หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 4 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 23 ก.พ. 2567 |
ฉางชุน มณฑลจี้หลิน
มุมมองสายตา นาตาลี
กรกฎาคม ค.ศ.2021
“แทน...นน! ตื่นสิ แทนตื่น! แทน…!” หัวใจของฉันสั่นระรัว กลัวแทบขาดใจ
ทำไมโชคร้ายเช่นนี้ เขายังไม่ได้พักอย่างสบายใจเลย ตลอดเวลาเขาต้องตะลอนลำบากมาช่วยฉัน ทั้งที่เขาไม่อยู่ในฐานะที่จะช่วยใครได้เลย สุดท้ายก็ต้องมาเจ็บตัวอีก
“แทน! อย่าทิ้งหนูไปนะ ลืมตาสิคะ หนูขอโทษ!” ไป่ไป๋ร้องไห้น้ำตานองหน้าเขย่าตัวของเขาใบหน้าสะบัด ร่างกายสูงใหญ่นอนเหยียดยาวหายใจรวยรินไร้การต้านทาน
เสียงทหารด้านนอกตะโกนขู่...
“มอบตัวนาตาลีมา นี่เป็นคำเตือนสุดท้าย ผมจะนับ 1-10 ถ้าพวกแกยังไม่ให้ความร่วมมือ ระเบิดลงกลางบ้านแน่” ทหารกระจายกำลังเข้ามาปิดปากซอย
“ฮือฮือ!” เอาตัวฉันไปเถอะจะได้จบเรื่องกัน พอได้แล้ว...ทุกคนเสี่ยงตายเพื่อฉันมามากแล้ว ถ้ามันได้ตัวฉันไป แทนของฉันจะได้ไปหาหมอ เขาเหนื่อยมามากแล้ว ฉันคิดได้แค่นี้...
“ยอมแล้ว! ฉันยอมแล้ว” ฉันก้าวโซเซออกประตูได้สองสามก้าว
“โอ๊ะ!” โดนฉุดจนล้มก้นจ้ำกับพื้น แล้วถูกลากกลับเข้ามา
“ถ้าคุณออกไปมันจะฆ่าพวกเราทั้งหมด”หมวดจางหน้าเครียด ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้กดดันจิตใจให้ตัดสินใจลำบาก
“1” เสียงนายทหารหมวกแดงเริ่มนับ ใจเริ่มระทึก อีกใจก็เป็นห่วงแทน เขาเลือดไหลออกมาก ยังนอนไม่ได้สติเลย
ฉันขยับหาหมวดจาง...
“แล้วแทนล่ะ! ถ้าฉันไม่ออกไป เขาจะทำยังไงเลือดออกมากเลยนะ ฮือฮือ?” ความอัดอั้นบีบหัวใจ ก้มหน้าลงกับพื้นร้องไห้อย่างสิ้นหวัง ถ้าต้องปล่อยให้เขาตายไปต่อหน้าแบบนี้ ฉันจะอยู่ต่อไปได้ยังไง? เราเพิ่งจะหัวเราะกันไปเมื่อกี๊นี้เอง
“ฮือ!ฮือ!ฮือ! แทนตายไม่ได้ จิตใจของเขาสะอาดมาก เขาช่วยฉันมาตลอด ฉันต้องช่วยเขาบ้างสิ ทำยังไงดีล่ะหมวดจาง? ทำไงดีล่ะซอน?” ฉันตัดสินใจไม่ถูกแล้ว ก้มหน้าแทบเท้าหมวดจางร้องไห้อ้อนวอน
“2” ฉันสะดุ้งโหยง ใจร้อนรนไปหมด ถ้ามันยิงมาอีกครั้งจะทำยังไง? แทนลุกหนีไม่ได้แล้วนะ ร้อนรนไปหมดแล้ว จะทำยังไง?
“หนูขอโทษ หนูจะไม่ดื้อแล้ว ฮือฮือ!” เสียงไป่ไป๋ร้องไห้คร่ำครวญ ฉันยิ่งจะขาดใจ
หมวดจางขยับไปหาแทน...
“พวกมันแค่ขู่ ไม่กล้ายิงหรอก มันต้องการตัวคุณ” เธอขยับเสื้อรองหัวเลื่อนลงมาที่คอให้หน้าเขาแหงน
“ฮือฮือ!” ไป่ไป๋ร้องไห้สะอึกสะอื้นบาดลึกลงในใจ
“3” เสียงทหารยังคงหลอกหลอน
ฉันล้มตัวลงไปกอดเขา แนบหูฟังเสียงหัวใจเต้น ไม่สนใจกับเลือดแดงสดที่เลอะใบหน้าของตัวเอง
“อนนี่! แทนต้องไม่เป็นอะไรนะ? อนนี่เก่งต้องรักษาเขาให้ได้นะ เราจะได้กลับบ้านแล้ว” เธอเริ่มเพ้อ ลูบใบหน้าน้ำตานอง
“4” โอย...จะทำยังไงดี ๆ ๆ หัวใจแทบจะแตกแล้ว คิดอะไรไม่ออก
“ต้องสละ!” หมวดจางกัดฟันจ้องดวงตาของฉันแล้วส่ายหน้า
“ไม่ได้นะ! ปล่อยแทนตายไม่ได้นะ” ฉันไม่ยอมให้คนใจดีอย่างนี้ต้องจากไป ฉันจะช่วย...
“พวกคุณพาไป่ไป๋ หนีไปข้างหลังกันก่อน ปล่อยฉันกับแทนไว้ที่นี่ ฉันจะไม่ทิ้งเขาไว้คนเดียว เขาทำเพื่อฉันมามากแล้ว ขอร้องนะ! คุณไปกันเถอะ ไปได้เลย”
“.........” หมวดจางส่ายหน้าอีกแล้ว ฉันต้องทำยังไง? ปล่อยไว้แบบนี้ก็ไม่ได้ เอาฉันแลกกับชีวิตของแทนสิ
“พั่บ!พั่บ!พั่บ!” เสียงเฮลิคอปเตอร์ลงจอดกลางลานกว้าง ฝุ่นคลุ้งตลบอบอวล
ฉันรีบลุกแอบมอง หมวดจางตามมาติด ๆ ทหารข้างนอกวิ่งออกมารวมตัวล้อมเป็นวงกลมกลางลานหิมะ ต้อนรับนายทหารตัวสูงหน้าเหี้ยมแผลเป็นยาวบนใบหน้า คงเป็นประกาศนียบัตรนักรบของเขา
“ใครน่ะ! หมวดจาง?”
“ซีชาน! ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ” หมวดจางจ้องตาไม่กะพริบแววตาวิตกกังวล
นายทหารหมวกแดงที่นับเลข วิ่งเข้าไปกระซิบกระซาบ แล้วขยับเดินมาด้วยกัน บรรยากาศตึงเครียด...
“8”
“โหย..นับขี้โกงนี่หว่า พึ่งจะนับถึง 4 เอง” หมวดจางบ่นพึมพำ
หัวของฉันแทบระเบิด ทำอย่างไรดีจะถึงเส้นตายอยู่แล้ว? ทำไง ๆ ยอมไปเลยก็แล้วกัน จะได้พาแทนไปหาหมอ หันมองหาซอนหวังจะให้เขาเป็นคนตัดสินใจ
“ซอน! ไปไหนเงียบเลย? ซอน!เอายังไงดีคะ?” ฉันหันมองหา เขานั่งยิ้มหน้าแห้ง พิงผนังอย่างอ่อนแรง พอได้สังเกตก็ใจหายวาบ...
“เลือดออกนี่!” ฉันพุ่งเข้าไปหา
ซอน! โดนสะเก็ดไม้ร่วงใส่เป็นแผลเหวอะด้านหลัง เลือดไหลนอง เขาก็มาเจ็บอีกคน แทนก็ยังแน่นิ่งไม่ได้สติ ทำยังไงดี? ในหัวของฉันมีแต่เครื่องหมายคำถาม ที่หาคำตอบไม่ได้
“ฮือฮือ! หนูขอโทษ ลืมตาสิ! ” เสียงร้องไห้ของไป่ไป๋ เร่งให้ฉันต้องรีบตัดสินใจ
“ซอนเจ็บมากมั้ยคะ?” หมวดจางหันมาถาม“ยังไหว!”
“ฮือฮือ! หนูขอโทษ หนูไม่ดีเอง หนูเลวเอง ทุกคนต้องมาเจ็บตัวกันหมดเลย” ไป่ไป๋ร้องไห้เสียขวัญเขย่าร่างไร้ความรู้สึกของเขาจนตัวสั่น
ฉันหันไปเกาะขาหมวดจาง...
“คุณพาซอนกับไป่ไป๋ หนีไปก่อน ฉันจะยอมมอบตัวเอง ฉันกลัวว่าแทนจะเป็นอะไรไป ฉันรอไม่ได้แล้ว” ฉันอ้อนวอนเธอส่ายหน้า
“อย่ายอมนะครับ!ถ้าคุณกลับไปเท่ากับเจ้าแทนเสียสละทุกอย่างโดยเปล่าประโยชน์นะครับคุณต้องรอด!เจ้าแทนปรารถนาให้คุณรอด” เขารั้งมือ สายตาอ้อนวอน
“ 9 ” สิ้นเสียงนับ
“พรึบพรับ!” เสียงทหารขยับปืนเตรียมยิงกัน
“แทนจะมาตายอย่างนี้ไม่ได้ ขอให้ฉันได้ตอบแทนเขาบ้างสิ ตั้งแต่ได้รู้จักกันมาเขามีแต่ขาดทุนและเสียเปรียบ คืนชีวิตให้เขาเถอะ อย่าเอาชีวิตของขาเลย ฉันยอมตายเพื่อเขาได้ ฉันทำได้..” ฉันรอไม่ได้อีกแล้ว ชูมือเดินออกไปที่โล่ง ทางเดียวที่จะช่วยแทนไว้ได้...ฉันต้องมอบตัว
“อย่า!” ซอนร้องเสียงดัง ได้แต่ยื่นมือห้าม
“อย่า!” หมวดจางวิ่งมากระโดดโถมตัวตะครุบลงพื้นกลิ้งไปด้วยกัน
“ตรึ่ด!!ตรึ่ด!ตรึ่ด!!ตรึ่ด!!” ลูกกระสุนเฉี่ยวลำตัว
“พวกมันยิงมั่ว อย่าเสี่ยง” เธอลากเข้ามาหลบมุม
“บุกเข้าไป!” นายทหารสั่งให้ลูกน้องรุกคืบเข้ามา ฉันตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย
“ปัง!” เสียงปืนดังแว่วจากที่ไกล ๆ
“อุ่บ!” จู่จู่..นายทหารหมวกแดงก็ล้มฟุบคาที่ ต่อหน้าต่อตาซีชาน
ในห้วงของการตกตะลึงของทุกคน...
“บรื้น…นน!” เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจากปากทางเข้าหมู่บ้าน
“เอี๊ยด...ดด!” รถตู้สีดำ 2 คันวิ่งฝุ่นตลบเข้ามา
“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!!” ชายชุดดำกระโดดจากรถยนต์แล้ววิ่งเข้าใส่กลุ่มทหารอย่างไม่ลังเล กลุ่มทหารโดนลูกปืนร่วงเป็นใบไม้ คนที่เหลือกระจายเป็นผึ้งแตกรังวิ่งเข้าหาที่กำบัง
“ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ตรึ่ด!!ตรึ่ด!!” เสียงดังหูดับตับไหม้ กลิ่นกำมะถันฉุนจมูก
“???????” ฉันสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ชายชุดดำประมาณ 10 กว่าคน กระโดดอย่างคล่องแคล่วท่าทางคุ้นตา กระจายตัวโอบล้อมทหารแล้วกระหน่ำยิงใส่อย่างบ้าคลั่ง
“วี๊ด!...ดดด!” ใบพัดเฮลิคอปเตอร์เริ่มหมุน มันกำลังเพิ่มความเร็วเตรียมบินหนี ซีชานขยับหมวกเดินเข้าไป
“ปัง!” เสียงปืนระยะไกลแว่วดังขึ้นอีกนัด
“โบ๊ละ!” เสียงหัวกะโหลกแตกเหมือนคนผ่าลูกมะพร้าว คราวนี้นักบินคอพับคาเก้าอี้
“เฮ้ย!” ซีชานผงะถอยหลัง แล้ววิ่งหลบไปแอบข้างรั้ว ส่ายสายตามองหาต้นเสียง
ฉันหันไปหาหมวดจาง ...
“พวกนี้เป็นใครกัน เขามาช่วยเราเหรอ?” ฉันมองอย่างใจจดจ่อ
“แม่นมาก!” เธอเบ้ปากส่ายหน้าเป็นคำตอบ ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ฉันมีความหวังขึ้นมาเมื่อเห็นว่า พวกนั้นมาไล่ยิงทหารจีน อย่างน้อยเราก็เป็นพวกเดียวกัน
หันมองเลยไปทางซอนยิ้มกว้างดวงตาใส พยักหน้าเบา ๆ ฉันเข้าใจแล้ว...พวกลูกน้องของซอนนี่เอง กำลังใจของฉันดีขึ้นมาก พวกนี้เก่งมาก สบายใจได้ เคยเห็นฝีมือมาแล้ว
หันมองแทนแล้วลุกโผเข้าหา คิดในใจ...เรารอดแล้ว อดทนไว้นะ เขานอนหลับตานิ่งบนตักของไป่ไป๋...
“แทน!.ต้องไม่เป็นอะไรนะ เราจะได้กลับบ้านแล้ว ลูกน้องซอนมาช่วยแล้ว” ฉันแนบใบหน้าบนอกของเขา เสียงหัวใจแผ่วลงทุกที เห็นเลือดแดงไหลจากหัวของคนรักแล้ว เหมือนมันไหลออกจากอกของฉัน
“ตรึ่ด…ดด!” เสียงปืนด้านนอกยังโต้ตอบกัน
“โฮ่ง!” ฉันขมวดคิ้ว ฟังไม่ผิดแน่ ๆ...เสียงหมา
ลุกขึ้นไปแอบดูข้างหมวดจาง ฝ่ายทหารล้มตายทีละคน ถอยร่นหนีขึ้นบนภูเขา
“นั่นไง!” เธอชี้ไปกลางลาน เจ้าของเสียงเห่าวิ่งผ่านลานกว้างไปทางรถหุ้มเกราะคันที่อยู่ทางซ้ายมือไกลสุด
“เอี๊ยดอ๊าด!” รถหุ้มเกราะกำลังหันกระบอกปืนไปที่รถตู้ดำ
“โฮ่ง!” มันเห่าอีกครั้ง หลังสิ้นเสียงเจ้าหมา...
“บรึ้ม...มม!” รถหุ้มเกราะสะเทือนไฟท่วม พลขับหนีตายปีนออกมา
“เปรี้ยง!” มีคนรอยิงอยู่แล้ว
เจ้าหมาวิ่งย้อนกลับเข้าไปในหมู่บ้าน สักพักก็วิ่งออกมาที่ลาน
“ตรึ่ด!!ตรึ่ด!!ตรึ่ด!!ตรึ่ด!!” ทหารจีนเล็งยิงไปที่มัน เพื่อป้องกันรถหุ้มเกราะ แต่ด้วยความรวดเร็ว มันมุดซอกนี้ออกซอกโน้น เดี๋ยวโผล่ตรงนี้ อีกทีก็ไปโผล่ตรงนั้น หลอกล่อกลุ่มทหาร พอทหารจีนเสียสมาธิ…
“ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!” ก็เป็นเป้าให้ลูกน้องซอนสอยร่วงทีละคน
“โฮ่ง!” และทุกครั้งที่สิ้นเสียงของเจ้าฮีโร่สี่ขาของฉัน...
“บรึ้ม...มม!” หมายถึงรถหุ้มเกราะ 1 คัน เจ้าหมาทำอย่างนี้ซ้ำ ๆ จนรถหุ้มเกราะทั้ง 5 คันระเบิดไหม้ควันโขมง พลขับตะเกียกตะกายหนีตายออกมาอย่างทุลักทุเล หมาของใครกันช่างแสนรู้จังเลย
ชายชุดดำสวมไอ้โม่งวิ่งเข้ามาหาพวกเรา เขายืนมองที่หน้าประตู
“หลงซัน!” ซอนร้องเรียก เขาหันมองแล้วร้องเสียงหลง...
“บอส! เป็นไงมั่ง? ไหวมั้ย?” เขาจับตัวซอนพลิกดูแผล
“ไม่เป็นไร! มึงอุ้มเจ้าแทนไปก่อน” เขาหันมองแล้วลุกวิ่งเข้ามาอุ้มแทนออกไป
หมวดจางประคองร่างที่ไร้วิญญาณของไป่ไป๋เดินตาม ฉันเข้าประคองปีกของซอน ค่อย ๆ เดินลงเนินไปที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ลูกน้องบางส่วนวิ่งไล่ยิงทหารขึ้นไปบนภูเขา รถแฮมเมอร์สีเหลืองคุ้นตาวิ่งเข้ามา เสียบอีกคัน
“เดี๋ยวก่อนค่ะ!” หมวดจางปล่อยมือจากไป่ไป๋ วิ่งเข้าไปหาลูกน้องของซอนก่อนที่เขาจะเอาร่างของแทนขึ้นรถตู้
“เอาขึ้น ฮ.เลยค่ะ” เธอร้องบอก ฉันโล่งอก แทนของฉันรอดแล้ว
พวกเขาช่วยกันประคองร่างไร้สติของแทน ขึ้นไปวางบนพื้นเฮลิคอปเตอร์อย่างนุ่มนวล ไป่ไป๋วิ่งเข้าไปคอยประคองไม่ห่างกาย น้ำตาไหลอาบแก้มร้องไห้สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจ…
“เบา ๆ นะ อย่าให้เขาต้องเจ็บอีกนะ”
ฉันพยายามพยุงซอน เดินเลาะบ้านอย่างทุลักทุเล ซอนก็เจ็บหลังเดินไม่คล่อง เขาพยายามกัดฟันเดิน
ทันใดนั้น...
“ตุบ!” เสียงดังหนักแน่นข้างหูทำเอาสะดุ้งเฮือก
“โอ๊ะ!” ซอนหัวคะมำลงไปนอนนิ่ง
“เฮ้ย!” ฉันหันหลังกลับ...
“อุ่บ!” ในจังหวะนั้นแขนใหญ่ล็อคคอของฉันไว้แล้วดึงถอยหลังจนหายใจไม่ออก ฉันดิ้นสุดแรงพยายามขัดขืน
“ดอกเตอร์นาตาลี! เชิญไปด้วยกันนะครับ” เขาพูดข้างหูเสียงเย็นยะเยือก
“วางอาวุธเดี๋ยวนี้!” เขาตะโกนสั่ง
“ปล่อย!ปล่อย! หายใจไม่ออก!” ฉันตีมือรัวรัว หน้าเริ่มมืดเพราะขาดอากาศ เวลาของแทนเหลือน้อยลงทุกที ไอ้นี่ก็มาขวางทางอีก
“คุณปล่อยพวกเขาไปสิ! ฉันจะไปกับคุณเอง” ฉันยื่นข้อเสนอหลังจากเขาปล่อยมือ
เขาหรี่ตา ทำท่าคิด...
“ได้! ผมจะปล่อยเพื่อนคุณไป” เขาพูดเสียงดัง กัดฟันแน่นสายตาอาฆาตหันมองไปรอบตัว ไม่เหลือใครเลย ลูกน้องของเขาต่างก็วิ่งหนีตายขึ้นภูเขากันไปหมด ที่ยังอยู่ก็นอนจมกองเลือดไม่มีลมหายใจแล้ว
“ไม่ได้นะดอกเตอร์!” หมวดจางร้องเสียงหลง ลังเลสองจิตสองใจขยับจะเดินเข้ามา
“แอนนา! เธอหักหลังกองทัพฯ กลับมารับโทษซะดี ๆ ไปธำรงวินัย” เขาเอาปืนชี้ไปที่หมวดจาง
ไป่ไป๋หันมาน้ำตานอง...
“อย่าไป! อย่าไปนะอนนี่ อย่าไปหนูขอร้อง”เธอร้องไห้กวักมือ พะวักพะวน แทนก็ยังหลับอยู่บนตัก
ฉันโบกมือลาฝากดูแลแทนไห้ด้วยนะ ถึงเราจะไม่ได้เจอกันอีกก็ไม่เป็นไร อย่าตายนะ..แทน
“ผู้พัน! ปล่อยดอกเตอร์มาเถอะ เอาฉันไปแทน” หมวดจางร้องขอ
“เธอก็ต้องกลับไปด้วยกัน มานี่!”เขาเรียก แต่หมวดจางนิ่งไม่ขยับ
เมื่อเหตุการณ์เดินมาถึงจุดตัดสินใจอีกครั้ง ถ้าฉันยังดื้อดึงต่อไปแทนไม่มีโอกาสรอดแน่นอน ฉันต้องรักษาชีวิตของแทนไว้ก่อน
“พวกคุณไปกันเถอะ ปล่อยฉันไว้ที่นี่แหละ เราไปกันเถอะผู้พัน”
หมวดจางสีหน้าเครียดจัด หันรีหันขวางหมุนตัวไปมา ก่อนที่จะรีบก้าวขาเดินมา...
“ฉันไปด้วย!” เธอยอมตายไปกับฉันด้วยเหรอ อย่าทำอย่างนั้นนะ
“โฮ่ง!” เสียงเห่ากรรโชกของเจ้าหมาใหญ่ดังขึ้นอีกครั้ง ฉันกวาดสายตามองหา
“โฮ่ง!” จู่จู่..เจ้าหมาตัวเดิมก็กระโดดพรวดออกจากหน้าต่างบ้านพุ่งเข้ามาใส่
“ปัง!” เขายิงปืนสวนออกไปทันที...
“ปัง! ปัง! ปัง!” ลูกปืนสะเปะสะปะไม่เข้าเป้า เขาล็อกคอของฉันไปด้วยทำให้ยิงไม่ถนัด เจ้าหมากระโดดวิ่งหลบวนผลุบโผล่หลอกไปมา
“ไอ้นี่!” เขาหัวเสียหงุดหงิด ผลักตัวของฉันออก
ทันทีที่ฉันล้มลงกับพื้น...
“ปัง!” ใบหน้าของผู้พันสะบัดเลือดกระจายล้มลง เจ้าหมาวิ่งหนีหายไปอีกครั้ง
“หมวดจาง!” ฉันรีบลุกวิ่งไปสวมกอด
“ไม่เจ็บนะ!” เธอลูบลำตัวอย่างห่วงใย
เรามองไปที่รถยนต์แฮมเมอร์สีเหลืองจุดกำเนิดเสียงปืน ประตูเปิดออกช้า ๆ คนในรถยนต์ก้าวลงมา ปืนสั้นในมือควันจาง ๆ ยังโชยออกจากปลายกระบอก
เขาเหมือนกับ Assassin สวมฮู้ดคลุมหัว สวมแว่นกันแดดดำ ก้มหน้าเดินมองไม่ออกว่าเป็นใครกันแน่ เขาเดินลิ่วผ่านตัวฉันไปหาซอนที่นอนนิ่งกับพื้น กลุ่มลูกน้องของซอนกรูเข้ามา...
“คุณครับ เชิญทางนี้!”
ฉันเดินตามหมวดจางไปที่เครื่องบิน เธอกระโดดขึ้นไปถีบศพนักบินลงพื้นแล้วเข้านั่งประจำที่อย่างทะมัดทะแมง มือก็กดปุ่มนั่นนี่สักพักใบพัดของเครื่องบินค่อย ๆ หมุนช้า ๆ
“วื้ด...ดด!!”
ฉันปีนขึ้นไปนั่งข้าง ๆ ไป่ไป๋แล้วสวมกอดเธอไว้ ร่างของแทนนอนยาวขวางเครื่อง
“อนนี่! ช่วยแทนด้วย แทนไม่หายใจแล้ว ฮือฮือ!” เธอสะอื้นแรงเสียงแหบแห้ง หันมากอดตัวสั่นเทา
ชายลึกลับคนนั้นก้าวเข้ามา...
“ขอไปด้วยคน!” เขาแบกร่างของซอนขึ้นมาวางบนพื้นข้างกับร่างของแทน แล้วหันไปด้านนอกพร้อมกับเป่าปาก...
“วี่วี๊ด...บราวนี่! กลับบ้าน” เขาร้องเรียกเจ้าหมากระโดดตัวปลิวขึ้นมาเหมือนบินได้ จมูกของมันฟุดฟิดไถไปตามพื้น เดินดมเข้าหาไป่ไป๋ มันตื่นเต้น ส่ายตูด ส่ายหาง เลียใบหน้าของเธอ...
“งี้ด! งี้ด!” มันดีใจร้องเสียงหลง
“ฮือฮือ!” เธอนั่งหลับตานิ่ง ปล่อยให้หมาเลียเลือดไปทั่วใบหน้า เส้นผมยุ่งเหยิง จิตหลุดไม่รับรู้ใด ๆ
“ หือ!” จู่ ๆ เธอก็สะดุ้ง...
“บราวนี่! บราวนี่เหรอ? เจ็ทโด้มา เจ็ทโด้คะ!” เธอลืมตาร้องออกมา แววตากลับมามีความหวังมองไปที่เขา ซึ่งนั่งบนเก้าอี้ข้างหลังนักบิน
ฉันเพ่งมองตามจนแน่ใจ ใช่จริง ๆ ด้วย!...คลานเข้าไปใกล้แล้วจับมือเขา น้ำตาไหลอาบสองแก้ม
“ฉันขอโทษ!เป็นความผิดของฉันเอง ช่วยแทนด้วยนะคะ”ความหวังที่ริบหรี่ลงไป กลับมีกำลังใจขึ้นมา ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันมาแต่เยาว์วัย ฉันก็อุ่นใจที่ได้เห็นเขาอีกครั้ง เจอกันทีไรมีแต่พาเรื่องเลวร้ายมาให้เขาทุกที...
“ช่วยแทนด้วยนะคะ” ฉันร้องไห้เกาะขาขอร้องเขา ไป่ไป๋คลานเข้ามากอดขาร้องไห้โฮ...
“เจ็ทโด้ขา! ช่วยด้วย แทนยังหลับอยู่เลย เขาไม่คุยกับหนูเลย” ไป่ไป๋กอดขาร้องไห้จ้า
“งี้ด! งี้ด!” เจ้าบราวนี่เดินวนเวียนดมร่างโชกเลือดของแทน เอาตีนเขี่ยที่หน้าอกเสื้อ เหมือนพยายามปลุกให้ตื่น
“งี้ด! งี้ด! งี้ด! งี้ด!” มันร้องครางใช้จมูกงัดแขนของเขา หวังจะเรียกสติกลับมา แลบลิ้นเลียใบหน้าและลำตัวที่เลอะอาบเลือดจนสะอาด
“งี้ด! งี้ด!” บราวนี่ใช้ปากงับคอเสื้อ แล้วพยายามดึงให้เขาลุกนั่ง มันพยายามทำอยู่อย่างนั้น....ครั้งแล้วครั้งเล่า
“บราวนี่! ช่วยแทนด้วยนะ เรียกให้แทนตื่นมาเล่นด้วยสิ”ไป่ไป๋ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ดวงตาบวมแดงก่ำ อ้อนวอนทุกอย่างให้ช่วยเหมือนคนสิ้นหวัง ตัวเธอสั่นระริกเลือดของแทนเลอะไปทั่วใบหน้า
“เทพเจ้าองค์ไหนก็ได้ช่วยเขาด้วย ถ้าเทพไม่ว่างผีสางก็ได้ ฉันจะยอมเป็นสาวกตลอดชีวิตเลย”เธอคร่ำครวญปานจะขาดใจ
ในยามยากลำบากที่ต้องการคนช่วยพยุงมาก ไม่เคยมีเทพองค์ใดโผล่มาหรอก คำร้องขอที่สิ้นหวังไม่เคยเป็นจริง มันไม่เคยดังไปถึงหูของพระเจ้า เทพมักจะไม่มาช่วยทันท่วงทีในเวลาที่ต้องการ เมื่อผ่านไปแล้วมักจะมาช่วยในรูปแบบอื่น
การช่วยเหลือใครสักคนให้หลุดพ้นจากความทุกข์ใจ มันต้องทำเดี๋ยวนั้นและทำทันที มันก็เหมือนกับการขับรถยนต์ แล้วกำลังจะตกเขา การเหยียบเบรกรถยนต์ให้หยุดคือการแก้ปัญหา เราต้องหยุดมันเดี๋ยวนั้นและทันที ถ้าเหยียบเบรกทีหลังก็ไม่มีความหมาย
ในมือของเธอกำสร้อยล็อกเกตในคอของเขาแน่น...
“หนูไม่ดีเอง หนูเอาแต่ใจตัวเอง หนูขอโทษ ตื่นมาสิคะ ตื่นสิคะเราได้กลับบ้านแล้ว หนูรักคุณนะ หนูรักคุณ เรากลับบ้านด้วยกันนะ” เธอคร่ำครวญเสียงสั่นเครือจนฉันต้องเบือนหน้ามองออกไปทางอื่น น้ำตาไหลพรากไม่สามารถทนดูภาพสะเทือนใจ
“โฮ่ง!โฮ่ง!โฮ่ง!” บราวนี่เห่าใส่หน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เลียใบหน้าของเขาอยู่อย่างนั้น เจ็ทโด้นั่งมองน้องชายนิ่งเงียบ ทุกคนนั่งนิ่งตกในภวังค์
ซอนงัวเงียลืมตาขึ้นมา...
“อ้าว!สวัสดีครับ สึกแล้วเหรอ พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมผมไม่เห็น?” เขาดันตัวลุกขึ้นมายกมือพนม แล้วสลัดหัวไล่ความมึนงง เลือดกระเซ็นไหลเลอะหัวไหล่ เจ็ทโด้มองนิ่งไม่ตอบแล้วหันไปบอกนักบิน...
“ไปกันเถอะ!”
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!”
“โครม! คราม! ตึง!” เสียงหลังคาและข้าวของชาวบ้านปลิว ฝุ่นคลุ้งกระจายเครื่องบินลอยขึ้นเหนือพื้น เครื่องบินโฉบผ่านหมู่บ้านข้างฮวงซุ้ยไปทิศตะวันตกของจีนอย่างรวดเร็ว ด้านล่างเห็นรถยนต์ทั้งสามคันของพวกเราห้อตะบึงตามกันลงจากภูเขา ทุกคนได้กลับบ้านแล้ว
แต่...แทนของฉันยังไม่ตื่นขึ้นมาเลย
……………………………………........................……………..
เฮลิคอปเตอร์บินลัดฟ้ามาอีกหลายชั่วโมงก่อนร่อนลงจอดท่ามกลางป่าใหญ่ รถยนต์จอดรอรับหลายคัน ฉันกอดขาของแทนไว้แน่น เขาไม่ขยับตัวอีกเลย นอนนิ่งตั้งแต่เครื่องขึ้นบิน จนลงสู่พื้นอีกครั้ง
“มันไปแล้ว ไม่ต้องตามมานะ เราไม่น่ารู้จักกันเลย” เจ็ทโด้อุ้มร่างไร้ความรู้สึกของแทนเดินจากไป
ผู้ชายที่เคยเป็นพ่อครัว เป็นพ่อบ้าน จนกลายเป็นความรัก ถ้าเขาไปแล้วความรักที่แสนสั้นนี้จะจบลง จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
“ฮือฮือ! ฉันขอโทษ” ฉันและไป่ไป๋วิ่งร้องตาม
“เจ็ทโด้ ฉันไปด้วย ฉันจะดูแลให้เอง” ฉันวิ่งไปเกาะแขนเสื้อ
“หนูไปด้วย ให้หนูไปด้วย” ไป่ไป๋ร้องตาม
“แทนไม่หายใจแล้ว มันจากคุณสองคนไปแล้ว คุณกลับไปเถอะ” เขาหันมามองด้วยสายตาตำหนิ
“โฮ!” เหมือนโดนกระชากหัวใจ ฉันผิดเอง อภัยให้ฉันด้วยนะ เข่าอ่อนทรุดลงพื้นหายใจไม่ออก ไป่ไป๋ล้มลงทุบพื้นดินอย่างขาดสติ...
“ไม่นะ! แทนกลับมานะ หนูขอโทษ หนูจะไม่ดื้ออีกแล้ว!” เธอไม่เหลือสภาพ
เจ็ทโด้ตะโกนเรียกซอน...
“ซอน! มึงมาเอาสองคนนี้กลับไป เร็ว!” เขาเดินหน้าต่อ
“ฮือฮือ!” ฉันหันไปกอดกับไป่ไป๋ ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ ทำไมต้องตายจากกันด้วย
ซอนเดินมาฉุดมือ...
“ช้าเร็วก็ต้องไป ไปเร็วก็หายเจ็บปวดเร็ว ไปเลยดีกว่าครับ แทนได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว มันทำดีที่สุดแล้ว” เขาดึงแขนให้ลุกยืน หมวดจางปราดเข้าหาไป่ไป๋
สายตาทุกคนมองแผ่นหลังที่กำลังจากไปของเจ็ทโด้ แทนหัวห้อยแขนขาตก ดวงตาหลับสนิท สร้อยล็อกเกตแกว่งไปตามจังหวะก้าวขา ต่อไปจะไม่ได้ยินเสียงของเขาอีกแล้ว
“แทนคะ! อยู่กับพวกเราอีกวันนึงนะ อย่าพึ่งไปเลย”เสียงเศร้าสร้อยของไป่ไป๋ ทำให้ใจคนรอบข้างใจสลายไปด้วย สายตาวิงวอนของเธอสิ้นหวังลงเรื่อย ๆ
เธอสะบัดมือดิ้นอีกครั้ง หันหลังกลับวิ่งไปหาเจ็ทโด้...
“ไม่เอา..หนูไม่ให้ไป อย่าไป! อย่าไปนะ! แทนกลับมาเดี๋ยวนี้! ฮือฮือ!” เธอวิ่งไปสะดุดล้มเอื้อมมือไขว่คว้า ร้องปานจะขาดใจเรียกน้ำตาของทุกคน หมวดจางวิ่งเข้าไปกอดด้านหลังของเธอ ฉันปวดร้าวใจหวิว ยืนมองเขาเดินจากไป...
“ปล่อยแทนไปเถอะ เขาไม่ต้องเหนื่อยกับเราอีกแล้ว เราจะคิดถึงเขาบ่อย ๆ ลาก่อนนะ คนที่แสนดีของฉัน” ฉันใจสลายเข้าไปแตะแขนเธอเบา ๆ
“ฮือฮือฮือ! หนูขอสั่งไม่ให้ไป หนูไม่ให้แทนไป กลับมานะ! กลับมา!”เธอตัวสั่นร้องไห้เสียงดังกอดแน่น จนหมดสติไปอีกคน
“หมวดจาง! ไป่ไป๋เป็นลมไปแล้ว”
หวนคิดถึงคำพูดของเขา ถ้าจากไปแล้วอย่าลืมกลับมาเล่าเรื่องให้ฟังบ้าง แทนก็อย่าลืมกลับมาเล่าให้กันฟังบ้างนะ กลับมาหาฉันในความฝันบ้างนะ กลับมาคุยกันอีก
พวกเราอยู่กลางป่าที่ไหนสักแห่งในเมียนมา เสียงสัตว์ป่าและสายลมผสมเสียงร้องไห้แทบขาดใจของพวกเรา มันจะดังก้องในใจของฉันไปอีกนานเท่านาน ลาก่อนนะแทน...ที่รักของฉัน
ฉันเคยอยู่ในโลกที่มีแต่ความสะดวกสบาย มีแต่คนประเคนของมาให้เลือก ทุกคนให้ความเกรงใจ ไม่เคยได้รับรู้ความยากลำบากของคนอื่น สังคมที่ซับซ้อนซ้อนเร้นเต็มไปด้วยการดิ้นรน ยื้อแย่งแข่งขันเพียงเพื่อความอยู่รอด แทนไม่ได้เกิดมาเพื่อใช้ชีวิตเพื่อความสบายของตัวเอง เขาเกิดมาเพื่อช่วยคนอื่นให้หลุดพ้น และให้ชีวิตตนเองกับผู้อื่น
ฉันเองก็ถึงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น มีเรื่องที่ต้องกลับไปแก้ไข สิ้นสุดกันเสียที Tame 26
..........................................................................หน้าที่เข้าชม | 12,861 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,977 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |