The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 3 ตอนที่ 28

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 3 ตอนที่ 28
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 3
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 11 ก.พ. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย
มุมมองไป่ไป๋
เมษายน ค.ศ.2021
ร้านขายชุดกีฬา  Fairy sport wear

           “ไป่ไป๋
! เงินที่ขายของตลอด ช่วงที่คุณไม่อยู่ค่ะ” อาหงพนักงานขายอาวุโสในร้านยื่นซองมาให้
“ขายไม่ดีใช่มั้ยคะ?” ตอนนี้พิษของโควิคซัดกระหน่ำ ฉันเข้าใจปัญหา
“เงียบเลยแหละค่ะ ร้านอาหารก็แย่ คนไม่ยอมออกจากบ้าน”
“เดี๋ยวหนูต้องออกไปข้างนอกบ่อย ๆ และอาจจะนาน ฝากอาหงดูร้านด้วยนะคะ จากนี้ไป...ฉันจะคิดแต่ค่าเช่าร้านกับต้นทุนสินค้า ที่เหลืออาหงเอาไปแบ่งกันนะ”
“ไป่ไป๋!อาหงสะดุ้งร้องเสียงหลง
“จริง! อาหงเอาต้นทุนบวกดอกเบี้ย บวกค่าเสียโอกาสคืนมาให้หนูและขอค่าเช่าร้านเดือนละ 20,000 หยวน” ฉันใจดีสุดแล้วสำหรับคนเก่าแก่ที่ทำงานเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เด็ก ๆ
“ไป่ไป๋!อาหงน้ำตาคลอ คงจะซาบซึ้งใจล่ะสิ!
“ตามนั้นแหละค่ะ! ให้เวลากอบโกย 3 ปีนะคะ ถือว่าเป็นโบนัสที่ช่วยทำงานมาหลายปี หนูฝากบ้านด้วย” ฉันไม่อยากเอาเปรียบ อาจจะไม่ได้อยู่บ้านอีก ต้องเตรียมตัวไปตามฝันที่เกาหลีใต้ แต่ก็อยากให้ร้านยังอยู่ ให้พวกเขาได้ทำงานเลี้ยงครอบครัวต่อไป
           ฉันหันไปอธิบายกับแทนว่าคุยอะไรกับอาหงบ้าง
เขาขมวดคิ้วสายตามอง อย่างกับฉันเป็นตัวร้ายในละคร...
“แน่ใจนะว่า ไม่ได้เอาเปรียบพวกเขา”
“ไปกันเลยค่ะ” ฉันจูงแขนออกนอกร้านไม่อยากจะสนใจ นายขายของเป็นเหรอ?
“ปรกติ! คุณให้เงินเดือนเขาคนละเท่าไหร่?”
“คนละประมาณ 3 พันหยวน ค่าคอมมิชชั่นต่างหาก ก็ตกคนละ 8พันถึงหนึ่งหมื่นแล้วแต่บางเดือน ไม่น้อยนะคะ ร้านหนูขายของดีมาก ยอดขายสูงมาก ยิ่งถ้าหนูนั่งไลฟ์ติ๊กต๊อกที่ร้าน วันนั้นคนจะมาเพียบ”
“แล้วช่วงนี้ของขายไม่ดี พวกเขาจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าร้านให้คุณ เป็นลูกจ้างไม่ง่ายกว่าเหรอ? คุณทำอย่างนี้เท่ากับโยนภาระไปให้พวกเขาเต็ม ๆ” เขาพูดเหมือนตำหนิ /นายจะรู้เรื่องอะไร? พูดไปเรื่อย/ ฉันรู้สึกขัดใจตะหงิด ๆ ต้องสั่งสอนเรื่องการค้าให้สักหน่อยแล้ว
“คุณไม่เข้าใจเรื่องการค้า ตอนที่เศรษฐกิจมันไม่ดี เราต้องลดค่าใช้จ่าย หนูยอมเสียสละเป็นผู้ออกมาเอง จะได้ไม่ต้องไล่ใครออก เพราะค่าตัวของผู้บริหารมันแพง เงินส่วนที่หนูจะได้ หนูยกให้หมดเลย”
“ดูเหมือนมีคุณธรรมนะ แต่ผมว่า ไม่ใช่หรอก มันเป็นเกม”
“คุณไม่รู้อะไร การยกกิจการให้ลูกน้องไปบริหารเอง เท่ากับพวกเขาจะต้องใช้ศักยภาพในการทำงานมากขึ้น ตั้งใจขายมากขึ้น เพราะกำไรทั้งหมดจะเป็นของเขา ใคร ๆ ก็ขยันกันทั้งนั้นแหละ”
“ขยันแต่ขายไม่ได้ จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าร้านไม่ทราบ”
“คุณไม่รู้จักแรงจูงใจ ไม่เข้าใจวิธีการให้รางวัลคนทำงานของหนูหรอก เงียบ ๆ เถอะ”  /นายยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ/
“เอาเปรียบกันชัด ๆ โควิดระบาดใครจะขายของได้ กำไรพอจ่ายค่าเช่าร้านหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไหนจะต้องจ่ายค่าขาดโอกาสอีก ดอกเบี้ยด้วย ขูดรีดชัด ๆ” เขาบ่นกะปอดกะแปด กวนใจเป็นบ้าเลย...
“คุณขายของไม่เป็นก็เงียบปากไปเลย ไม่เห็นหรือไง อาหงดีใจจนน้ำตาไหล?”
“ร้องไห้เสียใจน่ะสิ!
ฉันเริ่มหงุดหงิดอีกแล้ว หาเรื่องมาต่อว่าได้ทุกวัน ไม่คุยเรื่องนี้กับนายดีกว่า คุยไปนายก็ไม่มีวันเข้าใจ
“หุบปาก แล้วไปข้างนอกกัน”
               …………………..............................................................................……………………..


ทะเลสาบตงหู
สวนสาธารณะกลางเมืองอู่ฮั่น สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองอู่ฮั่น สองข้างทางขนาบด้วยไม้ดอกสีสวย สลับต้นหางนกยูงใหญ่ดอกส้มลานตา เป็ดแมนดารินคลอเคลียเคล้าคู่เล่นน้ำ หงส์ขาวกับหงส์ดำลอยคอคู่กัน หมอกจาง ๆ จับผิวน้ำเป็นโยงใยคล้ายเส้นไหม
เรามาขี่จักรยานวนรอบทะเลสาบสีเขียวสบายตา ฉันสับสนตัวเองใจหนึ่งก็รอคอยนาตาลี อีกใจลึก ๆ ก็กลัวว่าแทนจะจากไป
“อยากรู้จังว่า ทำไมอนนี่ไม่ติดต่อกลับมา?” ฉันกอดเอวเขาไว้หลวม ๆ คิดทบทวนไปกลับหลายตลบ หรือหมวดจางขัดขวางไว้ จะทำไงดี  โทรติดต่อแม่บ้านคนนั้นก็ไม่ติด อยู่บ้านรอเฉย ๆ อกแตกตายแน่
“พวกนั้นคงไม่ให้ นาตาลีสื่อสารกับใครล่ะมั้ง?”
“เนอะ? หนูก็คิดอย่างนั้น ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่เจอเธออีกเลย หรือว่า พวกเขารู้ตัว พานาตาลีหนีไปที่อื่น”
“ก็เป็นไปได้! แต่สัญญาณในคอมฯ ไม่กระดิกไปไหนเลยนะ”
“หนูนอนไม่หลับเลย กังวลใจจัง”
คุณเลิกคิดจะโทรไปหาพยาบาลนั่นแล้วใช่มั้ย คุณเชื่อใจทีมใช่มั้ย?” ฉันเอ่ยหลังจากพ่ายแพ้ต่อความอยากรู้ หม่าม้าไม่น่าก่อไฟเลย
ไม่โทรหรอก คุณตัดสินใจแล้วนี่ ผมเชื่อมั่นในทีมนายน่ารักมาก
ดีแล้วจะได้ตั้งใจทำงานเฮ้อ...โล่งอก
ผิงผิง! น่าสนใจกว่า แต่...ผมหาเบอร์เธอไม่เจอฉันใจหายวาบ แอบลบเบอร์ของเธอทิ้งไปแล้ว...               
อย่าไปยุ่งกับเธอเลย เธอไปอยู่ไกลขนาดนั้นและกำลังจะมีชื่อเสียง อย่าฝันไกลฉันไม่เคยคิดเอาเปรียบคุณเลยนะ กลัวคุณจะอกหักเลยป้องกันไว้ก่อน ผิงผิง! ไม่จริงใจกับคุณหรอก
“ก็คุณสัญญาแล้วว่า จะติดต่อให้ผม”
“เปลี่ยนใจแล้ว” ฉันเมิน
“แต่ผมสงสัยว่า เบอร์ผิงผิงหายไปได้ยังไง? ผมจะดูติ๊กต็อกของเธอ” แหม! ข้องใจจังเลยนะ โดนขนาดนี้ยังไม่เข็ด แต่ฉันจะยอมมอบตัวง่ายๆไม่ได้...
“คุณได้เมมเบอร์รึป่าวค่ะ”
“เมมสิ”
“ได้รีสตาร์ทเครื่องหรือเปล่า?”
“หือ!...????”
“ถ้าคุณไม่รีสตาร์ทมันก็หายสิ เดี๋ยวนี้เบอร์ของศิลปินจะเป็นแบบนี้ จะหายไปในเวลา 1 ชั่วโมง ไม่เหมือนของคนทั่วไปหรอก” มั่วไปก่อน
“มีอย่างนี้ด้วยเหรอ แล้วเบอร์ของเพื่อนเธอทุกคน ก็หายไปด้วยเหรอ?” เกาหัวอีกแระ
“อื้อ!  จบนะ มันโดนลบไปพร้อมกันแหละ                
เขาเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียว ที่ฉันคลุกคลีถึงเนื้อถึงตัวมากที่สุด ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่คนรักกัน แต่ทำไมฉันกอดเขาแล้วอบอุ่นสนิทใจ อยากกอดบ่อย ๆ
ผมเองก็ต้องมีเพื่อนเหมือนกันนะ อีกเดี๋ยวนาตาลีออกมาคุณก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว คุณจะมายุ่งอะไรกับผมนักหนา เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยเฮ้อ!..ไม่จบสินะ พูดอะไรออกมารู้ไหมว่า ฉันเริ่มไม่พอใจแล้วนะ …        
อย่าพูดอย่างนี้ให้ได้ยินอีกครั้งนะ
ก็เรื่องจริงนี่ คุณผิดสัญญาท่าทางของเขาน่าสงสารมาก แต่ฉันขอเห็นแก่ตัว
หนูอยากให้คุณอยู่ด้วย ไม่อยากให้ไปมีคนอื่น พอคุณมีแฟน คุณก็ไม่มาคุยกับหนูแล้วรู้สึกหวงมาก ฉันต้องหน้าด้าน ทำหลายอย่างที่ไม่เคยทำก็เพราะเขา บางครั้งก็หวง บางครั้งก็อยากให้เขากลับไปเพราะนาตาลีกำลังจะกลับมาแล้ว            
นิสัยเงียบ ๆ ของเขาทำให้อ่านความรู้สึกของเขาไม่ค่อยออก ไม่รู้ว่า เขาคิดอะไรในใจ แต่ตอบกวนประสาทอย่างนี้ เขาคงจะไม่ได้คิดอะไรกับฉันหรอก แต่ก็อยากให้เขาคิด แต่ถ้าเขาคิดแล้วฉันจะเอานาตาลีไปไว้ที่ไหน สับสนไปหมดแล้ว
เดี๋ยว! ผมพาแฟนมาแนะนำให้รู้จัก จะได้เป็นเพื่อนกัน
“หือ! ยัง...ยังไม่หยุดอีก นี่แน่ะ...หยิกซะเลย...
“โอ๊ย!  
ฉันโกรธวืดขึ้นหัว...     
“อั่ก! อั่ก! ทุบหลังไปอีกสองที พูดกันตั้งนานไม่เข้าใจเลยใช่ไหม? /นายจะพาแฟนมาแนะนำทำไม? ฉันไม่ได้อยากรู้จัก ไม่อยากเห็นหน้าด้วย/            
โอ๊ย!..เจ็บนะ! คุณทำร้ายจิตใจผมไม่พอ ยังทำร้ายร่างกายผมอีก ผมจะฟ้องคุณในมาตรา 296 และ 289 ข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจ
ถ้าไม่อยากตายเลิกคิดเรื่องนี้ซะ อยู่กับหนูนี่แหละ เดี๋ยวหนูจะรับงานถ่ายแบบแล้ว คุณรู้กฎหมายก็คอยเป็นผู้จัดการให้หนู ขับรถพาไปทำงาน ให้นาตาลีทำงานห้องทดลอง เอาอย่างนี้ดีกว่า ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดี ฉันก็ได้อยู่กับนาตาลี เขาก็อยู่ข้าง ๆ ด้วย            
อยู่ด้วยนานแล้ว เบื่อแล้ว!” เขาพูดประโยคนี้มาเหมือนโดนไฟช็อต หมดคำจะพูดเลย             
“..............”
ฉันน้อยใจนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ปล่อยมือจากเอวไม่กอดแล้ว ในใจตอนนี้ร้อนรุ่มหนักกว่าเดิมอีก นายพูดคำว่า เบื่อเลยเหรอ?
ไปนั่งศาลากลางน้ำกันดีกว่าค่ะ ไม่มีคนเขาขี่จักรยานไต่สะพานไปจนถึงศาลาทรงสูงสี่เสา หลังคาแอ่นโค้ง ล้อมรอบไปด้วยหญ้าสูงและน้ำใส ฝูงปลาคาร์ฟเหลืองแดงว่ายวนสวยงาม
มานี่ก่อน หนูมีของจะให้ สวมคอไว้จะมีแต่โชคดี มันเป็นเครื่องรางของขลังฉันสวมสร้อยเงิน พร้อมล็อกเกตกลมอันใหญ่ให้
“อะไรครับ?” เขาแกะมัน แล้วขมวดคิ้ว...
“รูปคุณนี่ เอามาสวมคอผมทำไม?” ห้อยคอไปเถอะ! นายจะได้ไปจีบใครไม่ได้อีก //แผนชั่วแยบยลมาก อิอิ//
ห้ามถอดแม้ตอนอาบน้ำของจะเสื่อมฉันกำชับมั่ว ๆ ไป
อย่างนี้ผมก็มีแฟนไม่ได้สิ ไม่เอา! เอาคืนไปเลย
หื้อ! พยศซะงั้น ข่วนหน้าสักทีดีมั้ย ขัดใจทุกเรื่อง…                
พูดไม่รู้เรื่องหรือไงเนี่ย?” อีตาบ้าชอบทำให้เสียอารมณ์ตลอด...
อันนี้! มันจะเป็นเครื่องรางนำโชค เหล่าซือฟู่หลงทำพิธีให้แล้ว ผู้ที่สวมใส่จะโชคดี มันต้องมีสตอรี่มาหลอกสินะถึงจะรับไว้ ฉันลูบล็อกเกตที่ห้อยคอเขา แล้วยกขึ้นมาจุ๊บไปหนึ่งที          
นี่ผมต้องห้อยมันจริง ๆ ใช่ไหม? ขอบคุณนะที่ให้ของที่ระลึกเขายอมรับมันแล้วดีใจจัง                  
จะไปเกาหลีใต้เมื่อไหร่?” เขาหันมาถามเสียงหล่อเชียว
ฉันชอบเขาตรงที่มักจะตอกย้ำฝันของฉันบ่อย ๆ คุยเรื่องไอดอลที่ฉันชอบ มีความสุขและมีความหวังทุกครั้งที่คุยเรื่องนี้
           
เสร็จภารกิจก็ไปเหมือนกัน รอให้จูยอนได้สถานะผู้ลี้ภัยก่อน หนูจะไปหากับเธอ หนูจะพานาตาลีไปอยู่ที่โซล เกาหลีใต้ด้วยกันใจของฉันเบาขึ้น เป้าหมายนี้เร้าใจมากกว่าสิ่งอื่น เป็นฝันสูงสุดที่ต้องทำให้ได้               
ผ่านความยากลำบากครั้งนี้ไปได้ คุณจะแกร่งมากขึ้น ตั้งใจและพยายามขึ้นสู่จุดสูงสุดให้ได้ เมื่อสำเร็จแล้วจงลงมาต่ำที่สุด เพื่อมอบความรักและขอบคุณผู้ที่สนับสนุนและอยู่กับพวกเขา คนเหล่านั้นจะเป็นเพื่อนคุณไปจนตาย ถ้าคุณไม่ทิ้งพวกเขา
“จริง ๆ นะคะ ถ้าหนูทำได้ หนูจะคืนให้กับทุกคนอย่างสาสม หนูจะให้โอกาสคนที่ด้อยกว่า หนูจะช่วยเหลือคนที่พยายาม หนูจะฉุดมือของคนที่ยื่นขึ้นมา ให้รอดพ้นความยาก หนูจะทำอย่างที่คุณเคยสอนไว้” ฉันชอบมากเวลาเขาชม อยู่ใกล้เขาแล้วความมั่นใจความกล้ามาจากไหนไม่รู้ ฉันมั่นใจมากและเชื่อว่า ฉันทำได้...
จะพยายามค่ะ
ไฟท์ติ้ง! อย่ายอมแพ้นะ ถึงแม้ในวันนั้นจะไม่เห็นผม...ขอให้จำไว้ว่า ผมอยู่ข้างคุณเสมอ ผมเชื่อว่าคุณทำได้! ไฟท์ติ้ง!”
สายลมพัดกระโชกเข้ามา เส้นผมของเขาปลิวตามสายลมพัดผ่าน ดวงตาคู่นั้นแสดงความจริงใจ
“ไฟท์ติ้ง!”              
ฉันมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างขอบคุณ ปลื้มใจ หัวใจฉันพองฟูพร้อมจะเผชิญความยากลำบาก ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร ฉันจะสู้และจะฝ่าฟันให้ได้//ฉันแอบสัญญาในใจ// 
“ไปที่อื่นเถอะ รู้สึกว่ามีคนแอบมองอีกแล้ว”
“หือ! มันมาอีกแล้วเหรอ ให้หนูแจ้งตำรวจมั้ย?”
“มันพวกเดียวกันกับตำรวจ เราหลบไปที่อื่น ที่คนเยอะ ๆ ดีกว่า ตรงนี้คนเริ่มขาดช่วงแล้ว อันตราย!” เขามองไปที่ชายหัวเกรียนชุดดำ 2 คนยืนเกาะจักรยานอยู่ไม่ไกลจากศาลา
“อึดอัดใจมั้ยคะ?”
“มาก!..ผมเข้าใจหัวอกของจูยอน เพราะผมเองก็ไม่ได้ต่างจากเธอ”
“งั้นเรากลับบ้านกันเถอะ ไม่สนุกแล้ว ถ้าซอนอยู่ด้วยหนูจะจ้างให้เขายิงหัวพวกมันให้หมดเลย” ฉันเกลียดมาก อย่าให้มีโอกาสบ้างก็แล้วกัน จะสั่งสอนให้พวกมันรู้ว่า ถ้ามันโดนไล่ล่าบ้างจะรู้สึกยังไง?    
วันนี้ก็ไม่มีโทรศัพท์ติดต่อมาเหมือนเคย ดวงตะวันคล้อยลอยลงล่วงลับ พื้นน้ำในทะเลสาบนิ่งสนิท ไอหมอกสลัวลอยอ้อยอิ่ง ฝูงนกกาโผบินกลับรัง สวนทางกับด้างคาวแม่ไก่ที่พึ่งจะออกหากินในยามค่ำคืน
แทนขับรถออกจากสวนสาธารณะวนเข้าเมือง ขึ้นห้างสรรพสินค้ากินข้าว แล้วหลบพวกมันเข้าบ้าน มันจะมาเก่งกว่าฉันได้ยังไง อู่ฮั่นบ้านของฉัน ไม่มีซอกไหนที่ฉันไม่รู้จัก
……………………..…………………………….



พวกเรากลับมารอโทรศัพท์ที่บ้าน หลังจากกินข้าวกินปลาเสร็จ ก็หิ้วเบียร์ติดมือกลับมาด้วย วันนี้คงผิดหวังเหมือนทุกวัน นาตาลีหายเข้ากลีบเมฆไปเลย ไม่โผล่มาที่ชั้น 15 อีกเลย
Rrrrrr!! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เหวย! ไป่ไป๋ค่ะ เบอร์ไม่คุ้น ขอให้เป็นนาตาลีทีเถอะ             
อั่นย๋อง! นาตาลีค่ะ!”
อนนี่! ฉันแหกปากลั่นดีใจ ลุกขึ้นวิ่งไปรอบบ้าน             
อนนี่เป็นอะไรหรือเปล่า? ปลอดภัยดีใช่มั้ยคะ? คิดถึงจังเลย ฉันดีใจน้ำตาคลอ
ไป่ไป๋! ฮือฮือ!! เสียงของเธอเรียกน้ำตา
สิ้นสุดความสงสัย เธอรอดแล้ว เรานั่งร้องไห้ด้วยกัน ระบายความอัดอั้นที่เพาะบ่ม กัดเซาะหัวอกมาเกือบปีให้ออกไป หัวใจของฉันโบยบินไปหาเธอ...
เจอกันหน่อยสิ เจอได้ที่ไหน?” ฉันอยากจะมุดไปหาทางโทรศัพท์เลย             
ฉันโดนควบคุมตัวกระดิกไม่ได้เลย คนอื่นมีใครเป็นอะไรบ้างหรือเปล่า? ติดต่อกันอยู่ไหม คิดถึงมากอยากเจอทุกคน ฮือฮือ
ฉันเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เธอฟังอย่างละเอียด เธอทั้งดีใจทั้งเสียใจ เรื่องราวร้าย ๆ มันผ่านไปแล้ว เรานั่งคุยโทรศัพท์กะหนุงกะหนิงกันสองคน จมอยู่กับห้วงเวลาของความสุข สบายใจ ปลอดโปร่งโล่งใจที่คนรักปลอดภัย จนลืมนายแทนไปเลย
หลังจากวางสายแล้ว...
Congratulations!เขาวางกระป๋องเบียร์ลงบนโต๊ะ
“อั่ก!อั่ก!อั่ก!” ฉันยกซดเหมือนกระหายน้ำ อารามดีใจที่ได้ยินเสียงนาตาลี โล่งใจที่ได้มีโอกาสถามสารทุกข์
นั่งกินเบียร์สบายใจบนโซฟาแดงชั้น 3 หน้าห้องนอนหม่าม้า ทุกสิ่งอย่างกลับมาแล้ว หวังว่าต่อไปคงไม่ต้องเสียใครไปอีกแล้วนะ          
มาชนแก้วครับ! วันนี้ต้องเมาฉลองสักหน่อย คู่จิ้นได้กลับมาเจอกันแล้วเขายื่นกระป๋องเบียร์เย็นเจี๊ยบส่งมาให้อีก แล้วเอาแก้วน้ำเปล่าของตัวเองมาชน ที่สำคัญวันนี้ เขาซื้อตุ๊กตาหมีแพนดาตัวอ้วนใหญ่มาให้ด้วย ไม่รู้นึกครึ้มอะไรขึ้นมา             
ฉันเปิดทีวีหาเพลงฟัง แต่เจอรายการข่าวพอดี ฝูงคนในชุดชนเผ่าชาติพันธุ์มู่เหลากว่า 100 คนเดินเพ่นพล่านในเมืองฉวีจิ่ง มณฑลยูนนาน มองไกล ๆ รูปร่างเหมือนคนปรกติ ถ้าสังเกตดี ๆ เนื้อตัวจะสกปรกเลอะเทอะเปรอะเปื้อน มอมแมม             
พวกเขาเดินเข้าร้านสะดวกซื้อหยิบของกินสบายใจ เสียงรถบีบแตรไล่ดังสนั่น โดนพ่อค้าแม่ค้าเอาน้ำราดบ้าง เอาไม้กวาดไล่ตีบ้าง พวกเขาก็ไม่สู้ ได้แต่เอียงคอมองแล้วเดินหนีไป พวกเขาไม่ได้ทำร้ายใคร เพียงแค่หาของกินประทังชีวิต                
ท่านผู้ชมครับ ผู้คนเหล่านี้เป็น Death man walking เดี๋ยวผมจะเข้าไปสอบถามนะครับ นักข่าวหนุ่มรายงานแล้วเดินเข้าไปหาเด็กวัยรุ่นชายในชุดชนเผ่า               
รบกวนด้วยครับ! พวกคุณมาจากที่ไหนกันครับ?” นักข่าวชายภาคสนาม เข้าไปเอาไมค์จ่อปากสัมภาษณ์
อือ! ออ!”  ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปาก
ชายจีนวัยสามสิบในชุดชนเผ่ามู่เหลา ผิวหนังเริ่มมีตุ่มน้ำเหลืองขึ้นตามลำตัว ดวงตาขาวเริ่มคลุมลูกตาดำ เดินเลื่อนลอยเข้ามา
คุณชื่ออะไรครับ?” นักข่าวหันไปถาม
อือ! ออ!”  
นักข่าวหันไปถามหญิงวัยกลางคนข้าง ๆ ด้วยคำถามเดียวกัน...
อือ! ออ!” เธอคว้าซาลาเปายัดปาก กินซาลาเปาอย่างมูมมามไม่ตอบรับสิ่งเร้าภายนอก
สุนัขสีน้ำตาลตัวผอมกระดิกหาง เดินวนเวียนต้อนหน้าต้อนหลังอยู่ข้าง ๆ นี่คือ...ความรักแท้ ความซื่อสัตย์ การจงรักภักดีอย่างแท้จริง ถึงแม้น!..เจ้าของจะจำมันไม่ได้แล้ว แต่มันยังจำเธอได้ และเดินตามไม่ยอมห่างกาย ฉันสะท้อนใจน้ำตาเอ่อ      
แล้วกำลังจะไปไหนกันครับ? นักข่าวคนเดิมขยับเดินไปถามเด็กสาววัยรุ่น             
อือ! ออ!” คำตอบฟังไม่เป็นคำ
พวกเขายังก้าวเดินไปเรื่อย ๆ โดยมีรถถ่ายทำรายการทีวีติดตามไปด้วย รูปร่างหน้าตาทรุดโทรมไร้สีสัน แต่พวกเขาไม่ได้ทำร้ายใคร เพียงแค่หิว ฉันแปลกใจว่า ทำไมไม่มีใครให้อาหารพวกเขากิน ทำไมไม่มีสักคนที่เห็นใจและเข้าใจ            
ฉันเปลี่ยนไปช่องอื่นก็เป็นข่าวลักษณะเดียวกัน ฉันอยากรู้จังเลยว่า คราวนี้รัฐบาลจีนจะกลบข่าวนี้ได้อย่างไร? ตอนนี้ยังเป็นเพียงข่าวในประเทศ อยากเห็นฝีมือของรัฐบาล ฉันเคยเห็นข่าวแบบนี้ที่บ้านเจ็ทโด้มาแล้ว มันลามปามไปทั่วโลกแล้ว             
พวกนี้ ใช่ชาวบ้านที่ทำร้ายพวกเราหรือเปล่า?” สีหน้าของแทนเป็นกังวล ดูเหมือนเขาร้อนใจมาก เดินวนเวียนหน้าทีวี             
ใช่ค่ะ! หนูจำชุดชนเผ่านั่นได้ โชคร้ายจริง ๆ พวกนี้คงเดินหลงออกมา ยังเหลือที่หมู่บ้านอีกหลายคนฉันสลดใจยกเบียร์กระป๋องขึ้นซด             
ปัญหาของโลกใบนี้เกิดจากคนกลุ่มเดียว พวกนักการเมืองบ้าอำนาจปรารถนาจะอยู่บนจุดสูงสุด ต้องการเป็นผู้ควบคุมเขาสีหน้าเครียด ฉันพอจะเข้าใจความรู้สึกของเขา แทนเป็นคนใจดีมาก ถ้าช่วยได้เขาช่วยแน่นอน             
พวกมันต้องการจะควบคุมคนจริง ๆ เหรอคะ? อ๋า! อยากครองโลกอะไรแบบนี้เหรอคะ?”
อืม! เพราะมันคิดว่า มันฉลาดกว่า มันมองคนอื่นโง่กว่า มันบ้าที่ชอบคิดแทนคนอื่น ชอบตั้งกฎเกณฑ์ ไอ้คอมมิวนิสต์ชั่วเขาส่ายหน้าระอาใจ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจเรื่องการเมืองเท่าไหร่? กินเบียร์ดีกว่า
“Rrrrrrr!!!” โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นขัดจังหวะ             
ขอตัวออกไปรับโทรศัพท์ก่อนนะครับเขาขยับตัวเดิน เตรียมจะลงบันไดไปรับโทรศัพท์ด้านล่าง             
ฉันรีบปิดทีวี มีเรื่องด่วนที่สำคัญกว่าเข้ามา ยกเบียร์ขึ้นดื่ม หรี่ตามองตามด้วยความสงสัย ฉันสับสนกับความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน บางครั้งก็ทำตัวเหมือนเป็นเมียของเขาซะงั้น อยากรู้เรื่องของเขาไปหมด
สิ่งที่หม่าม้าเคยสอนเคยเตือนไว้ มันเป็นนิสัยของฉันทั้งหมดเลย เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาเกือบทุกเรื่อง คิดแทน ตัดสินใจแทนและแสดงความเป็นเจ้าของ          
รบกวนคุณแล้ว!... รับโทรศัพท์ตรงนี้จะเป็นไรไป ฉันเริ่มเมาเสียงยาน ยังระแวงเรื่องโทรศัพท์ไม่หาย หม่าม้าคนเดียวทำให้ฉันหลอนเวลาเขารับโทรศัพท์
เขาก็เชื่อฟัง หมุนกลับเดินโทรศัพท์แนบหูมานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
ครับ ๆ ๆ ๆ แล้วเจอกันนะ ขอบคุณครับเขายิ้มกับโทรศัพท์ ฉันมองตามไม่วางตา ตอนนี้หงุดหงิดง่ายแปลกจริง ๆ             
ใครโทรมาคะ?” ฉันเก็บไม่ไหวหรอก ดอกมันจะบาน อย่างไรฉันก็จะถาม เมาแล้วด้วย..ใจถึงมาก             
เพื่อนครับ ไม่มีอะไรเขาตอบเรียบ ๆ ยกกระป๋องเบียร์ส่งมาให้ นี่แหละ! สิ่งที่ฉันหงุดหงิด เมินหน้าตลอด ตอบไม่ตรงคำถาม
ฉันยกเบียร์ขึ้นซดอีกครั้ง
คุณมีความลับเยอะจังเลยนะคะ?” ฉันเริ่มตึง ๆ แล้ว เดี๋ยวเจอดีแน่             
ไม่มี!!...ความลับอะไรกัน ช่วงนี้คุณเป็นอะไรไป ทำตัวแปลก ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเขานั่งไกลคนละมุมโซฟายาว          
คำโกหก เอาชนะความจริงไม่ได้หรอก ยิ่งโกหกมากมันจะแก้ปัญหาไม่ถูก เลิกซะนะนิสัยนี้ฉันแขวะไม่เลิก
เขาหันมามองหน้าแล้วอมยิ้ม ไม่พูดอะไร มันยั่วโมโหกันชัด ๆ จริง ๆ แล้วฉันชอบเวลาเขายิ้ม มากกว่าตอนเถียง             
ยิ้มอะไร?” วอนซะแล้ว ฉันยกเบียร์ขึ้นซดเกลี้ยงกระป๋อง
เขาขยับมาเปิดเบียร์ส่งกระป๋องใหม่มาให้อีก นิสัยไม่ดี! ดูแลเอาใจจนเคยตัว /ฉันเสียคนเพราะคุณน่ะแหละ…/             
ทำไมไม่กินเบียร์ด้วยกันล่ะคะ?” เริ่มสะเงาะสะแงะด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ยกดื่มอีกอึกใหญ่             
เมาพร้อมกันไม่ได้ครับ เราอยู่กันแค่สองคน ผมต้องดูแลคุณกินให้สบายใจ คุณหมดทุกข์หมดโศกแล้ว ผมดีใจด้ยนะครับเขาตอบดีจังเลย ทำเลวใส่ฉันมั่งก็ได้นะ อย่าเอาใจฉันขนาดนี้เลย
ถ้าหนูลำบาก คุณจะมาช่วยไหมน้า?” ฉันเห็นความทุ่มเทที่เขาจะช่วยนาตาลีแล้วแอบอิจฉา เขาต้องมีใจให้นาตาลีของฉันด้วยแน่          
ผมจะไปคนแรกเลย!!เขาหันมายิ้มอบอุ่น
ไม่จริงใจเลย! มานี่หน่อยเสียงเริ่มอ้อแอ้...
“ปับปับ!” ตีโซฟาให้เขาขยับมาหา เขาก็ทำตามอย่างไม่อิดออด             
แล้วนี่! ซื้อมาให้เนื่องในโอกาสอะไรเหรอ?” ฉันเอามือไปพาดหัวตุ๊กตาหมีแพนดาข้าง ๆ             
อ่อ!..ขอโทษนะ! ผมมีเงินไม่มาก ซื้อของตอบแทนคุณได้แค่นี้ ผมตั้งชื่อมันว่า แทน นะครับ มันจะคอยอยู่ข้างคุณตลอดไป จนกว่าคุณจะไม่ต้องการมันใจหายแว้บ...เขาเตรียมตัวจะไปแล้วเหรอ?
“อั่กอั่กอั่ก! ฉันยกเบียร์ดื่มหมดกระป๋อง ดีใจที่จะได้เจอนาตาลี แต่พอได้ยินเขาพูดอย่างนี้ ใจก็เสีย
เอาเบียร์มาอีก ฉลองที่จะได้เจอนาตาลีแล้วฉันอยากเมา
“นี่ครับ!” เขาเปิดส่งมาให้
“อั่กอั่กอั่ก” ฉันรับเบียร์มากระดกแล้วขยับตัวไปหา สิ่งที่ฉันกลัวมาถึงแล้วเหรอ ชีวิตคนมักเป็นเช่นนี้ ได้อย่างมักจะเสียอย่างเสมอ ใจไม่ดีเลยที่รู้ว่า ต้องเสียเขาไป คิดสับสนวนไปวนมาในใจร้อนรุ่ม
แต่อีกใจก็คิดว่า ฉันจะห้ามเขาทำไม? เสร็จงานแล้วเขาก็ต้องกลับสิ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ทำไมทรมานใจจังเลย
จะกลับบ้านแล้วเหรอ? หมายถึงกลับประเทศคุณน่ะฉันรู้สึกใจคอไม่ดี เวลาร่วมปีที่เห็นหน้ากันทุกวัน ถึงจะทะเลาะกันบ่อย แต่ฉันไม่เคยเกลียดเขา แค่อยากจะเอาชนะและได้อยู่ใกล้            
เสร็จงานผมต้องเดินทางต่อ ที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว ผมจะแวะไปลาหม่าม้า ก่อนออกจากที่นี่
“..........” ทำไมฉันสับสน ไม่เกี่ยวอะไรกันสักหน่อย แต่อีกใจก็ไม่อยากให้ไป โอย...ฉันเป็นอะไร? สงสัยเมา ไม่รู้ล่ะ! ฉันไม่อยากให้นายหายไปจากสายตา หาเรื่องทะเลาะก่อน
อยากได้เมียเป็นพยาบาลจนตัวสั่น ปากแข็ง ขี้โกหกฉันจะต้องทำยังไง? หัวหมุนไปหมดแล้ว
ฉันบอกกับทุกคนว่า นาตาลีเป็นแฟนของฉัน แต่ในใจตอนนี้ไม่มีนาตาลีแม้แต่นิดเดียว กลัวผู้ชายคนนี้หายไป ไม่อยากเสียผู้ชายคนนี้ไปเป็นไงเป็นกัน ต้องคุยให้รู้เรื่อง คุยมันตอนเมานี่แหละ! ใจถึงมากตะปีนขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัก
“จะทำอะไร ลงไปเลย” เขาเบือนหน้าหนี
คุณจะไปจริงๆ เหรอ?” สองมือประคองใบหน้าคมสันจมูกโด่งดวงตาใสซื่อ เขาพยักหน้าช้า ๆ
หึ๋ย!หมั่นเขี้ยว จูบซะดีมั้ย? ไม่อยากให้ไปเลย โอย..ทำไมมันสับสน?             
เริ่มเมาแล้วล่ะสิ?” เขาลูบหัวยิ้มฟันขาว กลิ่นปากหอมจังเลย เขาใจดีอบอุ่นอย่างนี้เสมอ
ฉันก้มหน้าลงไปเอาหน้าผากชนกัน ปลายจมูกของเราเชื่อมต่อจนใช้ลมหายใจเดียวกัน ดวงตาใสซื่ออบอุ่นอยู่ใกล้มาก
หนูไม่มาว!” ฉันเมามาก             
คุณไม่ต้องไปไหนหรอกนะ อยู่เป็นเพื่อนหนูแบบนี้ต่อไปไม่ได้เหรอ? เดี๋ยวไปทำงานด้วยกัน หนูหาเงินเก่ง คุณแค่อยู่ช่วยก็พอฉันซบใบหน้าลงที่หัวไหล่ ในใจเศร้าจังเลย
“เราต่างก็มีทางต้องเดิน ผมจะคิดถึงคุณบ่อย ๆ ผมดีใจมากที่รู้จักคุณและได้ดูแลมาตลอด เมื่อถึงเวลาต้องจบ ผมก็เสียดายและจะไม่ลืมวันที่ผ่านมา”          
หัวใจมันยอมรับไม่ได้ อยากจะรั้งเขาไว้เหลือเกิน ฉันอยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีเขา ก้อนลมจุกในลำคอ น้ำตาเอ่อล้นสะอื้นในอก เมื่อนึกถึงวันที่เขาต้องเดินจากไป ฉันต้องตายแน่ ๆ ทนไม่ได้หรอก
ร้องไห้ทำไม?” เสียงอบอุ่นของเขาดังข้างหู          
ฉันรีบกะพริบตาไล่น้ำตาที่มันเอ่อขึ้นมา รีบยกเบียร์ขึ้นดื่มกลบเกลื่อน ตอนนี้ตุ่ย ๆ กรึ่ม ๆ แล้วลิ้นเริ่มพันกัน ยังคงกอดเขาแน่น
เปล่า! หนู..หายใจไม่ทันฉันผลักเจ้าหมีออกไป ใจเต้นรัว ใบหน้าชา ฉันเป็นอะไร น้ำตาก็ไหลมาทำไมไม่รู้?             
การได้จากลาหมายความว่า เรายังไม่ตาย การจากที่ไม่ได้ลา น่ากลัวกว่าเขาพูดถูกแต่ไม่ต้องจากได้หรือเปล่า ฉันอยากให้คุณอยู่ข้าง ๆ ตลอดไป ในสถานะไหนก็ได้             
ถ้าไม่อยากทำงานกับหนู ก็ไปหางานทำที่โซลมั้ย? จะได้อยู่ใกล้กันได้แวะไปหาได้บ่อย ๆ เวลาที่มีความสุขเราต้องอยู่ด้วยกันสิ คุณต้องเจอแต่เรื่องยาก เวลาสบายคุณก็ไม่ได้สบายด้วย พวกหนูเอาเปรียบมากเลย
ผมโดนตามล่า คงจะอยู่กับที่ไม่ได้ ผมอยากจะมีฝีมือบ้างจะได้สู้กับพวกมันได้ ผมไม่อยากให้พวกคุณโดนลูกหลงไปด้วย
“เราต้องสู้กับมันสิ หนูจะไม่ทิ้งคุณ”
“เราสู้มันไม่ได้หรอก พวกมันจะตามจนกว่าผมจะตาย อย่าให้ตัวเองมาสกปรกเพราะผมเลย ถ้าวันข้างหน้าคุณมีชื่อเสียง ผมจะกลายเป็นตัวทำลายคุณ ไม่คุ้มค่าเลย”
ฉันเศร้าใจ อึดอัดใจ คนสารเลวที่ต้องการเอาชีวิตคนอื่น มันต้องโดนคืนบ้างถึงจะรู้สึก...            
งั้น! ขอให้คุณโชคดีนะ หนูไม่เป็นไร หนูอยู่ได้ฉันกอดเขาไว้ กลัวเขาจะเห็นน้ำตา ฉันจะทำยังไง ฉันอยู่ไม่ได้หรอก
ไป่ไป๋!..คุณเป็นคนเก่ง ผมเชื่อใจคุณและจะรอคอยวันที่คุณประสบความสำเร็จ ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ทำอะไรก็ตาม ผมจะทิ้งทุกอย่างไปหาคุณ ไปปรบมือให้คุณ ผมสัญญา
ฉันเก่งแต่ทำไมต้องไปล่ะ? เชื่อใจแล้วปล่อยทิ้งไว้ก็ได้เหรอ? ฉันก็เป็นห่วงคุณเหมือนกัน ฉันต้องคิดถึงคุณมากแน่ ๆ เลย             
หนูแค่เคยตัวที่คุณคอยดูแล หนูไม่เป็นไร ปรับตัวนิดหน่อยก็ได้ ต่อไป...หนูคงไม่ต้องรอคุณแล้ว เราจะไม่มีกิจกรรมร่วมกันอีกแล้วพอคิดแบบนี้แล้วน้ำตาไหลพราก...             
แค่เริ่มต้นใหม่โดยไม่มีคุณ หนูทำได้ หนูจะทำให้ได้ ไม่ยากใช่ไหมคะ?” ฉันปลอบใจตัวเองไปอย่างนั้นเอง ฉันทำไม่ได้หรอก
“นาตาลีจะช่วยให้คุณสบายใจ คุณต้องปกป้องเธอ อยู่เป็นเพื่อนกันจนแก่เฒ่า ใช้ชีวิตให้คนอิจฉา”             
แต่หนูอยู่กับคุณมาตั้งนาน หนูเคยชินที่เจอกันทุกวัน”
“เรามาทำภารกิจร่วมกันนะ อย่าลืมสิครับ”
“แค่คิดว่า จากนี้ไปพอตื่นขึ้นมา หนูไม่ต้องรีบลนลานหยิบโทรศัพท์อีกแล้ว โทรเรียกเมื่อไหร่คุณก็มาหา จากนี้คงไม่ต้องโทรไปอีกแล้ว จะไม่ได้เจอคุณอีกแล้ว มันจะไม่มีอีกแล้ว ฮือฮือ!” อดกลั้นไม่ไหวแล้ว อย่าไปนะ 
“คุณน่าจะดีใจที่ไม่มีผม”
“ไม่เลย! หนูอยากให้คุณอยู่ด้วย”
“ผมต้องยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง ผมต้องไปสร้างตัวตน”        
มันจะไม่หวนกลับมาอีกแล้วใช่ไหม?สายธารน้ำตาไหลรินอาบใจ ฉันเป็นอะไร จะเสียใจทำไม แค่เพื่อนคนหนึ่งจะไปทำงานไกลตา           
เขาขยับตัวนั่งตรงสายตาของเราประสานกัน มีคนบอกว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ฉันมองหาความรักในดวงตาของเขา เขาต้องรักฉันบ้างสิ ต้องไม่ทิ้งไปสิ ฉันไม่ยอมเสียคุณไปง่าย ๆ หรอก
ปากไปเลอะอะไรมาคะ?” ฉันเขี่ยริมฝีปากเขาเบา ๆ ค่อย ๆ ก้มลงจูบปากนุ่มตามเสียงเรียกร้องภายในใจ มันเป็นการจูบผู้ชายครั้งแรก จูบที่มีแต่ความเศร้าใจ หนูขอโทษนะคะ...อนนี่             
กลิ่นหอมของลมหายใจทำให้จิตใจเตลิด ใบหน้าของเราขยับปรับเอียงจนลิ้นหวานสองเราเกี่ยวพันกันอย่างนุ่มนวล ความรู้สึกรักหวงแหนเพิ่มเข้ามาเกาะกุมใจ ฉันเสียเขาไปไม่ได้ ฉันต้องทำอย่างไร? เอาตัวเข้าแลกเลยดีไหม? แล้วนาตาลีล่ะ? นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่?
เขาถอนปาก....          
เมาแล้วนอนซะนะ มา!..ผมอุ้มไปนอน!” เขาช้อนตัวฉันขึ้นอุ้ม เดิน ก้มมองยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ฉันชอบความรู้สึกตอนนี้จังเลย             
เขาอุ้มเจ้าสาวขึ้นห้องแล้วสินะ แทนคะ! อย่าทิ้งฉันไปนะ
           “ฝันดีนะครับ” แทนก็ยังเป็นแทนที่เรารู้จักและวางใจได้คนเดิม ผ้าห่มถูกดึงมาคลุมหน้าอก ประตูห้องนอนถูกปิดลง
เขากำลังจะกลับไป ทำไมน้ำตาไหล ฉันเป็นอะไร? ไม่กล้ามากไปกว่านี้แล้ว รู้สึกผิดกับนาตาลีจังเลย เขาอันตรายจริง ๆ ห้ามตัวเองมาตลอดสุดท้ายก็ไม่รอด หรือว่าวันนี้คงเมามากไปหน่อยเลยสับสน
                                       ....................................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม