หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 6 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 27 เม.ย. 2567 |
แคซอน
มุมมองสายตา นาตาลี
สิงหาคม ค.ศ. 2025
ค่ายฝึกทหาร แคซอน…
วันสุดท้ายของการฝึก หลังจากออกกำลังกายและทานอาหารเช้ากลุ่มของพวกเราโดนแยกออกจากลุ่มผู้ชาย วันนี้โชคดีได้เดินตัวเปล่าไม่ต้องแบกถุงทะเล กลุ่มของเราถือปืนยาวเดินไต่ภูเขาชันขึ้นไปทำกิจกรรมด้านบน จูยอนในชุดครูฝึกเดินนำหน้า นินจาเดินปิดท้าย
พวกเราเดินแล้วก็เดิน ทางลาดชันบวกความเมื่อยล้า ฉันพลาดสะดุดขาตัวเองเสียหลัก...
“ว้าย!” เซจะตกข้างทางมือไขว่คว้ามั่วไปหมด
“88! ระวัง” 87 หันมาเห็นพุ่งตัวเข้ามาช่วย แต่เท้าของเธอเกี่ยวต้นหญ้า หัวทิ่มลงไปแทน...
“เหวอ!!!” 87 กลิ้งตกลงไปด้านล่าง
“เฮ้ย!” สหายครูฝึกนินจากระโดดตามลงไปทันที
“87! คุณบาดเจ็บไหม?”
“ขาพลิกค่ะ” สีหน้าของเธอเจ็บปวด
“กอดคอผมไว้” เขาก้มตัวอุ้มเธอไว้ในอ้อมอก แล้วเดินขึ้นมาวางไว้กับเพื่อน
“87 เจ็บมากมั้ย? ฉันขอโทษนะ” ฉันเข้าไปบีบเท้าให้เธอ// โอย! ฉันสร้างเรื่องอีกแล้ว อยากจะบ้าตาย //ซวยคนเดียวไม่พอ ยังพาเพื่อนซวยด้วย//
“ไม่เป็นไร ฉันเดินไหว แค่นี้...ไม่เป็นไรหรอก” 87 จิตใจเข้มแข็งมาก หันกลับไปมองครูฝึกนินจาที่ยืนมองอยู่ข้าง ๆ
“คัมซามนิดะนินจาเซม!” เธอยืดอกตะโกนใส่
จูยอนเดินเข้ามามอง...
“ถ้าไหวก็ลุกขึ้น ไปต่ออีก 100 เมตรก็ถึงฐานแล้ว” เสียงดุมาก
พวกเราเดินต่อมาได้ราว 50 เมตร 87 ก็ทนไม่ไหวทิ้งตัวลงนั่ง ฉันรีบเข้าพยุง…
“87 ยังสู้มั้ยคะ?”
“ใจยังสู้ แต่เท้ามันไม่เป็นใจเลย” ใบหน้าของเธอถึงแม้จะมีแต่บาดแผล แต่เวลาเธอยิ้มแววตาก็ดูสวยสดใสร่าเริง
“กอดคอฉันไปด้วยกัน” ฉันให้เธอโอบไหล่แล้วพยุงเดิน
“โชคไม่ดีเลย ต้องผ่านการอบรมครั้งนี้ให้ได้ ฉันสอบตกอีกไม่ได้แล้ว ฉันสอบตกในห้องอบแก๊สมาแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ 98 คะแนนเอง” เธอรำพึงเบา ๆ ฉันเองยังมีอีก 106 คะแนน
“แต่คุณบาดเจ็บ” ฉันท้วง เพื่อน ๆ หันมองด้วยสายตาเป็นห่วง
87 ยืดอกหันไปมองเพื่อน ๆ ...
“ถึงจะได้แผลเพิ่มฉันก็ยอม เพื่อน ๆ วันนี้วันสุดท้ายแล้วที่เราอดทนกันมา ฉันจะไม่ยอมเป็นตัวถ่วงให้กับสหาย” เธอกัดฟันแน่นยังมั่นคงกับเป้าหมาย
เราพยุงเดินมาได้สักพักเธอก็ขอเดินเอง 81 หัวหน้าทีมเปรยเสียงดัง...
“พวกเรา! ด่านนี้น่าจะหินเอาการนะ” พวกเราเงยหน้ามองไปข้างหน้า จูยอนยืนนิ่งตัวตรงถือปืนยาวรออยู่ที่หน้าผา แสงแดดส่องกระทบใบหน้านิ่ง ยิ่งดูน่ากลัว
แหงนหน้ามองขึ้นไปบนยอดเขาแล้วใจแป้ว เชือกห้อยระโยงระยางบนหน้าผาหินที่ทาสีขาวคาดไว้เหมือนบันได ฉันกลัวความสูงใจหวิว เริ่มถอดใจ
พอกลุ่มของเราเดินมาถึง เธอก็เรียกทันที
“ทหาร!”
“เย่!!!!”
สายตาเหยี่ยวของเธอ มองจิกไล่สายตาทีละคนจนถึงฉัน
“88!”
“เย่! 88” ฉันยืดอกมองต่ำ
“ปืนของคุณอยู่ที่ไหน?”
“โอ๊ะ!” ช็อกมาก หัวใจขมวดเหมือนเกลียวคลื่นถาโถม หันมองซ้ายขวานี่ฉันพลาดอีกแล้วเหรอ? โดนตัดคะแนนเพราะโง่อีกแล้วเหรอ? ไม่กล้าหันไปมองหน้า 87 เลย
ทั้งเหนื่อย ทั้งเสียใจที่ทำให้ 87 ลำบากมากขึ้นไปอีก ฉันกำลังทำลายความฝันของเพื่อน น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อายใคร
“หายไปแล้วค่ะ!” ฉันยืนก้มหน้าน้ำตาไหล นึกไม่ออกว่ามันหายไปตอนไหน ในใจร้าวรานมากห่วงแต่ความรู้สึกของ 87
“ฉันไม่รู้ว่าคุณทำอย่างนี้เพราะอะไร ปืนคือชีวิตที่ 2 ของทหาร คุณทิ้งมันเท่ากับคุณทิ้งเพื่อนแท้ของคุณ” เสียงจูยอนกดดันหนักมาก ฉันยิ่งสะอื้นเสียใจ ยิ่งถูกดุยิ่งรู้สึกผิด
เธอก้าวเข้ามาแล้วจับหมวกของฉันขยับให้เข้าที่...
“อย่าร้องไห้! มองหน้าฉันไว้” เธอไม่ใช่พี่สาวของฉันแล้ว ดุฉิบ...
“คุณไม่จดจ่อกับสิ่งที่ต้องฝึก คุณกำลังทำให้เพื่อนอยู่ในสถานการณ์ลำบาก มีอะไรจะโต้แย้งมั้ย?”
“หงึ!หงึ! ฉันพยายามแล้วค่ะ” สะอื้นน้ำหูน้ำตาไหลพราก คิดเสียใจกับความผิดของตัวเอง ถ้าเงินแก้ไขปัญหาได้ ฉันจะชดใช้ให้ทุกคนอย่างสาสม แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เงินช่วยอะไรไม่ได้เลย
“ความพยายามของเธอ หมดแค่นี้แล้วเหรอ?”
“.............” ความเสียใจกดดัน ฉันทำผิดอย่างไม่น่าอภัย
“88!”
“เย่! 88!”
“บอกให้หยุดร้องไห้ มองหน้าฉันไว้” เธอเชยคางมองสายตาดุ
“ฉันเตือนเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า ถ้าทำปืนหายจะโดนลงโทษหนัก หมายเลข 87 และ 88โดนตัดคะแนน 5 คะแนน หัวหน้าและผู้ช่วยคนละ 2 คะแนน” คำสั่งของเธอกระชากหัวใจออกจากอก ...
“ฮือ! ฮือ!!!” ฉันร้องไห้สะอื้นหนัก เสียใจกับความเลินเล่อของตัวเอง
“88!”
“เย่! 88!”
“คุณต้องควบคุมจิตใจตัวเองให้ได้ ฉันสั่งให้หยุดร้องไห้ เดี๋ยวนี้”
“............” โดนบังคับเป็นลูกเลย ร้องไห้ก็ไม่ได้
“หงึ! หงึ!” ฉันสะอึกสะอื้น
“ความพยายามของคุณมีแค่นี้เองเหรอ? เขามีคำว่ากว่าไว้ทำไม? ดีกว่า! เก่งกว่า! มากกว่า! หมายความว่า ยังไง? หรือเขาห้ามเธอใช้”
“ไม่ได้ห้ามค่ะ!”
“เธอพยายามอีกได้มั้ย?” เธอตะโกนใส่หน้า
“ได้ค่ะ!”
“ดัง ๆ ได้มั้ย?” โดนอีกดอก
“ได้ค่ะ!” ฉันตะโกนสู้ จิตใจรู้สึกดีขึ้น เธอไม่ได้ด่าแต่เธอพูดกระตุ้นให้คิดต่างหาก
“เมื่อผิดพลาดก็ต้องหาทางแก้ไข ไม่ใช่ร้องไห้ขอความเห็นใจ อย่างนี้เมื่อไหร่จะปรับตัวแก้ไขได้ การดุของครูฝึกก็เพื่อทำให้ทุกคนตื่นตัว ไม่คิดฟุ้งซ่าน เข้าใจมั้ย?”
“เย่!!!!”
เธอขยับตัวไปหน้าแถว...
“พวกเธอทุกคนคือน้องสาวของฉัน การที่พวกเธอทำผิดพลาด ฉันก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเธอ ฉันคาดหวังว่าพวกเธอจะเป็นกำลังสำคัญในวันข้างหน้า เราจะเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกัน”
“เย่!!!” ฉันหายโกรธครูฝึกสนิทใจ ฉันต่างหากที่ผิดและดื้อรั้น
“นักเรียนนายทหารฝึกหัด!”
“เย่!”
“ตั้งใจฟัง ด่านนี้จะเป็นการวิ่งลงจากยอดเขาโดยใช้อุปกรณ์ เมื่อสวมอุปกรณ์แล้วให้มองลงที่เท้าแล้วก้าวลงมา ง่าย ๆ ไม่ยาก ดูครูฝึกนินจาจะทำให้ดูเป็นตัวอย่าง” เธอแหงนหน้าส่งสัญญาณมือให้ครูฝึกนินจาบนยอดเขา
“วืด!” เขาดึงเชือกวิ่งก้าวโดดไม่กี่ก้าวก็ถึงพื้น
“ใครจะเริ่มก่อน” ครูฝึกนินจามองมา
87 ยกมือ ฉันใจหายวาบข้อเท้าของเธอบาดเจ็บอยู่
“บัดดี้! ตามขึ้นมาด้วย” เขาสั่งแล้วเดินขึ้นบันไดไปยอดเขา
ฉันเดินตามหลัง 87 ขึ้นไปไต่ไปตามทางเดินลาดชัน สังเกตข้อเท้าของเธอคงหายแล้ว ไม่มีอาการเสียวหรือสะดุ้งให้เห็น
..........................................................................
“เฮือก!” ฉันใจหวิว ตาค้างเมื่อขึ้นมาอยู่ด้านบน
มองจากข้างล่างขึ้นมาก็ไม่สูงเท่าไหร่ แต่มองจากตรงนี้ลงไปใจสั่นเลยทีเดียว กลุ่มเพื่อน ๆ ยืนให้กำลังใจจากด้านล่างตัวเล็กนิดเดียว
“ความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องล้อเล่น” ครูฝึกนินจาโยนอุปกรณ์ให้ 87
“สวมอุปกรณ์!”
“เย่! สวมอุปกรณ์!” 87 สวมอุปกรณ์เข้ากับตัวคล้องเชือกกับตัวรัดสายมั่นคง
“เข้าประจำที่!”
“เย่! เข้าประจำที่!” 87 ขานรับแข็งขัน ครูฝึกเดินเข้าดึงเชือกที่เอวของเธอ
“ตึกตึก! ตึกตึก!” ใจของฉันเต้นรัวลุ้นระทึก
“เอนตัวตั้งฉากกับหน้าผา!” เขาดึงเชือกที่เอวของเธอ
“เย่! เอนตัวตั้งฉากกับหน้าผา!” เธอยื่นตัวเองออกไปเอียง 90องศากับหน้าผาได้สำเร็จ ทุกสายตาของเพื่อน ๆ ที่แหงนขึ้นมามอง ต่างช่วยลุ้นด้วยความเป็นห่วง
“87!”
“ย..เย่! 87!” เสียงของเธอเริ่มสั่น
“87!”
“เย่! 87!”
“กลัวมั้ย?”
“ก..ก..กลัวค่ะ!” ช่วงเวลาที่หวาดเสียวกดดันหัวใจที่อ่อนล้า ทุกคนเหน็ดเหนื่อยและคิดถึงบ้านกันทุกคน เพียงแต่ไม่มีใครกล้าแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเพื่อน กดความรู้สึกกลัวไว้ด้านใน
87 ที่เคยร่าเริงสดใสเริ่มประหม่าใบหน้าซีดเผือด เสียงของเธอเริ่มขาดหาย เธอคงจะกลัวแต่ไม่แสดงออก
“ตะโกนดัง ๆ สู้โว้ย!”
“สู้โว้ย!”
“ดังอีก!”
“สู้โว้ย!”
“เอาให้ดังถึงบ้านเลย!”
“สู้!!!!....โว้ย...ยย!!!” เธอตะโกนสุดเสียง เพื่อน ๆ มองลุ้นใจจดจ่อ
“ตอนนี้คุณคิดถึงใครมากที่สุด”
“ฉัน...คิดถึงอะป้ากับออมม่ามากที่สุด” จิตใจที่ต้องต่อสู้กับความกลัวหลุดไปแล้ว เสียงสั่นเครือน้ำตาร่วงเผาะ
“.............” เพื่อน ๆ ที่แหงนคอขึ้นมามองน้ำตาซึมเพราะรู้ว่าเธอผ่านชีวิตยากลำบากกว่าใคร
“ตอนนี้คุณอยากบอกอะไรกับท่าน!”
“คิดถึงมาก!...อยากกอด! อยากเจอ อยากกินข้าวด้วยกันอยู่บนฟ้าหนาวมั้ย? ขอบคุณมากที่ให้หนูเกิดมา ถึงจะไม่ได้เป็นนักดาราศาสตร์ แต่หนูก็อยากให้อะป้ากับออมม่าได้เห็นหนูใส่ชุดนายทหาร ในวันข้างหน้าถ้าหนูมีลูก หนูจะเล่าเรื่องให้หลานฟัง ฮือฮือ!” เสียงของเธอเรียกน้ำตา ในความทรงจำของเธอมีเรื่องคาใจมากมาย ความหวังที่จะมีลูกก็ไกลเกินจริง
“ท่านรับรู้แล้วครับ! ลงไปหาสหายผู้กองด้วยความมั่นใจ เข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจแล้วค่ะ!”
“ถ้าพร้อมแล้วก็ลงไปเลย!”
“87 สู้ ๆ” เพื่อน ๆ ตะโกนเชียร์ขึ้นมา
เธอก้าวออกมาอย่างมั่นใจ หน้าผาชันเกือบจะตั้งตรงหลอกสายตา เธอทิ้งตัวลงไปด้านล่าง…
“วื้ด!!!”
“ว้าย!” เธอก้าวได้เพียงไม่กี่ก้าว ลำตัวอ้อนแอ้นก็โอนเอน
“ขาต้องแข็งแรงดันพื้นเอาไว้ ทรงตัวให้ดี” สิ้นเสียงของสหายครูฝึก 87 ก็เหยียบพลาด…
“โอ๊ย!” รองเท้าของเธอพลิก ฉันผวาวูบแต่ก็ต้องชะงักกับความเสียวของความสูง
“ลุกขึ้น 87! ตั้งฉากกับหน้าผา คุณทำได้” ครูฝึกนินจาตะโกน
“คุณทำได้ 87! คุณทำได้!” เพื่อน ๆ ป้องปากตะโกนขึ้นมาแล้วปรบมือ...
“แควนจ๊าน่า! แควนจ๊าน่า!”
“ย๊าก!!!” เธอกัดฟันดันตัวขึ้นก้าวเดินต่อ สายเชือกดึงลำตัวของเธอแกว่งไกว แต่ละก้าวไม่ง่ายเลย ทั้งหัวใจและร่างกายของเธอ พยายามต่อสู้กับแรงโน้มถ่วง ร่างกายเคลื่อนไหวไม่เป็นตามแผน กระเด็นกระดอนกระแทกผาหินไปมา
“อีกนิดเดียว 87อดทนไว้!” ฉันตะโกนให้กำลังใจ
สุดท้ายก่อนจะถึงพื้น เท้าของเธอสะบัดอย่างไร้ทิศทาง ร่างของเธอกระแทกกับหน้าผาอย่างจัง
“โอ๊ย!!” เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ เสียหลักลำตัวห้อย
“ฮึบ!!” จูยอนวิ่งมารับตัวเธอไว้ทัน…
“ทำดีมาก 87” เธอประคองให้ยืนตรง
“เป็นอะไรมั้ย 87? ไฟท์ติ้ง!” ฉันป้องปากตะโกน เธอแหงนหน้ามาโบกมือ...
““แควนจ๊าน่าโย!”
ครูฝึกนินจาหันมามอง ฉันอึดอัดใจมากเป็นคนกลัวความสูงมาแต่ไหนแต่ไร เดินก้มหน้าไม่มั่นใจเข้าไปหา ตอนนี้หน้าอกเสื้อของฉันแทบจะระเบิด
“ตึกตึก! ตึกตึก!” เสื้อกระพืออย่างเห็นได้ชัด ฉันใจฝ่อมองอย่างหวาดหวั่นลงไปด้านล่าง เพื่อน ๆ โบกมือให้กำลังใจ
“88!” ครูฝึกเรียกเสียงดัง ฉันสะดุ้ง ตกใจ...
“ย..เย..เย่! 88!”
“สวมอุปกรณ์”
“เยเย่! สวมอุปกรณ์” ฉันหยิบเสื้อเชือกมาคล้องตัว ดูมันวุ่นวายไปหมด สายคาดอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด
“ใจเย็น ๆ ไว้ 88! ค่อย ๆ ดูให้เรียบร้อย อุปกรณ์นี้ ถ้าคุณทำดีมันจะช่วยชีวิตคุณ ถ้าคุณสะเพร่ามันจะฆ่าคุณ” เขามาช่วยจัดให้มันเป็นระเบียบ
“ตั้งฉากกับหน้าผา!”
“เย่! ตั้งฉากกับหน้าผา!” ฉันปากกล้าขาสั่นค่อย ๆ เอียงตัวออกไป
“ตั้งสติไว้ เอนตัวไปมาก ๆ ไม่ตกลงไปหรอกมีอุปกรณ์รั้งอยู่”
ฉันกัดฟันทำตามคำแนะนำ เสียวจนตูดเกร็ง เอนตัวออกไปค้างตั้งฉากกับหน้าผา เอียงหน้าหลับตาไม่กล้ามอง
“คุณกลัวความสูงเหรอ?”
“กลัวมากที่สุดค่ะ”
“จะหยุดมั้ย? เลิกตอนนี้ยังทันนะ”
“ไม่ค่ะ!”
“คุณมีอะไรในใจเหรอ ถึงอยากจะทำ?”
“ฉันทำเรื่องผิดพลาดไว้หลายอย่าง ฉันทำให้ 87 โดนตัดคะแนน ฉันอยากจะชดใช้”
“อยากพูดอะไรกับเพื่อนมั้ย?”
ฉันมีโอกาสขอโทษเพื่อน ๆ แล้ว
“87 ฉันขอโทษ! ฉันจะทำทุกอย่าง ถึงแม้จะกลัวแต่ฉันจะไม่ยอมให้เธอสอบตก เพื่อน ๆ ด้วย! ฉันขอโทษที่เคยทำผิด”
“ดี! วันนี้จะเอาความกลัวนี้ออกไปจากชีวิตคุณ” เขาประกบหลัง
“ไปได้!”
พอเขาปล่อยมือ ลำตัวของฉันแกว่งทันที หน้ามืดหัวใจหวิว ภาพต่าง ๆ รอบตัวเริ่มพร่ามัว ความกลัวเข้าเกาะในใจ มีคำถามมากมายพุ่งมาถามใจตัวเอง จะเลิกมั้ย? พอแค่นี้ก็ได้นะ!
“88!”
“เย่!”
“ไม่มีความมั่นใจเหรอ?”
“มีค่ะ”
“ทำตามความตั้งใจเดิม ทำเพื่อเพื่อน”
“เข้าใจแล้วค่ะ” ฉันรวบรวมความกล้าอีกครั้ง แต่ก็ยังก้าวขาไม่ออก
“88!”
“เย่!”
“จำตอนที่คุณวิ่งลงจากภูเขา แล้วหยุดไม่ได้ ได้มั้ย?”
“เย่!” ฉันจะลืมได้อย่างไร วันนั้นฉันสับขาได้เร็วมาก
“ทำแบบนั้นเลย อุปกรณ์จะรั้งตัวคุณไว้เอง”
โอ้...ขอบคุณมากครูฝึกนินจา ฉันรู้เคล็ดลับนั้นทันที ก้าวขาออกไปแล้วตัดสินใจวิ่งลงไปทันที เชือกรั้งกระเด็นกระดอน แต่มันก็ง่ายกว่าเดินทีละก้าว
“วู้ว!!...แทบัก! 88 เจ๋งมาก” เพื่อนเข้ามาห้อมล้อมเมื่อเท้าแตะพื้น
จูยอน เดินหน้านิ่งเข้ามาปลดอุปกรณ์ แล้วตบไหล่เบา ๆ
“88 ทำดีมาก”
ฉันโคตรปลื้มเลยที่ชนะความกลัวของตัวเองได้ เดินเข้าไปหา 87 ที่สีหน้าไม่ค่อยดี
“87 เท้าเป็นยังไง?” ฉันหันกลับไปมองหน้าผา คู่ต่อไปกำลังจะไต่ลงมา พอหันกลับมา...
“ฮือ! สอบตก” 87 ร้องไห้โฮ
“ฉันเดินไม่ไหวแล้ว ฉันไม่อยากกลับไปแบบนี้ คะแนนของฉันเหลือแค่ 83 เอง ฮือฮือ!” เธอก้มหน้าร้องไห้
ฉันเข้าไปกอดลูบหลัง…
“เหลืออีกด่านเดียว ฉันจะทำให้เธอเอง”
“ฉันผิดหวังกับตัวเองมากเลย ฉันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ฮือฮือ!”
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไร” ฉันกอดเธอไว้แล้วลูบหลังเบา ๆ
หลังจากผ่านด่านนั้น พวกเราก็เดินไต่ขึ้นไปต่อ ฉันพยุง 87 เดินขึ้นภูเขามาอย่างทุลักทุเล ถึงเป้าหมายคนสุดท้าย
เพื่อนทุกคนได้ทำกิจกรรมผ่านไปแล้ว เหลือเพียงครูฝึกนินจานั่งคอยเงียบ ๆ ฉันคิดในใจ...ไม่ว่าเขาจะด่า เขาจะลงโทษอะไร ฉันจะยอมรับโดยไม่ปริปาก ฉันแย่เองที่ทำให้ 87 ฝันสลาย
เขาลุกยืน เมื่อฉันพยุงเพื่อนเดินเข้าใกล้
“ทำดีมาก 88! คุณทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด”
ฉันรู้สึกยินดีกับคำชมของครูฝึกที่ด่าฉันมาตลอด คำพูดของพวกเขา ถ้าฟังดี ๆ มันเป็นการให้กำลังใจ // แต่ไม่ต้องตะคอกก็ได้นี่นา //
หมอกด้านหน้าหนาทึบ มองหาเพื่อน ๆ ไม่เห็นสักคน ฉันมั่นใจตัวเองมากขึ้นและไม่รู้สึกเกลียดกลัวครูฝึกอีกแล้ว เดินยืดอกเข้าไปหา…
“เซม! ด่านนี้ต้องทำอย่างไรคะ?”
“ถูกต้องแล้ว 88 เมื่อเจอสิ่งที่ท้าทาย ต้องถามว่า ทำอย่างไร? ไม่ใช่ถามว่า ทำทำไม? จะพักก่อนมั้ยเพื่อนยังเจ็บขานี่?” เขาก็ใจดีเหมือนกันนะ ฉันพึ่งจะรับรู้ได้
“โคมับซึมนิดะ!” กล่าวขอบคุณ แล้วก้มลงมองเพื่อน...
“87 ฉันบีบข้อเท้าให้นะ” ฉันถอดรองเท้าแล้วบีบเบา ๆ สีหน้าของเธอเสียวมาก ขาชักกระตุกทุกครั้งที่ฉันกดแรง
“88!”
“เย่!”
“พอแล้วเดี๋ยวจะช้ำแล้วบวม สวมร้องเท้าให้หุ้มข้อเท้าไว้”
“เย่!” ฉันไม่มีอิดออดรีบทำตามคำแนะนำ
“ห่ะ!” เห็นใบหน้าของ 87 แล้วตกใจ เธอยิ้มปลื้มปริ่มบิดตัวมองครูฝึก สายตาอย่างกับมองคนรัก ยายนี่หลงผู้นี่หว่า?
ฉันหันมองสำรวจว่า ด่านนี้ต้องทำอย่างไร? เห็นเพียงปลายเชือกผูกกับเสาฝั่งนี้ ส่วนปลายอีกด้าน หายไปในม่านหมอกทึบเหมือนกับควันไฟ มองไม่เห็นอะไรเลย
“พร้อมมั้ย?” เขาก้าวเดินไปที่เชือก
“เย่!” ฉันและ 87 ยืดอกเดินตาม
ในจังหวะนั้น...สายลมแรงพัดวูบ หมอกขาวโดนกระแสลมพัดกระจายแตกตัวมองเห็นหุบเหวลึกด้านล่าง ความสูงไม่ต่ำกว่า 300 เมตรจากพื้นมีเพียงตาข่ายบาง ๆ รองรับ
“ออม่อ!” แค่มองก็เวียนหัวแล้ว ฉันยืนนิ่งวิญญาณปลิวออกจากร่างไปเลย เพื่อน ๆ ที่ผ่านไปแล้ว เกาะกลุ่มยืนโบกมือรอฝั่งตรงข้าม ลิบ ๆ
“ด่านสุดท้าย จะใช้ความแข็งแกร่งของขาเพื่อทรงตัว ผมจะทำให้ดู” เขาขึ้นไปนอนบนเส้นเชือกใหญ่เส้นเดียวที่ขึงตึงไปฝั่งตรงข้าม
“ขาข้างที่ไม่ถนัดเหยียดตรงทิ้งให้ตั้งฉากกับลำตัว ขาอีกข้างงอพาดเชือกเอาไว้ หน้าอกแนบเส้นเชือก ทรงตัวด้วยจุดศูนย์กลางของลำตัว แขนสองเหยียดตรงพร้อมดึงตัวเองไปข้างหน้า” ว่าแล้วเขาก็ดึงตัวเองไปตามเส้นเชือกอย่างรวดเร็ว /ฉันอ้าปากค้าง เก่งจังเลย/
เมื่อเขาไปถึงฝั่งตรงข้ามก็ดึงตัวเองกลับมา พอได้ครึ่งทางก็ทิ้งตัวห้อยกลางเส้นเชือก สองเท้าหนีบเชือก สองมือจับเชือกแล้วสาวพรวด ๆ กลับมา ฉันอ้าปากค้าง
“มั่นใจมั้ย?”
“เย่!”
“87 ขาเจ็บ ฉันขอทำแทนได้มั้ยคะ?” ฉันอยากช่วยเธอบ้าง แต่ในใจสั่นมาก
“ฮื้อ!” 87 ผวาดึงมือ ส่ายหน้า...
“ฉันทำได้ ไม่ต้องห่วง” เธอยิ้มหวานให้ครูฝึก กับผู้สู้ตายเลยนะ
“87 คะแนนของคุณเหลือ 83 ถ้าคุณผ่านด่านนี้ คะแนนจะเพิ่มเป็น 93 คุณก็สอบผ่าน แต่ถ้าตก คุณต้องไปฝึกมาใหม่” ครูฝึกอ่อนโยนมาก
“ใครจะไปก่อน? ”
เธอยกมือยิ้มฟันขาว มั่นใจมาก...
“87ขอทำภารกิจนี้ก่อนค่ะ อันนี้ฉันทำได้สบายมาก”เธอกระตือรือร้นมาก พูดอย่างนี้ทุกด่าน เจ็บตัวเกือบทุกด่าน
“เข้าประจำที่!”
“เย่! เข้าประจำที่!”
“สวมอุปกรณ์!”
“เย่! สวมอุปกรณ์!”
“มองไปข้างหน้า”
87 เงยหน้าสูดลมหายใจ สายตาแน่วแน่มาก ยืดแขนยืดขาฉันเข้าไปช่วยจับเท้าข้างที่เจ็บให้ห้อยลงมา
“87 รีบมาไว ๆ นะ” เสียงเพื่อน ๆ ให้กำลังใจดังแว่วมา
“สูดลมหายใจลึก ๆ”
“ไป!” สิ้นเสียงครูฝึก เธอก็สาวพรวด ๆ ออกไป
ครูฝึกนินจาหันมามองหน้า…
“88!”
“เย่! 88!”
“ระยะทางแค่ 34 เมตร ความสูงจากพื้น 360 เมตรไม่ยากใช่มั้ย?”
“เย่!”
“ยังกลัวมั้ย?”
“มากค่ะ!” มั่นใจที่สุด
“ยังไม่หายอีกเหรอ?”
“ยังไม่ชินค่ะ ถ้าได้ทำทุกวัน ก็คงจะหายกลัวค่ะ” ฉันยืดอกคุยกับเขาอย่างมั่นใจ แต่ข้างในท้องมันโครกคราก โหวงเหวงชอบกล
“เข้าประจำที่!”
“เย่!” เข้าประจำที่!”
“สวมอุปกรณ์!”
“เย่! สวมอุปกรณ์!” ในขณะที่ฉันยังสาละวนอยู่กับอุปกรณ์
ทันใดนั้น...
“ว้าย!” เสียง 87 ร้องลั่น
เราหันไปมอง 87 ตกจากเชือกลำตัวห้อยต่องแต่ง พยายามเอาขาตวัดเกี่ยวเชือก...แต่ไม่ถึง
“87 คุณทำได้ สาวเชือกมา!” เพื่อน ๆ ตะโกน ฉันใจหายวาบกลัวเธอจะหล่นลงไป ขาของเธอก็บาดเจ็บ
ครูฝึกนินจาหันมามอง...
“คุณจะไปช่วยเพื่อนมั้ย? โอกาสของคุณมีครั้งเดียวที่จะไถ่โทษ”
“ฉันขอไปช่วยค่ะ”
“มั่นใจ?”
“ค่ะ!”
“ตะโกนบอกเพื่อนสิ! ดัง ๆ”
“87!!! อดทนไว้ ฉันกำลังจะไปช่วย” ฉันป้องปากตะโกน
“ไป!” ครูฝึกตบไหล่เบา ๆ
“อึ๊บ! อึ๊บ!” ฉันสาวเชือกอย่างที่ครูฝึกทำให้ดู
“.............” แต่ทำไมมันไม่ขยับเลย เหมือนดิ้นอยู่กับที่
“88! ชีวิตของเพื่อนอยู่ในกำมือคุณ รวบรวมความกล้าแล้วพุ่งมันออกไป” เขาให้กำลังใจดีมาก แต่ฉันเคลื่อนตัวไปได้ช้า ในขณะที่ 87 ห้อยตัวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว
“ตะโกนออกมาว่า คุณจะทำอะไร?”
“ฉันจะไปช่วยเพื่อนค่ะ”
“ดัง ๆ ”
“ฉันจะไปช่วยเพื่อน ฉันทำได้” ฉันรวบรวมสมาธิและกำลังกายทั้งหมด สาวเชือกอย่างเร็วพร้อมหับถีบเชือกพุ่งไปข้างหน้า ก่อนจะถึงตัวของ 87 เส้นเชือกก็สั่นแกว่งไกว จนต้องหยุดทรงตัวนิ่ง
“87 อยู่นิ่ง ๆ ฉันมาช่วยแล้ว” ฉันลากตัวเองไปใกล้ เอื้อมมือลงไปเพื่อจะดึงลำตัวของเธอขึ้น
“87 ยกขาขึ้นมา” สายตามองไปแค่ที่ 87 เท่านั้นไม่กล้ามองเลยไปพื้นล่าง...เสียว
“88 ฉันขอโทษ”
“ไม่เป็นไร ฉันสิต้องขอโทษที่ทำเธอเจ็บขา ยกขาไหวมั้ย?” เธอพยายามจะยกขาขึ้นมา ในจังหวะนั้นเชือกสั่นและโยนตัว
“ว้าย!” หัวใจฉันแตก ร่างพลิกตกลงไป เชือกรั้ง หลังแอ่น ห้อยเช่นเดียวกัน
“88! เจ็บหรือเปล่า?” 87ร้องเสียงหลง
ฉันรู้สึกโหวงเหวงกลางอากาศ เสียวท้องมาก เหลือทางเดียวต้องสู้เท่านั้นถึงจะผ่านไปได้
“87- 88 สู้! สู้! อีกครึ่งทาง” เพื่อน ๆ กวักมือหวีดร้อง ช่วยกันลุ้น
ฉันดึงตัวเองเข้าหา…
“87 เอาเท้ามา ฉันจะยกขึ้นไปเกี่ยวให้” ฉันเอื้อมมือไปยกเท้าของเธอเกี่ยวเชือก
“อึ๊บ!” อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว
เชือกสะบัดอีกครั้ง
“ว้าย!” เท้าของเธอหลุดมือ เชือกแกว่งไกวเสียวท้องวูบ
“นิ่ง ๆ นะ 87 ให้มันหยุดแกว่งก่อน” ฉันปลอบเพื่อนทั้ง ๆ ที่กลัวสุดขีด ความตั้งใจจะช่วยเพื่อนเริ่มสั่นคลอน ทันใดนั้น...เสียงของจูยอนดังก้องหู ความพยายามของคุณ มีแค่นี้เองเหรอ?
“87 เราต้องผ่านไปด้วยกัน เอาเท้ามา” ฉันฮึดสู้อีกครั้ง
“อึ้บ!” เธอยื่นเท้ามาอีกครั้ง
“ย๊าก!!!” ฉันใช้แรงทั้งหมดดันเท้าข้างที่ไม่เจ็บของเธอขึ้นไป…
“ได้แล้ว ๆ 87” ฉันเอาเท้าที่เจ็บของเธอมาพาดไว้ที่หน้าอกของฉัน
“เธอทำได้! เธอทำได้!” เพื่อน ๆ ร้องเชียร์ เธอดึงตัวเข้าไปฉันดึงตัวเองตาม
“87- 88! ดึงเชือกมาเลย” เสียงจูยอนตะโกนเร่ง ฉันเกร็งมือดึงเชือกขยับตัว เคลื่อนไปทีละนิด
“เหวอ!” เชือกสั่นแกว่งแรงอีกครั้ง
“88! สาวเชือกไป อย่ายอมแพ้ ผมอยู่กับคุณ” โคตรอุ่นใจเลย ครูฝึกนินจาไต่เชือกตามมา
“สาวเชือกมา ปั้ลลี่! ปั้ลลี่!” เสียงเชียร์ดังชัดขึ้น สายลมพัดหมอกจางลงจนเห็นเพื่อน ๆ ชัดมากขึ้น พวกเธอกระโดดโลดเต้นช่วยกันลุ้น
“อีกนิดเดียว เก่งมาก 87 ดึงเข้าไป” ครูฝึกนินจาเร่งเร้าจากด้านหลัง 87 สาวเชือกอย่างมั่นคง เคลื่อนที่เข้าใกล้กลุ่มของเพื่อน ๆ
ทันทีที่มือของ 87 แตะขอบระเบียง...
“เย้! สำเร็จแล้ว!” เพื่อน ๆ กระโดดดีใจ กำลังใจหลั่งไหลมามากมาย
จากนี้ไปฉันคงไม่กลัวความสูงอีกแล้ว ฉันสาวเชือกไปจนถึงระเบียงไม้ยื่นมือไปให้จูยอนช่วยดึงขึ้น
“เก่งมาก 88! ทำดีมาก!” เธอยังหน้านิ่งเหมือนเดิม แต่คำชมทำให้ความกลัวและเหนื่อยหายไป
พวกเราอิ่มเอมใจใบหน้ายิ้มแย้มภูมิใจ ยืนยืดอกเข้าแถวหน้ากระดาน
“เสร็จสิ้นการฝึก ทุกคนกลับค่าย” ครูฝึกนินจาสั่งแล้วเดินไปหามอเตอร์ไซด์...
“87!” เขาหันมาเรียก
“เย่! 87!”
“ไปกับผม”
“เย...เย่! เย้!” เธอโยกเอวยิ้มหน้าบ้าน วิ่งเขย่งขากระด๊อกกระแด๊กตามไป
พวกเราขึ้นรถยนต์นั่งหลับคอพับคออ่อนกลับมาถึงค่ายอย่างโรยแรง พอก้าวเท้าเข้ามาในห้องก็ต้องร้องกรี๊ดแล้วกอดกันกลม ชุดนายทหารพับเรียบร้อยวางไว้ที่ปลายเตียงของทุกคน
“พวกเราสำเร็จแล้ว เราทำได้แล้ว!” 81 หัวหน้าทีมยิ้มทั้งน้ำตา
“คูมับซึมนิดะยอลาบูน เราทำได้แล้ว!” เธอขอบคุณทุกคนแล้วเก็บความดีใจไว้ไม่ไหว ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ฮือฮือ!” น้ำตาแห่งความปีตินองหน้า เธอเข้าสวมกอดทีละคน มันควรค่ากับความเหนื่อยยาก นั่งปลื้มใจกับชุดของตัวเอง
แม้ฉันจะไม่ได้มีเป้าหมายเหมือนพวกเธอ แต่ก็เก็บน้ำตาแห่งความยินดีไว้ไม่ได้ รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองที่ได้เดินผ่านโลกที่แตกต่าง โลกที่ไม่เคยคิดฝันจะเดินเฉียดมาก่อน
“พวกเราไปอาบน้ำ แล้วลองชุดกัน” วันนี้ทุกคนคงหลับฝันดีที่สุด
……………………………………………………………
หลังอาหารเช้าวันต่อมา พวกเราได้สวมชุดเขียวขี้ม้า สวมหมวกดาวแดงได้ดอกมูกุงฮวาพลาสติกมาติดไหล่คนละดอก ชุดนายทหารอันทรงเกียรติที่ทุกคนภูมิใจ
แถวทหารเรียงเป็นช่องสวยงาม นายทหารฝึกหัดทั้ง 100 นายยืดอกใบหน้าเปี่ยมสุข ยิ้มเล็กยิ้มน้อยภูมิใจตัวเอง
“หน้าเดิน!” สหายโกยืดอกก้าวเท้านำเดินอย่างองอาจเข้าห้องประชุม ถึงจะไม่มีกองเกียรติยศคอยต้อนรับเป็นเพียงพิธีจบการศึกษาที่ไม่มีหน่วยงานสนับสนุน แต่มันก็เรียบง่าย อบอุ่นสำหรับนักเรียนนายทหารรุ่น 1
“ชุงซอง!” ทหารทั้ง100นาย ตะโกนน้ำเสียงทรงพลังก้องห้องประชุม
ครูฝึกเจ็ทโด้และครูฝึกนินจายืนประกบสองฝั่งยกมือทำความเคารพเมื่อพวกเราเดินผ่าน
จูยอนยืนยิ้มสายตาประกายบนเวทีในชุดทหารเต็มยศ เธอมีดอกมูกุงฮวา 3 ดอกบนบ่า ท่าทางของเธอยามสวมชุดทหารช่างดูสง่างาม สมกับเป็นผู้นำ
ฉันหันมองหน้าเพื่อน ๆ ทั้ง 9 คน ทั้งสีหน้าและแววตาของพวกเธอมีแต่ความภูมิใจ มั่นใจ พวกเธอได้เติบโตเป็นนายทหารโดยสมบูรณ์แล้ว
“ทำความเคารพ สหายผู้กอง!” 81 หัวหน้าทีมตะโกนเสียงหนักแน่น
“พรึบ!”
“ชุงซอง!” พวกเรายกมือตะเบ๊ะพร้อมกัน...
“ชุงซอง!” จูยอนยิ้มแก้มพอง เดินตัวตรงอบรมพวกเรา
“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสได้เป็นพี่น้องกับทุกท่าน เพราะความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จึงทำให้พวกเราสามารถมายืนจุดนี้ได้ พวกเธอทั้ง 10 คนจะเป็นเพื่อนกันไปตลอดกาล ระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา พวกเธอได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของจิตใจและฝ่าฟันจนจบหลักสูตรนายทหาร” เธอก้าวเดินลงมาจากเวทีแล้วยิ้มกว้างโผเข้าจับมือทีละคน ใบหน้าและสายตาเปลี่ยนไปจากครูฝึกใจร้ายสิ้นเชิง...
เธอเดินจับมือเรื่อยมาจนถึงฉัน แววตาเดิมที่เคยรู้จัก มองฉันด้วยความรักกลับมาแล้ว ฉันน้ำตาคลอตื้นตันใจ ตอนที่รับปริญญาดอกเตอร์ยังไม่รู้สึกดีใจเท่านี้เลย
“พวกเธอได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ คนเราสามารถทำได้ทุกอย่าง โดยพยายามขึ้นไปอีกนิดหนึ่งเท่านั้น อีกนิด! อีกนิด! ทุกคนกล้าเข้ามาผจญภัยในโลกที่ไม่คุ้นเคย และผ่านมันออกไปอย่างห้าวหาญโดดเด่น ทำดีมาก! ทำได้ดีมาก!”
“เย่!” ฉันยืนอกตั้งหลังแอ่น ภูมิใจในตัวเอง
“นายทหารทุกท่าน”
“เย่!!!!”
“บอกลาเพื่อนได้แล้ว พวกคุณจะถูกส่งไปประจำการชายแดน อาจจะไม่ได้เจอกันอีกบ่อย ๆ คิดถึงความรักความเอื้อเฟื้อ เก็บความทรงจำนี้ไว้” ทั้งแววตาและรอยยิ้มของเธอ เหมือนแม่ที่ดูลูกจบการศึกษา
“เย่!” พวกเราหันสวมกอดกัน
ทหารชายแหกปากตะโกนวิ่งเข้ากอดกัน บรรยากาศมีแต่รอยยิ้มและแม้แต่ทหารผู้ชายก็หลั่งน้ำตา
81 หัวหน้าทีม เดินมากอดฉันแน่น…
“สหายผู้บัญชาการ ขอบคุณมากที่ร่วมเหน็ดเหนื่อยกับพวกเราจนวันสุดท้าย ฉันจะจดจำวันเวลาเหล่านั้นไว้ตลอดไป”
“จองโบริม เธอเก่งมาก” ฉันลูบหลังเธอเบา ๆ
“ว้าว! ซาจังนีม จำชื่อฉันได้ด้วย” เธอรัดแน่นขึ้น
“จำได้สิ เธอกล้าหาญมาก ฉันจะให้ครีมเบบี้เฟสกับพวกเธอทุกคนตามสัญญา”
87 เดินยิ้มยันไม้ค้ำขาเข้ามา ฉันกางแขนกว้าง
“เยวอน ขอบคุณมากที่ไม่ถือโทษโกรธกัน ฉันทำผิดกับเธอมากเลย”
“หึ!” เธอปากจู๋สะบัดตัว สะอื้น น้ำตารื้น
“เป็นอะไร? ร้องไห้เหรอ?”
เธอโผเข้ากอด...
“ขอบคุณสหายมาก ที่กล้าหาญออกมาช่วย ทำให้ฉันสอบผ่าน ทำให้ฝันของฉันเป็นจริง” เธอสะอื้น กอดแน่น
“สหายครูฝึกเจ็ทโด้เคยบอกว่า มีเพื่อนแล้วไม่ช่วยกัน จะมีเพื่อนไว้ทำไม? เราไม่ใช่คนรู้จักกันแล้วนะ” ฉันลูบหลังเบา ๆ
“ปวดใจจังเลย ไม่อยากให้จบเลย ฉันคงคิดถึงสหายมาก”
“ฉันยังอยู่ที่นี่ คิดถึงก็มาหาสิ ส่งข่าวด้วยนะไปประจำการที่ไหน?”
เธอชะเง้อมองไปที่สหายครูฝึกนินจาบ่อย ๆ แล้วถอนหายใจ...
“คนเยอะจัง พวกนั้นจับสหายครูฝึกของฉันโยนสูง ถ้าหลุดมือตกลงมา จะตีให้หัวแตกเลย คอยดูสิ!” เธอคงชอบสหายนินจามาก ฉันอมยิ้มกับท่าทางน่ารักของเธอ กลุ่มทหารชายห้อมล้อมเจ็ทโด้
87 หันมา...
“ว่างแล้ว ๆ ไปลาสหายครูฝึกนินจากันดีกว่า” เธอดึงมือให้เดินตาม เพื่อน ๆ ยืนเรียงแถวหน้ากระดาน รออยู่ก่อนแล้ว
“ระยะเวลาที่พวกเราใช้ชีวิตร่วมกันมา มีทั้งกระทบกระทั่ง บังคับ ดุ ด่า ทั้งหมดก็เพื่อวันนี้ ผมดีใจมากที่ได้เห็นนายทหารหญิงทุกท่าน แต่งเครื่องแบบอันทรงเกียรตินี้ ขอแสดงความเคารพ”
“ชุงซอง! ” เสียงของเขาบาดใจ เห็นเขายกมือทำความเคารพแล้วรู้สึกใจหายวาบน้ำตาซึม ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเกลียดเขามากกว่าใคร วันสุดท้ายกลับต้องเสียน้ำตาให้กับเขา เพื่อน ๆ เริ่มเช็ดน้ำตา สะอื้น
“จากนี้ไป สหายจงนำความรู้ ไปถ่ายทอดให้กับรุ่นน้องที่กำลังเข้ามาร่วมงานกับกองทัพของเรา จงเป็นขวัญและกำลังใจให้กับรุ่นน้อง ผมคาดหวังว่า ทุกท่านจะทำได้ดี”
“เย่! ฉันจะถวายชีวิตทำงานเลยค่ะ” 81หัวหน้าทีมพูดทั้งน้ำตา
“ฉันมาเยี่ยมบ่อย ๆ ได้ไหมคะ” 87 มือสั่นระริกน้ำตาไหลพราก
“ได้สิ! ผมอยู่ที่ค่ายนี่แหละ ผมยังคงเป็นครูฝึกของทุกคน”
ฉันก้าวเดินออกจากแถว ยืดอกมองหน้าเขา...
“นินจาซอนเซงนีม! ฉันขอโทษกับทุกอย่างที่ผ่านมา พวกเราได้เห็นความตั้งใจ ความเอาใจใส่ การปิดทองหลังพระ ฉันขอโทษและขอบคุณจากใจ ขอกอดนะคะ?” ฉันเดินเข้าไป
“หือ!” เขาถอยหลังสองก้าว
“อย่าขยับ!” ฉันสวมกอดคนที่เคยเกลียดที่สุดอย่างอบอุ่นใจ เมื่อปล่อยทิฐิออกไปหัวใจก็โล่งสบาย
“หือ! ซาจังนีม” สาว ๆ ร้องหน้าเหรอหรา 87 ขยับเข้ามา...
“ทำอย่างนี้ก็ได้เหรอ? กอดได้เหรอ?”
“ฉันกอดด้วย ฉันด้วยสิ ฮือฮือ!” สาว ๆ ร้องไห้โฮเข้าสวมกอด เขายืนตัวตรงนิ่งให้พวกเรากอด
“กอดพวกเราด้วยสิคะ พวกเราไม่ถือตัวหรอก ครูฝึกก็เหมือนกับโอ้ปป้า” เสียงใครบางคนบอก เขาโอบลูบหลังทุกคนเบา ๆ
“ความเหน็ดเหนื่อยที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นเมื่อคุณทำงาน รักษาสุขภาพดี ๆ ด้วยนะครับ เหนื่อยมากก็พักผ่อน อย่าหักโหม”
เวลาที่ผ่านมาได้สร้างความผูกพันให้กับพวกเรา รวมถึงครูฝึกที่ต้องเหน็ดเหนื่อย ถ่ายทอดความรู้มาให้ ฉันได้ความรู้มากมายจากครูฝึกทั้งสามคน รู้สึกใจหายที่ต่อจากนี้ วันเวลาเหล่านั้นจะกลายเป็นอดีต
“พอแล้วครับ” เขาเอ่ยอย่างสุภาพแล้วถอยหลังยืนตรง เป็นสุภาพบุรุษจริง ๆ
จองโบมี หัวหน้าทีมยืดอก...
“นายทหารหญิง!” เธอเงยหน้าน้ำตานองมองครูฝึก
“เย่!!” พวกเราสะอึกสะอื้นไม่ต่างกัน
“ทำความเคารพ ลาสหายครูฝึก” เธอกล่าวนำทั้งน้ำตา
“ชุงซอง!! นินจาซอนเซงนีม” น้ำหูน้ำตาไหลพราก บรรยากาศเต็มไปด้วยความอาลัย
“ขอบคุณที่สั่งสอนพวกเรา”
“ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อยกับพวกเรา”
“เอามือลง” หัวหน้าทีมปาดน้ำตา
เขาเดินเข้ามาหาหัวหน้าทีม...
“จองโบมี คุณทำได้ดีมาก เรายังอยู่กันอีก 1 คืน พวกคุณไปพักผ่อนก่อน”
พวกเราเดินคอตก ฉันเหลียวหลังกลับไปมอง เขายังคงยกมือทำความเคารพพวกเรา
“ลาก่อน สหายครูฝึก” เสียงเศร้าสร้อย ปนสะอื้นของใครบางคน
....................................................
งานเลี้ยงอำลาจัดกันในสนามฝึกไฟแสงสีวิบวับ ทหารชายขึ้นเวทีร้องเพลงปลุกใจ ด้านล่างยืนตรงเป็นระเบียบปรบมือกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยความเคยชิน
“ท้องฟ้ากระจ่างใสไร้เมฆา ขอให้เราเป็นดวงจันทร์ส่องสว่าง เที่ยงแท้มั่นคงเป็นหนึ่งเดียว ดินแดนที่สะพรั่งด้วยดอกมูกุงฮวา ทิวเขาสูงสามพันลี้และแม่น้ำแทดงไหลเย็น ผองประชาจะปกป้องแดนเกาหลี ต้องอยู่ชั่วนิรันดร์ ท่านผู้นำสูงสุดจงเจริญ”
“ ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!” จูยอนหัวเราะจนน้ำตาไหล พวกเราหันมองพร้อมกันอย่างสงสัย
“คุณหัวเราะอะไร?” เจ็ทโด้หันไปถาม
“พวกเขาโดนบังคับร้องเพลงสรรเสริญผู้นำซะจนเคยตัว ด้วยความเคยชินร้องไปได้ไม่กี่เพลงก็จะกลับไปร้องเพลงสรรเสริญท่านผู้นำเหมือนเดิม มันเหมือนแผลเป็นในใจของทุกคนที่ยากจะลบเลือน”
“อ๋า!” ฉันอมยิ้ม มันถูกบันทึกไว้ที่สมองส่วนลึกที่เรียกว่า ฮิปโปแคมปัส /ความเจ็บปวดที่ไม่มีวันลืมเลือน/
“ฉันต้องหาเพลง K-POP มาให้พวกเขาร้องแล้ว ไม่อย่างนั้นทหารของเรา ไม่ลืมท่านผู้นำแน่ ๆ ” เธอหัวเราะส่ายหัว
“นาตาลีกินนี่สิ! มักกอลลี สุดยอด” จูยอนยกชามใส่เหล้าต้มพื้นบ้านส่งมาให้
“อั่ก! อั่ก! อั่ก!” ฉันยกทีเดียวหมดชาม วันนี้สุขใจเมาสักหน่อยเหล้านี่อร่อยดี
“กินกับปลาแห้งสิครับ เข้ากันมาก” สหายโกนั่งลงข้าง ๆ ยื่นปลาหน้าตาแปลก ๆ ส่งมาให้...
“กุ้งหอยเยอะแยะ สหายคุณลุงจัดพิเศษสำหรับนายทหารรุ่นแรก แกสั่งว่าไม่อ้วก ไม่ต้องเลิก”
“นินจาซอนเซงนีม ไปไหนครับ?” สหายโกเอียงหน้ามาถาม
“โน่นไง! ใต้ต้นไม้น่ะ” ฉันชี้ไปขอบสนาม เขานั่งเงียบคนเดียว
“นาตาลี ไปตามมาสิ!” เจ็ทโด้หันมาสั่ง
“ไปกันครับ” สหายโกลุกดึงมือให้ฉันยืน
“สหายผู้บัญชาการ ไปไหนคะ?” 87 ค้ำไม้เท้าเข้ามากอดเอว
“จะไปหา นินจาซอนเซงนีม”
“ไปด้วยสิ!” เธอจับมือฉันแกว่งยิ้มร่า ท่าทางจะเมาแล้ว เสียงยานเชียว
“ขอบคุณนะคะ สำหรับครีมลอกคราบ ฉันต้องสวยแน่ ๆ เพราะฉันเคยสวย” เธอตาปรือกลิ่นโซจูหึ่ง เดินเซยิ้มกว้าง แล้วตะโกนลั่น...
“ฉันชอบ นินจาซอนเซงนีม” สาวเกาหลีเหนือกล้าพูด กล้าแสดงออก ฉันสังเกตตั้งแต่จูยอนแล้ว ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ ไม่อ้อมค้อมเหมือนคนฝั่งใต้
เราเดินลัดสนามมาหาสหายครูฝึก เขามักปลีกตัวอยู่คนเดียวเงียบ ๆ นอกจากฉันแล้ว เขาไม่เคยล้อเล่นกับใครเลย
87 หันมายิ้มหวานกับสหายโก…
“สหายเป็นแฟนกับสหายผู้บัญชาการเหรอคะ? น่าอิจฉานะเนี่ย ตัวติดกันตลอดเลย” เธอหันมาโยกไหล่กระแทก
“เอ่อ! ผมไม่ปฏิเสธหรอกครับ ลองถามสหายผู้บัญชาการสิ”
“ใช่มะ! สหายผู้บัญชาการ” เธอหันมาเผาซึ่งหน้า บ้า! อายนะ
“ตอนนี้ยังไม่ใช่ค่ะ!” ใครจะตอบได้ อายจัง
“ต่อไปล่ะ” บ้าบ้าบ้า!
“ไม่รุ ถามอะไรเนี่ย? เขินนะ” ฉันใจเต้นตุบตับ
“เซม! ทำไมมานั่งตรงนี้คนเดียวคะ” 87 แถเข้าหา
“ผมชอบเงียบ ๆ ครับ”
“นี่เซม! รู้รึป่าว สองคนนี้เป็นแฟนกัน?” งานดีซะด้วยนะ87 นึกอยากจะพูดก็พูด
“พอจะรู้ครับ ” เขาคงเห็นฉันไปด้วยกันบ่อย ๆ
“นินจาซอนเซงนีม มีแฟนหรือยังคะ?”
“ยังครับ ใครจะมาชอบคนอย่างผม ไม่มีใครชอบปีศาจหรอก ใครเห็นก็กลัวเดินหนีกันหมด” น้ำเสียงเศร้าจับใจ
“ฉันก็ไม่ต่างจากครูฝึกหรอกค่ะ เรามาคบกันมั้ย?” 87 ไม่มีสลด
“ฮ๊า!” ฉันกับสหายโกตาเหลือก ตั้งตัวไม่ทัน /สาวสายรุก/
“คุณไม่สงสารเด็กเหรอครับ หึหึหึ?” เขาตอบขำ ๆ
“สงสารทำไมคะ เซม?” ฉันยื่นหน้าถาม
“ลูกออกมาใครจะกล้าอุ้ม”
“.............” ตลกร้าย ใครจะกล้าหัวเราะ เราเงียบกันหมด
“อีกไม่นาน เยวอนก็สวยแล้ว เชื่อฉันนะ คบเลย!” ฉันยุส่ง
“ไม่ต้องมีลูกก็ได้ อยู่เป็นเพื่อนกัน ดูแลกันยามเจ็บป่วย ฉันจะซักเสื้อผ้า หาอาหารให้” เธอบิดตัวแหงนหน้ามอง
“ขอบคุณมากนะเยวอน ถ้าผมปฏิเสธ คุณจะเสียใจมั้ย?”
“เสียใจสิ!” เธอกอดแขน
“แล้วคุณจะปฏิเสธทำไมล่ะ?” ฉันแหงนหน้ามอง มีคนชอบก็ดีแล้ว ยังจะเล่นตัวอีก
“คุณต้องการแบบนั้นเหรอ?” เขาหันมาเหมือนโกรธ
อ๋าว! มาเกี่ยวอะไรกับฉันเนี่ย?...
“ใช่! สหายจะได้มีเพื่อน อีกหน่อยจูยอนก็ไปอยู่กับเจ็ทโด้แล้ว คุณยังจะตามไปเกะกะเขาเหรอ? คุณต้องมีชีวิตของตัวเองสิคะ”
“คุณแต่งงานก่อนสิ ผมจะตัดสินใจทีหลัง”
มาเกี่ยวอะไรกับฉันวะ?
“ตกลงนะคะ เป็นแฟนกันนะ” 87 เมาเดินเซเข้าใกล้
“87ไปหาเจ็ทโด้เซมกัน ไปสนุกกับเพื่อน ๆ ดีกว่า” เขาไม่ตอบ เดินผละจากไป 87 วิ่งขาเดี้ยงตาม
“เซม! ไม่ต้องมีลูกหรอก เราเลี้ยงแมวก็ได้” เธอคว้าแขนคลอเคลีย
“นินจาเซมเป็นคนใจดีนะครับ เป็นเพื่อนที่ดี เป็นครูที่ดุ เขาสอนให้ใช้อาวุธและกำชับให้ผมดูแลสหายให้ดี เขาบอกด้วยว่า สหายชอบอะไร ไม่ชอบอะไร?” สหายโกหันมายิ้มปลื้ม
ฉันเริ่มจะไม่เข้าใจ แล้วจะมาฝากฝังกันทำไม?...
“ฉันไม่ชอบอะไร?” อยากรู้ว่า เขาจะรู้จักฉันแค่ไหนเชียว
“สหายไม่ชอบถูกบังคับ ถ้าโดนบังคับจะหนี” อื้อ...อันนี้จริง
“แล้วฉันชอบอะไร?”
“เอ่อ!..ขอไม่ตอบนะครับ ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน”
อ้าว...พูดขนาดนี้แล้วมาหยุด ท้องผูกตายห่า...
“บอกมา ฉันไม่โกรธหรอกค่ะ”
“เขาบอกว่า สหายบ้ายอ ชอบให้คนอื่นชม แต่ผมไม่เชื่อนะครับ”
“หือ!” ฉันมองตามหลังนินจา ไอ้นี่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง? /สงสัยเจ็ทโด้บอก/
“สหายผู้บัญชาการเคยมีแฟนมั้ยครับ?” จู่ ๆ มาถามอะไรเนี่ย?
ฉันใจหายแวบ สหายโกกวนน้ำให้ขุ่นซะแล้ว ยิ่งเมา ๆ อยู่ด้วยเดี๋ยวร้องไห้ตายเลย
“ไม่คุยเรื่องนี้นะคะ ไปดีกว่า” ฉันวิ่งหนีเข้ากลุ่ม
สาว ๆ ห้อมล้อมจูยอน หนุ่ม ๆ ห้อมล้อมเจ็ทโด้ มีแต่เสียงหัวเราะ เสียงคุยกันสนุกสนาน ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าแค่การประกาศขออาสาสมัครมาช่วยงาน คนจะมากันมากมาย
เจ็ทโด้ยื่นชามเหล้ามาให้…
“นาตาลี ทำให้นินจากินเหล้าให้ได้สิ มันไม่เคยแตะเหล้าเลย”
ฉันยื่นมือรับ แต่เขาปราดเข้ามาดึงชามเหล้า...
“ไม่ต้อง ผมกินเอง!” แล้วยกซด อั่ก!อั่ก!อั่ก!
“เฮ้ย! เอาจริงดิ? ดีใจอะไรมา มึงไม่เคยแตะเลยนี่หว่า”
“โกรธฉันเหรอ? ที่ให้ไปคบกับเยวอน” ฉันกระเซ้า ทั้งจูยอนและเจ็ทโด้หันขวับมาจ้องหน้า ทำไมต้องทำท่าทางให้สงสัยตลอดเลยวะ?
ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไร ไม่มีใครอ่านใจของเขาออก เขายกเหล้ากินต่อเนื่องแล้วลุกยืน
“เดี๋ยวผมไปเปิดเพลง K-pop มันส์ ๆ ให้ฟังดีกว่า จะได้ไปเต้นกันสนุก ๆ ปล่อยให้ไอ้พวกนั้นร้องเพลง เดี๋ยวต้องยืนตรงกันอีก”
“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”
“เอาสิ! ฉันจะไปด้วย ฉันชอบเต้น” จูยอนยกมือ /เมาแอ๋เลยพี่สาวของฉัน/
“ฉันก็ชอบเต้น มูนวอร์คได้ด้วยนะ” ฉันเสนอหน้าวิ่งตาม
ฉันยังคงคิดถึงไป่ไป๋อยู่ลึก ๆ ป่านนี้คงมีความสุขกับคนรัก คิดแล้วก็ปวดใจ แต่คนที่ฉันคิดถึงที่สุดคือน้องแทน คิดถึงดวงตาใสปากจิ้มลิ้มคอยถามนู่นนี่ เจ้าตัวน้อยของฉัน...คิดถึงจังเลย
................................................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |