The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 ตอนที่ 4

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 ตอนที่ 4
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 14 พ.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


มณฑลเหอเป่ย
มุมมองสายตาไป่ไป๋
ตุลาคม ค.ศ.2025
จัตุรัส เทียนอันเหมิน

        ฉันก้าวเดินบนแผ่นศิลาที่มันเงา ผ่านการเหยียบย่ำมานานนับร้อยปีของลานประวัติศาสตร์ทางการเมือง ลานที่เป็นตัวแทนของชนชั้นล่างในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่เชื่อ แสงแดดเริ่มแรงแยงตาเดินมายืนหลบร่มรอน้องแทนและขนมปังอย่างใจจดจ่อ อยู่ทางปีกขวาหน้ากำแพงประตูอู่เหมินของพระราชวังต้องห้ามสีม่วง พระราชวังที่เป็นตัวประกันให้พรรคคอมมิวนิสต์
  บนกำแพงแดงทางทิศใต้หอประตูเฉียนเหมินติดรูปประธานเหมามองมาที่พื้นลานสุสานของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่เคยออกมาเรียกร้องเสรีภาพ ธงชาติแดงปลิวไสวบนอนุสาวรีย์วีรชนตั้งเด่นที่จุดกึ่งกลางลานกว้างนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินกันขวักไขว่ อาคารหินอ่อนของพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชาติจีนทางด้านขวายิ่งใหญ่อลังการ อาคารมหาศาลาประชาชนเคียงข้างกับหอคอยสูงทางด้านซ้ายยืนประจันหน้ากันคนละฝั่งลานจัตุรัส //อีกไม่นาน ฉันต้องมาทำงานที่นี่//

Rrrrr!!

“หม่าม้ามีอะไร?”

“ตกลงแกจะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย?”

“เรื่องของหนู”

“แกต้องไปหาหมอตามนัดนะ ไปอยู่ไกลขนาดนั้นใครจะดูแลแก ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย” ท่านยิ่งอายุมากก็ยิ่งบ่น

“หนูกินยาตามเวลาไม่เป็นอะไรหรอก ตอนนี้ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่”

“ต้องระวังเรื่องอารมณ์ให้ดีด้วยนะ โรคแบบนี้จะกำเริบตอนไหนมันไม่บอกล่วงหน้านะ ยาต้องพกใส่กระเป๋าไว้ตลอดนะ”

“มันจะกำเริบก็เพราะหม่าม้ากับเจอรี่นั่นแหละ ขอร้องนะเลิกกดดันหนูได้แล้ว แค่นี้นะ!ฉันไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับใคร มีเป้าหมายที่ต้องทำต้องยืมมือเด็กเพื่อแก้ปัญหาส่วนตัวและหาทางเข้าไปคุยกับหมวดจาง เธอใจเด็ดมากและน่ากลัวกว่าที่จะประเมิน             

“ไป๋! เค้ามาแล้ว” เสียงใสคุ้นหูของยอดดวงใจฉันหันไปตามเสียง น้องแทนยิ้มหน้าบานวิ่งดุ๊กดิ๊กกางแขนกว้างเข้ามา

“น้องแทนฮือฮือ! ฉันน้ำตาแตกโผเข้าหา กอดน้องแน่นหอมให้หายคิดถึง ฉันเลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังพูดไม่ได้

“คิดถึงจังเลย คิดถึงน้องแทนที่สุดในโลกเลย” ฉันกอดสุดแรง

“ไป๋! พอแล้วเค้าหายใจไม่ออก” น้องดิ้นแกะมือแล้วยื่นอมยิ้มให้

“ไป๋กินนี่สิ เค้าเอามาฝาก”

“ฮือฮือ! รันทดใจน้ำตาไหลพราก น้องแทนยังมีใจที่หาขนมมาฝาก ฉันใจร้ายมากที่ทำให้พวกเขาลำบากต้องแยกจากครอบครัว

“ม้าล่ะ?” เขาชะเง้อมองหา

“ม้าทำงานครับ!”             

“ใหม่สูงค่า! เหล่าซือคิดถึงจังเลย” เจ้าปังตะโกนวิ่งพนมมือไหว้ยิ้มร่าเข้ามา

“ปัง! กินข้าวหรือยัง? มากับใครคะ?”

“กินแล้วครับผมมากับหัวหน้าหลงเขารอที่รถครับ นี่ครับของเล่นกับเสื้อผ้าของน้อง”เขาส่งของมาให้

ของเล่นส่วนใหญ่ทำจากไม้ที่พวกเขาช่วยกันสร้างมาให้น้องเล่น ทุกคนต่างก็รักและเอ็นดูน้องแทน ฉันเศร้าใจมากและรู้สึกผิดอยากลงโทษตัวเองให้สาสม

“ปัง!บอกทุกคนด้วยว่าแม่ใหญ่สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง”

“โอ้ว! ข่าวดีมาก” เจ้าปังดีใจกระโดดตัวลอย

“เหล่าซือ! สบายดีนะครับ ไม่เห็นหน้าเลยพวกเราคิดถึงนะครับ”

“ฉันสบายดี พวกนายล่ะ?”

“พวกเรามาอยู่ที่ตงชวน สบายดีครับ”

“ไปดูของบ้างหรือเปล่า?”

“หัวหน้าหลงจัดเวรให้ไปคอยดู ชาวบ้านก็ช่วยกันดูแลไม่มีปัญหาอะไรครับ ผมต้องขอตัวกลับแล้วนะครับต้องขับรถอีกไกล บอกให้หัวหน้าหลงนั่งรถไฟฟ้าก็ไม่ยอมเชื่อ เมื่อยจะตาย”

“อ้าว! จะกลับเลยเหรอ?”

“ครับ!”...

“ปังกลับบ้านก่อนนะคับ เดี๋ยวเจอกันใหม่” เขาเข้ามาหอมแก้มน้องแล้วก้มหัวให้ก่อนจะวิ่งกลับไป             

“ขอบใจมากนะขับรถดี ๆ ล่ะ” ฉันตะโกนตามหลัง ถ้าเขานั่งรถไฟฟ้ามา 2 วันก็ถึง ขับรถมากว่าจะถึงเป็นอาทิตย์

น้องแทนจูงมือแก่วงยิ้มแหงนคอตั้ง มองกำแพงแดงสูงใหญ่ของพระราชวังโบราณ

“ไป๋! บ้านใคร? ใหญ่จังเลย เท่าฟ้าแน่ะ!” น้องกางมือหมุนรอบตัว หัวใจของฉันชุ่มชื่นอีกครั้ง น้องแทนทำให้หัวใจเต้นแรง             

“บ้านคุณลุงคนนี้” ฉันชี้ไปที่รูปประธานเหมาแล้วพากันเดินไปทางซ้ายของจัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาศาลาประชาคม เพื่อขึ้นรถไฟฟ้ากลับตานตง             

“น้องแทนคิดถึงไป๋หรือเปล่าคะ?” ฉันจูงมือน้องเดิน เขาแกว่งแขนแรง ยิ้มหน้าบานตลอดเวลา             

“ม้าบอกว่าไป๋ตายไปแล้ว เค้าร้องไห้ทุกวันเลย ม้าขี้โกหก” เจ้าตัวน้อยสวมชุดหมีก้าวขายาวตามแผ่นหิน บ่นงึมงำ             

“ไป๋ขอโทษไป๋มาทำงานค่ะ ไป๋สัญญาว่าจะไม่หายไปอีกแล้ว” ฉันยิ้มใจสลาย หมวดจางใจร้ายมากตัดฉันจากชีวิตจริง ๆ  หนักใจจัง

“ลีก็หายไปเลย ม้าร้องไห้คิดถึงลีทุกวัน เค้าก็ร้องด้วยเค้าเจ็บหน้าอกเวลาคิดถึงลี ปวดท้องด้วย” เสียงเด็กน้อยเหมือนเข็มแหลมแทงใจ ฉันน้ำตาตกใน รู้สึกผิดมากที่ทำร้ายจิตใจทุกคน             

“ตอนนี้ ป๊าก็หายไปอีกไปไหนไม่รู้? อยู่กับปังไม่สนุกเลย ปังไม่ให้เล่นอะไรเลยขี้กลัวจะตาย” เขาฟ้องเสียงใส             

ฉันอุ้มเขาขึ้นมากอด น้องแทนเป็นเด็กที่พื้นฐานจิตใจมั่นคง เขาไม่ร้องไห้งอแง มีเหตุผล เวลาเขาถามต้องตอบ ตอบอะไรก็ได้ แต่ถ้าไม่ตอบเขาจะถามไม่เลิก             

“น้องแทนคิดถึงป๊าหรือเปล่า?” มองหน้าแล้วอดใจไม่ไหว ต้องหอมแก้ม              

“คิดถุงป๊าแต่คิดถุงม้ามากกว่า ม้าหายไปนานแล้ว แต่เค้าก็ยังสอนให้นกพูดไม่ได้เลย คงยังไม่ได้เจอม้า” เขาหลุบตาหน้าจ๋อยเสียงแผ่วลง ฉันใจหายวาบที่เห็นสายตาของน้องเศร้าทันที สงสารน้องจับใจ

“นกอะไรคะ?”

“นกเอี้ยง”

“ซันบอกว่าถ้านกพูดได้ม้าจะกลับมา เค้าสอนทุกวันมันยังไม่ยอมพูดสักที เค้าคิดถึงม้าเค้าจะได้เจอม้ามั้ย? เค้าหายใจไม่ออกทุกวันเลย” เสียงของน้องเศร้าลง รอยแผลนี้ฉันเป็นคนกรีดมันกับมือ ฉันเลวมากทำลายครอบครัวทุกคนอย่างไม่น่าให้อภัย

“ฮือฮือ! ฉันกอดน้องร้องไห้น้ำตาไหลพราก สร้างปมเจ็บปวดให้น้องอย่างไม่รู้ตัว

“ได้เจอสิคะ! ได้เจอแน่ ๆ” ในหัวอกของฉันมีแต่ความผิด

“ไป๋ร้องไห้ทำไม?”

“เปล่าค่ะฝุ่นมันเข้าตา”

“วันนั้นลีก็ร้องไห้ แล้วลีก็หายไปเลยคิดถุงลี”

“ฮือฮือ! ยิ่งจุกอกแน่นใจ ...

“ไป๋ขอโทษ ไป๋ขอโทษจริง ๆ ฮือฮือ!

“ไม่เอาไม่ร้อง ม้าไม่ชอบคนร้องไห้” นิ้วน้อย ๆ ของเขาปาดเช็ดน้ำตาให้

ฉันเดินสะอื้นมาหยุดยืนริมถนน ตำรวจจราจรกำลังกั้นถนนไม่ให้ข้าม สักพักขบวนรถก็ออกจากตึกกำลังผ่านมา

รถมอเตอร์ไซด์ 4 คันนำขบวนออกจากตึกแล้วตามด้วยรถหรูสีดำอีก 4- 5 คันปิดท้ายด้วยรถพยาบาล ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งถนนโบกมือให้รถที่กำลังเคลื่อนผ่าน

ฉันขยับถาม...             

“คุณตำรวจคะ! ขบวนรถของใครคะ?”

“ท่านประธานาธิบดี” เขาตอบโดยไม่มองมา

ฉันมองตามหลังรถยนต์หรูที่แล่นผ่านไป เจอรี่คงอยู่ในขบวนนี้ด้วย เขาเป็นหมอประจำตัวและเป็นหลานชายของหวังฉวน อีกไม่กี่ก้าวฉันก็จะได้เข้าร่วมกับกลุ่มนี้แล้ว             

ฉันเอาเรื่องงานนำหน้าเพื่อกรุยทางเข้าไปใกล้เขาให้มากกว่านี้  ความแค้นมันฝังแน่น ถ้าฉันไม่เจอนาตาลีอีกฉันจะฆ่าหวังฉวนแล้วจะยิงตัวตาย ฉันจะไปตามหาแทนบนสวรรค์    

“น้องแทนครับไปขึ้นรถไฟฟ้ากัน ไปหาป๊าดีกว่า”

“เค้าอยากเจอป๊า ม้าไม่อยู่ป๊าก็ร้องไห้ด้วยเค้าเคยเห็น” ยิ่งพูดก็ยิ่งเสียใจ        

ฉันพาน้องเดินขึ้นรถไฟฟ้ากลับตานตง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงฉันก็กลับมายืนหน้าโรงแรมตานตงอามาเรียแล้ว 

ซอนยืนยิ้มกว้างกางแขนสุด...            

“น้องแทน!”    

“ป๊า!!  น้องวิ่งดุ๊กดิ๊กกางแขนเข้าไปหา

ไม่มีภาพความทรงจำใดจะสวยงามไปกว่าครอบครัวอยู่พร้อมหน้า สองพ่อลูกกอดกันกลม ถ้าหมวดจางเป็นอะไรไปฉันไม่มีอะไรจะแก้ตัวกับน้องแทน มันเป็นความผิดของฉันคนเดียว

...............................................................................................

ฉันปล่อยให้น้องแทนได้อยู่กับพ่อของเขา แล้วรีบบึ่งรถกลับเข้าไปกองพันที่ 8 ด้วยหัวใจพองฟูเปี่ยมความหวังต้องเคลียร์กับพี่สาวให้ได้ก่อน

“ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!” ฉันเดินโยกร่าเริงร้องเพลงอย่างสบายใจ ผลักประตูเข้าห้องทำงานอย่างเบิกบานใจโลกสดใสดอกไม้บาน เจ้าหน้าที่กำลังทำงานกันขะมักเขม้น

หมวดจางนั่งอยู่คนเดียวมุมห้องด้านในเงยหน้าขึ้นมามองแวบเดียวแล้วก้มหน้าทำงาน เธอยังไม่ยอมพูดด้วย ถ้าฉันเดินเข้าไปหาเธอจะลุกหนี ฉันอยากจะบอกให้เธอสบายใจว่าซอนอยู่กับฉันก็ยังไม่กล้าพูดเลย กลัว! กลัวมากด้วย!            

“ทุกคนคะ! มาดูลูกชายฉันสิ น่ารักมั้ยคะ?” ฉันส่งคลิปโทรศัพท์ที่ถ่ายบนรถไฟระหว่างกลับมาจากปักกิ่งให้เพื่อน ๆ ดู

“เค้าพูดภาษาอังกฤษชนะพี่ปังด้วย” น้องแทนยิ้มกว้างฟันขาวในชุดหมีกำลังคุยโม้สนุกสนาน เพื่อนร่วมงานสาวหันมายิ้มถาม...             

“ลูกชายคุณเหรอคะตากลมน่ารักจังเลย พูดเก่งมาก” พวกเขายิ้มเมื่อเห็นน้องแทนทำหน้าทะเล้นใส่กล้อง         

“พามาเที่ยวสิ เอามาเล่นในนี้กัน ดูสิ! หน้าเป็นเชียวอยากกอดจัง”  ฉันเหล่มองหมวดจางด้วยหางตาตลอดเวลาเธอนั่งนิ่งไม่สนใจ ต้องเรียกร้องความสนใจอีกหน่อย หยิบโทรศัพท์มาเร่งเสียงดังสุด...             

“ไป๋!!!! เค้าอยากบินได้ เค้าจะบินไปหาม้า คิดถุงม้าจังเลย” น้องแทนดวงตากลมใสกางแขนกว้างแหงนมองท้องฟ้าตะโกนดังลั่น

ได้ผล!...เธอวางปากกาเงยหน้าหันมาทันที ฉันรีบเก็บโทรศัพท์แล้วเข้าประจำที่ทำงาน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันต้องแกล้งทำงานไม่เป็นเพราะเกรงว่าถ้าฉันเก่งขึ้นมาเธอจะถูกลดความสำคัญและอาจจะโดนพวกทหารเก็บ ได้แต่คิดจะตกลงกับเธอว่าเราทำงานได้คนละครึ่งทาง ต้องพึ่งพากันและกัน แต่ก็มาติดตรงที่เธอไม่ยอมคุยด้วย เคยแอบลงไปหาเธอที่ห้องขัง แค่อ้าปากก็โดนด่ายับจนต้องถอยทุกครั้ง             

นั่น!...เธอขยับเดินเข้ามาแล้ว

“ตึกตึก! ตึกตึก! ใจเต้นแรงมากกลัวรังสีอำมหิต ก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่หางตาคอยมองไปที่พื้น เท้าของเธอก้าวเข้ามาใกล้...             

“มาคุยกันหน่อย ไปที่ลานซักผ้าข้างหลัง” เธอพูดเรียบ ๆ แล้วเดินไป

“.........” ฉันแอบยิ้มเสร็จฉันล่ะเจี่ยเจี้ย

“เนกาเจอิลจัลนากา! ฉันร้องเพลงเกาหลีเดินกระโดดกระเด้งตามไปอย่างสบายใจออกไปที่ลานตากผ้า             

เธอเดินชะโงกมองดูทหารยามด้านนอก ทหารเฝ้าหนาแน่นมากขึ้นตั้งแต่ซอนมาทำเรื่องเอาไว้ หมวดจางโดนจับตาหนักขึ้นอีกมีทหาร 2 นายนอนเฝ้าหน้าห้องขังด้วย...         

“ส่งโทรศัพท์มา” เธอแบมือพูดห้วนสุด ไม่รู้จะดุไปไหน?

“ของหนู! ไม่ให้” ฉันดึงมือกลับ.

เธอพุ่งตัวเข้ามาคว้าคอเสื้อ...              

“อยากเจ็บตัวเหรอ?” สายตาแม่เสือโคตรดุเลย

ฉันยิ้มกวน ยืดอกกวนกลับ...              

“ใครกันแน่! ที่ต้องเจ็บหนูเป็นแฟนของหลานประธานาธิบดีนะ”

“หึ๋ย!” เธอตาเขียวหน้าโหดดึงคอเสื้อของฉันจนหายใจไม่ออก

“ยอมแล้วค่ะ” ฉันรีบก้มหัวยื่นโทรศัพท์ถวายสองมือก่อนจะโดนตบจริง

“เชิญค่ะ! ปลดล็อคให้เรียบร้อยแล้วนะคะ เชิญดูตามอัธยาศัยเลยค่ะ” ฉันก้มหน้าอมยิ้ม

เธอคว้าโทรศัพท์ไปเปิดคลิปดูนั่งน้ำหูน้ำตาไหลพรากเมื่อเห็นหน้าลูกชายสุดที่รัก

“ลูกชายของแม่เก่งจริง ๆ ผมยาวขึ้นเยอะแล้วนะ ผอมไปหรือเปล่าเนี่ย?”เธอดูมันวนไปวนมาสายตาดีใจแววตาประกายวาววับ ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่น้ำตาไหลเยอะมากสะอื้นนมกระเพื่อม มนุษย์แม่! ช่างมหัศจรรย์จริง ๆ

“น้องอยู่ที่ไหน?” เธอเงยหน้ามองมา เสียงยังเข้ม

“ไม่บอก! พูดกับหนูเพราะ ๆ ก่อนสิ” ฉันเล่นลิ้น พูดไม่ทันขาดคำ เธอก้าวพรวดเข้ามาจับคอเสื้อดึงอีก

“ยอมแล้วจ้า ยอมทุกอย่างแล้ว” ฉันรีบยกสองมือยอมแพ้ ...            

“หนูบอกก็ได้ แต่หนูขอเคลียร์ก่อน หนูอึดอัด! เราจะคุยกันดี ๆ ได้หรือยัง?”

“ได้! ให้โอกาสพูดครั้งเดียว” เธอพาเดินกลับเข้าห้องซักผ้าแล้วล็อคประตู นั่งลงบนเก้าอี้ข้างเครื่องซักผ้า

เคลียร์กันเลยดีกว่า...              

“เจี่ยเจี้ย! หนูยังไม่ได้แต่งงาน”

เธอหันขวับจ้องตาเขียว...             

“เรื่องของเธอสิ แต่งหรือไม่แต่งไม่มีความหมาย เธอเป็นแฟนกันมันสิ้นสุดไปแล้ว” สายตายังโกรธ

“หนูไม่ได้เป็นแฟนกับเจอรี่ หนูก็หาทางสลัดเขา หนูยังคิดไม่ออก” ฉันไม่น่าเล่นเลย เจอรี่ก็ติดเป็นลูกแหง่เลยมันโมเมมากขึ้นทุกวัน

“คนฉลาดอย่างเธอนี่นะคิดไม่ออก ถ้าไม่ชอบก็ด่ามันสิ ด่าทีเดียวก็ไปแล้ว ผู้ชายมันไม่ง้อผู้หญิงนานหรอก เธอยังชอบมันต่างหาก” เสียงหยันมากพูดเหมือนกับซอนเลย ผัวเมียพอกันจริง ๆ             

“หนูไม่ได้ชอบมัน จะให้บอกยังไงดีล่ะ?” ฉันก็หลอกใช้เขาเหมือนกัน ถ้าทำอย่างที่เธอบอกหม่าม้าฆ่าฉันแน่ ฉันจะหาเหตุการณ์ทำให้เขาเลิกไปเองโดยไม่กระทบจิตใจหม่าม้าได้ยังไง ยังหาไม่เจอเลย?            

“ทุกวันนี้เธอนอนกับใคร?” เธอหันมาจ้องตาขู่ฉันอีก จะดุไปไหนเนี่ย?         

“หนูมีแฟนแล้วอยากคุยไหม? หนูจะเปิดกล้องนะ”

“ไม่ต้อง! ไม่อยากดูและไม่อยากรู้จัก หาผัวเก่งเหลือเกินนะ”

“หยาบคาย! เรามาเคลียร์กันให้จบไปเลยจะได้ไม่ต้องคาใจ” ฉันเดินหนีออกไปโทรศัพท์หาซอน

“ซอนพูดไป ไป่ไป๋มีอะไรพูดมา” เสียงซอนกวนตีนมาก ไม่เคยทิ้งการพูดโทรศัพท์ในสไตล์ของตัวเอง

ฉันรีบกระซิบ...            

“เคลียร์ให้ด้วยนะ ทางโล่งแล้ว”

ซอนยิ้มกว้างยกมือ Ok

“ไป๋เจอม้าแล้วเหรอเก่งจังเลย จุ๊บจุ๊บ!” น้องแทนนั่งตักของพ่อยิ้มโบกมือ //โอย...ไม่ไหวจะรักกับเด็กคนนี้// ฉันเดินกลับเอาโทรศัพท์ยื่นให้ แล้วถอยออกไปยืนพิงประตูรอ

“โครม! มือปัดไปโดนถุงไม้กอล์ฟของนักวิจัยที่ส่งมาทำความสะอาดล้มระเกะระกะ หัวไม้กอล์ฟเลอะขี้ดินแห้งเกรอะกรัง

“คิดถึงน้องแทนที่สุดในโลกเลย!” ปล่อยให้เธอคุยโทรศัพท์แล้วร้องไห้กับลูกกับผัว ถึงเธอจะโกรธจะเกลียดแต่ฉันไม่เคยเกลียดพี่สาวคนนี้เลย หลายปีที่เธอหุงหาอาหารอย่างดีมาเลี้ยงโดยไม่เคยปริปากบ่น ฉันได้รับความรักจากครอบครัวของเธอทั้งลูกทั้งผัว เราสนิทกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน

หลังจากเธอได้คุยกันหนำใจแล้วก็ยื่นโทรศัพท์คืนมา สีหน้าเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย ไม่ตึงแล้ว...

“ฉันไม่ขอโทษหรอกนะที่ผ่านมา” ยายจางไว้ท่าเชิดหน้า...

“เรื่องที่โกหกว่าแต่งงานยังไม่ให้อภัย ส่วนเรื่องช่วยชีวิตของซอนและก็ไปรับน้องมาให้ ขอบใจมาก” เธอยังเชิงสูงนั่งกระดิกเท้า 

“หนูขอโทษแล้ว คุณเป็นพี่ก็ต้องยกโทษให้หนูสิ หนูเป็นเด็กนะ” ฉันงอแงกระทืบเท้าดึงแขนเสื้อของเธอ                        

“เธอรู้มั้ย? นาตาลีเกือบฆ่าตัวตายหรือตอนนี้ฆ่าตัวตายไปแล้วก็ไม่รู้ ไปอยู่เกาหลีเหนือจะรอดมั้ย?” เธอบ่นแต่สีหน้าไม่โกรธแล้ว น้ำเสียงยังดุนิดหน่อย                      

“หนูขอโทษ” ฉันคุกเข่าอ้อนวอนไม่มีข้อแก้ตัว

“เธอบ้าหรือเปล่าวะถามจริง ๆ” สายตาเชือดเฉือนมาก เธอดุจริง น้ำเสียงเหมือนดาบเข้าไปคว้านในท้อง พูดไม่ออกบอกไม่ถูก  

“จางเจี่ยเจี้ย! หนูขอโทษหนูจะไม่ทำอีกแล้ว” ฉันโขกหัวอย่างบ้าคลั่ง           

“ครอบครัวของเรากระจายกันหมดเลย บ้าจริง ๆ” เธอยังนั่งกระดิกเท้า ในขณะที่ฉันโขกศีรษะขอโทษไม่หยุด                        

“หนูขอโทษ” ฉันไม่มีคำพูดใดมากไปกว่านี้แล้ว

หมวดจางจับใบหน้าฉันเงยขึ้น...

“เธอไม่เคยรักใครเลย รักแต่ตัวเอง ไม่สนว่าคนรอบตัวจะเสียใจแค่ไหน ใช้แค่คำว่าอยากมากำหนดชีวิต” โดนบ่นยาวเลย

ครั้งหนึ่งแทนก็เคยว่าฉันแบบนี้ เขาเคยว่าฉันไม่ได้รักใครเลย นอกจากตัวเอง ทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่เคยคิดถึงคนอื่น                

“พวกเราตกลงกันแล้วว่าไล่เธอออกจากครอบครัว เธอจะทำอะไรก็ทำไปฉันไม่ห้ามและจะไม่ยุ่งด้วย แต่ถ้าเธอจะกลับเข้ามาเป็นครอบครัวเหมือนเดิมก็ได้แต่ฉันจะห้ามไม่ให้เธอทำงานคนเดียว พวกเราจะช่วยกัน เธอจะเอาแบบไหน?” เธอเปิดช่องมาขนาดนี้ก็ต้องคว้าสิคะ...

“รับหนูกลับด้วยนะ หนูไม่ดื้อแล้ว” ฉันเข้าไปกอดขาน้ำตาไหล           

 “ไม่ดื้อแล้ว?” เธอก้มหน้าถามเสียงสูง ฉันรู้สึกหูกระดิก ตากระตุกเหมือนเป็นรางร้าย                      

“ค่ะ! ไม่ดื้อแล้ว” ฉันกอดขาเงยหน้ายิ้ม พยักหน้ารัว ๆ

เธอก้มหน้าลงมาใกล้สายตาเหมือนซ่อนเล่ห์อะไรบางอย่าง...

“ยอมรับผิดทุกอย่างมั้ย?” มันเป็นคำถามที่หวังผลมาก

“ค่ะ! ยอมรับทุกอย่าง” พยักหน้ารัว ๆ ยอมรับไปก่อน ลุ้นมาก      

“ดีมาก!..บ้านมีกฎบ้านเมืองมีกฎหมาย ทำผิดก็สมควรถูกลงโทษ สารภาพมาก่อนว่าตั้งใจแกล้งหลอกพวกเราเรื่องแต่งงานใช่หรือไม่?” 

“หือ!ฉันชักหวั่นใจ คุ้น ๆ กับคำพูดเหล่านี้ ถึงมันจะผ่านมานานแต่ก็ยังจำได้ว่าเคยพูดไว้

“ค่ะ! รับผิดค่ะ” ฉันเสียงอ่อย //จะโดนอะไรวะ?//

เธอเดินผ่านหน้าไปหยิบไม้กอล์ฟเคาะกับพื้นเบา ๆ ภาพนี้เหมือนเดจาวู                                

“งั้น!! ขอตัดสินลงโทษด้วยการตีก้น 3 ที” จ๊าก!!! หมวดจางแก้แค้น เธอขี้โกงกฎพวกนี้ฉันเป็นคนตั้งมั่ว ๆ ขึ้นมาเอง มันไม่มีอยู่จริง

“ไม่นะ! ล้อเล่นใช่มั้ย?” ฉันยกมือพนมถอยกรูดไปติดผนังห้อง        

“เธอจะไม่กลับเข้าบ้านก็ได้ ไม่เป็นไรไม่แคร์” เธอขยับหมุนตัว

“ก็ได้! อย่าแรงนะ!” ฉันพุ่งเข้าไปเกาะแขน อยากกลับบ้านก็ต้องยอม

“ฮื่อฮื่อ!” ฉันนั่งปากจู๋ยอมจำนนวันนี้นุ่งกางเกงผ้ายืดบอดี้สูทมาด้วย..บางแนบเนื้อเชียว

“ก๊อก!..ก๊อก!..ก๊อก!..เธอเอาหัวไม้กอล์ฟจิ้มพื้นเป็นสัญญาณให้เดินเข้าจุดทีออฟ ฉันเดินคอตกไปยืนกอดอกกลางห้องเริ่มคิดหาทางหนี เรื่องอะไรจะยอมให้ตีง่าย ๆ เหลือบมองประตูห้องก็แค่ 4 - 5 ก้าวเอง

“แปะ! เธอเอาไม้มาวางบนก้นก็เสียวยันคอแล้ว ดึงเอาชายเสื้อคลุมขมวดยัดใส่กางเกงยืดช่วยบังเนื้อก้น

“ตุบ !ตุบ!แค่เธอเดาะไม้เบา ๆ ก็เด้งแล้ว เธอใช้วิธีเดียวกันกับที่ฉันเคยทำกับเธอไว้เมื่อ 5 ปีก่อน อาฆาตจริงเลยนะแม่งูเห่าคนเขาลืมกันหมดแล้ว

“ตุบ !ตุบ!โดนไม้นวดมันจั๊กกะจี๋...

“ลงโทษไม้ที่ 1 ผิดในข้อหาทำให้ทุกคนต้องเสียน้ำตา เอาความรักความไว้วางใจของคนอื่นมาเหยียบย่ำล้อเล่นเหมือนจิตใจของผู้อื่นไร้ค่า”เธอง้างไม้สูงเกือบชนเพดาน

“อึ๋ย...ยย! ตูดหัก! หัก! หัก! หลับตาปี๋แอ่นหลัง ป๋อฮ่อ! ป๋อฮ่อ! ฝ่าหลุนกงช่วยหนูด้วย

“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดั่งเสียงสวรรค์

“โอ้ว!! พระเจ้ามีจริง ป๋อฮ่อ! ป๋อฮ่อ! ฉันพุ่งพรวดไปเปิดประตู นางฟ้าเทวดาหน้าไหนนะมาโปรด ช่วยกระชากไม้กอล์ฟจากมือแม่ใหญ่ได้ทันท่วงที 

“หนีห่าว! อ้าวผู้หมวด” ป้าฝงเดินสวนเข้ามา

ฉันกระโดดกอด...

“ป้าฝง! โอ้ว! ป้าฝงคนสวย หนูอยากเป็นเมียน้อย หนูอยากมีผัว! วิ่งสิคะอยู่ทำไม หันกลับไปตะโกนบอก...

“จางเจี่ยเจี้ย! ถือว่าปิดคดีได้แล้วนะคะ”

“ดวงดีจริงนะ!” เธอเอาไม้กอล์ฟชี้แล้วยิ้ม...    

“เนกาเจอิลจัลนากา! วู้ว!!!...รอดหวุดหวิดทางเดินสะดวกแล้ว แผนต่อไปต้องเข้าใกล้หวังฉวน ฉันจะได้ปิดบัญชีแล้ว

โครงการยึดโลกของหวังฉวนยังคงดำเนินการไปอย่างเป็นความลับ เรื่องเหล่านี้ยังคงเป็นปริศนาที่มนุษย์รู้คำตอบไม่ได้ เพราะคนที่รู้จะเป็นคนที่ตายก่อนและยังคงตายลงทุกวัน

                   ......................................................................................................

 

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม