หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 5 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 7 เม.ย. 2567 |
รัฐฉาน
มุมมองสายตา ซอน
พฤศจิกายน ค.ศ.2024
ลาเสี้ยว...
ขุนเขาสูงเสียดฟ้าป่าไม้ทึบเขียวในเขตเมืองลาเสี้ยวภาคเหนือของเมียนมาห่างไกลความเจริญจากเมืองศิวิไลซ์ พื้นที่แถบนี้เป็นถิ่นฐานของชนเผ่าชาติพันธ์ต่าง ๆ มากมายที่อาศัยในราวป่า ฤดูหนาวย่างเยือนเข้ามาพร้อมสายลมเย็น เด็กชาวชนเผ่าม้งนั่งผิงไฟข้างทาง
“บอส!!” พวกเขาต่างโบกมือยิ้มให้ เมื่อรถยนต์ของผมแล่นผ่าน รอยยิ้มของคนชนเผ่าเปรียบเหมือนดอกไม้แรกแย้มท่ามกลางกลิ่นบริสุทธิ์ของผืนป่า
ผมขับรถยนต์กลับมาจากหมู่บ้านมงยัง หลังจากไปเยี่ยมลูกชายกับเมีย พวกเธอกำลังสนุกกับการผลิตวัคซีนฉีดให้กลุ่มชาติพันธุ์ที่ด้อยโอกาสในป่าเขา และพัฒนาสินค้าใหม่ไปเรื่อย โดยให้ผมเป็นพ่อค้าขายวัคซีน Anti –Tame 26 ให้กับผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย
“บรื้น...นน!!” รถจี๊ปใช้พลังทั้งหมดไต่ขึ้นภูเขา สองข้างทางเป็นป่าทึบ ผ่านซากเฮลิคอปเตอร์ไหม้ดำที่พวกเราขโมยมาจากทหารจีน เมื่อหลายปีก่อน ผมหักหัวรถยนต์ผ่านหมู่บ้านมูเซอดำ
เจ้าฮักยืนคอยใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทาง โบกมือให้จอด....
“บอส! มีปัญหานิดหน่อย พี่หล้าตัดสินใจไม่ได้” เจ้าฮักเหงื่อเต็มหน้า
“เกิดปัญหาอะไร?”
“บอส! มาฟังเองดีกว่า” คนของผมแฝงตัวอยู่ในทุกชนเผ่ารอบค่ายที่ตั้งอยู่บนยอดเขา
“พาไปหน่อยสิ!” ผมกระโดดลงจากรถแล้วเดินตามเจ้าฮัก เข้าไปในหมู่บ้าน
“บอสมาเที่ยวเหรอ?” ชาวบ้านเคี้ยวหมากยิ้มฟันแดง สวมชุดชนเผ่าสวยงาม
“ทางนี้ครับบอส!”เจ้าฮักพาเดินผ่านลานกว้างมาที่บ้านหลังใหญ่ใต้ต้นไม้
“ตึง!” พอเปิดประตูเข้าไป เจอเจ้าหล้ากำลังยืนหน้าเครียด
“บอส! มานี่หน่อย ผมไม่ไหวแล้วว่ะ สงสารพวกมัน” เขาสีหน้าเครียดจัด พาเดินออกหลังบ้านมาที่คุกดิน ชายฉกรรจ์ 4 คนโดนมัดห้อยกับขื่อ
“พวกนี้เป็นใคร?”
“ผมสอบสวนมันมาอาทิตย์กว่าแล้ว มันตอบเหมือนเดิม ผมฆ่าเพื่อนมันไปแล้ว มันก็ตอบเหมือนเดิม” เจ้าหล้าถอนหายใจ
“หือ!” ผมฉงนกับการผิดธรรมชาติของการป้องกันตัวของมนุษย์
พวกเราโดนหน่วยจารกรรมแอบเข้ามาปล้นวัคซีนบ่อย ๆ จนทำให้ ทหารเด็ก ๆ ของผมกลายเป็นปีศาจร้ายไปหมด
“ใครเป็นหัวหน้า?” ผมเดินเข้าไปหาชายทั้งสี่ ปากแตกตาปิดใบหน้าบวมปูด ตามร่างกายมีแต่บาดแผลจากการทรมาน
“อืม!” ชายผิวขาวรูปร่างกะทัดรัดคนขวาสุดขยับตัว หนังตาปิดปากบวมขยับเปลือกตา พูดออกมาอย่างลำบาก
“สบายดี!” เขาทักทายเป็นภาษาลาว ยิ่งทำให้แปลกใจ
“พวกมึง! เข้ามาทำไม?”
“ผมมาขอพบหัวหน้าของที่นี่ ผมต้องการวัคซีน”
“วัคซีนอะไรของมึง?”
“วัคซีนไปฉีดให้ชาวบ้าน ที่ลาวมี Dead man walking เยอะมาก ไม่มีใครสนใจพวกเขาเลย พวกเขากำลังจะตายกันหมด” เขาพูดแล้วน้ำตาไหลพราก
“มึงเป็นใคร?”
“ผมเป็นนักกิจกรรม เรียกร้องประชาธิปไตยของลาวครับ” เขาพยายามพูดอย่างลำบาก เลือดดำแห้งเกรอะขอบปาก
“เฮ้อ!” ผมสะท้อนใจ เจ้านี่เป็นพวกเดียวกับเจ้าแทนของเรา คนจิตใจประเสริฐที่ทำเพื่อคนอื่นและมักจะกลายเป็นเหยื่อของผู้มีอำนาจ
“นายรู้ได้ยังไงว่า ที่นี่มีวัคซีน?” ผมเข้าใจหัวอกของเขา และรู้ว่าเขาทำอย่างนี้ทำไม? เขายอมเจ็บตัวเพื่ออะไร?
“ผมเชื่อว่าในความเลวร้ายมีย่อมมีสิ่งดีงาม เชื่อโดยไม่สงสัยเลยว่าต้องมีคนที่รักษาโรคนี้ได้ ผมและเพื่อน ๆ ออกสืบหาไปเรื่อย ๆ และผมก็รู้ว่าที่นี่มีวัคซีนโดยบังเอิญ” เขาท่าทางบาดเจ็บมาก
ผมหันไปหาเจ้าฮัก…
“ฮัก!ปล่อยพวกมันลงมา ทำแผลให้เรียบร้อย หาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้มันด้วยแล้วก็หาข้าวให้มันกิน เสร็จแล้วพามันขึ้นไปที่ออฟฟิศ”
“ครับ!”เจ้าฮักและเพื่อนเข้าไปช่วยกันปลด
“กูไปก่อนนะ”
ผมเดินทางต่อขึ้นไปออฟฟิศยอดเขา ระหว่างทางผ่านค่ายฝึกกองกำลังป้องกันตนเอง เด็กหนุ่มชาวชนเผ่าต่าง ๆ มาขอทำงานด้วยมากมาย
“บรื้น! บรื้น!” รถยนต์แล่นขึ้นมาจอดบนลานกว้าง ใต้ร่มเงาต้นไทรป่าที่แผ่กิ่งก้านสาขาบดบังสายตาจากทางอากาศ
ทันทีที่ผมก้าวลงจากรถยนต์...
“มาแล้วเหรอครับ บอส?” เจ้าขนมปังจอมทะเล้น ลูกน้องคนสนิทก็ยื่นหน้ามา ไอ้นี่!...เมียของผมรักมันมาก เธอบอกว่า มันกะล่อนดี และหน้าตาหล่อคมคาย
หมวดจางชอบใช้งานเด็กผู้ชายและถ้าคนไหนร้าย ๆ เธอจะเรียกใช้บ่อย ๆ สุดท้ายเชื่องทุกตัว ผมแอบสงสัยว่าเธอมีอะไรดี? เธอทำให้ชีวิตของผมสมบูรณ์แบบ แต่เสียอย่างเดียว...โคตรดุเลย
นับวันยิ่งดุ...ลูกน้องโหด ๆ ของผมทุกคน ไม่มีใครกล้าสบตากับเธอ กลัวตัวสั่นกันหมด ขนาดพวกมันนั่งคุยกันอยู่ดี ๆ แค่เธอไอหรือจามครั้งเดียว พวกมันก็ลุกกลับบ้านกันหมด
“บอสครับ! แขกที่นัดไว้มาแล้วครับ” เจ้าปังยิ้มฟันขาว
เด็กพวกนี้มาจากชนเผ่าชาติพันธ์ในหุบเขา บริเวณนี้ยังห่างไกลความเจริญ อาศัยอยู่ในหุบเขาสูงทางตอนเหนือของรัฐฉาน มีหลายชาติพันธุ์ที่ยังคงดำรงชีวิตตามวิถีเดิม กระจายตัวล้อมรอบฐาน
“วันนี้มีนัดกี่ราย?” ผมมองอาคารรับแขกที่ตกแต่งถ้ำให้เป็นออฟฟิศสมัยใหม่ เทคโนโลยีด้านการป้องกันภัยที่ดีที่สุดถูกติดตั้งไว้ที่นี่ ด้านหลังหุบเขาใช้ฝึกกองกำลังไว้ป้องกันตัวเอง โดยมีหลงซันลูกน้องคู่ใจเป็นผู้ดูแล
“2 รายครับบอส! เจ้าชายอับดุลซาอุด กับตัวแทนจากKala Democracy” เจ้าขนมปังรายงาน
“เจ็ทโด้อยู่ที่ไหน?”
“เขาลงไปจัดระเบียบพวกว้าแดง แต่งตั้งหัวหน้าคนใหม่กับหัวหน้าหลงครับ”
ผมก้าวเดินตามเจ้าปังไปช้า ๆ หันมองลงไปพื้นที่ป่าทึบด้านล่าง กองกำลังหนาแน่นแฝงอยู่กับชาวบ้าน คอยป้องการการโจรกรรมและจู่โจมจากพวกที่คิดสั้น
เจ้าปังเดินนำหน้า หันมาบอกก่อนเปิดประตู
“บอสครับ! แขกจาก Kala Democracy ครับ” มันผลักประตูเข้าไป ในห้องมีชาย 1 หญิง 1 นั่งรออยู่ ผมตบไหล่มันเบา ๆ แล้วผ่านประตูเข้าไป
ทั้งสองท่านลุกขึ้นยืน ผู้ชายสูงอายุคนนี้หน้าคุ้น ๆ ผู้หญิงสาวสวยสวมชุดผ้าไหม เหมือนเจ้านางชนชั้นสูงยืนหน้าเชิด
“ใหม่สุงข้า! ผมซอนครับ” ผมยื่นมือไปจับทักทายแบบสากลกับทั้งสองคน
“ผม!...พลเอกประจวบครับ! นี่!...คุณหญิง เจิดจรัสรัศมีมณีส่องแสงครับ มาขอซื้อวัคซีนครับ” นายพลฯ เส้นผมดำเรียบแปล้ ริ้วรอยสูงวัยยิ้มเหมือนคนใจดี แววตาประกายจริงใจ
“ผู้แนะนำได้บอกรายละเอียดแล้วนะครับ? นี่ไม่ใช่วัคซีนแก้โควิด”
ทั่วโลกโดนเชื้อ Tame 26 เล่นงานถ้วนหน้า และผู้มีอำนาจที่เคยแย่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด หนีตายกันจ้าละหวั่น
“ผมเข้าใจครับที่บ้านผมใช้ของจีน ไม่มีปัญหาโควิด ผมสั่งมาเองกับมือ” เขาไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเขาเองก็มีเชื้อ เขานั่งกุมมือพินอบพิเทาใบหน้าเจี๋ยมเจี้ยม ถูมือประหม่าก่อนจะเอ่ยถาม...
“ไม่ทราบคุณ พอจะบอกได้มั้ยครับว่า อาการที่เป็นเกิดจากอะไร? เป็นจริงอย่างที่อเมริกาบอกหรือเปล่า? เกิดจากกัมมันตภาพรังสีใช่มั้ย?”
“ท่านเชื่ออเมริกาไหมครับ?” ผมถามกลับ
“ผมไม่เชื่อมันหรอก ผมเชื่อจีน!” เขายืดอก
คุยเข้าเรื่องดีกว่า...
“ชาวบ้านเป็น Soulless มากมั้ยครับ?”
“เอ่อ! Soullessคืออะไรครับ?” เขาไม่มั่นใจสายตาหลุกหลิกหันมองผู้หญิง
“Dead man walkingครับ”
“อ๋อ!ที่บ้านของผมเรียกมันว่า ผีดิบ”
“ครับ ผีดิบก็ผีดิบ”
“1ล้านคนได้แล้วครับ! ที่บ้านผมโชคดีเพราะพระคุ้มครอง ตายน้อยกว่าชาติอื่น” เขากุมมือตอบนอบน้อม ส่วนคุณผู้หญิงนั่น... ถึงแม้นจะดูยิ้มแต่ก็คนเหมือนใส่หน้ากาก นั่งเชิดหน้าคอแข็ง ไม่รู้จะยืดไปไหน
“คุณจัดการกับพวกเขาอย่างไร?”
“ปล่อยไว้เด็ก ๆ ก็กลัว เราใช้ฝังกลบครับ”
“ทั้งเป็นเหรอครับ?”
“ใช่ครับ! ประหยัดหน่อย เราถนัดทำลายหลักฐานแบบนี้”เขายิ้มได้สยองมาก
“แล้วมีอะไรให้ผมช่วยครับ? ถึงต้องเดินทางมาเอง ท่านเป็นนายกฯ ของ Kala Democracy นี่นา ผมจำได้แล้ว”
นายทหารเผด็จการที่ยึดอำนาจยืดอกทันที ท่าทางจะภูมิใจกับตำแหน่ง...
“ทางเราพอจะทราบจากการข่าวว่า ที่นี่มีวัคซีน เราจำเป็นต้องใช้ครับ ลูกพี่ของผมไปชมฟุตบอลที่สนามอัลไลแอนซ์ อารีน่านัดชิงระหว่าง บาเยิร์นมิวนิกกับแฟรงเฟิร์ดเมื่อปีกลาย แล้วก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น? ข่าวที่เยอรมันก็ถูกปิดสนิท คนในสนามวันนั้นโดนต้อนเข้าค่ายกักกัน ผมต้องไปรับตัวกลับมา ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น?” เขาอธิบายยาว สายตาเป็นมิตร แต่คุณผู้หญิงยังเป็นใบ้นั่งหน้าเชิด
“อาการตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ?” ผมแปลกใจที่เขาพูดเจาะจงไปที่คน ๆ เดียว
“ผิวหนังพุพองเป็นตุ่มน้ำเหลือง ดวงตาดำหดเล็กลงและพูดไม่ได้ สายตาเลื่อนลอยไร้ความรู้สึก ประสาทสัมผัสไม่รับคำสั่งใด ๆ จากสิ่งเร้าภายนอก ยกเว้นอาหาร”
“ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไปกี่เข็มแล้วครับ”
“ไม่แน่ใจว่า 5 หรือ 6 เข็ม ครับ” เขาหันมองหน้าฝ่ายหญิง
“คุณต้องการกี่โดสครับ?” คำถามนี้เพื่อตั้งราคาสินค้าที่เหมาะสม
“ผมต้องการรักษาแค่คนเดียวก่อนครับ” เขาบอกแล้วหันไปมองหน้าคุณผู้หญิง เธอขยับจะพูดแต่คุณลุงห้ามแล้วถามต่อ...
“ต้องใช้กี่โดสครับ ถึงจะหายเป็นปรกติ?” หลังจากเขาตอบคำถาม ผมก็ได้ราคาในใจแล้ว ผมจะให้ราคายุติธรรมเหมือนกับผู้นำเขมร
“1 โดสครับ”
“หือ!” คุณผู้หญิงหันขวับ ใบหน้าดูสดใสขึ้นแววตามีความหวัง คุณลุงตื่นเต้น...
“ขอทราบราคาครับ! แล้วตอนนี้มีของหรือเปล่า? ผมตามหามานานแล้ว ฉีดวัคซีนสารพัดยี่ห้อ หาหมอที่เก่งที่สุดในโลกก็ไม่ดีขึ้นเลย” เขาท่าทางดีใจมาก หันไปยิ้มกว้างกับคุณผู้หญิง
“2,000 ครับ” ผมตอบสั้น ๆ
“รอดแล้ว!” เขาหันมองหน้ากัน แววตาประกายดีใจเปี่ยมความหวัง
“ต้องจ่ายเป็นสกุลเงินอะไรครับ 2,000 ที่ว่านี่” พลเอกประจวบยิ้มหวาน เขาแทบตีปีกด้วยอาการดีใจ
“ดอลลาร์สหรัฐครับ” ผมตอบเบาๆ
คุณผู้หญิงเริ่มกรีดกราย สายตาหยัน...
“ไหน ๆ พวกเราก็มาแล้ว ขอรับกลับไปสัก 100 โดสเลยก็แล้วกัน มาที่นี่ก็ลำบาก ทำไมต้องปิดตาคลุมหัวกันด้วย” เธอหน้ายับ พอได้ยินเสียงหวานครั้งแรกก็โดนกรีดเลย
ผมตอบกลับยิ้ม ๆ...
“ผมเชื่อว่า ท่านนายพลทราบเหตุผลใช่มั้ยครับ รบกวนไปอธิบายกันเองนะครับ”
คุณลุงพยักหน้าหันไปทางเธอ...
“เดี๋ยวผมอธิบายให้ฟัง”
“ฉันป็นลูกค้านะ เอาเงินมาให้ น่าจะบริการให้ดีกว่านี้หน่อย เอามา1,000โดสเลยก็แล้วกัน” น้ำเสียงของเธอวางอำนาจ
“จ่ายไหวเหรอครับ?” ผมชักหมั่นไส้
“หือ! หมายความว่ายังไงครับ?” ทั้งสองหุบยิ้มขมวดคิ้วหันมาจ้องหน้า คุณผู้หญิงเหมือนจะขุ่นเคือง แววตาแข็ง
ผมยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ รู้สึกถึงอำนาจในตัวเอง ...
“1โดส 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐครับ” ผมมองหน้าเหยื่อทั้งสองอย่างใจเย็น เหมือนราชสีห์มองกวางน้อยที่กำลังขาดใจตาย ทั้งสองอึกอักมองหน้ากัน
“ไม่แพงไปหน่อยเหรอครับ? ราคาเท่ากับเรือดำน้ำ 2 ลำเลยนะครับ” คุณลุงต่อรองท่าทางยังพินอบพิเทา /ผมแอบคิดในใจ...จริง ๆ ก็เป็นคนมีสัมมาคารวะนี่นา เจ้าแทน ชอบไปใส่ร้ายเขา/
“ราคาวัคซีนถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับว่า คนที่จะได้รับมีความสำคัญแค่ไหน? ผมก็ขายราคานี้ให้กับผู้นำทุกชาติ แต่ถ้าคนของคุณไร้ค่า ก็ปล่อยตายไปเถอะครับ เก็บเงินไว้ซื้อเรือดำน้ำดีกว่า” นี่แนะ! ดิ้นสิครับ ดิ้นสิ! ถ้าสิ่งของมีค่ามากกว่าชีวิตก็ตัดสินใจได้เลย ทั้งสองคนนั่งหน้าเครียดเงียบกริบ
“ค่อย ๆ ตัดสินใจก็ได้ครับ แล้วค่อยติดต่อมาใหม่ก็ได้” ผมขยับตัวเตรียมลุกส่งแขก
คุณลุงผวายกมือ...
“ผมขอ 3 โดสก่อนนะครับ!”
ผมยิ้มมุมปาก... โธ่! นึกว่าจะแน่ การถือไพ่เหนือกว่ามันดีจริงเชียว รู้สึกถึงชัยชนะ การเป็นเจ้าชีวิตมันดีอย่างนี้นี่เอง
“โอเค!” ผมกดโทรศัพท์เรียกเด็ก
“ครับบอส!” เจ้าปังเดินเข้ามา
“ขนมปัง! พาทั้งสองท่านไปที่ห้องการเงิน แล้วจัดวัคซีนให้ 3 โดส” ผมสั่งแล้วหันมองทั้งสอง
“ขอบคุณมากนะครับ ฉีดแค่เข็มเดียว จับอาบน้ำทุกวัน ให้ทานอาหารครบ ประมาณ 7 วันอาการจะดีขึ้น 15 วันวิ่งได้ ขอให้หายนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมก้มศีรษะทำความเคารพลูกค้า ทั้งสองลุกตามเจ้าปังออกไปห้องการเงินด้านข้าง
................................................
ผมปลีกตัวเดินออกไปตรวจรอบอาคารด้านหลัง ในใจคิดจะซื้อเฮลิคอปเตอร์ให้เมียสักลำเป็นของขวัญ จะได้ขับพานาตาลีกับไป่ไป๋ไปเที่ยว เธอพูดบ่อยอยากได้เฮลิคอปเตอร์ แต่ผมยังไม่สะดวกไปคุยกับพ่อค้าอาวุธ ช่วงหลังสงครามยังคงรุนแรงรบกันมั่วไปหมด โลกกำลังวุ่นวายกับสงคราม
ลานสนามหญ้าหุบเขาด้านล่างลิบ ๆ ผมเดินดูด้วยความภูมิใจ กองทหารของหลงซันกำลังฝึกกันบนลานกว้างกลางแดดเปรี้ยง ชายหนุ่มเกือบ 200 คนจากหลายชนเผ่าฮึกเหิมและดุดัน
ไป่ไป๋จะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้พวกนี้ทุกวันพุธ เธอบอกว่า ภาษาสำคัญกว่าความรู้ในบทเรียนอื่น พวกเขาจะได้เปิดโอกาสให้ตัวเองในวันข้างหน้า แต่นาตาลี…ไม่เคยเหยียบมาที่นี่เลย
ผมเดินเหยียบหินรองก้าวเลาะรั้วลวดหนามลงไปได้ครึ่งทาง แปลกใจเมื่อเห็นเด็กสาวอายุราว17-18 ปี ในชุดชนเผ่าลั้วะ หน้าตามอมแมมจากคราบน้ำตา นั่งร้องไห้สิ้นหวัง สะอึกสะอื้นเกาะข้างเสารั้วไฟฟ้า
เธอยกมือไหว้ทั้งน้ำตา...
“บอส!”
ผมหยุดมองด้วยความฉงน...
“เข้ามาได้ยังไง? ใครอนุญาตให้เข้ามาถึงที่นี่?” ผมจ้องหน้า ในใจก็โกรธ
“บอสคะ! หนูชื่อ อาซา มาจากหมู่บ้านลั้วะในป่าข้างล่าง หนูอยู่กับแม่สองคนค่ะ ท่านไม่สบายมากอยากจะพาไปหาหมอ แต่หนูไม่มีเงินค่ารักษา ช่วยหนูด้วยค่ะ? ฮือฮือ!” พูดจบก็ร้องไห้โฮก้มหน้าลงพื้นอย่างคนไร้หนทาง นี่คือพิษสงของความจนที่ทำร้ายชีวิตของพวกเขา
การกินอยู่ในป่าชายขอบก็ลำบากแย่แล้ว ถ้าเจ็บป่วยก็เหมือนฝันร้าย ในโลกทุนนิยมคนไม่มีทุนก็ไม่ได้รับความนิยม ลำบากจากการเดินทางก็แย่มากแล้ว ยังไม่มีเงินรักษาตัวอีก ถูกปล่อยทิ้งไว้ตามยถากรรม นรกชัด ๆ
“แล้วเธอเข้ามาได้ยังไง?” ผมขัดใจเรื่องนี้เรื่องเดียว
“หนูมานั่งตากฝนดักรอบอสอยู่หน้าค่าย 3 วันแล้ว พวกพี่ ๆ ทหารยามสงสารเลยให้หนูคุยกับพี่ขนมปัง เขาเลยนัดให้หนูมาวันนี้ค่ะ หนูรอพี่ขนมปังอยู่ค่ะ” เด็กผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยแบบบ้าน ๆ สวมหมวกแดงเสื้อดำคลุมด้วยเครื่องเงินรอบคอห้อยตุ้งติ้ง กระโปรงแดงบานฟูฟ่อง
“อ๋อ! ไอ้ปังเหรอ?” ผมพยักหน้ายื่นมือไปดึงเธอลุกยืน...
“แม่ของเธอทำงานอะไร?” ผมถามแล้วก้าวเดินกลับขึ้นไปออฟฟิศด้านเหนือหมู่บ้านของผมอยู่ชายแดนติดรอยต่อระหว่างประเทศ ภูฏาน จีน ชนเผ่าชาติพันธุ์บนเขามีหลากหลาย
เด็กสาวก้าวเดินบนแผ่นหินตามหลังมา...
“ท่านเป็นแม่ครัวในโรงงานที่จีนค่ะ กลับมาเยี่ยมบ้านเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผิวหนังของท่านมีแต่เม็ดผื่น ท่านเกาจนหนังถลอกเลือดออกเลอะไปหมด มันทรมานมากค่ะ ฮือฮือ!” น้ำตาของการสิ้นไร้ บาดใจทุกครั้ง
“แม่บอกหรือเปล่าว่า ไปทำอะไรมา?” ชักเอะใจ ผมเคยฉีดวัคซีนของจีนก็แพ้แบบนี้ จูยอนกับเจ็ทโด้เคยช่วยทายาหม่องให้ มันคันคะเยอทรมานมาก
“แม่บอกว่า ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดค่ะ แม่พึ่งได้งานเลยโดนบังคับจับฉีด แล้วแม่ก็มาเจ็บตัว แม่ดิ้นรนต่อสู้มาตลอดเพื่อหาเงินเลี้ยงพวกหนู ช่วยแม่หนูด้วยนะคะ บอส! ฮือฮือ!!” เธอร้องไห้โฮ หมดสิ้นความอดทน
ผมมองด้วยความอดสูใจ จูงมือของเธอเดินต่อ พอพ้นโขดหินใหญ่ก่อนถึงตัวอาคาร เจ้าปังเดินยิ้มกรุ้มกริ่มลงมาพอดี ...
“อาซา! ร้องไห้ทำไม?” เจ้าปังขมวดคิ้วมองหน้าเธอแล้วมองหน้าผมอย่างตำหนิ มันเป็นลูกรักของหมวดจาง มันกล้างอแงกับผม...
“บอสน่ะ! ช่วยน้องมันหน่อยสิ” เจ้าขนมปังหน้างอ
ผมฉุนกึก…ไอ้ปังกูจะกระทืบมึง เดี๋ยวก่อน!...มึงโดนแน่ ผมห้ามใจไว้ก่อน...
“มึงไปเอาวัคซีนมาโดสนึงแล้วไปกับน้อง ไปจ้างหมอฉีด” ผมล้วงกระเป๋าหยิบเงินให้เจ้าปัง
“วัคซีนที่เพิ่งขายไปน่ะเหรอครับ?” มันตาโต เหมือนฉุกคิดอะไรขึ้นมา
“ใช่!” ผมคิดถึงอาการของผม ตอนก่อนที่นาตาลีจะฉีดวัคซีนให้อาการของผมก็เป็นเหมือนแม่ของอาซา มันคันทรมานมาก ผมเข้าใจหัวอกของคนติดเชื้อ
เจ้าปังยังยืนลังเล...
“บอสครับ!...เมื่อกี๊ที่คุณลุงเขาโอนเงินเข้ามา ผมยังนับเลขศูนย์ไม่ถูกเลย นิ้วไม่พอ นี่!...จะให้ฟรี ๆ เลยเหรอ? บอสขายของขี้โกงว่ะ แต่ละคนราคาไม่เท่ากันเลย” ไอ้เด็กนรก มึงไม่รอดแน่ เดี๋ยวมึงโดนแน่! ทะลึ่งกับกู…
“มึงรีบไป รีบกลับมา กูมีเรื่องต้องเคลียร์กับมึง ไปได้แล้ว ไป!” ผมไล่ส่งแล้วยกโทรศัพท์...
“หลงซัน!...ขึ้นมาหาหน่อยสิ!”
ผมกลับมายืนรอที่หน้าออฟฟิศ สักพักเขาก็ขับรถยนต์ขึ้นมา ใบหน้าและร่างกายอาบไปด้วยเหงื่อ ในขณะเดียวกันเจ้าหล้าก็ขับรถยนต์ขึ้นมาพร้อมกับนักกิจกรรมของลาวทั้ง 4 คน
“บอสมีอะไร?” หลงซันยิ้มหวานโผล่หน้าตะโกนมา
“ขึ้นไปคุยกันข้างในเถอะ!” ผมกวักมือเรียกแล้วเดินเข้าประตู เจ้าเดินมาถึงพอดี...
“หล้าพาแขกไปรอก่อน” ผมชี้ให้เจ้าหล้าพากลุ่มนั้นเข้าไปอีกห้อง
หลงซันออกไปช่วยพวกเราทุกครั้ง เขารวดเร็วว่องไวเป็นลิงลม ผมให้เขาเป็นคนคุมค่ายฝึกทหาร และมันนี่แหละที่พาทหารหนีหมวดจางออกไปช่วยชาวบ้านรบกับกองกำลังทหารเมียนมา รางวัลแห่งชัยชนะของมันเมื่อกลับมาคือ โดนหมวดจางสั่งขังคุกแรมเดือน
“พรุ่งนี้! มึงแบ่งกองกำลังพาพวกเราไปรัฐยะไข่ รอดอกเตอร์ที่นั่น เธอจะไปฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มโรฮิงญาอาทิตย์หน้า” ผมถ่ายทอดคำสั่ง พวกเธอจะจัดกิจกรรมแบบนี้ทุกเสาร์ หมวดจางสร้างบารมีจนชาวบ้านไม่ค่อยเห็นหัวผมแล้ว
หลงซันยิ้มกว้างดวงตาใส...
“แม่ใหญ่ จะทำกิจกรรมที่นั่นเหรอ? ดีครับ! บอสโชคดีมากเลยนะครับ ที่ได้แม่ใหญ่มาเป็นเมีย ทุกอย่างดูเป็นระบบระเบียบ สวัสดิการของพวกผมก็พลอยดีไปด้วย เธอมีใจเป็นธรรมมาก”
ผมล้วงกระเป๋าหยิบซองออกมาวาง...
“มึง! เปิดทีวีทีซิ!” ผมชี้ไปที่รีโมท เขารีบลุกไปจัดการแล้วหันกลับมา ผมยื่นซองขาวให้...
“เอ้านี่! รับไปสิ”
“อะไรครับ? ”เขามองหน้าขมวดคิ้วลังเล
“เงินไง! เอาไปซื้อของอร่อยให้ลูกเมียกิน อย่าปล่อยให้อด เขามาฝากชีวิตไว้กับเราแล้ว ดูแลให้ดี ๆ” ผมมองทีวีสนใจข่าว
“บอสครับ! แม่ใหญ่ให้ผมเดือนละ 5 ล้านจ้าด ครอบครัวผมสุขสบายมากแล้วครับ” มันเรียกหมวดจางว่า แม่ใหญ่จนติดปาก
หมวดจางเป็นนางหงส์เหนือมังกร เข้ามากุมอำนาจเบ็ดเสร็จและไม่มีคนต่อต้าน แถมยังรักและบูชาเธอมากด้วย
“ตกลง...มึงจะไม่เอา” ผมหันจ้องหน้า
“ครับ! ไม่เอา” เขาส่ายหน้า ใจเด็ดมาก
“งั้น!...กูฝากไปให้เมียมึงด้วย พรุ่งนี้ให้เธอโทรหากูด้วยนะ ” ผมไม่รับเงินกลับหันมองทีวี
มันไม่สนใจข่าวบนจอ หันมาบอกเสียงเครียด...
“บอส! จีนส่งหน่วยสอดแนมเข้ามา”
“เฮ้ย! เมื่อไหร่?” ผมเด้งเลย
“เมื่อคืน ผมยิงตายไปหลายคน หลบหนีได้บางส่วนครับ พวกมันน่าจะได้ข่าวเรื่องวัคซีน ถ้าอย่างนี้ ดอกเตอร์จะได้รับอันตรายมั้ยครับ?”
“เรากระจายของไว้ทั่ว มันไม่รู้หรอกว่าเราผลิตที่ไหน? ดูแลเข้มงวดขึ้นอีกนะ กูคิดไว้แล้วว่า สักวันต้องมีไอ้พวกนี้เข้ามา”
“เจ็ทโด้! ก็เหงามากเลยครับ ถ้าไม่มีอะไรให้ทำ เขาก็นั่งสมาธิใต้ต้นไม้ทุกวัน ปลีกตัวไปอยู่คนเดียว น่าสงสารจังเลย”
“เฮ้อ!” ผมสะท้อนใจ สงสารพี่ชาย เขาไม่เหลือใครในชีวิตแล้ว
“มึงหาสาว ๆ มาแนะนำให้เขาหน่อยสิ เผื่อว่า เขาจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง”
“เยอะแยะ!...ผมทำหมดแล้ว แต่ไม่ได้ผล บอสเรียกผมมาทำไม? ผมยังมีงานค้างต้องกลับแล้ว” เขาขยับจะเดินกลับ
“มึงลงโทษเจ้าขนมปังให้หน่อย จับมันขังคุกไว้สัก 1 อาทิตย์ มันปล่อยให้คนเข้ามาในนี้”
“ครับ! เดี๋ยวผมจัดการให้” เขายืดอกแล้วหมุนตัวออกไป
ทีวีตัดข่าวมาที่องค์การอนามัยโลก ชาวบ้านฝรั่งหัวทองกำลังประท้วงไล่ประธานกับผู้อำนวยการ ที่ไม่สามารถหาวัคซีนมาแก้ปัญหาDead man walking ในขณะเดียวกันกลับมีปริมาณมากขึ้นมาอีก สร้างความคลุมเครือไปทั้งโลก ผมยิ้มสมน้ำหน้าพวกมัน นาตาลีมาอยู่กับผมแล้ว ไม่คืนให้พวกมันหรอก
“ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!” หล้าพาหัวหน้านักกิจกรรมของลาวเข้ามาคนเดียว...
“บอสครับ! พร้อมมั้ย?”
“เออ! เอาสิมาคุยกัน”
นักกิจกรรมทางการเมืองของลาวก้มลงกราบเท้า...
“บอสครับ! ผมชื่อแสงสุลี” เขาพนมมือ /ปากเจ็บพูดได้ไม่ถนัด/
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงเสี่ยงชีวิตเข้ามา?” ผมข้องใจเรื่องนี้มาก ผมไม่ชอบใจที่มันบุกรุกเข้ามา
“ที่ลาวกำลังวิบัติ พรรคหลักบริหารประเทศอย่างเหลื่อมล้ำ จงรักภักดีกับเวียต ปล่อยให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยทรัพยากรของชาติ แต่พอชาวบ้านเดือดร้อนเข้าไปร้องเรียนก็ โดนขัง โดนฆ่า ไม่เคยสนใจประชาชน วันนี้พี่น้องลาวเป็น Dead man walking ไม่มีใครช่วยพวกเขา ผมเห็นคนตายทุกวัน ผมอยากจะช่วยถึงต้องแลกด้วยชีวิต ผมก็จะช่วยพวกเขา” สายตาแข็งแกร่งมุ่งมั่นบนใบหน้าที่ยับเยิน ทำให้ผมพอใจในคำตอบ
“แต่นายบุกเข้ามาแบบนี้ไม่ถูกต้อง”
“ผมขอโทษครับ! ผมสิ้นหนทางจริง ๆ ผมมาเพื่อขอความช่วยเหลือ” เขายังคงพนมมือ
“ผมจะช่วยคุณได้อย่างไร?”
“ช่วยฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องชาวลาวด้วยครับ พวกเขาไม่มีที่พึ่งแล้ว บอสครับ! ผมไม่อยากสิ้นชาติ ผมสู้ทางความคิดกับพรรคหลักมาตลอด ถ้าต้องตายก็ไม่เป็นไร บอสเอาชีวิตของผมไปก็ได้ครับ”
ผมหันไปมองหน้าเจ้าหล้า มันถอนหายใจแล้วเปรย เบา ๆ...
“นี่แหละครับ! ที่ผมหนักใจ ผมไม่เคยเห็นใครใจเด็ดเท่านี้มาก่อน พวกเขายอมสละชีวิตเพื่อให้ได้วัคซีน ตีให้ตายเขาก็ไม่สู้ บอกว่าจะเจอบอสให้ได้”
“เราก็ช่วยไม่ได้! จะให้ดอกเตอร์ออกไปนอกเขตไม่ได้ เรื่องนี้แดงออกไปก็ไม่ได้ ถ้าคนแห่มาขอร้องอย่างนี้ เราก็แย่สิ!” ผมเริ่มหนักใจ
“นั่นสิครับ! ทางเดียวที่จะปิดบังความลับของเราได้ ก็ต้องปิดปากพวกเขาล่ะครับ” เจ้าหล้าคิดเหมือนผม
แสงสุลีขยับคุกเข่า...
“เพื่อเก็บความลับไว้ ยิงผมทิ้งไปได้เลยครับ ขอแค่บอสรับปากว่า จะช่วยพวกเขา” สายตาของคนที่ตัดสินใจยอมตายดูหนักแน่น น่าชื่นชม และยินดีที่จะจ่ายชีวิต เพื่อช่วยผู้อื่นอย่างไม่ลังเล โลกขาดคนที่มีคุณธรรมแบบนี้มานานมากแล้ว
“เอาอย่างนั้นเหรอ?” ผมก้มมอง
“ด้วยความยินดีครับ” เขาพยักหน้ายิ้มสู้กับความตาย
ผมหันมองเจ้าหล้า...
“จะขนคนมาจากลาวก็ไม่ได้ มึงคิดว่ายังไง?”
หล้าอึดอัด ส่ายหน้า แสงสุลีเงยหน้าพนมมือไหว้...
“ยิ่งช้า! พี่น้องของผมก็ตายลงทุกวัน บนถนนมีแต่ซากศพ ทหารก็ยิง Dead man walking ทุกวัน เห็นแก่มนุษยธรรมนะครับบอส! รักษาชนชาติของผมด้วย”
เจ้าหล้าอึดอัดใจ...
“เอายังไงดีครับบอส!”
“แอ๊ด!” เจ้าปังเปิดประตูเข้ามา...
“บอสครับ! แขกจากซาอุดี้มาถึงแล้วครับ” มันยิ้มหน้าแป้น ยังไม่รู้ชะตากรรม
“เจ้าปัง! ลงไปหาเจ้าฮัก ไปเอาวัคซีนที่หมู่บ้านม้ง ใส่ตู้คอนเทนเนอร์เตรียมไว้ 1 คันรถ” ผมหันดึงมือเจ้านักกิจกรรมของลาว...
“ลุกขึ้น!”
“อึ้บ!...” เขาลุกขึ้นยืนช้า ๆ มีรอยยิ้มในดวงตาที่อ่อนล้า...
“ไปกันเถอะครับ” เขาหันไปเอ่ยชวนหล้า แล้วขยับจะเดิน
เจ้าหล้าหันมอง...
“มึงจะไปไหน?”
“ก็ยิงผมทิ้งสิครับ ผมยินดีทำตามสัญญา” จิตใจของเขางดงามดังเพชร คนอย่างนี้น่าจะได้เป็นผู้นำที่ดีในวันข้างหน้า เขาตายไม่ได้โลกต้องการคนแบบนี้...
“นายอยู่ที่นี่! บอกให้เพื่อนของนายกลับไปสร้างค่ายในป่า ต้อน Dead man walking ที่สมควรรอดมารวมกัน หาอาหารให้กินแล้วจับอาบน้ำ ถ้าเรื่องแดงว่า รับวัคซีนมาจากที่นี่ มึงตายคนแรก!”
“ขอบใจ! ขอบใจ!” แสงสุลีทรุดลงก้มกราบแทบเท้าสะอื้นตัวโยน
เจ้าปังมองอย่างจับผิดอยู่นาน พูดโพล่งออกมา...
“บอสครับ 1 คันรถนั่น! 3 แสนโดสนะครับ” เสียงของมันฟังแล้วทะแม่ง ๆ
“แล้วทำไม?” ผมเหล่มอง
“ทีของคุณลุงโดสเดียว บอสกดซะ 2,000 ล้านเหรียญ โคตรโหดเลย”
“แล้วทำไม มึงมีปัญหาอะไร?”
“ผมก็ฟ้องแม่ใหญ่ รออะไรล่ะ?” มันชูโทรศัพท์วิ่งหนีออกไป กวนตีนมาก
“แสงสุลี!...ลงไปกับพวกเขา รักษาแผลให้หาย แล้วบอกเพื่อนของนายให้กลับไปเตรียมตัว ผมช่วยคุณได้แค่นั้น ไม่มีรอบที่ 2 ตกลงมั้ย?”
“แค่นี้ก็ขอบใจมากแล้วครับ ดีกว่าสิ้นชาติ ผมขอตัดสินใจเองนะครับว่าจะฉีดให้ใคร”
“ตามใจ!” ผมหัวเราะเบา ๆ เข้าใจ มันก็พวกเดียวกับเจ้าแทนมีความแค้นทางการเมืองที่ต้องชำระ ...
“ผมแนะนำให้ฉีดเด็กก่อน แต่ถ้านายเอาไปขาย รางวัลของนายคือตายสถานเดียว ผมจะไล่ล่าและฆ่าพวกคุณทั้งหมด”
“ผมจะอยู่ช่วยงานบอสที่นี่ครับ ผมรับรอง พวกเขาไม่หักหลังแน่นอน”
“ได้!..หล้าดูแลแขกให้ดี” ผมต้องไปฟันหัวหาเงินกับผู้นำประเทศ พวกมันรวยล้นฟ้า แบ่งมาให้กันบ้าง จะได้เอาไปซื้อวัตถุดิบมาให้นาตาลี
การช่วยเหลือแบ่งปันเป็นเป้าหมายของทั้งสองสาว พวกเธอรู้สึกผิดในใจที่มีส่วนร่วมในการทำให้โลกวิบัติ ผมเพียงทำหน้าที่แบ่งปันให้ดีที่สุด การแจกฟรีมันก็มีต้นทุน การทำแบบนี้เขาเรียกว่ากระจายโอกาส
...................................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,861 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,977 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |