The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 3 ตอนที่ 25

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 3 ตอนที่ 25
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 3
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 10 ก.พ. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย 
มุมมองสายตา แทน
เมษายน ค.ศ.2021
แล้วก็ถึงวันแข่งขันโดรนที่รอคอย ผมมานั่งรอแต่เช้าคาดหวังเต็มที่ว่า จะได้เจอกับนาตาลี โอกาสเข้ามาใกล้มากที่สุดก็วันนี้ สนามฟุตบอลด้านหลังตึก แปรสภาพเป็นสนามแข่งโดรน รถคอนเทนเนอร์จอดล้อมรอบสนามเขียว ตรงกลางสนามจัดวางตำแหน่งอุปสรรคในด่านต่าง ๆ เรียงตามหมายเลข ให้ผู้เข้าแข่งขันได้ฝ่าฟัน ผู้เข้าแข่งขันและกองเชียร์ทยอยเดินเป็นทีมเข้ามาในสนาม แยกไปตามหมายเลขที่จัดไว้ผู้ชมวันนี้มากพอสมควรดูหนาตา 
เสียงเพลง Attention @ Charlie Puth จากกองประกวดดังกระหึ่ม กระตุ้นให้เลือดผู้เข้าแข่งขันสูบฉีด งานอย่างนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือประทัดจีนเส้นยาว จุดสลับกับเพลงกันเลยทีเดียว ไป่ไป๋เดินถือของพะลุงพะลังมาจากประตูทางเข้าริมถนน ผมรีบวิ่งไปช่วยรับ เธอสวมเสื้อกันหนาวขนฟูฟ่องสีชมพูสดใสทับเสื้อยืดคอกลมสีขาว ยีนดำขายาวสวมรองเท้าบูทครึ่งแข้ง แว่นดำตัดกับใบหน้าขาวเนียนอย่างกับเดินออกมาจากหนังสือแฟชั่น สวยใจสั่นทุกที/
วันนี้...สิ่งที่เราสองคนมีเหมือนกันคือสวมแว่นกันแดดด้วยกันทั้งคู่ สำหรับผมไม่ได้กันแดด ผมไม่กล้าสบตาของเธอ แต่สำหรับเธอผมไม่รู้ว่าสวมมาทำไม? ปรกติเธอก็ไม่เคยสวมแว่นดำ ใจเต้นแรงรู้สึกประหม่ามือไม้เย็นเฉียบ
“เอ่อ!..”
พอมายืนประจันหน้ากันกลับไม่มีการทักทาย ต่างคนต่างอึกอักเธอแหงนมองขึ้นไปยอดตึก ผมเกาหัวมองไปนอกถนน เกิด Dead air ขึ้นอีกครั้ง ผมใจเต้นรัวกลัวไปสารพัด
แต่ผมเป็นฝ่ายผิดและเป็นผู้ชาย ผมทักก่อน...
“เอ่อ!..” เธอหันมาพูดในจังหวะเดียวกัน ใจยิ่งสั่นรัว ประหม่า เธอเองก็เก้อหมุนตัวหันหลังไป
ผมเป็นผู้ชาย ทักก่อนดีกว่า...
“ไป่ไป๋! หนักมั้ยครับ? ขอโทษที ผมลืมไปว่าต้องยกของ” ผมก้มหน้าขอโทษขอโพยก่อนที่เธอจะโกรธ เสียวจริง ๆ
แต่...วันนี้ไม่โกรธวุ้ย หน้าตายิ้มแย้มดี
“มานานรึยังคะ?” เสียงหวานเชียว
“อึ่ม!! ผมพยักหน้าเป็นเชิงว่ามานานแล้ว ต้องรีบขยันก้มลงไปหอบข้าวของ โดรนนี่ก็หนักใช้ได้เหมือนกัน คว้าของได้ก็เผ่นสิครับจะอยู่ทำไม? 
“ทำไมไม่เข้าบ้านคะ? จะได้กินข้าวเช้าด้วยกัน” เสียงพูดเหมือนดุผมหยุดกึกหันกลับ...เธอมองไปที่อื่น
ผมแอบคิดในใจ...โธ่! คุณก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แก่ใจ ได้แต่ก้มหน้า นิ่งไว้ ใจเย็น ๆ บอกตัวเองว่า อย่าวู่วาม ยอมเหมือนที่เคยทำมาตลอดน่ะถูกแล้ว
“คุณหายไปไหนมา?” เธอบ่นเบา ๆ
“ผมไปหนานชางมาครับ ไปดูลูกน้องขนของครับ?” ผมเผ่นหนีไปไกล ถือโอกาสมาดูงานด้วย
“แล้วที่ตกลงกันไว้ว่าให้โทรหาทุกชั่วโมง ไม่มีความหมายเลยใช่ไหม? หนูไม่มีความรู้สึกสินะ ไม่มีความหมายเลยสินะ” สีหน้าเธอแดงระเรื่อ ผมมองไม่เห็นแววตาใต้แว่นดำ แต่น้ำเสียงบ่งบอกว่า น้อยใจ
ผมได้แต่อึกอัก ใครจะกล้าโทร ก้มหัวขอโทษแล้วรีบเผ่นไปหลังอาคาร ผมทำตัวไม่ถูกจริง ๆ
เธอเดินตามมา...
“ได้ที่นั่งหรือยังคะ? ไปเตรียมตัวกันดีกว่า เสร็จงานแล้ว คุยกันหน่อยนะ” เธอว่าแล้วก็เดินนำหน้าแหวกฝูงชนผ่านตัวอาคารออกไปสนามฟุตบอลกว้างด้านหลัง ผมงานเข้าแล้ว ผู้จัดการเรียกพบ กู!โดนอีกไล่ออกแล้วมั้งคราวนี้?
สักพัก...เธอก็เดินกลับมาลากแขนเดินลัดสนาม ไปประตูทิศใต้ของสนามฟุตบอล โชคดีมาก...เราได้เห็นตัวอาคารด้านหลังของThe 3Temple ชัดเจนตรงหน้า ถือว่าเป็นทำเลที่ดีมาก
ไป่ไป๋คลี่ม้วนกระดาษสีขาว หน้ากว้างขนาดกระดาษ A4 ออกมาตัด ยาวประมาณ 1 เมตร 4-5 แผ่น ร้อยเชือกด้านแคบก่อนจะบรรจงเขียนภาษาจีนลงไปบนนั้น เธอตั้งใจสายตาจดจ่ออยู่กับการเขียนตัวหนังสือจีน
“อ่านว่าอะไรครับ?”  ผมถามตอนที่เธอเงยหน้าขึ้นมาพัก มั่ว ๆ กันมา...เลยลืมเรื่องที่ทำผิดไปชั่วขณะ
“เปิดโทรศัพท์ด้วย ไป่ไป๋” เธอยิ้มตอบอย่างภูมิใจ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ จึงส่ายหน้าไม่เห็นด้วย                         
“ทำไมคะ? ใช้ไม่ได้เหรอ?” เธอทำหน้าฉงน
“เปลี่ยนภาษาดีกว่า อันนี้ใคร ๆ ก็อ่านออก” ผมคิดว่า มันอันตรายเกินไป
เธอยิ่งทำหน้าสงสัยหนักเข้าไปอีก...
“ทำไมคะ หรือต้องใช้ภาษาอังกฤษ?” เธอยังไม่เข้าใจที่ผมจะสื่อ
           “ภาษาอังกฤษกับภาษาจีน คนอื่นก็รู้หมดสิ โดนจับได้พอดี” ผมบอก แล้วหยิบกระดาษมาเขียนภาษาที่ผมเองก็ไม่ถนัดนัก
“ปิดโทละสับด่วย...แทน” ผมเขียนภาษาบ้านเกิดจากความทรงจำจาง ๆ ด้วยความมั่นใจว่า ต้องถูกแน่ ๆ เพราะนั่งสะกดอยู่ตั้งนาน เสร็จแล้วก็อ่านให้เธอฟัง
“เขียนชื่อหนูด้วยสิ!” เธอบอก
“เขียนไม่เป็น สะกดไม่ถูก”
“เวรกรรม!
“งั้นเดี๋ยวหนูเขียนอย่างอื่นด้วยดีกว่า จะได้เบี่ยงเบนความสนใจ”  เธอเขียนป้ายอีกอันเป็นภาษาจีน แล้วปล่อยโดรนขึ้นบินต่ำ กระดาษคลี่ออกเห็นตัวอักษรจีนชัดเจน
“หึ่ง...งง!! โดรนบินต่ำ ๆ ไปรอบ ๆ สนาม ทุกคนที่แหงนหน้าขึ้นมองต่างก็ชี้แล้วยิ้มปรบมือ
“คุณปล่อยของตัวเองขึ้นไปเลยค่ะ”
“หึ่ง...งง!! ผมรีบปล่อยของผมบินสูงขึ้นไปวนแถวชั้น 15 กองเชียร์ไม่สนใจโดรนของผม เพราะสนุกกับของไป่ไป๋มากกว่า
“เขียนว่าอะไรครับ ทำไมคนชอบกันจัง?” 
“คนที่ถูกรักไม่มีทางรู้เลยว่า คนที่แอบรักลำบากแค่ไหน?” เธอตอบโดยมองไปที่โดรนของตัวเอง เล่นเอาผมใจหวิว เธอชอบทำอะไรแปลก ๆ เอาไงแน่วะหรือเธอจะชอบผมอีกคน? นรกล่ะสิ!
อาจไม่ใช่ก็ได้ เธอเป็นแฟนกับนาตาลี ยังห้ามผมไปยุ่งกับนาตาลีอยู่เลย เธอคงไม่หักหลังแฟนหรอกน่า ผมสับสนขึ้นมาอีก// เป็นคนดีนี่ยากจริง
“หึ่ง...งง!! หลังจากที่เราร่อนกระดาษกันพักใหญ่ คณะกรรมการก็ให้ทุกคนเตรียมพร้อมกับพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ งานนี้ Isaiah Biotech เป็นเจ้าภาพ
บนหลังคาตู้คอนเทนเนอร์ฝั่งตัวอาคารเป็นเวทีชั้นดี โมเสสฝรั่งตัวอ้วนผมทองก้าวเดินขึ้นเวทีอย่างลำบาก พิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นแล้ว
“ทำไมนาตาลีไม่ลงมาด้วยคะ หมวดจางก็ไม่เห็นเลย” บนเวทีมีแต่โมเสสคนเดียว
“ผมก็กำลังมองหาอยู่ คงอยู่ที่ไหนสักแห่งแหละ” ผมยังเชื่อมั่น             
เมื่อโมเสสกล่าวเปิดงานเสร็จถูกเชิญตัวลงไป คณะกรรมการประกาศกติกาการแข่งขัน...
“วันนี้...แข่งกัน 3 รอบ กติกาง่าย ๆ แพ้คัดออก ความเร็วห้ามต่ำกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและต้องผ่านทั้งหมด 10 ด่าน ใครใช้เวลาน้อยที่สุดชนะเลิศ”
“เฮ!!!! เสียงปรบมือดังทั่วสนามหลังพิธีกรลงจากเวที พิธีกรภาคสนามเชิญผู้เข้าแข่งขัน 2 ทีมแรกเข้าสู่สนาม
ด่านแรกบินเรียบพื้นแล้วเหิรลอดบ่วง ด่านสองมุดลงท่อยาว20เมตรเรียบพื้น ด่านสามบินเลาะโค้งตามกำแพง ก่อนเหิรขึ้นฟ้าแล้วทิ้งตัวจากด้านบนลงท่อที่ตั้งตรง ด้านล่างขึงด้วยตาข่ายเขียวเป็นกับดักก่อนถึงพื้น ร่อนไปต่อบินแนบกับข้างตู้คอนเทนเนอร์ที่ตั้งอยู่รอบสนาม สุดท้ายบินสลับฟันปลาลอดกระจกผ่านตัวรถด้านคนขับของสิบล้อที่จอดเรียงรายกว่าสิบคัน


ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่เป็นเด็กรุ่นใหม่รวมไปถึงวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ฝึกฝนกันมาเป็นอย่างดีอายุมากสุด 35 ปี ผมกับไป่ไป๋ตกรอบแรกดังความคาดหมาย หลายคนเก่งจนน่าทึ่งแต่ส่วนใหญ่ตายช่วงที่ต้องทิ้งดิ่งลงมาติดตาข่าย กับดักนรกกันเกือบหมด รอบแรกผ่านไปอย่างตื่นเต้นเหลือ 8 ลำที่ผ่านรอบต่อไป รอบนี้คัดเหลือ 5 ลำ
โดรน F5 ของเจ้ากุมารจีน หัวโล้นตัวน้อยวัย10ขวบคนหนึ่ง ผ่านด่านเข้ามาถึงรอบสุดท้าย เจ้าเด็กน้อยตัวอ้วนขาวสวมกล่องแว่นสามสีขาวเด่น ในมือถือคอนโทรลเอียงส่ายม้วนตัวไปมาน่าเอ็นดู
F5! F5! F5! ผู้ชมร่วมใจส่งเสียงให้กำลังใจเชียร์กันรอบสนาม
ด่านสุดท้ายร่อนสลับฟันปลาผ่านห้องโดยสารรถบรรทุก เขาทำได้ค่อนข้างดีผ่านไปได้สามคัน ลมกระโชกแรงในช่วงรถคันที่สี่ 
โดรนลำน้อยพุ่งด้วยความเร็วสูงชนขอบประตูรถบรรทุก แตกกระจายชิ้นส่วนกระเด็นตกพื้น
“เพล้ง!
“.........” ทั้งสนามเงียบกริบ
“แง! แง...!!ผู้เข้าร่วมแข่งขันตัวน้อยของเรา ล้มลงไปนอนกลิ้งกับพื้นร้องไห้งอแงเสียงดัง สร้างรอยยิ้มด้วยความเอ็นดูให้ผู้คนทั้งสนาม
F5! F5! F5! F5!  เสียงกองเชียร์ประสานกันดังก้องสนามให้กำลังใจนักสู้ตัวน้อย
ไป่ไป๋สนุกสนานร่าเริงมาก เธอได้รับความสนใจจากผู้คนรอบข้าง  ช่วงพักเที่ยงเราเอาโดรนมาร่อนเหมือนเดิม โดยที่ผมต้องมาเขียนภาษาใหม่ให้ถูกต้อง พูดใส่โทรศัพท์แล้วเขียนลอกตาม
“เดี๋ยวผมมานะ”  ผมกระซิบข้างหูเธอแล้วฉากหลบออกมา 
เดินเลาะรถบรรทุกพ่วงเรื่อยมาจนเลยข้างเวทีเป็นที่พักคนขับรถบรรทุก เจอเพื่อนฝูงหลายคน ผมเล่าบางเรื่องให้บางคนฟังก่อนที่จะบอกให้พวกเขาระวังตัว ที่นี่เป็นรังของพวกมังกรอู่ฮั่น คุยได้ไม่นานก็แยกย้ายกัน                   
ผมกลับมาร่อนกระดาษให้นาตาลีอ่านอีกรอบ ไป่ไป๋นั่งลุ้นมองโทรศัพท์ไม่วางตา แต่แปลกใจว่าทำไมเธอยังไม่เห็นสักที?
เราร่อนโดรนจนเย็นแล้วก็กลับพร้อมทุกคน โดยไม่มีสัญญาณตอบรับจากนาตาลี
“กลับเถอะค่ะ อนนี่! คงไม่เห็น”ไป่ไป๋หน้าเศร้า ผมก็ผิดหวัง
“ไปล่องเรือกันค่ะ กินข้าวด้วย!
ผมรีบเก็บของก่อนจะมืดค่ำ เดินฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ จินตนาการถึงการล่องเรือในแม่น้ำฮั่นเจียงตอนกลางคืนคงจะสวยน่าดู จะกินทันพวกเขาหรือเปล่าน้า คนจีนกินอย่างกับพายุหมุน? ยังเดินได้ ไม่ทันพ้นสนามฟุตบอล ก็โดนฉุดมือ...
“มาเคลียร์กันก่อน! ไม่อยากไปคุยบนเรือ เสียบรรยากาศ! เธอดึงแขนเสื้อให้หยุด
“อูย!!! ภาพในหัวของผม เรือกำลังล่ม จินตนาการดับวูบ นึกว่าจะรอดวันนี้โดนอีกแล้วมั้ง? ผมหันหลังกลับยิ้มแหย เธอยืนจ้องอยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าขาวสวยนั้นไม่มีรอยยิ้ม เธอเล่นบทยักษ์อีกแล้ว
“มีอะไรเหรอครับ? ให้ผมช่วยถืออะไรรึเปล่าครับ?” ผมออกลูกนี้ไปก่อน ชักไม่แน่ใจไม่รู้จะโดนอะไรอีก? ผู้หญิงเรื่องมันเยอะ
“เรื่องความสัมพันธ์ของเราสามคน”
“ตึกตึก!ตึกตึก! ใจของผมเต้นไม่เป็นส่ำจะออกหัวออกก้อยวะเนี่ย? ใจหนึ่งก็สับสนอีกใจหนึ่งก็กลัว ก้มหัวพยักหน้าส่งเดชไปก่อน จะได้ล่องเรือหรือเปล่าว้า?
“เราสองคนเป็นเพื่อนกันใช่หรือเปล่า?” เสียงดุมาก...กกก!
“ใช่สิ! มีอะไรครับ?” หงอมาก...กกก!
“คุณผิดสัญญากับหนูตลอด หนูคอยคุณเหมือนคนบ้า หนูขอยกเลิกข้อตกลง” น้ำเสียงไม่พอใจ แต่ยังพยายามข่มสีหน้าของตัวเอง
“ผมขอโทษครับ! ไปทำงานจริง ๆ ไม่ได้คุยกับผู้หญิง อ๋อ!..คุยด้วยคนเดียวเป็นแม่ค้าขายของหาบเร่ ผมเข้าไปช่วยเธอเข็นรถขึ้นเนิน แค่นั้นแหละ! ที่เหลือก็คุยกับลูกน้องผู้ชาย แล้วก็กลับมานี่แหละครับ เรื่องยกเลิกข้อตกลง ผมเห็นด้วยนะครับ ผมก็ไม่ค่อยชิน รบกวนด้วย” ผมก้มหน้าบอกตามจริง
“หึหึ! เธอหันมายิ้มมุมปาก ทำไมผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบกับรอยยิ้มสยอง?
“เรามาเริ่มต้นกันใหม่ คุณต้องพยายามหน่อยนะ ให้มองไปที่หน้าที่ของตัวเอง ให้ความสำคัญกับงานและอย่าล้ำเส้น!” เธอพูดเหมือนกับผมทำผิดซ้ำซาก
ผมได้แต่คิดในใจ...กูล้ำเส้นตรงไหนวะ? ไม่เป็นไรก้มหน้าไว้ อย่าสู้!...มึงรอดชัวร์ //ผมคุยกับตัวเอง //
“ตั้งแต่พลาดวันนั้น หนูไปนอนคิดดูแล้ว พอจะเข้าใจได้ คุณเป็นคนหนุ่ม อาจจะเผลอใจเป็นบางครั้ง หนูก็สวยขนาดนี้ คงว้าวุ่นล่ะสิ!
“เอ่อ!...ใช่ใช่” ผมพยักหน้า มั่วตามน้ำไป
“แต่ต่อไปคุณต้องระวังตัวหน่อยนะ เข้าใจไหมคะ? หนูจะทำเป็นว่า มันไม่เคยเกิดอะไรขึ้น คุณก็ด้วยนะ เราจะได้ไม่ต้องรู้สึกเกร็ง” เธอพูดเองเออเองเข้ามาตบไหล่ตีซี้
ผมยังก้มหน้า ไม่โต้ตอบ // กู!ไม่เถียง ยอมรับผิดไป...รอดชัวร์// 
“ขอโทษครับ! เข้าใจแล้วครับ! จะไม่ทำอีกแล้วครับ! ผมเพียงแต่จะดมกลิ่นยาสระผม มันหอมดีจะซื้อไปใช้ครับ” ด้วยใจที่บริสุทธิ์ ด้วยความซื่อสัตย์ที่มีและเพื่อความสบายใจของเธอ ผมต้องพูดความจริง
แต่...
“จะไม่ยอมรับว่าตั้งใจมาจูบว่างั้น? อ๋า!..จะแถ ไม่ยอมรับสินะ!เธอกลับเสียงแข็งขึ้นมาซะงั้น!
“เอ่อ! ผมส่ายหัวคอจะหัก เข้าใจไปอย่างนั้นได้ยังไงวะ?
“คุณเที่ยวไปดมหัวชาวบ้าน แล้วบอกว่าอยากรู้ยี่ห้อยาสระนี่นะ ใครจะเชื่อ? ปากไม่มีหรือไง? ถามมาสิคะ ทำไมต้อง...”
……….”  DEATH AIR อีกครั้ง...เงียบงันกันทั้งคู่ ไม่พูดแล้ว พูดไปมีแต่เข้าเนื้อ พูดอะไรก็ผิด /กุมเป้าก้มหน้านิ่ง/
“เป็นใบ้รึไงทำไมไม่ตอบ?”
“ก็...ก็...กลิ่นมันหอม”
“ถ้าคุณยังโกหก ก็แก้ปัญหานี้ไม่ได้”
“ไม่ได้โกหกซักหน่อย” เวรกรรมอะไรของกูวะ      
“หนูกับนาตาลีเป็นแฟนกัน เราสองคนรักกัน ขอเตือนสติคุณอีกนิดนะ กลัวจะลืม” ท่าทางของเธอผ่อนคลาย                     
“เอ่อ! ไม่เคยลืมครับ คุณสองคนเป็นแฟนกัน ผมจะท่องไว้”
“เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันก่อน..หนูไม่ให้อภัยหรอกนะ ถ้าคุณทำผิดกับหนูอีก หนูจะเล่าให้ทุกคนฟังว่า คุณลวนลาม ล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ”เสียงโคตรโหด ท่าทางแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ เหมือนนางร้ายในซีรี่เกาหลีเลย
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนี่ครับ ผมบริสุทธิ์ใจจริง ๆ” ผมหันมองรอบตัวไม่มีคนแล้ว ไม่มีคนมาช่วยเลย
“นี่ไง? นี่ไง? ไม่ยอมรับ” เธอออกงิ้วแล้ว ผมพยักหน้าหงึก ๆ รับผิดก็ได้วะ...
“ขอโทษครับ! มันเป็นอุบัติเหตุ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่รับผิดสินะ ได้!!” เธอยกโทรศัพท์
“บอกซอนก่อนก็ละกัน เบอร์อยู่ไหนนะ? ”
“โอเค! ผมตั้งใจ” โดนกดขี่มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
“รับแล้วนะ! เธอยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ครับ! ผมอยากจะถามเหลือเกิน แล้วคืนนั้น!ตัวเองหลับตาทำไม หลับตาทำไม?
“เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ จากนี้หนูจะระวังตัวให้มาก คุณก็กรุณารักษาระยะห่างด้วย อย่ามายุ่มย่ามกับหนู ๆ ไม่ชอบ”
ผิดอีกกู! //แต่ก็ยังสงสัยไม่หาย วันนั้นเธอหลับตาทำไม? คราวหน้าเผลอมาจูบผมอีก จะจับนมให้ดูจะได้รู้ว่าหลับตาทำไม?
“เรามาลืมมันไปด้วยกัน เราจะผ่านเรื่องนี้ด้วยกันอย่างแข็งขัน! เรามองไปเป้าหมายเดียวกัน จบแล้วก็แยกทาง” เธอพูดเองเออเองยื่นมือมา...
“สัญญา!
           "ได้!" ผมยื่นมือไปจับอย่างไม่เชื่อใจ
“อีก 3 วันหม่าม้าจะกลับบ้าน แวะมากินข้าวด้วยกันนะคะ”
“ได้ครับ! ผมแอบถอนหายใจ ดีแล้ว ๆ หายใจสะดวกหน่อย แต่ก็เหอะ..จะคอยดู จะทนได้กี่น้ำเชียว มาหาว่าผมไปยุ่มย่าม ตัวเองชอบซุกยิ่งกว่าลูกแมวอีก ถ้าผมเดินไม่ระวังคงเหยียบคอตายสักวัน
            ผมยังคงบริสุทธิ์ใจที่จะดูแลให้ทั้งสองคนได้พบกัน ผมเชื่อในความรัก มันทำให้
ทำให้คนใกล้ตายมีรอยยิ้มและทำให้คนสิ้นหวังกลับมีพลังลุกขึ้นต่อสู้ เป็นแรงขับเคลื่อนสิ่งสวยงามและมีพลังซ่อนเร้นที่จะส่งต่อความหวัง ความสุข แม้น..จะมีน้ำตา แต่มันก็เป็นน้ำตาของความสุข เป็นน้ำตาของความปรารถนาดี เป็นน้ำตาของความตื้นตันใจจากผู้ให้และผู้รับ และด้วยอานุภาพของความรักสามารถยุติความขุ่นข้องหมองใจ การทะเลาะวิวาท รวมทั้งยุติสงครามที่โหดร้ายได้ 
                                  ...................................................................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,862 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,978 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท8 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม