The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 4 ตอนที่ 15

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 4 ตอนที่ 15
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 4
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 22 ก.พ. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


เขตุอนุรักษ์กลุ่มชาติพันธ์มู่เหลา
 

มุมมองนาตาลี พัค

มิถุนายน ค.ศ.2021

การร่วมมือร่วมใจจากเพื่อน ๆ ช่วยให้ก้าวผ่านปัญหา จากที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องยากแต่กลับตรงกันข้าม แววตาของ Soulless กลับมาแวววับสดใสสวยงามดังเดิม ประสาทรับสัมผัสกลับมารับคำสั่งได้ตามปรกติ แผลพุพองตามเนื้อตัวเริ่มแห้งลงเป็นสะเก็ด พวกเขาช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว และได้กลับไปอยู่บ้านอีกครั้ง
            ช่วงสายตะวันโด่ง แสงแดดอบอุ่นเปิดให้เห็นท้องฟ้าสดใส ต้อนรับชีวิตใหม่ให้กลับคืน  หมู่บ้านชาติพันธ์มู่เหลาท่ามกลางขุนเขาแวดล้อมไปด้วยสีชมพูบานสะพรั่งของดอกไม้ป่า สายลมหนาวโชยอ่อน พัดสะบัดดอกไม้ลอยละลิ่วปลิวเริงร่าเหมือนสาวน้อยบ้านป่า ได้เห็นการกลับมาของคนรัก กองไฟครุกรุ่นโชยควันปลิวขึ้นสู่ท้องฟ้า

“มากินข้าวกันค่า” ฉันกวักมือตะโกนเรียกเด็ก ๆ พวกเขาวิ่งเล่นกับแทนหัวเราะเสียงใส                   

เด็ก ๆ เดินยิ้มเข้าแถวรอขนม หน้าตามอมแมมแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มสดใสแววตาไร้เดียงสาเดินมาหาช้า ๆ เสื้อผ้าสะอาดกลิ่นหอมจากการซักล้างของหมวดจาง เธออุทิศทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับพวกเขา             

“กินเยอะ ๆ...วันนี้ฉันจะกลับบ้านแล้วนะ” ฉันเดินเข้าไปหาเด็กผู้ชายที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่คนเดียว เขาหันมายิ้มน่ารักน่าเอ็นดูฟันหน้าหายทั้งแผง 

“เซี่ยเซี่ยหนี่! เสียงทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ขอบคุณกันดังขรมกับกลุ่มของซอน       

“คุณลุงเอาอาหารไปทำเอาเองนะคะ เอาไปแบ่งกัน” ฉันบอกกับคุณลุงชาวบ้านที่ดูอาวุโสสุดแล้วชี้ไปที่บนโต๊ะใต้ต้นไม้และกลางลาน เนื้อหมูเค็ม ปลาเค็มตากเต็มลานจากฝีมือหมวดจาง ปลาในกระชังปลายสะพานอีกมากพอประทังชีวิตทั้ง 54 คนได้อีกหลายวัน   

เซี่ยเซี่ยหนี่! ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับคุณหนู ขอให้เทพเจ้าคุ้มครอง” ท่านยิ้มมองไปตามมือ หมวดจางยิ้มโบกมือรับ

ฉันหันกลับมาหาเด็กชายอีกคนที่นั่งกินข้าวคนเดียวอย่างหงอยเหงา...          

“อร่อยมั้ยคะ?” สะกิดขาหันมามองแล้วหันกลับไปกินต่อ ฉันไม่กล้าพอที่จะถามว่าพ่อกับแม่อยู่ที่ไหน มันสะเทือนใจมาก แค่เห็นแผ่นหลังน้อย ๆ ก้มหน้าลงกินข้าวกล่องกับพื้นน้ำตาก็รื้นแล้ว

ไป่ไป๋เดินกระโดดกระเด้งเข้ามายื่นกล่องขนมให้...     

“ถ้าตอบจะให้อีกกล่อง” เธอยิ้มหวานยื่นขนมตาใส

“ขวับ!” เขารีบคว้า

“หือ!” เธอดึงมือกลับก่อน

แล้วความซวยก็มาเยือนไป่ไป๋...

“ย๊าก...กก!! เจ้าเด็กน้อยลุกขึ้นวิ่งเข้าแย่ง ไป่ไป๋หัวเราะสนุกสนานวิ่งหนี

“ฮึ๊บ! เขาพุ่งตัวรวบขาจนล้มหน้าคะมำกล่องขนมกระจายเกลื่อนพื้น เจ้าเด็กน้อยวิ่งเอามือไปกอบเศษขนมแล้ววิ่งกลับมานั่งกินที่เดิม ไม่เหลียวกลับไปมองเธอเลย  

“เด็กบ้านี่! แทนคะ มาตีให้ที น้องแกล้งหนู” เธอตะโกนฟ้องแทน ไป่ไป๋ยังติดแทนมากเหมือนเดิม หันซ้ายหันขวาก็เรียกแทนไว้ก่อน เขานั่งยิ้มอยู่ข้างซอนและหมวดจางบนม้านั่งที่โต๊ะวางอาหารใต้ต้นไม้        

“เดี๋ยวพวกเรากลับกันเลยดีกว่านะคะ เรากลับไปวางแผนเรื่องเสิ่นหยางดีกว่า” ฉันบอกขณะเดินกอดคอไป่ไป๋เดินเข้าหากลุ่มของซอน 

หมวดจางยิ้มกวักมือเรียก...    

“ดอกเตอร์คุณแน่ใจนะ ไม่คิดจะหนีแล้วจริง ๆ เหรอ? ชีวิตของคุณมีความหมายกับทุกคนบนโลกนี้นะคะ”

“อื้อ! คุณก็ด้วย” ฉันพยักหน้ารับ ยังมั่นใจเหมือนเดิม

“ถ้าเราแยกกัน ถ้าผิดพลาดก็ยังเหลือนะคะ อย่ารวมกันเลย” เธอหนักใจ      

“เผามันให้หมดก่อน แล้วฉันจะไป คุณช่วยฉันด้วยนะ” ฉันบอกด้วยใจมุงมั่น เธอพยักหน้าเบา ๆ ในสายตาเป็นกังวล             

“ฉันไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของคุณจริง ๆ แทนกับไป่ไป๋เสียเวลาช่วยคุณตั้งนาน พอได้เวลากลับ คุณก็ไม่กลับซะงั้น!” เธอบ่นหน้ายุ่ง หมวดจางเหมือนพี่สาวใจร้ายมากขึ้นทุกวัน ดุฉันเป็นเด็กน้อยทุกวัน         

“ก็หนีได้แล้ว ตอนนี้ฉันออกจากตึกแล้ว”

“โดนจับได้อีกที คุณโดนพวกมันเชือดคอแน่” เธอจ้องหน้าขู่

“ทั้งหมดอยู่ที่คุณ ถ้าคุณหลอกอีก ฉันก็ตายจริง การเชื่อใจครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย”

“อย่าพูดอย่างนี้สิ คนอื่นจะคิดว่าฉันมีแผนชั่วอีก”

“หนูจะไม่ให้อภัยอีกเลย”ไป่ไป๋เม้มปากมองแทนที่กำลังเดินไปที่รถยนต์...

“เฮ้อ! เธอถอนหายใจหนักแล้วเดินตามไปเปิดประตูรถยนต์ขึ้นไปนั่ง

“ไปกันเถอะ! ฉันมีเรื่องจะปรึกษาคุณหมอด้วย” ฉันเดินตามไปวางของลงที่ท้ายรถยนต์ Audi

หมวดจางเดินกอดคอซอน แวะมา  

“แทนคะ!       

“มีอะไรครับ?” เขาหันมายิ้มหวาน ใจเย็นกับพวกเราเสมอ ถึงอายุเราจะพอ ๆ กัน แต่อบอุ่นเหมือนผู้ใหญ่ใจดี ใช่แล้วล่ะ! นิสัยของแทนเหมือนผู้ใหญ่

“กลับถึงบ้านแล้ว โกนขนให้หมดเลยนะคะ” ยายจางจุดชนวน เธอพูดกับเขาแต่สายตาจิกมาที่ฉัน

“ฮ่าฮ่าฮ่า! หันไปตีมือกับซอน กวนตีนมาก        

“เชอะ! ฉันไม่สน รีบเปิดประตูมุดเข้าไปนั่งด้านหลังอย่างเร็ว

“สร่างเมาหรือยังคะ?” เธอหลิ่วตาชะโงกผ่านหน้าต่าง           

“สร่างแล้ว!!

“นึกว่า ยังไม่สร่าง จะได้เอายาแก้เมาค้างมาให้กิน”

“เอามาสิ! ยังมึน ๆ อีกนิดหน่อย กินก็ดีเหมือนกัน จะได้หายมึนเร็ว ๆ”            

“อ่ะ!  เธอยัดบางอย่างใส่มือมาให้ ฉันแบมือจะเอาเข้าปาก...   

“หือ???????”   ขนอะไรวะ?    

 “ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!

“ย่าห์! หมวดจาง! ฉันจะฆ่าเธอ!

“ขนหยิกมาก เอาคืนไป ฉันไม่กิน” ฉันอยากจิกหัวมากัดสักเขี้ยว

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! แต่กลับกลายเป็นว่า พวกเขาได้หัวเราะฉันอีกยกใหญ่ // ดึงฮู้ดปิดหน้า มุดหนี//       

แทนยิ้มกริ่ม นั่งประจำที่คนขับหันมาถาม

“คุณเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ เหรอครับ?”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ยายจางหัวเราะลั่นเดินกลับไปรถของตัวเอง

“อย่าหาว่า ฉันเห็นแก่ตัวนะ ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร? คุณถึงจะไปเสิ่นหยางด้วย ฉันตั้งความหวังสูงมาก อยากให้คุณไปด้วย” ฉันบอกความรู้สึกกับแทนซ้ำอีกครั้ง             

“ผมไม่ต้องไปก็ได้ ไป่ไป๋ไปด้วยแล้วนี่ครับ คุณดูแลกันดี ๆ นะ ผมหมดหน้าที่แล้ว เดี๋ยวกลับไปส่งคุณที่บ้านไป่ไป๋แล้ว ผมกลับบ้านเลยนะครับ” เขายิ้มตาใส ไป่ไป๋นั่งก้มหน้านิ่ง

“เฮ้อ! ฉันยังไม่อยากให้เขากลับ จะบอกกับเขายังไงดีนะ หนักใจจังเลย                  

“แทนคะ! ฉัน..ฉัน...” เอ่อ...หายเมาแล้วก็ไม่กล้าพูด ปากสั่นขยับไม่ออก        

 “อนนี่...อยากจะไปกับแทนสองคนเหรอ?” ไป่ไป๋ตาเขียวปั้ด หน้างอมาก

“เอ่อ!...ฉันแค่จะถามว่า รู้สึกวูบวาบบ้างหรือเปล่า? วิชาขี่ม้าไม่ได้ผลเหรอ?”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! เขาหัวร่อร่า    

“คุณก็ไม่ต้องมาหัวเราะ อนนี่แค่เมา อนนี่ไม่ได้ชอบคุณหรอก” เธอจ้องหน้าเอาเรื่อง

แต่แทนยิ้มกรุ้มกริ่ม ลอยหน้าไปล้อเธอ...

“วูบวาบสิ! ขนลุกไปหมด ผมมีแฟนแล้วนะ ไม่ต้องไปจีบพยาบาลแล้ว ฝากบอกหม่าม้าด้วยนะ” เขาร้องเป็นเพลง เต้นยักไหล่ ยั่วเธอเต็มที่
           “หนูไม่ให้หรอก อนนี่ของหนู” เธอเสียงเริ่มสั่น
           “เอ๊!..จะเอาไป่ไป๋ไปทิ้งที่ไหนดีล่ะทีนี้ อยู่ก็เกะกะ?” เขาหัวเราะเยาะ แลบลิ้นปลิ้นตา เธอหน้าคว่ำ ดวงตาแดงก่ำกระพริบตาถี่ เริ่มสะอื้นเบา ๆ ไม่พอใจอะไรแน่ ๆ ปากจู๋อีกแล้ว บรรยากาศภายในรถดูอึมครึมไปทันที

แต่เขาคงไม่ทันได้สังเกต ยังคงใส่อารมณ์เต็มที่ ลอยหน้าลอยตาล้อเล่น...           

“ผมไม่ได้เริ่มก่อนนะ เอายังไงดีน้า...จะรับดีหรือไม่รับดีน้า” เขายังยิ้มสนุก แลบลิ้นล้อ...

“หึ๋ย! เธอมือหงิกแล้ว            

“ผมมีแฟนแล้วน้า ต่อจากนี้ไปอย่ามายุ่งกับผมอีก จะไปไหนก็ไปยายตัวยุ่ง!

“เห่ย! ฉันใจหายแวบ เขาพูดแรงไปหรือเปล่า?            

“ฮือ!! แง!! อนนี่ของหนู” ไป่ไป๋สะอื้นตัวโยน ฉันใจหายวาบ สิ่งที่กังวลน่าจะเกิดขึ้นแล้ว             

“ร้องไห้ทำไมคะ? เป็นอะไรไปคะ ใครทำอะไรให้? เล่นกันไม่ใช่เหรอ?” ฉันรีบโผเข้าไปกอด แต่เธอส่ายหน้าพยายามฝืนนิ่งหันหน้าออกนอกรถ แทนอึ้งนิ่ง...หันมาสบตาขมวดคิ้ว         

“แทน! ขอโทษน้องเดี๋ยวนี้นะ! ฉันตวาด เขาสูดลมหายใจลึกแล้วปล่อยลมยาว...             

“เดี๋ยวผมก็กลับบ้านแล้ว เป็นอะไรไปอีกล่ะ ล้อเล่นไม่ได้เลยหรือไง? ชักรำคาญแล้วนะ เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ เฮ้อ!” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบ่น เขาไม่เคยดุใครเลย

“แง้!! รำคาญ! หนูน่ารำคาญเหรอ?”  เธอแหกปากร้องลั่นแล้วฮึดสู้ หันจ้องหน้าเขา...         

“อ๋อ!..ใช่สิ หนูเอาแต่ใจ หนูนิสัยไม่ดี” เสียงสูงปรี๊ดเลย เงยหน้าน้ำตานอง จ้องหน้าเอาเรื่อง...              

“รำคาญเหรอ? เกะกะเหรอ?”

ฉันเกาหัว งานเข้าซะแล้ว หมวดจางเตือนแล้วแท้ ๆ              

“อนนี่ไม่รักหนูเลย แทนก็จะทิ้งหนูแล้วใช่มั้ย ? ฮือ ๆ ๆ” เธอปิดหน้าร้องไห้ออกมาเสียงดัง โธ่!เรื่องแค่นี้เอง...              

“รักสิ! รักมากด้วย รักมากกว่าแทนอีก” ฉันปลอบใจเอามือลูบหัว
            “หนูถามหน่อยหนูน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ? พอหนูบอกว่าจะไปเสิ่นหยางด้วย เขาก็ถอนตัวกลับบ้าน ถ้าหนูไม่ไปเขาจะไปไหม?” เธอหันมาถามน้ำเสียงน้อยใจ

เอ่อ..ฉันจะรู้ไหมรีบเมินหน้าหนี นี่!..ตกลงเธอโกรธเรื่องอะไรกันแน่ ถามกันเอาเองสิ เขานั่งอยู่ข้าง ๆ นี่ไง

แทนหันมาขมวดคิ้วมอง...             

“ถ้าคุณไม่ไป ผมจะไป!เอ้า! โง่จริง ตอบไปได้ไงวะ!

“นี่แน่ะ! ๆ ” เธอฟาดไปหลายที เขายกมือปัดป้อง ขมวดคิ้วมองสายตาเหมือนไม่เข้าใจ...

“ผมทำอะไรผิด คุณไม่ไปดูแลผมก็ไป ถ้าคุณไป ผมก็กลับบ้าน  ผมต่างหากที่เกะกะคุณ ผมไม่ใช่เหรอที่ทำให้คุณทุกข์ใจ? ผมทำทุกอย่างเพื่อคุณนะ ” เขาพูดอย่างอ่อนโยนน้ำเสียงปรกติ แต่สายตากังวล

“............” ไป่ไป๋ชะงัก อึกอักหันมาหาฉัน...             

“อนนี่! อยากไปกันสองคนใช่ไหม? พอเห็นเขาไปด้วยยิ้มแก้มฉีกเลย”  อ้าว! หวยมาออกที่ฉันซะงั้น คิดถึงหมวดจางจังเลยมาช่วยหน่อยสิ
          “เอ่อ! ฉันแค่อยากให้เขาไปด้วย เขาไม่ไปก็ช่างเขา เราก็ไปกันสองคนไง ดีมั้ย?” ฉันรีบบอกโผเข้าไปกอด ขอโทษนะร้องไห้ใหญ่เลย

“แต่เขาเอาหนูมาเป็นตัวต่อรอง หนูเกลียดเขา ตลอดเวลาเขาไม่เคยเห็นหนูอยู่ในสายตาเลย เขาเห็นหนูเป็นตัวอะไร?” เธอร้องไห้สะอื้น

แทนค่อย ๆ จับมือเธอมากุม         

“แล้วผมต้องทำยังไง ไม่เข้าใจคุณเลย? ผมอยู่ก็หาว่าจะแย่งแฟนคุณ ผมกลับคุณก็โกรธ ผมพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว อย่าโกรธเลยนะ” เขาหน้าเสีย /อ๋า! พูดอย่างนี้ แสดงว่ามีเรื่องกันมาก่อนนี่เอง/

“ก็หนูไปคุณก็ต้องไปด้วยสิ คุณจะไม่ไปดูแลหนูหรือไง? คุณแสดงอาการรังเกียจหนูได้ชัดมาก เราจบกันแค่นี้ก็ได้ เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ฮือฮือ!” เรื่องอะไรกันวะ งงไปหมดแล้ว เธอบอกว่า เราจบกันแต่มือตัวเองยังก็เกาะแขนเขาอยู่เลย             

“แทนคะ! เรื่องที่ฉันบอกว่า ชอบคุณ ฉันขอโทษนะ ยกเลิกเนอะ ทันมั้ย?” ฉันก็เสียใจ ถ้าต้องเลือกฉันเลือกน้องนะขอโทษด้วย          

“คุณไม่ต้องกังวลใจ ผมตามใจคุณอยู่แล้วครับ สิ่งที่คุณพยายามผมเห็นความตั้งใจนะครับ ขอโทษด้วยครับผมไม่กล้ารับไว้ แต่ผมจะจำมันเอาไว้เป็นกำลังใจ” เขายิ้มอ่อน ๆ ไม่เคยทำให้ต้องลำบากใจ ฉันไม่น่าเล่นกับความรู้สึกของเขาเลย ขอโทษอีกครั้งนะ 

ฉันหันไปหาไป่ไป๋...                 

“เห็นไหมล่ะ? ฉันบอกเลิกกับเขาไปแล้วนะ” ฉันดึงเธอมากอดหอมปลอบใจ ไม่อยากให้น้องเสียใจ

“ไป่ไป๋ครับ อดทนอีกนิดเดียว ออกจากป่าไปคุณก็จะไม่ได้เจอผมอีกแล้ว อย่าเกลียดผมเลยนะ ผมไม่ได้คิดจะแย่งนาตาลีไปจากคุณ ผมรักษาสัญญาเสมอ” เขาเองก็ทำตัวไม่ถูก อึกอักอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด

แอบแปลกใจที่เขาพูดเรื่องแย่งฉัน 2 ครั้งแล้ว นี่คงเป็นข้อตกลงของทั้งสองล่ะสิ เรื่องมันสับสนวุ่นวายจับต้นชนปลายไม่ถูก

ฉันมองออกไปที่รถยนต์ของซอน ทั้งคู่หยอกล้อหัวเราะกัน ส่วนรถยนต์ของฉัน ไฟท่วม...จะสำลักควันตายกันหมดแล้ว

“หนูเกลียดคุณ! หนูเกลียดคุณ! แล้วไม่ต้องมาเจอกันอีก อนนี่ไปกับเขาสองคนนะ ขอโทษนะคะ!เธอสะบัดหน้าเปิดประตูรถเดินไปหารถของซอน ทิ้งให้เราสองคนมองหน้ากัน

ในสายตาของแทนเต็มไปด้วยความกังวล นี่ไม่ใช่นิสัยของน้อง ลับหลังของแทนเธอจะพูดถึงเขาดีมาก ชอบทุกอย่างที่เขาทำ แต่วันนี้ทำไมถึงไม่พอใจอะไรเลย พยายามจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ เธอโกรธเรื่องอะไรกันแน่             

“แทนคะ! ฉันกลัวจังเลย น้องโกรธแล้ว” ฉันรู้สึกว่ามันจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น             

“ตกลงไป่ไป๋ต้องการอะไร? ผมไม่เข้าใจ โกรธเพราะผมไม่ไปด้วยเหรอ? หรือโกรธเพราะคุณบอกชอบผม? หรือโกรธเพราะผมล้อเล่น?” แทนนั่งกลอกตาไปมา

หมวดจางเดินเกาหัวมาเปิดประตูขึ้นนั่งข้างแทน แล้วหันมาถาม...           

“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมน้องร้องไห้?” เสียงของเธอดุ จ้องหน้าเขม็งคงคิดว่า ฉันแกล้งน้องล่ะสิ            

“วงแตกว่ะ! หมวดจาง เฮ้อ! คุณเตือนแล้วแท้ ๆ”       

                               ..............................................................................................

รถยนต์บุกตะลุยออกจากป่า เขานั่งขับรถยนต์เงียบไม่ปริปากพูดอะไร  ส่วนฉันก็ว้าวุ่นใจเป็นห่วงความรู้สึกของไป่ไป๋ สิ่งที่ฉันคิดพังทลายลงไป แอบมองใบหน้าของเขาแล้วก็ถอนหายใจ ฉันโลภมากไปเอง เราคงไม่มีวาสนาจะได้สร้างครอบครัวใหญ่ร่วมกัน 

หมวดจางหันมองแทนบ่อย ๆ เช่นกัน สุดท้ายเธอก็เอ่ยขึ้น...

“ไป่ไป๋โกรธคุณเหรอ แทน?”

“ผมไม่เข้าใจครับ ผมก็จะกลับแล้วมาทะเลาะกันแบบนี้ ผมไม่สบายใจเลย ผมไม่อยากให้เรื่องของเราจบไม่สวยแบบนี้ ผมต้องจำภาพที่เธอร้องไห้จากไปแบบนี้แล้วรู้สึกไม่ดีเลยครับ” ใบหน้าของเขาดูเหนื่อย เสียงก็ไม่ค่อยดี เขาดูเศร้าหรือเขาจะรักไป่ไป๋ แต่ฉันเข้ามาขวางทาง

เออ!.ใช่สิ ฉันไม่เคยคิดมุมนี้เลย...          

“ฉันเป็นส่วนเกินของคุณหรือเปล่าคะ? ฉันกลับมาแทรกกลางระหว่างคุณกับไป่ไป๋หรือเปล่า?” ฉันเอ่ยแทรก 

แทนหันขวับ...            

“นาตาลี! ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดครับ ผมก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร? ไป่ไป๋ ไม่ได้ผิดอะไรหรอก เธอรักคุณมากนะครับ อย่าโกรธน้องนะครับ ทั้งหมดผมผิดเอง” แทนคนเดิมที่ยังคอยห่วงใยพวกเรายอมรับผิดเองอีกแล้ว เขาเองก็อึดอัดอย่างเห็นได้ชัด

หมวดจางหันมา...            

“แทนคะ สมมุตินะคะ ถ้าให้คุณเลือกระหว่าง 2 คนนี้ คุณจะเลือกใคร?” จู่ ๆ หมวดจางถามอย่างนี้ต่อหน้าฉันได้ยังไง? คุณไม่มีทางได้คำตอบจากเขาหรอก 

แทนหันมาส่ายหัว...            

“ถามเรื่องจริงดีกว่า อย่าสมมุติเลย”             

“คุณชอบใครระหว่าง 2 คนนี้” หมวดจางซัดตรงๆ

“ห่ะ! ฉันใจเต้นโครมครามไม่อยากได้ยินคำตอบ ไม่ว่าแทนจะเลือกใคร ฉันเสียใจทั้งหมด 

เขาหันมามองหน้าของเธอ...

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา...ผมพยายามจะเป็นเพื่อนที่ดีในยามยากลำบาก สิ่งที่ผมหวังอันดับแรกขอให้ทั้งสองคนปลอดภัย ผมอยากเห็นทั้งสองคนรักกัน เล่นด้วยกันมีความสุขทุกวัน ผมไม่เคยเอาทั้งสองคนมาเปรียบเทียบกัน ทั้งคู่มีความหมายกับผมเท่ากัน” เขาถอนหายใจยาวอีกครั้ง สายตามองไกลเหมือนท้อแท้

หมวดจางพยักหน้าเบา ๆ...

“ฉันเข้าใจแล้ว คุณไม่ฉวยโอกาสและไม่เห็นแก่ได้ ยอมที่จะเป็นคนที่เดินจากไปเอง” เธอเข้าใจอะไร ฉันยังไม่เข้าใจเลย หันมองเขาสองคนสลับกันไปมาอย่างไม่เข้าใจจริง ๆ            

“ผมประเมินตัวเองแล้วว่าสมควรจะอยู่จุดไหน ผมอยากเก็บความทรงจำที่ดีเอาไว้ ผมโชคดีมากที่ทั้งสองคนเลือกมาขึ้นรถบรรทุกของผม ผมโชคดีมากที่มีโอกาสได้รู้จักคนอย่างนาตาลี พัค ผมโชคดีมากที่เจอคนมีความฝันอย่างไป่ไป๋ ผมโชคดีมากที่รถตกเหวได้มีโอกาสได้ดูแลทั้งสองคน ทั้งหมดมันเป็นความบริสุทธิ์ใจที่ผมส่งมอบให้เพื่อนทั้งสองคน กลับไปถึงบ้านแล้วผมจะคุยกับไป่ไป๋เอง เธอขี้งอนเดี๋ยวก็หาย” เขาทำให้ฉันพูดไม่ออก

หมวดจางกุมมือ แหงนหน้ามองเขา...

“แทน!…ฉันขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา และขอโทษที่ดึงคุณมาที่นี่ ทั้ง ๆ ที่คุณก็จะกลับไปพร้อมกับภาพที่สวยงามแล้วเชียว”

“ไม่เป็นไรครับ” เขาเงยหน้า มองกระจกส่องหลังมาที่ฉัน...

“นาตาลีครับ โรงละครแห่งความฝันของผมปิดลงไปแล้ว ขอบคุณนะครับที่มาเล่นสนุกด้วยกัน เติมเต็มเรื่องราวของบทละคร ผมจะไม่กลับมาเจอกับคุณอีกแล้ว ผมจะเก็บทุกความทรงจำเอาไว้” นี่คงเป็นเสียงสุดท้ายของเขาที่จะได้ยินสินะ เศร้าจัง!

            ฉันเคารพในการตัดสินใจของคุณ อะไรจะเกิดก็เกิด ฉันเองก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์นี้สิ้นสุดลงแบบนี้ อย่าให้พวกเราต้องกระจายกันไป แล้วไม่พูดกันอีกเลย

                                         .............................................................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,870 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,986 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท15 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม