The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 5 ตอนที่ 27

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 5 ตอนที่ 27
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 5
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 2 เม.ย. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

โลซาน สวิตเซอร์แลนด์

มุมมองสายตา ชเว จูยอน

กันยายน ค.ศ.2024

เซฟเฮาส์ริมทะเลสาบของ Exon Service 

ตลอดเวลาแรมเดือนที่อยู่ที่นี่ ฉันถูกทิ้งไว้กับนินจา 2 เราทั้งสองไม่ต่างไปจากนักโทษกับผู้คุม นอกจากนาตาลีแล้วก็ไม่มีคนพูดด้วย ฉันต้องหาความเชื่อมโยงของเรื่องจากเขาก่อนดีกว่า ไม่มีข้อมูลอะไรเลยไม่รู้จะรับมือกับความเข้าใจผิดของไป่ไป๋ได้อย่างไร?

“ขอโทษนะคะ ฉันอยากไปที่ปลายสะพานได้มั้ยคะ?” ฉันตะโกนถามลงไปใต้ถุนบ้าน

“ได้ครับ! ผมพาจะพาไป” เขาแหงนหน้าตอบก่อนจะเดินออกไป ฉันรีบออกจากบ้านเดินลงไปหาเขา

“ที่นี่สวยดีนะคะ” เริ่มการเจรจาหาความสัมพันธ์

“ครับ!”เขาตอบแล้วเดินหนีไปบนสะพานไม้ที่ทอดยาวลงไปในทะเลสาบ

“คุณรู้จักกับสองสาวนั่นมาก่อนรึเปล่าคะ?” ฉันรีบก้าวขาเดินตาม

“ไม่รู้จักครับ”

“คุณรู้จักเจ็ทโด้นานหรือยังคะ?” ฉันตะล่อมถามไปเรื่อย ๆ แอบสังเกตท่าทางของเขา

2 ปีครับ”เสียงอู้อี้ผ่านหน้ากากของเขาฟังไม่ถนัด

“คุณทำงานให้กับใครคะ?”

“เงินครับ”

“หึหึ!องค์กรชื่ออะไรคะ?”

“............”

“ได้รับคำสั่งจากใครให้มาเอานกหวีดคะ?”

“............”

“ถามไปก็คงไม่ได้คำตอบ ฉันถามเรื่องอื่นดีกว่า ถ้าฉันจะไปเกาหลเหนือจะไปได้ยังไงโดยไม่ต้องผ่านสนามรบ” ฉันโดนยึดนกหวีดไปแล้ว ไม่มีอาวุธติดตัว

“จะไปทำไม เกาหลีเหนืออันตรายมาก” เขาถามได้นิ่งมาก ท่าทางเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

“ฉันเป็นคนเกาหลีเหนือค่ะ”

“ติดรถทหารกลับไปได้มั้ยครับ พวกเขาส่งทหารมาช่วยรัสเซียรบ”

“ไม่เหลือแล้วค่ะ โดนนกหวีดตายหมดแล้ว”

“ผมเห็นมีรถไฟจากมอสโควไปพยองยางนี่ครับ”

“ระยะทางมันไกลมาก เสี่ยงเกินไปสำหรับฉันค่ะ”

“คุณจะกลับเมื่อไหร่ครับ?”

“ถ้าพวกคุณปล่อย ฉันก็คงทำธุระที่นี่อีกสัก 2 เดือนแล้วจะกลับค่ะ”

“คุณคงต้องต่อเครื่องบินหลายครั้ง บินจากที่นี่ไปคาซัคแล้วเข้าจีน”

“ฉันเข้าจีนไม่ได้”

“งั้นก็ไปมองโกเลีย”

“โอเค! ขอบคุณนะคะ คงเดินทางเหนื่อยเลย”

“ไปคนเดียวเหรอครับ คุณยังไม่มีครอบครัวเหรอ?”

“ฉันไม่มีเวลาคิดเรื่องนั้นเลย ฉันอยู่กับที่ได้ไม่นานจะเอาบ้านที่ไหนเลี้ยงลูกคะ ที่สำคัญ! คุณก็เห็นว่าฉันโดนตามล่า”

เสียงวิทยุที่เอวของเขาดังขึ้น...

“แกรก! แจ็ค!พาจูยอนมากินข้าวด้วย”

“เชิญครับ!ไปทานข้าวกัน”

ฉันเดินตามกลับเข้าบ้านไปที่ห้องอาหาร หย่อนก้นลงนั่งข้างไป่ไป๋!... 

“ไปนั่งข้างอนนี่โน่น!เธอไล่โดยไม่มองหน้า

โต๊ะกินข้าวสี่เหลี่ยม...เธอนั่งตรงกันข้ามกับนาตาลี ฉันเดินอ้อมไปนั่งด้วย สักพักเจ็ทโด้ก็เดินมาร่วมวงนั่งลงข้างเธอ              

“อันยองฮาเซโย! ฉันยิ้มก้มศีรษะให้เขาอย่างอ่อนโยน ไม่ได้คุยกับเขาเป็นเรื่องเป็นราวเลย เขามักจะไม่อยู่บ้านออกไปข้างนอกตลอด

เขาก้มหัวให้เล็กน้อย แม้วันนี้เขาจะอยู่ในชุดลำลอง แต่เขาก็ยังสุขุมเหมือนตอนที่เขาบวช ใบหน้าสะอาดสะอ้านผมสั้นเกรียน   

“มาเสิร์ฟได้แล้ว หิวแล้ว!” ไป่ไป๋หันไปสั่งนินจา 2 ที่ยืนอารักขาหน้าประตู

แม่บ้านชาวสวิตฯ เข็นรถอาหารเข้ามา เขาเข้าไปช่วยจัดการยกอาหารเสิร์ฟ  

“ฉันทำให้เองดีกว่า”นาตาลีลุกเดินยิ้มเข้าไปหา เขาถอยหลังออกไปสามก้าวยืนตรง                         

“อนนี่ไม่ต้องทำให้หนูนะ หนูจะให้นินจาทำให้” เธอแสบจริง ๆ พูดแล้วยิ้มเยาะย่นจมูกไปให้เขา

เจ็ทโด้มองหน้าฉันแล้วเอ่ยขึ้น...       

“ผมคงช่วยคุณได้แค่นี้ คุณจะเอายังไงต่อ?” เขาหน้านิ่งกับฉัน แต่หันไปยิ้มกับไป่ไป๋ ความรู้สึกเคว้งคว้างมืดมนเข้าเกาะกุมจิตใจ ความห่างของความรู้สึกผลักให้ไม่กล้าสนิทสนม            

“ฉันยังไม่มีที่ไป ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะทำอย่างไรต่อค่ะ บ้านคุณตาของฉันที่นี่ก็ไปไม่ได้ พวกเขาอาจจะได้รับอันตราย” ฉันรู้สึกหดหู่ใจ

“เรื่องของคุณ! ไป่ไป๋เข้ารุม

ฉันยิ้มไม่ถือสา...         

“ไม่เป็นไรค่ะฉันจะหาวิธีเอง อย่างไรเสียฉันก็ต้องกลับไปเกาหลีเหนือ ขอเวลาฉันคิดอีกหน่อย” ฉันหัวใจสลาย เมื่อพวกเขาปฏิเสธออกมาก่อนและจะทิ้งฉันไว้คนเดียว ยอร์น!..คนที่คอยปกป้องฉัน ก็จากไปแล้ว ชีวิตที่ไม่มีทางเลือก ย้อนกลับมาหาฉันอีกครั้ง             

“นินจา 2! ตักข้าว” ไป่ไป๋เรียกจิก เขาเดินมารับจานข้าวไปตักแล้วมาเสิร์ฟให้               

“อยู่ในบ้านจะใส่ชุดนี้ทำไม ฮึ?” เธอเจ้ากี้เจ้าการกับเขาตลอดนินจา 2 รูปร่างสูงใหญ่ใส่ชุดคอมมานโดคลุมมิดไปทั้งตัว ยกเว้นมือสองข้างที่ไม่ได้สวมถุงมือ เห็นแผลเป็นจากไฟไหม้เนื้อตายปูนโปน

“นี่นี่!..นายมีเมียหรือยัง? เอายายนี่ไปอยู่ด้วยสิ”เธอพูดแล้วชี้มาที่ฉัน สายตาที่มองมาเหมือนฉันเป็นของไร้ค่า

นาตาลีหันไปมองน้อง...          

“น่าเกลียด! ขอโทษนะคะจูยอนอนนี่ ขอโทษนะนินจา2” เธอคอยห้ามทัพตลอด         

“มือมีแต่แผลเป็นไม่รู้จักรักตัวเอง อย่าเอามือมาโดนข้าวของฉันนะ กินไม่ลง!” เธอชักสีหน้า เขารีบเอามือซุกกระเป๋า ถอยห่างไปยืนหน้าประตูห้อง

นาตาลีหันมายิ้ม...

“อนนี่! ไปอยู่ด้วยกันก็ได้นะคะ ฉันทำศูนย์วิจัยเล็ก ๆ ที่บ้านของซอน” เธอยื่นข้อเสนอที่ชโลมใจ เหมือนคนไข้กำลังขาดใจได้รับออกซิเจน

ไป่ไป๋โบกมือห้าม...                 

“โน๊โน! ถามหนูหรือยัง?” งานเข้าอีกแล้ว เธอโกรธอะไรนักหนา

“เรามีที่พักเหลือเฟือ เธอตัวนิดเดียวไม่เปลืองหรอกค่ะ” นาตาลีส่งสายตาอ้อนวอน

ฉันรีบยกมือห้ามทัพ...             

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ! ปล่อยฉันไว้ที่นี่ก็ได้ แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว ขอบคุณนะคะทุกคน นินจา 2 ด้วยนะคะ ขอบคุณมากเป็นพิเศษที่ช่วยฉันออกมาความตาย” ฉันก้มศีรษะขอบคุณจากใจ

คิดในใจ...หมาแมวไม่มีบ้านก็ยังอยู่ได้ เราเป็นคนต้องเอาตัวรอดได้สิ ฉันเลยวัยพึ่งพาและร้องขอมาไกลมากแล้ว ต้องยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง

ไป่ไป๋ขยับตัว...            

"ไปเลย! อย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย ชาตินี้และชาติไหน ๆ” เธอเคี้ยวข้าวตุ้ยไม่สนใจความรู้สึกของใครเลย อย่างนี้ต้องคุยกันหน่อยแล้ว ปล่อยไว้ไม่ได้ เธอจะเข้าใจผิดไปตลอดชีวิตแน่                  

“ขอถามหน่อยนะคะ? คุณโกรธฉันด้วยเรื่องอะไรหรือคะเจ็ทโด้?”ฉันยิงตรงไปที่หัวโจก

“หือ! ผมเหรอ?” เขาชะงัก..ในขณะกำลังตักข้าวเข้าปาก เลิกคิ้วเอียงคอมามอง

“ใช่!               

“ไม่ได้โก๊ด!! จะโกรธคุณเรื่องอะไร? คุณไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา”เขาเสียงสูงเมินหน้าแทะปีกไก่ต่อ           

“อย่างไรซะ พวกเราก็คงจะไม่เจอกันอีกแล้ว มาพูดความในใจกันเถอะค่ะ ถึงพวกคุณจะมองว่าฉันเลว แต่คนอย่างฉัน ไม่เคยเนรคุณใครหรอกนะคะ”

“พวกคุณทุกคนช่วยฉันโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ฉันจะหักหลังได้อย่างไร? ฉันลำบากเรื่องเงิน นาตาลีก็โอนเงินมาให้ ฉันลำบากกายไป่ไป๋ก็ช่วยเหลือ ฉันเหงาไม่มีเพื่อนก็ยังได้คิดถึงพวกคุณ ฉันระลึกอยู่ตลอดเวลาว่า ฉันยังมีพวกคุณเป็นเพื่อน” ฉันอยากจะควักหัวใจออกมาวาง ตลอดเวลาที่ผ่านมามีแต่ความคิดถึงและไม่เคยคิดร้าย

ไป่ไป๋หันมอง สายตาลอกแล่ก...                     

“น้ำ ๆ ของน้ำหน่อย! เธอโวยวายตบอก หันไปหานินจา2 ที่ยืนนิ่งเป็นหุ่นไม่ขยับตัวที่ริมประตู

“นี่! หูหนวกรึไง?” เธอตวาดแว้ด

เขาสะดุ้งเดินก้มหน้าเข้ามา ค่อย ๆ ดึงมือน่าเกลียดออกจากกระเป๋ากางเกง ท่าทางประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ยื่นไปรับแก้วจากเธอแล้วเดินไป เขาเกร็งจนทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน น่าสงสารจังเลย...               

“เขาคงเกรงใจ คุณไปว่ามือเขานี่ ทำไมต้องไปจี้จุดอ่อนคนอื่นด้วย นิสัยไม่น่ารักเลย ไม่มีความน่ารักหลงเหลือเลย”

เธอมองสายตาหยัน...             

“เดือดร้อนแทนกันเหรอ? ฉันต่อว่าเขาก็จริงแต่ไม่ได้รังเกียจ ฉันเป็นพยาบาลแค่แผลเป็นธรรมดาใคร ๆ ก็เป็นได้ ฉันแค่แกล้งเขาเฉย ๆ ไม่ได้เกลียดเขานะ แต่ฉันเกลียดคุณ” เธอจวกยาวเลย

“อย่าว่า ปมด้อยคนอื่นสิคะ มันทำร้ายจิตใจ” นาตาลีช่วยเสริมอีกคน แต่เธอไม่สนใจ ลอยหน้าลอยตาแทะปีกไก่...                    

“ให้มันไว ๆ หน่อยได้ไหม? อย่าให้ขาดช่วงสิ”เธอรับน้ำแล้วทุบท้องเขาอีก นิสัยก้าวร้าวแบบนี้ไปหัดมาจากไหน? เด็กสาวแสนสวยสดใสใจดีคนเดิมของฉันหายไปเลย เห็นเธอแล้วก็คิดถึงแทน เขาไม่น่ารีบจากไปเลย                    

“คุณหลอกพวกผมทำไม?” เจ็ทโด้ถามขึ้นมาลอย ๆ

“..........” ทุกคนเลยเงียบกันหมด                    

“เรื่องอะไรคะ? ฉันอาจจะหลอกทุกคนในโลกนี้ แต่ฉันไม่เคยหลอกคุณ ทุกเรื่องที่ฉันพูด ล้วนออกมาจากใจทุกครั้ง” ฉันจ้องดวงตาของเขาเพื่อแสดงการจริงใจ                    

“คุณกับลูอิส...เอ่อ...เป็น...เป็นอะไรกัน? ผัวเมียกันเหรอ?”

“หือ!” เอาอะไรมาพูดวะเนี่ย?

“คุณสร้างนิยายน้ำเน่า หลบหนีความเหลื่อมล้ำจากบ้านเกิด พระเอกมารับออกจากซ่องแอบบนรถบรรทุก คลาสสิกมาก”เขาแทะปีกไก่ไปเรื่อย

 ไป่ไป๋ลูกคู่พยักพเยิด...

“ผัวเมียทะเลาะกันแล้วสร้างสตอรี่ สงสัยอยากมีคอนเทนต์” มันเรื่องอะไรอีกล่ะเนี่ย?  จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย                 

“เอาไป! จู่ ๆ เธอก็ยื่นกระดูกไก่มาให้ บมาแบบงง ๆ

“อะไรคะ ให้ทำไม?” ฉันไม่เข้าใจ พลิกกระดูกไก่ดู

“รางวัลแกรมมี่อวอร์ด สุดยอดนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจักรวาล” เธอลอยหน้าตอบน่าหมั่นไส้ นาตาลีก้มหน้าอมยิ้ม นินจา2หัวเราะฮึฮึ           

“ฉันไม่เคยโกหกพวกคุณเลย ฉันหนีออกมาจากเกาหลีเหนือจริง ๆและยอร์น!...เอ่อ!...ลูอิส! ก็มาช่วยฉันจริง ๆ ในตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคือใคร?” ฉันบอกตามจริง ฉันยังกลัวเขาด้วยซ้ำไป             

“จะเอาหลักฐานอะไรมายืนยัน โกหกก็รับมาเถอะเผื่อจะลดโทษให้บ้าง ดอกเตอร์เหยียนลี่เหมินเพื่อนของคุณก็หักหลังนาตาลี พวกเราเกือบตายเพราะพวกคุณทั้งนั้น” ไป่ไป๋เป็นลูกคู่กับเขาอย่างดี พอกันทั้งลูกพี่ลูกน้อง

“ฉันไม่รู้เรื่อง!” เรื่องนี้น่าตกใจ

“ลูอิส!..ส่งคนไล่ฆ่านาตาลีด้วย พวกเราโดนมือปืนสไนเปอร์ลอบยิงเลยต้องหนีไปหาซอน”

“แต่เรื่องนี้ ฉันตกลงกับเขาแล้ว เขารับปากแล้วว่าจะไม่ทำร้ายดอกเตอร์” เอ๊ะ!เขาโกหกเหรอ?

“พวกเดียวกันก็เลวเหมือนกัน” ไป่ไป๋สะบัดหน้า

“หวังว่า ทุกคนยังจำได้นะคะ ฉันเจ็บตัวมากกว่าใคร ไป่ไป๋! คิดว่าฉันแกล้งถูกแทงหรือเปล่าคะ? แผลเป็นยังอยู่เลย” ฉันทบทวนเรื่องราวเก่า ๆ ที่เฉียดตายมาด้วยกันแล้ว ขยับเก้าอี้ลุกขึ้นยืนช้า ๆ...

“ครืด!” หมุนตัวเปิดชายเสื้อด้านหลังโชว์รอยมีดยาวที่บั้นเอว นาตาลีนั่งพยักหน้าอยู่ข้าง ๆ

แต่...

“แสดง ๆ ” ไป่ไป๋กะแนะกะแหน ลอยหน้าลอยตาพูดน่าหมั่นไส้

“..........” เจ็ทโด้หรี่ตามองมาที่ฉัน สองคนนี้เข้ากันเป็นใส้เดือนกับดินเลย ถ้าฉันไม่เห็นว่า เธอนอนกับนาตาลีก็คงคิดว่าเป็นเมียเขาแน่ ๆ เข้าขากันจัง                       

“เล่าต่อไปสิ!” เขาสั่ง 

“เจ็ทโด้กินนี่สิคะ ชิ้นสุดท้าย” ไป่ไป๋ส่งปีกไก่ทอดให้เขา แล้วหันไปมองนินจา2

 “ไม่เห็นหรือไง? ปีกไก่หมดแล้วไปเอามาอีก” เธอแหวใส่เขา นิสัยไม่น่ารักเลย ไม่น่ารักสักนิดเลย                        

“หลังจากที่ฉันได้สัญชาติใหม่ ก็เจอลูอิสอีกครั้งที่กรุงโซล เขาพาไปดูโครงการสร้างโลกใหม่ ที่มูลนิธิ Neo Hebrews ที่นาตาเนีย ฉันเห็นว่ามันจะทำให้ฉันไปถึงเป้าหมาย และฉันเห็นด้วยกับโครงการของเขา ฉันเกลียดมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ มนุษย์ปัจจุบันสรรหาแต่เรื่องทำลายล้างไม่มีเรื่องสร้างสรรค์ที่แท้จริง”

“ฉันอาจจะเห็นแก่ตัวที่คิดแต่จะล้างแค้น แต่ฉันไม่ได้ทำร้ายแทนนะคะ! ถ้าไม่ได้เขากับไป่ไป๋ช่วยไว้ ฉันคงตายไปตั้งนานแล้ว ฉันจะทำอย่างนั้นทำไม? ฉันคิดว่า เป็นหวังฉวนกับทหารจีนนะคะ”

นาตาลีพยักหน้า...

“คุณแต่งงานกับลูอิสเหรอคะ?”

“บ้า! ไม่ใช่! เขาเป็นผู้มีบุญคุณ เหมือนพี่ชายใจดี เราสัมพันธ์กันแบบนั้นไม่มีเรื่องอื่น”

เจ็ทโด้หันขวับ...          

“แค่!..แค่พี่ชายหรอกเหรอ?” เขาอ้อมแอ้มถามไม่สบตา

“ใช่ค่ะ! คุณก็รู้นี่คะว่า..ฉันชอบคนแบบไหน?และไม่เคยเปลี่ยนใจไปจากเดิม”

“เอ่อ!เอ่อ!” เขาอึกอักก้มหน้าก้มตาแทะปีกไก่

ไป่ไป๋เอียงคอมอง...

“เป็นอะไรไป อย่าเชื่อนะ!” ยายตัวแสบชี้นำตลอด ยังไงเราก็จะไม่เจอกันอีกแล้ว พูดกันตรง ๆ ไปเลย...

“ฉันยังคงเก็บเรื่องราวเก่า ๆ ไว้คิดถึงมันและมีความหวังที่จะได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีก แต่จากนี้ไปฉันจะลบทุกคนไปจากความทรงจำ จะไม่คิดถึงมันอีกแล้ว”

“เอ่อ! เขาหลบสายตา หยิบแก้วน้ำขึ้นดื่มอั่ก ๆ ๆ จนหมด             

“ยัยปีศาจกิมจิ! ใครชอบใคร?” ยายศูนย์กลางจักวาลโวยวาย

“............” ฉันรีบหลบสายตาจากเขา ไม่อยากให้น้อง ๆ รู้เรื่อง เขาเองก็อึกอักยัดไก่เข้าปากเคี้ยว

“อั่ก!อั่ก!อั่ก! ฉันเองก็ยกน้ำดื่มดับร้อน ใจเต้นแรงมาก ไม่น่าพูดไปเลย

นาตาลียื่นหน้าพรวดเข้ามาประชิด...

“คุณชอบเจ็ทโด้เหรอ?”              

“พรวด! ฉันสำลักน้ำพรวดใส่หน้าไป่ไป๋

ในจังหวะเดียวกัน...

“พรวด! เจ็ทโด้สำลักไก่เต็มหัวน้องเลย

“เฮ้ยขอโทษ! เขาเลิ่กลั่กหันซ้ายขวาทำอะไรไม่ถูก รีบลุกยืนโกยไก่บนหัวน้องใส่จาน

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!” นินจา 2 หัวเราะตัวโยน

ยายน้องเงยหน้า ขมวดคิ้วเพ่งมองเจ็ทโด้...             

“ทำไมต้องสำลักพร้อมกัน? มีพิรุธนะเนี่ย! ยายนี่ฉลาด อะไรที่ผิดสังเกต เธอเป็นต้องเห็นก่อนทุกครั้ง เธอปัดเศษอาหารออกจากหัวตัวเอง

เจ็ทโด้อมยิ้มมอง แล้วขยับหมุนตัว...          

“ผมอิ่มแล้ว”             

“เดี๋ยวสิ! ยังไม่หมด เธอฆ่าแทนด้วย หนูก็เกือบตายนาตาลีก็โดนยิง” เธอดึงแขนให้เขานั่งลง หัวหูยังเต็มไปด้วยเศษไก่

นินจา 2 เดินยกถาดปีกไก่ทอดมาเพิ่ม

“หิวมาจากไหน กินทีละคำสิ” เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วถอยออกไป

“ไม่ต้องยุ่ง!” เธอหันมองตาเขียว แล้วลุกเดินตูดบิดออกไปล้างตัว

พอลับหลัง...

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! พวกเราก็หัวเราะกันครืน ถึงจะร้ายแต่ทุกคนก็รัก  ฉันเข้าใจแล้วว่า เธอโกรธเรื่องอะไร แต่จะอธิบายยังไงให้เธอเข้าใจดีนะ เด็ก ๆ พวกนี้น่ารัก ไม่อยากผิดใจกัน

เธอล้างตัวเสร็จก็เดินลั้ลลาสบายอารมณ์ออกมา เจ็ทโด้ชวนคุยต่อทันทีที่เธอนั่ง...               

“ไป่ไป๋! เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เจ้าแทนมันโดนระเบิดตาย จูยอนไม่เกี่ยวหรอก ทหารจีนโน่นที่ฆ่ามัน คุณก็อยู่ในเหตุการณ์นี่” เขาหยิบไก่ส่งให้นาตาลี 

ไป่ไป๋ตาโตใส่เขา...             

แอ๊!..แต่เธอเป็นพวกเดียวกันกับคนที่ตามล่าหนูนะ ทั้งลูอิสทั้งหวังฉวน เพื่อนซี๊เธอทั้งนั้น” แหม...ช่างสรรหาคำพูดยัดเยียดความผิด

ฉันคิดในใจ..ขมไปแล้วน้องสาว..ชงดีจริง ๆ โยงทุกเรื่องมาเป็นเรื่องเดียวกัน เธอจงเกลียดจงชังชงเรื่องให้ไม่หยุดหย่อน ฉันก็พยายามเต็มที่แล้ว ยกมือขอพูดก่อนที่เรื่องจะเลยเถิด...               

“ฉันไม่ได้ตามล่านาตาลีนะ หลังจากที่นกหวีดอันแรกหายไป ลูอิสก็เปลี่ยนชุดนักวิทยาศาสตร์ทั้งหมด โดยใช้คนจากอิสราเอลและไม่เคยพูดถึงนาตาลีอีกเลย ฉันยืนยันเรื่องนี้ได้ ฉันอยู่ตรงนั้น คุณต้องเชื่อฉันนะ”

“พวกเดียวกัน!” ไป่ไป๋แขวะตลอด พูดอะไรไปก็ไม่เข้าหูเธอ

“เงื่อนไขที่ฉันเข้าร่วมโครงการกับลูอิสคือ เขาสัญญาว่า จะปล่อยนาตาลีไป ฉันเคยเดินทางไปกับเขาที่มูลนิธิ Neo Hebrew ที่อิสราเอล เขามักจะวุ่นวายอยู่กับหน่วยฝึกมนุษย์กลายพันธุ์ เขาเตรียมแผนการสร้างโลกใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้วัคซีนที่หมวดจางกับนาตาลีช่วยกันทำขึ้นมาจะควบคุมได้แค่ 30 นาที แค่นี้ก็ล้างโลกให้สะอาดได้ อีกไม่นานก็จะถึงเดือน 9 แล้ว แต่ต้องมาหยุดชะงักลงไปก่อน” ฉันนั่งตัวตรงอธิบายอย่างใจเย็น              

“เดือน 9 ปีนี้เหรอครับ”เจ็ทโด้ถาม             

“วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2026 ที่จะถึงนี้ คือวันล้างโลก ที่ถูกกำหนดไว้”

ถึงฉันจะรู้อยู่ก่อนแล้วก็ตาม แต่พอพูดออกมาก็ทำให้จิตใจหวั่นไหวไปด้วย         

“9 เดือน 9 นั่นมันวันตายของประธานเหมา เจ๋อ ตุง นี่นา มั่วหรือเปล่า?”ไป่ไป๋ยังไม่ยอมปรองดอง แล้วประธานเหมามาเกี่ยวอะไรด้วย? เธอจะไปลากเขามาด้วยทำไม?   

เจ็ทโด้ขยับถาม...                    

“แล้วหลังจากนี้ แผนการของคุณจะทำยังไงต่อ”เขาถามในขณะที่นินจา 2 เดินมาเก็บจานที่กินเสร็จแล้วออกไป                       

“ฉันไม่กล้ากลับไปที่มูลนิธิฯแล้วล่ะ พวกเราแพ้แล้วทุกอย่างล่มสลาย หลังจากนี้พวกเขาคงตามล่าฉันเพื่อเอานกหวีดคืน ในขณะเดียวกัน ทางหวังฉวนก็ตามล่าฉันด้วยเหมือนกัน ฉันมีศัตรูรอบตัวคงต้องหาที่ซ่อนตัว” ฉันบอกด้วยความหวั่นใจ   

ถ้ายอร์น...ไม่เอานกหวีดของเขามาให้ ฉันจะไม่คิดมากเลย กลับไปทำงานที่มูลนิธิต่อแน่นอน เขาไม่เคยบอกว่า มีนกหวีดอันที่ 8 แสดงว่า เขาก็เตรียมหักหลังทุกคนเหมือนกันสินะ            

“ในความเห็นของคุณ โครงการนี้จะมีคนสานต่อหรือไม่ อย่างไร?”เจ็ทโด้สัมภาษณ์ต่อ                      

“ตอนแรกฉันคิดว่า ที่มูลนิธิต้องมีคนมาสานต่องานแน่นอน แต่ตอนนี้คิดว่าคงไม่ใช่ เยรูซาเลมแตกแล้ว ส่วนหวังฉวน! เอานกหวีดไปทำอะไรฉันไม่รู้? ในส่วนของฉัน ๆ มีเป้าหมายเดียว กลับเกาหลีเหนือปลดปล่อยประชาชน ฉันต้องกลับเกาหลีเพื่อเริ่มภารกิจของฉัน ถึงแม้โครงการของลูอิสจะล้มเหลว แต่ฉันไม่ล้มเลิกแน่นอน”

เจ็ทโด้กับนาตาลีนั่งฟังแล้วพยักหน้าตามอย่างสนใจ ส่วนยายสาวน้อย ลอยหน้าลอยตาแทะปีกไก่            

“ผมเป็นคนเก็บสมาชิกของทีมคุณเอง ทหารจีนมาจ้างบริษัทที่ผมทำงาน และเอานกหวีดไปแล้ว 5 อัน คนที่มารับนกหวีดไปเป็นนายพลจีน”

“หือ! ฉันใจหายวาบโลกมันกลมจริง ๆ ฉันคิดถูก หวังฉวน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและกองทัพฯ จากจีนเป็นตัวการหักหลัง

“ก๊อก! ก๊อก! ไป่ไป๋เคาะโต๊ะ...           

“คุยกันดีมากไปแล้วนะ จะไม่โกรธแล้วเหรอ? จบแล้วเหรอ? จะไม่เอาเรื่องเธอเลยรึไง?” เธอฉอด ๆ ๆ ตาโตเท่าไข่ห่านหันจ้องหน้า เขาส่ายหน้ายิ้มบาง ๆ แววตาใส  นาตาลียิ้มขยับตัวเข้ามา...             

“งั้น! มาโหวตกันค่ะ ฉันเสนอให้พาจูยอนกลับไปอยู่ด้วยกัน หมวดจางจะได้ขอโทษเธอด้วย ใครเห็นด้วยยกมือค่ะ” เธอยกมือนำ             

“โหย! หนูยังโกรธอยู่เลยนะ หนูไม่โหวตให้หรอก เจ็ทโด้อย่ายกมือนะ”  สาวน้อยหน้าเริ่มเสีย โบ๊ะบ๊ะ! กางแขนห้ามทุกคน             

“ผมเห็นด้วย! รู้สึกขอบคุณที่เขายกมือโหวตให้ฉันไปอยู่ด้วย

ความคิดแวบขึ้นมา ยอร์นได้ลงทุนให้ไว้แล้ว ฉันเข้าเกาหลีเหนือได้แล้ว กลับไปทำในสิ่งที่รอคอยดีกว่า

ไป่ไป๋โหวตแพ้นั่งหน้าหงิก ฉันส่งยิ้มให้เธอ...              

“ขอบคุณนะคะ! ถ้ามีโอกาสจะไปเยี่ยม ฉันต้องกลับเกาหลีเหนือก่อน ภารกิจสุดท้ายของฉันอยู่ที่นั่น” ฉันได้กำลังใจแค่นี้ก็เพียงพอที่จะเดินทางต่อไปแล้ว

เขาขยับลุกจะเดินจากโต๊ะ ไป่ไป๋รีบลุกขึ้นกางแขน...             

“ช้าก่อนท่านทั้งหลาย..นินจา 2 ยังไม่ได้โหวต” ว่าแล้วเธอก็ลุกไปลากแขนเขามายืนข้างโต๊ะ             

“นายได้ยินหมดแล้วใช่ไหม? นายต้องโหวตด้วยเพราะอยู่ในห้องเดียวกันถือว่า พวกเดียวกัน” เธอพูดเสียงเล็กเสียงน้อยปะเหลาะเขา

พวกเรานั่งยิ้มดูเธอโกงตาใส         

“แต่ก่อนจะโหวต หนูมีอะไรจะคุยกับนินจา 2 สักหน่อย” เธอหันหลังแล้วลูบใบหน้า ก่อนจะหันไปยิ้มหวานเปลี่ยนเป็นอีกคน เธอแปลงร่างได้ด้วย ยายกะล่อน!            

“นายรู้ใช่มั้ย? ที่ฉันลงโทษนายเพราะว่า โกรธยายนั่นจริง ๆ ฉันไม่เคยเกลียดนายเลยนะ” เธอใช้เสียงสองเสียงสาม จีบมือไปดึงแขนเสื้อ                “อือ!” เขาพยักหน้า เธอขยับรุกเผชิญหน้า...               

“งั้น! ก็คงเข้าใจได้ว่า เราสองคนไม่ได้โกรธกัน จากนี้ไปเราก็จะเริ่มนับ 1 เป็นเพื่อนกัน” เธอฉอเลาะเดินอ้อมหลัง

“อือ!” เขาพยักหน้าอีกครั้ง                  

“นายคงได้ยินเหตุผลหมดแล้ว ตัดความรู้สึกส่วนตัวออกไป ใช้ความถูกต้องด้วยหลักเหตุและผลเพื่อผดุงความยุติธรรมในใจ นายควรจะโหวตตามฉัน เพราะยายนั่นฆ่าแฟนของฉัน เข้าใจไหม?” ดู ๆ เธอพูดหักคอ

“อือ!” นินจา 2 ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ               

เธอหันมายิ้มเยาะพวกเรา ฉันสะดุดหู เธอเป็นแฟนกับแทนเหรอ?  แล้วนาตาลีล่ะ? งงไปหมดแล้ว               

“ทุกคนพร้อมนะคะ! นินจา 2 จะโหวตแล้ว พร้อมนะค้า” ยายเจ้าเล่ห์ผายมือให้เขา ขี้โกงจริง ๆ เธอสู้ยิบตา

เอ่อ!..” เขากำลังจะพูด

“ช้าก่อน! ยังมีอีกเรื่องนึง” เธอชิงยกมือตัดหน้า แล้วหันไปกระซิบ        

“ไม่ลืมใช่มั้ย ฉันเป็นคนเอาข้าวไปให้นายกินทุกวันนะ?” เรื่องนี้จริง ฉันเห็นทุกวันตอนที่เขาติดคุก เธอเข้าไปหาเขาทุกวัน

เธอปัดแขนเสื้อให้เขาแล้วเอื้อนเอ่ย มธุรสวาจา...  

“ปรกติแล้ว ฉันไม่ค่อยบอกเรื่องส่วนตัวกับใครหรอกนะ เอ่อ!.ฉันน่ะ! เป็นคนรู้บุญคุณคน จะตอบแทนคืนทันทีที่มีโอกาส ฉันรู้ว่า นายคงคิดคล้าย ๆ กัน เรานิสัยเหมือนกัน!” เธอกรอกหูชี้นำน่าดู โกงหนักมาก เสียงอ่อนเสียงหวาน ถ้าแพ้โลกจะถล่มรึไงไม่ทราบ? สู้ยิบตาเลย โป๊ะโบ๊ะบ๊ะไปหมด

นินจา 2 ยืดอก...                     

“ผมเห็นด้วยครับ! ให้เธอมีที่ปลอดภัยได้หลบซ่อนดีกว่าปล่อยเคว้งคว้าง”

!!!!!!!!” ไป่ไป๋ยืนแข็งทื่อ กัดฟันกรอด        

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!” พวกเราหัวเราะกันปอดทรุด

“นาย! เธอแยกเขี้ยวหันหน้าไปหาเขา แหม!..ปีกจมูกกระพือเชียวนะ...                     

“ฉันจะไม่นับ1กับนาย เราได้สิทธิ์เป็นศัตรูถาวรตลอดกาล เห็นนายแล้วหงุดหงิดมาก หลบไปให้พ้นลูกตา” เธอชี้หน้าอาฆาต 

“ครับ!” เขาถอยไปยืนหน้าประตู แต่เธอยังเดินตามไปแหงนหน้าขู่
           “ถ้าแฟนฉันยังอยู่ นายโดนต่อยแน่” เธอตัวเล็กกว่า แต่ซ่าส์เหลือเกิน

เจ็ทโด้ขมวดคิ้วหน้ายุ่ง หันมองตาม...   

“เฮ้! ตกลงคุณเป็นแฟนกับเจ้าแทนจริง ๆ เหรอ? มันยังไงกัน? แล้วนาตาลีล่ะ? งงโว้ย! ตั้งแต่เจอพวกคุณ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผมไม่เคยเข้าใจเลย มีแต่ความวุ่นวายโชคร้ายตลอด ผมบวชของผมอยู่ดี ๆ ก็ต้องสึก” เขาบ่นยาว นินจา 2 หัวเราะเบา ๆ ฉันเองก็ไม่เข้าใจ

ไป่ไป๋ยิ้มหน้าบานกลับมาหอมแก้มนาตาลี                 

“เราเป็นแฟนกัน 3 คน หนูเป็นฮองเฮา อนนี่เป็นสนม ส่วนแทนเป็นขันที”เธอยืดอกภูมิใจลอยหน้ายิ้ม

นาตาลียื่นหน้าเข้ามา... 

“ยังไม่ได้ บุ่มบุ๋มกันเลย”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ทั้งสองคนหัวเราะน้ำตาไหล

ไป่ไป๋หันไปหน้าห้อง...             

“อ้าว!..แม่บ้านมาพอดี เธอยังไม่ได้โหวต” เธอทำท่าจะตะโกนเรียกแม่บ้านที่กำลังเดินผ่านหน้าประตูด้านนอก

เจ็ทโด้โบกมือ...          

“พอแล้ว! พอดีแล้ว! เธอไม่ไปกับเราแล้ว จะโหวตอีกทำไม?” เขาบอกแล้วลุกเดิน แต่ไป่ไป๋พูดดักขึ้นมาอีก                       

“ยังมีอีกเรื่อง! ยังไม่จบ”

“อะไรอีกล่ะ?”

“คุณไม่คิดกันบ้างเหรอว่า จูยอนจะกลับเกาหลีเหนือทำไม? เธอจะไปเป่านกหวีด เธอกำลังจะฆ่าคน จะไม่ห้ามเธอเหรอ?” เธอเรื่องเยอะดีจริง ๆ /แต่นี่มันเรื่องส่วนตัว ฉันไม่ได้ชวนใครไปด้วยนี่ จะมาค้านทำไม?/ 

นาตาลีมาก่อนเลย คว้าแขนส่งสายตาอ้อนวอน...                   

“อนนี่อย่าไปเลยนะ! อันตราย! เดี๋ยวมีคนเป็น Soulless ขึ้นมาอีก”

โธ่! นึกว่าห่วงกัน กลัวฉันไปเป่านกหวีดนี่เอง เจ็ทโด้ไม่สนใจขยับจะเดินออกไปท่าเดียว                   

“มาโหวตกันอีกไหมล่ะ?” ไป่ไป๋ยิ้มยักคิ้วเจ้าเล่ห์

ฉันรีบโบกมือ...         

“ไม่เอา! ฉันจะกลับบ้านของฉัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ ไม่ให้โหวต” ฉันไม่ยอมหรอก ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาล่ะ  

เขาขยับเข้าร่วมวง...                

“เพื่อความสบายใจ ให้พวกเขาโหวตเถอะ ผมก็ไม่เห็นด้วย ถ้าคุณทำอย่างนั้น คนตายอีกเยอะเลยนะ บาปกรรมนะ”

“ใช่!” ยายเจ้าเล่ห์ยิ้มแก้มปริ ฉันไม่ยอมแน่...

“คุณไม่ได้ดูข่าวกันหรือคะ? ตอนนี้ผู้คนกลายเป็น Soulless กันมากมาย อย่างไรเสียพวกเขาก็ต้องตายเพราะนิวเคลียร์อยู่แล้ว หรือไม่ก็ตายด้วยน้ำมือของใครสักคน ฉันขอทำในส่วนของฉัน คุณไม่เคยมีแค้นส่วนตัวอย่างฉันนี่คะ” ถ้าใครมาขวางคงต้องออกแรงกันอีก  

“คุณคิดจะล้างบางเลยเหรอ? แล้วคนอื่น ๆ ล่ะคะ เขาจะซวยไปด้วยนะ?” นาตาลีพยายามเข้าช่วยเกลี้ยกล่อม

ฉันยิ้มให้อย่างใจเย็น

“ทุกคนคะ! ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรผิด ทุกอย่างถูกต้องเสมอ เพียงแต่...มันอาจจะไม่ถูกใจใครบางคน เรื่องที่ฉันคิดจะทำ มันเป็นสิ่งที่มากระทบฉันและครอบครัวโดยตรง ฉันเป็นคนสูญเสียและฉันเป็นคนเสียใจ ความโกรธที่กำลังจะได้รับการชำระเยียวยา เป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับฉัน”

“แต่...” เจ็ทโด้จะท้วง ฉันรีบยกมือพูดก่อน...              

“ชีวิตที่น่าสงสารของคนเกาหลีเหนือ เปรียบเหมือนวัวกระทิงในกีฬา Bullfighting ในสเปน พวกคุณอาจจะรู้สึกสนุกและสงสารคละกันไป ถึงแม้นมาธาดอร์จะเช็ดเลือดและน้ำตาให้กับวัวกระทิงนั้น เขาก็ฆ่ามันอยู่ดี วัวกระทิงตัวนั้นก็ต้องตายอยู่ดี ไม่มีใครคิดถึงชีวิตของมันเลย มันก็รักชีวิตของมัน”                

“พวกคุณเป็นแค่ผู้ชม อาจจะรู้สึกสงสารผู้เสียชีวิต แล้วพ่อแม่ของฉันล่ะ? ชีวิตของฉันล่ะ? ฉันต้องยอมรับและเสียสละให้พวกเขาตายไปเฉย ๆ  ส่วนผู้มีอำนาจยังเสวยสุข และทำร้ายครอบครัวอื่นต่อไป ให้พวกคุณคอยสงสารและสมเพชอย่างนั้นเหรอ? จะเอาอย่างนั้นเหรอ?” ฉันหวังว่าพวกจะเข้าใจความรู้สึกที่คับแค้น...            

“ไม่ว่าพวกเราจะต้องตายไปเท่าไหร่ พวกคุณก็ยังคงได้แต่สงสาร และไม่ได้ช่วยอะไร หรือช่วยอะไรไม่ได้ คุณไม่ได้เป็นคนโดนกระทำ คุณก็พูดได้ คุณเอาคุณธรรม ความรับผิดชอบชั่วดีมาอ้างได้สวยหรู ลองมาเป็นผู้ถูกกระทำบ้างสิถึงจะรู้”

“ฉันคิดว่า ถ้าแทนยังมีชีวิตอยู่ เขาจะเข้าใจฉันมากที่สุด เขาเข้าใจเรื่องการกดขี่ของผู้มีอำนาจ ฉันขอยืนยันคำเดิม ฉันจะกลับบ้าน ถ้าใครคิดจะขวาง ก็ฆ่าฉันทิ้งซะ!

คนที่ไม่ได้ประสบเหตุโดยตรง มักจะเอาความคิดและจริตของตนเองไปยัดใส่ให้คนที่โชคร้าย ให้ยอมรับ ให้อภัย ให้เจียมตัว เลิกแล้วต่อกัน มันเป็นโชคชะตาฟ้ากำหนด มันเป็นกรรม มันง่ายมากสำหรับคนพูด แต่ทำใจยอมรับยากมากสำหรับผู้ได้รับผลกระทบ คิดแล้วก็น้อยใจ

นาตาลีลูบแขนของฉัน...                     

“คิดใหม่อีกทีได้ไหมคะ อนนี่?” เธอไม่เคยถูกกดขี่ เธออยู่ในระดับบนของห่วงโซ่การกดขี่ เธอไม่รู้หรอกว่า มันอึดอัดขนาดไหน?
       “ฉันขอโทษนะคะนาตาลี ฉันไม่เปลี่ยนใจ ขอโทษที่ต้องบอกกับทุกคนแรง ๆ ถ้าพวกคุณยังไม่เคยเห็นพ่อแม่โดนยิงตายต่อหน้าและคุณช่วยอะไรไม่ได้ ร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ท่านโดนยิงทิ้งข้างถนน ทุกคนหัวเราะเยาะสนุกสนาน ช่วยนึกถึงหัวอกคนเป็นลูกสาวบ้างสิคะ
! จะรู้สึกอย่างไร?”น้ำตาของความอดสูไหลออกมาอย่างแค้นใจ

“ก่อนที่ท่านจะโดนยิงเป้า ฉันเขียนหนังสืออุทธรณ์ด้วยลายมือให้ทางการแพทย์ตรวจสอบเลือดใหม่อีกครั้ง แต่ไม่ได้รับการยินยอมและหลังจากนั้น ฉันก็โดนลงโทษที่ไม่มีความชอบธรรมเลย...คุณรู้ไหมฉันโดนอะไร? ฉันโดนลงโทษด้วยแส้หวด 50 ครั้งสลบแล้วสลบอีก”

“โดนขังอีก 3 เดือนโดยไม่รักษาพยาบาลใด ๆ ถ้าพวกคุณไม่เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้ อย่ามาเสียเวลาคุยกับฉันเลย” น้ำตาไหลนองสองแก้ม ทั้งน้อยใจ ทั้งแค้นใจมาก ฉันมองหน้านาตาลีแล้วก็เสียใจที่ต้องขัดใจเธอ

“โหวตกันเถอะครับ ใครเห็นด้วย ให้เธอกลับเกาหลี ยกมือ! เจ็ทโด้บอกแล้วยกมือก่อนเพื่อน

ฉันขอบคุณเขาในใจ ไม่รู้คิดยังไงถึงโหวตให้ฉันกลับ ตอนแรกบอกว่าไม่เห็นด้วย                  

“ฉันไม่โหวต” ฉันยืนยัน

ไป่ไป๋ยื่นหน้าหรี่ตาเบะปาก...         

“คนมันใจร้าย คิดจะฆ่าคนอื่นหนูไม่ชอบ อนนี่ว่ายังไงคะให้กลับหรือไม่ให้กลับ หนูว่าอย่าให้กลับไปเลยนะ?” สาวน้อยกวนประสาทชะมัดยาด เชือดเฉือนไม่สนใจคำพูดกันเลย ไม่อาทรกันสักนิด

แล้วนี่...จะมาไม้ไหนอีก? เมื่อกี๊ก็โหวตไม่ให้ไปบ้านซอน ตอนนี้จะมาโหวตไม่ให้ฉันกลับบ้านของฉันอีก ตกลงเธอจะให้ฉันไปอยู่ไหน?...

“นินจา 2 นายมานี่เลย เดี๋ยวนายก็ต้องโหวต รอก่อน” เธอบอกแล้วหันมองหน้านาตาลี ยิ้มลุ้นให้เธอโหวต

เจ็ทโด้ยกมือขัด...                    

“แจ็ค! มึงแนะนำตัวดี ๆ สิ! กูรำคาญที่พวกเธอเรียกมึง นินจา 2แล้วนะ” เจ็ทโด้ดุลูกน้อง

นาตาลียกมือ...                       

“ชื่อแจ็คเหรอ? ฉันชอบชื่อนินจามากกว่าค่ะ ฉันจะเรียกว่า นินจา นะคะ” เธอหันไปยิ้มให้เขา           

“หนู!...ไม่อยากรู้จัก ไม่ต้องแนะนำตัวหรอก” ยายตัวแสบหาเรื่องทุกคน                     

“ตามใจ! ไม่ต้องก็ไม่ต้อง เอ้า! ต่อเลย” เขาตัดบทเข้าเรื่อง   

นาตาลีชิงยกมือเสนอก่อน...               

“ฉันไม่ให้กลับเกาหลีเหนือ ไปอยู่ด้วยกันบ้านซอน อยู่เป็นเพื่อนฉัน ไป่ไป๋ไม่ค่อยมานอนด้วยแล้ว คุณมาก็ดีนะ ช่วยกันทำงานถ้าไม่ชอบงานในห้องทดลอง ก็ไปช่วยซอนฝึกทหารก็ได้” เธอเสียงอ่อย

“ดีมาก!” ไป่ไป๋ยิ้มพอใจหันไปมองนินจา 2

“ตานายแล้วตอนนี้เสมอกัน 1-1 จะโหวตอะไรก็เรื่องของนาย” เธอเมินหน้าคอแข็ง    

“ผมโหวตไม่ให้กลับเกาหลีเหนือครับ น่าเป็นห่วง งานอันตรายอย่างนั้น คุณทำคนเดียวไม่ได้หรอก” เขาบอกเบา ๆ                     

“เย้! ขอบคุณมากนินจา ” นาตาลีลุกยิ้มชูมือดีใจ

“เฮ้อ! ฉันถอนหายใจโหวตแพ้จนได้               

2 - 1 เราชนะแล้ว จูยอนอนนี่ไม่ต้องไปเกาหลีเหนือ ดีใจจังเลย” เธอลุกขึ้นเต้นส่ายตูด Moonwalk ถอยไปหมุนตัวผายมือน่ารักเชียว

แต่...ฉันไม่ยอม...           

“ชนะตรงไหน? ฉันยังไม่ได้โหวต ฉันโหวตให้ตัวเองกลับบ้าน” ฉันกลับลำนิ่ม ๆ

นาตาลีหยุดเต้นค้าง หันมามองหน้า...           

“อ้าว!..2 – 2 แล้ว ทำยังไง?” เธอหลอนไปแล้ว หันมองล่อกแล่ก แต่พอมองไป่ไป๋ที่ยังไม่โหวตก็ยิ้มดีใจกระโดดเต้นสนุกสนานต่อ...           

“ไป่ไป๋! ยังไม่ได้โหวตนี่ ฉันชนะ! อนนี่ไม่ต้องกลับเกาหลีเหนือ” เธอแลบลิ้นล้อ เต้นกระโดดหย็องแหย็งสนุกสนาน                  

“หนูโหวตให้กลับค่ะ!

“...........” ผิดคาด! ไป่ไป๋สนับสนุนฉัน นาตาลีหน้างอทรุดตัวลงนั่ง 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ็ทโด้หัวเราะลั่น เข้าไปลูบหัวน้อง            

“ทำไมล่ะ?” เขายื่นหน้ายิ้มถามอ่อนโยน ฉันรู้สึกขอบคุณเธอในใจ         

“หนูอยากให้กลับไป จะได้....ตาย คุณโดนฆ่าแน่ หนูจะตามฆ่าหวังฉวนอีกคน” เธอหันมาจ้องตาอาฆาต

ฉันส่ายหน้าระอา ใจร้ายจริง ๆ เลย

ไป่ไป๋! คุณน่าจะเข้าใจมากที่สุดนะ แทนตายเพราะใครก็ไม่รู้ คุณยังโกรธหน้ามืดตามัว ตามมาล้างแค้นกับฉัน แกล้งฉันทุกอย่าง นี่ไม่ใช่เพราะแค้นเหรอคะ?”

จริงของเธอนะเจ็ทโด้หันบอกน้อง

ก็ใช่ไง! เจอคุณก่อนก็ล้างแค้นก่อน หนูจะไปจัดการหวังฉวนทีหลังเธอไม่ฟังใคร น้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เลย ไม่สบายหรือเปล่านะ?

“คุณจะเอาอะไรไปสู้กับหวังฉวน ถ้าคุณสู้หวังฉวนได้ด้วยมือเปล่า ฉันคงฆ่าท่านผู้นำไปตั้งนานแล้ว” ฉันคิดว่าเธอทำจริง แต่ยากมากที่จะทำได้

“ถ้าพวกเขาไม่ห้าม ฉันก็ฆ่าคุณไปแล้ว ฉันมีปืนนะ ขอให้เข้าใกล้ได้เถอะ โดนยิงแน่”         

“พอแล้ว ไร้สาระ! ตกลงตามนั้น” เจ็ทโด้ตัดบทแล้วลุกเดิน

ไป่ไป๋ลุกวิ่งตาม...

“ทำไมเชื่อเธอง่ายจัง คุณเชื่อใจเธองั้นเหรอ? ใครจะแก้แค้นให้กับแทน คุณคิดสิ! โอกาสอยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าคุณไม่กล้าก็ให้นินจา 2 เชือดคอให้ก็ได้” เธอซอยขาตามไปยุจนถึงประตูห้อง เขาเดินออกไปโดยไม่ตอบคำถาม

ฉันอมยิ้ม ลุกขึ้นดึงมือนาตาลีเดินตามไป                    

“เธอตายแน่!!” ยังไม่จบวุ้ย...เธอเดินปรี่เข้าไปหานินจาที่หน้าประตู

“เชือดคอยายนั่นให้หน่อยสิ! คิดเงินเท่าไหร่?” ยายตัวแสบแหงนหน้าเท้าเอว

“ไร้สาระ!เขาพูดเบามาก

“ฮ๊า! มากไปแล้วนะ ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของนายนะ”  ไป่ไป๋งิ้วแตก
            “ตุ๊บ
! ตั่บ!

อุ่บ!อุ่บ!นินจาตัวงอ

เธอหันมามองหน้าฉัน...

“ดูไว้!” แล้วรัวหมัดชุดใหญ่ใส่หน้าท้อง เขาพยายามปิดปัดป้อง

เธอถอยไปตั้งหลัก...         

“ย๊าก...กก! กระโดดสลับขาเตะผ่าหมากเข้าเป้ากางเกง          

“ฟึ่บ!เขาเอามือไขว้กัน ก่อนที่มันจะถึงจุดยุทธศาสตร์

“หวือ!!รองเท้าผ้าใบกระเด็นชิ่งผนัง ปลิวเฉี่ยวหัวนาตาลี เลยไปตกกลางโต๊ะอาหาร

เขารีบวิ่งไปหยิบปัดทำความสะอาด แล้วกลับมาทรุดนั่งยองจับเท้าของเธอมาสวมให้อย่างนุ่มนวลผูกเชือกให้แน่น

“...........” เธอยืนอึ้ง ฉันเองก็อึ้ง

เขาบรรจงใส่รองเท้าให้เสร็จ แล้วก็ลุกยืนถอยหลังสองก้าว แล้วโค้งคำนับอย่างสุภาพ...โคตรเท่เลย            

ว้าว!ว้าว! แอบคิดอะไรกันรึป่ะเนี่ย! 2 คนนี้ ทะเลาะกันมากเพราะรักกันนี่เอง” นาตาลียิ้มหน้าบาน เดินเฉี่ยวเข้าไปล้อนินจา  

“อนนี่! ไป่ไป๋หันขวับจ้องตาดุ

“อุ่บ! นาตาลีปิดปาก ห่อตัวย่องออกไป                    

“อีตาบ้า! เป็นพระเอกซีรี่ย์หรือไง? ขนลุกหมดเลย” เธอต่อยเขาอีกชุดแล้วสะบัดหน้าเชิด

การเข้าใจผิดก็เหมือนการขับรถยนต์หลงทาง เสียทั้งเวลา เสียทั้งสุขภาพ เสียเงินทอง สุดท้ายไม่คนใดก็คนหนึ่งอาจจะเสียคน

.................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,862 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,978 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท8 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม