The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 ตอนที่ 2

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 ตอนที่ 2
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 5 พ.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


พยองยาง
มุมมองสายตา นาตาลี พัค
ตุลาคม ค.ศ.2025
บ้านบนเกาะคอนยู...  

“จิ๊บจิ๊บ!จิ๊บจิ๊บ!” นกน้อยร้องข้างกระจกหน้าต่าง ปลุกให้ตื่นจากหลับใหล แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดเข้ามาทางระเบียงห้องนอน

“อื๊อ...อออ!! ลุกบิดขี้เกียจสลัดหัวไล่ความง่วงติดพันให้ออกไป เดินออกไปยืนเกาะรั้วระเบียงทอดสายตามองยอดเขาขาวโพลนไกลสุดตา ในใจยังคงคิดหาทางกลับรัฐฉาน สายลมเย็นปะทะใบหน้าเส้นผมปลิวสะบัด แม่น้ำแทดงกว้างใหญ่ไหลคดเคี้ยวสะท้อนแสงแดดระยับไหลผ่านสวนไม้ผลหลังบ้าน

พื้นที่รอบตัวบ้านสะพรั่งไปด้วยดอกไม้กลีบขาวกลิ่นหอม บรรยากาศยามเช้าแสนสดใสแต่ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว รอครูฝึกนินจาหายก่อนจะได้กลับสักที ใจหนึ่งก็อยากกลับไปหาน้องแทน อีกใจที่ลึก ๆ ซ่อนไว้อยากกลับไปแอบมองไป่ไป๋ อยากเห็นหน้าสักครั้ง คิดถึงมาก  

“ก๊อกแก๊ก! เสียงดังจากข้างล่างเรียกความสนใจ ฉันคิดในใจว่าคงเป็นจูยอน รีบวิ่งลงบันไดไปหา...                      

“อนนี่! อนนี่! ตะโกนเรียกตั้งแต่ชั้นบนลงไป

“..............” ห้องโถงด้านล่างว่าง เงียบสนิท ไม่เห็นมีใครสักคน ชะเง้อมองโซฟาห้องรับแขกหน้าบ้านก็ไร้เงาคน ผ้าม่านประตูกระจกบานใหญ่หน้าบ้านปิดสนิท

“จุ๊กกรู้! จุ๊กกรู้! เสียงนกร้องขับขานแว่วเข้ามา 

พวกเขาไปไหนกันแต่เช้ามืด ทำไมไม่เรียกให้ฉันไปด้วย เริ่มหงุดหงิดอีกแล้ว...เดินเข้าไปหาอะไรกินในครัวก็แล้วกันเดี๋ยวค่อยโทรหา

พอก้าวเข้าครัวต้องตกใจสุดขีด...

“เฮ้ย! รู้สึกเหมือนเหยียบไปที่ร่างคนเต็มตีน เขานอนฟุบอยู่หน้าตู้เย็นมีผ้าพันรอบตัวเป็นมัมมี่ นุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียว ครูฝึกนินจานี่เอง
        “นินจาเซม
! ได้ยินที่ฉันเรียกไหม?” เข้าไปประคองหัวของเขา ผ้าพันแผลปิดครึ่งลำตัว ท่อนบนเหลือเพียงปากและลูกตา ร่างกายเขาร้อนมาก คงไข้ขึ้นจากผลข้างเคียงของครีม                

“น้ำ ขอน้ำกินหน่อย...” เขาหมดสติไปอีกครั้ง

ฉันจะทำยังไงยืนหมุนตัว เอาไปนอนในห้องก่อนดีกว่า ปล้ำอยู่พักใหญ่กว่าจะลากขามาในห้อง โชคดีที่ห้องนอนของเขาอยู่ชั้นล่างข้าง ๆ ห้องครัว แต่จะเอาขึ้นเตียงอย่างไรนี่สิปัญหา ตัวก็ใหญ่หนักอีกต่างหาก          

ในขณะที่คิดหาวิธีก็หันไปมองเขาด้วยความรู้สึกสงสาร สายตาเหลือบไปเห็นล็อกเกตเงินห้อยคอ...

“หือ! ฉันคุ้น ๆ อันนี้ไป่ไป๋ทำให้แทนนี่นา นึกทบทวนถึงอดีตบอกกับตัวเองว่า ใช่สิ...ใจเริ่มเต้นแรง ในหัวเริ่มสับสนมองเขาอย่างพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำอีก ย่อตัวลงนั่งหยิบล็อกเกตมาพลิกดูไปมา ตัดสินใจเปิดดู...
            “แกร็ก!
            “ฮึ้ย! ใจหายวาบรูปไป่ไป๋จริง ๆ ด้วย ความสับสนกรูเข้ามาในหัว เขาเป็นใครกันแน่ เขาคือแทนตัวจริงหรือเขาเก็บล็อกเกตได้?
           เสียงวิทยุสื่อสารเจ็ทโด้เรียกมา...

“สหายผู้บัญชาการตื่นหรือยัง? เปลี่ยน!

ฉันรีบตอบกลับอย่างร้อนรน.... 
          “เจ็ทโด้คะ! นินจาเซม..นินจาเซมคือแทนจริง ๆ เหรอ? เปลี่ยน!” ฉันหัวใจร้อนลุ่ม ความสับสนสงสัยกรูเข้ามาเหมือนฝูงผึ้งแตกรัง
       “ตื่นแล้วเหรอสหายผู้บัญชาการ? วันนี้ดูแลเจ้านินจาด้วยนะ ผมกับจูยอนจะไปนอกเมืองอีก 2 วันถึงจะกลับ เปลี่ยน!” เขาบอกแค่นั้นแล้วเงียบไป จะไปไหนก็ไม่บอกล่วงหน้า
            “เจ็ทโด้! เจ็ทโด้! เรียกอีกก็ไม่ตอบ เขาบอกไป 2 วันทีไร หายไปเป็นเดือนทุกที จูยอนจะขยันไปถึงไหนกัน
         ฉันทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟายาว เรียงลำดับความคิด ฉัน ไป่ไป๋ หมวดจาง จูยอน ผู้หญิง 4 คนที่รู้จักแทน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาเหมือนแทน เขาบอกว่าเรียนจบกฎหมายก็เหมือนแทน เขาขับรถเร็วก็เหมือนแทน ท่าทางเวลาพูดเวลาคิดเกาคางนี่...ใช่เลย                  

“อือ! อืม! เขากระสับกระส่าย ฉันรีบคว้าหมอนบนที่นอนมาหนุนหัวให้ ไม่มีปัญญาอุ้มขึ้นเตียงให้หรอกหนักมาก ก้มหน้าลงไปหา...

“เซม! ได้ยินไหม?”

“อือ! อืม! เขาพลิกตัวหันหน้าไปมาเหงื่อเม็ดเป้งเต็มใบหน้า ถ้าเขาเป็นแทนจริง ๆ ทำไมไม่เปิดเผยตัวตนตั้งแต่แรก นั่งคิดสับสนไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนหลอก จูยอนนิสัยไม่เหมือนหมวดจาง เธอไม่เล่นเป็นเด็กอย่างหมวดจางแน่ เธอกอดนินจาเซมแน่นกว่ากอดเจ็ทโด้ซะอีก

เดินครุ่นคิดวนไปวนมารอบห้องเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เขาก็ยังนอนนิ่งเรียกไม่กระดิกตัวมันเป็นผลข้างเคียงของครีม หัวใจของฉันลุ่มร้อนอยากให้เขารู้สึกตัว อยากถาม อยากคุย                 

เหลือบมองนาฬิกาข้างฝา ได้เวลาเช็ดตัวไล่ความร้อนแล้ว แกะผ้าพันแผลรอบตัวของเขาออก ช้า ๆ ค่อย ๆ ลอกชั้นผิวหนังกำพร้าหนาออกจนถึงผิวหนังชั้นในแดงก่ำ แผลเป็นที่ยับเยินบนใบหน้าแดงจนน่ากลัว สยดสยองกว่าเดิม

จู่จู่...           

"คุณสัญญากับผมแล้วว่าจะไม่ทิ้งนาตาลี คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง?” เขาเพ้อไข้..นี่ใช่แทนจริงด้วย หัวใจของฉันสลายยิ่งกว่าไป่ไป๋หนีไปแต่งงานอีก เขาต้องอยู่อย่างทรมานมาทั้งชีวิต

“ฮือฮือ! แทนเจ็บมากมั้ย ขอโทษนะคะฉันจำคุณไม่ได้เลย” ฉันสับสนทั้งดีใจและเสียใจ ขอบคุณมากที่อดทนจนถึงวันนี้

“แทน! คุณต้องทรมานตัวเองขนาดนี้เชียวเหรอ? คุณไม่เชื่อใจฉันเลยเหรอ? ฉันไม่มีวันทิ้งคุณไม่ว่าคุณจะเป็นยังไงฉันจะอยู่กับคุณ?” ความรู้สึกน้อยใจ เสียใจ ตกใจ ระคนกัน                    

“จูยอน! อย่าบอกนาตาลีนะครับ ให้พวกเธอจดจำผมไว้ว่า ผมตายไปแล้วดีกว่า ”

“ฮือ!ฮือ!ใครทำคุณให้เป็นแบบนี้ ทำไมโชคร้ายแบบนี้? ฮือ!ฮือ!น้ำตาของฉันไหลพราก ค่อย ๆ ซับผ้าไปตามแผลเป็นบนใบหน้าของเขาอย่างทะนุถนอม ลูบผ้าชุบน้ำไปตามลำตัวและมาสะดุดที่กางเกงขาสั้น

“เฮ้อ!...” ฉันถอนหายใจยาวตัดสินใจเด็ดขาดเป็นไงเป็นกันจะต้องพิสูจน์ความจริงให้ได้ เศร้าก็เศร้าทำใจไม่ถูกเลย แต่มีความเป็นไปได้สูงว่านี่คือแทนของฉัน          

“อึ้บ!!ๆๆ” ออกแรงดึงกางเกงขาสั้นออก เป็นไงเป็นกันวะ!

เหลืออีกอย่างที่จะพิสูจน์ตัวตนของเขา คิดเรื่องนี้ทีไรก็อายหน้าร้อนผ่าวทุกครั้ง คนอื่นจะเป็นอย่างฉันบ้างไหมนะจำอะไรไม่จำเสือกจำไอ้โตโน่ได้ซะงั้น ตัดสินใจดึงกางเกงลง

“พรึบ!”         

“เฮ้ย...” รู้สึกผิดหวังอย่างแรง ความหวังล้นใจถูกกระชากออกไป หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้จ๊ะเอ๋ กับเจ้างางอน

แต่..ทำไมมันมีแต่หนอนน้อยชาเขียว นอนขดตัวงอสลบเหมือด ไม่ลุกขึ้นมาทักทาย เซย์ฮัลโหลเหมือนแต่ก่อน มันไม่งอนเหมือนเดิม ขนผิดระเบียบที่หน้าท้องเริ่มคุ้น ๆ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเช็ดตัวต่อไป ขาก็ยาวเท้าก็ใหญ่ เช็ดถูทำความสะอาดไปเรื่อย                      

สุดท้ายก็ต้องวนกลับมาทำความสะอาดที่เจ้าโตโน่อยู่ดี เริ่มสองจิตสองใจระหว่างใช่กับไม่ใช่ ตบหัวบอกกับตัวเองเช็ด ๆ มันไป อย่าคิดมาก ถ้าไม่ใช่แทนก็ถือว่าเป็นการขอบคุณครูฝึกไป

“ฮึบ!หันหน้าหนีไปทางประตูห้อง เอื้อมมือสองข้างก็จับหนอนน้อยพลิกไปพลิกมา

“หือ!!”  จู่ ๆ...เริ่มมีความรู้สึกตึงมือ

“ห่ะ! เจ้าหนอนน้อยพองตัว มันค่อย ๆ บวมขึ้น หันกลับไปมอง แท่งเอ็นแข็งโค้งงอน เส้นเลือดปูดโปนพันกัน ความหวังบรรเจิด

“อ๊ะ!พลันสายตาเห็นรูปหัวใจของเส้นเลือดที่พันกัน ใช่จริง ๆ ด้วย

“แทนจริง ๆ ด้วย แทนยังไม่ตาย!!! ดีใจน้ำตาไหลพราก มือยังกำแน่นไม่ยอมปล่อย            

สิ่งแรกที่แว่บเข้ามาในหัวเมื่อจำเขาได้ ฉันจะกลับไปคืนตำแหน่งดอกเตอร์โปรเฟสเซอร์ ฉันมันโง่ เซ่อ บ้า ปัญญาอ่อนตัวจริงเสียงจริง น่าอับอายที่จำดวงตาคนรักไม่ได้ จำเสียงเดินของคนรักไม่ได้ เสือกจำหำของเขาได้ ใครมันจะน่าเกลียดเท่านี้ คงไม่มีอีกแล้ว             

เรื่องนี้บอกใครไม่ได้ โดนล้อกันยันวันเข้าโลงเลยทีเดียว นั่งเฝ้ารอด้วยใจพองสุขใจ อยากพูดด้วย มีเรื่องเล่าให้ฟังเยอะแยะ อยากคุย อยากรู้เรื่องราว หายไปไหนมา? เกิดอะไรขึ้น?

นั่งรออย่างเปี่ยมสุข จนเขาขยับตัวเมื่อเวลาผ่านไปถึง 5 โมงเย็น ฉันผวาเข้าหา...             

“แทน! แทน! คุณไม่ต้องปกปิดตัวเองแล้วนะ ฉันจะยืนเคียงข้างคุณเอง ฉันจะไม่ทิ้งคุณ”

เขาค่อย ๆ ลืมตา...

“ซาจังนีม!แทนของฉันกลับมาแล้ว

“นินจาซอนเซงนีม! ยิ้มทั้งน้ำตาก้มลงไปกอดความรักครั้งแรกของฉัน ความอบอุ่นเดิม ๆ เริ่มคุ้นเคย ความมั่นใจในตัวเองกลับมาอีกครั้งความกลัวหายไปสิ้น             

หัวใจเบิกบานโบยบินจิตใจพองฟูลืมทุกปัญหา ความทุกข์ใจมลายหายวับจดจ่ออยู่กับผู้ชายตรงหน้า รักครั้งแรกของฉันกลับมาอยู่ตรงหน้าแล้ว เขากลับมาพร้อมกับฤดูใบไม้ร่วงเหมือนตอนที่เราเจอกันครั้งแรกในจีน

“แทนกลับมาแล้ว แทนอยู่กับฉันแล้ว ฮือฮือ!

“ไม่คิดว่าจะมีวันนี้” เขาน้ำตาไหลอาบแก้ม

“ฮือฮือ! ฉันมันโง่เอง” ปลาบปลื้มใจ น้ำตาแตก มันเป็นน้ำตาของความดีใจ มันเป็นน้ำตาของความสมหวัง...              

“ขอโทษนะคะ ฉันมันแย่อย่างนี้นี่เอง สมควรแล้วที่โดนไป่ไป๋ทิ้ง ฉันไม่โกรธเธอแล้ว ฉันไม่ดีเอง” ฉันก้มลงไปจูบเบา ๆ ที่ปากยับเยิน แผลเป็นเหล่านี้ที่เคยสยอง ความน่ากลัวที่เคยขวัญผวาหายไปจากใจสิ้น 

“คุณไม่ผิดหรอกครับนาตาลี คุณไม่เคยทำอะไรผิดเลย ผมผิดเอง”เขาพูดเสียงแหบพร่า

ฉันรีบยกน้ำให้ดื่ม...             

“คุณนั่งตรง ๆ นะ ฉันขอจ้องหน้าคุณหน่อย” ฉันตั้งใจมองในสิ่งที่กลัว ใบหน้าเละแดงก่ำเส้นเอ็นแข็งยึดหน้าปูดบวม แผลเป็นบนหัวไฟไหม้กินลามไปถึงรากผมและลำตัวหนาปูดด้วยคีรอยส์ ฉันมองเพื่อให้ภาพมันฝังในความทรงจำจะได้ไม่รังเกียจรอยแผลนี้อีก ลูบไล้อย่างทะนุถนอมไปตามบาดแผล

สหายครูฝึกนินจาของฉันจะเป็นปีศาจหรืออสุรกายฉันไม่สนใจแล้ว ขอแค่มีลมหายใจได้อยู่ด้วยกันก็สุขใจแล้ว ฉันจะดูแลคุณเอง
          “คุณกินข้าวก่อน ฉันทำเองเลยนะ” ฉันนั่งเหยียดขาพิงโซฟายาวให้เขาแทรกเข้ามา ศีรษะไร้เส้นผมพิงหน้าอกแล้วป้อนโจ๊กให้เขา
        “หม่ำหม่ำ! มันสุขใจยิ้มได้ตลอดเวลา ป้อนโจ๊กไปหอมแก้มไปอะไรจะสุขไปกว่านี้ เหมือนเด็กน้อยได้เจอของเล่นแสนรักที่หายไปกลับคืนมา เหมือนสัตว์เลี้ยงดีใจเวลาเจ้านายกลับบ้าน
        “ขอดูหน่อยนะคะ” สร้อยคอเงินห้อยแกว่งไกวเอื้อมมือไปแกะฝาออกจากกัน รูปสาวน้อยไป่ไป๋ในวัย 20 ในสมัยที่ยังไว้ผมสั้นสวยสดใสกับรอยยิ้มหวานแสบอกที่หลอกทุกคนให้รัก
           “เอ่อ..ทำไมไม่ทิ้งไปล่ะคะ?” ใจหายที่ต้องถามคำถามนี้ ฉันยังคงรักเธอเหมือนเดิม             

“เธอให้ผมไว้สักวันผมจะเอาไปคืน ต้องมีสักวันที่ได้เจอกันอีก”เขากัดกรามแน่น คงเสียใจไม่น้อยกว่าฉัน             

“คุณยังรักไป่ไป๋ไหมคะ?” ฉันไม่ติดใจ เขาถอนหายใจก่อนพยักหน้าเบา ๆ 

“คุณจะตบเธอนี่นา?”

“เปล่าหรอก! ผมแค่โชว์ไอ้ผู้ชายคนนั้นและขู่ให้เธอหยุด แต่ถ้าวันนั้นคุณบอกให้ผมฆ่าเธอ ผมก็ทำไปแล้ว”

“โชคดีจังเลยที่ฉันไม่ตัดสินใจแบบนั้น”

“ผมรู้ว่าคุณจะไม่ตัดสินใจแบบนั้นอยู่แล้ว” ถ้าไม่รักเขาจะเก็บรูปถ่ายของคนทรยศไว้ทำไม? ฉันก็รักเธอเหมือนกันแต่ตอนนี้เริ่มตื่นเต้นกับเขามากกว่าแล้ว เมื่อมีความหวังต้องหาทางเดินใหม่                     

“แทนอดทนหน่อยนะเดี๋ยวก็กลับมาหล่อเหมือนเดิม คราวนี้หน้าเด็กกว่าฉันแน่ ๆ เลย เรากลับไปเย้ยไป่ไป๋กับแฟนใหม่ให้อึ้งไปเลย หึหึหึ!” ฉันกระเซ้าใบหน้าก็เละ ปากก็เยิน หัวก็แหว่งเหมือนชัคกี้ตุ๊กตาผีเลย..น่ารักเชียวของรักของข้า โฮะ!โฮะ!โฮะ!           

“คิดถึง!” เขาบอกแล้วยกซดโจ๊กหมดถ้วย

ฉันลืมเขาไปตามกาลเวลาบ้างแล้ว เพราะปักใจคิดว่าเขาตายไปแล้วและเวลาก็ผ่านมาตั้ง 5 ปี คนเราเมื่อได้เห็นจุบจบก็ต้องตัดใจ ที่น่าเจ็บใจกว่านั้นก็คือ...อีตาบ้าเจ็ทโด้หลอกให้ฉันไปเคารพศพใครวะ? กลับมาเมื่อไหร่จะเฉ่งให้หูชาเลย คอยดูสิ!              

“คุณยังอยากกลับรัฐฉานอยู่หรือเปล่า? ผมจะไปส่ง”

สมองของฉันถูกรีเซตใหม่แล้ว ส่ายหน้าคอแทบหัก...             

“โน๊โน!จะอยู่กับคุณ ฉันจะดูแลคุณเอง ฉันไม่รู้จักใครที่รัฐฉาน” กอดแน่นมากฉันจะทิ้งทุกคน ตามเขาไปทุกที่เลยอยู่ข้าง ๆ เขาแล้วสบายใจ อยากฟังเวลาร้องเพลง อยากทำอะไรร่วมกันอีกหลายอย่าง ยังไม่ได้ ยังไม่โดนเลย

“คุณอยู่ที่ไหนฉันจะไปด้วย เลี้ยงด้วยนะ ฉันตกงานแล้ว” ก้มลงเอาใบหน้าแนบกัน รอยแผลเป็นขรุขระเหมือนศิลปินป้ายสีน้ำมันย่น ๆ ยืด ๆ ไม่เป็นที่อุจาดตาอีกแล้ว มันเป็นศิลปะชั้นสูง เป็นปัจเจกที่จิตรกรทำซ้ำไม่ได้

เขาขยับหมุนตัวหันหน้ามาหา...                      

“อยู่ด้วยกันตลอดชีวิตเลยนะครับ ผมรักคุณ นาตาลีผมยังรักคุณเหมือนเดิม”

“ฉันก็รักคุณค่ะ ฉันจะเป็นภรรยาของคุณไปตลอดชีวิต” ฉันก้มลงไปจูบริมฝีปากเบา ๆ ถึงเวลาที่รอคอยลิ้นน้อยเลาะไต่ริมฝีปากยับยู่ยี่ เขาเปิดปากรับสอดลิ้นหนานุ่มเข้ามาเต็มปาก อบอุ่นใจซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก

“พรุ่งนี้บอกเลิกไม่ได้นะครับ ไม่เอาอย่างคราวก่อนนะ”

“บ้า!” อายจัง

ก้มลงประกบปากจูบต่ออย่าขาดตอน อัพเดทความรักกันใหม่อีกครั้ง เราไม่ใช่เด็กกันอีกแล้ว มันเป็นความลงตัวของความบังเอิญ ความซวย ความรัก ความใคร่ถูกที่ถูกเวลา หลับตาจูบเขาอย่างหื่นกระหาย โหยหาดุเดือดจัดเต็ม อารมณ์รุนแรงดั่งพายุทอนาโดทุก ๆ ลูกหลอมรวมกัน          ใบหน้าหมวดจางเพื่อนรักลอยยิ้มกริ่มมา ฉันรอลื่นปรื้ดมานานแล้ว ฉันจะเอาและฉันต้องได้ หัวสมองจินตนาการเตลิดล่องลอยคิดท่าไว้เผด็จศึก

ทันใดนั้น...

“ฟุ่บ! ควันสีขาวพวยพุ่งพร้อมปรากฏหญิงในชุดขาวพร้อมไม้คฑาทิพย์ในมือ มาอีกแล้วเหรอ?..                  

“เป็นสาวเป็นนาง เจอผู้ชายก็จะใส่กันเลยหรือไง? เป็นผู้หญิงรู้จักรักนวลสงวนตัวบ้าง กุลสตรีรู้จักไหมคะ? เรียนก็สูงไม่ช่วยอะไรเลยหรือไง?” นางฟ้าชุดขาวมาเตือนสติฉันอีกแล้ว พูดจบนางก็หายไปพร้อมกับควันสีหายจางหายไป

ฟุ่บ! ควันดำพวยพุ่งสวนมาในทันที นางฟ้าชุดดำยิ้มหวาน
       “โชคดีไม่เคยมาหลายครั้ง โชคร้ายไม่เคยมาครั้งเดียว รอมาตั้ง
5ปี จะรออะไรอีก อายุ 30แล้วนะ ถ้าต้องตายจะได้ไม่ต้องคาใจ ลุยเลย จะวงเล็บกับชีวิตไว้ทำไม?” ควันดำพวยพุ่งแล้วหายวับไปพร้อมกับนาง เลือกง่ายมาก ฉันถอนปากกระซิบ...                  

“ไหวมั้ย?” ไม่ต้องมาเหนียมใส่กันอีกแล้ว หมวดจางสอนไว้ให้เป็นฝ่ายรุก ส่งลิ้นเรียวออกมาให้เขาดูดเข้าปาก

“จู่ ๆ  ถามแบบนี้  ก็แย่สิ!” เสียงประหม่าของเขาน่ารักจัง ทุกอย่างลงตัว ฉันเจอแทนแล้ว ฉันจะเอา ฉันเข้าใจความรักของเขา ความรักที่ทำเพื่อคนอื่นไม่ใช่เพื่อตัวเอง ฉันก็จะทำเพื่อเขาเช่นกัน หมวดจางเคยสอนไว้ว่า ให้เป็นฝ่ายรุกแล้วจะไม่เสียใจ

“เราไม่ต้องเกรงใจกันอีกแล้ว ไม่ต้องสุภาพกับฉัน ดีใจมาก ดีใจจริง ๆ มาบุ่มบุ๋มกันให้หนำใจเลย ฉันเต็มใจ ทำให้หน่อยนะ” ใครจะหาว่าหน้าด้านก็ได้ ชีวิตของฉัน ฉันเป็นคนกำหนด

“เหมือนผมจะหูร้อน ๆ อยู่นะ ยังมีไข้อยู่เลย ปวดกระดูกด้วย”

มือฉันลูบไล้ไปตามแผ่นหลังหยาบกร้านขรุขระด้วยความตื่นเต้น ลิ้นน้อยตวัดเล่นกัน โอบกอดรัดไฟราคะ ฉันพร้อมเต็มที่แล้ว สายตาบอกความหมายที่ซ่อนเร้น รสจูบแสนดูดดื่มอ่อนหวานสลับรุนแรงของฉัน คงบอกความในใจให้เขารับรู้                       

“ขึ้นเตียงดีกว่า” งานนี้ฉันขอเป็นเจ้าภาพเอง ถอดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น เหลือยกทรงลูกไม้สีแดงตัวน้อยที่อุ้มหน้าอกตูมกับกางเกงในลูกไม้ตัวบางจิ๋วในสีเดียวกัน กระโดดลิงโลดขึ้นเตียง ฉันไม่เคยอายเขาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว

“คราวนี้จับได้แล้วนะคะ” ดีใจลนลานดึงมือของเขามาจับหน้าอก ฉันพึ่งรู้ต้วว่าเป็นคนมุ่งมาก เขาอมยิ้มยั้งมือ

“บอกแล้วว่า ไม่ต้องเกรงใจ ทั้งหมดเป็นของคุณ ช่วยเจิมให้หน่อยนะคะ” ฉันจับมือของเขาบีบลงมา มันจี๊ด...

สภาพร่างกายของเราสองคนช่างต่างกันมาก เขาเหมือนปีศาจที่ซาตานส่งมาจากนรก กับนางฟ้าแสนสวยจากสรวงสวรรค์ ร่างกายและใบหน้าที่น่ากลัวกับสาวสวยผิวเนียนขาวร่างเปลือยเปล่ากำลังกอดก่ายร่ายรำตามท่วงทำนองแห่งรัก สะท้อนกระจกบนเพดาน

“เอาเลยเหรอ ผมเป็นไข้นะ?” เขาโยกโย้ 2 รอบแล้วนะ รู้สึกอายหน้าชาเหมือนกัน ไม่เอาก็ไม่เอา ฉันพยักหน้าแล้วนอนหนุนแขน...

“ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก อยากจะ...”

เขายกมือมาแตะริมฝีปาก...                

“อยากจะทำอะไรให้รีบทำ พรุ่งนี้! ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันหัวเราะร่า ถูกใจที่เขาเข้าใจ มั่วต่อดีกว่า...

“คุณต้องทำงานจ่ายค่ายาแล้วล่ะ จ่ายเป็นร่างกายของคุณ ขอจูบนะ” ฉันจะไม่ยอมเสียเวลากับพิธีรีตอง คนหิวข้าวเจออะไรก็กินไปก่อน อย่าเรื่องเยอะ                     

“คุณจะไม่พันผ้าก่อนเหรอ ไม่รังเกียจหน้าตาของผมเหรอ”     

“ช่างมันเถอะ! อย่างนี้เร้าใจดี” ฉันพลิกตัวขึ้นพรมจูบหอมไปตามรอยแผลเป็นที่ยับเยิน สบตากันแล้วยิ้มเป็นคำตอบ อย่าชักช้า โอ้เอ้ เดี๋ยวเกิดอะไรขึ้นมาอีก ฉันก็อดกันพอดี            

 “เกาหลีเหนือไม่มีถุงยางอนามัยนะ” เขายังโยกโย้ไม่เลิก นิสัยเดิม จะเกรงใจทำไมอีก ไม่ต้องสุภาพกับฉันแล้ว                        

“อืม! ถ้าท้องก็ดีสิ อยากมีลูกแล้ว” ฉันอยากจะทำ อย่าเรื่องเยอะ โยกโย้อย่างนี้ แทนที่จะโดนทีเดียว เดี๋ยวโดนสองที

เขาขยับนั่งพิงหัวเตียงยืดขายาว ฉันนอนเอาใบหน้าแนบลอนท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามไร้ไขมัน ขนอุยดำกระจายเต็มหน้าท้องเหมือนพรมรู้สึกนุ่มดี เอื้อมมือไปคลำในกางเกง...            

“ไหนบอกว่าเป็นไข้ แข็งอย่างกับสาก?” ฉันไม่ต้องขี่ม้าบ้าบอกับหมวดจางอีกแล้ว นวดคลึงไปเรื่อย ๆ ยังไม่คุ้นกันสักเท่าไหร่

“เสียวครับ.อูยส์ ” มันยิ่งแข็งขึ้นตามลำดับ

“เสียปี๊ดแรกไปหรือยังคะ? หึหึหึ!” ฉันยังจำได้ที่เขาตั้งกติกาไว้อย่างนั้น บ้าไม่เบาเหมือนกันแหละ            

“อุ๊ย! ทะลึ่งนะคุณเนี่ย? ยังเลย” เขาสะดุ้งแอ่นสะโพก เมื่อโดนจู่โจมเจ้างา

“เสร็จฉันล่ะ โฮ่ะ!โฮ่ะ!โฮ่ะ! ฉันแอบสมน้ำหน้าไป่ไป๋ เขาเป็นของฉันคนเดียวสะใจมาก แต่พ่อคุณเอ๋ย...ทำไมขนหน้าท้องเยอะมากเดี๋ยวต้องกำจัด กลัวมันติดคออีก คราวก่อนขนติดคออายมาก

“นินจาซอนเซงนีม! รับคำสั่ง!

“เย่!

“จงลงมือทำให้ฉันมีความสุข เดี๋ยวนี้! ลื่นปรื้ด! ลื่นปรื้ด!” กำมือแน่นรูดมือขึ้นลงตามสัญชาตญาณ ของแบบนี้มันเป็นไปเอง ไม่ต้องสอน

พอจ้องเจ้างางอนมาก ๆ เหมือนโดนมันสะกดจิตต้องยื่นหน้าไปคลอเคลียกับมันตลอด แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมไม่รู้สึกรังเกียจ

“ทำเป็นแล้วเหรอ?” เขามองมา                       

“หนอย! หนอย!นี่ใคร?...เด็กอัจฉริยะนะคะ” ชิชะ!..มาดูถูกกัน

ฉันลดตัวลงไปที่ปลายเท้า รูดกางเกงลงเจ้างางอนดีดตัวผึงอย่างมีสัมมาคารวะ ผงกหัวให้ด้วย

“ฮัลโหล ฮัลเหล!แหม...น่ารักเชียว ขอกินหน่อยเถอะ พุ่งเข้าหาอย่างหิวกระหาย เส้นเอ็นเส้นเลือดปูดโปนรอบลำอ้วนพันกันอย่างมีศิลป์ ดั่งประติมากร บรรจงปั้นให้ได้ส่วนทั้งรูปร่าง ขนาดและลวดลาย          

“ง่ำ! ๆ ๆ คุณอยู่เฉย ๆ” ใช้ฟันกัดเบา ๆ ไปกลางลำอ้วนล้อเล่นกับเจ้างานงอน สร้างความคุ้นเคย เพราะจากนี้ไป แกจะโดนฉันโขกสับจนโงหัวไม่ขึ้น

“พรุ่งนี้ไปเดินห้างในเมืองกันดีกว่า” เขาพูดกลั้วหัวเราะ ฉันเหลือบตาไปมอง...                      

“ไปทำไมคะ?”  คนกำลังอร่อยจะมาชวนคุยอะไรตอนนี้

“ไปหาแหวนคู่มาใส่กัน ฮ่าฮ่าฮ่า!”       

 “จะไม่ลงทุนเลยใช่มะ? แหวนแต่งงานไปหาเก็บเอาก็ได้เหรอ นี่แน่ะ!..” กลืนกินงางอนเข้าไปเต็มปาก เสียงเขาอู้อี้เบา ๆ เร้าอารมณ์ เอื้อมมือปลดตะขอบรา หน้าอกเด้งได้รับอิสระพร้อมสู้ศึกนี้ งานนี้ไม่จบแค่นี้แน่

                                 ……………………………

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม