หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 6 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 14 พ.ค. 2567 |
แคซอน
มุมมองสายตา นาตาลี
สิงหาคม ค.ศ.2025
ค่ายฝึกทหาร แคซอน...
ครูฝึกนินจาไม่เคยเฉียดกายเข้าใกล้ฉันอีกเลย จากที่เคยต้องแหกขี้ตาตื่นดึก ๆ ออกเดินทางไปตามค่ายก็ไม่ต้องทำ เขาย้ายออกจากบ้านไปนอนที่ค่ายทหาร ไปทำงานคนเดียวบางวันก็ไม่ได้เห็นหน้ากันเลย รู้สึกสบายตา สบายใจ
“เอี๊ยด!!” สหายโกมีทักมาในชุดฝึกสุดเท่ เขาขับรถมารับที่บ้านพักบนเกาะคอนยู เพื่อเข้ารับการฝึกครั้งสุดท้ายก่อนจบการศึกษา
“สหายมั่นใจมั้ยครับว่าจะผ่านการฝึกในครั้งนี้?” สหายโกเอ่ยถามเมื่อรถยนต์แล่นออกจากเมืองหลวงไปทิศตะวันตก
“เมื่อก่อนฉันโคตรเกลียดทหารเลย แต่พอได้คลุกคลีมันก็สนุกดี เป็นชีวิตในอีกรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ชักจะติดใจแล้ว” ตอบให้ดูดีไปอย่างนั้นเอง รอวันเรียนจบมานานแล้ว ฉันจะเกษียณเลย
“เรียนจบแล้วไปเที่ยวยอดเขาแบคตูด้วยกันมั้ยครับ? ”
“เคยได้ยินแต่ชื่อ อยากไปค่ะ” มันต้องอย่างนี้สิสหายโก ได้ใจมาก การเดินทางนี่แหละเป็นยารักษาใจได้ดีที่สุด เพื่อนใหม่ทำให้สมองต้องคิดคำถามคำตอบ ทำให้ลืมความเจ็บปวด
“ไปเดือนหน้าดีกว่าไม่มีหิมะแล้ว มันเป็นปากปล่องภูเขาไฟน้ำเขียวมรกตเลยครับ ไปว่ายน้ำกันเอาชุดว่ายน้ำไปด้วย” เขายิ่งพูดฉันยิ่งอยากไป ฉันอยากไปว่ายน้ำบนยอดเขา
“เอาเบ็ดไปตกปลาด้วย ที่นั้นมีปลาหัวงูเนื้อหวานมาก น้อยคนที่จะได้กิน”
“จริงเหรอ? เอาสิ! ฉันไปด้วย แต่ว่าหน้าตามันเป็นอย่างไรเหรอ?”
“มันเหมือนปลาช่อน หัวและลำตัวลายเหมือนงูเหลือม”
“อื้อฮือ! จะกล้ากินมั้ยเนี่ย?”
ในเวลาเลวร้ายดอกไม้ก็ยังคงบาน อกหักครั้งแรกก็คิดว่าโลกจะแตกจะไม่สามารถผ่านความช้ำใจมาได้ แต่ฉันก็ผ่านมันมาอย่างภาคภูมิใจ
3 ชั่วโมงต่อมา...เราก็เข้ามาในค่ายแคซอนกลางหุบเขาเขียว ใบไม้แทงช่อใหม่สัตว์ป่าเริ่มออกจากจำศีล ทหารชายหญิง 100 คนนั่งพักกันเป็นกลุ่มในอาคาร
ฉันมองหาเจ็ทโด้กับจูยอนกลางสนาม เขาสองคนเดินหัวชนกันทำงานคู่กัน หันปรึกษากันตลอด ฉันไม่อยากจะสนใจเจ้าครูฝึกนินจา แต่ก็อดที่จะมองหาเขาไม่ได้ ในนี้ก็ไม่มี
“ปรี๊ด!!!!” เสียงนกหวีดยาวเรียกรวมพลที่หน้าเวที
“พรึบ! พรึบ! พรึบ!” ทุกคนอยู่ในชุดวอร์มสีแดงเหมือนกัน วิ่งกรูเข้ามารวมกลุ่ม
จูยอนในชุดนายทหาร ยืนสง่าบนเวที…
“แถวตอนเรียง 10 ชายอยู่กับชาย หญิงอยู่กับหญิง”
“พรึบ! พรึบ! พรึบ!”
“ฮูย่าห์! ยินดีต้อนรับว่าที่นายทหารทุกท่าน ทุกคนผ่านเวลาที่เหนื่อยล้า กัดฟันอดทนกับความกลัว เกือบถอดใจครั้งแล้วครั้งเล่า จนเดินทางมาถึงด่านสุดท้าย”
“ฮูย่าห์!”
“ช่วงชีวิตที่แข็งแรงกับโอกาสที่จะได้ร่วมเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์อยู่ในมือทุกคน จงกำมันไว้แล้วผ่านการฝึกให้ได้”
“ฮูย่าห์!”
“บททดสอบความแข็งแกร่งสุดท้าย รอการมาถึงของผู้กล้า ทหารจะไม่ทิ้งเพื่อนในยามลำบาก นายทหารจะไม่ทิ้งลูกน้องไว้ข้างหลัง จะไม่มีประกาศนียบัตรของนายทหารที่ตาขาว”
“ฮูย่าห์!”
“ผู้หญิงมี 10 คนต้องฝึกเช่นเดียวกับผู้ชาย เพศไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของจิตใจ” เสียงเด็ดขาดของเธอทำให้ฉันขนลุก พร้อมสู้
“ฮูย่าห์!” ฉันแหกปากลั่น เริ่มมีอารมณ์ร่วม
“ทหาร! กางแขน แยกห่างกันหนึ่งช่วงตัว”
“เย่! แยกห่างกันหนึ่งช่วงตัว”
“หมอบ!”
“เย่!หมอบ!”
“ยึดพื้น 20 ครั้ง”
“เย่!ยึดพื้น 20 ครั้ง”
“พรึบ! พรึบ! พรึบ!”
โชคดีมากที่ตอนฝึกพื้นฐาน โดนเจ้านินจาแกล้งซะจนแข็งแกร่งขึ้น พี่น้องทหารทุกคนยึดพื้นอย่างเข้มแข็ง
“นอนหงาย ตะกายฟ้า”
แถวทหารนอนหงาย ยกเท้าขึ้นฟ้าแล้วปั่นจักรยาน
“ปั่นซ้าย” บิดตัวไปทางซ้าย
“ปั่นขวา” บิดตัวไปทางขวา ท่าเบสิกพวกนี้โดนฝึกมาหมดแล้ว ไม่มีใครแสดงความอ่อนแอออกมา
“ลุกขึ้น! วิ่งรอบสนาม 50 รอบ”
“เย่! วิ่งรอบสนาม 50 รอบ”
“พรึบ! พรึบ! พรึบ!”
ไม่มีเสียงทักท้วง ทุกคนวิ่งเกาะกลุ่มตามกันไป เริ่มต้นก็โหดเลยแต่ทุกนายมุ่งมั่นมาก สายตาของพวกเขาเด็ดเดี่ยวเป็นนักสู้ที่แท้จริง ทหารกลุ่มนี้มาจากหัวหน้าหน่วยและจะได้ขึ้นเป็นผู้ควบคุมหน่วย
ฉันก้มหน้าก้มตาวิ่ง
“สหายไฟท์ติ้ง!” โกมีทักวิ่งเหยาะเข้ามา
“งานนี้ท่าทางจะหิน สหายโกต้องผ่านนะคะ” ฉันหันไปมอง สายตาเลยไปที่ริมกำแพง ครูฝึกนินจายืนนิ่งมองแถวทหาร
หลังจากครบ 50 รอบก็ใกล้จะได้เวลาพักเที่ยง เราเข้ามายืนหน้าเวทีอีกครั้ง สหายจูยอนก้าวออกมายืนอย่างทระนงต่อหน้าพวกเรา...
“กินข้าวให้อิ่ม หิวไม่หิวก็ต้องกิน แยกย้ายเข้าห้องพัก เลือกหัวหน้าทีมมา 1 คนและผู้ช่วย 2 คน จัดการสัมภาระของตัวเอง คืนนี้เดินทางไกล”
“เย่!” ปากก็ร้องรับแต่ใจเริ่มสั่น จะเดินทางไกลกลางคืนเนี่ยนะ? การฝึกคราวนี้ไม่ใช่แค่ซ้ายหันขวาหันอย่างที่พวกเราคุ้นเคยซะแล้ว
“ทุกคนจะได้รับคะแนนล่วงหน้าคนละ 10 คะแนน และจะต้องเก็บสะสมจากด่านต่าง ๆให้ได้ครบ 100 คะแนน ถ้ามีการทำผิดจะโดนตัดคะแนน ถ้าใครคะแนนต่ำกว่า 90 กลับบ้านไปได้เลย แยกย้ายกันได้”
หลังจากพักเที่ยง พวกเราก็เข้ามาภายในห้องพักทหาร ห้องสี่เหลี่ยมแบ่งเป็นสองฝั่งซ้ายขวา ตู้โต๊ะจัดเป็นระเบียบ สะอาดเรียบร้อย ถุงทะเลใส่อุปกรณ์จำเป็นตั้งที่ปลายเท้า ชุดทหารพร้อมหมวกเหล็กติดเบอร์วางเรียงแถวละ 5 ใบ
ฉันทิ้งตัวลงนอนบิดตัวไล่ความปวดเมื่อยข้างหมวกเบอร์ 88 ยังไม่ทันจะได้ย่อยอาหาร จูยอนก็โผล่หน้าตึงเข้ามา…
“ทหาร!” เสียงเด็ดขาด พวกเราเด้งยืนอัตโนมัติ
“ที่นี่ไม่ใช่โรงแรม 5 ดาว ไม่มีใครมาคอยบริการ ต้องเริ่มฝึกที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อน ไม่มียศ ไม่มีเส้น ทุกคนเท่ากัน ใครเป็นหัวหน้าทีม?”เธอยืนนิ่งสายตาดุมองไล่ไปทีละคน ทหารหญิงยืดอกคอตันกันหมดทุกคน พอสายตาของเธอมองมาฉันยิ้มแหย
“หมายเลข 88 ยิ้มอะไร?”
“เอ่อ...” ก็ยิ้มเฉย ๆ อ่ะ
“ยึดพื้น 10 ครั้ง!”
“หะ!” ฉันเหวออ้าปากค้างมองหน้าพี่สาว แต่สายตาคมดังใบมีดโกนนั้นน่ากลัวมาก ไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้ของเธอมาก่อน หันมองเพื่อน ๆ ทุกคนเชิดหน้านิ่งเป็นหุ่น/ฉันต้องทำใช่มั้ยเนี่ย?/
“ชักช้า! ยึดพื้น 20 ครั้ง ปฏิบัติ!” เธอเข้มจริง โหดมาก
ฉันทิ้งตัวลงพื้น...
“ลุกขึ้น!” เธอตวาด
“ฮึบ!” ฉันเด้งลุกยืนตรง
“ทุกครั้งที่นายทหารสั่ง พวกคุณต้องทวนคำสั่งก่อนลงมือทำ เข้าใจมั้ย?”
“เย่!”
“ยึดพื้น 20 ครั้ง ปฏิบัติ” เธอตะโกนใส่หน้า ฉันตกใจทิ้งตัวยึดพื้น
“ฮานา ทูล เซท....” ยืดสุดแขนตามคำสั่ง
“ลุกขึ้น!” เธอตวาดลั่นอีกครั้ง เดินตาแข็งเข้ามาจ้องหน้าระยะประชิด แล้วตะโกนใส่หน้า....
“ 88! คุณต้องตั้งใจมากกว่านี้ เพื่อน ๆ ต้องการเป็นนายทหาร คุณจะเป็นตัวถ่วงหรือไง?” ทั้งสายตาและน้ำเสียงดุมาก
“ขอโทษค่ะ!”
“ยึดพื้น 20 ครั้ง ปฏิบัติ” เธอสั่งอีกครั้ง
“ยึดพื้น 20 ครั้ง ปฏิบัติ” ฉันทิ้งตัวลง นับ...
“ฮานา! ทูล! เซท!....” จนครบ 20 ครั้งลุกขึ้นยืดแอ่นอกใจสั่น
“ใครเป็นหัวหน้าชุด รายงานตัว”
“เอ่อ!” พวกเรายังไม่ทันได้เลือกเลย สาว ๆ หันมองหน้ากัน หนึ่งในนั้นไหวพริบดี ยกมือก้าวเท้าเดินออกมา
“ชุงซอง! จองโบริม หมายเลข 81 อิบนิดะ” เธอยืดอกพูดเสียงดังเด็กสาวผมสั้นวัยไม่เกิน 25 ปีกล้าหาญมาก ยืดอกยกมือตะเบ๊ะ
“ผู้ช่วยอีก 2 คน อยู่ไหน?”
ไวเท่าความคิด สาวเกาหลีเหนือผู้กล้าหาญอีก 2 คนก้าวออกไปยืนเคียงข้าง 81
“ชุงซอง! ซองนาฮี หมายเลข 85 อิบนิดะ”
“ชุงซอง! คิมเยวอน หมายเลข 87 อิบนิดะ”
“ทีมจะเดินไปไม่ได้ถ้าไม่มีความสามัคคี คำสั่งของหัวหน้าคือที่สุดของทีม ห้ามสงสัย ห้ามลังเล คะแนนทีมจะให้จากความพร้อมเพรียง ขัดคำสั่งหัวหน้า กลับบ้านไปเลย”
“เย่!!!”
“ให้เวลาถึง 16.00 น. พวกคุณแนะนำตัวกันเอง จับคู่เพื่อช่วยเหลือกัน เพราะจากนี้ไปความผิดของใครคนใดคนหนึ่ง หมายความว่าต้องรับผิดชอบทั้งคู่ หัวหน้าและผู้ช่วยด้วย”
“เย่!!”
จูยอน หมุนตัวเดินหลังแอ่นออกไป ทั้งสีหน้าและแววตาของเธอ ทำให้ฉันกลัวมาก //ฉันไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้//
ยังไม่ทันที่จะปรับสภาพจิตใจ หัวหน้าทีมก็ออกมายืนหน้าห้อง ทั้งสีหน้าและท่าทางขึงขัง จริงจังกับชีวิต
“ฉันชื่อ จองโบริม อายุ 23 ปี มาจากฮัมฮึง ฉันมาตามเสียงเรียกในใจ ตั้งใจมากที่จะได้เป็นทหาร ฉันจะพยายามพาทุกคนไปถึงเป้าหมาย เพื่อที่จะได้เป็นนายทหารออกไปช่วยสหายผู้กองรวมชาติเกาหลี ฝากตัวด้วยนะคะ” สาวน้อยหน้าตาดี ยืดอกบอกความตั้งใจ
“แปะ! แปะ! แปะ! แปะ!” พวกเราปรบมือกันกราว
หมายเลข 87 เดินออกไปยืน ใบหน้าพันผ้าไว้รูปร่างสูงหุ่นสวย มีรอยแผลเป็นตั้งแต่ลำคอลามลงมา บ่งบอกถึงความยากลำบากในอดีต เธอยืดอกพูดด้วยเสียงมั่นใจ..
“ฉันชื่อคิมเยวอน อายุ 25 ปีมาจากแคซอน ฉันได้รับการปลดปล่อยจากค่ายกักกันหมายเลข 14 ในโลกนี้คงไม่มีความโหดร้ายให้ฉันต้องกลัวอีกต่อไป ถ้าเพื่อน ๆ รู้สึกกลัว บอกฉันนะคะ ฉันจะไปยืนเคียงข้าง” สาวคนนี้มองเพื่อนด้วยสายตาเป็นมิตรค่อย ๆ แกะผ้าพันใบหน้า แต่ทุกคนตกใจยกมือปิดปากตาค้าง สายตาที่ตกใจนั้นปนไปด้วยความสงสาร
“แปะ! แปะ! แปะ! แปะ!” ทุกคนปรบมือแรง ใบหน้านั้นเสียโฉมไปครึ่งซีก
“สหายโดนจับข้อหาอะไรคะ?”
“ภัยความมั่นคง! ฉันหลบหนีออกค่ายนารีสนอง และโดนจับได้ พวกเขาเอาน้ำกรดมาสาดหน้า เสียโฉมและส่งไปเย็บผ้าอยู่ 3 ปี สหายผู้กองเป็นคนปลดปล่อยทุกคนสู่อิสรภาพ ฉันจะทำงานรับใช้เธอ ฝากตัวด้วยค่ะ” ท่าทางมั่นคงไม่ยี่หระกับอดีตที่เลวร้าย
ฉันยกมือ…
“ค่ายนารีสนอง มันคืออะไรคะ?”
81 จองโบริมหัวหน้าทีมตอบแทนเพื่อน...
“สหายผู้บัญชาการไม่รู้จักเหรอคะ? พวกเรารู้จักกันหมดทุกคน อย่าพูดถึงมันอีกเลย 87 จะไม่สบายใจเปล่า ๆ ค่ะ”
87 ขยับยืดอก…
“ค่ายนารีสนอง อยู่ที่เมืองมกโพ เป็นค่ายที่ต้อนสาวสวยเข้าไปฝึก เพื่อสนองความต้องการทางเพศของท่านผู้นำ ในแต่ละปีมีสาว ๆ มากมายที่ต้องจบชีวิตเพราะไม่ยอมสนองตอบ ในขณะเดียวกันก็มีสาว ๆ ที่ได้ดิบได้ดีกับการเป็นนางบำเรอค่ะ” เธอไม่สะทกสะท้าน สายตาแข็งแกร่งมาก
“เอ่อ!” ฉันถึงกับพูดไม่ออก ความเลวร้ายของผู้มีอำนาจไม่เคยสิ้นสุดยากแก่การจินตนาการได้ แต่ฉันก็ศรัทธาหัวใจของพวกเธอเหลือเกิน รู้สึกละอายใจที่เคยคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับฉันสักนิด
ถ้าคนไม่ช่วยคนจะเป็นคนไปทำไม? มันแค่คนเห็นแก่ตัวไม่ต่างจากสัตว์ที่ต่างพากันวิ่งหนีเมื่อศัตรูมาทั้งๆ ที่ตัวเองพวกมากกว่า ส่วนคนที่ยอมเป็นนางบำเรอและรับยศถาบรรดาศักดิ์ ฉันไม่นับเป็นเพื่อนแน่ ๆอย่าฝันว่าฉันจะเคารพ
ฉันเดินออกมายืนกลางห้อง...
“หมายเลข 88 นาตาลีพัค อายุ 30 ปี ฉันจะคอยให้กำลังใจและเดินไปกับทุกคน แม้มันจะยากเพียงใดก็จะฝ่าฟัน ฝากตัวด้วยนะคะ” ทุกสายตาจ้องมองมา รอยยิ้มของพวกเธอเป็นมิตรมาก
“แปะ! แปะ! แปะ! แปะ!”
“ซาจังนีม มาฝึกทำไมคะ?” หัวหน้าทีมถามนำ
“เหนื่อยก็ต้องเหนื่อยด้วยกันสิคะ แล้วก็ขอร้องนะคะทุกคน เรียกฉันว่า 88 เราเป็นนักเรียนทหารเหมือนกัน ทุกคนเท่ากัน” ตอบซะสวยเชียว ฉันไม่อยากจะบอกว่า...โดนบังคับ
“88 คุณอายุมากกว่าทุกคนเลยนะคะ แต่ใบหน้าของคุณเด็กกว่าพวกเรามากเลย” 87 ยิ้มหวานเข้ามาประจบ สายตาของพวกเธอที่มองมาจริงใจมาก เหมือนกับสายตาของเพื่อนที่รู้ใจกันมานาน
ตีสนิทไว้ก่อนดีกว่า 87 พูดจาดี ฟังแล้วลื่นหู เอายายนี่ไว้ข้างตัวก่อน /เธอโชคดีแล้วล่ะที่เจอฉัน/
“ฉันสวยใช่มั้ยล่ะ? ถ้าใครผ่านการฝึก ฉันจะทำเบบี้เฟสให้”ฉันยิ้มล้อเล่นกับเด็กรุ่นน้อง พวกเธอรู้ดีว่าฉันเป็นใคร?
“อะไรเหรอ? 88 เบบี้เฟก มันหมายถึงอะไร? ไม่เคยได้ยิน” 81หัวหน้าทีมยิ้มกว้างผมบ็อบสะบัด
“อ๋า! หมายถึงทำให้ผิวหน้าเด็กลง รอยแผลบนใบหน้าของ 87 จะหายไปแล้วกลับมามีออร่า สวยสว่างกระจ่างโลกเลยล่ะ” ฉันต้องติดสินบนเพื่อน ๆ ไว้ก่อน พวกเธอน่ารักมาก
87 เด้งดึ๋งลนลานหันมา...
“เอา! เอา! 88! ทำให้ฉันด้วยนะ ฉันจะยอมเป็นขี้ข้าจนตายเลย ให้ฉันเรียกว่าออมม่าด้วยมั้ย เอามั้ย?” แววตาเปี่ยมความหวัง ใบหน้าและลำคอของเธอมีแผลเป็นยาวขนาดน้อง ๆ ครูฝึกนินจา
85 ซองนาฮี ผู้ช่วยหัวหน้าทีมยกมือ...
“ฉันมีความหวังขึ้นมาทุกครั้งที่ฟังสหายจูยอนพูด ตอนแรกฉันก็โกรธที่เธอฆ่าพี่น้องของเรา แต่พอเธอเอาหลักฐานมาหักล้าง ฉันหายโกรธเลยและเข้าใจเธอด้วย ถ้าไม่ลืมอดีตก็เดินต่อไปไม่ได้และถ้าไม่โค่นล้มอุปสรรค ลูกหลานก็ลำบากเหมือนเรา เท่ากับพวกเราผลิตลูกมาให้พวกมันทำร้ายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง คนที่ทำร้ายพวกเราก็เป็นพี่น้องของเราเองที่ไปรับยศตำแหน่งจากพวกมัน”
“ใช่! ฉันอยากจะช่วยให้เธอทำสำเร็จ พวกเราไม่เคยได้ตะโกนสุดเสียงด้วยความสุขมาก่อน พวกเราต้องร่วมมือกันนะคะ ฉันรอวันนี้มานานมาก” 81ยกมือกำหมัด
“ใช่! ฉันไม่เคยรู้สึกเบาตัวแบบนี้มาก่อน ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาหลอกอีกแล้ว ขอให้ทุกคนเชื่อใจฉันนะคะ ฉันจะพาทุกคนผ่านอุปสรรคนี้ไปให้ได้ เชื่อใจฉันนะคะ!” 87 สายตาสะใจกว่าทุกคน
“เย่!!!!” ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความหวัง พวกเธอกรูเข้ามาสวมกอดฉัน
ความสุขที่พวกเธอได้รับมาช้ามาก ช้าจนแทบจะไม่มีความหมาย อิสระที่พวกเธอต้องการ ไม่สามารถพาพวกเธอออกไปจากประเทศนี้ได้ สิ่งที่จูยอนพูดให้พวกเธอฟัง หนังที่เอามาฉายให้ดู มันเป็นอดีตไปแล้ว ไม่มีอีกแล้ว โลกใบนี้ล่มสลายไปแล้ว
87 เดินเลียบเคียงเข้ามา...
“88 เป็นบัดดี้กับฉันมั้ย?”
“ได้สิ!” สายตาของ 87 ยากจะปฏิเสธ
16.00 น.
พวกเราแต่งชุดชุดทหารเต็มยศ แบกถุงทะเลที่บรรจุสัมภาระและเต็นท์นอนไว้บนหลัง เอวห้อยกระติกน้ำและมีดพกสวมรองเท้าบูทหนัก ออกมายืนรอที่หน้าเวทีกลางสนาม จูยอนเดินออกมายืนสง่า...
“ระยะทางเป็นเครื่องพิสูจน์ความแข่งแกร่งของร่างกาย ในขณะเดียวกันมันก็เป็นตัววัดความอดทนของจิตใจด้วย พร้อมมั้ยทหาร?”
“เย่!!!”
“หนักมั้ย?”
“ไม่หนัก!!!!”
“เดินไปหยิบปืนคนละกระบอก ปืนคือเพื่อนแท้ของทหาร มันต้องอยู่ข้างกายของเราเสมอ ใครทำปืนหายตัด 5 คะแนน”
“เย่!!!” เสียงผู้ชายฮึกเหิม พวกเขาอยากได้ปืนกันนานแล้ว
“มีใครจะถอนตัวมั้ย?”
“..............”
“เดินตามสหายครูฝึกไป วันนี้ทุกคนจะต้องนอนในป่า!”
“เย่!!”
“ออกเดินทางได้!” เธอยืนชี้นิ้วเหมือนผู้นำกองทัพ สั่งโจมตีข้าศึก
....................................
เมื่อเวลาผ่านไปความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเกาะกินใจ กระเป๋าเป้สะพายหลังยุทธวิธีหนักมากขึ้นตามเวลา แหงนหน้ามองไปหัวแถวไกล ๆ เจ็ทโด้เดินนำกลุ่มทหารชาย
เจ้านินจาขับมอเตอร์ไซด์วนไปมาคอยดูความเรียบร้อย อะไรจะเกิดก็เกิดไม่มีทางถอยแล้ว ยิ่งเข้าป่าลึกขายิ่งก้าวไม่ออกของบนหลังก็กดจนเข่าทรุด น้ำหนักของปืนยาวทำเอามือสั่นระริกอยากโยนทุกอย่างทิ้ง
“เดินมาไกลมากแล้ว เมื่อไหร่จะสั่งพักสักที มืดแล้วด้วย ยังไม่ได้กินข้าวเลย” 84 ร้องครวญหายใจหอบเหนื่อย
พระอาทิตย์ลับฟ้าไปแล้ว ความมืดเข้าปกคลุมผืนป่า ฉันเองก็ปวดหัวตึ้บเดินหลังงอแบกของไว้บนหลังเซไปเซมา ขาหนักชักจะก้าวไม่ออก หายใจเป็นไอหมอก
“88 ไหวมั้ย?” 81 หัวน้าทีมเดินประกบข้าง
“ไหวค่ะหัวหน้า!” ฉันจะให้ใครช่วยไม่ได้ ทุกคนก็แบกภาระของตัวเองเหมือนกัน
87 ก้าวขามาเดินเคียงข้าง เงยหน้ามองฟ้าแล้วชี้ไปที่ดวงดาวดวงเล็กที่สุกสว่างก่อนใคร…
“สหายรู้ไหมว่า ดาวดวงแรกที่สุกสกาวบนท้องฟ้าคือดาวอะไร?”
“ฉันรู้ แต่เธอถามเพราะไม่รู้หรือจะลองภูมิ” ฉันเหนื่อยมากแล้ว ไม่อยากคุย
“ลองภูมิค่ะ ฉันรู้คำตอบอยู่แล้ว ฉันเก่งเรื่องพวกนี้มาก” 87 ทำให้ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“พุธ!”
“แล้วดาวดวงไหนที่จะไม่เห็นในยามค่ำคืน จะเห็นได้ตอนที่ฟ้าสางเท่านั้น” เธอคงจะชอบดวงดาว ดูช่างสดใสหายเหนื่อยไปเลยนะ
“ก็พุธอีกนั่นแหละ”
“โอ้ว! 88เก่งจังเลย แล้วรู้ไหมคะทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?” เธอคงไม่รู้ว่าฉันเคยทำงานกับนาซ่ามาก่อน
“เพราะมันอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดค่ะ”
“เก่งจริง ๆ เลย” เราเดินตามทางมืดมาไกลยังไม่รู้ปลายทาง ขึ้นเขาลงห้วยบุกป่าฝ่าเหว
ตอนนี้เดินเลียบบึงน้ำขรุขระ พวกเราเดินคุยสู้กับความหนักของสัมภาระ
“88 มีแฟนหรือยัง?” 87 คู่หูของฉันเดินติดตามไม่ห่างกาย
“ยังโสดค่ะ” ฉันตอบตามจริง ในใจก็อายที่ต้องบอกว่าตัวเองโสด
“สหายไม่มีคนมาจีบเลยเหรอ สหายสวยมากเลยนะ ถ้าอย่างนี้ฉันคงไม่ได้มีแฟนเหมือนกัน” 87 ผู้อาภัพเสียงอ่อย
ฉันหันไปยิ้มฝ่าความมืด…
“ความสวยไม่ใช่เป้าหมายอย่างเดียวของการมีคู่ครองหรอกค่ะ เป็นคนดีหรือเป็นคนเก่งก็มีคู่ได้ ความสวยไม่จีรังยั่งยืน” ฉันเชื่อเช่นนั้นมิเช่นนั้น...คนขี้เหร่คงไม่มีครอบครัว
บนทางที่มืดมน บนถนนที่ขรุขระ สัมภาระกดหลังร้าวแต่ละก้าวตัดกำลังใจ ขาสั่นระริกจิกเดินเซไปมา
ทันใดนั้น! …
“เฮ้ย!” ฉันสะดุดขาตัวเองหัวทิ่มหน้าคะมำ ใบหน้าแนบดิน
“อึ้บ!!!” ฉันพยายามจะดันตัวเองลุกขึ้น แต่เวรของกรรมถุงทะเล 20 กิโลข้างหลังกดแนบพื้น เดินก็เหนื่อยใจจะขาดพลาดมาล้มอีก หงุดหงิดจังโว้ย อยากนอนมันอยู่อย่างนี้เลยไม่อยากลุกไปสู้ต่อแล้ว ฉันไม่ต่างจากเต่าที่แบกกระดองหนักไว้บนหลัง..
เพื่อนเข้าช่วยกันดึงจับถุงด้านหลังประคอง ส่งเดินไปได้อีก 2 - 3ก้าว ฉันก้มหน้ามองเชือกผูกรองเท้า
“เฮ้ย!” เป้หลังเสียศูนย์ดีดข้ามหัว
“ว้าย!” สายเชือกรั้งกระชากคอ ฉันตีลังกาม้วนหน้าหงายท้อง ซวยซ้ำซวยซ้อน
“88!” เพื่อน ๆ เข้ามาช่วยกันยก
ฉันกัดฟันเดินหน้าต่ออย่างทุลักทุเล ทั้งที่ไม่รู้ว่าจุดหมายคือที่ใด รอบกายก็เงียบสงัด
“แว๊น! แว๊น!” เสียงมอเตอรไซด์มาพร้อมไฟส่องสว่าง
“หยุด!” นินจาสั่งเสียงเข้ม ด้วยความมุมานะเขาพูดภาษาเกาหลีได้มากแล้ว
“มีใครบาดเจ็บไหม?” ครูฝึกเป็นเหมือนกันไปหมดทุกคน เสียงปีศาจพวกนี้ดุตลอด
“จับคู่! หันดูความเรียบร้อยของชุดเพื่อน”
“เย่!” พวกเธอกระตือรือร้นทำตามคำสั่ง ฉันขยับตัวช้ากว่าคนอื่น 87 เดินเข้ามาพยุง…
“88!ไหวมั้ย?”
ฉันพยักหน้า ยิ้มให้เพื่อน
ทันใดนั้น...
“88 คุณบาดเจ็บตรงไหน?” นินจาเดินเข้ามาใกล้
“ไม่!” ฉันเมินหน้า
“ผมเป็นเพื่อนเล่นของคุณเหรอ? ตอบดัง ๆ มองหน้าด้วย!” น้ำเสียงกดดันมาก
“ไม่ได้บาดเจ็บค่ะ” ฉันยืดอกตอบเสียงดัง กะพริบตาถี่ในใจปุด
“คุณไม่ได้กินอาหารมาหรือไง? ทำไมต้องเป็นภาระเพื่อน”
“ไม่ได้เป็นภาระค่ะ” ฉันยืดอก
“หมวกของคุณอยู่ที่ไหน?”
ฉันกุมหัวตัวเอง...
“ห่ะ!” ฉิบหายหายแล้วหมวกหาย ฉันกุมหัวหมุนมองหา
“88!” เสียงกัมปนาทดังฟ้าผ่า
“เย่! 88!”
“หมวกของคุณอยู่ที่ไหน?”
ฉันสงสัยว่า มันต้องหลุดตอนที่ตีลังกาแน่ มันมืดและเหนื่อยล้าจนการไม่อยากใส่ใจกับอะไรในตอนนั้น ความเลินเล่อกำลังจะตามมาลงโทษในตอนนี้
“หายไปแล้วค่ะ!”
“หายเหรอ? คุณพูดเหมือนมันไม่มีค่า”
“สุดวิสัยค่ะ!”
“หมวกคือเกราะป้องกันหัวจากกระสุน คุณจะฆ่าตัวตายหรือไง?”
“..........” ฉันก้มหน้าเงียบ
“88!”
“เย่! 88”
“เอ้า! รับ!” เขาโยนหมวกมา ฉันรีบสวมหมวกยืดอก
“ใครเป็นบัดดี้ของ 88!”
“เย่!! 87 เป็นบัดดี้ค่ะ!” เธอก้าวขาออกมา เงยหน้ารายงานตัวเสียงดัง
“เพื่อนของคุณทำพลาด ดูแลกันอย่างไร?” ไอ้โหดมันจะมากไปแล้ว ฉันก้าวออกจากแถว…
“ฉันเป็นคนผิด ฉันขอรับผิดชอบคนเดียว”
“ดี! ”
“นักเรียนทหารฝึกหัดทุกนาย!”
“เย่!!!!”
“ยึดพื้น 3 ครั้ง ปฏิบัติ”
“ยึดพื้น 3 ครั้ง ปฏิบัติ !” ทุกคนทิ้งตัวในท่าเตรียม พร้อมสัมภาระบนหลัง
“ไม่ได้นะ!” ฉันไม่ยอม มาบังคับตามใจตัวเองอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ยืนจ้องหน้าเขา
“88! อย่า” 87ดึงขา
“ฉันทำผิดก็ลงโทษฉันคนเดียวสิ” ฉันเห็นว่า เขาทำไม่ถูก
“เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ตัดคะแนนหมายเลข 88ในข้อหากระด้างกระเดื่อง 1 คะแนน ลืมหมวกอีก 3 คะแนน ตัดคะแนนหมายเลข 87 ในข้อหาละเลยเพื่อน 2 คะแนน ตัดคะแนนหัวหน้าทีมและผู้ช่วยคนละ 2 คะแนน”
“.............”
“ถ้าคุณยังเป็นคนอย่างนี้ ไม่สนใจทีม อวดเก่ง เพื่อน ๆ ของคุณจะโดนทำโทษ และจะไม่ผ่านการคัดเลือกเป็นนายทหาร”
“...........” ฉันทั้งโกรธและเกลียด อึดอัดใจไม่ยอมรับความผิด ได้แต่ก้มหน้ากัดฟัน แค้นมาก ทำไมต้องไปเอาคนอื่นมากดดัน?
“88!”
“เย่! 88”
“หมอบ!”
“หมอบ!”
“คุณไม่ฟังคำสั่ง คุณมาที่นี่ทำไม?”
“.............” แขนดันพื้นเริ่มสั่น สับสนตอบไม่ถูกว่ามาทำไม?
“88!”
“เย่! 88”
“ตอบ!”
“มาฝึกเป็นนายทหารค่ะ”
“เคยได้ยินไหม เป็นลูกน้องที่ไม่ดี เป็นหัวหน้าไม่ได้”
“เย่!”
“คุณสะกดคำว่าทีมไม่ออกหรือไง? TEAM not I ในคำว่าทีมจะไม่มีตัวตนของคุณ ผมลงโทษคุณไม่ใช่เพราะผมเกลียดคุณ แต่ต้องการให้คุณเข้าใจทีม เข้าใจความรู้สึกของเพื่อน ทุกคนต่างมีความหวัง มีความฝัน ไม่ละอายใจบ้างหรือไง?”
“.............” เขาพูดอย่างนี้ ฉันไม่กล้าเถียงแล้ว
“ทหาร!”
“เย่!!”
“ยึดพื้นแล้วพูดตาม”
“เย่! ยึดพื้นแล้วพูดตาม”
“ฮานา! ตั้งใจ”
“ฮานา! ตั้งใจ” ฉันย่อแขนที่สั่นระริกลง สู้กับน้ำหนักบนหลัง
“ทุล! เชื่อฟัง”
“ทุล! เชื่อฟัง” อ๊าก! ฉันเกร็งไปทั้งตัวดันตัวเองขึ้น
“เซท! มุ่งมั่น”
“เซท! มุ่งมั่น”
“ลุกขึ้น!”
“เย่! ลุกขึ้น!” กว่าจะลุกขึ้นยืนได้ก็แทบแย่ ปวดเมื่อยไปหมด
“หมอบ!” ….ห่ะ!
“ เย่! หมอบ!”
“ลุกขึ้น!” อยากตาย อยากตายเหลือเกิน แม่งเอ๊ย! ทำไมกันนะ?
ฉันพยายามลุกยืนโซเซ ถุงด้านหลังดึงฉันหงายท้องขาชี้ฟ้า ฉันพยายามดิ้นตอนนี้เหมือนลูกเต่าโดนจับหงายท้อง 87 ปาดน้ำตาเข้ามาช่วยยกถุงและประคองให้ยืน
“ในยามที่คุณล้มลง จะมีเพียงเพื่อนของคุณเท่านั้นที่ช่วยเหลือ อย่าทำร้ายเพื่อน ด้วยการทำผิดหรือดื้อรั้น เพื่อเอาชนะโง่ ๆ ” โดนเขาตอกย้ำเจ็บปวดใจมากแต่ก็รู้สึกผิดกับเพื่อน
“87 ฉันขอโทษ” ขีดความอดทนของฉันสิ้นสุด น้ำตาไหลสงสาร 87
ครูฝึกนินจาตะโกนสั่ง...
“หัวหน้าทีม! อบรมความประพฤติของ 88 ด้วย เราทำงานเป็นทีมความประมาทของคน ๆ เดียว อาจจะตายทั้งทีม อย่าอวดเก่ง!”
“เย่!!” 81 หัวหน้าทีมยืดอก เจ้ายักษ์ขับรถมอเตอร์ไซด์ไปต่อ
หัวหน้าทีมหันมา...
“88! อดทนไว้นะ เรามาเพื่อฝึก ในสถานที่นี้เราต้องฟังครูฝึก ทุกคนต้องอยู่ในกฎ ไม่เช่นนั้นแล้ว เราจะโดนลงโทษและอาจจะโดนไล่ออก ซึ่งเป็นเรื่องที่ ฉันยอมไม่ได้!” หัวหน้ากำชับเสียงเข้ม
“เย่!!” ฉันสำนึกผิดหันไปเช็ดน้ำตาให้ 87 ความต้องการของคนไม่เท่ากัน ฉันไม่ได้ให้ราคากับอาชีพทหาร แต่สำหรับพวกเธอมันคือความฝันที่ยิ่งใหญ่ ฉันผิดเองที่ไม่เข้าใจหัวอกของคนอื่น
“เราไปกันต่อเถอะ!” หัวหน้าก้าวเดินนำ
87 ผู้น่ารักก้มลงผูกเชือกรองเท้าและปัดสิ่งสกปรกออกให้ ฉันซึ้งใจกับทุกการแสดงออกของเธอ
“ฉันขอโทษนะคะ ฉันจะตั้งใจมากขึ้น”
“ฉันไม่โกรธสหายหรอก มันเป็นความผิดของฉันด้วยที่ไม่ดูแลสหายให้ดี” เธอน้ำตาไหลพราก
“มีอันนิดะ!” ฉันเข้าสวมกอด รู้สึกผิดที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
“ฉันตั้งความหวังไว้สูงมาก ต้องเป็นนายทหารขึ้นไปยืนเคียงข้างกับสหายจูยอนให้ได้ ฉันไม่อยากสอบตก ฉันจะสู้” ทุกคำพูดสะท้อนถึงความตั้งใจจริงของสาวเกาหลีเหนือ ทุกคนมุ่งมั่นมีแต่ฉันคนเดียวที่เข้าไม่ถึงความตั้งใจของพวกเธอ
พวกเราเดินอย่างทรหดอดทนจนขึ้นมาบนลานยอดเขา สายฟ้าแลบแปลบปลาบแตกแขนงเหมือนรากไม้แวบวับวิ่งไล่ความมืด
“ครืน...นน!!!” เสียงคำรามมาจากบนท้องฟ้ามืดดำ แบกสู้ชีวิตมาจนเจอลานกว้างกลางป่าสนสองใบ
ครูฝึกนินจายืนคอยอยู่ก่อน...
“พวกคุณเป็นผู้หญิงจะได้หยุดพักก่อน เห็นเนินข้างหน้านั่นไหม?”
“เย่!!!!” ฉันโล่งใจมากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ สหายหลายคนถอนหายใจโล่งอก
“นั่นถูกสมมุติขึ้นมาว่าเป็นค่ายของศัตรู คุณต้องเข้าใกล้ให้เงียบที่สุดโดยการคลานศอกเข้าไป”
“เย่!!!” หัวใจที่เริงร่าห่อเหี่ยวลงทันที ทิ้งตัวลงพื้นไม่กล้าขัดคำสั่ง ฉันเชื่อว่าทุกคนก็คงอึดอัดเหมือนกัน
“ไป!”
แต่ไม่ใช่เลย พวกเธอไม่มีบิดพลิ้วในคำสั่ง นอนราบแบกน้ำหนัก 20 กิโลไว้บนหลัง สองมือจับปืนยาวเท้าขยับถีบดันตัวเองไปบนพื้นหญ้าเปียก เคลื่อนตัวฝ่าความมืดไปข้างหน้าทีละนิด
87 ชะลอความเร็ว รอฉันตามขึ้นไป...
“เหมือนมีคนขี่หลังเลยเน๊อะ 88?” เสียงของเธอกลับมาสดใส
พื้นหญ้าชื้นแฉะของหิมะปลายฤดูกาลยังหลงเหลือ เสื้อผ้าเปียกเข้าไปเย็นถึงในปอด คลานศอกฝ่าความมืดอย่างยากลำบาก ต้นหญ้าทิ่มหน้าทิ่มตัว ทำไมฉันต้องมาลำบากแบบนี้ ทำไมช่างโหดร้ายกับฉัน น้อยใจที่เพื่อนที่ไว้วางใจที่สุดกลับกลายมาซ้ำเติมกัน
“ว้าย!” ฉันร้องตกใจเมื่อกิ้งก่าวิ่งผ่านหน้า น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทั้งเหนื่อย ทั้งหนัก อยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว
......................................................................
กว่าจะผ่านมาถึงสถานที่กางเต็นท์ก็ปาเข้าไป 3 ทุ่มกว่า นินจาเดินตรวจดูเต็นท์ของทุกคน
“รูดซิปเต็นท์ให้ดี งูอาจจะมาหลบหนาว”
“พวกเราจะได้อาบน้ำไหมค่ะ สหายครูฝึก!” ฉันถามเรื่องสำคัญ สภาพตอนนี้ ตามเนื้อตัวทั้งเปียกและเลอะ
“คุณเป็นใคร ทำไมไม่รายงานตัวก่อนพูด?” เขาตวาดลั่น
“88 นาตาลี พัคอิบนิดะ!”
“มีอะไร?”
“พวกเราจะได้อาบน้ำไหมคะ?”
“ผมไม่ได้ห้ามเรื่องอาบน้ำ ถ้าคุณหาแหล่งน้ำได้ก็ไปอาบ บนนี้ไม่มีห้องน้ำ” คำตอบปิดประตู ตกลงต้องนอนทั้งอย่างนี้สินะ
“เย่!” ฉันยืดอกรับไปก่อน เถียงมากเดี๋ยวโดนอีกแน่ เขาบอกแล้วก็เดินจากไป
81 หัวหน้าทีมตั้งเต็นท์ของตัวเองเสร็จ เดินมาสำรวจ...
“ตอกเสาลงดินไปเลย เดี๋ยวเอาเชือกไปผูกกันลมพัด” เธอเดินดูความเรียบร้อย
“มากินข้าวปั้นกัน อาหารคืนนี้มีแค่นี้” 85 เดินหอบห่ออาหารมากอง พวกเราเข้ารุมทึ้งด้วยความหิว
“เหนื่อยใจจะขาด เท้าบวมหมดแล้ว พรุ่งนี้ต้องเหนื่อยกว่านี้แน่” ฉันบีบเท้า หนังตาปรือ
“88 ไม่ไหวก็นอนก่อน เราพึ่งมาได้ครึ่งทาง” 87 เจ้าเดิมที่คอยเป็นห่วง
“ฉันขอตัวก่อนะคะ ร่างกายของฉันไม่มีความรู้สึกแล้ว มันชาไปหมด” ฉันคาบข้าวปั้นไปกินด้วย ทั้งหิวทั้งง่วง ซุกหัวเข้าเต็นท์
“ครืน...นน!” ฝนทำท่าจะตก ฟ้าแลบแปลบปลาบด้วยความอ่อนเพลีย พอหัวถึงหมอนก็ดิ่งไปเลย เพลียหลับลึกอยู่ในภวังค์ ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่?
“ครืน…นน!! เปรี้ยง!!!” ตกใจเสียงฟ้าผ่า สะดุ้งตื่นอีกครั้งกลางดึก ข้าวปั้นยังคาปาก
“โครม!!!” เสียงน้ำฟ้ากระแทกหลังคาเต็นท์ไหวยวบ ทั้งลมทั้งฝนกระหน่ำเข้ามาไม่ให้ตั้งตัว เต็นท์เอียงวูบวาบ
“88 ออกมา เร็ว!” 87 จะเป็นคนแรกเสมอที่คิดถึงฉัน เข้ามาดึงมือ
“สหาย! ไปหลบตรงโน้นก่อน” สายฝนเย็นจัดกระทบผิวสะดุ้งเฮือก ความหนาวจับขั้วหัวใจ มือสั่นตัวซีด
“มาเร็ว!” เพื่อน ๆ กวักมือใต้เพิงหิน ฉันเข้าไปนั่งเบียด
87 จับมือของฉันไปถูคลายหนาว น้ำใจของเธอทำให้อุ่นใจเงยหน้ามองใบหน้าของเธออย่างขอบคุณ ในยามร่างกายเหนื่อยล้าจิตใจก็ไขว้เขว มองมือที่ซีดเหี่ยวแล้วก็สงสารตัวเอง ทำไมต้องมาลำบากอย่างนี้ ชีวิตของฉันน่าจะสบายกว่านี้
“ทำไมโชคร้ายอย่างนี้นะ?” ฉันพึมพำเบา ๆ น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว รีบซุกหน้านอนบนก้อนหินแข็ง ไม่ให้เพื่อน ๆ เห็น
“โครม!” เสียงบางอย่างถูกโยนมากองข้างหน้าชะง่อนหิน พวกเราชะเง้อมองฝ่าความมืด ครูฝึกนินจาเดินเข้ามา
“ทหาร!” เขาเรียกในขณะที่มือแกะผ้าพลาสติกผืนใหญ่
“เย่!” พวกเราลุกนั่ง ขยับจะออกไป
“ไม่ต้องออกมา” ร่างของเขาเปียกโซก โยนผ้าพลาสติกคลุมชะง่อนหิน พวกเรานั่งกอดเข่าเบียดกัน
“หนาวมั้ย?” เขากดชายผ้ากันน้ำกระเด็นเข้าด้านใน
“ไม่หนาว!” พวกเราปากดีไปอย่างนั้นเอง ตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำกันทุกคน
“ฝนหลงฤดู ตกไม่นานหรอก” เขาพยายามปลอบใจ แต่คงช่วยไม่ได้เพราะอากาศหนาวเย็นมาก
“หายใจอึดอัดหน่อยนะแต่มันจะอบอุ่น เราจะผ่านคืนที่เลวร้ายไปด้วยกัน เรามาเพื่อฝึกความอดทนกับปัญหาและอุปสรรค ไม่ได้มาเพื่อเอาชนะใคร ขอให้เอาชนะใจตัวเองให้ได้”
“เย่!”
เขาพูดอยู่ด้านนอก แล้วเดินตากฝนกลับไป อากาศภายในเต็นท์อบอุ่นขึ้นจริง
87 หันคุยกับเพื่อน ๆ...
“นินจาเซมใจดีมากเลยนะทุกคน ฉันสัมผัสได้” เธอหันไปบอกกับเพื่อน ๆ ฉันอาจจะเป็นคนเดียวที่มองต่างมุม
“เขามักจะยืนคอยอยู่ในที่ ๆ อันตรายทุกครั้ง รอจนพวกเราเดินผ่านกันหมด แล้วจึงขับรถมอเตอร์ไซด์ไป” 87 น้ำเสียงปลื้มมาก
“เธอก็สังเกตเห็นเหรอ? ” 85 หันมาถาม
“ดูนั่นสิ!” 81แง้มผ้าใบ
ห่างจากเราไปราว 50 เมตร เงาตะคุ่มของเขานั่งคลุมผ้าเต็นท์ตากฝน คอยมองพวกเราไม่ละสายตา
“เขาไม่เคยทิ้งให้เราอยู่เดียวดาย แต่เขาต้องดุ เพราะต้องการสอนให้เราเป็นระเบียบและฟังคำสั่ง” 81 หัวหน้าทีมชื่นชม
“ใครเคยเห็นใบหน้าเขาบ้าง หล่อหรือเปล่า?” 87 ถามเสียงตื่นเต้น
“.............” สาว ๆ มองหน้ากันแล้วส่ายหน้า
ฉันขยับตัว...
“เขาโดนไฟคลอก ใบหน้าของเขาเสียหายหนักมาก เขาไม่ยอมถอดผ้าคลุมหัวกับแว่นตาเพราะเหตุนั้น”
“เหรอ? น่าสงสารจังเลย โชคร้ายมาก” 85 เสียงอ่อย
87 ระริกระรี้...
“ฉันเจอเนื้อคู่แล้ว เนื้อตัวของฉันก็มีแต่รอยแส้ ฉันจะขอเป็นเมียเขาจะน่าเกลียดไหมเนี่ย? ทุกคนว่าไง?” เธอกระเซ้าเรียกเสียงฮา
“เอาสิ! กล้ารึป่าว?” 85 กระแซะ
“กล้าสิ! ไม่มีอะไรต้องเสียนี่...มีแต่ได้” จริงของเธอถ้าเขาไม่ชอบ ก็อยู่คนเดียวเหมือนเดิม แต่ถ้าเขาเห็นด้วยก็ได้คนมานอนด้วย
พวกเราเบียดเสียดกันใต้ชะง่อนหิน ด้วยความอ่อนเพลียจึงหลับไปอีกครั้ง สายลมสายฝนกระหน่ำกระทบผ้าพลาสติกแทนเสียงดนตรี
เคลิ้มหลับกำลังจะเริ่มต้นฝัน…
“ปรี๊ด!!!!” โอย! เสียงนกหวีดนรกแตกมาอีกแล้ว
“ทหาร!”
“เย่!” หลับหูหลับตา เย่!ไปก่อน
“เก็บเต็นท์ เดินทางต่อ!” เสียงเจ็ทโด้สั่ง ฉันคิดในใจ...อยากตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย /ฉันมาทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้วะเนี่ย?/
“3 นาที! ” จูยอนหัวแฉะเนื้อตัวเปียกปอนเดินกระฉับกระเฉง ยายปีศาจร้ายในคราบพี่สาว ไม่มีความปรานีกันเลยฉันเกลียดพวกเธอเพื่อนทรยศ
นินจาขับมอเตอร์ไซด์ คอยต้อนพวกเราเหมือนฝูงสัตว์ ปวดขาปวดตูดก้มหน้าแบกเป้สู้ชีวิตต่อไป ฉันได้เรียนรู้เรื่องหนึ่งที่สอนให้ฉันเข้าใจ ถ้าหนีปัญหาเดิมก็จะเจอปัญหาใหม่ ในขณะเดียวกันปัญหาเดิมก็ไม่ได้แก้ ปัญหาใหม่ก็ผูกมัด ฉันไม่น่าหนีปัญหามาไกลขนาดนี้เลย
..............................................................................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |