หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 6 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 26 เม.ย. 2567 |
มณฑลหนานหนิง ประเทศจีน
มุมมองสายตา หมวดจาง
มีนาคม ค.ศ.2025
เป่ยซี
อากาศยามค่ำเย็นสบายสายลมพัดต้นตะแบกใหญ่ใบพลิ้วไหว เงาตะคุ่ม ๆ ของนาตาลีนั่งอยู่คนเดียวใต้ต้นไม้ใหญ่ในซุ้มดอกแก้วหน้าบ้าน ไป่ไป๋ออกไปเที่ยวกับเจอรี่ยังไม่กลับเข้ามา
นาตาลีใจเด็ดมากเก็บความเสียใจไว้เงียบคนเดียว เธอไม่เชื่อว่าไป่ไป๋จะเปลี่ยนใจ เธอวางหัวใจไว้กับไป่ไป๋ทั้งหมด รอคอยคำตอบที่แน่ชัดว่า เธอจะตอบตกลงกับเขาไหม? ทั้ง ๆ ที่ตั้งแต่นาตาลีมา ไป่ไป๋ทิ้งให้เธออยู่บ้านคนเดียวมาตลอด ใกล้ครบ 7 วันแล้ว คำตอบน่าจะรู้กันอยู่แก่ใจทุกคนแล้ว
“ไหวมั้ย?” ฉันแตะเบา ๆ ที่ไหล่ เธอหันมาโผกอดนิ่ง
“.........”ฉันลูบหลังของเธอเบา ๆ ถ่ายทอดความรักและห่วงใย เธอค่อย ๆ สะอื้นแล้วร้องไห้โฮ...
“ฮือฮือ! ทุกอย่างจะไม่กลับมาเหมือนเดิมแล้วใช่มั้ย?”
ฉันน้ำตาไหล ที่เห็นน้ำตาของเธอ สาวน้อยที่สุดแสนดีของฉัน
“ร้องออกมาให้หมด ฉันจะร้องไห้เป็นเพื่อนนะ” ฉันก็เสียใจไม่น้อย พวกเรารักไป่ไป๋เพราะนาตาลี เธอรักไป่ไป๋มากจนพวกเราต่างเอ็นดูและให้อภัยเธอมาตลอด ดูแลเหมือนน้องคนเล็ก ซอนรักและหวงไป่ไป๋เหมือนหมาหวงเจ้าของ ทุกคนต่างวางหัวใจให้เธอหมด
นาตาลีคงจะปวดร้าวใจมาก เธอยอมเสียสละให้เพื่อน ๆ ก่อนเสมอ เธอจิตใจดีช่วยเหลือคนโดยไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใด ๆ ที่สำคัญเธอยอมแม้กระทั่งน้องมาชอบคนรักของตัวเอง
“ฮือฮือ!” เธอสะอื้นตัวโยนตาแดงก่ำ แม่คุณเอ๋ย..ถ้าฉันเจ็บแทนได้ ฉันก็ยินดีจะรับมา ไม่อยากเห็นสภาพนี้ของเธอเลย
เธอพยายามเข้มแข็งต่อสู้กับความช้ำใจ...
“ฉันหายแล้ว ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร” เสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นหลังจากเธอร้องไห้พักใหญ่
“ฉันดีใจที่น้องจะมีครอบครัว อย่ากังวลไปเลยนะ ฉันไม่เป็นไร” เธอฝืนยิ้มตาช้ำแดง ท่าทางโรยแรงใบหน้าซูบลงทันตาเห็น ก่อนจะมาที่นี่เธอยังตื่นเต้นดีใจที่จะได้เจอกับไป่ไป๋
“ฉันปรึกษากับซอนว่า จะไปที่หมู่บ้านมู่เหลา ไปพักอยู่ที่นั่นจะได้หลบสงครามด้วย ไปด้วยกันไหม?” ฉันโกหก...อยากพาเธอไปให้พ้นจากที่นี่
ฉันรักนาตาลีมากไม่อยากให้เธอต้องช้ำใจไปกว่านี้ เจ็บคราวนี้คงต้องใช้เวลาอีกนาน ที่พึ่งทางใจของเธอมีคนเดียวแต่ก็โดนหักหลัง
“ไปสิ! ฉันไปด้วย ไป่ไป๋จะ...ไม่สิ เธอคงไม่ไปไหนกับพวกเราอีกแล้ว” เธอฝืนพูดอย่างยากเย็น น้ำตาคลอเหม่อลอย
“พอทุกอย่างผ่านไปเรากลับไปอยู่บ้านซอน ชาวบ้านชาติพันธุ์ที่เราช่วยไว้พวกเขารอคอยให้เรากลับไป อยู่กับฉันไปนาน ๆ ช่วยกันเลี้ยงน้องแทนให้โตเป็นผู้ใหญ่อย่างดี เธออยากให้เขาเป็นอะไรดี” ฉันชวนคุยเรื่องอื่น เบี่ยงเบนความคิดของเธอ
“น้องแทนอยากเป็นอะไรก็ได้ ฉันสนับสนุนทุกอย่าง ขอให้เป็นคนใจดีก็พอ คอยช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาส” เธอยิ้มได้แต่สายตาเหมือนอยากตาย ดูแห้งแล้งสิ้นหวัง
เธอหันมาพูดทั้งน้ำตา...
“เมื่อวันก่อนเห็นชุดซูเปอร์แมน ฉันว่าจะกลับไปซื้อให้น้องใส่สักหน่อย ฉันว่าเขาต้องหล่อแน่ ๆ” เธอยิ้มเศร้า
“ฮือฮือ!” ฉันร้องไห้โฮ จิตใจที่แสนดีอย่างนี้ไม่น่าต้องโดนทำร้าย เสียงในใจของฉันบอกว่า ดอกเตอร์ทำเลยอยากทำอะไรทำเลยนะ อย่าอยู่เฉยมันทรมาน เธอต้องเข้มแข็งต่อสู้กับจิตใจของตัวเองให้ได้ ฉันจะยืนข้างเธอ
แสงไฟหน้ารถสาดแวบเข้ามาในรั้วบ้าน นาตาลีชะเง้อคอ
“ไป่ไป๋กลับมาแล้วมั้ง?” เธอมองตรงไปที่หน้าประตูรั้วใหญ่ทางเข้าบ้าน
รถยนต์สีขาวทะเบียนจีน ไม่คุ้นตาวิ่งเข้ามาจอดหน้าตัวบ้านเลยซุ้มของพวกเราไป ฉันสังเกตแล้วไม่คุ้นตาเลยหันไปบอกนาตาลี
“ไม่ใช่รถไป่ไป๋นี่”
“ใครมากันนะ?”
“ปึง!” สักพักก็มีคนลงจากรถ...ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ในเสื้อคลุมออกมายืนข้างรถยนต์ ซอนและเจ็ทโด้ยิ้มกว้างวิ่งออกมา เขาแนะนำตัวกันและเข้าสวมกอด
ฉันขมวดคิ้ว...
“แทนนี่นา ท่าทางเหมือนแทนจังเลย” ฉันเปรยเบา ๆ
นาตาลีหันมองแล้วถอนหายใจ...
“อ๋อ!..ฉันรู้จัก นินจาลูกน้องของเจ็ทโด้” นาตาลีบอกเรียบ ๆ หันไปมองหน้าบ้าน
“หือ! นั่นน่ะใช่แทนแน่ ๆ” ฉันจำคนผิดเหรอ
“อย่าถามมาก บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ!” เธอไม่พอใจซะงั้น
“พรุ่งนี้! เข้าตลาดไปซื้อของเล่นให้น้องแทนกันดีกว่าเนอะ?” ฉันบอกในขณะที่สายตายังมองไปที่สามหนุ่ม ก่อนที่เขาจะปลีกตัวเดินมาหา สองหนุ่มหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้านไป
ฉันมองพิจารณาท่าทางการย่างก้าวเหมือนแทนทุกประการ ต่างกันแค่รูปร่างที่บึกบึนกว่าเท่านั้น เขาก้าวเท้าเข้ามาที่ซุ้มที่นั่งกันอยู่...
"สวัสดีครับดอกเตอร์! สบายดีไหมครับ?” เขาสวมฮู้ดคลุมใบหน้าเดินเข้ามายืนห่างจากเราสัก 5 ก้าว และตรงนี้ก็มืดจนมองไม่ชัด
“สวัสดีค่ะนินจา ไปส่งพี่สาวฉันแล้วใช่ไหม?” นาตาลียิ้มทักอย่างสนิทสนม
“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ใบหน้าโรย ๆ” น้ำเสียงของเขาก็คล้าย ๆ
“เปล่าคะ! เวียนหัวนิดหน่อย”
“จูยอนฝากความคิดถึงมาให้ด้วยครับ รับไว้สิครับ!” เขาล้วงในเสื้อดึงดอกกุหลาบขาวแดง ส่งให้คนละ 2 ดอก
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มถูกใจที่มีเหตุการณ์ใหม่เข้ามา ทำให้บรรยากาศโดยรอบดีขึ้น
“นินจาคะ!..นี่หมวดจางพี่สาวของฉันรู้จักกันไว้สิคะ”เธอแนะนำ
“สวัสดีค่ะ” ฉันส่งยิ้มให้พยายามจับพิรุธ เขาโค้งศีรษะให้อย่างสุภาพ ท่าทางคุ้นจริง ๆ ฉันจำลักษณะคนเก่งมากค่อนข้างมั่นใจว่า เขาเหมือนกันมาก แต่แทนจากเราไปแล้วฉันก็เห็นกับตาตัวเอง
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“เอ๊ะ!” ฉันจ้องหน้าเมื่อได้ยินเสียง คุ้นหูจัง
นาตาลีโบกมือ...
“ไม่ใช่หรอกค่ะ! ฉันก็เคยแปลกใจแบบนี้แหละ”
“ใช่สิ! ใช่แน่ ๆ” หูของฉันฟังไม่พลาดแน่ของพวกนี้ฝึกมาทั้งนั้น ฉันสังเกตและจดจำคนเก่งมาก ตอนที่พวกเขาปลอมตัวเป็นหมอ เห็นแวบเดียวยังจำได้เลย
"แล้วคุณมาจากไหนคะ?รู้ได้ยังไงว่าพวกเราอยู่ที่นี่?” นาตาลีชวนคุยการมาของนินจามีประโยชน์มาก ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นมาหน่อย
“มาจากเกาหลีเหนือครับมารายงานหัวหน้าพรุ่งนี้ก็ไปแล้วครับ”เขารายงานอย่างสุภาพ
“โอ้โห!..หายกันไปนานเลย อยู่เกาหลีเหนือตลอดเลยเหรอคะ?” เธอเสียงใสขึ้น
“ครับ! ช่วยงานคุณจูยอน นิดหน่อย”
“แล้วจะกลับเลยเหรอ? อยู่พักก่อนสัก 2 - 3 วันก็ได้นะคะ” ฉันเอ่ยชวน
เขาอึกอัก...
“เอ่อ!..ไม่ดีหรอกครับ ผมเกรงใจ” เขาตอบตะกุกตะกัก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พักก่อนก็ได้ พวกฉันจะขอเจ็ทโด้ให้เอง” เธอยังดูโรยแรง ดวงตาช้ำ
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอนอนในรถหน้าบ้านนะครับ” เขาโค้งหัวสุภาพ
“ได้ยังไง! ในบ้านก็มีที่นอน จะได้นอนสบาย ๆ คุณทำงานเสี่ยงมาตลอด พักมาก ๆ เถอะค่ะ ชีวิตของเราไม่รู้จะได้อยู่นานแค่ไหน ดูแลมันดี ๆ หน่อยสิคะ”
เขายืนกุมเป้าน่ารักเชียว แสงไฟรถยนต์สาดส่องจากหน้าบ้าน พวกเราหันพร้อมกัน
“โน่น!...ไป่ไป๋มาแล้ว” เธอดีใจตาวาว ผวาลุกยืนยิ้มแก้มปริมองตามจนรถยนต์จอด ฉันได้แต่ถอนหายใจเรื่องของหัวใจก็เรื่องหนึ่ง เรื่องของครอบครัวพ่อแม่ต้องกตัญญูก็อีกเรื่องหนึ่ง ไป่ไป๋คงคิดหนักเหมือนกัน
“กลับมาแล้วค่า” ไป่ไป๋ยิ้มกว้างโบกมือ ตะโกนเสียงใส
“อนนี่! วันนี้มีความสุขจังเลย”เธอเข้ามากอดแขนชวนคุย แล้วหันไปมองนินจา
“นี่นาย! นายมาบ้านฉันทำไม?”เธอเปลี่ยนท่าทีน้ำเสียงเป็นคนละคนเดินปรี่เข้าไปหาเขา
นาตาลีลุกพรวดกอดเอว...
“อย่าค่ะ! เขามาขอพึ่งพา ช่วยเขานิดหน่อยก็ได้ค่ะ” เธอยื้อยุดกัน
“อนนี่คะ! คนนี้หนูขอนะคะ หนูไม่ชอบเขาเลย ดีจริง ๆ มาถึงบ้านเลย” เธอกระฟัดกระเฟียดแกะมือนาตาลี
“ทำไมถึงไม่ชอบเขาล่ะ? เขาไม่ได้ทำอะไรเราเลยนะ” นาตาลีร้องขอ จับแขนของเธอไว้
. “เขาเหมือนแทน หนูเห็นเขาแล้วใจเสียไม่อยากเห็นเขา และหนูเกลียดเขาที่ช่วยจูยอน” เธอเกรี้ยวกราดโวยวาย ฉันคิดว่าเธอไร้สาระมาก
นินจาขยับตัวเข้าไปหา...
“นี่ครับ! จูยอนฝากนาฬิกามาให้ เธอใส่ตลอดกาลเดินทางเป็นของที่เธอรักมากที่สุด” เขายื่นนาฬิกาข้อมมือเรือนเล็กส่งให้
“ห่ะ!” ฉันผวาจะห้ามแต่ช้าไป ไป่ไป๋โกรธเลือดขึ้นหน้า...
“ไม่เอา! เอาไปทิ้งเดี๋ยวนี้นะ นายรีบออกจากบ้านไปเลย” เธอเอานาฬิกาข้อมือขว้างใส่หน้า
“.........” เขายืนอึ้ง
ฉันรีบเดินไปก้มเก็บขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปยัดใส่มือเขา...
“นินจาคะ!คนจีนถือมากเรื่องการให้นาฬิกา มันเหมือนกับเป็นการอาฆาตแค้นรอดูวันตายของผู้รับ ความหมายไม่ดีค่ะ ฉันขอโทษนะคะที่นี่ไม่ใช่บ้านของฉัน คืนนี้คุณคงนอนที่นี่ไม่ได้” ฉันก้มหัวขอโทษในใจสงสารเขามากเพราะไม่รู้ธรรมเนียมของชาวจีน ยิ่งทำแบบนี้พินาศแน่ ฉันหันมองไป่ไป๋อย่างไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมเธอถึงเกลียดนินจาได้มากขนาดนี้ เดี๋ยวนี้อารมณ์ของเธอร้ายขึ้นกว่าเก่ามาก
“ผมขอพูดนิดเดียว แล้วขอตัวเลยดีกว่านะครับ ผมเกรงใจไม่อยากทำตัวมีปัญหา” เขาถอยห่างออกไป…
“คุณจูยอนฝากบอกว่าคิดถึงและขอบคุณทุกคน” เขาหันไปหาไป่ไป๋...
“สำหรับคุณ...เธอฝากขอโทษมาด้วย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วก้มหัวให้พร้อมถอยหลังจะก้าวขาเดิน
“ฉันไม่รับคำขอโทษ และนายก็ออกไปจากบ้านฉัน...เดี๋ยวนี้!”เธอตวาดแล้วชี้มือไปที่ประตู
เขาหันมาก้มหัวให้ฉันกับนาตาลีแล้วหมุนตัวเดินกลับ ก่อนจะหันมาบอกกับไป่ไป๋อีกครั้ง...
“คุณจูยอน! ไม่ได้ฆ่าเพื่อนของคุณนะครับ เธอจิตใจสูงกว่าที่คุณคิด เธอไม่ใช่คนเนรคุณ เธอเป็นวีรสตรี” เขาบอกแล้วเดินไปที่รถยนต์
ฉันไม่ชอบท่าทางจองหองของไป่ไป๋เลย...
“คุณเกลียดจูยอนขนาดนั้นเชียวเหรอ? มันย้อนแย้งยังไงก็ไม่รู้นะ”
“เจี่ยเจี้ยไม่รู้อะไร? ไอ้นี่มันไปช่วยจูยอน ถ้ามันไม่ช่วยจูยอนก็ตายไปแล้ว ถ้าหนูได้เห็นเธอตายหนูจะสบายใจกว่านี้” เธอเสียงเขียวหน้าตึง นินจายังยืนฟังอยู่ที่รถยนต์ของเขา
“เกลียดเรื่องอะไร?” ฉันชักหมั่นไส้ เธอจะมีผัวอยู่แล้วจะไปเกลียดคนอื่นทำไม?
“ก็เธอฆ่าแทน” ไป่ไป๋สวนทันที
“จะสนใจทำไม? เธอก็จะแต่งงานแล้ว เธอก็ฆ่าเขาไปจากใจเธอเหมือนกัน” ฉันพูดจิกแก้แค้นให้นาตาลี ชักจะเหลืออดแล้ว
นาตาลีพูดเสียงอ่อน...
“จูยอนไม่ได้ทำร้ายแทนค่ะ เธอเคยยืนยันกับฉันและนินจาก็บอกแล้ว”
“อนนี่! ก็ใจดีอย่างนี้ไงล่ะ ใคร ๆ ถึงได้เอาเปรียบตลอด อนนี่ดีกับทุกคนไม่เคยสนใจหนูเลย” เธอบ่นนาตาลีเข้าไปอีก คำพูดของเธอดูแข็งกระด้างมาก เธอต่างหากที่ทิ้งนาตาลี
“ให้อภัยกันเถอะเขาต้องอยู่กับเจ็ทโด้ ถ้าไล่แล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ? ให้เขาได้คุยกันก่อนไม่ดีกว่าหรือ?” เธออ้อนวอน ฉันมองไปที่รถยนต์นินจายืนฟังพวกเราคุยกันอยู่เงียบ ๆ ยังไม่ขึ้นรถยนต์
“อนนี่!ไม่ต้องเป็นห่วง กับเจ็ทโด้หนูคุยได้อยู่แล้ว แค่ลูกน้องคนเดียว หาเมื่อไหร่ก็ได้” เธอบอกแล้วสะบัดหน้าไปมองเขา
“ไปเลย! ออกไปเลย” ไป่ไป๋ไล่เขาเหมือนไม่ใช่คน ทำไมเธอเปลี่ยนไปมากจังเลย? เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้น
“แทนก็ไม่อยู่กับเราแล้ว เธอเองก็กำลังจะแต่งงานจะโกรธจูยอนอีกทำไม?” นาตาลีกล้ำกลืน พยายามปรับน้ำเสียงให้ปรกติแต่มันสั่นเครือ
“เข้าข้างคนอื่นอีกแล้วนะ” เธอสะบัดหน้า
ฉันไม่ไหวแล้วขอพูดหน่อยเถอะ ...
“ไป่ไป๋! ถ้าเราจะเปลี่ยนเส้นทางเดินใหม่ ก็ควรจะลืมเส้นทางเดิมที่ผ่านมาจะดีกว่านะคะ การเกลียดคนที่ไม่มีความผูกพัน เกลียดคนที่ไม่มีความหมายจะมีประโยชน์อะไร? ความแค้นมันจะติดตัวเธอไป อย่าให้เรื่องนี้ไปรบกวนครอบครัวใหม่เลยค่ะ ลืมทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วเดินต่อไปอย่างที่ใจต้องการเถอะ!”
“ไม่เอา! ไม่เอา! ไปเลย! ไป!!!” เธอดื้อรั้นไม่ยอม
“Rrrr!!” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ เธอหยิบขึ้นมาดูชื่อแล้วยิ้มหวาน
“ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” เธอดีใจกะดี๊กะด๊าเดินแยกไปรับโทรศัพท์
ฉันมองนาตาลีแล้วสงสารจับใจ เธอตาแดงก่ำลุกขึ้นเดินเข้าไปหานินจา...
“ขอโทษแทนน้องสาวอีกครั้งนะคะที่เสียมารยาท ช่วงนี้!เธออารมณ์ไม่ค่อยดี ปรกติเธอไม่ได้เป็นคนอย่างนี้”
“ไม่เป็นไรครับ! เดี๋ยวผมไปนอนที่ศาลาริมถนนข้างหน้าบ้านก็ได้ครับ”
“เฮ่อ!” ฉันใจหาย แต่จะทำอย่างไรได้ที่นี่ไม่ใช่บ้านของฉัน หันไปมองไป่ไป๋นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คุยโทรศัพท์ นาตาลีก้มหน้าเดินคอตกเข้าบ้าน ส่วนนินจาขึ้นรถยนต์ขับออกไป
สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงเริ่มหันทิศทางมาที่ครอบครัวของเรา นาตาลีจะผ่านพายุร้ายครั้งนี้ได้หรือเปล่า? ความสิ้นหวังมักทำลายศักดิ์ศรี ขาดความยั้งคิด เมื่อต้องสูญเสียคนรักเท่ากับควักหัวใจตัวเอง เธอจะทำยังไง? จะต่อสู้กับความเสียใจได้อีกนานแค่ไหนกันนะ?
............................................................หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |