The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 4 ตอนที่ 10

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 4 ตอนที่ 10
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 4
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 15 ก.พ. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

เขตอนุรักษ์กลุ่มชาติพันธ์มู่เหลา
มุมมอง จาง  แอนนา
มิถุนายน ค.ศ.2021
เช้าวันต่อมา...ฉันเดินสำรวจตรอกซอกซอยแห่งอารยธรรมเก่าแก่  หมู่บ้านดินชั้นเดียวในรั้วรอบขอบชิด ประตูบ้านเปิดอ้ารอเจ้าของกลับมา จบสิ้นกันแล้ว สำหรับเผ่าพันธุ์ของชุมชนเผ่าโบราณ
เสียงแทนตะโกนเรียกด้านหลัง...        
“หมวดจางครับ!  ทำไมไม่มีใครเรียกฉันว่า แอนนาสักคน?
เขาโบกมือเรียกอยู่ในบ้านข้างร้านค้า เมื่อวานเราช่วยกันต้อน Soulless มาขังไว้ เพื่อให้ได้ง่ายต่อการดูแล ไป่ไป๋กับแทนช่วยกันหอบหิ้วอุปกรณ์จากรถยนต์เข้าไป
“หมวดจาง เราจะฉีดพวกเขาอย่างไรเหรอ?” เขาวางอุปกรณ์ลงข้างนาตาลี บนแคร่ไม้ไผ่บนลานหน้าบ้าน    
“อื้อ! ฉันคว้าคอ Soulless เด็กชายตัวน้อยเดินเหม่อลอยผ่านมา เขาอาจจะเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวก็ได้ มองร่างกายที่ผอมโซแล้วสะท้อนในอก ถ้าโตขึ้นเขาอาจจะเป็นคนที่โลกใบนี้ต้องการ ฉันหันไปหาไป่ไป๋...
“ฉีดได้เลย พวกนี้ไม่ได้ดุร้าย ฉีดแล้วเอาสติ๊กเกอร์แปะหลังไว้” ฉันนั่งลงข้างนาตาลี ช่วยเธอประกอบอุปกรณ์ฉีดวัคซีน
เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ได้เวลาโชว์ไทม์ ฉันเดินลุยเข้าหากลุ่ม Soulless ที่ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน จับมาจิ้มแขนกันคนละที แทนไล่แปะสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ 
นาตาลีจับคู่กับไป่ไป๋ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ไม่นานก็เสร็จรวมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งหมดมีแค่ 54 คน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างที่นาตาลีบอก พวกเขาคงจะดีขึ้นในเร็ววัน           
หลังเสร็จงาน...พวกเราออกมารวมกันที่ลานหน้าร้านค้า ฝูงไก่สีน้ำตาลตัวอ้วนเดินหากินอยู่บนลานกุหลาบ
มาเล่นกันเถอะ!” นาตาลีนึกสนุกหันมายิ้มกว้างชี้แม่ไก่...     
จับไก่กันดีกว่า!” เธอวิ่งไล่ตะครุบแม่ไก่หัวทิ่มตูดโด่ง สดใสราวกับเด็กน้อย
“อนนี่มาแข่งกัน” ไป่ไป๋เองก็ยิ้มสดใสใบหน้ามอมแมม
ส่วนซอนของฉันเดินเก็บหัวกะโหลก เก็บเศษกระดูกชิ้นส่วนศพที่กระจัดกระจายตามพื้น มากองรวมกันแล้วเผาไฟ ทำงานอยู่บนลานตั้งแต่เช้าคนเดียว                
แทนคะ! มาจับไก่กัน” ไป่ไป๋ยิ้มแฉ่งกางแขนกว้างวิ่งไล่ต้อน
กะต๊าก! กะต๊าก ๆ ๆ” ฝูงไก่อ้วนสีน้ำตาลบินแตกตื่น
“ฮ่าฮ่าฮ่า! อย่าหนีนะ” เธอหัวเราะสดใส นาตาลีวิ่งไล่จับหัวทิ่มหัวตำ สองสาวหัวเราะสนุกสนาน          
จับได้แล้ว! ฉันจับได้แล้ว!” เธอยิ้มหน้าบาน ชูไก่ในมือ
“หนูก็จับได้ แทนคะมาช่วยหน่อย”  
แทนยิ้มสนุกสนาน วิ่งเข้าไป...
“ส่งมาครับ!” เขารับแล้ววิ่งไปใส่เข่งหน้าร้านค้า               
ใบหน้าเปื้อนยิ้มกันทุกคน รอยยิ้มใสใสที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ทุกการเคลื่อนไหวของทั้งสามคน กลิ่นอายความรักตลบอบอวล พวกเขาแสดงความเป็นห่วงซึ่งกันและกัน              
ฉันสังเกตนิสัยของแทนแล้วไม่แปลกใจเลย ที่สองสาวจะไว้วางใจและรักเขา แทนเป็นคนสุภาพและเอาใจใส่กับทั้งสองคนอย่างดี แต่..ฉันกังวลใจยังไงไม่รู้สิ แอบกลัวอยู่ลึก ๆ
ซอนป้องปากตะโกน...             
จับเยอะ ๆ เลย ผมจะทำไก่อบโคลนให้กิน เอาไว้ให้ Soulless กินพรุ่งนี้ด้วย” เขาลากซี่โครงโยนเข้ากองไฟ 
เขาเดินตามเก็บพวกที่หิวตาย นอนแห้งตามซอกบ้าน ตามพงหญ้า เหลือแต่กระดูกแห้งไปเข้ากองไฟ
ฉันเดินเข้าไปหา...             
“ซอนไปกับฉันหน่อยค่ะ” ฉันเดินผ่านกลุ่มนาตาลี..             
“เด็ก ๆ ฉันจะเข้าไปหาข้าวสารในบ้านของพวกเขานะ จับไก่ให้ได้เยอะ ๆ ล่ะ” ฉันตบไหล่ของแทน แล้วเดินต่อเข้าไปในซอย              
บ้านดินหลังคาแอ่นโค้งสองข้างทาง เปิดประตูหน้าต่างทิ้งอ้าซ่าไม่มีโอกาสได้ปิด เพราะเจ้าของจากไปกะทันหัน ข้าวของวางระเกะระกะ
 ฉันเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ มองบ้านด้วยความสลดใจและสำนึกผิด สายลมพัดผ้าที่ตากไว้บนราวปลิวไสว ทั้งหมู่บ้านมีแต่ความเงียบเหงา มันหดหู่ น้ำตาคลอ รู้สึกสงสารจับใจ ป้องปากตะโกนเสียงดังเข้าไปในบ้าน...                
“ฉันขอโทษนะ! ในใจรู้สึกเศร้าสลด
แต่ฉันยังตั้งความหวังไว้ที่วัคซีน Anti-Tame26 ของนาตาลี ถ้ามันใช้ได้ ฉันจะอุทิศตัวเอง ทำงานเพื่อช่วยเหลือพวกเขา
ซอนเดินมากอดคอยืนเคียงข้าง มองด้วยสายตาเศร้าเช่นกัน
“เมื่อทำผิดไปแล้วก็ต้องแก้ไข เรามาช่วยนาตาลีกัน ผมจะอยู่ข้างคุณเอง” เขาโอบไหล่พูดด้วยเสียงนุ่มหู
ฉันมีกำลังใจขึ้นมาเป็นกอง...              
“ซอน! เอาข้าวสารรวบรวมไว้นะ เดี๋ยวฉันจะหุงให้พวกเขากินเอง  เรามาทำอาหารอร่อย ๆ ให้พวกเขากินกันดีกว่า”
เราเดินเข้าสำรวจบ้านทีละหลัง ช่วยกันเก็บเสื้อผ้าข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง เมื่อได้ข้าวสารและเครื่องปรุงที่จำเป็นแล้ว ไม่ลืมที่จะช่วยกันปิดบ้านให้พวกเขา              
“จิ๊บจิ๊บ! นกภูเขาสีสวยถูกขังไว้ผอมหัวโต พวกเราช่วยกันปล่อยให้มันได้ออกไปสู่อิสรเสรี 
“อุ่ด!อุ่ด! หมูในเล้าผอมท้องแฟบซีโครงบาน ขาทั้งสี่ไร้เรี่ยวแรงจะพยุงตัวลุกยืน บางตัวนอนตายแห้งคาเล้า              
ฉันฉุกคิดถึงความเลวของตัวเองที่เคยได้ทำไว้ เป็นความผิดที่ไม่สมควรให้อภัย ที่เห็นนี้เพียงแค่เสี้ยวเดียว...ยังมีอีกมากในหลายประเทศที่ไปเป่านกหวีดทดสอบไว้            
“ซอน! เดี๋ยวถ้าเสร็จงานจากตรงนี้ คุณไปทำงานกับฉันหน่อยได้มั้ยคะ?” ถ้าซอนช่วยและวัคซีนได้ผล ฉันจะยังไม่ไปต่อกับนาตาลี แต่ถ้าซอนไม่ช่วยฉันต้องตามนาตาลีไป               
ซอนแบกข้าวสารถุงใหญ่ กำลังเดินนำกลับบ้านหันมามอง...         
“คุณจะทำอะไรต่อ?” เขาถามขาก้าวเดินขึ้นเนิน             
“ไปเที่ยวบ้านฉันที่เสิ่นหยางด้วยกันมั้ยคะ?” ฉันคิดแผนในใจ ซอนนี่แหละ! ช่วยฉันได้แน่ ถ้านาตาลีได้ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ค่อยตามเธอไปทีหลังดีกว่า ตอนนี้อยากทำบางอย่างให้เสร็จก่อน         
“กองทัพฯ ไม่ตามจับตัวคุณเหรอ?”           
“ไม่หรอก! พวกเขาคงคิดว่าฉันตายไปแล้ว เขาไม่รู้หรอกว่าฉันอยู่ที่ไหน เขาหาไม่เจอหรอก” นี่เป็นอีกครั้งที่เพื่อนร่วมงานตายทั้งหมด ทางกองทัพจะไม่รู้ข่าวคราวของฉัน             
“กลับไปทำไมเหรอครับ? ยังมีคนคอยคุณกลับบ้านเหรอ?”
ฉันสะอึกกับคำพูดของเขา...คนสุดท้ายของครอบครัวก็จากไปแล้ว เพื่อน ๆ ต่างแยกย้ายมีครอบครัวย้ายกันไปหมดแล้ว ฉันก็ไม่เหลือใครแล้วเหมือนกัน
เราเดินขึ้นเนินกลับมาถึงลานจับไก่ บนลานเงียบกริบมีเพียงใบไปลิดปลิว พวกเด็ก ๆ กลับบ้านกันไปแล้ว
“ฉันจะไปเผาโกดังวัคซีนที่นั่น ฉันเห็นนาตาลีกล้าเผาอู่ฮั่น ฉันจะเผากองพันที่ 8 เสิ่นหยาง”
ซอนหยุดเดิน หันมายิ้มตาใสซื่อ...
“ผมรักคุณจังเลย แต่งงานกับผมเถอะ!
“อ๋าว! คุยเรื่องเผาโกดังอยู่ดี ๆ มาชวนแต่งงานซะงั้น! ไม่โรแมนติกเลย ไม่อาว! ฉันจ้องมองหน้านิ่ง เขายิ้มเจื่อนหน้าเริ่มเสีย             
“อะไรกันชวนไปทำงานด้วยแค่นี้ ขอแต่งงานเลยเหรอ? ค่าจ้างแพงไปหรือเปล่า? บอกเหตุผลมาสิ ทำไม?” ฉันพูดเสียงเรียบหน้านิ่ง ขอเล่นตัวหน่อยนะ อยากพิสูจน์ความตั้งใจของเขา
“เอ่อ...คือ...” เขาเริ่มถูมือ ประหม่า ลูกผู้ชายอย่างซอนถ้าไม่คิด ไม่ชอบ เขาไม่ประหม่าหรอกแสดงว่า เขาชอบฉันจริง อึกอัก เกาแขน เกาขา...             
“แค่คุณคิดจะทำอย่างนั้น ผมก็ว่าคุณเป็นคนดีแล้วล่ะ เป็นแม่ของลูกได้แล้ว ผมจะไปช่วยคุณเอง ชวนเจ้าแทนไปด้วย”
แต่ฉันส่ายหน้า ยังไม่ถูกใจคำตอบ เราก้าวลงบันไดเล็ก ๆ ข้างร้านค้าริมทะเลสาบ เดินไปตามสะพานไม้ก่อนถึงตัวบ้าน มองไปที่ตัวบ้านก็เงียบไม่เห็นเด็ก ๆ
พวกนั้นหายไปไหนหรือไปตกปลากันนะ? ชะเง้อมองลงไปที่ริมตลิ่งด้านล่างก็ไม่มีแม้เงา ดีเหมือนกัน...วันนี้ต้อนซอนให้อยู่หมัดก่อน...         
“แล้วจะแต่งงานทำไม? ฉันไปจ้างคนอื่นก็ได้ ไม่เห็นต้องผูกมัดกันขนาดนี้” ฉันยังคงเก็บอาการอยากได้เอาไว้ ในใจสั่นระริกดีใจอยากจะแต่งกับเขา ฉันชอบซอนตั้งแต่แรกเห็นแล้ว             
“เอ่อ!..ไม่ใช่ผูกมัด งานที่จะไปทำมันยากนะครับ ถ้าผมตายไปจะได้ไม่ต้องเสียใจ” เขาพูดติดตลก แบกข้าวสารเดินนำกลับบ้าน             
“...........” แปลกจัง ไปไหนกันหมดนะ? ในตัวบ้านที่เงียบสนิท ประตูห้องนอนปิดหมด มองหาไปรอบ ๆ บ้านก็ไม่มีเงาของน้อง ๆ หายหัวไปไหนกันหมดนะ
หันไปคุยกับซอนต่อให้รู้เรื่องก่อน             
“เหตุผลมีแค่นั้นเหรอ?” ฉันถามเรียบ ๆ เหมือนเดิม
“คร้าบ! เขาพยักหน้ายิ้มหวาน แววตาเปี่ยมประกายก่อนจะทิ้งกระสอบข้าวสารลงพื้นลานหน้าบ้าน                          
“งั้น! ไม่ตกลงค่ะ” ฉันเล่นเกม
“ห่ะ! เขายืนชะงักหน้าถอดสี ใบหน้าหดเหลือสองนิ้ว           
“ทำไมล่ะครับ ผมดีไม่พอเหรอ? ผมเลี้ยงคุณได้ตลอดชีวิตเลยนะ เงินก็มี อายุก็ได้แล้ว” เขาทรุดตัวลงข้างถุงข้าว
ฉันต้องมัดให้เด็ดขาด เดี๋ยวหลุดมือเสียดายแย่...                   
“คุณเอาแต่ได้ ที่คุณพูดมาทั้งหมด คุณได้ประโยชน์คนเดียว ฉันไม่แต่งงานกับคุณหรอก เริ่มต้นก็เห็นแก่ตัวแล้ว” เจอไม้นี้เข้าไป หาทางแก้ตัวเอาเองเถอะพ่อหนุ่ม
เขาเริ่มเงอะงะ...                     
“ไม่ใช่ ๆ ผมเอ่อ..ผมชอบคุณมาตั้งแต่คราวก่อนแล้ว เราตกลงกันแล้วนี่ว่า จะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ผมจะทำตามสัญญาจะดูแลคุณอย่างดีและมีลูกด้วยกัน”
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเชลย ไม่ใช่ฉันวันนี้ คุณเกลียดฉันไม่ใช่เหรอ ถ้านาตาลีไม่ห้ามไว้ คุณก็เชือดคอฉันแล้ว”
“ก็ผมเสียใจมากที่คุณยิงผม คิดว่าโดนหักหลัง พอรู้ความจริงว่าคุณวางแผนทั้งหมดและพานาตาลีหนีออกมา ผมถอดหัวใจให้คุณไปหมดเลย ถ้าคุณไม่แต่งงานด้วย ผมก็ไม่มีหัวใจแล้วนะ” แหม...พูดเก่ง เขาคุกเข่าเงยหน้าตาละห้อย
“ปึง!! ประตูห้องนอนนาตาลีก็เปิดผัวะออกมา
“อุ๊ย!         
“ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว” แทนเดินยิ้มออกมา
“ฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาว” นาตาลีผวาเข้ามากอด
“หนูไม่ให้แต่ง ขออนุญาตหนูหรือยัง?” ไป่ไป๋หน้าหงิก ตัวปัญหามือไม่เคยตกเลย
……….” อึ้งกันไปหมด
“อันนี้เรื่องของผม ให้ผมตัดสินใจเองนะ” ซอนหันไปบอกน้อง
“โน๊โน! ยายน้องปากจู๋ ยายนี่เป็นเจ้าชีวิตของทุกคน ทำตัวเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะจักรวาล
“หนูติดต่อเพื่อนไว้ให้แล้ว เอาเพื่อนของหนูชัวร์กว่า” เธอพูดเรื่องอะไรอีกวะเนี่ย? ยายนี่ป่วนเสียเรื่องอีกแน่
“แต่ผมไม่ได้ชอบเพื่อนคุณนี่” ซอนหน้าเบ้ ไม่ยอม
“เดี๋ยวพอได้เจอกัน ก็ชอบเองแหละ” เธอก็ไม่ยอมซะงั้น ยายนี่ยุ่งไปหมด เดี๋ยวเสียแผน ฉันยกมือ...
“ไป่ไป๋! เกลียดฉันมากเลยเหรอ?”
“หนูไม่ได้เกลียด แต่ตอนคุณไม่อยู่ เราตกลงกันใหม่แล้วซอนจะแต่งกับเพื่อนหนู ใช่ป่ะ?” เธอหันไปมองซอน
แทนโพล่งออกมา...
“แล้วไหนล่ะเพื่อนคุณ? ไม่เคยพามาสักคน ได้แต่พูดปากเปล่า”
“ใช่! เธอก็บอกกับผมอย่างนี้ ไหนล่ะ ผิงผิงของผม?” ซอนเข้าร่วมด้วย ยายน้องเก้อดวงตาหลุกหลิก
“ถ้าหนูบอกว่า ไม่ ก็คือไม่” ยายเปี๊ยกจมูกบาน ปากจู๋
“แต่นี่...มันเป็นเรื่องส่วนตัวนะ” ซอนอ้อมแอ้ม หงอมาก
“แต่หนูเป็นคนช่วยชีวิตคุณนะ” เอาสิเอา! ยายนี่กดดันได้ทุกคนจริง ๆ
“ไม่มีทางให้เลือกเลยเหรอ? ผมรักคนนี้ง่ะ!” ซอนรักน้องคนนี้จริง ยอมเชื่อฟังทุกอย่าง
ไป่ไป๋นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้กวักมือเรียก...
“มานี่เลยทั้งสองคน” นี่เธอเป็นแม่ด้วยรึไงวะ? ฉันชักไม่ชอบใจแล้ว แต่ซอนเดินไปมอบตัวซะงั้น
“อ้าว! หมวดจาง อยากจะเข้ามาอยู่กับครอบครัวของเรามั้ย? มานี่!” ยายเปี๊ยกกวนตีนได้ใจจริง ๆ ฉันต้องไปมอบตัวอีกคน
“คบกันไปก่อน ดูใจกันไปก่อน ตกลงตามนี้นะ” เจ้ากี้เจ้าการไปหมดทุกเรื่อง
“...........” พวกเรามองเธอเป็นตาเดียว
“ตกลงไม่เอาใช่มั้ย?” ยายน้องสายตาจิก...
“เอาสิ! แบบนี้ก็ได้เนอะ” ซอนหันมาเนอะกับฉัน
สายลมกรรโชก พัดใบไม้ไหว กลีบดอกไม้สีชมพูจางบางเบา ปลิวมาตกที่หน้าอกเสื้อพอดี เธอโชคดีมากปล่อยไปก่อน ไม่อยากเล่นงานกลับ พยักหน้ารับไม่อยากจะเสียงานใหญ่                          
“แต่งเลยหมวดจาง ฉันอยู่ข้างคุณ” นาตาลียุอยู่ข้าง ๆ ฉันลูบหัวเธอเบา ๆ ยายนี่ก็เหมือนน้องสาว
ไป่ไป๋เดินก้นงอนไปหาพี่ชายของเธอ คู่นี้รักกันเหลือเกิน...
“อย่าพึ่งใจร้อน เชื่อหนู!” ยายตัวแสบก้มหน้าเอามือท้าวไหล่ เขาเงยหน้ามองน้องตาละห้อย
แทนเดินยิ้มเข้ามาหา...                       
“หมวดจางครับ มาเป็นพี่สะใภ้ผมเถอะ พี่ซอนเป็นคนดี ผมยืนยัน” อย่างน้อยสองคนก็ยังเข้าข้างฉัน
“หนูยังไม่ไว้ใจ เข้าใจใช่มั้ย?”เหตุผลของเธอเข้าใจได้ ฉันโหดไว้ขนาดนั้น
“แต่หนูไม่ได้รังเกียจคุณนะ คบกันไปก็เหมือนแต่งงานแหละ ทั้งคู่ก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ซอนไม่มีญาติพี่น้องอีกแล้ว ถ้าโดนคุณหลอก หนูก็เจ็บปวดไปด้วย” ได้ฟังเธอพูดก็รู้สึกขอบคุณ
ฉันสุขใจมองใบหน้าของซอน เขานั่งหน้าเจี๋ยมเจี้ยมตาปริบ /น้องก็รักคุณนะคะ พวกเขาจริงจังและจริงใจกับพี่ชายคนนี้ด้วย/
“ดีเลย...ตกลงตามนั้น ฉันมีงานต้องรับผิดชอบ ฉันชอบคุณนะซอน เราเริ่มนับ 1 ไปด้วยกัน” ฉันคงต้องใช้เวลาต่อไป ไม่เป็นไรไม่รีบ
“แต่งไหม?” นาตาลีกระซิบ
แต่งเพื่อ?” ฉันกระซิบกลับ
 “จะได้บุ่มบุ๋มกันทุกวันไง” เธอขึงขัง...
“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!!ฉันหลุด ยายนี่จะลื่นปรื้ดท่าเดียวเลย... 
ฉันเลือกซอนเป็นเพื่อนตลอดชีวิต จากนี้ไม่ว่าฝนจะตก แสงแดดจะร้อนหรือเจออุปสรรคอะไรก็ตาม เราจะช่วยกันฟันฝ่า
แต่...รู้สึกเหมือนรังสีอำมหิตแผ่ซ่านเข้ามา...               
“หนูจับตามองอยู่นะ” เสียงไป่ไป๋ขู่ฟ่อ
“จ้า...คุณน้องเล็ก ฉันจะทำดีทุกวันเลย พอใจมั้ย?”
ไป่ไป๋สะบัดหน้า ปากจู๋...          
“ต้องรักหนูด้วย” ยายหัวจุกลอยหน้าลอยตา
“รักไม่ลงหรอก”
“งั้นก็ไม่ให้คบกัน มีอะไรป่ะ?” เธอกระซิบข้างหู
กล้ามาก...ขู่ด้วย มาประลองกำลังกันหน่อยสิ จะเล่นใช่มั้ย?...
“แทนคะ!
“ครับพี่สะใภ้” แหม!...น่ารักเชียวตานี่
ฉันแสยะยิ้มมองยายเปี๊ยก...              
“คราวก่อนที่เรานอนเต็นท์กัน มีคนไปตะกายเต็นท์ของฉันในป่า..อุบ...อุบ”
ไป่ไป๋พุ่งมาปิดปาก
“หยุด!…ดดด!          
“หมวดจางคนสวย เมื่อยมั้ย? หนูจะช่วยนวดให้นะคะ” ไป่ไป๋ขยำมั่วไปทั้งตัว 
“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!! ซอนหัวเราะลั่น ทั้งคู่อายหน้าแดงสายตามองไปที่เจ้าหนุ่มน้อยนั่งหน้าเหรอหรา ไม่เคยรู้เรื่องอะไรกับเขาด้วย
“ฉันเป็นพี่ ฉันเป็นคนออกคำสั่ง ตกลงมั้ยไป่ไป๋?” ฉันเน้นไปที่เธอ
“ไม่ค่ะ! อย่าเอารุ่นมากดกัน คนเท่ากันไม่เกี่ยวกับอายุ” เธอไม่ยอมสะบัดหน้าหนี     
“แทนคะ! คุณอยากรู้ความลับของสองคนนี่ไหมคะ?” ฉันใช้ไม้ตาย เธอไม่รอดหรอกยายเปี๊ยก
“ห่ะ! นาตาลีซวยไปด้วย สองสาวทรุดเกาะขาคนละข้าง แหงนหน้าสายตาอ้อนวอน          
“ตกลงตามนั้นเลย หนูหิวข้าว เจี่ยเจี้ยขา...หนูหิว” ไป่ไป๋ดึงขาคนละข้างกับนาตาลี แทนจ้องมองอมยิ้มสายตาสงสัย
ฉันก้มลงไปแกะมือสองสาว....           
“ฉันจะไปหุงข้าว ซอนไปอบไก่ไป เดี๋ยวน้อง ๆ จะได้กินข้าว” สงสารหรอกนะ ไม่อยากเผาคนทั้งเป็น หันไปมองหน้าสองสาวรีบหลบสายตา ทีตอนนี้รู้สึกอายทีตอนไปตะกายเต็นท์ไม่อาย รีบไปหุงข้าวดีกว่า         
“จางเจี่ยเจี้ย ฉันไปช่วยนะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของฉัน” นาตาลีเรียกฉันว่า พี่สาวด้วย เธอวิ่งเข้ามาโอบเอวหัวพิงไหล่
ไป่ไป๋วิ่งเข้ามา....                     
“จางเจี่ยเจี้ย หนูไม่ดื้อแล้ว” เธอเข้ามากอดเอว          
แทนลากกระสอบข้าวสารมาให้หลังบ้านแล้ววิ่งไปหาซอน สองสาวช่วยกันหุงข้าว มีความสุขจังเลย ตัดสินใจเลือกทางเดินใหม่ ไม่ผิดจริง ๆ
                     ..........................................................................................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,861 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,977 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม