หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 6 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 5 พ.ค. 2567 |
เกาหลีเหนือ
มุมมองสายตา ชเว จูยอน
มีนาคม ค.ศ. 2025
พยองยาง
วันรุ่งขึ้น...รถยนต์ลินคอล์น คอนติเนนตัลทะยานออกจากเมืองหลวงด้วยความเร็วสูงไปทางทิศตะวันตกของประเทศ ฉันหันหลังกลับไปมองเปลวไฟและกลุ่มควันดำเต็มท้องฟ้าเหนือกรุงพยองยาง รู้สึกทั้งดีใจ ทั้งใจหายระคนกันไป แต่เมื่อตัดสินใจทำลงไปแล้วก็ต้องยอมรับผลของมัน ตอนนี้แม้กระทั่งผู้ที่รอดชีวิตก็กลัวฉันไปด้วย
“ไปตามป้ายชินอุยจูนะคะเราคงต้องขับรถยนต์ไปชายแดน สนามบินคงปิดถาวรแล้วล่ะพวกเขาโดนบังคับให้ดูถ่ายทอดสดบ้านฉันมีทีวีช่องเดียว”ฉันชี้ไปที่ป้ายจราจรสีฟ้าบนเสาสูง ถนนลาดยางแปดเลนกำลังจะสิ้นสุด
“จูยอนครับ! ผมคิดว่า โลกเราก็ต้องการผู้นำนะครับ” แทนสายตากังวลใจ เขาคงไม่เห็นด้วยกับฉัน
“แทนคะ! ผู้นำเป็นสิ่งจำเป็น แต่คุณรู้ไหมคะว่าไม่มีใครที่เก่งไปหมดทุกเรื่อง ในยามสงครามก็ต้องการผู้นำแบบหนึ่ง ในยามสงบก็ต้องการแบบหนึ่งจะเอาคนคนเดียวเป็นผู้นำในทุกโอกาสไม่ได้”
เขาพยักหน้าคิดตาม
“ฉันเห็นด้วยกับการเปลี่ยนผู้นำบ่อย ๆ แต่ฉันไม่เคยเห็นด้วยกับผู้นำผูกขาดทางสายเลือด ที่ฉันคิดไว้ลึก ๆ การมีผู้นำแบบเดิมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ฉันอยากจะให้มันสิ้นสุดไปด้วย” ฉันยังยึดมั่นกับความคิดของตนเอง และเชื่อมั่นในสิ่งที่ยอร์นเคยพูดไว้
“การที่ต้องมีผู้นำแบบผูกขาด สู้ปล่อยให้พวกเราอยู่กันเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ดีกว่า ต่างคนต่างปกครองกันเองอย่าไปเป็นประเทศมันเลย เงินที่พวกมันเก็บภาษีไปไม่ได้กลับมาพัฒนาชาติ พวกมันเอาไปเสวยสุขกัน” ฉันเข็ดขยาดกับการผูกขาดอำนาจ
“ผมเข้าใจแล้วครับ!”
“บรื้น...นน!”ถนนลาดยางสองเลนสวนกันที่เปล่าเปลี่ยวคดเคี้ยวหายขึ้นไปบนเทือกเขาสูง
“ไปข้ามสะพานที่ตานตงค่ะ ฉันพอจะเดาได้แล้วว่า อเมริกาล่มสลายเพราะอะไร?”
เขาหันขวับ...
“รู้แล้วเหรอ?”
“อื้อ! จีนมันส่งบอลลูนไปที่นั่น หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐพูดจบ ข่าวของอเมริกาก็หายไปเลย? โลกโดนตัดขาดไปเลย เกาหลีใต้ก็ไม่น่าจะรอด”
“เพราะอะไรครับ? ในบอลลูนมีอะไร?”
“บอลลูนนั่น!...มันเป็นของฉัน”
“ฮ้า! เอาอีกแล้วนะ คุณทำให้ผมแปลกใจได้ตลอดเลย”
“อเมริกาน่าจะล่มสลายไปแล้ว โดนGolden wave เล่นงานคงกลายเป็น Soulless กันทั้งหมดแล้วค่ะ”
“ผมไม่เข้าใจ?”
“พวกมันคงทำงานตอนกลางคืน ตามเมืองใหญ่”
“ยิ่งพูดยิ่งงง!”
“บอลลูนนั่นบังคับได้โปรย Golden wave ไปเรื่อย ๆ ตามแหล่งชุมชน 1 ลูก คลุมรัศมี 500 เมตร มันเป็นแคปซูลแบบนี้ค่ะ...” ฉันควักกล่องขึ้นมาให้ดู
“หือ!” เขานั่งอึ้งมองตาค้าง
“อันเล็กนิดเดียว แต่อานุภาพร้ายแรงมาก ฉายภาพพร้อมเสียง มันเป็นสีทองใครเห็นก็ต้องหยิบ พอหยิบมันจะทำงาน 30 วินาที พัก 30 วินาที ถ้าไม่มีคนจับภายใน 30 นาที มันก็จะหยุดทำงาน แบตเตอรี่เป็นควอตซ์ไม่มีวันหมดอายุ”
“ติ๊งต่อง!” พอเขาหยิบมันออกจากกล่อง ภาพโฮโลแกรมการ์ตูนพร้อมเสียงปรากฏขึ้น...
“บรรลัยแล้วล่ะสิ! โลกถึงคราววิบัติแล้ว นี่มันสุดยอดอาวุธสังหาร อันเดียวจัดการได้ทั้งกองทัพเลย”
“ฉันเคยบอกแล้วว่าถ้าฉันไม่ทำก็มีคนทำ ฉันต้องรีบจัดการกับที่นี่ ก่อนที่หวังฉวนมันจะลงมือ อย่างน้อยถ้าผิดพลาดอะไร ฉันก็ยังแก้ไขได้” ฉันเก็บ Golden wave คืนกล่อง
“มันจะทำเกาหลีเหนือด้วยเหรอ?”
“มันไม่เก็บไว้หรอก ประธานคิมไม่ใช่พ่อของมันนี่นา”
“คุณคิดว่า มันพอใจหรือยัง?”
“ยังหรอก! หลังจากตะวันออกกลางกับยุโรปพังลง รัสเซียก็น่าจะโดนอีกไม่นาน มันประกาศ One Dream สั่งปิดประเทศไปแล้ว คงต้องการปิดตาประชาชน”
“การเมืองทำให้ผู้ร้ายกลายเป็นพระเอกเสมอ” เขาพึมพำเบา ๆ
“กลับไปแล้วบอกไป่ไป๋ด้วยนะคะว่าฉันขอโทษ”ฉันห่วงความรู้สึกของน้อง แต่ฉันไม่รู้จะพิสูจน์ได้อย่างไร คนเดียวที่จะช่วยได้คือเขา
“คุณไม่ผิดจะขอโทษทำไม?ผมจะช่วยหาวิธีบอกเธอเองครับ แต่คุณห้ามบอกเรื่องของผมกับใครนะครับ” เขาหันมากำชับ ฉันไม่กล้าพอที่จะบอกหรอก ถ้าทั้งสองสาวรับสภาพของเขาไม่ได้จะยิ่งทรมานใจเหมือนตายทั้งเป็น
“คุณจะใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้ตลอดไปเลยเหรอคะ? มันอึดอัดและทรมานมากเลยนะคะ” ฉันลองหยั่งความคิดของเขา ไม่กล้าถามตรง ๆ ว่าเขาไปโดนอะไรมา ไม่อยากให้เขาต้องพูดถึงปมด้อยของตัวเอง
“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ เริ่มชินกับสายตาดูถูกแล้ว ปล่อยให้พวกเธอคิดว่าผมตายไปน่ะดีแล้ว ให้เธอจดจำภาพของผมไว้แบบนั้น ไม่อยากให้พวกเธอลำบากใจ อย่าให้ผมต้องเป็นตัวปัญหาของพวกเธอเลย ผมดีใจมากที่เห็นทั้งสองคนนั้นรักกันและอยู่ด้วยกัน ผมหมดห่วงแล้วครับ” น้ำเสียงปนเศร้าไม่มั่นใจกับคำตอบของตัวเอง ฉันสะท้อนในอกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเป็นฉัน ๆ คงฆ่าตัวตายไปแล้ว
“แต่ฉันนี่สิ! ไม่รู้จะอธิบายให้เธอฟังยังไง? เธอปักใจว่าฉันเป็นคนฆ่าคุณไปแล้ว ระวังด้วยนะ! ถ้าเธอไปหาหวังฉวนเพื่อล้างแค้น เธอได้ตายจริง ๆ นะ ฉันคิดว่าไป่ไป๋ต้องไม่สบายแน่ ๆ” ฉันกังวลเรื่องเดียวไม่อยากให้น้องเข้าใจผิดไปตลอดชีวิต อึดอัดจนต้องถอนหายใจ
“ไป่ไป๋มีข้อดีที่มุ่งมั่นตั้งใจ กัดไม่ปล่อย ผมเชื่อว่าเธอจะทำจริง”
“บรื้น...นน!!” รถยนต์กำลังไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดของยอดเขา
“ไป่ไป๋เป็นคนจริงจัง ความรักของเธอคือการได้เป็นเจ้าของ ได้ครอบครอง เมื่อต้องเสียของรักไปก็จะเสียใจมากเป็นธรรมดา ส่วนนาตาลีเป็นผู้ใหญ่กว่ารู้จักแยกแยะเหตุและผล เธอจะผ่านเรื่องนี้ได้ก่อน ส่วนคุณก็อย่าโกรธเธอเลย อดทนหน่อยนะครับหรือคุณลืมเธอไปเลยก็ได้ ผมขอร้องนะครับ” สายตาของเขามองนิ่งไปตามถนนที่ยาวไกล
“แยกนี้ไปไหนครับ?” เขาชี้ไปที่ทางแยกด้านขวาแล้วรถยนต์ก็แล่นผ่านอย่างรวดเร็ว
“ทางเข้าค่ายกักกันหมายเลข14 แคซอน ค่ายนี้มีนักโทษการเมืองมากที่สุดค่ะ” ฉันรู้สึกกลัวจนต้องโหนราวจับให้มั่น เขาขับรถยนต์โหดมากเสียวท้องไปหมด
“เรื่องนี้! เจ็ทโด้รู้ไหมคะ?”
“บรื้น...นน!” รถยนต์แล่นลงจากภูเขาด้วยความเร็วสูง ทางแยกซ้ายเข้าป่า ทางแยกขวาลงสู่ทางราบ
“เขารู้ทุกเรื่องครับ แต่ผมขอร้องไว้เหมือนกัน” เขาชะลอรถเมื่อเห็นด่านทหารข้างหน้า หันหน้ามามองเหมือนปรึกษา
“ขับเข้าไปเลยค่ะ” ฉันดึงนกหวีดมาคาบพยายามมองสำรวจรอบบริเวณ ชักปืนสั้นทองคำของท่านผู้นำมาขึ้นลำเตรียมไว้
“บรื้น...นน!!” เขาขับรถยนต์เข้าด่านอย่างช้า ๆ ระวังตัวเป็นพิเศษ
“ทำไมไม่มีทหารเลยเหมือนด่านร้าง ทหารยามไปไหนหมด” เขาขับมาจนถึงป้ายหยุดตรวจ
สองฝั่งถนน...เป็นค่ายทหารกำแพงยาว หันไปมองรอบตัวป้อมทหารข้างทางดูเงียบผิดปรกติ
“บรื้น!” รถยนต์แล่นผ่านช้า ๆ ฉันกวาดตามองไปรอบ ๆ...
“โน่นไง! ไปเดินอยู่กลางทุ่งโน่น” ฉันชี้ให้เขาดูทหารในเครื่องแบบเดินหลงอยู่กลางทุ่งมุ่งหน้าไปคนละทิศ
เขามองนกหวีดในมือของฉัน...
“อันเล็กแค่นี้อานุภาพน่ากลัวจริง ๆ”
“นาตาลีเก่งจริงค่ะ! พูดแล้วก็คิดถึงรีบไปกันเถอะเดี๋ยวมืด ที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัวอีกแล้ว นกหวีดของฉันดังไปทั่วประเทศแล้ว”
เมื่อเวลาผ่านไปหัวใจเริ่มตกตะกอนจากความตื่นเต้น เริ่มหนักใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะตั้งใจไว้แน่แน่วก็ไม่อาจทำให้มองข้ามความปวดร้าวของผู้อื่น
“บรื้น...นน!!!” รถยนต์ลินคอล์น-คอนติเนนตัลของท่านผู้นำสูงสุด พาเรามุ่งสู่ชายแดนตะวันตก ผ่านพื้นที่ทุ่งนาแห้งแล้ง ภูเขาสูง ลำธาร ทะเลสาบและหมู่บ้านเล็กในชนบทใต้ดวงตะวันยามบ่าย
ชินอุยจู เมืองใหญ่ชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ อาคารสูงสองฝั่งถนนอยู่ในสภาพไฟไหม้ไม่ต่างไปจากเมืองหลวง Soulless เดินไร้ทิศทางไปทั่วเมือง
“เอาไงต่อครับ?”
รถยนต์มาจอดหน้าประตูใหญ่ ก่อนข้ามสะพานรถไฟไปตานตง ประเทศจีน เหล่าทหาร Soulless เดินเพ่นพ่านไร้สติบนรางรถไฟที่ผ่าเมืองไปทางซ้ายออกนอกทุ่งมุ่งกลับสู่เมืองหลวง
“คุณหารถยนต์จีนที่จอดแถว ๆ นี้สักคัน ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินตานตงนะคะ” ฉันมองใบหน้าที่เสียหายยับเยินเพราะไฟไหม้ด้วยความขอบคุณ จะจำใบหน้านี้ไว้ตลอดชีวิต ชายหนุ่มที่ยอมมาตายพร้อมกับฉัน และเคยช่วยชีวิตฉันไว้ครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เราต้องจากกันอีกแล้วนะ
“แทนคะ! ถ้าคุณไม่มีใคร คุณเหงา คุณต้องการเพื่อน กลับมาหาฉันนะคะ มาอยู่กับฉัน ฉันจะดูแลคุณเอง” ฉันอยากตอบแทนความดีของเขาถึงใครจะมองข้าม แต่ฉันไม่มีวันทำเช่นนั้น
“พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง? คุณจะไม่กลับไปด้วยกันเหรอ? งานของคุณเสร็จแล้วนี่ครับ”
ฉันคิดในใจ...ฉันอยากกลับมาอยู่ที่บ้าน ฉันจะอยู่และตายพร้อมเพื่อนร่วมชาติ ถ้าคุณจากไปแล้วเราคงไม่ได้เจอกันอีก ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร และอยู่ได้นานแค่ไหน? แต่ฉันยอม...
“ฝากบอกคิดถึงทุกคนด้วยนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ที่ช่วยเหลือมาตลอด ฉันจะใช้ชีวิตที่เหลือกับพี่น้องร่วมชาติจนกว่าจะลาโลก” ยิ้มยืดอกพยายามแสดงความแข็งแกร่งให้เขาเห็น
“มันอันตรายเกินไปที่จะอยู่คนเดียวท่ามกลางSoulless แล้วยังมีพวกที่ไม่ติดเชื้ออีกเยอะแยะที่ยังจงรักภักดีกับผู้นำ ผมไม่ยอมให้คุณอยู่ที่นี่คนเดียวหรอก เจ็ทโด้ฆ่าผมแน่ถ้าผมทิ้งคุณแล้วหนีกลับไปคนเดียว” เขาลังเลไม่ยอมออกรถยนต์
“เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย ไม่มีใครสนใจฉันหรอกค่ะ” ฉันไม่วายใจแวบเมื่อเขาพูดถึงเจ็ทโด้ผู้ชายที่ฉันชื่นชอบ
“จูยอนครับ!...”เขาเรียกแล้วเงียบไป ท่าทางอึดอัดใจ ขยับแล้วขยับอีกก่อนจะบอก...
“ผมไม่มั่นใจว่าเราจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า? ผมต้องบอกคุณ ผมต้องบอกให้คุณรับรู้ ไม่อย่างนั้นคุณก็จะเข้าใจผิดไปอีก” เขากระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัด
ฉันเริ่มสงสัยและหัวใจเต้นแรง...
“เรื่องอะไรคะ?” อยากรู้มาก
“ผมเป็นคนบอกเขาเองว่าเจอคุณอยู่กับลูอิสที่กองพันที่8 เขามาเป็นทหารรับจ้างเพราะต้องการเจอคุณอีก เขาให้ผมตามหาคุณและรับภารกิจเก็บนกหวีด เขาดีใจมากที่เจอคุณ” แทนอึกอัก แต่ฉันยังแปลกใจอยู่ดี ท่าทางของเจ็ทโด้ไม่ได้ดีใจสักนิดเมื่อเจอกัน
“ดีใจเหรอ? คุณมาช่วยฉันเขายังสั่งขังคุณเลย” สับสนมากเขาเอาอะไรมาพูด ย้อนแย้งกับสิ่งที่เห็น
“เราต้องแสดงละครตบตาหน่วยงาน มันผิดวินัยร้ายแรงของทหารรับจ้างที่จะเข้าช่วยเป้าหมาย ทีมของคุณถูกสั่งเก็บจากทหารจีน ยอร์นก็เช่นกัน วันนั้นทีมที่ไล่ล่ายอร์นเข้ามารบกวนงานของผม ภารกิจจึงต้องยกเลิก”
“อ้าว! ถ้าไม่ยกเลิก คุณก็จะฆ่าฉันเหรอ?” ฉันหันไปโวย ดีมาตลอดแท้ ๆ
“ไม่หรอก! ผมมีแผนสองที่จะช่วยคุณ แต่เรื่องมันไปเป็นแบบนั้นซะก่อน เลยผิดแผน”
แต่ฉันยังไม่เข้าใจอยู่ดี...
“แล้วเขาสั่งขังคุณทำไม?”
“มีเหตุผลครับ ขอให้คุณรู้ไว้ก่อนนะครับว่านั่นคือการแสดง เขาสั่งขังผมเพื่อตบตาสองสาว ไม่ให้พวกเธอรู้เรื่องเกี่ยวกับความคิดของเขา เขาอายเกินกว่าที่จะบอกกับทุกคน เขาเคยบอกว่า...เขาเคยทำไม่ดีกับคุณไว้ ผมไม่รู้ว่าเรื่องอะไร?” เขายังนั่งจับพวงมาลัยไม่ยอมลงจากรถยนต์
“อายเรื่องอะไร? เขาไม่เคยทำร้ายฉัน”เจ็ทโด้เป็นคนสุภาพกับผู้หญิงฉันจำแววตาของเขาได้ คนที่เคยมองฉันเวลาทำงานเคยยิ้มให้เมื่อเหนื่อยล้า มีแค่ปากร้ายของเขาที่ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว
“เฮ้อ!” แทนถอนหายใจเสียงดังหันมา...
“เขาชอบคุณนะ เจ็ทโด้ชอบคุณครับจูยอน”
“.............” ฉันหูอื้อไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาบอก แต่ก็ดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ยินแบบนี้ อย่างน้อยสิ่งที่ฉันเคยทำมันก็ไม่เปล่าประโยชน์เสียทีเดียว
“บ้าน้า!ไม่อยากเชื่อ ฝากขอบคุณเขาด้วย” ฉันดีใจมากแต่ทุกอย่างมันสายไปแล้ว ฉันไม่กลับไปหาเขาอีกแล้ว ถือว่าเราหมดเวลาต่อกันก็แล้วกัน /ฉันไม่กล้าบอกกับแทนหรอกว่า ฉันเองก็ชอบเขา/
เวลาแห่งการจากลาล่วงผ่านไปเรื่อย ๆ ดวงอาทิตย์ก็ล้าลงมาทุกที สุดท้ายเขาก็ยอมลงจากรถแล้วเดินไปที่รถเก๋งจีนสีขาว
ฉันเดินตามหลังไป ...
“คุณกลับไปทำภารกิจของคุณเถอะค่ะ ฉันก็ต้องทำภารกิจของฉัน ส่งแค่นี้พอแล้ว ฉันขอใช้เวลาคิดสักพักว่า จะทำอย่างไรกับพวกนี้ต่อไป รักษาสุขภาพไว้นะคะ และขอบคุณมากที่ดีกับฉันจนถึงวันนี้”ฉันจับมือลา ไม่ได้กังวลกับปัญหาที่เขากังวลและเก็บสิ่งที่เขาบอกไว้เป็นยาชูใจ
“จูยอนครับ! ผมเป็นห่วงคุณมาก ถ้าคุณต้องการให้ผมอยู่ที่นี่ก็ได้นะครับ ผมจะไม่กลับไป” เขาเข้ามาสวมกอด ฉันชื่นใจมากกับทุกคำพูดและการกระทำ นี่แหละแทน…ผู้แสนดี
“ฉันอยู่ได้ ตอนนี้จะทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องกลัวโดนจับแล้ว ฉันจะอยู่ที่ Room 39 ในตึกที่ทำการพรรคแรงงานนะคะ จำได้ไหมคะ? วันที่เป่านกหวีด อาคารทางซ้ายที่มีรูปธงชาติบนยอดตึกที่จัตุรัส คิมอิลซุง”
สายลมพัดแรงผมเผ้ายุ่งเหยิง สหาย Soulless ของเราเดินเพ่นพ่านกลางตลาด เขานั่งคิดแล้วหันมา...
“ถ้าผมข้ามสะพานนี้ไป เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะครับ ผมคงไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว” น้ำเสียงเศร้าจัง
“.........” ฉันพยักหน้ายอมรับด้วยใจเหงา
“อย่าลืมโน้ตบุ๊กนะคะ ฉันอัพเกรดให้แล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันเกิดที่นี่ ถ้าตายก็ตายที่นี่ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีกแล้ว” ฉันต้องแสดงความเข้มแข็งเพื่อตบตาของเขา
“ยังทันนะครับ เปลี่ยนใจสิ!”
“ไปเถอะ! เดี๋ยวฉัน กลับบ้านลำบาก มันจะมืด! เอานี่ไปฝากไป่ไป๋ด้วยนะ มันเป็นเพื่อนที่เดินทางไปกับฉันตลอด” ฉันถอดนาฬิกาข้อมือส่งไปให้ เขาเจอไม้นี้เข้าไปก็จำใจต้องรับ
“เอ่อ!” เขาลังเลหันมองหลายครั้งก่อนจะขึ้นรถยนต์
“ลาก่อนครับจูยอน” เขาโค้งศีรษะ
สายลมแห่งการจากลากำลังพัดพาเขาจากไป ฉันยืนมองส่งเขาจนรถยนต์วิ่งข้ามสะพานไปจนไกลลับตา จากนี้ไปชั่วกาลจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว หัวใจหวิวสั่นไหวความอดทนอดกลั้นสุดท้ายหมดลง เข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นหมดสิ้นเรี่ยวแรงจิตใจส่วนลึกอ่อนแอน้ำตาไหลพราก นั่งร้องไห้ปานขาดใจกับแม่ธรณี เมื่อเห็นเพื่อนร่วมชาติต้องรับชะตากรรม ถึงจะบอกกับเขาว่า ไม่เป็นไร แต่ในใจมันเป็นผุยผงไปแล้ว ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อกำจัดคนตระกูลเดียว มันแพงมากจริง ๆ
.........................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |