
ตานตง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน
มุมมองสายตา จาง แอนนา
กรกฎาคม ค.ศ.2021
“แป๊น! แป๊น! ปี๊น! ปี๊น!”
ถนน 4 เลนแล่นตามกันเข้าเมืองตานตง ซอนเพ่งสายตาขับรถแซงทุกคัน หักหลบซ้ายขวารถยนต์พุ่งทะยานปานจรวด รถตู้ทึบสีดำสองคันไล่กวดมาติด ๆ
ถนนมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองตานตงยามหัวค่ำท้องถนนเต็มไปด้วยรถยนต์ เมืองท่องเที่ยวที่สว่างไสวทั้งกลางวันและกลางคืนกำลังระอุลุกเป็นไฟ
“เฟี้ยว...วว!” รถยนต์ 3 คันไล่ล่ากันด้วยความเร็วสูง...
“คุณจะสู้กับพวกมันในเมืองเหรอ?” ซอนหันมาถาม ท่าทางของซอนไม่มีความกลัวให้เห็นเลย เขาควบคุมรถอย่างชำนาญ สายตาดั่งเหยี่ยวกำลังจ้องเหยื่อ
“สู้ในเมืองดีกว่า ฉันรู้จักพวกมันดี ถ้าออกนอกเมืองเสร็จมันแน่ พวกมันเยอะกว่า อีกอย่างพวกมันไม่กล้าทำอะไรต่อหน้าคนมาก ๆ หรอก เป็นข่าวไม่ได้” ถ้าออกไปที่โล่งเดี๋ยวพวกมันเรียกชอปเปอร์ออกมาพวกเราก็แพ้แล้ว
หันกลับไปมองด้านหลัง นาตาลีนอนขดตัวบนเบาะ…
“สบายเลยนะคุณนาย” ฉันล้อเธอนอนยิ้ม
ซอนหันมามองแล้วส่งยิ้ม
“ดอกเตอร์ไม่เป็นอะไรนะครับ? ไฟท์ติ้ง ” ซอนน้ำเสียงมีแต่ความเป็นห่วง เขาเอ็นดูนาตาลีมาก ตามใจเธอทุกอย่าง ยิ่งนานวันนาตาลีก็ทำตัวเป็นน้องเล็กเข้าไปทุกที ซอนก็น่ารักมากปรับตัวเป็นพี่ชายที่ดีให้กับเธอ
“อื้อ!..ฉันชินแล้ว เจออย่างนี้ตลอด” เธอย่นจมูกตอบแล้วเมิน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ...
“อยู่กับผมปลอดภัยแน่”
แสงไฟถนนสาดเข้ามาเห็นแผลเป็นบนใบหน้าของเขาแล้วก็สะดุดใจ แต่ฉันตัดสินใจถูกแล้ว ทุกคนถึงมีชีวิตมาจนถึงวันนี้...ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ
“ฉันเชื่อใจคุณ!” นาตาลียิ้มตอบมา ฉันก็เชื่อเหมือนกับเธอ ซอนฝีมือไม่ธรรมดาโดนฝึกหนักมาจนเก่งไปรอบด้าน
เขากับแทนจะมีนิสัยเหมือน ๆ กันชอบนั่งฟังคนอื่นพูดมากกว่าจะเป็นคนพูดเอง ใจเย็น ใจกว้าง ฉันเคยเห็นเขายิงเครื่องบินแมงปอปีกหมุนล่วงมากับตา ฝีมือขนาดนี้คงจะต่อกรกับซีชานได้แน่
“เดี๋ยวนี้คุณไม่ท่องคาถาแล้วเหรอดอกเตอร์” สมัยก่อนพอตกใจกลัวทีไรท่องคาถาทุกที วันนี้นั่งรถหนีทหารหลายชั่วโมงแล้วยังนิ่ง
“เอ่อ!..มันหายแล้ว ฉันหายแล้วล่ะหมวดจาง” เธอดี๊ด๊าดีใจเด้งตัวลุกขึ้นนั่งจ้องมองถนน
ซอนยังโยกแซงรถยนต์ด้านหน้า เสาไฟฟ้าผ่านตาแวบ ๆ ๆ
“หรือมันยังหวาดเสียวไม่พอ” เธอมองไปนอกกระจก...
“แค่นี้จิ๊บ ๆ แทนขับรถโหดกว่านี้เยอะ เหยียบมิดไมล์ หัวใจจะวาย” สายตามองไปด้านหน้าแล้วหันไปมองด้านหลังรถ
“แทน! ขับรถเก่งมากนะ ฉันเคยเห็นคลิปของเขาที่ขับ BMW สีฟ้ากลางเมืองกุ้ยโจว ชั้นเซียนเลยแหละ” ฉันหันไปบอกซอน
“อ๋อ! จำได้ที่ดริฟต์กลางเมืองกุ้ยหยางใช่มะ? อือ!มันเก่งจริง” ซอนพยักหน้าเห็นด้วย
นาตาลีเบ้ปาก...
“เก่งสิ! เก่งมาก...พาฉันไปตกเขาที่เธอตามไปหาฉันกลางป่า จำไม่ได้เหรอ? ฉันทะเลาะกับเขากลางป่าจะฆ่ากันตาย โคตรเกลียดเขาเลย สุดท้ายไม่รอด เขาเอาใจเก่งมาก” เธอพูดแล้วหัวเราะเบา ๆ อยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ยังมีอารมณ์ขัน ซอนหัวเราะชอบใจ แต่ฉันรู้สึกผิดในใจกับอดีตที่ผ่านมา
ความเร็วท้านรก...ตึกที่มองเห็นเล็ก ๆ จากระยะไกลเริ่มสูงตระการตาเมื่อรถเข้ามาใกล้ แสงไฟประดับต้อนรับงานเทศกาลฤดูร้อนหรูหราราคาแพง รถยนต์ด้านหน้าชะลอความเร็วลง ซอนยังขับซิกแซ็กหลบซ้ายขวาแซงขึ้นไปเรื่อย
ฉันหันกลับไปดูด้านหลังเป็นระยะ พวกมันขับตามมา แต่จู่ ๆ รถคันหนึ่งของมันก็หันหัวกลับ เหลือตามพวกเรามาแค่คันเดียว
“เลี้ยวซ้ายเข้าวงเวียนอนุสาวรีย์ประธานเหมา แล้ววิ่งเลยไปริมแม่น้ำเมื่อเช้า ซอนจำทางได้มั้ย?” ฉันชี้ข้ามไปอีกฝั่งของวงเวียนให้ซอนเลี้ยวไปทางตะวันออก
“บรื้น...นน!!” รถยนต์ของเราเลาะเลนจนออกมานอกเมืองอีกครั้ง วนกลับมาริมแม่น้ำยาลู่อีกครั้ง
รถพวกนั้นตามมาติดๆ ซอนขับมาจนถึงด่านหู่ซาน ถนนช่วงนี้ปลอดโปร่งสองข้างทางห่างผู้คน รถตู้ดำเร่งความเร็วขึ้นขนาบข้าง
“ซอนระวังขวา! มันขึ้นมาแล้ว!”
ซอนสายตาจ้องเขม็งไปที่รถตู้ ความเร็วรถของเราสู้มันไม่ได้ ฉันรอรับแรงกระแทก
“นาตาลีระวัง!”
“ตึง!!!” รถยนต์ของเราผวาวูบ
“เอี๊ยด...ดด!!...อ้าด...ดด!!” รถเสียจังหวะ ซอนปล้ำกับพวงมาลัย พยายามประคองดึงเข้าเลน
“ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!” ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เราหัวสั่นหัวคลอนจากแรงกระแทก ฉันยังคิดหาทางไม่ได้ จะสลัดพวกมันยังไง?
จู่ๆ....
“วู้ว!!!” เสียงลมดังเข้ามาจากด้านหลัง
“เอี๊ยด…ดดด!!” ใจหายว้าบ...กับเสียงเบรกรถยนต์โหยหวนดังสนั่น รถแวนดำกระชากหักหัวเลี้ยวลงถนนรอง ฉันโกรธมากเหลืออดกับความดื้อของนาตาลี ด่าสักทีเถอะ...
“เปิดกระจกทำไม? มันอันตรายปิดเดี๋ยวนี้!” อยากจับมัดมือ
เธอนั่งยิ้มแป้นทำหน้าล้อเลียน ...
“ได้ผลจริงด้วย! ฉันเอาไอ้นี่เล็งไปที่คนขับ” ว่าแล้วเธอก็ยิ้มหน้าบาน ชูปากกาเลเซอร์อันเล็กที่ซอนซื้อให้ ฉันอึ้งพูดไม่ออก
“แป๊น! แป๊น! ปี๊น! ปี๊น!” ซอนทุบพวงมาลัยด้วยความสะใจ ...
“สุดยอดเลย! ดอกเตอร์” เขาหัวเราะร่า
“คิดได้ไงวะ? เด็กดื้อ!” ฉันรู้สึกผิดที่ไปโกรธเธอ
“ขึ้นเหนือไปฉางชุน ซอนกลับไปที่สี่แยกแล้วเลี้ยวขวา”ฉันบอกแล้วขยับตัวนั่งท่าสบาย
“แปลกจัง!..แล้วอีกคันมันไปไหนแล้ว” ซอนถาม
“มันเลี้ยวกลับไป ก่อนที่เราจะผ่านเมือง” นาตาลีตอบมา
ฉันมีลางสังหรณ์ว่า มันต้องมีเรื่องอื่น...
“ไม่ต้องแปลกใจหรอก มันคงไปตามล่าแทนกับไป่ไป๋น่ะสิ! โทรศัพท์เปิดแล้วนี่” ฉันบอกตามประสบการณ์ที่เคยทำงานกับพวกนี้มา พวกมันคงรู้ว่า แทนหนีได้แล้ว
ฉันหันไปมองด้านหลัง แสงไฟหน้ารถไล่จี้มา...
“พวกมันมาอีกแล้ว ทางเดียวที่จะรอดไปได้ต้องสลัดให้หลุด”
“เราต้องไปทางไหน?” ซอนกดคันเร่งสุด
“เราต้องหนีขึ้นเหนือไปฉางชุน มณฑลจี้หลิน”
นาตาลีขยับเข้ามา...
“จะบ้าเหรอหมวดจาง ? พูดอย่างกับซอนบ้านอยู่แถวนี้ เหนื่อยหน่อยนะมีเมียอย่างนี้” เธอจิ้มหน้าฉันแล้วมองไปที่ซอน
เขายกมือโอเคแล้วถามกลับมา
“ฉางชุน ไปอีกไกลมั้ย?” เขาหันมาถาม ฉันขยับนั่งหันมองหน้ารถ
“ไม่ไกล 300 กว่ากิโลเอง”
นาตาลีโวยมาจากด้านหลัง...
“โอ้โห! ไม่ไกลบ้านป้าคุณสิ ตั้ง 300 กิโล! ทางบนภูเขาด้วย” เธอทิ้งตัวนอน ซอนหันมา...
“สี่แยกไต้ผิงอยู่ทางไหน?”
ฉันหันมองข้างทาง เราขับรถวนกลับมา เพิ่งผ่านหมู่บ้านตงฟาน ที่เอาเด็กหญิงเกาหลีเหนือมาฝากไว้ ผ่านพระราชวังกู้กงเสิ่นหยาง
“ซอน! เดี๋ยวจะถึงสีแยกที่เราเลี้ยวซ้ายเข้าเมืองตานตง ตอนโดนมันไล่ครั้งแรกจำได้ไหม?” ฉันบอกแล้วหันไปมองด้านหลัง
ซอนพยักหน้า ...
“อยู่ข้างหน้านี่ ตรงไปเข้าเมืองเสิ่นหยาง เลี้ยวขวาไปฉางชุน” เขาชี้มือไปข้างหน้า ทวนอย่างแม่นยำ
“คุณเลี้ยวขวาที่แยกหน้า ระวังด้วยนะอีกไม่ไกลแล้ว” ฉันหันกลับมองไปข้างหลัง นาตาลีนอนยิ้มไม่สนใจใคร
“คุณจะไปสี่แยกไต้ผิงทำไม?”ฉันหันไปถาม
“ไม่มีอะไรหรอก?”
“อ๋อ!lเข้าใจแล้ว” แต่พอหันกลับมามองด้านหน้า หัวใจเกือบวาย
“แป๊น!!!” จู่จู่..รถตำรวจพุ่งพรวดออกจากข้างทาง เสียงแตรดังเสียววาบลงไปถึงท้องน้อย
“เหวอ!” รถเอียงซ้ายวูบ หน้ารถเฉียดท้ายรถตำรวจเส้นยาแดงผ่าแปด พวกมันสนธิกำลังกับตำรวจแล้ว
“รัดเข็มขัดด้วยนะทุกคน! ” ซอนสั่งเสียงดัง
นาตาลีลุกนั่งรัดเข็มขัดอย่างเร็ว...
“แทนกับไป่ไป๋ คงหาทางกันได้นะ ขอให้ปลอดภัยทีเถอะ” เธอหันมองรถตำรวจที่ไล่ตามหลังมา
“รถยนต์ทะเบียน 6134 เสิ่นหยาง กรุณาจอดรถด้วย!” เสียงจากรถตำรวจ
“บรื้น...นน!!” ซอนไม่สนใจ
“ซอน! พ้นโค้งข้างหน้านี่ถึงสี่แยกเข้าเมืองตานตงแล้ว คุณต้องเลี้ยวขวานะ” ฉันกังวลใจ เรามีอาวุธจำกัด ต้องหนีให้หลุด
“บรื้น...นน!! หวอ! หวอ! หวอ!” รถตู้ทหารแล่นขึ้นมาประกบคู่กับรถไซเรนของตำรวจไล่ต้อนพวกเรา
“เอี๊ยด…ดดด!!”...ล้อกัดถนนเสียวท้อง ซอนหักพวงมาลัยแซงรถบรรทุกไม้ แล่นเลาะโค้งด้วยความเร็วสูง
“ซอน! ด่านตำรวจที่สี่แยก!” ฉันร้องเสียงหลง อ้าปากค้างเมื่อเห็นรถตำรวจเปิดไซเรนวับวาบนับสิบคัน ปิดสี่แยก
“ก้มต่ำ ๆ ไว้นะ!” รถยนต์พุ่งเข้าใส่ด่านไฟแดงวับวาบ เจ้าหน้าที่หน้าด่านกระจายกำลัง เล็งปืนเข้ามาที่รถยนต์ของเรา
อีกประมาณ 70 เมตร...
“6134 เสิ่นหยาง กรุณาจอด! ไม่เช่นนั้นคุณจะถูกยิง! กรุณาจอด!” เจ้าหน้าที่จากด่านประกาศเตือน
นาตาลีโผล่หัวมาจากด้านหลัง...
“เอาไงดีคะ?”
อีก 50 เมตรจะถึงด่าน
“นาตาลีช่วยผมหน่อย คุณด้วย!” เขาโยนเลเซอร์มาให้
“เตือนครั้งสุดท้าย หยุดรถเดี๋ยวนี้” เสียงกร้าวจากด่าน เจ้าหน้าที่ยกปืนสั้นเตรียมพร้อม
“ยิงเลย ตอนนี้แหละ!” ซอนสั่ง ฉันและนาตาลียิงแสงเลเซอร์ไปที่ตามลำตัวของเจ้าหน้าที่
“เปรี้ยง” เขายิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด
เสียงปืนและแสงเลเซอร์ที่วิ่งไต่ตามเสื้อผ้าของเจ้าหน้าที่ ทำให้พวกเขาวิ่งหนีตาย ด่านแตกกระเจิงวิ่งไปหลบข้างรถยนต์
“โครม!!” รถพุ่งเข้าชนแผงกั้นกระเด็น แล้วเลี้ยวขวา....
“เอี๊ยด!...ดด!” ใบหน้าของฉันแนบกระจกข้างด้วยแรงเหวี่ยง
“ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!” หางตาเห็นแสงปืน ก่อนที่รถยนต์ของเราจะทะยานจากมา
“ซอน! พวกนั้นกำลังตามมาแล้ว” นาตาลีหันมองแล้วรายงานหลัง
“หวอ!หวอ!หวอ!” ฝูงรถไซเรนวิ่งตามมาเป็นขบวน สองข้างทางเริ่มไร้แสงไฟ เส้นทางขึ้นทิศเหนือบนป่าโค้งสลับซับซ้อน
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!” สิ่งที่ฉันกังวลลอยลำมาแล้ว
“อีกไกลมั้ยครับ กว่าจะถึงสี่แยกไต้ผิง?” ซอนหันมาถาม แล้วหยิบโทรศัพท์
“ก่อนขึ้นภูเขาค่ะ คุณเห็นแสงไฟถนนข้างหน้าโน้นไหมคะ?” ฉันชี้ไปข้างหน้า เลยโค้งถนนมีกลุ่มไฟสว่างท่ามกลางขุนเขาที่มืดมิด
“ไอ้สี! กูจะถึงแล้ว มึงบอกข่านเตรียมตัวด้วย” ซอนกดวางสายโทรศัพท์แล้วกดคันเร่ง
“ไฟที่เห็นนั่นแหละสี่แยกไต้ผิง ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเข้ากองพันที่ 8 ขับตรงขึ้นไปข้ามภูเขาลูกหน้าก็ถึงฉางชุนแล้ว ถ้าเลี้ยวขวาจะไปเมืองเหยียนเปี่ยนรอยต่อกับเกาหลีเหนือ”
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!” ช็อปเปอร์ลอยลำดักหน้า พลปืนขยับเล็งลงมา
ฉันหันกลับมองด้านหลัง รถทหารสีดำขับแซงรถสีขาวของตำรวจขึ้นมา
“ระวัง! ขวา!” ซอนร้องลั่น นาตาลีทิ้งตัวลงนอนกับเบาะ
“โครม! ตึง!” รถของเราเสียหลักแฉลบ รถตำรวจเข้าประกบท้าย รถทหารทางขวากำลังแซง
ฉันกระโดดจากเบาะหน้าข้ามมาหานาตาลี แล้วรีบเปิดกระจกก่อนที่รถคันดำจะแซงขึ้น...
“เปรี้ยง! เปรี้ยง!!” ฉันกดกระสุนใส่ล้อรถก่อนที่มันจะแซงพ้น
“ปุ! ปุ!” ยางรถยนต์แตกรถยนต์เสียหลักแถเข้ามา
“เอี๊ยด!...ดด!” ซอนหักหนีได้เฉียดฉิว
“หวอ!หวอ!หวอ!” ไซเรนวับวาบขับประกบหลังมาอีก 4 คัน กำลังเร่งความเร็วจี้ขึ้นมา
“ซอน! ระวังด้วยช็อปเปอร์มันกำลังเล็งเราอยู่” ฉันชี้ไปด้านหน้า มันขยับถอยไปเรื่อย
“มันไม่กล้ายิงตอนนี้หรอก พวกมันตามมาเป็นขบวน” ซอนไม่กังวล
“ข้างหน้านั่นไง แยกไต้ผิง” ฉันร้องบอก
“แวบ! แวบ!” ซอนเปิดสัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน แล้วเปิดไฟสูงพร้อมกดแตร
“แป๊น! แป๊น! แป๊น!!”
“หวอ!หวอ!หวอ!” รถตำรวจขับขึ้นประกบด้านขวา
เขาหักหัวรถกระแทก...
“โครม!”
“เอี๊ยด!” รถทางซ้ายเข้าเสียบ
ซอนหักซ้ายกระแทก...
“ตึง!”
“บรื้น...นน!!” รถทั้ง 5 คัน แล่นฝ่ามฤตยูเข้าหาสี่แยกด้วยความเร็วสูงสุด
“ครืด! ครืด! ครืด!” รถตำรวจด้านขวา 3 คันพยายามเบียดให้เราลงข้างทาง ซอนกระแทกสู้ พวกเรานั่งหัวสั่นหัวคลอนไปตามจังหวะ
ทันใดนั้น...
ฉันขนหัวลุกซู่ จิตตกไปกองอยู่ปลายเท้า ช็อกตาเบิกค้าง กอดนาตาลีแน่น
“ซอน!”
“บรื้น...นน!!” รถบรรทุกลากตู้คอนเทนเนอร์แล่นลงเนินมาจากด้านขวา กินเลนเข้ามาเรื่อย ๆ ปิดถนนเหลือเลนซ้ายสุด รูนิดเดียว
“ไม่ทันแล้วซอน!!!” ฉันเสียวสุดติ่ง ร้องเสียงหลง
“ตึง!!!!” ซอนชิงเบียดกับรถฉลามบกพุ่งเบียด กระจกข้างหักสะบั้น ไหลคู่กันเข้าหาตู้คอนเทนเนอร์
เขาเปิดไฟสูงใส่แล้วพุ่งทะยานเข้าไป
“ฟู้ว!!!”
“.............” หัวใจจะหยุดเต้นเมื่อรถเข้าใกล้
อีก 50 เมตร
“อึ๋ย! สู้มันให้ได้นะ” ฉันก็ลุ้นตาเหลือก รถสองคันเบียดเพื่อเข้าช่องแคบรูเดียวกัน
“ครืด! ครืด! ครืด!” แต่สู้แรงของมันไม่ได้ รถยนต์ของเรากำลังจะเสียหลัก
อีก 20 เมตรสุดท้าย...
ฉันตั้งสติ เปิดกระจกซัดปืนสั้นใส่...
“ปัง! ปัง!”
“เอี๊ยด...ดด!!!” เสียงเบรกรถยนต์สนั่นถนน
“ฟึด…ดด!!!” รถยนต์ของเราผ่านหน้ารถบรรทุกอย่างเฉียดฉิว
“แป๊น..!” เสียงแตรจากสิบล้อ
“แป๊น...นน!!!!!” ซอนบีบแตรรับยาว ยื่นมือออกไปโบก
“บรื้น...นน!!” เหยียบคันเร่งส่งรถทะยานต่อไป
“เยี่ยม!” ยิ่งเห็นซอนในภาพนี้ ยิ่งเชื่อว่าเขาเก่งจริง ทหารรับจ้างสุดยอดจริง ๆ
แต่ปัญหายังไม่หมด...
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!” ไอ้แมงปอตัวร้ายยังบินนำอยู่ด้านหน้า
ฉันหันกลับไปมอง คนขับรถบรรทุกกระโดดลงจากรถที่จอดขวางถนนเข้าไปคุยกับตำรวจ ซอนยิ้มเหลือบมองกระจกในเก๋ง
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!” ช็อปเปอร์ค่อย ๆ บินต่ำลงมาดักหน้า
“เอาไงต่อ ซอน!” นาตาลีร้องถาม
“ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว” จะบ้าเหรอซอน ? ทหารตั้งปืนเล็งอยู่บนนั้น ฉันไม่เข้าใจทำไมใจเย็นอย่างนี้ เขาปล่อยรถไหลไปเรื่อย ๆ
“นาตาลีนับ 1-10! ” เขาสั่งเสียงดัง ยายดอกเตอร์งง ฉันก็งง หันมองหน้ากัน
“ฮานา!”
“ทุล!”
“เซ็ท!”
“ฟุ่บ...บบ!!” จรวดพุ่งออกมาจากพ่มไม้ข้างทางในระยะประชิด ช็อปเปอร์หมดทางหนี
“บรึ้ม!!!!!” ระเบิดตูมกลางอากาศ
เกิดอะไรขึ้น?...
“แป๊น! แป๊น! แป๊น!!” เขาบีบแตรสนั่น
“วาบ!” ทันใดนั้นแสงไฟฉายแวบตอบรับมาจากข้างทาง
“แป๊น! แป๊น! แป๊น!!” ซอนกดแตรอีกครั้งยิ้มหน้าบาน
นาตาลีเสนอหน้ามา ตบไหล่ซอนเบา ๆ...
“สุดยอด! ฉันเกือบท่องคาถาแล้ว ฉันคงไว้ใจคุณมากกว่าแทนล่ะมั้งเลยไม่กลัว รู้สึกสนุก ลุ้นมันส์ดี”
ฉันส่ายหัวยิ้มให้กับความกล้าที่เพิ่มมากขึ้นของเธอ เดี๋ยวนี้ไม่กลัวเลยนะใจถึงขึ้นเยอะ พวกนั้นเป็นใครกันที่มาช่วยเรา อาจจะเป็นพวกลูกน้องของเขาก็ได้ ฮีโร่ในเงามืดจะเป็นใครก็ตาม ขอคุณมาก
............................................................................................