
อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย
มุมมองสายตา นาตาลี
มีนาคม ค.ศ.2021
แสงไฟสว่างทั่วห้องทดลองชั้น 15 เจ้าหน้าที่ต่างทำงานอย่าง ขะมักเขม้น ผลิตวัคซีนให้ทันกับความต้องการของนานาประเทศ ทหารจีนแต่งเต็มพร้อมรบ เข้าประจำการในตึกทุกชั้นแทนหน่วยรักษาความปลอดภัยเดิมที่เป็นบริษัทเอกชน ปรกติเวลานี้ทุกคนเลิกงานกันหมดแล้ว
ฉันได้กลับถิ่นเดิมทำงานในฐานะนักโทษ เบื่อมากกับชีวิตที่ไม่มีความหวัง โดนขัง โดนจำกัดขอบเขต คงเป็นความรู้สึกเดียวกันกับสัตว์ที่โดนเลี้ยงในกรง ถึงเวลาก็กิน ไม่มีความฝันอะไรเลย
“ทำไม คุณโอ้เอ้อย่างนี้? ดร.นาตาลี ฉันเตือนคุณเป็นครั้งที่ 10 แล้วนะ” หมวดจางเดินหน้าหงิกมาหา
ฉันกำลังนั่งใช้ความคิดเหม่อมองออกไปนอกอาคาร มองโดรนบินเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ถึงฉันจะไม่ชอบผลของวัคซีน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันได้อยู่ในห้องทดลอง ฉันจะต้องทำการทดลองไปเรื่อยและมีความสุขมากที่ได้ทำ มันเป็นความชอบที่ฝังอยู่ในสันดานของฉัน นี่คงเป็นฝันที่ฉันไม่เคยรู้ตัวก็ได้ ถ้าพรุ่งนี้โลกแตกฉันคงขอตายในห้องทดลองนี้แหละ
“เหนื่อย! ขอพักก่อน” ฉันตอบโดยไม่แยแส
เธอเฝ้าติดตามตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่พาตัวฉันกลับมา ไม่ว่าจะหันไปทางไหนต้องเจอสายตาของยายนี่ตลอด ฉันถูกขังไว้บนตึก พักด้านหลังห้องทดลองเป็นห้องเล็ก ๆ สำหรับเก็บวัสดุที่ดัดแปลงมาเป็นห้องนอนและคุกส่วนตัว
หมวดจางเก็บโทรศัพท์ของฉันไปหมดทั้งสองเครื่อง ติดต่อใครไม่ได้เลย แถมเธอยังให้กองทัพฯ ทำห้องเล็ก ๆ ไว้คู่กันอีก เธอนอนเฝ้าฉันทุกวัน ทหารยามผลัดเปลี่ยน เฝ้าลิฟต์และประตูหนีไฟอย่างแข็งขัน ยากที่จะขยับตัว
“ดอกเตอร์! ช่วยเซ็นชื่อให้มันไว ๆ หน่อยสิ คนอื่นจะได้กลับบ้าน” หมวดจางในชุดขาวยาวเดินเข้ามาประจันหน้าจ้องตาฉัน หมายจะขู่ให้กลัว
ฉันคิดในใจ...ฉันไม่ได้กลัวเธอเลย ฉันกลัวทหารข้างนอกต่างหากอย่าเข้าใจผิด แต่ที่ยอมทำก็เพื่อรักษาชีวิตให้รอดไปก่อน ฉันยังคงคิดหาทางหนีตลอดเวลา
โครงการของโมเสสสำเร็จแล้ว วัคซีนเข้าสูร่างกายมนุษย์ทั่วโลกแล้ว และดูทีท่าว่า จะไม่มีเหตุการณ์ใดมายุติการฉีดวัคซีนได้ นักข่าวก็หาสาเหตุของการเป็น Soulless ไม่ได้ ยังคงโยนไปให้โควิดเช่นเดิม หมวดจางไปเป่านกหวีดไว้ในหลายประเทศ มันจะเป่าเหมารวมวันไหนกันนะ ฉันจะหนีหมวดจางไปได้ยังไง?
แต่ที่ผ่านมาก็มีเรื่องแปลก เธอเคยมานั่งร้องไห้อยู่กับฉัน มาบอกว่าคุณพ่อเสียไปแล้ว ฉันไม่มีความเสียใจจะให้หรอก เธอทำลายความจริงใจที่ฉันกับเพื่อน ๆ ให้ไปหมดแล้ว เธอถูกผลักออกจากวงจรความไว้ใจไปแล้ว
“ฉันถามจริง ๆ จับฉันมาทำไม? ไม่เห็นให้ฉันทำอะไรเลย? วัคซีนพวกนี้ใครก็ทำได้” ฉันไม่เข้าใจ
“พวกเขาจะเก็บคุณไว้ข้างตัว ไม่โดนฆ่าทิ้งก็นับว่าโชคดีมาก คอยให้คำปรึกษาเวลาฉันถาม” อ๋อ! เอาฉันมาเป็นที่ปรึกษา
“สารของ Tame26 บางตัวคุณก็ไม่บันทึกว่าจะหาได้ที่ไหน? ฉันต้องถามคุณอยู่แล้ว นี่แหละ! งานของคุณ” เธอจริงจังขึงขัง
“ฉันไม่ตอบอยู่แล้ว ฆ่าฉันสิ ฆ่าสิ! ฉันจะได้ไปอยู่กับเพื่อน ๆ ของฉัน” ฉันไม่อยากจะพูดดีด้วย เกลียดขี้หน้ายายนี่! /อยากจะด่าให้เจ็บปวดแต่ก็คิดไม่ออก//
“ฉันบอกพวกเขาว่า คุณยังมีประโยชน์ เขาเลยยังไม่ฆ่า ขอบคุณฉันสิ! ไม่ใช่มาปากดีใส่” เธอยิ้มตบอกตัวเองเบา ๆ //หน้าตากวนใจจัง//
“ทุกคนคะ! วันนี้เลิกงานแค่นี้เถอะค่ะ พรุ่งนี้ลุยกันใหม่” เธอหันไปบอกพนักงานในห้องโถง
“วัคซีนปลอมล็อตนี้ผลิตได้อีก 3แสนโดสก็ไม่มีอีกแล้วนะ”
“ทำไมล่ะ? อะไรมันขาด? คุณก็บอกฉันสิ!” เธอแหวใส่ทันที จะดุไปไหนเนี่ย? ฉันรำคาญอยากท้าต่อยอีก แต่ก็รู้ว่าสู้ไม่ได้หรอก /เลิกคิด!/
“Bufo aqua หมดแล้ว ไปหาให้หน่อยสิ!”
“หาที่ไหน?” เธอก้มหน้าลงมาถาม
“คองโก!”
“หือ!คองโกเหรอ?” เธอชะงักไปนิดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ฉันมองอย่างระแวดระวัง จะทำอะไรฉันหรือเปล่า?
“ดีเลย!..ฉันจะพาคุณไปด้วย ฟังดี ๆ นะ จากนี้ไป!...ถ้าฉันพูดอะไรก็ตาม ห้ามเถียงและห้ามสงสัย ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ทำตามห้ามถาม” เธอเอามือมาจับไหล่
“ผลัวะ!” ฉันสะบัดแล้วหันไปจ้องหน้า ฝันไปเถอะ
“เอ่อ!...ใจเย็น ๆ” เธอยกมือยอมแพ้
ฉันชี้หน้า...
“คุณไม่มีสิทธ์ถูกตัวฉัน และฉันไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งคุณ”
เธอถอยหลังมองนิ่งตาใส แปลกนะที่เธอไม่โกรธเรื่องแรง ๆ แต่กลับมาโกรธเรื่องหยุมหยิม
“ก็ได้ ๆ ไม่ถูกตัวก็ได้” เธอทำหน้าเก้อ
ฉันเมินหน้ามองออกไปนอกอาคาร ฝูงโดรนติดไฟดวงเล็กบินโฉบเฉี่ยวเหมือนหิ่งห้อยคงเตรียมตัวแข่งขัน สนามแข่งอยู่ข้างล่างฉันยังไม่โอกาสได้ดู นึกแล้วเจ็บใจจริง ๆ
“แต่ถ้าหลังจากนี้ ขัดคำสั่งฉัน...คุณตาย!” เธอขู่อีกแล้ว ฉันเกลียดขี้หน้าเธอ พอเห็นหน้าแล้วก็คิดถึงซอน ยายตั๊กแตนตำข้าวกินผัวตัวเอง ขอให้ข้าวติดคอตาย
“ฉันจะฆ่าคุณก่อน คอยดูนะ! อย่าเผลอก็แล้วกัน” ฉันสวนทันที เธอฟึดฟัดสะบัดหน้าเดินลงลิฟต์ไป ฉันไม่แยแส นั่งมองโดรนบินชนตึกยังสนุกกว่าคุยกับเธอ รีบ ๆ ไปเลยเหม็นขี้หน้า
ในหัวสมองของฉันคิดถึงแต่เพื่อน ๆ ได้มีกลุ่มเพื่อนที่ถูกใจแล้ว แต่พวกเขาก็ต้องมาตายจากเพราะฉัน ใจหายทุกครั้งที่นึกถึงภาพสุดท้ายที่เห็นพวกเขาโดนชาวบ้านกลุ่มชาติพันธ์มู่เหลารุมทำร้าย ฉันนึกภาพไม่ออกจริง ๆ ว่า ทุกคนยังปลอดภัยดีหรือเปล่า? คำสั่งฆ่าของหมวดจางหลอกหลอนฉันทุกค่ำคืน ได้แต่ภาวนาขอให้ทุกคนโชคดี อย่าเป็นอะไรเลย ฉันจนปัญญาที่จะกลับไปที่นั่นอีก ไป่ไป๋ของฉันต้องอายุสั้นไปด้วย ขอโทษนะทุกคน
เสียงผู้สื่อข่าวรายงานผ่านทีวีที่ผนังเรื่อง Soulless หมวดจางกับโมเสสคงเดินทางไปในหลายประเทศ เพื่อปลุกเชื้อให้วัคซีน Tame26 การปล่อยภาพของผู้ติดเชื้อให้เดินเพ่นพ่าน เป็นแผนการร้ายขององค์กรนี้ สร้างความกลัวได้อย่างรวดเร็วต่อเนื่อง โดยใช้เชื้อไวรัสโควิดเป็นข้ออ้างและไม่มีองค์กรไหนออกมาเฉลยเรื่อง Tame 26

ชาวบ้านตาดำ ๆ เดินต่อแถวฉีดวัคซีนกันอย่างไม่รู้ชะตากรรม จะช่วยพวกเขาได้อย่างไร? คิดไม่ออกจริงๆ ฉันปล่อยใจนั่งดูเมืองอู่ฮั่นยามค่ำคืน แสงไฟตามอาคารบ้านเรือนสว่างไสว แต่ในใจฉันเศร้า มองผ่านเกร็ดหลังของเลวีอาซานลงไปที่สนามหน้าอาคารด้านล่าง ชาวบ้านพาครอบครัวมาปูเสื่อตั้งวงคุยกัน เด็ก ๆ วิ่งเล่นไล่จับกันสนุกสนาน
ตั้งแต่พวกมันจับกลับมาขังไว้ที่ชั้น 15 ฉันก็ไม่เคยได้พบเจอกับใครเลย เรียกว่าไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลยก็ว่าได้ มีแต่หมวดจางเป็นเพื่อน แต่เราก็ไม่ได้คุยกันต่างคนต่างอยู่ หน่วยรักษาความปลอดภัยเข้างวดมาก ทำอย่างกับฉันเป็นนักโทษร้ายแรง คิดทุกวันจะทำยังไงถึงจะหนีออกไปได้อีก กำลังคิดเพลิน ๆ ...
“นาตาลี ! คุณต้องไปคองโก” .
“เหวอ!” ฉันสะดุ้งโหยง โมเสสกระโกนดังเดินหน้าแดงก่ำเข้ามา พอเข้ามาใกล้กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งกระจาย หมวดจางเดินหน้านิ่งตัวตรงตามมาด้วย เธอคงไปรายงานหัวหน้ามาเล่นงานฉันน่ะสิ! นิสัยไม่ดี
“เมื่อไหร่และไปกับใคร?” ฉันจ้องหน้าโมเสส
“ไปกับแอนนา ทีมจะไปรอรับที่สนามบินคองโก จะต้องไปที่เทือกเขาคีรีมันจาโร” เขามีกลิ่นเหล้าหึ่ง ลมหายใจเหม็นบุหรี่จนคลื่นไส้
“ฉันไม่ไป!!” หันหน้าหนีจากเขา ก็เจอสายตาของหมวดจาง
เธอขมวดคิ้วมองสายตาเหมือนลุ้น ฉันเมินหลบสายตาแกล้งมองไปที่อื่น ไม่อยากไปกับเธอเข็ดแล้ว ฉันเกลียดเธอ
“คุณก็รู้นี่ว่า ปฏิเสธไม่ได้ จะดื้อทำไม? ตุ่บ!” มือของโมเสสฟาดมาเต็มไหล่ขาสั่นแทบทรุด เขาบีบอย่างแรง
“เจ็บนะ!”
“เจ็บก็ไป! จะได้ไม่ต้องเจ็บ!”
“ปล่อยค่ะ!” หมวดจางเดินปราดเข้ามาปัดมือโมเสสออกไป เธอจ้องหน้าฉันด้วยสายตาแปลก ๆ คิดจะขู่อีกหรือไง?
“ผมสั่งให้คุณไปคองโก!” โมเสสพูดเสียงดังผลักหมวดจางกระเด็นออกไป แล้วเดินมาประจันหน้า
ฉันติดผนังกระจกถอยอีกไม่ได้แล้ว
“ฉันไม่ไป!” ฉันจ้องหน้าสู้ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ทั้งคนรักทั้งเพื่อนตายหมดเพราะแกนั่นแหละ ไอ้อ้วน!
“จะไม่ไปใช่ไหม?” เข้ายกฝ่ามืออวบอ้วนขึ้นสูง แล้วฟาดลงมา
ฉันหลับตา คิดในใจคอหักแน่ ตายไปเลยก็ดี
“ฟึ่บ!” เสียงดังแปลก ๆ ลืมตาเห็นหมวดจางยกมือกันไว้…
“เดี๋ยวฉันคุยกับเธอเอง คุณไปกินต่อเถอะค่ะท่านประธาน แขกคอยอยู่ อย่าอารมณ์เสีย” เธอบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน แล้วค่อย ๆ เอามือลงแล้วถอยหลังทำความเคารพ
“แอนนา! คุณจัดการต่อให้ด้วยนะ อีเด็กนี่! กวนประสาท” โมเสสสั่งเด็ดขาด ชี้หน้าฉันก่อนเดินออกไป
“เฮ้อ!” หมวดจางถอนหายใจหันมามองหน้า ฉันรีบหันมองไปที่อื่นไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากสบตา
“คิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม” เธอก้มเก็บของบนโต๊ะ
“หือ!” ฉันขมวดคิ้วสงสัย..จะบ้ารึไง? อยู่ ๆ มาพูดแบบนี้ หรือเธอจะบอกใบ้อะไร? แต่...ฉันไม่ยอมโดนเธอหลอกอีกแล้ว เข็ดแล้ว
“คุณจะมายุ่งอะไรกับฉันนักหนา งานการไม่มีทำหรือไง?” ฉันไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย หันไปทางไหนก็เจอแต่สายตาของเธอ
“ก็เฝ้าคุณคืองานของฉัน จะให้ทำยังไงได้?” เธอลอยหน้าลอยตา
ฉันหมั่นไส้มาก...
“เธอฆ่าเพื่อนฉันทำไม?” ทุกครั้งที่ฉันถามเรื่องนี้ เธอจะเดินหนี
“ฉันต้องช่วยชีวิตคุณ คนอื่นไม่เกี่ยว ฉันเองก็เสียใจ ไม่ได้อยากทำอย่างนั้น” คราวนี้เธอตอบมากขึ้น
“คุณยิงซอนได้ยังไง? หัวใจทำด้วยอะไร? ซอนช่วยชีวิตพวกเราไว้นะ” ฉันอึดอัดอยากจะจิกหัวเธอเหลือเกิน น้ำตามันไหลด้วยความสงสารเพื่อน ไม่อยากเห็นหน้ายายนี่เลย เห็นหน้าแล้วยิ่งตอกย้ำความเจ็บใจ
“ฉันก็เสียใจ แต่คุณควรจะลืมเรื่องที่เกิดในคราวนั้นทั้งหมด ไม่เช่นนั้น!...คุณจะปวดร้าวใจไปตลอดชีวิต ฉันบอกแล้วว่า คุณเป็นตัวอันตราย” สายตาเศร้าของเธอ มองไปนอกอาคารเช่นกัน
“พูดไปพูดมา คุณก็มาโทษว่า ฉันผิด ฉันไม่เคยคิดร้ายกับใคร พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน”
“จบ ๆ แล้วก็ลืมไปเถอะ!”
“ฉันไม่ใช่นางงูเห่าอย่างเธอนี่! จะได้ไม่รู้จักบุญคุณคน ถ้าไม่มีซอน เธอก็ตายอยู่ในนั้นแล้ว พวกเขาเสี่ยงชีวิตช่วยเราออกมา แต่...คุณมันเลว!” ฉันอยากจะกัดหน้าเธอสักที พอคิดถึงวันที่เคยต่อยกับเธอแล้วก็ เฮ้อ!..ดูโดรนดีกว่า
“ปากดี!...ถ้าคุณรู้จักบุญคุณคนจริง ๆ คุณต้องขอบคุณฉัน ไม่ใช่มาด่าฉัน” เธอหันมาสวน หน้าด้านจริงมาทวงบุญคุณ
“คุณฆ่าพวกเขาได้ยังไงถามจริงเป็นคนหรือเปล่า? แทนทำผิดอะไรคนจิตใจดีอย่างนั้นเธอก็ยังทำร้าย ไป่ไป๋ก็ยังเด็กไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ฉันเพิ่งรู้จักกับเธอไม่นาน จูยอนอีกคน...เธออุตส่าห์หนีออกมาจากเกาหลีเหนือยังไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขสบาย กลับมาตายอย่างอนาถ เจ็ทโด้ก็ใจดีกับเธอมาก เขาห้ามไม่ให้จูยอนฆ่าเธอด้วยซ้ำไป” ฉันรันทดใจน้ำตาซึม สงสัยแต่เรื่องนี้ เธอเอาอำนาจอะไรมาสั่งฆ่าคนอื่น? ที่สำคัญเป็นเพื่อนกันด้วย
“ฉันไม่มีอะไรจะแก้ตัว ขอโทษนะคะดอกเตอร์ ฉันเองก็เสียใจไม่น้อยกว่าคุณหรอก”เธอโค้งศีรษะ มันจะมีประโยชน์อะไรกับการขอโทษ จะมีใครฟื้นมามั้ย?
“จะให้ฉันเดินทางไปกับคุณ ฉันไม่ไว้ใจ ฉันจะวางใจได้อย่างไร?คุณหักหลัง คุณฆ่าเพื่อนของฉัน” ฉันกลัวใจผู้หญิงคนนี้ ไม่กล้าร่วมทาง
“หรือคุณจะไปกับโมเสส” เธอถามใบหน้าเรียบเฉย
ฉันเสียวสันหลัง…
“ไม่ไปกับใครทั้งนั้นแหละ ฉันเป็นนักวิจัยจะให้ฉันเข้าป่า ฉันไม่ไปแล้ว ฉันกลัวทาก” คิดถึงทากก็แทบหยุดหายใจ /คิดถึงแทนกับไป่ไป๋จังเลย/
“คุณไม่ต้องเข้าป่า เขามีทีมงานไปด้วยกันเถอะ เชื่อฉันนะ! ฉันจะดูแลคุณเอง” เธอเสียงอ่อนลง
“ไม่!”
“ถ้าคุณไม่เปลี่ยนความคิด ชีวิตของคุณจะอยู่กับที่และเป็นผีเหี่ยวแห้งที่ตึกนี้”
“ไม่!... คุณเอาเพื่อนฉันคืนมาก่อนแล้วฉันจะไป”
“อย่าลีลา คุณต้องไป!”
“ไม่สน!”
“ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว” เธอสะบัดหน้าหันหลังเดินจากไป
"คิดว่าฉันอยากคุยกับคุณนักหรือไง? คุณเดินมาคุยกับฉันก่อนทุกครั้งนะ ไปเลย ไป!ขอให้ลิฟต์ขาดตกลงไปตายเลย” ฉันตะโกนไล่ตามหลัง
ฉันต้องทนอยู่กับการหลอกหลอนของความเสียใจ เข้าห้องนอนก็คิดถึงใบหน้าของเพื่อนทุกคน รอทุกวันให้ใครสักคนมาเข้าฝัน อยากถามอยากคุย ขอโทษด้วยนะคะ! ที่ฉันทำให้ทุกคนไม่มีโอกาสได้กลับบ้านไปหาครอบครัว ถ้ามีใครรอด ติดต่อฉันกลับมานะ ฉันรอคอยอยู่....
.......................................................................................