
อู่ฮั่น มณฑลเป่ยซี
มุมมองสายตา ซอน
พฤษภาคม ค.ศ.2021
พวกเราขับรถออกจากอู่ฮั่นมาได้สักระยะ อีกไม่ไกลก็จะถึง ทรีวัลเล่ย์ที่นาตาลีและไป่ไป๋แอบขึ้นรถบรรทุกของเจ็ทโด้ในครั้งแรกแล้ว
รถยนต์กำลังตรงไปนครฉงชิ่ง ถนนแถวนี้ปลอดคนแล้วก็มืดไม่มีกล้องวงจรปิด อยู่ท่ามกลางป่าไม้และภูเขาสูง รถยนต์พึ่งแล่นผ่านทางขึ้นภูเขาบู๊ตึ๊งทางขวามือมาไม่ไกล
ไป่ไป๋นั่งเงียบมานานขยับตัวหันมาหาเจ้าแทน แล้วพูดเสียงใสทำลายความเงียบ...
“แทนคะ! จุดแข็งของคุณคืออะไรคะ?”เธอยิ้มหวานเกาะแขน อ้อนเจ้าแทนอีกแล้ว สายตาของเธอที่มองนั้น...มันมองคนรักกันชัด ๆ
“จุดแข็งของผมเหรอ? ผมพูดได้ 2 ภาษา” แทนหันไปตอบ
“แล้วจุดอ่อนของคุณล่ะคะ?” เธอเอียงหัวซบไหล่
“ผมพูดไม่รู้ภาษา” มันยิ้มอายน่ารักเชียว
“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!” นาตาลีหัวเราะกร้าก ไป่ไป๋ยื่นหน้าเข้าหา...
“อนนี่!อันนี้จริง!” เธอยื่นหน้าจนจมูกชนกัน ใกล้ไปแล้วมั้ย? เจ้าแทนก็เป็นเด็กหนุ่มธรรมดาเหมือนชายหนุ่มทั่วไป ติดดิน เป็นคนเงียบ ๆ แต่ถ้าคุยการเมือง ถึงกับต้องดึงขาคุยกันทีเดียว ทุกคนจะลุกหนีมันตลอด มันบ้าเข้าสายเลือดขึ้นสมองลงตับทีเดียว อย่างกับฟ้าส่งให้มันเกิดมา เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมอย่างเดียวเลย
ผมเห็นว่า รถยนต์ออกมาถึงที่เปลี่ยวแล้ว มีเรื่องคาใจที่ต้องสะสางอีกเรื่อง...
“จอดรถก่อน! ปวดท้องฉี่” เสร็จงานแล้ว จัดการกับหมวดจางให้มันจบ ๆ
“ครืด!!!” รถจอดเทียบข้างทางที่มืดสนิท...
“หมดเวลาของหมวดจางแล้ว ตามเดิมใช่มั้ย...นาตาลี?” ผมต้องปลดภาระนี้ทิ้ง
“หือ!” สีหน้าของนาตาลีซีดขาวท่าทางอึกอัก เหลือบตาไปมองคนขับแล้วก้มหน้าไม่กล้าตอบ
“คนอื่นว่ายังไง?” ผมถามไปที่เพื่อนคนอื่นเพราะเป็นโจทย์ร่วม ศัตรูของเธอทั้งนั้น ซวยจริง ๆ เลย
เจ้าแทนถอนหายใจ...
“เฮ้อ! ผมว่าตามพี่ ผมไม่ตัดสินใจ” มันพูดแล้วก็หันหน้าไปนอกรถ
“หนูก็ไม่อยากใจร้ายหรอกนะ แต่หนูกลัวว่าถ้าปล่อยเธอไป พวกเราก็จะต้องตาย หนูยังไม่อยากตาย ซอน!เชือดคอเลย” ไป่ไป๋แยกเขี้ยวใส่
ผมดึงกุญแจรถยนต์ออก...
“หมวดจางลงมาคุยกันก่อนสิ!”
เธอลงเดินเลยไปนั่งขอบถนน สายตาเหม่อมองไกลไร้จุดหมาย ผมเป็นคนที่เจ็บตัวหนักสุด บาดแผลที่กายหายสนิทแล้ว แต่บาดแผลในใจของผมกำลังเน่าเฟะ ก้มดึงมีดสั้น เงาแวบออกจากใต้เบาะ...
“ผมเชือดคอนะ ปืนมันเสียงดัง”
“เอาเลยซอน!” น้องสาวของผมช่างห้าวเหลือเกิน ยุตลอด
หมวดจางนั่งมองไร้จุดหมายคงรู้ชะตากรรมของตัวเอง กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตอบสนอง ใครก็ช่วยไม่ได้แล้ว ผมเดินเข้าไปใกล้...
“หมวดจาง!” ผมเรียกเบา ๆ เธอสะดุ้งสุดตัว
ผมยังไม่ทันที่จะลงมือทำอะไร นาตาลีก็วิ่งผวามากอดเอว ผมคิดในใจ...อีกแล้วนะดอกเตอร์ เปลี่ยนใจอีกแล้วล่ะสิ...
“ไม่! อย่านะซอน” นั่นไง! คิดไม่ผิด พวกเดียวกับเจ้าแทนเลย
“เธอให้ความร่วมมือดี ช่วยเหลืองานพวกเรานะ ให้อภัยเธอเถอะ!”
“..........” หมวดจางนั่งหน้านิ่งไร้ความรู้สึก ใบหน้ามอมแมม สายตาเหม่อลอย หันมาช้า ๆ
“ให้ซอนฆ่าฉันเถอะ ตอนนี้ถึงฉันให้เหตุผลไป พวกคุณคงไม่เชื่ออยู่ดี พวกคุณยังปักใจไปแล้ว” น้ำเสียงเหมือนจะสำนึกผิด ก้มหน้าลงต่ำ
“ไม่เชื่อ! ซอนคะ!...” ไป่ไป๋เรียกแล้วเบ้ปากเอานิ้วปาดคอตัวเอง สั่งเชือดอย่างเดียวเลย
“อย่านะ!” นาตาลียังกอดเอวของผมไม่ยอมปล่อย ดอกเตอร์ของผมใจดีอีกแล้ว...
“ปล่อยเธอไปเถอะ! ฉันหายโกรธแล้ว เธอก็ช่วยพวกเราทำงานตั้งหลายอย่าง จบ ๆ กันไป” นาตาลีกลับอ้อนวอนเสียเอง
“...........” ผมหยุดมองนิ่ง
เธอหันหลังมองเพื่อน ๆ แล้วปล่อยมือจากเอวเดินไปนั่งข้างหมวดจาง...
“หมวดจาง! ขอให้เราสิ้นสุดกันแค่นี้นะ ขอบใจมากที่มาช่วยงาน..เธอไปได้แล้ว!” นาตาลีมองสายตานิ่ง
“..........” หมวดจางนั่งนิ่งเงียบไม่ขยับ
“ไปสิ! บอกให้ไปไง!” นาตาลีลุกดึงแขน
“..........”
“พวกเราต้องเดินทางไปต่อ เธอไปตามทางของเธอ” นาตาลีบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล หมวดจางสะอื้นน้ำตาไหลพราก /ผมว่า เธอใจดีจริง ๆ ไม่กลัวหมวดจางแว้งกัดอีกเหรอ? แต่ผมไม่เห็นด้วยเลยกับการตัดสินใจแบบนี้/
“ฉันขอไปด้วย ฉันจะช่วยคุณ” หมวดจางแหงนมองนาตาลี
“เหอ!” พวกเราหันมองหน้ากันเหมือนนัดไว้ กลัวใจของนาตาลีจริง ๆ
“ไม่ได้!” เธอส่ายหน้าค่อยรู้สึกโล่งใจ น้อง ๆ คนอื่นคงเข็ดกับยายจางแล้ว...
“คงไม่มีใคร อยากให้คุณร่วมทางไปด้วยหรอก” นาตาลีหันมองกลับไปที่รถยนต์เหมือนจะรู้ใจทุกคน
ไป่ไป๋ตะโกนมา...
“ใช่!ไม่มี!..ซอนเอาเลย อย่าให้คุยกันเยอะ” เธอช่วยสนับสนุน
หมวดจางก้มมองพื้นก่อนจะเงยหน้าขึ้น ใบหน้าซีดขาวดวงตาอิดโรย
“ถ้าไม่ฆ่า...ฉันขอไปด้วยนะ” เธอคุกเข่าอ้อนวอนเกาะขาของนาตาลีแล้วร้องขอ...
“ฉันจะไม่ขัดใจพวกคุณเลย ขออยู่คอยช่วยในบางครั้งก็ได้ นาตาลีคุณยังไม่ได้ออกจากประเทศนี้นะ ยังไงคุณก็โดนตามล่า ฉันจะช่วยคุณอีกแรง” หมวดจางละล่ำละลักอยู่กับพื้น
“ไม่! เธอไปเถอะ ฉันไม่สบายใจที่เธอมาอยู่ข้าง ๆ ฉันไม่อยากโดนหักหลัง มันเจ็บนะ!” นาตาลียืนยันคำเดิม
ไป่ไป๋ตะโกนมา...
“ปล่อยไม่ได้นะคะอนนี่! เดี๋ยวเธอแจ้งทหารมาจับเรา อนนี่อาจจะไม่ตาย แต่พวกหนูตายแน่ พวกมันไม่เก็บไว้แน่” เธอไม่ยอม
“พรวด!” จู่จู่...หมวดจางลุกวิ่งไปเปิดประตูหลัง หยิบปืนสั้นขึ้นมา ไป่ไป๋ยกปืนเล็ง
“ไป่ไป๋! อย่า!” ผมรีบวิ่งไปคว้ามือของเธอไว้เพราะเห็นว่า ท่าทางหมวดจางไม่ได้คิดจะยิงใคร
“ฮือฮือ!” เธอจิตหลุดไปแล้ว น้ำตานองหน้า
“ซอน! ฉันเคยทำผิดกับคุณ ยิงฉันที” เธออ้อนวอนน้ำตานองที่ท้ายรถ ยื่นกระบอกปืนมาให้มือสั่นระริก
“ไปยิงเลยซอน” ไป่ไป๋หันมายุส่ง อยากจะเขกหัวสักทียายจอมยุ่ง หมวดจางทำให้แปลกใจ ผมจ้องเธอตาไม่กะพริบ
จู่ ๆ เธอก็เปลี่ยนใจอีกครั้ง.
“ฉันยิงตัวเองก็ได้!” ไวเท่าความคิด หมวดสาวยกปืนด้วยมือที่สั่นระริกจ่อคางตัวเอง
นาตาลีผวาวิ่งยกมือรีบร้องห้าม...
“ไม่! อย่านะ!”
“แกร๊ง!”
“ปัง!” หมวดจางเส้นผมกระจุยทรุดลงกับพื้นหลังสิ้นเสียงปืน
“หมวดจาง!” นาตาลีพรวดเข้าถึงตัวพอดี เข้าไปช้อนร่างเธอไว้ในอ้อมกอด ผมอึ้งกับการตัดสินใจของหมวดจาง
นาตาลีลนลานรีบเข้าไปพยุงเพื่อน...
“หมวดจาง! ขึ้นรถไม่ต้องฟังใครทั้งนั้น” เธอพยุงหมวดจางลุกยืน
“จะเอายังไง?” ผมเดินปรี่เข้าไปหา
“ขอออกคำสั่งในนามของหัวหน้ากลุ่ม ให้พาเธอไปด้วย เอาไปปล่อยไกล ๆ ปล่อยตรงนี้ เดี๋ยวเราหนีไม่รอด” เธอบอกเรียบ ๆ
ผมพยักหน้าพยายามจะเข้าใจ ถึงจะเข้าใจยากสักหน่อย ไป่ไป๋เดินเข้ามาแหงนหน้ามองผมแล้วทำปากจิ๊จ๊ะ...
“คุณขว้างมีดทำไม?” ยายตัวแสบไม่พอใจ ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน โชคดีของหมวดจางที่ผมปามีดโดนปืนในมือของเธอได้ทันท่วงที วิถีกระสุนเลยเบี่ยงออกไป
หมวดจางเปิดประตูหลัง ขึ้นนั่งด้านขวา แทนนั่งประจำที่คนขับหันถามนาตาลี...
“จะพาไปด้วยเหรอ?”
“พาไปปล่อยในป่า เราจะเข้าป่ากันไม่ใช่เหรอ? ก็ซอนบอกให้ฉันเป็นหัวหน้า ฉันขอใช้สิทธิ์...ตัดสินใจแบบนี้ ไม่ได้เหรอ?” เธอพูดไม่เต็มปาก พวกเราหันมามองหน้ากัน ยอมจำนนกับเหตุผลของเธอ ผมขึ้นนั่งขั้นกลางไป่ไป๋นั่งริมซ้าย
“ซอนคะ! คราวหน้าไม่ต้องถามพวกเราแล้วนะคะ เธอถีบหนูหัวทิ่ม ยังไม่ถามหนูก่อนเลย” เธอย่นจมูกแล้วเอาศอกกระทุ้งเอว ผมอมยิ้ม
“น่าอึดอัดชะมัดยาด!” วันนี้ชงน่าดู ตั้งแต่ยิงปืนเป็นนี่ใจร้อนจัง
หมวดจางขยับตัวเอื้อมมือไปจับแขนนาตาลี...
“ขอบคุณมากนะคะดอกเตอร์ ขอบคุณจริง ๆ” เธอมองตาละห้อย
“หนูว่า ครั้งนี้อนนี่ทำไม่ถูก คนทำผิดต้องถูกลงโทษสิ เนอะแทนเนอะ?” เธอลอยหน้าลอยตา ปากจู๋ไปฟ้องเจ้าแทน
“ลองให้โอกาสนาตาลีได้ตัดสินใจ เชื่อใจนาตาลีสักครั้งคงไม่เป็นอะไรหรอก ระวังตัวกันหน่อยนะ” เจ้าแทนยิ้มมองกระจกส่องหลัง ไป่ไป๋พยักหน้าเส้นผมกระจาย รู้สึกว่า ตอนนี้จะเข้าขากันดีจังเลยนะ /ผมอมยิ้มนึกถึงวงสวิงของเธอในป่าโบราณเมื่อคราวก่อน ยายนี่แสบจริง ๆ /
เธอชะโงกหน้าไปหานาตาลี...
“อนนี่ทำเรื่องอีกแล้วนะ ชอบเอางูเห่ามาไว้ข้างตัว เนอะแทนเนอะ?” เธอพยักหน้ากับเจ้าแทนผ่านกระจกส่องหลัง
เจ้าแทนหันมองนาตาลี....
“แน่ใจนะนาตาลี ผมไม่มีปัญหาหรอก เอาที่คุณสบายใจ ผมยืนข้างคุณ”
“ค่ะ!” นาตาลีพยักหน้าแล้วหันกลับมามองหน้าผม ผมพยักหน้าให้ เป็นการเห็นด้วยกับเจ้าแทน
พวกเรานั่งเงียบไม่มีใครพูดจา ผมได้แต่คิดวนไปมาเรื่องหมวดจาง ค่อยหาทางเก็บเธอทีหลังก็แล้วกัน นาตาลีใจดีเกินไปและยังคิดเลยเถิด บอกว่าจะกลับหลังเผาอู่ฮั่น ตอนนี้จะพากันเข้าป่าอีกแล้ว ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองอีก
หลังจากรถแล่นมาพักใหญ่ จู่ ๆ นาตาลีก็ทำลายความเงียบ…
“ฉันมาคิดดูแล้ว! ให้อภัยเธอง่ายไป มันง่ายไปจริง ๆ น่ะแหละ!” เธอเสียงดังฮึดฮัดขึ้นมาอีกรอบ เหมือนกับว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ หันหน้ากลับมาอย่างเร็ว
เธอขึงขังจ้องหน้าหมวดจางเขม็ง ท่าทางจะเอาเรื่องให้ได้ ผมรู้สึกพอใจมากยิ้มมุมปาก หันมองหน้าน้อง ๆ ทุกคนแววตาสมหวังเห็นด้วยที่เธอตัดสินใจแบบนี้
“เย่!!” ผมหันไปตีมือกับไป่ไป๋...
“ใช่แล้วอนนี่! ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษสิ” ไป่ไป๋ตีมือกับนาตาลี เจ้าแทนไม่พลาดเอื้อมมือมาทำด้วย ยิ้มหน้าบานกันทั้งสามคน
หมวดจางดวงตาละห้อย เงยหน้ามองนาตาลี...
“คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ฉันยอมทุกอย่าง ถ้าคุณเห็นสมควร” หมวดจางสีหน้าสลดลง
“..........” พวกเราหันไปมองนาตาลีเป็นตาเดียว ในใจของผมเหมือนกับกำลังลุ้นลูกจุดโทษฟุตบอลโลกนัดชิง มองหน้าเธอแล้วคิดในใจ..ใช่แล้วล่ะนาตาลี คนทำผิดมันต้องโดนลงโทษบ้าง น้อยมากก็ว่ากันไป //ทำถูกแล้วนาตาลี ผมชื่นชม//
คราวก่อนไป่ไป๋ยังหวดด้วยไม้กอล์ฟไป 3 ที คิดเมื่อไหร่ก็ขำ ผมแอบชื่นชมในใจที่นาตาลีโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้างแล้ว รู้จักลงโทษคนทำผิดบ้าง ลุยเลยดอกเตอร์ ผมลุ้น...
เจ้าแทนหันมองเป็นระยะ ยกคันเร่ง ปล่อยให้รถวิ่งไปเรื่อย ๆ ไป่ไป๋แสยะยิ้มอย่างสะใจ...
“แทนคะ! จอดรถเลย อนนี่จะได้จัดถนัดมือ หนูขอด้วยนะ” ยายตัวแสบชงตลอด
“ได้เลย!”นาตาลีมั่นหน้ามาก
ไป่ไป๋เอื้อมมือไปตบไหล่นาตาลี...
“ได้ใจมากที่รัก! มันต้องอย่างนี้สิ” ยายเด็กบ้านี่ซาดิสต์
นาตาลีหันมาทำหน้าดุ มองแรงใส่หมวดจาง /เอาแล้วโดนแน่ นาตาลีขยับแล้ว.../
“หมวดจาง!”
“คะ! ดอกเตอร์” หมวดจางสะดุ้งโหยง...
นาตาลียืดอก พวกเราลุ้นตาโต...
“พูดซิ! นาตาลีคนเก่ง นาตาลีคนสวย สวยที่สุดในโลก ฉันขอโทษนะคะ ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว กรุณาให้อภัยฉันด้วยนะคะ ได้โปรด”.....
“แป๊น....นนน!!!” เจ้าแทนบีบแตรยาว
“ว้า!!” ไป่ไป๋ผิดหวัง หน้าเหยเกาหัวแกรก
“เจ็ทโด้!!!!” ผมเองก็อยากจะพุ่งหลาวออกนอกรถไปเลย
“อนนี่จะรั่วไปถึงไหนเนี่ย?”
“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!” พวกเราส่ายหน้าหัวเราะลั่น หมวดจางพลอยหัวเราะไปด้วย
นาตาลีภูมิใจยิ้มยืด มองหน้าพวกเราเหมือนจะโชว์ออฟ เธอยังมีหน้าหันไปขู่หมวดจาง ...
“พูดสิ! ๆ”
“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!” หมวดจางหัวเราะตัวงอ //สงสัยที่หมวดจางเคยเล่าเรื่องนาตาลีบ๊อง ๆ รั่ว ๆ คงจะจริง//
“เร็ว ๆ เดี๋ยวเปลี่ยนใจนะ!” เธอเซ้าซี้จนหมวดจางต้องพูด เธอถึงหยุด //ล้นจริง ๆ แหละดอกเตอร์ เรียนจบสูงมาจริงหรือเปล่าวะ?//
ระหว่างทางกลับไปฉวีจิ่ง หมวดจางนั่งหลับคอพับคออ่อนอยู่ข้าง ๆ มาทั้งทาง ผมเหลียวมองหลายครั้ง ใจหนึ่งก็เกลียดอีกใจก็รัก สุดท้ายก็ทนไม่ได้ จับหัวเธอมาพิงไหล่ให้นอนสบาย ๆ แหวกเส้นผมที่ปิดหน้าออกให้ ยายคนสวยใจร้าย ไม่น่าไปรักเธอเลย
......................................................................................................................