
อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย
มุมมองสายตา นาตาลี พัค
เมษายน ค.ศ.2021
ริมแม่น้ำฮั่นเจียงยามสายแสงแดดระยิบพื้นน้ำ ต้นลำพูสูงแตกแขนงกิ่งก้านใบเล็กเรียวเขียวเต็มต้น บ้านเพิงหมาแหงนสองชั้นเล่นระดับสีขาวหลังเดียวในรั้วกว้าง กั้นห้องด้วยกระจกสีชา เปิดมุมมองภาพหน้าบ้านชัดทุกองศา ดูเก๋ไก๋เข้ากับบรรยากาศบ้านริมแม่น้ำ
ถัดไปกลางสายน้ำเชี่ยว...ท้องเรือบรรทุกทรายลำใหญ่จมมิดเกือบมิดลำ น้ำปริ่มแคมเรือด้วยน้ำหนักบรรทุก มันกำลังพยายามต่อสู้อย่างสุดแรง เพื่อแล่นทวนกระแสน้ำขึ้นไปทางเหนือ
ฉันนั่งจิบกาแฟสบายใจหลังจากนอนตื่นสายอีกเช่นเคย นั่งแกว่งเท้าลงน้ำปล่อยใจให้ลอยไปตามลม อากาศริมน้ำหอมกลิ่นบริสุทธิ์เจือปนกลิ่นควันดีเซลอ่อน ๆ จากเครื่องยนต์เรือ
หมวดจางถูกขังไว้ในห้องคนเดียว ไม่มีใครสนใจเข้าไปคุยด้วย เพราะความชั่วร้ายของเธอที่เคยทำร้ายทุกคนไว้ ซอนกับแทนหายไปคาดว่า คงไปรับไป่ไป๋ที่บ้าน
“ตื่นแล้วเหรอ?...อนนี่!” เสียงใสดังขึ้นหลังจากรถยนต์แฮมเมอร์สีเหลืองเข้ามาจอด เสียงนี้เป็นใครไปไม่ได้ กอดซะหน่อยคิดถึงจังเลย
“ไป่ไป๋! คิดถึงจังเลย” ฉันรีบวางถ้วยกาแฟวิ่งเข้าไปกระโดดกอด หอมแก้มซ้ายขวาด้วยความคิดถึง มือโอบเอวลูบคลำตามลำตัวสำรวจทรัพย์สินของเธอว่ายังอยู่ครบไหม? สุดท้ายมือสองข้างก็กำไปที่ส้มโอคู่ใหญ่ สาวสวยสยิวขนลุกชันดีดดิ้นยิ้มอาย
“คิดถึงจัง มาจุ๊บที” ฉันจูบริมฝีปากบางด้วยความโหยหา เธอสะดุ้งหน้าเหรอหราหันไปมองหน้าแทน แล้วหัวเราะเก้อ ๆ สงสัยจะอาย ปรกติเธอหน้าด้านมาก ชอบอวด
งั้น! ไปกอดแทนดีกว่า คิดถึงแทนจังเลย พอได้เห็นหน้าแล้วตื้นตันน้ำตาไหล…
“ดีใจมากเลยที่รู้ว่าทุกคนปลอดภัย!” ฉันโผอ้าแขนเข้าไปกอด คิดถึงผู้ชายคนนี้มากที่สุด หน้าอกอุ่นนี้ฉันถึงกับเอาไปนอนฝันถึงเลยเชียวนะ
“ผมก็คิดถึงคุณมาก ขอบคุณนะครับที่ปลอดภัย” เขายังคงห่วงใยทั้งสายตาและน้ำเสียง
“แทนคะ! ขอหอมแก้มทีสิ คิดถึงจังเลย” ฉันดึงคอเขาโน้มลงมา จมูกจะถึงใบหน้าอยู่แล้ว...
“แอ๊ะ! ๆ” เสียงไป่ไป๋แทรกมา ฉันสะดุ้งรีบปรับอารมณ์...
“ทำไมล่ะ? หึงฉันด้วยเหรอ? แหม…เพื่อนกันอย่าคิดมาก ขี้หึงนะเนี่ย!” น่ารักจริง ๆ เชียว ฉันหยุดยิ้มเอ็นดูเธอ คงจะหวงฉันสินะ เธอไม่ค่อยกินเส้นกับเขา
แทน ชำเลืองหางตามองเธอด้วยความหวาดระแวง เธอเดินนวยนาดยิ้มหวานเข้ามา แล้วผลักเขาออกไป...
“แทน! มีเรื่องจะคุยกับซอนไม่ใช่เหรอ เห็นบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา? ไปเล่นที่อื่นก่อนเลย ตรงนี้คนรักจะคุยกัน” เธอชี้นิ้วไปอีกด้าน
เขาหน้าเจื่อน เกาหน้าผากแกรก ๆ...
“ผมจะคุยกับนาตาลีก่อน ผมคิดถึง” เขายิ้มหวาน แต่เธอหน้าบูด /นิสัยไม่เปลี่ยนทั้งคู่ คนหนึ่งชอบสั่งอีกคนก็หงอ แทนผู้แสนดียอมพวกเรามาตลอด/ ฉันได้ที พุ่งเข้าไปกอดเอวแทนอีกครั้ง...
“คิดถึง! คิดถึง! คิดถึง!” ฉันไม่สนใจเธอ เข้าไปสวมกอดแล้วพากันกระโดดหมุนไปรอบบ้าน
“คิดถึง! คิดถึง! คิดถึง!” ฉันชอบแทน ดีใจที่ยังมีวันนี้ให้ได้เล่นด้วยกัน ได้เห็นรอยยิ้มกับดวงหน้าที่สดใส หัวใจของฉันก็มีความสุขมากแล้ว…
“พอได้แล้ว! แทน!ไปได้แล้ว” ไป่ไป๋มองแรง กัดฟันหน้ามุ่ย ค้อนเขาตาเขียว ฉันคิดในใจว่า...เอาอีกแล้วเริ่มแกล้งเขาอีกแล้ว เขาก็ยอมปล่อยมือจากเอว แล้วเดินไปหาซอนที่นั่งเล่นกีตาร์อยู่คนละมุมระเบียง

แทนคว้ากีตาร์ขึ้นเพลง Senorita ยิ้มกว้างดวงตาใส ไป่ไป๋รีบวิ่งยิ้มหน้าบานไปนั่งข้าง ๆ แล้วช่วยกันร้อง ตัวเองพึ่งไล่เขาไปแท้ ๆ เวลาร้องเพลงทั้งสองคนจะลืมกาลเวลา เข้ากันดีจัง น่ารักทั้งคู่
ฉันยิ้มมองอย่างสุขใจ คนที่ฉันรักอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ฉันรักสองคนนี้มาก โดยเฉพาะไป่ไป๋ สาวน้อยแสนงอนของฉัน คิดย้อนไปถึงวันที่เราวิ่งหนีทากกัน ทั้งสองคนก็ร้องเพลงนี้
หัวใจจะวายทุกครั้งที่สาวน้อยเต้น หน้าอกหน้าใจมันสั่นไหวไปหมด ขายาวสะโพกกลม นมโตโยกเอวบางส่ายพลิ้ว ดวงหน้าที่สดใสรอยยิ้ม ดวงตาสว่างไสวชนะใจฉันทุกครั้ง
ฉันมีแผนการบางอย่าง เดินแวะเข้าห้องไปหาหมวดจาง เธอนั่งเบียดตัวเองในมุมห้อง ใบหน้าที่เคยสวยหวาน ยามนี้มีแต่ความเศร้าหมองเหมือนดอกไม้เหี่ยวเฉา มอมแมมไปด้วยคราบฝุ่น กางเกงขายาวก็ขาดวิ่น
ฉันยืนมองเธออยู่ห่าง ๆ ยายนี่พิษสงรอบตัว...
“ไอ้เจียงหัวโล้น! มันยังอยู่หรือเปล่า?”
เธอส่งยิ้มมา...หลายครั้งที่เธอพยายามส่งสายตาอ้อนวอน ทำให้สงสาร..แต่ฉันยังเสียวสันหลัง ตั้งแต่รู้จักกันมาฉันแพ้ทางเธอมาตลอด ไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องเชื่อเรื่องที่เธอพูดทุกเรื่อง แล้วก็โดนหลอกทุกที
“มันตายไปตั้งนานแล้ว โดน RPG ยิงเละเลย แก๊งมังกรอู่ฮั่นก็สิ้นฤทธิ์ไปด้วย ไม่รู้มันไปมีเรื่องกับใคร?”
ตายซะได้ก็ดี! เธอคงไม่รู้สินะ! คนที่ฆ่าพวกนั้นนั่งเล่นกีตาร์อยู่หน้าห้องนั่นไง? เธอกวักมือเรียก
ฉันลังเลมองซ้ายขวาก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหา
“มีอะไร ฮึ?” ฉันเหนือกว่าเธอเยอะนะเว้ย ตุกติก ฉันตบจริง ๆ ด้วย
เอียงตัวมองไปที่มือไขว้หลังของเธอ แอบโล่งใจ...มือยังโดนกุญแจล็อคอยู่ ค่อยสบายใจหน่อย
“คุณหนีออกจากประเทศจีนไปเถอะ พวกนั้นตามฆ่าคุณแน่ พวกเพื่อนคุณจะลำบากไปด้วย คุณไม่ห่วงเพื่อนเหรอ? ฉันเตือนแล้วว่าให้เลิกคบกับพวกเขา คุณจะพาทุกคนซวย” เธอบอกด้วยน้ำเสียงห่วงใย /อย่ามาทำให้เขว/
“วัคซีนที่ตึก จะขนออกกันอีกเมื่อไหร่? ฉันจะทำลายมันให้หมดก่อนที่จะโดนแจกจ่ายแล้วฉันจะไป”
เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมอง...
“พรุ่งนี้ รถบรรทุกก็จะมาขนไปแล้ว ถ้าคิดจะทำอะไรต้องตัดสินใจวันนี้” เธอบอกเรียบ ๆ ฉันพยักหน้าเข้าใจ เป็นภารกิจเร่งด่วนซะด้วย
เธอขยับตัวเงยหน้า...
“เอ่อ!..วัคซีน Anti-Tame 26 ของคุณอยู่ในตู้นิรภัยในห้องทำงานของฉัน ชั้น 14 นะ รหัสเปิด 2026”
“อ้าว! คุณไม่ได้เอาไปให้พวกมันหรอกเหรอ? คุณเก็บไว้เองเหรอ?” มึนตึ้บ! แต่ฉันดีใจมาก ต้องการมันมากที่สุด
“ฉันไม่ได้บอกใครว่า วัคซีนอยู่กับฉัน พวกนั้นอยากได้ แต่ฉันบอกไปว่า มันตกน้ำไปแล้ว”
ฉันใจพองมากที่ได้ของสำคัญคืนมา ก้มลงมองหน้า สบสายตามองหาความจริง จะเล่นอะไรอีกป่ะเนี่ย? จะหลอกอะไรอีกหรือเปล่าวะ? สายตาของเธอซื่อใสไร้เล่ห์เหลี่ยม
แต่! ฉันหนาว ไปดีกว่าไม่อยากคุยด้วยแล้ว หมุนตัว...
“เอ่อ!..นาตาลี ระวังตัวด้วยนะ ให้ฉันไปช่วยด้วยไหม? ยังไม่มีคนรู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเข้าตึกได้” เสียงเธอดังขึ้นก่อนฉันจะออกจากห้อง
“ไม่ต้องกลัว ฉันมีซอนทั้งคน เธอเสียคนดี ๆ ไปแล้วล่ะ!” ฉันยักคิ้วยิ้มเยาะเย้ย.
“คุณจะทำอะไรกับวัคซีนเหรอดอกเตอร์?” เธอถามสีหน้ากังวล มองมาด้วยสายตาแปลก ๆ //ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงเลย ฉันไม่ไว้ใจเธอแล้ว/
“ฉันจะทำลายมันทิ้ง”
“คุณต้องมีกุญแจ หาอะไรไปปั้มลูกกุญแจสิ อยู่กับหัวหน้าฝ่ายขนส่งชั้นล่างน่ะ” เธอจะมาไม้ไหนกันแน่ พูดเหมือนนั่งอยู่ในใจ รู้ทุกอย่างว่า ฉันกำลังคิดอะไร?
ฉันขัดใจมาก เดินกลับไปยืนข้าง ๆ...
“บอกฉันทำไม? วางแผนอะไรไว้อีก ฉันจะไม่ทำตามที่คุณบอก ไม่ยอมติดกับดักหรอก จำไว้!” ฉันเอานิ้วจิ้มหัวเธอหน้าหงาย
“ถ้าคุณไม่ทำอย่างฉันบอก คุณก็เข้าโกดังไม่ได้ คุณต้องใช้กุญแจกับบัตรของฉัน ให้ฉันไปด้วยสิ ฉันช่วยคุณได้” เธอยังไม่ลดละ
“คุณหลอกฉันได้แค่ครั้งเดียวแหละ!” ฉันผยองลำพองใจเต็มที่ จ้องหน้าเธออย่างเหยียดหยัน
แต่สีหน้าของเธอก็ยังนิ่ง สายตาของเธอนี่แหละ! ที่จะทำให้ฉันใจอ่อนและสับสน
“ดอกเตอร์นาตาลี คุณออกไปจากประเทศนี้ดีกว่า หนีไปซะตอนที่ยังมีโอกาส คุณเชื่อฉันสิ!” น้ำเสียงเธอจริงใจมาก
แต่ฉันรู้สึกขัดใจ ไม่ชอบไปหมด ฉันตั้งใจมั่นว่า จะต้องแก้ไขในสิ่งผิดก่อน ฉันจะไม่หนี จนกว่าจะทำลายมันหมด
“คุณขู่ฉันเหรอ? ยังไม่รู้ชะตาตัวเองอีกเหรอ?” เชยคางเธอขึ้นมาสบตาแล้วแสยะยิ้มมุมปาก มองด้วยสายตาเยาะเย้ยสุด อะไรที่ตัวร้ายในละครทำ ฉันเอามาทำใส่หน้าเธอหมด ได้ระบายความหยาบคายก็รู้สึกปลอดโปร่งดีเหมือนกัน ความกักขฬะในตัวมนุษย์ก็เป็นเสมือนน้ำมันหล่อลื่นให้หัวใจ
“อีกไม่นาน ทหารตามล่าแน่ ฝั่งโมเสสคงไม่ตามเธอแล้ว ทางที่ดี อย่ากลับมาที่นี่อีก หนีไปซะ!” เธอไม่หลบสายตา ทำไมดวงตาของเธอใสไร้เล่ห์เหลี่ยมอย่างนี้วะ ดูจริงใจจริงจัง
เหลี่ยมเยอะจริงนะ...ไม่เชื่อหรอก
“ฉันไม่ไป! มีอะไรรึป่าว?” ฉันสะบัดหน้าเดินออกมา
“คุณทำลายลงไป มันก็ช่วยได้เพียงส่วนน้อย อย่าเสียเวลาเลย” เธอยังไม่วายตะโกนตาม
ฉันหันกลับ...
“ถึงผลของการที่ฉันทำ มันจะมีค่าเพียง 0.00000001 ของใครบางคน แต่มันเป็น 100% เต็มในใจฉัน ถ้าได้ลงมือแก้ไข ความรู้สึกผิดในใจจะได้ลดน้อยลง ฉันไปก่อน!” ฉันยอมซะที่ไหน
ความคิดและการตัดสินใจ นี่แหละ! คือความแตกต่างของคน ความคิดของคน จะเป็นตัวกำหนดเส้นทางเดินของชีวิต ในหนึ่งวันเราคิดเป็นล้านเรื่อง เปลี่ยนความคิดไปตามสายตามองเห็น อาจจะต้องตัดสินใจควบคู่กันไปด้วย ถ้าคิดดีก็เดินได้ดี
ด้านนอกห้อง...เพื่อน ๆ ยังร้องเพลงกันสนุกสนาน แทนกำลังกระโดดกระเด้งลูบเป้า ร้องเพลง Beat it @ M.J. ซอน! ก็เล่นกีตาร์อย่างกับมืออาชีพ ไป่ไป๋กำลัง Moonwalk
“ไป่ไป๋! สอนฉันด้วยนะ ฉันชอบ” ฉันยิ้มหน้าบานเข้าไปร่วมแจม ช่วยเขาปรบมือ พักเดียววงเขาก็ล่มเพราะฉันปรบมือไม่เข้าจังหวะ
“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!” ทุกคนหยุดเล่นแล้วหันมาหัวเราะกับความเฉิ่มเบ้อะของฉัน
ฉันมีเรื่องใหญ่ที่ต้องจัดการให้ได้ จะถล่มอู่ฮั่นให้ราบคาบจะทำลายทุกอย่างที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือของตัวเอง ขอยืมมือของซอนช่วยเหลือ ฉันเชื่อโดยสนิทใจว่า เขาช่วยได้แน่นอน
ฉันต้องเข้าตึกด้วย เดี๋ยวชวนแทนไปด้วยดีกว่าอยากอยู่ใกล้ คิดถึงจังเลย มีเรื่องมากมายอยากจะเล่าให้เขาฟัง
“เดี๋ยวแทนไปกับฉันหน่อยนะคะ เข้าตึก The 3 Temple กัน ไปเอากุญแจโกดังวัคซีน” ฉันหันไปบอก แทนยิ้มกว้างยกมือโอเค
ไป่ไป๋หันไปมองแล้วก้มหัวลงมากระซิบ...
“อนนี่! ไปกับซอนดีกว่า เชื่อหนูเถอะ! แทนบื้อจะตาย ไม่ฉลาดเดี๋ยวโดนจับไปอีก ให้เขาอยู่เฝ้าหมวดจางดีกว่า!” เธอป้องปากกระซิบข้างหูเบา ๆ แล้วหันไปมองแทนอีกครั้ง
ฉันว่าความคิดของเธอเข้าท่าดี ไปกับซอนก็ได้ อยู่กับซอนชัวร์กว่าเยอะ รอบคอบจริง ๆ แฟนฉัน น่ารักนะเนี่ย! ดึงแก้มไปทีนึง
“แทน! พักก่อนดีกว่านะคะ ฉันไปกับซอนก็แล้วกัน”
แทนยิ้มกว้างเสนอหน้าเข้ามา...
“ไม่เป็นไรครับ ผมชำนาญเมืองนี้มากกว่า ผมมาอยู่ที่นี่นานแล้ว”
ไป่ไป๋ลุกพรวด เดินอาด ๆ เข้าไปประจันหน้า ตัวก็เตี้ยกว่าต้องแหงนหน้าคุย ยังจะไปขู่เขาอีก ยายหมาพุดเดิ้ลเอ๊ย...
“คุณนี่ล้ำเส้นตลอดเลยนะ อนนี่อยากจะไปกับซอน อย่าออกตัวแรงสิ! เดี๋ยวเราคงต้องคุยกันใหม่อีกรอบแล้วล่ะ คุณอยู่ที่นี่! เฝ้าหมวดจางไว้ ไม่ต้องไปด้วยหรอก เกะกะ!”เธอยืนจ้องหน้าเอาเรื่อง แทนหลบสายตานั่งลงกับพื้น น่าสงสารเขาจัง ยอมน้องทุกครั้ง
“ผมแค่อยากขับรถให้นาตาลีนั่งบ้าง ผมอยากแก้ตัว ผมก็มีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะแยะ ผมก็คิดถึงเหมือนกัน” แทนบ่นลอย ๆ มองไปกลางสายน้ำ
ฉันยิ้มขอบคุณในไมตรี แต่ฉันไปกับซอนดีกว่า เพราะต้องเข้าตึกด้วย เผื่อต้องบู๊กัน ซอนน่าจะจัดการได้ดีกว่า อยู่กับแทนโดนวิ่งตลอด
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวกลับมาแล้วเราคุยกันสองคนนะ” ฉันยิ้มแล้วลงไปนั่งแทรกกลางระหว่างเขากับซอน
ไป่ไป๋เดินตามมา...
“เฮ้อ!..เป็นคนยังไงเนี่ย? เราต้องเคลียร์กันใหม่อีกยาวเลย” เธอหน้างอนั่งลงแทรก ระหว่างฉันกับแทน แล้วบ่นต่อ...
“หนูจะบอกมารยาทพื้นฐานให้คุณนะ เวลาเพื่อนตกลงจะไปด้วยกันแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เขาไป ไม่ใช่เสนอตัวเองแทรกเข้ามาแบบนี้ มันไม่ให้เกียรติกัน เพื่อนจะอึดอัด” เธอจะกินหัวเขาแล้ว ปากจู๋เป็นตูดหมา แสดงว่าอารมณ์ขึ้น แทนเอาแขนเช็ดหน้าผากตัวเองแล้วถอนหายใจ
ไป่ไป๋ยื่นหน้าไปหาซอน...
“ใช่ไหม ซอน?” เขากำลังก้มหน้าเกากีตาร์อยู่ เงยหน้าขึ้นมา...
“อือ!” แล้วเขาก็ก้มหน้าเล่นต่อ
ซอน ก็น่าสงสารดูหงอยไม่ค่อยร่าเริง เหมือนอมทุกข์ไว้ในใจ แอบเห็นสายตาของเขาเศร้าและกังวลตลอด ถอนหายใจแรงบ่อย ๆ /ฉันเดาว่า คงจะหนักใจ ไม่ไว้ใจหมวดจางนั่นแหละ
ไป่ไป๋หันมาหา...
“อนนี่! จะออกจากจีนเมื่อไหร่คะ?”เธอหันมายิ้มถามเอียงหัวลงมาซบไหล่
“อีก 2-3 วันค่ะ” ฉันคำนวณดูแล้วน่าจะใช้เวลาประมาณนั้น แทน หันมามองเขาถูมือตัวเองเหมือนประหม่าแล้วยิ้มน้อย ๆ
“ผมดีใจมากนะครับ ที่ได้เห็นหน้าคุณอีกครั้ง อย่าทำอะไรเสี่ยง ๆอย่างที่เคยอีกนะครับ อย่าไปขึ้นรถคนแปลกหน้า อาจจะไม่โชคดีแบบนี้อีก ถ้าคุณจากไปแล้ว เราคงไม่มีโอกาสเจอกันอีก” เขายิ้มดวงตาคู่นั้นดูเปล่งประกายเจิดจ้า หารู้ไม่ว่าฉันกำลังทำเรื่องโคตรเสี่ยงอีกแล้ว
“ฉันจะโทรมาคุยด้วยบ่อย ๆ นะคะ” ฉันก็แอบใจหาย เจอกันได้แปบเดียวเอง
ไป่ไป๋เอียงตัวมา...
“ตกลงสองคนนี้จะแอบติดต่อกัน ว่างั้น?” เธอเป่าปากหน้าตูมลุกยืน ฉันใจหายวาบผวาลุกตามกลัวน้องจะโกรธ ซอนนั่งอมยิ้มมองอย่างมีเลศนัย
แทนหันมาหาฉัน...
“นาตาลีครับ อย่าเสียเวลากับผมเลย ถือว่าผมไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน ขอแค่ได้เห็นคุณเดินทางกลับอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว ผมส่งจูยอน ปลอดภัยแล้ว และจะสบายใจมากขึ้น ถ้าคุณจากไปอย่างปลอดภัย ผมไม่ได้ทำเพื่อคุณหรอก ผมทำเพราะผมสัญญาไว้” เขานั่งยิ้มมองไปกลางลำน้ำ คุณจะทำเพราะอะไรไม่สำคัญ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนอย่างไร ก็พอแล้ว
ยายน้องขยับเข้าใกล้แหงนหน้ามอง...
“คุณพูดจริงเหรอ?” เธอขมวดคิ้ว แทนหันไปหาเธอ...
“จากนี้ไป…คุณอยู่ได้แล้วใช่ไหม?” เขาไม่แสดงสีหน้าว่ารู้สึกอย่างไร แต่คำถามมันแปลก ๆ
“อื้อ! อยู่ได้แล้ว” ไป่ไป๋สะบัดหน้าหันมองไปไกล //ฉันไม่เข้าใจความหมาย//
ฉันไม่ได้รังเกียจอะไรเขาเลย ไม่ต้องห่างเหินกันหรอก ฉันจะลืมคนอย่างคุณได้ยังไง?
“ยังไง? ฉันก็ต้องมาหาไป่ไป๋ แล้วจะติดต่อไปหานะ จะให้ไป่ไป๋พาไปหาคุณที่บ้าน” ฉันก้มลงไปเท้าหัวไหล่ของเขา อยากแสดงให้รู้ว่า ฉันรู้สึกดี ๆ กับคุณ
ไป่ไป๋ย่นจมูกเบะปาก...
“ก่อนนี้นะ อนนี่!...หม่าม้าให้ไปดูตัวพยาบาลก็ไม่ยอมไป ถ้าไปซะตั้งแต่ตอนนั้น ป่านนี้เมียคงท้องอ่อน ๆ แล้วล่ะ ใช่มั้ยคะ..แทน?” เธอเน้นเสียงฟ้อง
แทนคิ้วขมวดจ้องหน้า ยายน้องเฉไฉเชิดหน้า เมินมองลงไปแม่น้ำ ซอนนั่งอมยิ้มมีพิรุธกันทุกคนเลย
“อนนี่คะ! ถ้าเขาไม่ดื้อนะ ป่านนี้ได้แต่งงานแล้ว หม่าม้า!อุตส่าห์เอาลูกสาวเพื่อนมาแนะนำให้ เขานิสัยไม่ดี ปฏิเสธผู้ใหญ่ เพื่อนของหนูอีกคนด้วย ผิงผิง! เป็นไอดอลเกาหลีให้เบอร์โทรมาก็ทำหาย” เธอเผาซึ่ง ๆ หน้า เขาได้แต่มองตาปริบ
เธอยังคงใส่ไม่ยั้ง…
“เขาขี้โกหก บอกกับเราว่าไม่มีแฟน ชิชะ! ที่ไหนได้ ที่บ้านเจ็ทโด้นะ เขาก็มีแฟนคอยอยู่ อีตานี่! เจ้าชู้! มีหญิงเต็มไปหมด” เธอลอยหน้าลอยตาพูด แต่หางตาจิกไปที่เขา พูดหวังผลอะไรรึป่าว?
ส่วนเรื่องของแหม่ม ซอนเล่าให้ฟังแล้วว่าไป่ไป๋พูดเกินจริง
“อ้าว!...แทนอยากมีครอบครัวแล้วเหรอคะ? จริงหรือเปล่า ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณจะตัดสินใจไวขนาดนั้น?” ฉันก้มลงไปถาม
เขาเงยขึ้นมายิ้มส่ายหน้า ยังไม่ทันจะเปิดปากพูด ไป่ไป๋เดินเข้ามาคล้องแขนของฉัน แล้วจ้องหน้าขู่เขา...
“อายุขนาดนี้ก็น่าจะมีครอบครัวได้แล้ว เดี๋ยวหนูถามหม่าม้าให้ใหม่นะ ว่าเจ้าสาวของคุณ ยังรออยู่หรือเปล่า? โฮ่ะ! โฮ่ะ! โฮ่ะ!”เธอหัวเราะเสียงดังอย่างกับตัวร้ายของ มาเวล
“????” แต่ไม่มีใครหัวเราะกับเธอสักคน มันตลกตรงไหนกัน?
แทนขยับลุกขึ้นยืน...
“ผมยังไม่มีงานทำเลย จะเลี้ยงผู้หญิงได้อย่างไร? สิบล้อก็ขับไม่ได้แล้ว ยังไม่รู้จะทำมาหากินอะไรเลย”เขาตอบเรียบ ๆ เหมือนเคย
ยายสาวน้อยหัวจุกท่าทางปัญหาเยอะ ไม่ยอมหยุดเบะปากมองหางตา...
“บ้านคุณรวยจะตาย อนนี่! บ้านของเขารวยมาก หนูเคยไป” เธอก็ช่างฉอเลาะ ฉันเคยชินกับการเห็นทั้งสองคนทะเลาะกัน เดี๋ยวก็ดีกัน
แทนหันมองหน้าไป่ไป๋...
“นั่นมันของคุณตา ทุกวันนี้ผมใช้เงินที่ทำงานรับจ้างเจ็ทโด้ขับรถ ผมใช้เงินประหยัดมากนะครับ ใกล้หมดแล้วด้วย” เสียงเขาอ่อยลง
จู่จู่! ไป่ไป๋ก็ตีหน้ายักษ์ ปรี่เข้าหา...
“ไม่มีเงิน! ก็บอกให้ไปพักที่บ้าน แล้วมาเช่าที่นี่ทำไม?”
เขาก้มหน้านิ่งไม่เถียง
“หนูไม่รู้จะพูดกับคุณยังไงแล้วนะ แล้วทุกวันได้กินข้าวครบ 3 มื้อหรือเปล่า? เงินไม่มีใช้ก็ไม่บอกสักคำ จะทำตัวให้เป็นห่วงไปถึงไหนกัน? ให้โทรหาก็ไม่โทร ให้นอนที่บ้านก็ไม่ยอม หนูก็นอนคนเดียว นอนกับหนูก็ได้! อุ๊ย!” หลุดปากตาเหลือกเลย เธอรีบเอามือปิดปาก
“ห่ะ!” ทั้งซอนและฉันหันขวับจ้องหน้า เธอหลุดพูดอะไรออกมา ลนลานลอกแลก กลอกสายตาไปมา พิรุธมาก...กก
“อ้าว!ยังไงกัน เอาให้หลุดนะคดีนี้” ซอนชี้หน้า
“หนูหมายถึงที่บ้านมีห้องเก็บของว่างอยู่ จะได้ไม่ต้องเสียเงิน” เธอตะกุกตะกัก
“แล้วไป” ซอนเกากีตาร์
“เฮ่อ!” ทั้งโจทย์ทั้งจำเลยถอนหายใจพร้อมกัน สองคนนี้มีพิรุธ
แล้วยายหัวจุกบิดตัวทำไม? หน้าแดงทำไม? เธอจะเขินทำไม?
“ตกลงสองคนนี้ มันยังไงกันแน่วะ?” ซอนหันมามองขมวดคิ้วสายตาสงสัย
“ซอน! อยากโดนเหรอ? หนูไม่ได้ชอบเขานะ ไม่ต้องมามองหนูด้วยสายตาแบบนั้นเลยนะ เดี๋ยวอนนี่เข้าใจผิด” เธอหันไปบีบคอซอน
“แล้วไง ใครถาม?” ซอนย้อนเธอหลุกหลิกอึกอัก
“ก็แล้วไงล่ะ ก็..ก็..อยากจะบอก” เธอตะกุกตะกัก พิรุธร่วงกราว
ซอนอมยิ้มมองจิก...
“ร้อนตัว ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำว่า คุณชอบเจ้าแทน หรือคุณชอบมันจริง ๆ ?”เขาจ้องหน้า เธอหน้าแดงก่ำ โบ๊ะบ๊ะ มือไม้อยู่ไม่สุข หลุกหลิกไปหมด...
“ถามแทนเลยมะ เอามะ!” เธอยืดอก จ้องหน้าสู้ เขาจ้องกลับ ตาไม่กะพริบ ไม่มีรอยยิ้มจากทั้งสองฝ่าย
“ถามเรื่องอะไร? ” ซอนย้อน
“เรื่องชอบกันน่ะ! อิโด่!..หนูยังช่วยเขาหาแฟนเลย ถามดูสิ!”เธอพยักพเยิดท้าทาย ดูยังไงก็พิรุธ บิดตัวซะขนาดนั้น
“ตกลง ผมมีแฟนแล้วใช่มะ?” แทนอมยิ้มพูดสวนออกมาลอย ๆ
“ขวับ!” ไป่ไป๋ได้ที...
“เห็นมะ! แทนมีแฟนแล้ว ไม่เกี่ยวกับหนูสักหน่อย” เธอทึกทักเอาเอง ขี้โกงชะมัดยาด ซอนส่ายหัวยิ้มเมินหน้า
เธอเชิดหน้ามองแม่น้ำ แล้วพูดลอย ๆ...
“คราวหน้าคราวหลังเห็นเพื่อนลำบาก ก็ช่วยแก้สถานการณ์ให้มันเร็วกว่านี้หน่อยนะ อึดอัดหายใจไม่ออก เพื่อนกันไม่รอจังหวะหักหลังกันหรอก” เธอบ่นพึมพำแล้วสะบัดหน้าเดินออกไปนอกระเบียง ทิ้งความงงงวยไว้ให้พวกเรา
ซอนหัวเราะเบา ๆ...
“ยัยตัวแสบ พูดกับใครวะ?” เขาเงยหน้าหันมามอง ฉันส่ายหน้า แทนก้มหน้าไม่พูดอะไร แทนของฉันโดนน้องเล่นงานตลอดเลยสินะ!
“ซอนไปกันเถอะ” ฉันเห็นสมควรแก่เวลา เขาไม่เคยถามอะไรเป็นครั้งที่สอง วางกีตาร์กระโดดออกมาอย่างเร็ว
“หนูไปด้วย” ไป่ไป๋วิ่งตาม
วัคซีนถูกส่งออกไปนับพันล้านหลอด กระจายสู่ผู้คนทั่วโลกอีกไม่นานเมื่อเสียงนกหวีดดัง ความเงียบจะเข้าแทนที่ คนทั้งโลกจะสิ้นสุดเผ่าพันธุ์เช่นเดียวกับไดโนซอรัส รอวิวัฒนาการรอบต่อไปอีกนานเท่านาน
........................................................................................................................