หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 5 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 7 มี.ค. 2567 |
อินโดนีเซีย
อีเรียนจายา (Irian Jaya) ปาปัวตะวันตก
ตุลาคม ค.ศ.2022
หมู่บ้าน เจเรจา เรมัต สถานการณ์ตึงเครียดถึงขั้นสุด กองทัพอินโดนีเซียส่งกองกำลัง ไล่บดขยี้อย่างไร้ปรานี ผืนป่าสั่นสะเทือนเครื่องบินรบโฉบใกล้ยอดไม้บ่อยครั้ง เสียงระเบิดดังกระหึ่มตลอดเวลา ชาวป่าไร้อาวุธ กำลังโดนฆ่าล้างเผ่าพันธ์จากทหารในเครื่องแบบ
“ชาโดว์ 5 เข้ามาที่โบสถ์คริสต์รูมามากัน เดี๋ยวนี้!” เดอะชาโดว์สีหน้าเครียด หันกลับมองตัวประกันผมสีทองชายหญิง นั่งสบายใจบนแถวเก้าอี้หน้าไม้กางเขน ไม่ได้ทุกข์ร้อน
“คุณต้องตัดสินใจเดี๋ยวนี้! กองกำลังของอินโดนีเซียรุกมาถึงหมู่บ้านคอฟโฟแล้ว ฝ่ายกบฏสู้ไม่ได้แล้วกำลังถอยร่นมาที่นี่” เขาไม่สบอารมณ์ มองหน้าตัวประกันอย่างไม่เข้าใจ
“คุณทหารคะ! ฉันไม่ได้กลัวตาย ช่วยคิดหน่อยสิคะว่าเราจะเอาชนะ กองทัพอินโดได้อย่างไร?” เจนนิเฟอร์ท่าทางดื้อมาก
“คุณสองคนนี่มันยังไงกันวะ? ทำไมไม่บอกกับทางบ้านดีดีว่าจะมาช่วยที่นี่ประท้วง คนอื่นเดือดร้อนกันไปหมด เรื่องของคุณระดับชาติเชียวนะ” เขาเดินมาจ้องหน้า เธอเมินทำหูทวนลม
ดร.ริชาร์ดมองลอดแว่น...
“ผมคิดว่า มันไม่กล้ายิงหรอก พวกเราเป็นอเมริกันชนและเรามีสิทธิ์ในการเรียกร้องความยุติธรรมให้ชาวบ้าน”
“ไอ้พวกจบดอกเตอร์นี่มันยังไงกันวะ ทำแต่ปัญหาวุ่นวาย?” เขาหงุดหงิดเดินวนไปมา
“เพื่อมนุษยธรรม เราต้องช่วยพวกเขา ทหารใช้สิทธิ์อะไรมายิงประชาชน พวกเขาเพียงแค่ปกป้องบ้านของตัวเอง” ริชาร์ดหันมาตอบ
“บ้าบออะไรกันวะเนี่ย? แล้วคุณก็ไปออกข่าวว่า โดนจับเป็นตัวประกัน เพื่อกดดันรัฐนี่นะ เอาอะไรคิดวะดอกเตอร์? มันไม่สนหรอก คุณโดนยิงทิ้งแน่ และผลลัพท์มันก็เหมือนเดิม พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้อีเรียนจายา หลุดมือแน่”
“เราประท้วงพวกมัน สักวันต้องชนะ ชีวิตของคนเกิดมาพร้อมเสรีภาพ เรามีกฏหมายสิทธิ์คุ้มครอง” เจนนิเฟอร์ยังยืนยันเหมือนเดิม
“แม่งเอ๊ย! ทำไมกูต้องเจอกับคนแบบนี้ตลอดเลยวะ การประท้วงมันใช้กับประเทศแถบนี้ไม่ได้ ชีวิตมนุษย์ในเอเชียมีค่าเท่ากับลูกกระสุน 1ดอลลาร์”
“คุณทหาร! ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย พวกเขาต้องตายทั้งหมด กลุ่มของผมศึกษาเรื่องปาปัวตะวันตกมาหลายปี พวกเขาไม่ใช่คนเลว เป็นชาวป่าที่จิตใจบริสุทธิ์ มีวิถีเรียบง่าย รัฐบาลมันยัดข้อหากบฏให้ชาวบ้าน”
“อ้าว! ก็พวกเขาขอแยกดินแดน รัฐมันไม่ยอมอยู่แล้ว”
“มันต้องมีเหตุผลสิ พวกเขาถึงต้องขอแยกตัว ถ้ารัฐดีจะมีคนเข้าร่วมเอง แต่รัฐที่ไม่ฟังใครเขาก็ต้องขอออก ปัญหากดทับขนาดนี้ใครจะอยู่ไหว?” เจนนิเฟอร์เสียงอ่อนเดินเข้าไปหา แล้วจ้องหน้าเดอะชาโดว์ด้วยสายตาเป็นมิตร
“คุณทหารคะ! พวกเขาอยู่กับธรรมชาติ ป่าเป็นบ้านของเขา ชาวบ้านที่นี่แบ่งเป็นหลายชนเผ่า พวกเขาไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้าย รัฐป้ายความผิดให้เพื่อยึดผืนป่าไปให้พวกสัมปทานไม้ ให้นายทุน” เธอสายตาอ้อนวอน
ริชาร์ดขยับเข้ามา…
“พวกรัฐให้สัมปทานกับเกาหลีใต้ พวกนั้นเข้ามาเผาป่า ทำสวนปาล์มน้ำมัน คุณคิดดูสิ! เขาปกปักษ์รักษามาตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่โดนคนชาติอื่นมาเผาบ้าน ระเบิดภูเขาทำเหมือง ใจสลายแค่ไหน? คุณตอบหน่อย...ต้องทนดูไปอีกนานแค่ไหน ที่นี่เป็นผืนป่าที่สมบูรณ์ผืนสุดท้ายของโลกนะครับ”
เดอะชาโดว์หลับตาสูดลมหายใจลึก....
“แต่รัฐบาลสหรัฐฯ จ้างพวกผมให้มาช่วยคุณกลับบ้าน ถ้าคุณโดนจับได้หรือตายไปก่อน สงครามมันจะเกิดนะครับ กลับไปกับผมในตอนนี้ยังทัน” เขาเดินบ่นใส่หน้าทั้งสองคน
“วี๊ด!...ดดด!!....บรึ้ม…มม!!” ระเบิดลงกลางสนามเสียงสนั่น
“เพล้ง !” กระจกโบสถ์แตกละเอียด คอมมานโดทีมเดอะชาโดว์กรูเข้ามาภายใน
วิทยุสื่อสารดังขึ้น…
“ฐานเรียกเดอะชาโดว์ เปลี่ยน!”
เขาคว้าวิทยุ...
“เดอะชาโดว์ เปลี่ยน!”
“คุณต้องออกจากโบสถ์เดี๋ยวนี้ กองกำลังกบฏต้านไม่อยู่แล้ว หนีออกด้านหลังไปทางตะวันตก เปลี่ยน!”
“ตัวประกันไม่ยอมกลับ พวกเขาตั้งใจมาช่วยฝ่ายกบฏ เปลี่ยน!”
“.............”
“พวกคุณไม่มีเวลาแล้ว ถ้าพวกเขายังดื้อดึงจะพาทุกคนตายไปด้วย ยิงทิ้งแล้วฝังกลบซะ อย่าให้ใครพบศพ เปลี่ยน!”
สิ้นเสียงสั่งจากฐาน...
“แก็รก!” ทีมเดอะชาโดว์ ขึ้นลำปืนทันที
“ห่ะ!” ตัวประกันทั้งสองหน้าถอดสี หันมองหน้ากันเอง
“ได้ยินคำสั่งแล้วใช่ไหมครับ? ถ้าอยากตาย คุณปฎิเสธอีกคำเดียว ผมไม่มีทางเลือกอื่น เจนนิเฟอร์!..คุณไม่รู้หรอกว่าเรื่องนี้ใหญ่แค่ไหน? การตายของคุณทั้งสองไม่สามารถหยุดกองทัพอินโดนีเซียได้”
“ฉันขอตายในนามนักอนุรักษ์ เพื่อความถูกต้องชอบธรรม คุณทหาร!...ยิงฉันได้เลย” เธอหลับตาเชิดหน้า
เขาส่ายหน้าระอาใจ หันไปหาผู้ชาย...
“ดอกเตอร์ริชาร์ด คุณเป็นคนเดียวที่จะทำให้ทุกคนรอด ชีวิตของทุกคนอยู่ที่การตัดสินใจของคุณ” ทั้งสองหันหน้ามองกันนิ่ง...
“ผมไม่มีทางเลือกแล้วใช่มั้ย?”
“ทางรอดของคุณเหลือทางเดียว คือกลับบ้านไปกับผม ถ้าคุณอยากจะช่วยค่อยกลับมาใหม่ ตอนนี้ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน ลุกขึ้น! ไป!”
“แล้วฝ่ายกบฏจะทำอย่างไร พวกเขาจะโดนไล่ล่านะคะ” เจนนิเฟอร์น้ำตาซึม
“พวกเราต้องหนี พวกเขาก็ต้องหนี ป่าเป็นบ้านของเขา เมื่อพวกเขาเข้าป่าพวกเขาก็ปลอดภัย ทหารเข้าไปก็สู้กับพวกเขาในป่าไม่ได้หรอก คุณเชื่อผมนะ! พวกเขาไม่เป็นอะไรหรอก" เขาดึงแขนทั้งสองให้ลุกแล้วผลักหลัง ทีมฯ เข้าประกบพาวิ่งออกหน้าประตู
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!”
“บรื้น!บรื้น!บรื้น!บรื้น!” เสียงสารพัดเครื่องยนต์และเสียงปืนถอยร่นใกล้เข้ามา
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!” ฝ่ายกบฏจากหมู่บ้านวิ่งเข้ายิงตอบโต้
“หนีไม่ทันแล้วพวกเรา เข้าป่าหาที่ซ่อนตัว” เดอะชาโดว์สั่งแล้วยืนไล่เพื่อนทีละคนให้วิ่งเข้าป่าหลังโบสถ์
……………………………………
เสียงเครื่องยนต์และระเบิดเคลื่อนมาที่หมู่บ้าน พวกเขาตะลุยเข้าป่า มาสุดทางที่สระบัวใหญ่ ห่างจากที่เดิมราว 200 เมตร
“เราไปต่อไม่ได้แล้ว ทางเดียวที่จะรอดต้องซ่อนตัว พวกคุณอยู่เงียบ ๆ นะ” เดอะชาโดว์บอกกับตัวประกันแล้วหันไปหาลูกน้อง...
“ทุกคน! กระจายกันไป คุ้มกันเป้าหมายไว้ ผมจะขึ้นไปข้างบน” เขาปีนอย่างว่องไวขึ้นไปบนต้นไม้สูงราว 50 เมตร
บนยอดไม้สูงเหนือผืนป่า บ้านทาร์ซานของชนเผ่าสร้างไว้สำหรับคนหนุ่มสาวเพื่อหนียุงและพลอดรักกัน เขานอนราบยืดขายาว ส่องกล้องผ่านแนวป่า
“ครึ่ม!ครึ่ม!ครึ่ม!” กองกำลังทหารอินโดฯ เดินเท้านำหน้ารถหุ้มเกราะเข้ายึดหมู่บ้านอย่างง่ายดาย
“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!!” ทหารฝ่ายรัฐได้ใจ วิ่งไล่ยิงทั้งเด็กและคนแก่
เขาส่ายกล้องแล้วพึมพำเบา...
“มันไม่ปรานีใครเลย...เอ๊ะ!” เขาแช่กล้องไว้ที่ราวป่าฝั่งตะวันตกแล้วคว้าวิทยุ…
“ชาโดว์ 5 มีกลุ่มชายชุดดำไม่ทราบสังกัด 5 นาย ทาง 9 นาฬิกา อยู่ห่างจากพวกนาย 150 เมตร ท่าทางไม่ใช่พวกเดียวกับทหารอินโดฯ ระวังด้วย พวกเขากำลังเข้าใกล้โรงเรียนอนุบาล มีรถทหารกำลังจอดที่นั่นหลายสิบคัน”
“เอ้!” ทหารรับคำสั่ง
หน้าโรงเรียนอนุบาล ข้างโบสถ์คริสต์...
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!” เด็กและผู้หญิงวิ่งหนีตายไม่พ้น โดนยิงล้มเกลื่อนพื้นร้องโหยหวนน่าสลดใจ
ทหารอินโดฯ เข้ากวาดต้อนฝ่ายกบฎแบ่งแยกดินแดนไปรวมตัวกันในสนามหน้าโรงเรียน สั่งให้พวกเขานอนคว่ำหน้า นายทหารและกลุ่มผู้นำเดินเข้ามาดูพวกกบฏที่เหลือเพียงเด็กและคนแก่ พวกเขาต่างก็หัวเราะสะใจ /สงครามสิ้นสุดแล้ว/
“มีนักข่าวมาด้วยเหรอ?” เขาพึมพำส่องกล้องไปที่เจนินยืนถ่ายวิดีโอเก็บทุกการเคลื่อนไหว
“ใครวะ?” เขาเลื่อนกล้องต่อไปที่บาลองก้า
ในจังหวะนั้นบางลองก้าก้มตัว สร้อยนกหวีดที่คอแกว่งสะท้อนแสงสะดุดตา
“เฮ้ย!” เขารีบคว้าวิทยุ
“เดอะชาโดว์เรียกทุกคน เปลี่ยน!”
“เอ้!”
“พวกนาย มีใครยังไม่ฉีดวัคซีนบ้าง เปลี่ยน!”
“เราฉีดแล้วทุกคน เปลี่ยน!”
“ถามเป้าหมายให้ด้วย เปลี่ยน!”
“เป้าหมายก็ฉีดแล้ว เปลี่ยน!”
“ฟังคำสั่งให้ดี ห้ามถาม! ห้ามสงสัย! ให้ทุกคนลงไปอยู่ในสระน้ำ ตัดก้านบัวทำท่อหายใจ รอคำสั่งดำน้ำ ปฏิบัติ!”
“เอ้!”
สายตาของเดอะชาโดว์ ยังมองกล้องคิ้วขมวดตลอดเวลา
ลานหน้าโรงเรียนอนุบาล...
ด้านขวาของสนาม...ชายชุดดำพรางตัวด้วยหญ้าแห้งคลานศอกกลมกลืนกับพงหญ้าเข้าไปขอบสนาม ทหารอินโดฯ เดินกวาดสายตาผ่านไปมาโดยไม่เฉลียวใจ
นายทหารฝ่ายรัฐหยิบวิทยุขึ้นมาประกาศ...
“เข้าประจำที่!”
“พรึบพรับ!พรึบพรับ!” ทหารวิ่งกลับมารวมตัวกันแล้วเดินเข้าหาร่างที่นอนคว่ำหน้า
นายทหารสั่งการ...
“เพื่อชาติ...ยิง!!”
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!” ร่างทั้งเด็ก ผู้หญิง และคนแก่ กระตุกเลือดไหลนอง
ทันใดนั้น บาลองก้าขยับไปคว้าวิทยุจากนายทหาร...
เดอะชาโดว์ก็คว้าวิทยุ...
“ทีมเดอะชาโดว์ ดำน้ำปฏิบัติ!” ทันทีที่ได้รับคำสั่ง ทั้งทีมก็ผลุบลงน้ำพร้อมกัน
“วี๊ด!...ดดดด!!” เสียงนกหวีดดังยาว ทหารอินโดนีเซียทั้งกลุ่มสะดุ้งเฮือก...
“Messiah! Messiah! Messiah!” กลุ่มทหารฝ่ายรัฐถูกปลุก
“ศัตรูอยู่ข้างหน้า จัดการฆ่าทุกคน!Messiah!” บาลองก้าเกรี้ยวกราดชี้กลับไปที่กองทหารที่กำลังเสริมทัพมา
“Messiah! Messiah! Messiah!” ฝูงทหารวิ่งกรูกลับทางเดิม
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!” รอบตัวเสียงปืนดังเหมือนข้าวตอกแตก ทหารล้มตายเป็นกอง
“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!” บารองก้าสะใจ ชูนกหวีด
“ต้องให้สมจริงหน่อยสิ” เจนินก้มลงไปกอบเลือดมาละเลงบนเสื้อผ้าบารองก้า
ทันใดนั้น...
“แวบ!แวบ!” แสงไฟจากแนวป่า
“ฟึ่บ! ฟึ่บ!” ทั้งสองสะดุ้งเฮือกพร้อมกัน แล้วทรุดลงพื้น หน่วยอารักขาของบางลองก้า 5 นายหมุนมอง ไม่ทันตั้งตัว
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!” พวกเขาล้มลงสิ้นใจ
“พรึบพรับ!” กลุ่มชายชุดดำวิ่งเข้าไปคว้าสร้อยนกหวีดแล้ววิ่งผ่านซากศพ ไม่แตะต้องสิ่งใดเข้าป่าไปอีกด้าน
“.............”
“วิ้ว!..วิ้ว!...” มีเพียงเสียงสายลมแผ่วเบา พัดพาใบไม้ปลิดปลิว ไร้เงาของมนุษย์ สุนัขเลี้ยงเข้าเลียใบหน้าเจ้านายที่ไร้วิญญาณ เสียงเรไรกลับมาร้องก้องป่า นกกาโบยบินกลับมาหลังจากทุกอย่างสงบลง
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!”เสียงปืนดังไกลออกไปทุกที
เขาปีนลงจากต้นไม้ยกวิทยุ…
“เดอะชาโดว์เรียกฐาน เปลี่ยน!”
“รับทราบ เปลี่ยน!”
“Mission complete!”
“เครื่องบินจะไปรอรับที่ โอลานบาลี หมู่บ้านชายทะเลทิศเหนือ ขอให้โชคดี เปลี่ยน!”
เขาทิ้งตัวทรุดลงนั่งกับพื้นมองท่อหายใจของทีม ก่อนจะถอนหายใจทอดสายตาครุ่นคิด มองไกลออกไปกลางสระกว้าง
“ใครวะมาเอานกหวีด แล้วเราจะช่วยทีมฯ ได้อย่างไร?” เขาไม่ได้เรียกลูกน้องขึ้นจากใต้น้ำ ยังคงนั่งมองไปอย่างไร้จุดหมาย
สงครามของคนแก่ที่โลภมาก อ้างสารพัดเหตุผลเพื่อจะรุกรานชาติอื่น เพียงเพื่อให้โลกบันทึกช่วงเวลาของตนไว้ โดยแลกกับชีวิตเด็กหนุ่มสาวที่ไม่รู้ว่าทำสงครามไปเพื่ออะไร แต่ต้องสังเวยชีวิตที่สดใสให้กับอำนาจของคนแก่ที่เรียกว่า ชาติ
.................................................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,861 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,977 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |