม่กล้าถามมาก น้องแหม่มก็เกาะเป็นตัวทากเลย ต้องยอมอดทนดูเขาล้อเล่นกัน รำคาญลูกตามาก //ฉันไม่ได้คิดอะไรหรอกนะ//

จากนี้ฉันไม่ยอมออมมือให้แล้ว กลับเข้ามาในประเทศของฉันแล้ว ฉันเป็นใหญ่...

“อยากรู้อะไรก็ถามมาสิ หนูตอบทุกเรื่องอยู่แล้ว?” ฉันดึงแขนให้หยุดเดิน ทะเลาะกันก่อนไปหาซอนดีกว่า

เขาก้มหน้ามาจนจมูกเกือบชนกัน

“เราเป็นอะไรกันเหรอ?” เขาถามซะฉันไปไม่เป็นเลย อยากจะข่วนหน้าเหลือเกิน

“ก็..ก็เพื่อนกันไง คุณต้องบอกหนูทุกอย่างสิ ปกปิดเรื่องส่วนตัว อย่างนี้ไม่เห็นดีเลย คุณเคยบอกกับพวกเราว่ายังไม่มีแฟน แล้วแหม่มเป็นใคร?” ฉันถามมาตลอดทาง เพราะไม่ชอบคนโกหก /ฉันเป็นห่วงนายหรอกนะ กลัวว่าจะโดนยิงตายซะก่อน เที่ยวอ่อยสาว ๆ แบบนี้มันไม่ดี / ตั้งแต่อยู่บ้านเขาแล้ว กัดฟันทุกวันอดทนมาแรมเดือน ไม่ได้หึงหรอกนะ แค่อยากรู้เฉย ๆ

“แหม่ม! เป็นลูกสาวของเจ็ทโด้ เป็นน้องสาวที่น่ารัก เรียนเก่งด้ยนะ” เขายิ้มบอกแล้วเดินต่อ จะกวนประสาทไปถึงไหนกัน?

“แล้วทำไม? น้องแหม่มถึงบอกว่าเป็นแฟนกับคุณ.. ฮื้อ?” ฉันจำได้แม่น ดึงแขนไม่ให้เดิน เดี๋ยวเจอซอนแล้วพูดเรื่องนี้ไม่ได้          

“ก็ผมเป็นแฟนเธอ แต่เธอไม่ใช่แฟนผมนี่ครับ รู้จักมั้ย FC?” เขาลอยหน้า ยิ้มกริ่ม....กวนตีนจริง

“อ้าว! คุณเอาใจ พาไปเที่ยว ดูหนัง ไม่เป็นแฟนแล้วทำอย่างนั้นทำไม? ใครเขาไปดูหนังกับ FC กัน” ฉันหงุดหงิดคันหัว FC ของฉันเยอะแยะ

“ทำไมผมต้องเหมือนใคร ผมยังเคยคิดแคมเปญอาบน้ำกับ FCเลย ตั้งแค้มป์ในป่าด้วยกัน” เขาตอบชิวมาก อีตานี่น่ากลัวเอาอกเอาใจผู้หญิงไปหมด ปากหวานจนยายแหม่มนั่น หลงรักหัวปักหัวปำ

นาตาลีก็อีกคนที่เพี้ยนไป เพราะเขาเอาใจเก่งอย่างนี้นี่เอง ดีนะ! ที่ฉันเป็นคนระวังตัว /ฉันฉลาด นายหลอกไม่ได้หรอก/

“น้องแหม่ม อยากเรียนรู้หลายอย่างจากผม เธอน่ารักดี ขยันเรียนและมีเป้าหมายชัดเจน ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ผมก็ทำ ความรู้มีไว้แบ่งปัน  ประสบการณ์มีไว้เล่าสู่กันฟัง” เขาเสยผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

ฉันหมั่นไส้จัง ทำไมฉันไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด ทำไมฉันต้องหงุดหงิด?

“คุณไปให้ความหวังเด็กทำไม น้องยังเรียนหนังสือไม่จบเลย?” ฉันไม่เห็นด้วย เด็กในวัยเรียนก็ไปหลอกเขา ปล่อยให้คิดเองอย่างนี้ผู้หญิงเข้าใจผิดเปล่า ๆ

“ผมให้ความหวังเมื่อไหร่? ผมไม่เคยบอกรักแหม่ม ผมไม่เคยล่วงเกินน้อง คุณอย่าคิดไปเองสิ ใส่ร้ายมากไปหรือเปล่า?” ดูสิ!..ยังมาแถข้าง ๆ คู ๆ อีก ไอ้ผู้ร้ายปากแข็ง แถมยังมาหาว่าฉันปรักปรำ ก็ฉันเห็นกับตาตัวเองนี่         

 “คุณนี่!..หนูขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า นิสัยแย่มาก เจ้าชู้มาก” จมูกรู้สึกคัน ปากก็เริ่มจู๋อีกแล้ว ไม่รู้เป็นอะไร?

“คุณคิดแบบนั้นเหรอ? ถ้างั้น!...ผมก็ไม่มีอะไรต้องอธิบาย น้องแหม่มไม่ได้คิดว่า ผมแย่ขนาดนั้นหรอก” เขายียวนกวนประสาทชะมัดยาด มองตาไม่มีสลด /เอาซะดีมั้ย! หึ๋ย! กัดหูซะดีมั้ย?/

“มีคนอื่นอีกหรือเปล่าที่เป็นเหมือนแหม่ม บอกมาให้หมดหนูจะได้ไม่ต้องถามอีก” ฉันก็แค่ต้องการความโปร่งใสของเพื่อนเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดอย่างอื่น //ทำไมใบหน้ามันตึง ๆ จัง ร้อนผ่าวไปหมด สงสัยอากาศร้อน//           

“ผมตกได้เยอะเลย ในด้อมมีอีกเพียบ” เขาไม่มีลังเลเลย

“หึ๋ย! ฉันกัดฟันขยุมมือ เหลืออดแล้วนะ หน้ามืดลืมตัวผวาเข้าไปคว้าหู

“โอ๊ย!...แทนร้องลั่นตัวเอียง            

“นี่แน่ะ! ตอบดี ๆ” ฉันกัดฟันจ้องหน้า            

“ผมเจ็บนะ! ถ้าผมบอกว่า ไม่มี คุณก็ไม่เชื่อ บอกว่ามีเยอะ คุณก็ไม่เชื่ออีก อยากให้ตอบว่ายังไงไม่ทราบ?” เขาก็ยังกวนประสาทอยู่ดี          

“หวังว่า จากนี้ไปจะไม่มีอีกนะ หนูไม่ได้คิดอะไรกับคุณ แค่จะได้ระวังตัวเวลาต้องเดินด้วย เดี๋ยวสาว ๆ ของคุณจะมาแหกอกหนู” ฉันร้อนจังเลย ทำไมบ้านซอนร้อนอย่างนี้ ฤดูหนาวนี่นา?

เขาหันมาจับไหล่ของฉันหมุน...

“เดี๋ยวนะ! เรามาทบทวนข้อตกลงกันใหม่ดีมะ? ผมรู้สึกเหมือนโดนแทรกแซงทางจิตใจ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์จ้องหน้า ฉันพยักหน้ารับ...ยกเลิกข้อตกลงบ้า ๆ นั่น แล้วตกลงกันใหม่ดีกว่า          

“จำได้ไหม? คุณตกลงอะไรกับผมบ้าง ผมทำตามข้อตกลงมาตลอด ไม่เคยผิดสัญญากับคุณเลย” เขาเหล่ตามอง

ฉันพยักหน้า...

“ก็ใช่! มันต้องเป็นงั้นอยู่แล้ว ถามทำไมอย่าเรื่องเยอะสิ?” ฉันชักเสียว อย่ามายุ่งกับกฎของฉันนะ

เขาหันมาจ้องหน้า แล้วพูดใส่...

“ตรงนี้ไม่มีนาตาลีแล้ว ผมไม่ต้องคอยนับสามแล้วขานรับแล้ว ผมจะคุยกับใครก็ได้ ชีวิตของผมไม่เกี่ยวกับคุณเลยเข้าใจมั้ย? เราไม่ได้เป็นอะไรกัน! นี่กล้าตะโกนใส่หน้าเลยเหรอ?

ฉันคิดในใจ..ก็ใช่! ชีวิตของนายไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ฝันไปเถอะที่จะหนีรอด...

เห่ย!..นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้บ้านเมืองเปลี่ยนไปแล้ว เราต้องออกกฎกติกากันใหม่สิ มันจะได้ทันสมัย เดี๋ยวหนูคิดก่อนนะ!” เอาไงดีวะ! มันคนละสถานการณ์เอามารวมกันไม่ได้ จะมั่วยังไงดี?

เขาเหล่มองด้วยหางตา...             

“จะตั้งกฎใหม่เหรอ? ยกเลิกไปเลยดีกว่า ไม่ต้องมีกฎแล้ว กฎผูกขาด ผมเสียเปรียบ” เขาเสนอความเห็นที่ไม่เข้าท่า

“ไม่ได้นะคะ! ขับรถยังต้องมีกฎจราจร เราจะร่วมทางกันได้อย่างราบรื่น ไม่มีกฎไม่ได้นะคะ ผู้ร่วมทางไม่สบายใจ” ฉันไม่ได้เอาเปรียบเป็นลูกผู้หญิงต้องระวังตัว และต้องได้สิทธิ์เลือกก่อน มันเป็นกฎธรรมชาติ

“หนูเป็นผู้หญิง หนูเป็นคนตั้งกฎ ตกลงตามนี้นะ ปิดการประชุม!ฉันรีบสรุปขั้นตอนเพราะกลัวว่า เขาจะเสียเวลาคิด

“เอางั้นเลยเหรอ เป็นผู้หญิงตั้งกฎได้เลยเหรอ?” เขาเหล่ตามองอีกแล้ว //กวนมาก

Lady first กฎนี้ป้องกันตัวหนูเพื่อความปลอดภัย”

“เพื่อความปลอดภัยหรือเพื่อเอาเปรียบ! พูดไม่คิดเดี๋ยวโดน!

“ถ้าหนูไม่ตั้งจะใครตั้ง ถามหน่อย? ถ้าคุณตั้งกฎเข้าข้างตัวเอง หนูก็แย่น่ะสิ คุณไม่อยากทำอย่างนั้นหรอก ใช่ม้า? หนูเป็นผู้หญิงนะ!” ฉันรีบสรุปจะได้รีบเข้าไปหาซอน คุยกันนานไปแล้ว

เขาหลบตา

“ก็ได้! ว่ากฎมาสิ ขอฟังหน่อย” เขาไม่เคยเถียงทันใครหรอก อีตานี่...หัวช้า          

“ห้ามคุยกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากหนู หรือคุยได้เฉพาะกับคนที่หนูเห็นสมควรเช่น หม่าม้า!” ฉันเสนอกฎที่เป็นธรรมที่สุด คิดมาเพื่อเขาโดยเฉพาะจะได้ไม่เป็นขี้ปากชาวบ้าน เที่ยวไปคุยกับคนที่มีลูกมีผัวแล้วอาจจะเป็นอันตราย

เขาหันมองหางตายิ้มมุมปาก สายตาอย่างนี้มีอะไรอีกล่ะ?...

“แล้วมันเกี่ยวกับความปลอดภัยตรงไหนไม่ทราบ? ผมไปคุยกับคนอื่นมันเกี่ยวกับคุณยังไง?”

เอ๊า! เผื่อ FC ของคุณมาหึงหนู แล้วทำร้ายหนูล่ะ เออน่า! ไม่ยากหรอกแค่ทำตามก็จบ อย่าเรื่องเยอะสิ! ฉันแถสีข้างถลอก

"ข้อต่อไป ว่ามาสิ” สายตาของเขาระแวงเหลือเกินนะ

“ในบางเวลาเราอาจจะต้องแยกกันไปทำงาน ถ้าเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน คุณต้องโทรหาหนูทุกชั่วโมง หนูจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของคุณ จะได้เข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที” ที่จีนน่ากลัว ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันจะได้ช่วยเหลือทันท่วงที //ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย เชื่อสิ!//

“ทำไมผมต้องทำขนาดนั้น? ผมไม่ใช่ลูกจ้างของคุณสักหน่อย ทำเหมือนผมเป็นพวกขับรถส่งของไปได้ ติด GPS ด้วยเลยดีมั้ย?”

“อ้าว!ได้เหรอ? ติด GPS ได้เหรอ เอางั้นก็ได้! ฉันเห็นดีงามด้วย

“ไม่เอา! ผมประชด!

“บ้านหนูมีอันตรายทุกฝีก้าว มีคนตั้งใจเดินให้รถชนบ้างล่ะ พวกล้วงกระเป๋าก็มี แกล้งตายก็มี จี้ปล้นก็มาก มีกลโกงทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวไม่รู้ คุณอย่าเถียงสิ ติด GPS ด้วยก็ดีจะได้สบายใจ”

“งั้นคุณก็เอาโทรศัพท์ที่จูยอนให้มาไว้กับผม แล้วคุณก็นั่งดูคอมฯไป เอามั้ย?”

“ดีมาก! ฉลาดมากหนุ่มน้อย”

“ฮึ! เขาค้อนปะหลับปะเหลือก

ดูสิ! ฉันปรารถนาดีขนาดนี้ ยังจะมองค้อนอีก เดี๋ยวแม่ควักลูกตาซะเลย ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมต้องให้อธิบายด้วย แค่ให้โทรศัพท์มาหาแค่นี้ มันยากตรงไหน ต้องให้วุ่นวายกันไปหมด

 “หนูไม่ได้อยากรับโทรศัพท์ของคุณหรอกนะ หนูน่ะ! มีแต่คนเข้าคิวมาขอเบอร์ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องไปช่วยนาตาลีด้วยกัน หนูก็ไม่ทำอย่างนี้หรอก” เชอะ! ไม่อยากคุย

ฉันคว้าข้อมือจะดึงเขาเข้าบ้าน คุยกันไปก็มากเรื่อง...           

“เอาตามนั้นแหละ! ไปหาซอนดีกว่า”

เงาสะท้อนกระจกประตูบ้าน เห็นเขาเดินเกาหัวสีหน้ายุ่ง เกาหัวขนาดนั้นคงต้องสระผมแล้วมั้ง? ฉันเอื้อมมือจะผลักประตูเข้าไป 

แต่...เขาจับมือฉันไว้...          

“เดี๋ยวสิ!..ไม่เอาครับ ผมคิดว่ามันเป็นสัญญาทาสมากกว่า” เขาบอกเสียงแข็ง

“เอ๋า!โลเล! ฉันฟึดฟัดขัดใจ อยากจะกัดคอเขาสักรู อีตานี่ทำไมเข้าใจอะไรยากจัง สงสัยต้องเปลี่ยนแผน เข้าโหมดผู้หญิงอ่อนแอ ขี้น้อยใจดีกว่า...

“แทนคะ! ความปรารถนาดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หนูจะตอบแทนคุณได้บ้าง คุณก็ปฏิเสธ หนูเป็นห่วงคุณมากถึงต้องตั้งกฎแบบนี้ ถ้าคุณเป็นอะไรไปในระหว่างที่อยู่กับหนู หนูจะมองหน้าเพื่อนคนอื่นอย่างไร? หนูเสียใจที่ความปรารถนาดีของหนูไร้ค่า” เสียงสองเสียงสามใส่เต็มพิกัด

นี่แนะ! เจอกับไป่ไป๋การละครหน่อยเป็นไง ฉันดึงมาเข้าสู่โหมด ดรามา

เขาขมวดคิ้วเอียงคอไปมาสายตาเหมือนครุ่นคิด...          

“ไม่เอา! ดีกว่า!

ฉันหลุดบท ตวาดแวด...             

นี่! คุณจะมากไปแล้วนะ! ตกลงกันแล้วก็ตามนั้นแหละ เป็นผู้ชายทำไมโลเลอย่างนี้ ซอน! ซอนคะ!หนูมาเยี่ยมค่ะ” ฉันสะบัดหน้าผลักประตู เปลี่ยนเลนเถอะเดี๋ยวโดนเขาจับได้

“ไม่เอาหรอก ผมไม่เล่นกับคุณ ๆ เอาเปรียบ” เขาดึงแขน 

ฉันเอาเปรียบตรงไหน? ฉันเอาเปรียบตรงไหน? ฉันไม่เข้าใจ

“หนูก็จะปฏิบัติตามนั้น หนูจะไม่คุยกับผู้ชายคนไหนเลย ยกเว้นกับคุณคนเดียว พอใจหรือยัง? ชอบทำให้อารมณ์เสียอยู่เรื่อย ซอนคะ! ซอน! ฉันจริงใจกับนายเห็นไหม ยอมอยู่ใต้กฎเดียวกัน          

เขาหมุนตัวเกาหัวเดินผลักประตูตามเข้ามา ซอนนั่งยิ้มบนโซฟา เขาคงเห็นเราแล้ว แต่ไม่ยอมออกมาต้อนรับ

“ทะเลาะกันจบแล้วเหรอ?” เขาหัวเราะเบา ๆ ฉันรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว แทนอมยิ้มส่ายหน้าเขิน ๆ

“ซอนคะ! เจ็บอีกไหม ขอหนูดูหน่อย” ฉันเข้าไปนั่งข้างจับใบหน้าเขาพลิกดู เอาไฟส่องในปากแผลหายสนิทแล้ว ดีใจจังเลย ตอนนี้ลักยิ้มของซอนใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

“ผมหายแล้ว! ขอบใจนะน้องสาวที่ยอมเจ็บตัว ช่วยมากอดผมไว้ ผมเป็นหนี้ชีวิตคุณ” เขาลูบหัวฉันเบา ๆ สายตาอบอุ่นแบบนี้เหมือนหม่าม้ามองเลย ถึงฉันจะยังเด็กแต่ฉันก็พอมองคนออก สายตาของชายหนุ่มทั้งสามคนนี้อบอุ่นเหมือนกัน

“ไปไงมาไง ถึงมาโผล่ที่นี่?” เขาลุกไปหยิบน้ำมาวางให้ 

แทนหันไปหา...

“ผมจะกลับไปช่วยนาตาลี แวะมาเยี่ยมพี่ก่อน” แทนพูดอย่างนอบน้อม

เขาพยักหน้าเบา ๆ

“ระวังตัวดี ๆ นะ... เฮ้อ!” ท่าทางเขาไม่เห็นด้วยกับพวกเราเลย

ฉันลูบขาของเขาเบา ๆ...

“ใครดูแลคุณคะ? ไม่เห็นมีพยาบาลเลยสักคน” ฉันแปลกใจเท่าที่สังเกตบ้านนี้มีแต่ผู้ชาย ถ้าบอกว่า ตรงนี้เป็นซ่องโจรเรียกค่าไถ่จะเหมือนมาก          

“มันเล่นสนุ๊กฯกันอยู่นั่นแหละ พยาบาลหน้าโหดของผม” เขาโบ้ยปากออกไปนอกบ้าน

“หือ! ฉันหันขวับไปหาแทน

“เห็นมะ! ซอนยังไม่พาหญิงเข้าบ้านเลย นี่! ถ้าคุณป่วย สาว ๆ คงเต็มบ้าน เสือผู้หญิงชัด ๆ” ฉันเตือนเขาเพราะมันจะวุ่นวายไม่ได้พักผ่อน ตัวอย่างดี ๆ มีก็ไม่รู้จักจำไปใช้

“จริง! ไป่ไป๋พูดถูก”

“ใช่ม้า!!” ฉันดีใจโอบเอวของซอน อยากหอมแก้มเขาจังเลย น่ารักเป็นบ้า //มีแต่นายแทนคนเดียวแหละ ที่เข้าใจอะไรยากมาก//

“คุณมันคนเห็นแก่ตัว ไม่เข้าใจหัวอกผู้หญิง จำไว้นะ! ที่ผ่านมาคุณผิดคนเดียวนะ รู้หรือเปล่า? แก้ไขตัวเองซะ!” ฉันหมายหัวไว้ก่อน

“ยังไงเหรอ? เจ้าแทน! มีแฟนรอที่บ้านเหรอ?” ซอนหันมาถามเข้าทางพอดี ฉันพยักหน้าหงึก ๆ ฟ้องสิคะ รออะไร?...

“โหย!...มีตั้งหลายคน แต่ที่หนูเห็นชัดก็..ลูกสาวเจ็ทโด้ ชัดเลย ชัดมาก!” ได้เพื่อนแล้วลุยสิคะ

“น้องแหม่มเหรอ? เธอเป็นยังไงมั่ง? คิดถึงเหมือนกัน” ซอนหันไปถามเขาพยักหน้า ฉันเทข้อมูลเลยคราวนี้...

“โตเป็นสาวแล้ว สวยด้วย นั่งเบียดกันทั้งวัน ป้อนข้าวกันทั้งวัน แหม!...พออยู่บ้านทำเป็นง่อย มือไม้ไม่มีแรง อ้อนกันตลอดเวลากินก็ต้องป้อน” ฉันฟ้องแหลก มีอย่างที่ไหน เด็กนักเรียนก็ไม่เว้น

“พากันไปกิน ไปเที่ยว ไปดูหนัง ปล่อยหนูให้ทำงานบ้าน จูยอนก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย เขาทิ้งหนู!” ฉันใส่เป็นชุด เขานั่งยิ้มไม่เถียงสักคำ ก็มันเรื่องจริงใช่ไหมล่ะ?

“แกอย่าปล่อยให้ผู้หญิงคิดเองนะ ทำไมไม่อธิบายให้ไป่ไป๋ฟังดี ๆ” ซอนหันไปดุ แต่ฟังดูแล้วมันแปลก ๆ นะ 

นี่! ฉันเข้าใจผิดเหรอ? เห็นเขาสองคนสนิทกันมากเลยนะ

“ยังไงคะ?” ฉันเริ่มไม่เข้าใจ ซอนพูดย้อนแย้งกับสิ่งที่ฉันเห็น          

“แทน! มันใจดีกับทุกคน มันรักทุกคนจริง ๆ แต่คนพวกนั้น จะบ้าก็เพราะมันรักทุกคนนี่แหละ” ซอนมองหน้า ทำท่าเหมือนสั่งเสีย...

“ไป่ไป๋! บางอย่าง..สิ่งที่เห็นก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อีกไม่นานคุณจะเข้าใจมันเอง...จากที่ผมเห็นท่าทางของคุณ...ก็คงใกล้แล้ว” เขาพูดเสียงหนักแน่น หันมาลูบหัวของฉันอย่างอ่อนโยน

เขาพูดอะไร? ฉันไม่เข้าใจเลย ใกล้อะไร? ไม่รู้เรื่อง ฉันไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย อย่าเข้าใจผิดสิ

“ตกลงแทน ไม่ใช่แฟนน้องแหม่มเหรอคะ?” ฉันหัวใจพองมาก ถามให้มั่นใจอีกครั้ง ฉันไม่ได้สนใจเขาหรอกนะ แค่ต้องการความชัดเจนจะได้วางตัวถูก //ทำไมโล่งอกวะ? แล้วยิ้มทำไมเนี่ย? ฉันยิ้มทำไม?//

“ไม่ใช่! แหม่มเป็นเด็กน่ารักแบบนั้นเอง ถ้าผมไปที่นั่นเธอก็จะบอกว่าเป็นแฟนกับผม เพื่อนเจ็ทโด้เป็นแฟนของน้องแหม่มหมดทุกคน ใคร ๆ ก็รักแหม่ม เธอน่าสงสาร เห็นบอกว่า อยากเป็นพยาบาลจะมาดูแลพ่อ ไม่เสียแรงที่เจ็ทโด้ส่งเสียให้เรียน เด็กดี ๆ อย่างนี้น่าสนับสนุน ถ้าเจ้าแทนเอาเป็นเมียก็ดี เด็กมันขยันดี สวยด้วย!” ซอนทำให้ฉันตาสว่างขึ้นและที่พูดมาทั้งหมดเหมือนจะดี แต่ลงท้ายไม่สวยเลย ขัดหูพิกล

เมียเมออะไร? เพ้อเจ้อ! แทนต้องไปทำงาน วอกแวกไม่ได้ ให้น้องไปเรียนเถอะ อีกอย่างน้องแหม่มทำอย่างนี้ คนอื่นไม่สบายใจ ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นแฟนกันทั้งนั้นแหละ” ฉันลอยหน้าบอก

ซอนหันขวับ...

“ใครไม่สบายใจ?”

“หื้อ! จะบ้ารึไงซอน จะใครก็ช่างสิจะถามทำไม? ดูสิ!จ้องหน้าอยู่ได้ หลบตาสิ หลบตาเดี๋ยวนี้... 

“ว่าไง?” เอ๊า! เขายังจะถามอีก           

“ก็..ก็.” ฉันไม่น่าไปพูดอย่างนั้นเลย

“หนูหิวน้ำ!” ฉันลี้ก่อนดีกว่า ขยับจะลุกไปตู้เย็น แต่โดนดึงแขน...

“อยู่นี่!” เขาเลื่อนขวดน้ำมาให้แล้วจ้องหน้าไม่เลิก

“ใคร?” เขายังจะถามอีก จังหวะนรกจริง ๆ เลยซอนเนี่ย! อึดอัดโว้ย! เอาไงดีวะ!

จูยอน! จูยอนอนนี่ไม่สบายใจ เธอบ่นว่าสับสน” ขอโทษนะคะ อนนี่! หนูไม่รู้จะทำยังไง? ทั้งสองคนจ้องหน้าอย่างกับฉันไปขับรถชนตำรวจตาย

“พี่ไปกับผมไหม?” แทนถามเบา ๆ

เขาส่ายหน้า...

“พี่มีบางอย่างต้องทำก่อน พวกแกก็ระวังตัวกันด้วยนะ เราอาจจะไม่โชคดีเป็นครั้งที่สอง เรื่องของนาตาลีไม่เล็กหรอก”

“เฮ้อ! ซอนบอกแล้วถอนใจแรงอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรค่ะ! คุณช่วยพวกหนูมาเยอะแล้ว หนูจะโทรหาบ่อย ๆ นะ หนูขอตัวเดินทางต่อนะคะ” ฉันหันไปคว้าแขนของแทนแล้วเดินออกเกาะเป้าหมายเดิมไม่ปล่อย ต้องช่วยนาตาลีออกจากขุมนรกให้ได้ ถ้าตั้งใจแล้วจะไม่ยอมเปลี่ยนใจแน่นอน

“จะไปเลยเหรอ?” ซอนถาม ฉันพยักหน้ารับแล้วเดินไปที่รถยนต์ ต้องขับอีกไกล แทนมองไปที่รถสปอร์ตสีน้ำเงิน

“พี่ขอแลกรถใช้หน่อยสิ คันนี้มันไม่ปราดเปรียว!” แทนชี้รถตู้ของตัวเอง

“เอาไปเลย! ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ก็ติดต่อมานะ!”เขาเดินมาส่ง ฉันโบกมือให้ก่อนที่รถยนต์จะเคลื่อนออกจากบ้านของเขา

“แทนคะ! แวะไปนอนกับหม่าม้าสักคืนแล้วไปเยี่ยมชาวบ้านมู่เหลากันด้วยนะคะ”

 ฉันสงสัยว่าพวกเขาจะเป็นอยู่กันอย่างไร? ฉันยังไม่รู้เรื่องมากกับTame26 ชีวิตหลังจากโดนเป่านกหวีดไปแล้วจะเป็นยังไง? กินยังไง? นอนยังไง? ถ้าคนทั้งโลกเป็นแบบนั้น นาตาลีจะช่วยได้ทันไหม? ใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง? คำถามสารพันเต็มหัว หรือวันสิ้นโลกใกล้มาถึงแล้ว?

                  .................................................................................................................

 

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,906 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด11,022 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท23 ต.ค. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม