หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 5 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 2 เม.ย. 2567 |
ฟรีบูรก์ สวิตเซอร์แลนด์
มุมมองสายตาไป่ไป๋
สิงหาคม ค.ศ.2024
ริมทะเลสาบ Muten…
ฉันดีใจเนื้อเต้นได้กลับมาสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้งดินแดนสวรรค์บนดินท้องฟ้าโล่งน้ำสะอาดเย็นใสทะเลสาบเงียบสงบยอดภูเขาสูงปกคลุมด้วยหิมะ มาคราวนี้...อยู่คนละเมืองกับที่เคยมาอยู่กับนาตาลี
ฉันชอบวิวทิวทัศน์ของที่นี่มาก แต่ตอนนี้เริ่มเซ็งหัวใจ วัยรุ่นไม่ชอบ เจ็ทโด้ไม่พาเที่ยวไหนเลย พามานั่งส่องกล้องดูปราสาทยอดแหลมทุกวัน จะบ้ารึเปล่าก็ไม่รู้? ถามอะไรก็ไม่บอก...
“มาที่นี่อาทิตย์นึงแล้วนะ!จะทำอะไรก็ไม่บอก ชอบเก็บเงียบคนเดียว” ฉันบ่นงอนตั้งแต่ออกจากบ้านพักที่ซูริคจนมาถึงชายเขาฟรีบูรก์หิมะก็ตกจังเลยขาวโพลนไปทั้งขุนเขา
ฟรีบูรก์...เมืองเล็กในหุบเขาและทะเลสาบกว้างแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของปราสาทเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่12มีเอกลักษณ์โดดเด่นสถาปัตยกรรมในสมัยยุคกลางยอดปราสาทเหมือนดินสอเหลาแหลมปลูกบนยอดเขาลานตาเหมือนในจินตนาการของเทพนิยายด้านล่างเป็นทะเลสาบเงียบสงบ แผ่นน้ำเขียวนิ่งดั่งกระจกสะท้อนท้องฟ้าใส ร่มร่อนพาราไกลดิ้งหลากสีโฉบเฉี่ยวเล่นเหมือนกับอินทรีย์ถลาลม
เจ็ทโด้ละสายตาจากกล้องส่องทางไกล หันมา...
“ส่องไปเถอะ! พอเจอเด็ด ๆ ก็ไม่กล้าดู” เขาตอบน้ำเสียงไม่ใส่ใจ เขาสวมเสื้อคลุมหนา สวมแว่นตาดำ
เด็ด ๆ ที่เขาว่า ก็ฝรั่งนอนแก้ผ้า ไอ้โตโน่ดุ้นเท่าแขนเห็นแล้วตกใจ แต่นาตาลีหัวเราะชอบใจส่องไม่วางตา ไอ้กล้องบ้านี่ก็ชัดยันขน ฉันเริ่มงอแง...
“คราวก่อนหนูเคยมาอยู่กับเซเลปที่เจนีวา ก็ไม่ได้เที่ยวไปไหนไม่ได้ มีแต่คนเข้ามารุมทึ้ง” ฉันปากเริ่มจู๋แก้มป่องขัดใจ เมืองพวกนี้สวยจะตาย มาส่องแต่ปราสาทนี้ทุกวัน ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจ
เซเลปของฉันเอียงหัวมาซบไหล่ …
“คุณพาเรามาที่นี่ทุกเย็นเลย แต่ฉันก็ชอบนะสวยดี” เธอชอบแต่ฉันไม่ชอบ เบื่อจะต้องมาที่เดิม ๆ ตอนนี้ 2 ทุ่มแล้วก็ยังไม่มืด พระอาทิตย์ลังเลไม่ยอมตกดินง่าย
“ตอนอยู่ที่เจนีวา ก็พักริมน้ำแบบนี้ วิวนี้เลย เจ็ทโด้!...พาไปเที่ยวหน่อยจิ” ฉันดึงแขนเสื้องอแง
“จะไปเที่ยวที่ไหนได้ล่ะครับ เดี๋ยวก็โดนยิงหรอก สงครามยิงกันไปทั่ว เดินทางก็ลำบาก”เขาไม่สนใจอยู่ดี
“พวกเราคงหนีสงครามโลกไม่พ้นแล้วล่ะ หนักขึ้นทุกวันแล้ว เดินทางแต่ละทีก็อ้อมโลกเลย”เขาพูดโดยไม่ละสายตาจากกล้อง
“รู้งี้!..ให้ซอนซื้อเครื่องบินให้ดีกว่า จะได้ไปไหนมาไหนสะดวก” ฉันบ่นเบา ๆ
“หือ!” นาตาลีหันมามอง
“เพ้อเจ้อ!” เจ็ทโด้หันมาเคาะหัวเบา ๆ
“มันคงซื้อให้หรอกนะ ลำหนึ่งไม่ใช่ถูก ๆ จะเอาเงินจากไหนมาซื้อ”เขาหัวเราะดูแคลนคงไม่รู้เรื่องของเราก็ไม่แปลก แต่นาตาลีนี่สิ! น่าสงสารอยู่ด้วยกันแท้ ๆ แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“คุณจะเอาสักกี่ลำ ซอนก็ซื้อได้” อย่ามาว่าซอนของฉันนะ
“จริงเหรอ? มันไปเอาเงินมาจากไหน?” เขาขึ้นมานั่งที่คนขับ วางกล้องหันมาหาฉันกับนาตาลีที่ด้านเบาะหลัง
“?????” นาตาลีจ้องแต่หน้าของฉัน เธอทำแต่งานไม่เคยรู้เรื่องเงิน
“ขายวัคซีนไง? ซอนมีเงินเป็นแสนเลย” ฉันอวดซะเลย
“หึ!หึ!หึ! ผมมีเป็นล้าน หลายสิบล้านด้วย เกิน 100 ล้านแล้วมั้ง?”เขายิ้มส่ายหัว หยิบกล้องจะส่องต่อ คงคิดว่าฉันล้อเล่น
“แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเลยนะ”
“หือ!” เขาวางกล้องหันมามอง
“จริงเหรอ? มันรวยขนาดนั้นเลยเหรอ?” เขาคิ้วขมวดเอียงคอมองหน้า
“เอาป่ะล่ะ! กลับไปอยู่ด้วยกัน หนูจะให้ซอนซื้อให้ อยากได้แบบไหนไปเลือกเอา”
นาตาลีส่ายหัวเบะปากไม่เชื่อ…
“จะไปเอามาจากไหนเยอะขนาดนั้น เราสองคนรวมเงินกันสร้างห้องวิจัย หมดตูดกันทั้งคู่”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ!” ฉันก็ไม่อยากอธิบาย
เขามองหางตา แล้วยกกล้องส่อง...
“นั่น!...มาแล้ว” เขาตื่นเต้นชี้นิ้ว...
“วันนี้จะเริ่มปฏิบัติการแล้ว ส่องกล้องไว้เดี๋ยวได้เห็นอะไรสนุก ๆ” เขาชี้ไปที่ปราสาทสีน้ำตาลอ่อนไกลมากอยู่ในอ่าวเล็ก
“ไม่น่าเชื่อว่า กล้องทหารจะชัดขนาดนี้” นาตาลีเปรยเบา ๆ ส่องกล้องไปยังเป้าหมาย ปราสาทยอดแหลมสีน้ำตาลบนเนินเขาลาดลงยื่นออกไปกลางทะเลสาบ
เจ็ทโด้หันมาหาฉัน...
“เริ่มชินสายตาแล้วล่ะสิ! ผมให้คุณมาส่องบ่อย ๆ ก็เพื่อจะได้ปรับสายตาเป็น เวลาส่องจะได้ไม่เวียนหัว”
ฉันก็พึ่งจะเข้าใจ แต่ทำไมถึงไม่อธิบายยาว ๆ เวลาจะใช้คนทำงานนะ อันนี้ที่ไม่เข้าใจ
หือ!” ฉันเห็นบางอย่างเคลื่อนไหวที่ระเบียงชั้น 2 ผ้าม่านสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วลมที่ช่องหน้าต่าง...
“เอ๊ะนั่น!..ผู้หญิง” หญิงสาวดูสวยสง่าราคาแพง สวมชุดยาวสบาย ๆ ผ้าบางพลิ้วลม ยืนเท้าคางหลังแอ่น เกาะรั้วระเบียงขาวทอดสายตาไปไกล
“ไหน ๆ ขอดูมั่ง!”
“ที่ระเบียงค่ะ”
“เห็นแล้ว ๆ”
“เหมือนจูยอนจังเลย” ฉันรู้สึกคุ้นตา
“จูยอนจริง ๆ ด้วย จูยอน!จูยอน!” นาตาลีดีใจตีแขนจนเจ็บ จะดีใจทำไม? เธอฆ่าแทนของเรานะ เราจะมาฆ่าเธอนะ
“นินจา 2 เรียกฐาน เปลี่ยน!” เสียงวิทยุจากเอวเขาดังขึ้น
“ฐานรับทราบ เปลี่ยน!”เสียงวิทยุจากฐานตอบโต้กับนินจา 2
“พร้อมเริ่มปฏิบัติการ เปลี่ยน!”เสียงนินจา 2 ดังอีกครั้ง
“เริ่มได้ เปลี่ยน!” เสียงฐานโต้ตอบ เจ็ทโด้เปิดกระเป๋าหยิบแท็บเล็ตออกมาเปิดแล้วส่งมาให้ฉัน
“นินจา1ทางสะดวกหรือไม่? เปลี่ยน!” เสียงวิทยุของเขาดังขึ้น
“ทางสะดวก อีก 2 กิโลแยกซ้าย เปลี่ยน!” สายตาของเขายังมองที่กล้องส่องทางไกล
“อนนี่!” ฉันสะกิดนาตาลีแล้ววางแท็บเลต ตั้งไว้ที่เท้าแขนคนขับ...
“มาดูนี่ดีกว่า”
ภาพจากกล้องติดหมวกของนินจา 2 ชัดเจน แม้กระทั่งเขาเคลื่อนไหว เหมือนกับตัวเราเคลื่อนไหวอยู่ในรถยนต์คันเดียวกัน ความรู้สึกเหมือนเล่นเกมแข่งรถยนต์บนไอแพดก็ว่าได้
“ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!” เสียงเซอราวด์ซาวออนฟิล์มทำเอาสะดุ้งโหยง รถยนต์สามคันแซงเฉียดกระจกเสียงเสียดใจ รถยนต์ของเขากระเพื่อม ใบไม้สะบัดปลิว
“เอี๊ยด...ดด!” เสียงยางกัดถนนร้องลั่น หน้ารถยนต์ส่ายไปมา นินจา 2 ออกรถยนต์ไล่ตาม
“นินจา 2 อย่าเล่น เปลี่ยน!” เขาปรามลูกน้องเสียงเขียว เวลาดุก็ดุจริง ๆ
“ไปทางเดียวกัน ไม่ได้เล่นครับ เปลี่ยน!”
“บรื้น...นน!!” รถยนต์สองคันไล่จี้ตูดที่โค้งซ้าย แล่นอ้อมภูเขา ไล่บี้ใกล้เข้าไปทุกขณะ
“บรื้น...นน!!” รถยนต์ทั้งสามแล่นเลียบหน้าผา ทางขวามือแสงแดดสะท้อนท้องน้ำจากทะเลสาบระยิบระยับตา
เจ็ทโด้ขยับ...
“150 -100 -50 -20 - ซ้าย!”
รถยนต์ทั้งสามขับด้วยความเร็วสูงเอียงวูบวาบไปมา ไล่บี้หลังกันไปไต่ตามโค้งเลียบหน้าผาสูง
“เอี๊ยด...ดด!” เสียงยางรถยนต์เบียดถนนโค้งร้องโหยหวนยาว บางช่วงของถนนลดระดับวิ่งเสมอทะเลสาบ ทิวทัศน์ด้านนอกสวยงามเงียบสงบ บางช่วงไต่สูงเหนือยอดเขา
เมื่อรถคันหน้าผ่านเหลี่ยมเขา...
“ยกเลิกภารกิจ นินจายกเลิกภารกิจ”เสียงจากฐานดังผ่านวิทยุ
“นินจา1ทราบ! เปลี่ยน!” เจ็ทโด้ตอบกลับ
“นินจา 2 ทราบ! เปลี่ยน!” เสียงนินจา 2 ตอบกลับ
รถยนต์คันหน้ากำลังเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เขาชะลอรถยนต์ปล่อยให้ทั้งสองคันไล่ล่ากันต่อไป
“ทำไมล่ะคะ?” นาตาลีหันขวับ ฉันเองก็แปลกใจที่จู่ ๆ ก็ได้รับคำสั่งยกเลิก
“ภารกิจโดนรบกวนจากไอ้รถยนต์ 2 คันนั่น!” เขาบอกอย่างไม่ไยดี
“ปัง! ปัง! ปัง!” เสียงปืนดังแว่ว ฉันก้มลงมองไปที่จอ ดูเหมือนนินจา 2 ขับรถยนต์ย้อนขึ้นไปบนยอดเขา เสร็จงานแล้วคงแยกย้ายกันไป
ฉันหยิบกล้องส่องทางไกลส่องไปที่ตัวปราสาท ตอนนี้มองไม่เห็นใคร ไล่ระดับกล้องไปหารถยนต์สามคันยังไล่ตามกันระยะทางอีก 3 โค้งก็จะถึงตัวปราสาท
“พวกนั้นจะมาหาจูยอนเหรอ? ทำไมเขาต้องยิงกันด้วยล่ะ?” นาตาลีถามหน้าตาตื่น
“ผมก็ไม่รู้ว่า มันเป็นใครเหมือนกัน ไม่งั้นจะยกเลิกภารกิจทำไมล่ะ?”เขาย้อนตอบหน้านิ่ง กัดริมฝีปากสายตาดูเป็นกังวล
“นี่นี่! ในปราสาทมีคนตั้งหลายคน จะยิงกันแล้ว” ฉันแหกปากลั่น เมื่อเห็นรถเก๋งสีดำคันหน้าแล่นเข้าไปในลานของปราสาท
รถแวนสีดำที่ตามหลังมาจอดขวางหน้าประตูทางเข้า ผู้ชายชุดดำหลายคนโดดลงจากรถยนต์พร้อมอาวุธปืนแล้ววิ่งแยกย้ายกัน จูยอนจะโดนยิงแล้วดีสมน้ำหน้า
“กลับดีกว่า!” เขาหันมองตัวปราสาทแล้วถอนหายใจ ขึ้นนั่งที่คนขับเก็บแท็บเลตเข้ากระเป๋า
นาตาลียกมือขวาง...
“No.! จูยอนอยู่นั่นไง ไปช่วยเธอก่อนสิ!” เธอหันไปเกาะแขนเขาไม่ยอมให้ออกรถ
“อนนี่!” ฉันหันมองหน้าเธออย่างขัดใจ นี่คงไม่ได้คิดจะให้อภัยกันอีกใช่ไหม? ใจอ่อนอีกแล้วสินะ
เจ็ทโด้หันมา...
“ถามไป่ไป๋สิ ให้ช่วยหรือเปล่า?” เขาอมยิ้มมองมาคำตอบจากฉันง่ายมาก
ฉันได้ล้างแค้นแล้ว...
“โน๊โน!..ปล่อยให้ตายที่นี่แหละ นิสัยไม่ดี” ฉันเมินมองไปที่อื่น อย่างไรเสีย เธอก็มีส่วนที่ทำให้แทนต้องตาย
“ไป่ไป๋ขา หนูใจร้ายไปหรือเปล่า? จูยอนไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก”เธอส่งสายตาละห้อยแก้ตัวแทนเพื่อน
อยากจะควักลูกตาของเธอเหลือเกิน เบื่อจังเลย ทำไมเธอชอบเข้าข้างคนอื่น ตำหนิฉันเกือบทุกเรื่อง ไม่รักฉันแล้วใช่ไหม? ชอบขัดใจอยู่เรื่อย
“โน้โน!” ฉันไม่ยอมพร้อมเถียง เป่าลมแก้มป่องเป็นปลาปักเป้า หันมองไปที่ปราสาทแล้วคิดในใจ...ตายซะได้ก็ดี
“นะคะ!” เธอเอียงหัวมาซบ เจ็ทโด้หยิบกล้องมาส่อง
“ไม่ค่ะ! คนอะไร...ไม่รู้จักโกรธแค้นบ้างเลย ถามจริง ๆ เถอะอนนี่ รักแทนจริงหรือเปล่า?” ฉันเอานิ้วจิ้มหน้าของเธอออก
“ครั้งเดียวนะคะ” เธอหน้ามึนเอานิ้วจิ้มนมจึ๊กจึ๊ก
“นินจา 2 เรียกนินจา1 ขออนุญาตเข้าชิงตัวเป้าหมายครับ” เสียงวิทยุของเจ็ทโด้ดังขึ้น
นาตาลีเด้งนั่งมองยิ้มดวงตาใส ฉันชักหงุดหงิดกับไอ้นินจา 2 นี่แล้วล่ะ...ยุ่งไม่เข้าเรื่อง
“ไม่ได้!! ภารกิจยกเลิกแล้ว เราไม่มีทีมสนับสนุน” เขาตอบหนักแน่น แต่สายตาก็มองไปที่ปราสาท แล้วถอนหายใจบ่อย
“เป้าหมายอยู่ในอันตราย ทีมล่าสังหารเข้าใกล้ตัวเหยื่อเกินไปแล้ว” นินจา 2 รายงาน
“โดรนยังมองอยู่ อย่าเด็ดขาด!” เขาแหงนมองขึ้นฟ้า
“ถ้าไม่เข้าไปตอนนี้ จะช่วยเหยื่อไม่ทันนะครับ” เขาดื้อด้านจัง ฉันเริ่มเกลียดไอ้หมอนี่แล้ว จะขัดคำสั่งไปถึงไหน อยู่ใกล้ ๆ จะตบสักฉาด
“นินจา 2! ถ้านายไปช่วย นายตายแน่” ฉันสุดจะทน ตะโกนสวนไปในวิทยุ ได้ยินหรือเปล่าไม่รู้? หันไปใส่เจ็ทโด้ต่อ...
“ลูกน้องอย่างนี้ต้องตบให้หัวทิ่ม ขนาดหัวหน้าสั่งยังไม่หยุด ลูกน้องของซอนไม่มีแบบนี้สักคน พวกนั้นเล่นกันเสียงดัง แค่หมวดจางหันมอง ยังกระโดดสระเลย” ฉันไม่สบอารมณ์แล้ว
“นินจา 2! ไปเอาตัวมาให้ได้นะคะ!” เธอกะดี๊กะด๊า ตะโกนแทรก
“ถ้าไม่เข้าชิงตัวตอนนี้ เธอตายแน่นอนครับ” เขาต่อรอง เจ็ทโด้ส่ายหัวถอนหายใจ สายตาคิดหนัก
ฉันเหลืออดแล้ว ดึงวิทยุมาพูด...
“นินจา 2 นายกลับมาเดี๋ยวนี้ หงุดหงิดแล้วนะ!” ฉันว้ากเสียงดังเจ็ทโด้หันมาค้อนแล้วดึงวิทยุคืน ...
“ภารกิจล้มเลิกแล้ว ไม่ได้ทุกประการ อันตรายเกินไป ถ้าพลาด เราจะโดนเปิดเผยตัวตน” เขายังปฏิเสธหนักแน่น ดีมากเจ็ทโด้ ฉันรักคุณตบไหล่ให้รางวัลไป 1 ที
“ทบทวนใหม่อีกครั้งครับ เดี๋ยวไม่ทันการ พลาดแล้วเอาคืนไม่ได้นะครับ” เสียงเขาอ้อนวอน แต่ฉันไม่ยอม ดึงวิทยุมา...
“ถ้านายเข้าไปช่วย ฉันจะข่วนหน้านาย คอยดูสิ” ฮึ่ม! โกรธอกจะแตกอยู่แล้ว ถ้าอยู่ใกล้ ๆ ฉันจะจกตาให้บอดเลย
เขาไม่ย่อท้อ...
“ช้าไม่ได้แล้ว! งานนี้ผมขอทำส่วนตัวนะครับ เปลี่ยน!” เขายังดื้อดึงไม่ยอมรับคำสั่ง
นาตาลีกระโดดดีใจ...
“ดีมากเลย! ไฟท์ติ้ง!!” ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งเลยนะ ยังจะหันมายักคิ้วให้อีก นินจา 2 กวนใจฉันซะแล้ว เดี๋ยวนายจะรู้ว่า นรกมีจริง
เจ็ทโด้ตะโกนใส่วิทยุ...
“กลับมาเดี๋ยวนี้! ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน? นินจา 2 ๆ ๆ ไอ้แจ๊ค ๆ แม่ง! ปิดเครื่องหนีอีกแล้ว ไอ้นี่!...”เขาขว้างวิทยุลงเบาะแล้วเกาหัวอมยิ้ม //ตกลงโกรธหรือไม่โกรธกันแน่วะ…ฉันแอบเห็นนะ//
“ไปกันเถอะ!” เขารีบออกรถอย่างเร็ว
“อย่าให้เจอตัวนะ! นายตายแน่ ไอ้นินจา 2 ” ฉันหมายหัวไว้ ไม่น่ามาเจอไอ้บ้านี่เลย อารมณ์เสียชะมัด
หัวใจเดือดปุดปุด มีคนมาจัดการล้างแผลในใจให้แล้วแท้ ๆ เชียว ยังมีมารมาผจญอีก ฉันเฝ้ารอวันที่จะล้างแค้นมา 5 ปีแล้ว ทั้งฝึกยิงปืน ฝึกขับรถ ตอนนี้ไปศึกษาเกี่ยวกับยาพิษที่โรงพยาบาลเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แกเป็นใครถึงขัดคำสั่งหัวหน้า อย่าให้เจอนะ ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่ ไอ้นินจา 2
............................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,861 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,977 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |