หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 6 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 27 เม.ย. 2567 |
มณฑลยูนนาน
มุมมองสายตา หมวดจาง
กรกฎาคม ค.ศ.2025
ตงชวน...
“ที่นี่สวยจังเลย” ฉันนั่งมองภูเขาดอกไม้หลากสีซับซ้อน เคยโดนจับมาที่นี่พร้อมกับโมเสส บ้านหลังใหญ่ที่ติดกันตอนนี้เหลือเพียงเสาไหม้ไฟดำปี๋
“เฮ้อ!” คิดถึงอดีตที่ผ่านมา...ครั้งก่อนฉันเป็นเชลยของเขามาคราวนี้เป็นแม่ของลูกชีวิตที่ไม่น่าเป็นไปได้ก็ได้เป็น นาตาลีหนีศัตรูภายนอกได้ แต่สุดท้ายก็แพ้ศัตรูภายในชีวิตคนไม่มีอะไรแน่นอนเลย เกิดเป็นคนอย่างไรก็หนีทุกข์ไม่พ้นทางเดียวที่จะลดความรู้สึกนี้ได้คือปล่อยวาง ไม่ยึดติด
“ฉวยจังเยย ดอกไม้เยอะแยะ”เจ้าลูกชายกางแขนหมุนมองไปที่ขุนเขาหลากสี ดอกไม้เหลืองแดงบานสะพรั่งทั่วขุนเขา
ฉันก้มหน้าลงไปฟ้อง...
“ป๊าเคยตีม้าที่นี่!” ฉันทำหน้าเศร้าอ้อน
“นิฉัยไม่ดี” น้องแทนลุกเดินไปหาพ่อที่นั่งดูแผนที่ประเทศเกาหลีเหนือ…
“ป๊า!” แล้วง้างหมัด
“อุ่บ!” เขาต่อยท้อง ซอนแกล้งตัวงอลงไปดิ้นกระแด่ว ๆ กับลานพื้นปูนหน้าบ้าน
“ขอโทษครับ กลัวแล้วไม่ทำแล้วครับ” เขาเล่นใหญ่ดิ้นสมจริง
เจ้าลูกชายยืนมองด้วยหางตา...
“นิฉัยไม่ดี ชอบแกล้งม้าจะฟ้องลี” น้องแทนยิ้มแป้นกลับมานั่งตัก
“ม้า!เค้าตีให้แล้ว”ลูกชายเอียงหัวซบอก มันเต็มตื้นหัวใจ
ฉันถอดเขี้ยวเล็บทุกอย่างก็เพราะเจ้านี่แหละ เมื่อมีเขาแล้วก็ต้องเลี้ยงให้ดีที่สุดให้แข็งแกร่งตั้งแต่เด็ก ปล่อยให้เป็นลูกสาธารณะใครจะเลี้ยงก็ได้ เขาสามารถเข้ากับใครก็ได้และไม่กลัวคน นี่ก็เป็นการปล่อยของฉันเช่นกัน
ม้านั่งปูนหน้าบ้านข้างกระถาง ดอกเยลบีร่าเหลืองแดงกำลังบานรับอากาศเย็นชื่นใจสบายกาย เพื่อน ๆ ของซอนอยู่ในหมู่บ้านด้านล่างของภูเขา บรรดาทหารที่พวกเราเคยเลี้ยงบางส่วนก็มาอยู่ที่นี่
เราตัดสินใจเก็บชีวิตของพวกเขาตามคำแนะนำของเจ็ทโด้ ซึ่งฉันก็เห็นด้วย ดีกว่าไปชนกับกองทัพจีน ถ้าสู้ไปนอกจากจะเสียบุคลากรแล้วยังอาจจะโดนยึดทรัพย์
“ฉันว่าจะกลับไปดูบ้านที่รัฐฉานสักหน่อย เป็นห่วงยังไงก็ไม่รู้?” ตั้งแต่ออกมาจากบ้านไป่ไป๋ ก็มาหลบกันที่นี่ไม่รู้ข่าวสารเลย
ผ่านมา 5 - 6 เดือนแล้ว ยังไม่ได้กลับไปที่รัฐฉานอีกเลย สงสารบ้านไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน ต้นไม้ที่ปลูกไว้คงตายหมดแล้วมั้ง? คิดถึงนาตาลีก็คิดถึง อกหักหนีไปเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้?
“ตามใจ! ระวังตัวด้วยนะ เอาเจ้าขนมปังไปเป็นเพื่อนด้วยไหมล่ะ?” ซอนลูบหัวลูกชาย
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก คุณดูลูกด้วยก็แล้วกัน ฉันขับรถไปกลับวันเดียวไม่น่ามีปัญหา กองทัพฯ มันคงเลิกตามฉันแล้วล่ะ” ฉันค่อนข้างมั่นใจ ตลอดเวลาที่อยู่ในรัฐฉาน ไม่เคยมีใครมากวนใจ นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้วด้วย
ฉันหันไปหาซอน...
“ฉันคิดถึงดอกเตอร์จังเลย เป็นห่วงมาก” นานแล้วที่ฉันไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของเธอ เป็นอย่างไรบ้างนะ? เอาชนะใจตัวเองได้หรือเปล่า?
“ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าไป่ไป๋มันจะใจดำขนาดนั้น ผมบล็อกเบอร์ตัดการติดต่อไปแล้วด้วย แต่คิดอีกทีก็ชีวิตใครชีวิตมัน เธอคงมีเหตุผล”
ฉันพอจะเข้าใจ บางครั้งคำพูดก็ไม่เพียงพอที่จะอธิบายเหตุผลได้ แต่ความเป็นตัวตนนี่แหละ ที่อธิบายแทนเหตุผลได้ สำหรับเธอแล้วฉันขอสาปส่งไปเลย อย่ามาให้เห็นหน้าอีก เสียดายเวลาที่ต้องเหน็ดเหนื่อยเลี้ยงดู
“ป๊า! ไปซื้อเครื่องบินให้ฉันลำสิ”
“หือ!” เขาขมวดคิ้ว หันมา...
“ตอนนี้ซื้อไม่ได้หรอก น่าจะบอกตั้งนานแล้ว ถ้าอยากได้เดี๋ยวให้ไอ้ปังมันพับเครื่องบินกระดาษให้” เขาพูดยิ้ม ๆ
น้องแทนเงยหน้า...
“ม้า! ลีกับไป๋หายไปไหน? ไม่เห็นมาหาเค้าเลย”
“เดี๋ยวลีก็กลับมา แต่ไป๋คงไม่กลับมาอีกแล้ว” ซอนเอื้อมมือมาดึงแก้มลูกชาย /มันจบลงไปแล้วล่ะลูก/
“ไป๋ไปไหน ทำไมไม่กลับมา” น้องแทนติดไป่ไป๋มาก น่าสงสารเขาหงอยไม่แพ้พ่อเลย ซอนก็หงุดหงิดอยู่หลายวัน
“ไป๋! ตายไปแล้ว ไป๋ไม่มาหาพวกเราอีกแล้ว ลืมไปได้เลย” ฉันหมั่นไส้ ตัดขาดกันไปเลยอย่าได้เจอกันอีก
“ไม่เอา! ไป๋ไม่ตาย” น้องแทนหน้าเสียโผเข้ากอดพ่อของเขา
ซอนหน้างอเป็นตูด...
“ไปบอกลูกยังงั้นได้ไง?” หน้าคว่ำเสียงเขียวเลยนะ ฉันระคายหู เหล่ตามอง...
“ทำไม? ทำไมฉันจะพูดไม่ได้?” เดี๋ยวมีเฮ...หันไปจ้องหน้า เขาหลบสายตาลง...วอนซะแล้ว
“ก็น้องยังไม่ตาย แค่ไปแต่งงาน” เขาอ้อมแอ้มไม่กล้าเงยหน้า
“แง่ง! แง่ง!” ลูกหมาตัวน้อยวิ่งหยอกกันออกจากใต้ถุนบ้าน
“น้อง ม้า!...น้อง” น้องแทนยิ้มกว้างลุกวิ่งไปหา สบายล่ะ!..ไม่ต้องทะเลาะต่อหน้าลูก เฉ่งกันเลยละกัน....
“รักเหลือเกินนะ รักกันเหลือเกิ้น” ฉันคำราม
เขาเงยหน้าสู้...
“ก็คนเคยอยู่ด้วยกัน พูดถึงกันดี ๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องไปเกลียดเธอเลย ก่อนจะเลวเธอก็เคยดีมาก่อน ถ้าตัวเองไม่ชอบก็ไม่ต้องยัดให้ลูกไม่ชอบด้วยนี่นา”
ฉันสบตาจ้องสู้กัน...
“อย่ากลับมาก็แล้วกัน ฉันไม่ให้อภัยแน่ ทำตัวเหมือนเมียทหารเกณฑ์ พอผัวเข้าค่ายก็มีชู้ จิตใจโลเล” ฉันแค้น ไป่ไป๋ทำให้ได้เห็นธาตุแท้ของคน ไม่ว่าจะทำดีด้วยแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เวลาไม่สามารถทำให้คนโลเลเข้าใจ
ถึงฉันจะแสนเลวมาก่อน เมื่อฉันตัดสินใจจะเลิกและนาตาลีให้โอกาส ฉันไม่เคยหันกลับไปมองมันอีก ไม่เคยคิดร้ายกับนาตาลีอีกเลย มองเห็นแต่ความดีของเธอ ทำไมไป่ไป๋มองไม่เห็นอะไรเลย? ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็รอดตายมาเหมือนกัน
ซอนพูดออกตัว...
“หม่าม้าอยากได้หลาน อยากให้ไป่ไป๋เนรคุณหรือไงคุณถึงสบายใจ?” น้ำเสียงเหมือนไม่พอใจ กับน้องสาวคนนี้ เขาจะรักอะไรขนาดนั้น? ตัวเองก็แอบร้องไห้ ซึมไปหลายวัน ฉันขี้เกียจจะเหลา
“ฉันจะลงโทษด้วยกฎของเธอเอง ไม่รู้หล่ะ! ถ้ากลับมาจากรัฐฉาน ฉันต้องเห็นไม้กอล์ฟ คุณไปหามาอันเดียวพอ เอาหัวไม้ 1 นะ” ฉันจะหวดให้เด้งเลย เธอออกไปจากครอบครัวแล้ว ถือว่าเป็นคนอื่น
“ม้ามีสิทธิ์อะไร ไปตีเธอ?” ไอ้นี่สู้ตายจริง ๆ หันมาส่งสายตาดุ
“หลบตา!” ฉันสั่ง เขายังจ้องสู้
“ฉันสั่งให้หลบตา! ผลัวะ!” ตบหน้าสั่นไปเลย ฉันจุกอกกับอีตานี่มาก มันเป็นผัวฉันจริงหรือเปล่าวะ?
“ป๊า! ไม่เห็นเหรอว่า นาตาลีไม่ผิด เธอทำงานเพื่อทุกคน พวกเราอยู่สุขสบายทุกวันนี้เพราะใคร? เธอเคยเรียกร้องอะไรจากใครบ้างไหม? สิ่งเดียวที่เธอร้องขอคือเครื่องมือในการทำงาน เธอทำเพื่อคนอื่นมาตลอด” ฉันเพิ่มคีย์เสียงสูง ใกล้จุดเดือดแล้ว
“คนเลิกรักกัน มีความผิดด้วยเหรอ? ไปด้วยกันไม่ได้ ก็ต้องเลิก นาตาลีผมก็รัก แต่เธอต้องทำอะไรผิดกับน้องแน่ ๆ น้องถึงหนีไปแต่งงาน เธออาจทำผิด ผมไม่ได้บอกว่าเธอเลว” เขาลอยหน้าลอยตาตอบ
ฉันโกรธแล้ว คนที่หมกมุ่นอยู่กับงาน คนที่มีความรับผิดชอบสูงมีความผิดด้วยเหรอ? เดี๋ยวเจอกัน...
“อยากจะรักก็รัก อยากจะเลิกก็เลิกเฉย ๆ อย่างนี้ก็ได้เหรอ? ไม่มีความจริงใจกับคำพูดและเวลาที่ใช้ร่วมกันมา เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ไร้ศักดิ์ศรี” ฉันแวดใส่ เขายังมึนทำหูทวนลม
“งั้น! จะให้นาตาลี ไปแต่งงานด้วยเหรอ? ถึงเรียกว่ารับผิดชอบ ก็เธอเคยบอกว่า นาตาลีอนุญาต” ดูเขาช่วยแถ แหม!...รักปานจะแหกตูดดม ฉันขยับไปนั่งใกล้ขึ้น มันไกลมือไปหน่อย ตบไม่ถึง...
“ไม่มีใครอนุญาตหรอก ถ้าคุณมาขอฉันมีเมียใหม่ ฉันก็ต้องตอบว่า เอาสิ!..ฉันต้องบอกอย่างนี้อยู่แล้ว” ฉันเกาหัวขัดใจ โง่จริงหรือแกล้งวะ มันเป็นมารยาทของคนรักกัน พูดไปแบบนั้นแต่ไม่ได้คิดอย่างนั้น แล้วเรื่องอย่างนี้มันขอกันได้ด้วยเหรอ?
เขาเงยหน้ายิ้มกว้าง ดวงตาวาววับ
“จริงหรอ ผมมีเมียได้จริงเหรอ?” โอ้โห...ลิงโลดมาก
“ผลัวะ!” ฉันต่อยเต็มกราม
“อูยส์ ต่อยทำไม?” เขาตูดจ้ำกับพื้น จ้องหน้าอีกแล้ว
“หลบตาเดี๋ยวนี้!” ฉันชี้หน้าเอาจริง ขอสักเหงื่อก็แล้วกัน...
“ป๊าผิดอะไร?” เขายังสู้
“บอกให้หลบตา!” ฉันง้างเท้าอยากจะเตะเสยปลายคาง ปากอย่างนี้ต้องกินข้าวไม่ได้ถึงจะรู้สึก
“หลบแล้ว!” เขาก้มหน้า
“คุณคงเป็นพวกเดียวกับเธอ พวกโง่ซ้ำซาก รักแต่ตัวเอง”
เขารีบลุกเข้ามากอดเอว...
“ป๊าล้อเล่นไม่เห็นต้องโกรธ” เขาตีมึนหอมแก้มพัลวัน ดูไม่จริงใจเอาซะเลย
“ปล่อย!” ฉันผลักออก ยังโกรธเรื่องไป่ไป๋ไม่เสร็จเลย...
“คุณคิดว่า นาตาลีผิดใช่มั้ย? ถามหน่อยเรื่องอะไร?” ฉันยังไม่เคลียร์ต้องถามให้รู้เรื่อง ไม่ยอมแน่ที่จะให้คนมาเข้าใจนาตาลีผิด ๆ แค่เสียคนรักก็เลวร้ายมากพอแล้ว
“คนเรามันก็เบื่อกันได้นี่” เขาลอยหน้าตอบ มันปรี๊ดมาก แม่ง!..อย่าอยู่เลย...
“ผลัวะ!” ตบซะหน้าหันไปเลย เดี๋ยวจะเลาะฟันให้หมดปากเลย เขามองสายตาละห้อย...
“อย่าสบตา!” ฉันเงื้อหมัด เขารีบก้มหน้า
“เบื่อเหรอ? คุณเป็นคนอย่างนี้นี่เอง ฉันรู้ว่า คู่รักมันไม่ร้อนแรงตลอดไปหรอก แต่อย่างน้อยต้องให้เกียรติกัน ต้องมีวงเล็บกับคนรัก”
“ป๊าหมายถึงไป่ไป๋เบื่อ!”เขาเข้ามากอดเอว
“ป๊าคิดเหมือนเธอ พวกเดียวกัน ไม่มีความมั่นคงแน่วแน่ในจิตใจ จากนี้ไป ฉันจะไม่ให้คุณถูกตัวอีก 1 เดือนเริ่มนับตั้งแต่วินาทีนี้ ดูลูกด้วย ฉันจะไปรัฐฉานแล้ว” ฉันสะบัดหน้าเดินหนี
เขาวิ่งตาม...
“ม้า!..ทำอย่างนั้นไม่ได้นะ ป๊ายังต้องการม้าอยู่นะ ป๊าไม่ได้เบื่อ!”เขาวิ่งมากอดเอว เจ้าลูกชายเล่นกับหมาไม่สนใจเรา
“ฉันคิดว่า...ถ้าคุณได้เสี้ยวหนึ่งของเจ็ทโด้คงจะดีไม่น้อย คุณอยู่กับเขามาตั้งนาน คุณไม่เคยเห็นรักแท้ของเขาเลยเหรอ? มันไม่ซึมซับเข้าหัวคุณบ้างหรือไง?” ฉันชื่นชมและศรัทธาในความรักของเขา ผู้ชายที่จิตใจแน่วแน่ ซื่อตรงและรักจริง
“เห็นไง!! เห็นผู้ศรัทธาที่เฝ้ารอปาฏิหาริย์ เห็นคนโง่ที่คิดว่าผู้หญิงที่ทิ้งเราไปแล้วจะกลับคืนมา เห็นคนบ้าที่พยายามเข้าใจคนทรยศ” เขาตอบได้น่าเศร้าใจไม่ได้ซึมซับอะไรมาเลยจริง ๆ
“ป๊า!...ความรักคือสถานที่กักเก็บความทรงจำ คือการใช้ลมหายใจเดียวกัน คือความจริงไม่ใช่ความฝัน คือชีวิตไม่ใช่เพียงลมปาก”
“มันก็แค่เหตุผลของเด็ก อยากลบปมด้อย…”
“เพี๊ยะ!” ใบหน้าของเขาสะบัด /ปากดีนักใช่มั้ย พูดเก่งนักใช่มั้ย อย่ากินข้าวเลย/
“ฉันรู้ว่า คู่รักมันไม่ร้อนแรงตลอดไป แต่ความรักมันจะร้อนแรงตลอดกาล”
“ผมจะบอกว่า ผมเห็นด้วย” อ้าว! ช่วยไม่ได้อยากพูดช้าเอง
“ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้ต่อนะ ถ้าคราวหน้าได้ยินคุณชื่นชมไป่ไป๋อีก แล้วว่าคนในครอบครัวนี้เราสิ้นสุดกัน ฉันจะเป็นคนไล่คุณออกไปเอง ฉันเลือกนาตาลีไม่เอาไป่ไป๋ อย่าให้เจอหน้าก็แล้วกัน เจ็บตัวแน่” ฉันเดินหนีไปขึ้นรถยนต์ แล้วขับออกจากบ้านด้วยอารมณ์ที่ไม่สมประกอบนัก
…………………………………………………
4 ชั่วโมงต่อมา...ตั้งแต่รถวิ่งเข้าเขตหมู่บ้าน มงยัง ลาเสี้ยว บรรยากาศรอบด้านมันขมุกขมัวแปลก ๆ ร้านค้าข้างทางดูเงียบหงอย ท้องถนนไร้ชีวิตชีวาเนื่องจากไม่มีแม้กระทั่งเด็กวิ่งเล่น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ หรือจะเป็นเพราะช่วงภาวะสงคราม
ฉันขับรถช้า ๆ สังเกตสองข้างทางไม่มีทหารมาตั้งป้อมไม่มีการเข้ายึดครอง แต่ผู้คนไปไหนกันหมดชาวบ้านที่นี่ได้รับการฉีดวัคซีน ไม่มีทางที่จะกลายเป็น Soulless บ้านปิดกันเงียบเชียบ ไม่มีแม้สัตว์เลี้ยงเดินให้เห็น ในหมู่บ้านนี้ไม่มีใครไม่รู้จักฉัน พวกเขาจำรถยนต์ของฉันได้ทุกคน
“บรื้น...นน!!” รถยนต์ขับเลยตัวตลาดออกมาด้านหลัง ปกติเด็กเล็กเด็กน้อยจะวิ่งกันอยู่แถวลานหมู่บ้านขวามือนี่นา
“เอ๊ะ!” พลันสายตาแวบเห็นคนในบ้านโบกมือ ฉันชะลอรถยนต์พยายามเพ่งตามอง พวกเขาแอบโบกมือไล่ ยกแขนทำเป็นกากบาททุกบ้าน
ฉันหักหัวรถยนต์เข้าลานด้านขวา เตรียมม้วนกลับ
ทันใดนั้น...
“บรื้น...นน!” รถยนต์ทหารสี่คันพุ่งพรวดมาดักทั้งซ้ายขวา ดักหน้าดักหลัง
“ พรึบ! พรึบ! พรึบ!” ชายฉกรรจ์กระโดดลงจากรถพร้อมอาวุธ ย่อเข่าเล็งปืนมาที่ฉัน
“กรุณาลงจากรถด้วยครับ ผู้หมวดจาง แอนนา” เสียงตะโกนมาจากรถยนต์ นายทหารหุ่นผอมสูงเดินองอาจเข้ามาพร้อมปืนสั้นในมือ
“อื้ด!!” ฉันลดกระจกลงและยิ้มให้...
“เสี่ยวปัง! มาได้ยังไงเพื่อน?” ฉันทักเพื่อนทหารรุ่นเดียวกัน
“แอนนา กลับไปด้วยกัน กองทัพต้องการตัวคุณ” เขาลดปืนเก็บเข้าเอว ลูกน้องของเขากรูเข้ามาล้อมรถ
“นายยังตามจับฉันอีกเหรอนี่? ฉันไม่อยากเป็นทหารแล้ว จะเอาฉันกลับไปทำไม?” ฉันเริ่มกังวลใจ
“ลงมา! ขึ้นรถของผม แล้วกลับไปด้วยกัน”
ฉันทำตามอย่างไม่ขัดขืน
“คุณสร้างเรื่องใหญ่เอาไว้ ท่านนายพลห่าวอู๋โดนแป้กเพราะคุณ เขาไม่ได้เลื่อนยศโกรธคุณกับนาตาลีมากเลย” เขาขึ้นนั่งข้างที่เบาะหลังรถตู้
“บรื้น...นน!” รถตู้ทะยานออกจากหมู่บ้าน ฉันยังไม่ได้เข้าบ้านเลย หันกลับไปมองด้านหลังกลุ่มชาวบ้านทยอยเดินออกมามอง
“งานนี้ถึงตายไหมเพื่อน?” ฉันหันไปถาม
“ไม่ตายหรอก! เขาจะให้เธอไปทำวัคซีนมั้ง?” ในอดีต...เสี่ยวปังก็เคยแอบรักฉัน แต่ฉันไม่ได้รับรักเขาและเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขามักจะคอยแอบช่วยเหลือ ในยามที่ผู้กองเกาหลี่เทียนผู้ล่วงลับในป่าโบราณแทะโลม
“นายตามฉันมานานแค่ไหนแล้ว?”
“นานมาก พวกเขาส่งคนมาหาข่าวหลายชุดแล้ว ส่วนผมมานั่งเฝ้าที่นี่นานกว่า 3 เดือนแล้ว พวกคุณหายไปไหนกัน” เขาอดทนมากที่รอจนเหยื่อกลับบ้าน
“ฉันก็อยู่ในจีน มีครอบครัวเล็ก ๆ ที่อบอุ่น มีลูกชาย 1 คนตอนนี้อายุเกือบ 4 ขวบ กำลังน่ารักเลย นายมีหลานแล้วนะ”
“จาง แอนนา งานนี้ผมช่วยคุณไม่ได้อีกแล้ว มันอันตรายมาก ถ้าช่วยคุณผมอาจจะไม่รอด คุณเอาตัวรอดดี ๆ ก็แล้วกัน คุณต่อรองเรื่องทำวัคซีนกับพวกเขา...น่าจะรอด คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ทหารจีนยึดโลกนี้ได้หมดแล้วนะ? เหลือไม่กี่ประเทศที่ท่านประธานาธิบดีจะจัดการวันที่ 9/9/2026 ทีเดียว เขาอยากเป็นพระเอก”
ฉันนั่งยิ้มมองใบหน้าของเขา เสี่ยวปังใจดี เขาเป็นผู้ชายที่น่ารักทีเดียวแต่เพราะเป็นทหาร จิตใจที่ดีก็ขัดคำสั่งที่เลวร้ายไม่ได้
“นายไม่อยากเห็นหน้าหลานเหรอ? หลานชายนายน่ารักมากนะ”
“ปิดไว้ดี ๆ ล่ะ! ผมไม่ได้ยิน ผมจะรายงานว่าคุณเป็นโสดเปิดร้านอาหารจีนเล็ก ๆ ที่คุนหมิง” ความเอื้ออาทรเล็กน้อยทำให้ฉันซึ้งใจ เสี่ยวปังดีกับฉันเสมอมา
“สามีคุณทำงานอะไรเหรอ? แอนนา?”
“เขาเป็นพ่อค้า พวกเราอยู่กันแบบจน ๆ ครอบครัวเล็ก ๆพอมีพอกิน แต่ฉันก็มีความสุขนะ” ฉันบอกแล้วยิ้มขำเมื่อคิดถึงใบหน้าของซอน...ไอ้พ่อค้าหน้าเลือด
“คุณหนีมาเพราะความรักเหรอถึงได้ทิ้งโอกาสที่จะเติบโตในกองทัพ”
“จะบอกอย่างนั้นก็ได้ ฉันอยากใช้ชีวิตกับเขา ถ้ายังเป็นทหารฉันคงต้องฆ่าคน ฉันนอนไม่ค่อยหลับภาพมันหลอนติดตา”
ฉันออกจากบ้านมาด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่ไม่ดี ฉันไม่น่าทะเลาะกับซอนก่อนออกมาเลย ภาพจำสุดท้ายของเขาคงจะเห็นว่าฉันโกรธเขา ถ้าฉันไม่ได้กลับไปอีกเขาต้องโทษตัวเองแน่ ๆ ไม่น่าสร้างรอยแผลก่อนออกจากบ้านเลย
“พวกเขาต้องการวัคซีน คุณโอนอ่อนผ่อนตามทำงานให้พวกเขานะ ผมคิดว่าคงไม่มีอันตราย พวกเขาพยายามหานักวิจัยมือดี จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้คนที่ต้องการ ผมช่วยคุณได้แค่นี้แหละเพื่อนลู่ไปตามสายลม” เขาให้ข้อมูลมาอย่างนี้ ฉันก็พอจะมีทางออกบ้าง
“เสี่ยวปัง! ฉันคงไม่มีโอกาสกลับบ้านอีกแล้วใช่ไหม?”
“คงอย่างนั้นแหละ”เขาตอบสีหน้าเรียบเฉย
“นายช่วยฉันอย่างหนึ่งนะ ส่งข่าวไปให้ครอบครัวฉันหน่อย บอกว่า ฉันยังไม่ตาย” ฉันหันมองหน้าเขา
“แอนนา คุณอย่าบอกเรื่องของคุณกับผมมาก ผมไม่อยากทำร้ายครอบครัวของคุณ ขอให้ผมรู้แค่เพียงคุณอยู่ตัวคนเดียวก็พอแล้ว อย่าให้ครอบครัวมาตายพร้อมกันเลย หายตัวไปเงียบ ๆ ดีกว่า” เขาหันมาแววตาว่างเปล่า ฉันหวั่นใจขึ้นมา...เขาเป็นทหารถึงไม่อยากจะทำแต่ถ้าโดนคำสั่งก็ต้องทำ
แต่ฉันเป็นเพื่อนต้องมีวงเล็บกับเพื่อนสิ ขออ้อนต่ออีกหน่อยเผื่อได้ผล...
“ฉันจะได้หมดห่วง จะได้ตั้งใจทุ่มเททำงานให้กองทัพโดยไม่ต้องกังวลใจ”
“ไม่ได้!! อย่าให้กองทัพรู้ เขาสั่งจับตัวลูกคุณมาแน่ จะตายกันทั้งครอบครัวเปล่า ๆ อยู่เฉย ๆ แล้วเริ่มทำใจตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า”
ฉันคงต้องยอมจำนนกับเหตุผลของเขา พอคิดดี ๆ แล้ว...ถ้าต้องตายก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วนี่นา ลูกได้อยู่กับพ่อเขาแล้วซอนไม่มีทางทิ้งลูกแน่ //ขอโทษนะซอน ฉันไม่เคยโกรธคุณเลยทั้งหมดที่ทำก็เพื่อความมั่นคงของครอบครัว เขาต้องคิดแน่ ๆ เลยว่าฉันโกรธแล้วทิ้งลูกหนีไป สงสารจังรอหน่อยนะ ฉันจะกลับไป.... //
…………………………………….
กองพันที่ 8
ห้องทดลอง Soulless หมายเลข 1...
เวรกรรมสงสัยจะมีจริง ฉันโดนจับเข้าห้องทดลองที่ตัวเองเคยขังคนอื่น เนื้อตัวปวดเมื่อยจากการทรมาน
ซีชานเสียงกร้าว....
“เอาสูตรทำวัคซีนมา นี่เป็นคำเตือนสุดท้าย” เสียงขู่น่ากลัวไม่ได้ทำให้สะทกสะท้าน ฉันเงยหน้ามองใบหน้าบากด้วยความสมเพช
“ผลัวะ!” ใบหน้าสะบัดเจ็บจี๊ด เลือดกะเซ็น
เสี่ยวปังสืบเท้าเข้ามา...
“นายครับ! เบามือหน่อยครับ เธอเป็นผู้หญิง”
“สวรรค์มีทางไม่เดิน เพี๊ยะ!” เขาซัดมาที่แก้ม ปวดกรามไปหมดแล้ว
“ไอ้คนที่มันยิงผม เป็นใคร? แค้นนี้ไม่มีลืมแน่”
“ฉันไม่รู้ เขามาช่วยนาตาลี เราแยกจากกันที่คุนหมิง”
“ไม่รู้ได้ยังไง? มันพวกเดียวกับเธอ ผลั้วะ!” ทุกดอกเจ็บใบหน้าไปหมด
“ฉันไม่รู้จัก!”
“แล้วใครขับเครื่องบินไป เพี๊ยะ!”
“ฉันไม่รู้จักชื่อ พวกนั้นแหละ”
ฉันหักหลังเพื่อนไม่ได้ แต่ฉันจะรอดได้ยังไง? ต้องหาวิธีเอาตัวรอดให้ได้ก่อน ฉันไม่ได้กลัวนายพลห่าวอู๋ ฉันกลัวใจไอ้พันตรีซีชานมากกว่า
ซีชานง้างหมัด ฉันหลับตาลุ้น...
“ท่านครับ!” เสียงเสี่ยวปังขัดจังหวะ...
“วิธีนี้!...ใช้ไม่ได้กับเธอหรอกครับ จับขังไว้ที่นี่แล้วใช้ให้เธอทำงานจะดีกว่า อยู่ที่นี่ไม่มีทางหนีได้อยู่แล้ว” เขาเสนอทางออก
“ถ้าไม่ติดว่า ไม่มีคนทำวัคซีน เธอตายแน่” ซีชานผลักฉันหน้าหงาย
“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!” เสียงเคาะประตู ฉันก้มหน้ามองรองเท้าหนังดำเงาก้าวเข้ามา ทั้งสองคนตบเท้า...
“ทำความเคารพ ท่านนายพล!”
“พอแล้ว! แค่ลงโทษก็พอ อย่าให้ถึงตายเลย” เสียงสวรรค์ของท่านนายพลอบอุ่นใจ ฉันรอดแล้ว
“คุณไปจับเธอมาจากไหน?” เขาหันถาม
เสี่ยวปังยืดอก...
“เรื่องมันบังเอิญครับ ผมไปเยี่ยมญาติที่คุนหมิง เธอเปิดร้านค้าเล็ก ๆ ทำอาหารขายที่นั่นครับ” เสี่ยวปังยืดอกสายตามองกระดุมเสื้อเม็ดที่ 2 ของนาย
เขาหันมา...
“แอนนา ทำไมถึงตัดสินใจไปใช้ชีวิตลำบาก เป็นแม่ค้าจะสบายได้ยังไง? ผมไม่ดีกับคุณถึงขั้นต้องหัหลังกันเยหรือไง?”เขาหันไปที่ซีชาน...
“ท่านประธานาธิบดีกลับจากเก็บ Golden wave แล้ว พวกนายเตรียมตัวไปรับงานด้วย”
“ท่านประธานาธิบดี มีแผนอะไรต่อครับท่าน?”ซีชานตะล่อมถาม
“เขาจะจัดการกับไอ้รัสปูติน ของรัสเซีย”
“ท่านจะตัดสินใจเรื่องหมวดจาง ยังไงครับ?”ซีชานสายตาสยองมองมา
“คุณสองคนไปพักก่อนเถอะ ผมจะคุยกับเธอเอง”
“ครับท่าน!” ทั้งสองคนเดินออกไป
“ครืด...ดด!!” นายพลห่าวอู๋ ลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ
“เจ็บหนักเลยสิ!” ท่านปลดโซ่มัดแขน
ฉันโล่งอกถอนหายใจ...
“ค่ะ! ฉันยอมรับชะตากรรม ท่านจะลงโทษอย่างไรก็เชิญ”
“อย่าพูดอย่างนี้สิ ผมมองคุณเป็นลูกหลานมาตลอด ผมช่วยเหลือคุณและคุณพ่อมาตลอด ผมแย่มากขนาดที่คุณต้องเกลียดเลยหรือ?” เขากล่าวเสียงเข้ม
“ท่านนายพลฯ อย่าพูดอย่างนี้สิคะ ฉันไม่เคยเกลียดท่านเลย ฉันซาบซึ้งบุญคุณมาตลอด แต่ฉันไม่อยากฆ่าคนอีกแล้ว”
“คุณยังทำวัคซีนได้รึเปล่า? ”
“ทำวัคซีนรักษาคนฉันจะทำให้ค่ะ แต่ทำวัคซีน Tame 26 ฉันไม่ทำค่ะ ฆ่าฉันเถอะค่ะ”
“โกรธมั้ย ที่โดนทำโทษ?” น้ำเสียงของท่านอบอุ่นเช่นเดิม
“ฉันไม่เคยโกรธท่านเลย” ฉันพูดความจริง นายพลห่าวอู๋นิสัยส่วนตัวน่ารักมาก พออยู่ในเครื่องแบบก็เป็นอีกอย่าง
“คุณหายหัวไปไหนมา ผมโดนเล่นงานจนไม่ได้ขยับตำแหน่งเลย แต่ก็ยังดีที่คุณไม่ตาย ผมคิดว่าคุณตายไปแล้ว ผมดีใจนะที่กลับมา”
“ท่านนายพลคะ! ถอนตัวเถอะค่ะ หวังฉวนไม่ได้รักท่านหรอก วันข้างหน้ามันก็หักหลัง คนอย่างมันไม่ใช่คนดี สนับสนุนคนอย่างนี้ให้เป็นผู้นำไม่ได้นะคะ” ฉันสวมหัวใจสิงห์พูดความในใจกับเจ้านาย
“ผมถอยไม่ได้แล้ว คุณคงเข้าใจนะว่า หมายถึงอะไร?”
“ท่านนายพลคะ คนตายมากมายอย่างนั้นไม่สนุกนะคะ ท่านไม่นอนฝันร้ายบ้างเหรอ?”
“อือผมรู้! หายไปนาน...ยังพูดเก่งเหมือนเดิมเลยนะ หึหึหึ!” ท่านยังคงใจดีเหมือนเดิม
“ฉันพูดจริงนะคะ ฉันไม่เห็นด้วยเลย”
“ผมไม่เข้าใจมาตลอด คุณหนีไปทำไม ผมไม่ดีกับคุณเลยหรือไง?”
“ตัวท่านเป็นคนดีค่ะแต่องค์กรมันไม่ดี ฉันอยากมีชีวิตเรียบง่าย ท่านเองก็เหนื่อยมากไม่ใช่เหรอคะ? งานที่ลาออกไม่ได้ มันเป็นคำตอบอยู่แล้ว”
“คุณตั้งใจทำงานไปเถอะ อย่าทำอะไรแผลง ๆ อีก คราวหน้าผมอาจจะช่วยคุณไม่ได้”
“ค่ะ!”
“Rrrrr!” เขายกโทรศัพท์ขึ้นดู...
“ผมขอตัวก่อน ตั้งใจทำงานกันนะ มีปัญหาอะไร บอกผมได้เลย”
ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำวัคซีนช่วยคน การช่วยคนเป็นเป้าหมายแรกที่ฉันตั้งไว้เป็นเป้าหมาย ต้องยอมโอนอ่อนผ่อนตามไปก่อน ตั้งหลักในนี้สักพัก แล้วค่อยหาทางหนี
......................................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |