The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 4 ตอนที่ 4

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 4 ตอนที่ 4
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 4
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 15 ก.พ. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย

มุมมองสายตา ซอน

พฤษภาคม ค.ศ.2021

 ผมเดินคู่กับยายตัวแสบหัวจุก ตามหลังนาตาลีเข้ามาในห้องโถงชั้นล่างของอาคาร The 3 Temple เจ้าหน้าที่ทั้งเด็กและคนแก่ เดินผ่านต่างก็ก้มหัวทำความเคารพทุกคน ทั้ง ๆ ที่วันนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตลายทาง กางเกงยีนรองเท้าผ้าใบเหมือนเด็กสาววัยรุ่นทั่วไป ทำให้ได้เห็นความไม่ธรรมดาของผู้หญิงคนนี้

เป็นไงซอน อนนี่เท่ห์มั้ย?” ไป่ไป๋เอียงหัวมากระซิบ

“อืม!” ผมตอบอย่างที่เห็น นาตาลีเป็นเพชรแท้

อนนี่! วางแผนหรือยังจะเอากุญแจได้ยังไง?” ไป่ไป๋เดินเข้าไปกระซิบนาตาลี

“ซอนวางแผนไว้แล้ว” เธอโบ้ยมาให้

“?????” ผมอึ้ง...

อ้าว! ผมก็ไม่ได้คิดมา ทำไมไม่บอกก่อนล่ะ?” ผมไม่รู้จักที่นี่สักหน่อย จะวางแผนได้ยังไง? อย่ามั่วสิ!นาตาลี

เธอหันมาย่นจมูกใส่...

“รู้งี้! เอาแทนมาดีกว่า” เธอยิ้มล้อ

ไป่ไป๋ปากยื่นปากยาวเข้ามาทันที...

“โธ่! จะเอาอีตานั่นมายืนเกาคาง เต๊ะจุ๊ย! อีกเหรอ? เท่อ!...คิดอะไรมั่วทุกอย่าง ไม่เคยสำเร็จสักเรื่อง”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! สองสาวตีมือหัวเราะกันร่วน

ผมทึ่งกับดอกเตอร์นาตาลี เวลาเธออยู่กับเพื่อน ๆ ก็เหมือนเด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แต่พออยู่ในสถานที่ของเธอ องค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้เธอดูสูงส่ง ท่าทางเดินที่งามสง่า ยืดอกตั้งหลังเหยียดตรง ใบหน้าเชิดเล็กน้อยยิ้มอ่อนให้กับคนที่เข้ามาทักทาย

หวนกลับไปนึกถึงคำพูดเก่า ๆ แล้วคิดได้ว่า ตลอดเวลาเธอไม่ได้โกหกพวกเราเลย แต่เราคิดไม่ถึง นึกภาพไม่ออกและไม่เชื่อเพราะตอนนั้น สถานะมันต่างกัน        

เธอก้มหยิบหลอดแก้วเล็ก ๆ ที่พื้น เดินเลี้ยวซ้ายด้านหลังอาคารเข้าโกดังเก็บของขนาดหอประชุมโรงเรียน

“ซอนคะ! ฉันจะเบี่ยงเบนความสนใจไว้ คุณมองหากุญแจนะคะ”

ผมยังคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง คิดในใจ...เขามอบหมายงานกันอย่างนี้ที่ไหนกัน แบบนี้เขาเรียกว่ายัดงาน /แอบงอนนิดหน่อย/

ภายในโกดังกว้างใหญ่หลังคาสูง...เต็มไปด้วยกองกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก เรียงไว้สูงท่วมหัว แน่นพื้นที่ เราเดินผ่านรถโฟล์คลิฟท์ที่จอดเรียงเป็นแถวยาวข้างผนัง ผมสังเกตไปรอบ ๆ เก็บรายละเอียดของสถานที่เอาไว้ เพราะแน่ใจว่า ต้องกลับมาอีกแน่

“หนูคิดออกแล้ว!” จู่จู่...ไป่ไป๋ก็ยิ้มดวงตาสุกใส  

“บอกหน่อยสิ!” นาตาลีพูดโดยไม่หันมามอง

“เล่นตามน้ำก็ไปแล้วกัน เดี๋ยวได้จังหวะหนูจะเปิดเกมเอง” เธอบิดตัวยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมเก็บความสงสัยเดินตามพวกเธอไป         

เราเดินมาจนถึงห้องกระจกสำนักงาน เจ้าหน้าที่ต่างก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน นาตาลีเดินไปเกาะที่เคาเตอร์ ท่าทางสบาย ๆ ในมือถือหลอดแก้วกลม                    

“หัวหน้าแผนกขนส่ง คนไหนคะ?” เธอเคาะนิ้ว           

“เดี๋ยวผมไปตามให้นะครับ” ชายหนุ่มในเสื้อช่าง วิ่งไปด้านใน 

สักพักก็วิ่งกลับมาพร้อมกับชายสูงวัยสวมแว่น ท่าทางใจดีอีกคน
            “ท่านรองฯ มีอะไรด่วนถึงขนาดต้องลงมาเองครับ นั่งก่อน ๆ ไปเอาน้ำมา
3 ที่ ” เขากุลีกุจอหันไปสั่งลูกน้อง พาเรามานั่งโซฟาในห้องรับแขกด้านใน ออฟฟิศทันสมัย น่าทำงาน

นาตาลีเอ่ยถาม...

“ล็อตนี้มีของทั้งหมดเท่าไหร่คะ?”

100 ล้านโดสครับ คราวนี้ส่งได้ 3 ประเทศ” เขารายงานเสียงดังยิ้มภาคภูมิใจ            

“จัดส่งวันไหนคะ?”                 

“พรุ่งนี้ครับ ทยอยขึ้นของกันตั้งแต่เช้า เสร็จก็น่าจะประมาณ 1 ทุ่มครับ” เขาพูดสายตามองตรงอย่างไร้เล่ห์เหลี่ยม                        

“ฉันจะได้วางแผนงานถูก ตอนนี้วัตถุดิบเริ่มขาดแล้ว ที่โรงงานด้านหลังไม่มีแล้วใช่มั้ยคะ?” เธอยิ้มให้อย่างสนิทสนม เป็นกันเอง

“ครับ!” เขาพยักหน้า             

“ขอบคุณมากนะคะ ที่ทำงานหนัก” นาตาลีโค้งศีรษะ

“รบกวนแล้วครับ ท่านรองฯ”เขายิ้มหน้าบาน              

“คุณมีหลอดแก้วขนาดนี้มั้ยคะ?” นาตาลียื่นตัวอย่างหลอด

ผมสังเกตเห็นว่าที่นี่มีคนทำงานเยอะมาก ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีกุญแจมาวางเกะกะให้เห็น

จู่จู่! ไป่ไป๋ก็หน้าหงิกพูดออกมา

“อนนี่คะ! อีกนานไหมกว่าจะคุยกันจบ หนูจะไปดูตัวอย่างประตูอัตโนมัติ ช่างก็ไม่เข้าใจ เบื่อมาก!…ทีหลังหาช่างที่มันฉลาด ๆ หน่อยเถอะ! นี่อะไรก็ไม่รุ!

“หือ! ผมต้องตีความจากท่าทางของเธอ นี่!...เป็นสัญญาณหรือเปล่าวะ? แล้วนี่!...ตกลงให้กูเป็นช่างไปแล้วเหรอ?

นาตาลีกรอกตาหันมา...

“มันต้องไปอีกไกล ฉันยังติดธุระอยู่เลย” เธอถอนหายใจลังเล

“ท่านรองฯ จะทำอะไรเหรอครับ?” หัวหน้าแผนกฯ หันมาสนใจ

นาตาลีอึกอักแสดงพิรุธ ไป่ไป๋พูดแทรกออกมาก่อนที่นาตาลีจะทำแผนแตก...

“เราสร้างโกดังเก็บสินค้าไว้ที่ตงเซิน หนูบอกให้ใช้กุญแจธรรมดาก็พอ แต่เอ่อ!..ท่านรองฯ บอกว่าให้ใช้แบบอัตโนมัติ ไอ้ช่างนี่ก็โง่! ไม่รู้เรื่อง!..” เธอกระฟัดกระเฟียดชี้หน้าผม

โดน 2 ดอกแล้วกู เริ่มจับทางได้แล้ว

“คุณก็ตกลงกันให้ได้ก่อนสิ ถ้าผมสร้างไปแล้วมันเปลี่ยนลำบากนะ ขอดูรูปตัวอย่างก็ไม่มี ผมนึกภาพไม่ออก” ผมด้นสดดำน้ำตามไป ถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้? มั่วไปก่อน

ไม่ต้องก็ได้ เอากุญแจธรรมดานี่แหละล็อค!” ไป่ไป๋สะบัดหน้างอน ยายนี่แสดงเนียนจริง ๆ

“ไม่ได้ต้องใช้ประตูอัตโนมัติ” นาตาลีไม่ยอม

“ขอโทษนะครับ ผมช่วยอะไรได้บ้างหรือเปล่า?” หัวหน้าแผนกยื่นมือเข้ามาเป็นกรรมการ

“เราขอดูระบบการทำงานของประตูอัตโนมัติได้ไหมคะ?” นาตาลียิงเข้าเป้า

โธ่เอ๋ย! เรื่องแค่นี้เอง ได้สิ!” เขายิ้มร่าแล้วชะเง้อคอ...

อาหวอ! มานี่หน่อย” เขาร้องเรียกลูกน้อง

ครับหัวหน้า!

“ขึ้นไปเอากุญแจข้างบน แล้วพาสองคนนี้ไปที่ประตูด้านหน้าด้วย เขาถามอะไรก็อธิบายให้ฟัง เอานี่ไปด้วย” เขาบอกแล้วปลดบัตรประจำตัวออกจากคอส่งให้

ผมยิ้มในความบรรเจิดของยายตัวแสบ...นี่มัน! 18 มงกุฎชัดชัด

............................................................................................................................


Wanda square (East Lake) ห้างสรรพสินค้าหรูกลางเมืองอู่ฮั่น ผมได้เดินควงกับนาตาลีก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์แล้ว ถึงอย่างไร...ผมก็ยังชอบผู้หญิงคนนี้ แค่นี้ก็ชื่นใจตายแล้ว เธอน่ารักน่าทะนุถนอม ไป่ไป๋เองก็สวยสะดุดตาเดินร้องเพลงเต้นหยองแหยง แยกไปทำลูกกุญแจ

ผมเข็นรถเข็นเดินตามนาตาลี ให้เธอเหมาห้างฯ หลังจากได้ของเป็นที่พอใจแล้วเธอก็หันมา
          “ไปธนาคารกันค่ะ” เธอเดินนำไป...     

“คุณจะเอาไงกับหมวดจาง?” นาตาลีถามทำให้แปลกใจ เธอเปลี่ยนใจวันละร้อยรอบ /ผมก็เคยบอกไปแล้วว่า ให้สั่งมา/                     

“อย่ามาโยนให้ผมสิ คุณนั่นแหละจะเอายังไง? ผมจะได้จัดการ สั่งมาได้เลย ผมยกให้คุณเป็นหัวหน้า” ผมอยากจะเชือดคอหมวดจางเต็มที นาตาลีเปลี่ยนใจไปเรื่อย เดี๋ยวสั่งฆ่า เดี๋ยวสั่งยกเลิก ตอนนี้เลย ต้องหิ้วมาเป็นภาระไปด้วย           

ฆ่าทิ้งไปเลยมะ?” เธอกระซิบถามตาใสแป๋ว //เอาจริงหรือเปล่าวะเนี่ย? //        

“ได้! เดี๋ยวกลับไป ผมจะพาเธอไปข้างนอก” คิดในใจ..ก็แค่เนี้ยะ จะได้ไม่เกะกะด้วย

มองหน้าหมวดจางมาก ๆ แล้วเจ็บใจ มาหลอกกันได้ ผมเสียใจมาก ตั้งความหวังไว้เยอะกับผู้หญิงคนนั้น ที่สำคัญมันเสียฟอร์มมาก ผมสะดุดตากับเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่ร้านอาหาร เธอสวยถูกใจมากในชุดทหารหญิง แต่ตอนนั้นผมชอบนาตาลีมากกว่า

แต่พอได้มีโอกาสคุยกัน ผมกลับชอบมากขึ้น เธอฉลาด คุยสนุกและกล้าได้กล้าเสีย ผมตั้งใจจะพาเธอกลับไปอยู่ด้วยกันและร่วมกันสร้างครอบครัว สุดท้าย...ทุกอย่างเป็นเพียงลมปากของคนหลอกลวง            

“คุณไม่ได้ชอบหมวดจางเหรอ?”

จู่ ๆ นาตาลีก็ถามบ้า ๆ ผมชอบสิ เธอน่ารักดี อ้อนผมซะเชื่องเป็นลูกแมวเลย ผมชอบคุยกับเธอ แต่ตอนนี้...ผมอยากฆ่าทิ้งมากกว่า

“เธอทำร้ายเพื่อนของเรา ผมให้อภัยไม่ได้” ผมหัวใจสลาย ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอทำกับพวกเรา ผมไม่น่ามองคนผิดได้มากขนาดนั้น จะพาพี่ชายตายไปด้วย เป็นสิ่งที่ผมยอมไม่ได้

“คุณมีแฟนรึยังคะ?” เธอเดินแกว่งแขนสบาย ๆ  ผมดีใจมากที่คราวนี้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดด้วย

ผมส่ายหน้าปฏิเสธช้า ๆ แฟนของผมก็น้องๆ ที่โรงน้ำชาพวกนั้นแหละ พวกเธอมีความสามารถในการรับฟัง ผู้ชายทุกคนก็อยากจะโม้บ้าง อยากจะอวดเก่งบ้าง คุยกับน้อง ๆ พวกนั้นสนุกดี เธอไม่เถียง พวกเราก็ได้ผ่อนคลายด้วย ได้เป็นพระเอกด้วย                     

“คุณไม่เคยชอบใครเลยเหรอ?”

“เฮ้อ! หัวใจเต้นรัวมือชาขึ้นมาซะงั้น ถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่หายประหม่า ปากเริ่มสั่น มือเริ่มคัน...
           “อย่าว่า ผมนะครับ ผมเคยแอบชอบดอกเตอร์ แต่เห็นดอกเตอร์รักกับไป่ไป๋ก็เลยหยุดคิด ไป่ไป๋รักดอกเตอร์มากนะครับ” ผมประหม่ามาก แต่ก็ได้พยายามเค้นคำพูดออกไป รู้สึกโล่งเมื่อได้บอกไปแล้ว เธอจะคิดอย่างไรก็ไม่เป็นไร?

เธออึกอักใบหน้าเปลี่ยนสี...                

“เอ่อ..” เธอเสียอาการ             

“ไม่ต้องพูดอะไรออกมาครับ คุณถาม...ผมก็ตอบ เราช่วยกันดูแลไป่ไป๋กันดีกว่า อย่าคิดมาก ผมเลิกคิดแล้ว” ผมยิ้มให้ เธอจะได้ไม่อึดอัด จริง ๆ แล้ว ผมเปลี่ยนใจไปชอบหมวดจางแล้ว                    

“เรามาเป็นพี่น้องกัน ผมจะดูแลคุณเอง ไม่ต้องคิดมาก ผมรักไป่ไป๋เหมือนน้องสาว คุณเป็นแฟนกันก็เท่ากับเป็นน้องสาวของผมทั้งคู่ เธอบอกว่า จะแนะนำเพื่อนสาวให้ผม ป่านนี้ยังไม่พูดถึงสักคำ กะล่อนจริง ๆ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” นาตาลีหัวเราะร่วนเดินเข้าไปในธนาคาร

ผมไม่สามารถหักหลังไป่ไป๋ได้ เธอถือว่าเป็นคนที่มีบุญคุณไม่น้อย ตอนที่ผมถูกหมวดจางยิงสลบไป มารู้ภายหลังว่า ไป่ไป๋เป็นคนกอดร่างผมไว้โดนกระทืบไปหลายดอก เธอทำเช่นเดียวกับจูยอนที่กอดเจ็ทโด้ไว้ แต่จูยอนโชคร้ายกว่าเลยโดนมีดแทง                      

ผมซึ้งใจกับน้องคนนี้มาก ในระหว่างที่ยังเจ็บเธอก็โทรหาตลอด ไม่เคยทิ้งห่างหาย คอยถามสารทุกข์สุกดิบตลอด จิตใจดีมาก แต่ทำไม?...พอมีเจ้าแทนอยู่ด้วย ไป่ไป๋เป็นนางงิ้วตัวร้ายตลอด ไม่เข้าใจเหมือนกัน มันไม่ใช่นิสัยของเธอเลยสักนิดเดียว

นาตาลีเดินยิ้มหวานออกจากธนาคาร ส่งซองหนามาให้ถือ....
           “เรามาเป็นครอบครัวเดียวกันนะ ฉันจะเป็นหัวหน้าครอบครัวเอง” ดวงตาของเธอสดใสหันมากุมมือ

ผมยิ้มพยักหน้าเบา ๆ

“เอาสิ! เรากลับไปหาไป่ไป๋กันดีกว่า”

เราพากันเดินลงมาชั้นล่างเพื่อไปหายายตัวแสบ บันไดเลื่อนค่อยเคลื่อนตัวลงมา สายตาผมจ้องไปที่ลานด้านล่าง

เสียงตู้เบสตึบตับกับดนตรีสุดเฟี้ยวกระหึ่มลั่นลานชั้นล่าง เสียงหนุ่มสาวกรี๊ดก๊าดสนั่น หนุ่มสาวจีนรุ่นใหม่ตั้งแถวเต้นกันเต็มลานห้าง

สาวผมสั้น หุ่นเด็ด นมเป็นก้อน ตูดเป็นกำ กำลังยกมือโยกเอว พลิ้วบนเวที ผมชี้ให้นาตาลีดู

“แฟนคุณ! กำลังเต้นอยู่บนเวทีนั่นน่ะ! ผมชี้ยายตัวแสบกำลังกางแขนส่ายเอว เต้น Cover นำกลุ่มวัยรุ่นด้านล่าง

“ติงติง! ตังตัง! เสียงเพลงจีนเร้าใจ นาตาลียิ้มกว้างโยกตาม...

“เธอเหมาะกับไอดอลจริง ๆ ดูสิ! น่ารักจะตาย อยากให้เธอไปเกาหลีใต้เร็ว ๆ” นาตาลีวิ่งเข้าไปเต้นร่วมกลุ่มกลางลาน

              ............................................

 

เรากลับมาถึงบ้านอีกครั้งในบ่ายแก่ ๆ เจ้าแทนสวมเสื้อกันหนาวนั่งอ่านหนังสือห้อยขาลงน้ำ แสงแดดสะท้อนริ้วน้ำวับแวบ

“กลับมาแล้ว! นาตาลีวิ่งเข้าไปหา เอาหัวแทรกเข้าไปหนุนตักเจ้าแทนอย่างไม่ถือตัว

สามคนนี้...มีน้ำตาแน่นอน นาตาลีดูเหมือนจะชอบเจ้าแทนด้วยเช่นกัน ส่วนไป่ไป๋ ผมคิดว่า เธอชอบเจ้าแทนเต็มเปา เธอรีบวิ่งตามไปดึงตัวนาตาลีมากอดไว้ ดูเหมือนจะหวงนาตาลี แต่ผมว่า เธอหวงเจ้าแทนมากกว่า แสดงเก่งนักนะ!

เจ้าแทนเคยบอกผมว่า มันจะเก็บ ปี๊ดแรก ของมันไว้ ไม่รู้ว่ามันจะปี๊ดกับใคร? ผมเดาว่าไป่ไป๋โดนก่อนแน่ งอน ๆ อย่างนี้ขึ้นเองเลย

แทน!ไปเล่นกีตาร์ให้ฟังหน่อยสิ” ไป่ไป๋ไล่ มันยิ้มหันมามองหน้าแล้วลุกเดินมาหาผม เจ้าแทนโดนไล่ตลอด ไป่ไป๋ไม่ยอมให้นาตาลีเข้าใกล้เลย ร้ายกาจนักนะยายนี่!                       

“ได้เรื่องมั้ยครับพี่?”แทนก้มลงนั่งถามผมเบา ๆ         

“พรุ่งนี้! พวกเขาขนวัคซีนแล้ว ไม่รู้นาตาลีจะสั่งให้ทำอะไร พี่รอคำสั่งอยู่” ผมหยิบกีตาร์                    

“วันนี้ผมออกไปข้างนอกมาเหมือนกัน อาลี ราม กับยูซุป ข่านจะมารับสินค้าที่นี่นะพี่” 

ผมเลิกคิ้วแปลกใจ…              

“เจอกันแล้วเหรอ?”

แทนพยักหน้าเบา ๆ ...            

“ผมเจอกันแล้วส่งข่าวเรื่องหลวงพี่ แต่ไม่ได้บอกว่า พวกเราจะทำอะไรกัน ตอนนั้นมันยังไม่เป็นรูปเป็นร่างแบบนี้ ผมเลยไปดูงานให้หลวงพี่ด้วย” แทนบอกเรียบยาว                

“เราต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อนของจะถูกส่งออก อาจจะต้องลงมือคืนนี้ อุปกรณ์พร้อมแล้ว” ผมบอกกับแทนแล้วหันไปดูสองสาว

ไป่ไป๋นั่งห้อยขา นาตาลีนอนหนุนตักคุยกันกะหนุงกะหนิง คู่นี้ตัวติดกันตลอดรักกันน่าดู                   

“สองคนนั้นเป็นแฟนกันจริง ๆ เหรอ?” 

เจ้าแทนยืดตัว นอนคว่ำมองลอดช่องไม้กระดานพื้นบ้านดูปลาเสือพ่นน้ำใต้ถุนบ้าน              

“อืม!..คู่รักหวานแหวว นัวเนียกันทั้งวัน” มันตอบดัง

“หือ! ไป่ไป๋หันขวับ ดูเหมือนเธอจะคอยเงี่ยหูฟังเราตลอดอยู่แล้ว
           “รู้แล้วก็ดี...เนอะอนนี่เนอะ?”  เธอบอกแล้วก็หันไปกอดหอมกัน

“ฝันไม่ตรงกัน ถึงวันก็ต้องแยกจาก ถ้าคนหนึ่งไม่ทิ้งฝันก็ไปด้วยกันไม่ได้” เจ้าแทนก้มหน้าพูดงึมงำ ยังคงสนใจกับปลา

“ไม่มีทาง!” ไป่ไป๋เบะปาก

“สำหรับคู่อื่นผมไม่รู้ แต่คู่คุณเลิกกันแน่ คุณเอาแต่ใจตัวเอง รักแต่ตัวเอง”เจ้าแทนยังก้มหน้า

ยายหัวจุกกัดริมฝีปากกำหมัด...

“หนูจะบอกทุกคนเรื่องดาดฟ้า” ฮั่นแน่! มีไม้ตายด้วย อันนี้น่าสงสัย

“ผมจะบอกเรื่องโซฟา” เอ้า! ไอ้นี่ก็มีไม้ตาย

เธอจ๋อย...

“เอ่อ...หนูเอาแต่ใจตัวเองตรงไหน? ซอนคะ แทนว่าหนู” ยายน้องฟ้องแก้มป่อง

“แทน! มึงไปว่า น้องทำไม?”

เจ้าแทนนอนเงียบ                               

คิดถึงน้าเอื้องจังเลย”  จู่ ๆ เจ้าแทนก็เอ่ยขึ้นมา ผมก็ใจแวบเหมือนกันเรื่องนี้สะเทือนใจทุกคน

ผมนิ่งไม่พูดอะไรเพราะเรื่องแบบนี้ยิ่งพูด ยิ่งตอกย้ำ ยิ่งเสียใจ เดี๋ยวพาลร้องไห้ออกมามันจะยุ่งกันใหญ่ พี่เอื้องจากไปหลายเดือนแล้ว แต่เจ้าแทนยังคงโหยหา มันคงพูดเรื่องนี้กับใครไม่ได้ 

ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง คุยเรื่องงานดีกว่า หันไปหานาตาลี 

“นาตาลี มานี่หน่อยครับ” ผมพยักหน้าเรียก เธอกำลังแหย่เล่นกันคิกคัก ลุกวิ่งมานอนทับลงบนตัวเจ้าแทน 

เธอก้มลงหอมแก้มซ้ายขวา ไป่ไป๋ลุกตัวปลิวแทบจะบินมา แขนอ้าขาขวิด รีบมาดึงแขนนาตาลีนั่ง ผมหัวเราะขำยายบ๊องนี่                   

“มีอะไรคะ?” นาตาลีหันมายิ้มหวาน ดวงตาใสนิ่งจริงใจเป็นประกาย

“จะจัดการกับวัคซีนยังไงดีครับ?” 

 “ทำลายให้หมดเลยค่ะ”  เธอบอกเสียงดัง สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง              

“ทำลายยังไง เยอะขนาดนั้น?” แทนสงสัย                  

“เผา! เธอหรี่ตายิ้มมุมปากเลียนแบบดาวร้ายในละคร          

“ฮ๊า!!

“บรื้น...นน! เสียงรถยนต์เคลื่อนตัวผ่านหน้าบ้าน  

แทนเอ่ยขึ้น....            

“รถตู้สีดำคันนี้ ผมว่า มันแปลก ๆ เห็นมาหลายวันแล้ว”  เจ้าแทนลุกขึ้นนั่ง

“ระวังตัวด้วยนะคะ ซอนคะ! พวกนี้ตามแทนมาหลายวันแล้ว” ไป่ไป๋กระแซะเข้าไปกอดแขน 

นาตาลีเหลือบมองแล้วอมยิ้มลุกอ้อมไปนั่งอีกข้าง เธอใจกว้างกว่า ผมไม่เคยเห็นนาตาลีห้ามไป่ไป๋เล่นกับเจ้าแทนเลย             

“ระวังตัวไว้หน่อยนะ มีใครสอนให้ยิงปืนหรือยัง?” ผมถามเพราะรู้ว่า มันยิงปืนไม่เป็น รู้เพียงว่า มันเป็นนักเรียนอังกฤษเป็นคุณหนู เจ็ทโด้รักมันอย่างกับลูกชาย        

“จูยอนกับหลวงพี่สอนแล้วครับ ติวเข้มหลายวันเลย ผมก็มาฝึกต่อตามที่เขาสอนไว้ พี่สอนผมด้วยนะครับ ตอนนี้ผมไม่มีปืน” เจ้าแทนยิ้มหวาน 

มันนั่งตัวแข็งน่าสงสาร มันไม่กล้ากระดิกตัว ปล่อยให้สองสาวกอดแขนคนละข้าง นมเบียดถูไถกันสบายใจเลย             

“หนูก็ยิงปืนเป็น จูยอนอนนี่สอนแล้ว ขับรถเป็นแล้วด้วย” ไป่ไป๋อวดเสนอหน้ายิ้มเข้ามา  

นาตาลียกมือ...          

“ตายแล้ว! ลืมเรื่องสำคัญไปเลย” เธอพูดเสร็จก็ลุกเดินออกไปที่รถยนต์ หยิบซองหนาสีน้ำตาลติดมือมาด้วย...             

“ทุกคนต้องเสียค่าใช้จ่ายกันมาเยอะแล้ว” เธอพูดก่อนค่อยๆบรรจงแกะถุงน้ำตาลเทธนบัตรฉบับละ 100 ดอลลาร์หลายปึกล่วงมากอง

“โอ้โห! อนนี่ไปเอามาจากไหน เยอะแยะเลย?” เธอเด้งเสียงใสกระโดดดีใจก่อนเพื่อน

“พวกคุณเสียหายเพราะฉันมาเยอะแล้ว ถึงเวลาต้องจ่ายคืน” เธอหันมามองหน้าทุกคน ก่อนนับเงินส่งให้ผมกับแทนคนละ 3 ปึก

“มันมากไปนาตาลี” แทนหันไปบอก  ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย สามปึกที่เธอโยนมาก็ 3 แสนเหรียญแล้ว
          “ไม่ใช่ค่าจ้าง ไม่ใช่สินบน ทุกภารกิจมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ บางอย่างใช้เงินจ่าย บางอย่างจ่ายด้วยชีวิต พวกเราต้องใช้เงินเพื่อหลบหนีหรือต่อสู้ ยังไม่เสร็จภารกิจเลย อย่าไปเสียดายมัน ตายไปก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี” เธอส่งสายตาอ้อนวอนให้รับ...             

“แทนคะ! ฉันทำให้คุณตกงาน คุณไม่มีเงินใช้แล้ว นี่เป็นเงินค่าจ้างที่คุณเคยเรียกค่าช่วยเหลือในป่า 200,000 เหรียญ รับไว้ด้วยค่ะ” นาตาลียื่นปึกธนบัตรส่งให้แทน             

“เฮ้ย! ผมบอกไปแล้วว่าไม่เอา และคุณก็จ่ายค่าจ้างมาแล้วด้วย” แทนรับแล้ว เอาส่งคืน นาตาลีเอียงคอขมวดคิ้ว...                    

“ฉันจ่ายให้ตอนไหน?” เธอจ้องมองเขา             

“คุณจ่ายด้วยการเป็นเพื่อนกับผมไงล่ะครับ ผมต้องการแค่นั้น”

นี่เอง! ที่มันชนะใจสองสาว มันใจดีมากนี่เอง 

ไป่ไป๋มองหน้าสองคน....                     

“หนูไม่ได้ทำอะไรเลย หนูไม่เอาดีกว่า” เธอถอยออกเป็นคนแรก แทนถอยออกไปตาม 

ผมนั่งมองนาตาลีด้วยความสงสัย มันเกิดอะไรกับเธอ ถึงได้แจกเงินมากมายขนาดนี้

เธอหันมาจ้องหน้า...         

ซอน!  คุณจะรับมั้ยคะ?” เวลาเอาจริงก็น่ากลัวเหมือนกัน              

“ผมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเหมือนกัน” ผมขยับไปหาเจ้าแทน

เธอจะรู้มั้ยว่า ที่พวกเรามาช่วย ไม่ได้ต้องการเงินของเธอเลย 

เจ้าแทนเอ่ย...             

“คุณเก็บเงินของคุณไว้เถอะ พวกเราไม่ได้ต้องการ เราช่วยคุณเพราะรัก อยากให้คุณปลอดภัย อยากให้ได้กลับไปอยู่ในที่ของคุณ” แทนยิ้ม สีหน้าท่าทางเป็นห่วง             

“ฉันคิดตั้งแต่รอดตายจากงูยักษ์แล้ว เอ่อ!ตอนนั้น...” เธอหยุดหันมองไปที่ห้องขังหมวดจาง...

“ฉันคุยกับหมวดจางแล้วเห็นพ้องต้องกันว่า ชีวิตคนเราสั้นนัก อยากทำอะไรให้รีบทำ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ คนเราเกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียว ฉันก็ไม่รู้พรุ่งนี้เช้าจะได้กินข้าวกับอะไร? จะใส่เสื้อสีไหน? เราไม่รู้อนาคตว่า จะเจอกับอะไรอีก เงินทองของฉันมีอีกเยอะแยะ ใช้ไม่หมดหรอก และฉันก็เป็นคนทำลายทุกคน ฉันอยากใช้หนี้คืน”

“แต่เราไม่ได้ต้องการค่าจ้างจากเพื่อน” แทนยืนยันหนักแน่น

“ใช่! หนูเห็นด้วย” ไป่ไป๋ขยับไปเกาะแขนเจ้าแทน

“ฉันจะตอบแทนพวกคุณได้ยังไง?” นาตาลีหน้าเสีย

“คุณให้ความเป็นเพื่อนกับพวกเราถือเป็นค่าใช้จ่ายแล้ว”

แทนก็ยังปิดประตูเหมือนเดิม อย่างนี้เสียความตั้งใจแย่ นาตาลีหน้าเสียใหญ่แล้ว

ผมขยับ...

“แทน มึงเอาความเป็นเพื่อนของนาตาลีไปจ่ายค่าเช่าบ้านด้วยนะ เย็นนี้! กูจะล่องเรือกินข้าว มึงก็เอาไปจ่ายค่าอาหารให้กูด้วย” ผมเข้าช่วยนาตาลี เธอยิ้มหน้าบานขยับมาหา

เราแยกเป็นสองฝ่าย

“ก็หนูไม่อยากได้เงินของอนนี่ เอาเงินคุณมาสิ คุณเป็นพี่ คุณก็จ่ายมาสิ” ยายตัวแสบแหงนหน้าเถียง

“เอาอย่างนี้ไหม? อเมริกันแชร์ เรามาลงขันกัน ใครจะลงเท่าไหร่ก็ได้” ผมหาทางออก

นาตาลีขยับยิ้ม...

“ฉันลง 1 ล้านเหรียญ” เธอรวบเงินทั้งหมดมากองแล้วมองหน้า ผมพอจะเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังทำ 

“ได้! ผมลง1แสน แต่ผมไม่มีเงินติดตัวนะ ต้องไปเบิกเหมือนกัน” ผมรีบเห็นด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วทุกคนจะปฏิเสธ

ไป่ไป๋! ยื่นหน้าเข้ามา             

“หนูให้ 20,000 เดี๋ยวไปเบิกให้” เธอยิ้มเสนอตัวเข้ามา เด็กนี่ใจถึงเหมือนกัน             

“ผมมี 4,000 ผมให้ 2,000 เก็บไว้กินข้าว 2,000” เจ้าแทนบอกเสียงอ่อย ควักกระเป๋าหยิบเงินออกมาวาง

ไป่ไป๋แย่งคว้ามาแหกดู แล้วตะโกนใส่กระเป๋าใบน้อย

“ฮัลโหล! มีคนอยู่รึป่าว? มาเก็บค่าไฟค่ะ!

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! เจ้าแทนลั่น กระเป๋าสตางค์ของมันโหวงเหวงเห็นแล้วหนาว  

นาตาลีขยับเข้ามา...          

“พวกคุณเก็บเงินของคุณไว้ก่อน  คุณค่อยเอามาคืนให้ฉันทีหลัง ดีไหม?” นาตาลีแจงแล้วยื่นเงินให้เท่า ๆ กัน

“เดี๋ยวผมใช้ของผมให้หมดก่อน แล้วค่อยเอาของคุณก็ละกัน” เจ้าแทนแย้ง

นาตาลีหน้างอ...             

“ฉันถือว่าให้แล้วนะคะ ถ้าไม่มีคนรับจะทิ้งน้ำ ถือไม่ไหวหรอก หนัก!” เธอรวบกองเงินเข้ามือทำท่าจะหว่านลงน้ำ             

เฮ้ย!..รับแล้ว ๆ”  แทนรีบโดดคว้าข้อมือ 

เธอยิ้มอย่างผู้ชนะ กวาดส่วนที่เหลือไปให้ไป่ไป๋

“เธอดูแลเรื่องเงินให้ด้วย เอาไปรับผิดชอบ หมดแล้วบอกมานะ วันนี้โอนไปให้จูยอนอนนี่แล้วด้วย เธอจะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตลำบาก เงินนี่ก็เป็นปัญหาสำหรับชีวิตเหมือนกันนะ” เธอยิ้มหน้าบาน
            ผมประทับใจเมื่อได้ยินนาตาลีพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง มองเธอด้วยความชื่นชม เจ้าแทนก้มหน้านิ่ง ไป่ไป๋ซบหน้าลงที่หลังของเธอ  นาตาลีแสดงน้ำใจที่ใครได้เห็นก็ต้องพูดไม่ออก ผมมองเจ้าแทนแล้วรู้สึกขอบคุณ ที่ดูแลสาว ๆ อย่างดีมาตลอด

นาตาลีขยับเข้ามาหาแทน แล้วคว้าแขนไปกอดหลับตาพริ้ม              

“วันนี้จะเริ่มกี่โมง?” แทนหันขวาไปมองนาตาลีที่ยิ้มปลื้มกอดแขน

“ล่องเรือกินข้าวเสร็จ เที่ยงคืนออกเดินทาง ปิดประชุม!”  เธอพูดเสร็จก็เอื้อมมาดึงไป่ไป๋เข้ามากอดด้วย                         

เจ้าแทนล้มตัวลงนอนหงาย คราวนี้ทั้งสองสาวยกขาก่ายกันคนละข้างหลับตาพริ้ม เหมือนลูกแมวนอนในอ้อมกอดแม่มีความรู้สึกปลอดภัย

                                    ..........................................................................................

ผมปลีกตัวหลบมานั่งคนเดียวด้านในบ้าน หยิบกีตาร์ขึ้นมาเล่น คิดโน่นนี่ไปเรื่อย หันมองห้องหมวดจางแล้วผิดหวัง ผมตั้งความหวังไว้สูงเลยเสียใจมาก

“ร้องเพลงให้ฉันฟังมั่งสิคะ”  เสียงนาตาลี

ผมเงยหน้ายิ้ม เธอขยับมานั่งข้างๆ             

“ผมร้องเพลงนี้ให้คุณ Everything I do. I do it for you.” ผมบอกพร้อมรอยยิ้ม             

“เยี่ยมไปเลยฉันชอบ อยากมีใครร้องเพลงนี้ให้ฟังตั้งนานแล้ว” นาตาลียิ้มตอบขยับนั่งยืดขาขาวข้างๆ สายตามองไปกลางสายน้ำไหล
           “ Look in to my eyes. You will see  ผมเริ่มร้องเพลงไปเรื่อย ๆ นาตาลีส่งยิ้มตาเป็นประกาย             

“คิดถึงเจ็ทโด้จังเลย” เธอมองเหม่อไปกลางสายน้ำ

“เออเฮ้ย! ผมนึกบางอย่างขึ้นมาได้ รีบวางกีตาร์ทั้งที่เพลงยังไม่ทันจบ...         

ลืมหมวดจางเลย เดี๋ยวผมเอาไปจัดการก่อน” ผมลุกเดินเข้าห้อง หมวดจางนั่งเข้ามุมเงยหน้าขึ้นมอง

ซอน! ซอน! ฉันขอโทษ” เธอร้องไห้ทันที พยายามขยับเข้ามาหา

ผมเกลียดเธอมาก...             

ลุกขึ้น! ไปด้วยกัน ไปหาข้าวกินกัน

ไม่ไป! นาตาลี นาตาลีช่วยฉันด้วย” เธอร้องตะโกน ถอยหลังเข้ามุม             

“ผมจะพาไปกินข้าว คุณจะโวยวายทำไม เดี๋ยวพวกเราจะไปล่องเรือ ไม่มีคนหาข้าวให้กิน” ผมลดเสียงลง ยายนี่ก็ฉลาดรู้ทันไปหมด             

ซอน! ฉันไม่ไป ฉันไม่หิว ไม่กิน นาตาลี ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย!” เธอร้องเสียงดัง ใช้วิธีนี้ไม่ได้ผลแล้ว

“อึ๊บ! อุ้มเลยดีกว่า ผมช้อนตัวเธอขึ้นอุ้ม         

“ไปแบบนี้ก็ได้ อย่าดิ้น! ทีทำคนอื่นได้ พอโดนเอาคืนอย่ามาร้อง”

ผมขู่เบา ๆ อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนจะเดินออกจากห้อง 

นาตาลีเดินสวนเข้ามา หมวดจางยิ่งดิ้นใหญ่เลย....

นาตาลี! ฉันอธิบายได้ทุกอย่าง  อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” เธอหันไปอ้อนวอนนาตาลี             

“พอเถอะ! อย่าพูดเลย ซอนคะ! อย่าพึ่งทำอะไรตอนนี้เลย รอให้มืดก่อนดีกว่า” นาตาลีเข้ามาจับแขนห้าม /เปลี่ยนใจอีกแล้วล่ะสิ!/

“นาตาลี คืนนี้ฉันจะเผาโกดังให้เอง ฉันทำได้” หมวดจางในอ้อมอกของผม หันมองอ้อนวอนนาตาลี  

ไป่ไป๋กับแทนเดินควงแขนกันเข้ามา...              

“ซอน! เอาไปเลย แก้แค้นให้ด้วย หนูไม่อยากเห็นหน้าแล้ว แทนคะ! คุณคิดว่ายังไงดี?” ไป่ไป๋พรวดเข้ามาเกาะแขนอีกข้าง 

เจ้าแทนเดินลูบคางเข้ามา ท่าทางของมันกวนตีนมาก...             

“เธอจะอธิบาย ให้เธอพูดก่อนสิ ให้โอกาสเธอก่อน” เจ้าแทนใจดีเหมือนเคยให้โอกาสเธออีกคน

“ใจดีอีกแระ! ไม่ต้องแล้ว ความเลว ชัดยิ่งกว่า HD อีก” ไป่ไป๋หน้าหงิก ผมวางหมวดจางลง

เธอรีบเดินเข้าหานาตาลี

“ฉันรักพวกคุณนะ” เธอน้ำตาไหลพราก ยายนี่ร้ายจริง ๆ พูดมาได้ว่า รักพวกเรา

นาตาลีโบกมือ ส่ายหน้า...         

“ไม่ต้องเลย! อย่าให้ยายนี่พูด ซอนคืนนี้แหละ! กลางวันคนเห็นเยอะเสียงดังด้วย พาเธอไปช่วยเผาโกดังก่อน ถ้าร่วมมือดี ฉันอาจจะเปลี่ยนใจ” นาตาลีเปลี่ยนใจอีกแล้วจริง ๆ หมวดจางน้ำตาไหลพราก

ไป่ไป๋เข้ามากระซิบ...             

ใช้มีดสิ ซอน! มีมีดมั้ยคะ? เชือดคอเลย เดี๋ยวหนูหากระสอบให้ โยนน้ำไปเลย” ยายน้องชงแหลก

เจ้าแทนขมวดคิ้วหันมองหน้าเธอ...             

“คุณจะเชือดเองเหรอ?”

“เปล่า? ให้ซอนเชือด” ยายน้องปากจู๋ชี้มาที่ผม 

สุดท้าย...นาตาลีก็ไม่ยอม เธอยืนกรานว่าจะพาหมวดจางไปด้วย  นาตาลีเปลี่ยนใจวันละหลายหน เธอไม่ใช่คนโหดร้าย พอหายโกรธก็ไม่อยากทำ     

แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ใช่! มันเป็นศักดิ์ศรีที่โดนหยาม ยิ่งเห็นหน้ายิ่งเกลียด ผมยังโกรธอยู่เลย การฆ่าคนไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม เพียงแต่ผมไม่อยากแสดงความโหดต่อหน้านาตาลี  เดี๋ยวจะกลัวผมไปอีกคน คืนนี้ก็คืนนี้...  

                             ..........................................................................................................

 

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,861 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,977 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม