The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 ตอนที่ 7

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 ตอนที่ 7
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 21 พ.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


มณฑลเหลียวหนิง  

มุมมองสายตา นาตาลี

มกราคม ค.ศ.2026

ตานตง

ภายในห้องทำงานหรูหราสีครีมสว่างของผู้บริหารโรงแรมอามาเรียตานตง เสียงใสของเจ้าถิ่นมีความสุข ...

“ดีใจด้วยนะคะ นึกว่าจะมาจีบฉันบ้าง ฉันก็ยังโสดนะคะ” ฟาน หลิงหลิงยิ้มตาหยีมองแทนหลังจากฉันดึงเข็มวัคซีนออกจากแขนของเธอ ผู้หญิงคนนี้สวยจริง สวยไม่แพ้ไป่ไป๋เลย รูปร่างก็พอ ๆ กับฉัน แทนอยากได้รึป่าวนะ เดี๋ยวหาทางตีสนิทไว้ดีกว่า

“ผมไม่กล้าคิดอย่างนั้นหรอกครับ คุณมีพระคุณผมอยากมาเยี่ยมนานแล้ว แต่มาไม่ได้” เขาคุยอย่างคุ้นเคย ดูเหมือนเขาจะคิดแค่เพื่อน

“อิจฉานาตาลีจังเลยนะคะ ได้สามีหล่อมาก”

“คุณชอบแทนมั้ยคะ?”

“เคยชอบนะ แต่เขาไม่ค่อยติดต่อมา ถ้าเขาเอ่ยปากฉันยอมเป็นแฟนไปตั้งนานแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า!” เธอน่ารักด้วยอารมณ์ดีด้วย...ตรงสเปค

“ฉันไม่ติดนะคะ ถ้ารักเขาก็โอเคนะคะ อะไรที่ทำให้เขามีความสุข ฉันยอมทุกอย่าง ขออย่างเดียวอย่าไล่ฉันไปจากเขาก็พอ เอาป่ะล่ะ? เรามาเป็นครอบครัวเดียวกัน” ฉันเอาจริงนะเว้ย

“หือ!ได้เหรอ?” หลิงหลิงส่ายหน้า โบกมือ...

“ฉันขี้หึง ไม่ได้หรอกค่ะ ฮ่า ฮ่าฮ่า!

“ธุรกิจโอเคดีมั้ยครับ?” แทนขัดจังหวะ

“พอได้ค่ะ ช่วงนี้เทศกาลปีใหม่อาหารทะเลแพงมาก มันปิดอ่าว”

“คุณต้องระวังตัวนะ ถ้าเกิดการชุลมุนวุ่นวาย จำไว้นะครับให้ซ่อนตัวเงียบที่สุด แกล้งตายไปเลยก็ดี ถ้าคุณจวนตัวหนีไม่ได้ให้ทำตัวกลมกลืนกับพวกเขาไป อย่ามองตาพวกมัน”

“น่ากลัวมากค่ะ ฉันเคยเห็นในข่าว? ขอบคุณมากจริง ๆ ที่มาฉีดวัคซีนให้”

“คนตายเกือบหมดโลกแล้ว คุณได้ออกไปต่างประเทศบ้างหรือเปล่าล่ะคะ?” ฉันชวนคุย ถูกชะตากับเธอจังเลย

“อย่าว่าแต่ออกไปเลย ติดต่อยังติดต่อไม่ได้เลย ประธานาธิบดีสั่งปิดประเทศซะงั้น  โครงการ One Dream อะไรสักอย่าง ฉันไม่ได้สนใจ”

“งานคุณก็ยุ่งตลอดเลยสินะคะ เก่งจังเลย” ฉันชมจากใจ

“เออ...แทน! ไป่ไป๋พักอยู่ที่นี่นะ คุณรู้หรือเปล่า?”เธอหันไปบอก //ใจฉันแวบเลย//

แทนไหวทัน แล้วรีบกลบเกลื่อน...

“อ๋อ! คุยกันแล้วครับ เจอกันแล้ว”

ฉันคิดในใจ...ยายตัวแสบพักอยู่ที่นี่เหรอ? เธอมาทำไม สงสัยตามผัวมาทำงานที่นี่ ? ถ้าเจอก็ดี

เรานั่งคุยกันอยู่พักใหญ่ก่อนจะขอตัว แทนหันหลังไปโบกมือให้ก่อนออกจากห้องทำงาน ฉันกระแซะเข้าหา...

“สวยมากเลยนะ เสียดายจัง”

“เสียดายอะไรของคุณ”

“เสียดายที่เธอปฏิเสธน่ะสิ! คุณจะได้มีเมียสวยหลาย ๆ คน”

“ผมรักคุณคนเดียวก็พอแล้ว ผมไม่อยากดูแลหลายคนเอาใจไม่ถูก เดี๋ยวจะมาหาว่าลำเอียงปวดหัวตายเลย และขอร้องนะครับ อย่าเที่ยวไปชวนใครมาเป็นเมียผมอีก” แหม...คิดมากไปได้ ขอแค่รักและดูแลฉันบ้างก็โอเคแล้ว ฉันไม่หึงหรอก

“มีไว้หลาย ๆ คน เผื่อฉันป่วย” ฉันไม่ได้ล้อเล่น

เขาไม่ฟัง เดินหนี...

“ไม่เอาครับ คุณคนเดียว ผมก็จะไม่ได้นอนแล้ว เราไปนอนให้เขานวดกันก่อนดีกว่า คืนนี้ผมจองโต๊ะดินเนอร์ไว้แล้ว”

“ใจหายเหมือนกันนะคะ ที่รู้ว่าไป่ไป๋อยู่ที่นี่”

“อยากเจอมั้ยล่ะครับ?”

“เจอก็ปวดใจ ลืมไปน่ะดีแล้ว แต่มันก็กวนใจยังไงไม่รุ”

“กวนใจอยากจะแก้แค้นไหมล่ะ?”

“ฉันอยากจับเธอมาให้คุณกระหน่ำสักที หมั่นไส้มาก นี่คุณรู้มั้ย? ไป่ไป๋นมกลมมาก ไอ้นั่นก็อูมเบ้อเริ่มเลยไม่มีขนสักเส้น ผิวชมพูผ่องไปทั้งตัวเลย”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่มีเรื่องคุยแล้วเร้อ?” เขาวิ่งหนีไปเลย

                               ......................................................................

กลิ่นอายของเทศกาลปีใหม่อบอวลแสงสีของกลางคืนสว่างไสวสวยงามมีชีวิตชีวาผู้คนใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข ลอบบี้โรงแรม พลุกพล่านไปด้วยนักเที่ยวกลางคืน ใกล้วันจัดงานสำคัญของชาติจีนมาทุกขณะ ผู้คนต่างกล่าวขวัญถึงการออกไปจับจองยึดพื้นที่ในต่างประเทศที่ทางทหารจีนยึดได้ โลกยุคใหม่กำลังจะอุบัติขึ้นแล้ว         

คืนนี้จะดินเนอร์ครั้งแรกใช้ชีวิตหรูบ้างก็ดีเหมือนกัน ใช้ชีวิตลำบากมานานตอบแทนร่างกายมันบ้างใช้แล้วก็ต้องบำรุงให้ดีหน่อย แทนของฉันมาเยือนค่ำคืนสุดพิเศษในชุดทักสิโด้ดำตามคำขอ ฉันอยากเห็นเขาในลุคแบบนี้บ้างตั้งแต่รู้จักกันมาเขานุ่งกางเกงยีนตลอด ไม่เคยได้เห็นแบบนี้ อยู่เกาหลีเหนือก็สวมชุดทหารสวมไอ้โม่ง ส่วนฉันมาในชุดเดรสยาวสีฟ้าขาวผ่าถึงเอวสวยสดใสไร้เป้สะพายหลัง เราเดินหยอกล้อยิ้มหัวเราะเล่นกันเหมือนหนุ่มสาวที่มีความรักทั่วไปเดินแวะดูเสื้อผ้าและสินค้าของฝาก แอบเห็นสาว ๆ ที่เดินผ่านเหลียวมามอง บางคนยิ้มให้ บางคนขยิบตาให้/เดี๋ยวจับมาทำแซนวิชซะเลย/        

เขาพาเข้าร้านอาหารลอยฟ้าของโรงแรมตานตงอามาเรียลูกค้าชาวจีนทยอยเข้ามานั่งอยู่ก่อนหนาตา พนักงานต้อนรับเข้ามาเดินนำไปนอกระเบียงหิมะอ่อนโปรยพลิ้ว

“เชิญครับ!” บริกรผายมือไปที่โต๊ะริมระเบียง วิวมุมสูงยามค่ำคืนของเมืองตานตงสวยแปลกตา ติดกันมีโต๊ะจอง ว่างอยู่             

“วันนี้เมาสักวัน ก็ดีนะคะ” ฉันยิ้มอายกระแซะเข้าไปส่งสายตาเชิญชวน ตั้งแต่โดนเจ้างางอนเสยเลยต้องฟัดกันก่อนนอนทุกวัน ไม่โดนนอนไม่หลับ บางวันมีรอบเช้า ติดงอมแงมเลย           

“ได้เลย!” แทนยิ้มกรุ้มกริ่ม น่ารักจัง

ฉันชอบเพราะเขาไม่เคยขัดใจ ดอกไม้จะสวยเมื่ออยู่ในธรรมชาติฉันใด ความเป็นตัวตนก็สวยงามไม่ต่างกันฉันนั้น ถ้าผู้ชายเอาแต่โมโหใส่ หรือชอบสอนชอบห้าม ผู้หญิงก็จะเกร็ง ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าออกความเห็น ไม่มีความสุขเพราะไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง               

“ผู้หญิงคนนี้สวยจังเลยเน๊อะเธอ?”เสียงแขกผู้หญิงซุบซิบ ฉันยิ้มภูมิใจที่ได้ยินเสียงชมยื่นหน้าไปกระซิบเขา...

“ตาถึงเนอะ?”

“คุณสวยจริง ๆ”              

“อีกไม่นานก็จะถึงวันสิ้นโลกที่ยอร์นเคยกำหนดไว้แล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้นอีก?” พอเห็นรอยยิ้มสุขใจของพวกแขกในร้าน ก็คิดเลยไปถึงวันสุดท้ายของพวกเขาด้วย คิดถึงวันที่พวกเขากลายเป็น Tamer 30

“โลกมันสิ้นไปแล้วล่ะ ผมคิดว่าหวังฉวน มันไม่เป่านกหวีดที่จีนหรอก มันน่าจะปล่อยให้คนของมันกระจายยึดไปทั่วโลกดีกว่า คนรุ่นต่อไปก็ครองโลกเบ็ดเสร็จ”

ฉันปล่อยความคิดล่องลอยเอามือลูบไปที่ลำคอ สร้อยนกหวีดทั้งสองเส้นยังห้อยแกว่งไกว ต้องหาคำตอบให้ได้ว่ามันมีไว้ทำไม?...            

“อู้ฮู!!...” แขกในร้านขยับตัว สายตาตื่นเต้นมองไปที่ประตูทางเข้า ฉันหันไปมองมือปัดโดนช้อน...

“แกร๊ง! ช้อนตกลงพื้น เราก้มมุดลงไปเก็บพร้อมกัน         

“อื้อหือ!โคตรสวยเลย นมเหลือเฟือเลยว่ะ! เสียงแขกในร้านอื้ออึงฉันคิดว่าพวกเขาคงชมฉัน แต่เปล่าเลย

“มึงดูก้นสิ! มึงดูสิ! ทำไมมันงอนอย่างนั้น?”

“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงรองเท้าส้นสูงกระแทกพื้นจังหวะคุ้น ๆ หู กำลังเดินมา เหลือบมองรองเท้าสีม่วง-ขาว ส้นแหลมบนขาเรียวขาว เธอเดินเฉียดโต๊ะ แทนขยับถอยจะลุกออกจากใต้โต๊ะ

“โอ๊ะ! สะโพกดินระเบิดกระแทกไหล่ของเขาเสียหลัก โทรศัพท์หลุดมือหล่นไปอีก ตัวก็ใหญ่มุดโต๊ะลำบาก                       

“ขอโทษนะคะไม่ได้ตั้งใจ” เธอไม่เหลียวมองเลย

แทนก้มหน้าไม่ได้สนใจมอง เก็บโทรศัพท์ได้ก็ลุกมานั่งเหมือนเดิม เอาช้อนโยนไปข้างโต๊ะแล้วยิ้มให้ฉัน เสียงในร้านยังดังขรม

“สวยจริง ๆ สวยมาก” เสียงแขกยังพูดกันดังสไตล์คนจีน 

ฉันมองผ่านหัวของแทนไปด้านหลัง สายตาสบประสานถือแก้วน้ำนิ่งค้าง หัวใจสับสนไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี รู้แต่ว่าตอนนี้ช้ำใจ

แทนโบกมือใส่หน้า...

“นาตาลี! นาตาลี! จ้องอะไร น่าเกลียด! เขาหันกลับไปมองช้า ๆ ในขณะที่เธอค่อย ๆ ยกน้ำขึ้นดื่ม เหลือบไปมองเขาแวบเดียว แค่แวบเดียว...                    

“อ่ะ! พรวด...”  น้ำพุ่งกระจายหกเลอะโต๊ะ

“ครืด...!!เธอลุกขึ้นยืนพรวด

สายตาของทั้งคู่สบประสานกัน เธอถึงกับอยู่ในอาการค้างมองเราสองคนอย่างกับเจอผี ในดวงตาคู่นั้นกะพริบถี่แววตาสับสน เธอจะร้องไห้หรือยิ้มกันแน่ ท่าทางไม่มั่นใจตัวเอง

“ไป่ไป๋! เป็นอะไรครับ?” สามีของเธอรีบกุลีกุจอเช็ดน้ำ ดูท่าทางเอาอกเอาใจกัน แต่ทำไมฉันโกรธวะ? ไม่ชอบหน้าไอ้ผู้ชายคนนี้เลย

“ขออนุญาตครับ!” พนักงานยกอาหารเข้ามาเสิร์ฟ

“ไม่น่าเจอกันเลย? ” เสียใจมามากกับเธอพอเจอกลับใจสั่น

“คุณไม่เป็นไรนะครับ?”

“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันรีบเช็ดน้ำตาอย่างไว แล้วเชิดหน้า...

“ฉันจะเสียน้ำตาครั้งสุดท้าย เรื่องของฉันกับเธอมันจบไปแล้ว ฉันผ่านเรื่องที่เสียใจกว่านี้มาแล้ว เธอไม่มีความหมายอีกต่อไป” หยิบช้อนทองคำมาบรรจงตัก อัลมาสคาเวียร์ป้อนให้ที่รัก...

“อ่ะ! อ้ำ!

เขาอ้าปากรับ แล้วคีบเนื้อวาฬดิบจิ้มวาซาบิป้อนกลับมา เราไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นและไม่แคร์สายตาคนอื่น หยอกล้อกันให้ชาวบ้านอิจฉา ฉันเชิดหน้าจิกสายตาไปที่โต๊ะนั้นบ่อย ๆ และหลายครั้งก็ยิ้มเยาะเย้ย

“ทำไมคุณกินของพวกนี้ล่ะครับ”

“ก็หลิงหลิงบอกว่ามันปิดอ่าวของมันแพง ฉันเลยจะกินมัน อยากกินอะไรก็ได้แพง ๆ ที่เงินซื้อได้ อีกไม่นานเงินก็ไม่มีความหมายแล้ว” ใช้ชีวิตให้สะใจไปเลยดีกว่า ไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะได้กินอะไรเป็นมื้อเช้า ชีวิตไม่เคยแน่นอน

“กินนี่สิคะ วากิวริบอายสเต็ก” ป้อนเนื้อฉ่ำเข้าปากเขา

บรรยากาศภายในร้านเริ่มคึกคัก DJ.เปิดเพลงบรรเลงสำหรับเต้นรำคลอขึ้นมา ยิ่งดึกแขกในร้านก็เริ่มคุยกันเสียงดังมากขึ้น ฉันกระดกไวน์โฮรมาเน กงติ จนตาปรือแล้ว

“ไปเต้นรำกันดีกว่าค่ะ”

“เชิญครับ!” เขาลุกขึ้นยืนโค้งศีรษะแล้วยื่นมือให้จับ ฉันซบไหล่ควงแขนออกไปกลางฟลอร์ โอบเอวปล่อยใจขยับขาไปตามเสียงเพลง

เห็นใบหน้าของเขาแล้วหมั่นเขี้ยวจังเลย ตั้งแต่ @Friend กับเจ้างางอนก็อยากกินทุกวัน อยากอยู่ใกล้ ติดหนักเลยช่วงนี้จัดกันทุกวัน

“คุณคิดว่า เธอจะเข้ามาทักเราไหมคะ?”

“ไม่รู้สิ! มากับผัวคงไม่กล้าหรอก ถ้ามายุ่งผมจะเอาให้หนักเลย”

“เผื่อด้วยนะคะ นินจาเซม!” ขอเอาคืนสักหน่อยก็ดี

“เดี๋ยวจะแกล้งให้เข็ดเลย รับมุกด้วยนะครับ” เขาก้มกระซิบ เพลงใกล้จะจบแล้ว                 

“ได้เลย นาตาลีเอนเตอร์เทนเมนต์ภูมิใจเสนอ แช้ง ๆ” ฉันยิ้มกว้างเปี่ยมสุขผายมือย่อเข่า เมาแล้วเดี๋ยวมีเฮ วันนี้น่าจะมีอะไรสนุก ๆ

“ผมสังเกตมานานแล้วคุณเต้นเก่งนะครับ เคยเห็นคุณ Moon walk ได้ด้วย” 

“อ๋อ! ไป่ไป๋สอนฉันชอบเต้นนะคะ แต่ร้องเพลงไม่เป็น”

“เดี๋ยวผมสอนให้ร้องเพลง” เขาใจดีอย่างนี้ตลอด แต่ฉันไม่สนใจหรอกกลัวจะกลืนไมค์ลงคอ

“แทนคะ! ขอจูบหน่อย”เขย่งเท้าขึ้นจูบอย่างดูดดื่ม อยากโชว์ให้โลกเห็น ฉันไม่มีปมด้อยแล้วได้ผัวแล้ว

“ว้าว ว้าว!เสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากแขกดังสนั่น

ฉันหันไปยิ้มโบกมือให้กองเชียร์ อาการของไป่ไป๋ดูเหมือนลิงติดแหขยับตัวหยุกหยิกตลอดเวลามือไม้อยู่ไม่เป็นสุข สายตาตื่นมองมาที่เราไม่วางตา สามีของเธอก็เริ่มสังเกตได้หันมองมาที่แทนบ่อยขึ้น สายตาของเขาไม่ค่อยพอใจ                       

ฉันเดินเชิดหน้ากลับโต๊ะเมื่อเพลงเต้นรำจบลง เราต้องเดินผ่านหลังเก้าอี้สามีของเธอ แอบชำเลืองหางตามองเธอยังนั่งจ้องตาไม่กะพริบ แต่ฉันเชิดหน้าหยิ่ง ไม่สนค่ะ                    

เมื่อเดินผ่านหลังของเขาไป

“โป๊ก! เสียงกะโหลกลั่นเหมือนคนทุบมะพร้าว ตกใจหันกลับไปมอง เขากุมกกหูทรุดตัวลง...

 “โอ๊ย!อูย! เขาร้องลั่นเหมือนควายถูกเชือด

“แทน!ใจหายวาบแทนก็ล้มลงกับพื้น เขาหันมาขยิบตา //เบาใจเลย//

แทนเริ่มลงมือแกล้งแล้ว ฉันถือแก้วดื่มน้ำเดินเข้าไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้น

“คุณคะ! เป็นอะไรไหม?” แกล้งถามไปอย่างนั้นเอง เห็นหน้ามันแล้วหมั่นไส้

“โอย!! ขาอ่อนแรงทันที...เซ ส้นรองเท้าแหลมจิกจมหลังมือ

“จ๊าก!!!เขาร้องลั่นหน้าเหยเอาอีกมือตีพื้น

“ขอโทษค่ะ!” ฉันจับไหล่ของเขาแล้วพยุงตัวลุกยืน กดส้นรองเท้าจมลึก

“อย่าเหยียบ เจ็บนะโว้ย! เขาตีขาฉันเซทันที...            

“โอ๊ะ! ขอโทษค่ะ! ดอกต่อไป..แก้วน้ำในมือราดหัวของคู่กรณี  เขายิ่งโกรธจัดฟึดฟัด ฮึดฮัด

แทนปราดเข้ามาขวาง...                      

“เป็นอะไรมากไหมครับ? ผมกับแฟนเสียหลักขอโทษทีสงสัยจะเมาแล้ว” แทนพยายามจะพยุงเขายืน

แต่ดูท่าทางเขาจะยังลุกไม่ไหว นั่งแหมะอยู่กับพื้นเงยหน้าส่งสายตาเครียดแค้นเอาเรื่อง สะบัดแขนแรงแล้วกุมหัวต่อ

ไป่ไป๋ยืนหมุนอยู่อีกฝั่งโต๊ะหันซ้ายขวาทำตัวไม่ถูก แทนขยับถอยออกมาเธอจึงเดินเข้าไปก้มลงพยุง...                       

“เจ็บไหมเจอรี่? ลุกขึ้น” เธอใบหน้าแดงก่ำเข้าไปดึงแขน

“อูย!...” เขาหัวเปียกอ้อนออเซาะเกาะแขนขึ้นนั่งบนเก้าอี้ หันมามองหน้าฉันไม่วางตา ท่าทางมันคงจะตบฉันแน่

แทนยักคิ้ว ยิ้มมุมปาก ...                    

“เอาคืนให้แล้วนะ” เขากระซิบรินน้ำส่งให้

“อื้อ..รู้สึกดีขึ้นมากค่ะ” เงาวูบเข้ามา

“แทน! ระวัง!

“เฮ้ย! หาเรื่องกันนี่หว่า” เขาพุ่งมาเกือบถึงตัวของฉัน

“จะทำอะไร?” แทนรีบลุกยืนขวางเอามือดันหัวของเขาไว้

“วืด!วืด!วืด! เขาหน้าหงายต่อยมั่วไปหมด แต่ไม่โดนเพราะแทนแขนยาวกว่า ดันหน้าเขาถอยออกไป

“หยุดนะเจอรี่ พอได้แล้ว! ไป่ไป๋ร้องห้ามพยายามดึงแขน 

“ปล่อย! เขาสะบัดดิ้น

“ผลัวะ! ผลักเธอล้มลงกับพื้น

“เฮ้ย! ฉันผวาจะเข้าไปช่วยแต่ก็หยุดขาไว้แค่นั้น เธอไม่ได้เป็นอะไรกับฉันแล้ว นี่มันเรื่องของผัวเมีย

“หยุดนะ!

พวกมันไม่ได้มาคนเดียวนี่นา ชายสวมสูท 2 คนวิ่งพรวดพราดเข้ามาสมทบ งานนี้สหายครูฝึกของฉันเหนื่อยแน่

“เฮ้ย! คนตีกัน พวกเรามามุงเร็ว”เสียงแขกในร้านแตกตื่น           

แทน กุมเป้าพูดอย่างสุภาพ...             

“ผมขอโทษจริง ๆ ครับ คุณผู้ชาย” เขาพูดเสียงอ่อน ทำหงอ

เสียงในร้านฮือฮา...                 

“มึงว่าใครชนะ กูเลือกฝ่าย 3 คน พวกมากชนะอยู่แล้ว สนใจมั้ย?คนละ 500 หยวน” เสียงพนันกันสนุกสนาน                       

“ต่อยแย่งผู้หญิงกันเหรอ?”     

“ไม่ใช่หรอก แฟนของเขาก็สวยไม่แพ้กันเลย” เสียงจีนมุงเริ่มครบวงสนทนา 

เจอรี่พรวดเข้ามาพร้อมสมุน ...            

“เฮ้ย! มึงเดินยังไงวะ! พูดจบเขาตบทันที 

“วืด! แทนโยกขวาหลบ ผลักตัวเขาถอยออกไปทางฟลอร์เต้นรำ

เสียงกองเชียร์ในร้านอื้ออึง...              

“มากับหญิงต้องโชว์อยู่แล้ว มาอย่างหล่อโดนน้ำราดหัวเป็นกูก็ไม่ยอม”

“แต่ไอ้นั่นตัวสูงใหญ่กว่านะมึง”

“สูงใหญ่กว่าแล้วยังไง เอาป่ะล่ะ 500 หยวน กูแทงฝั่ง 3 คน”

เจอรี่ โวยชี้หน้า...                     

“กูเป็นหมอนะ รู้ไหมสมองของกูราคาเท่าไหร่?” เขาปล่อยหมัดตรงออกมา แทนโยกซ้ายหลบ

“อย่า! ผมไม่สู้ผมขอโทษ” เขาร้องเสียงหลงแล้วดันไปเรื่อยจนออกมากลางฟลอร์เต้นรำ

“พรึบ! ลูกน้องของเขาก้าวเข้ามาช่วยรุม

“พวกนายไม่ต้อง! เขาโบกมือห้าม

ไป่ไป๋หน้าเสียวิ่งเข้าไป

“เจอรี่อย่า! ฉันจะกลับแล้วนะ” แหม...รักกันเหลือเกิน เธอพยายามดึงแขนแต่ก็รั้งเขาไม่อยู่ 

“ปล่อย! เขาสะบัดหลุดแล้วเหวี่ยงหมัดขวาเข้าไปสุดแรง ลำตัวของเขาถลำ แทนหลบแล้วผลักส่งเขาหัวทิ่มถลำล้มหน้าคว่ำนอนแบกับพื้นกลางฟลอร์

“ตุ่บ!

“อย่าทำผม! ผมไม่สู้” แทนร้องตอแหลแล้วเดินไปดึงมือเขาลุกขึ้น 

ไป่ไป๋ก็ยืนเก้ ๆ กัง ๆ ทำอะไรไม่ถูก เธอไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้แทน ส่วนฉันนั่งกระดิกขาไขว่ห้างยิ้มมอง...ยกแก้วชู

“พอได้แล้วน่า เขาก็ขอโทษแล้ว” เสียงแขกตะโกนบอก

แต่เจอรี่ไม่สนใจเดินปรี่เข้าใส่ หันไปคว้าขวดเหล้าจากโต๊ะข้าง ๆ ติดมือมาด้วย หันไปกวักมือเรียกลูกน้อง...

“จับมันไว้! ทั้งสามกรูเข้ามาหา                     

“ผมไม่สู้ ผมขอโทษ”

“วืด! เขาหวดขวดเหล้าไปตรงหน้า แทนฉากหลบถีบเข้ายอดอก

“อึ่ก!! ร่างของเขากระเด็นครูดถอยหลังก้นจ้ำเบ้า

“อุ่บ!! แทนปล่อยหมัดอัปเปอร์คัพขวาเข้าท้องของสมุนที่วิ่งเข้าไปจากทางซ้าย 

ฉันใจหายวาบอีกคนย่องเข้าด้านหลัง แทนหมุนตัวดีดแข้งซ้ายเต็มท้อง                     

“อุ๊บ” เขาตัวงอลงไปกอง

“ 3 สู้ 1 ไม่ได้โว้ย!แขกในร้านฮือฮา 

“แม่งเอ๊ย! เจอรี่วิ่งกลับมาพร้อมขวดเหล้าในมือ เงื้อสูงหมายจะฟาดหัว                    

“ผลัวะ! หมัดตรงของแทน เข้าปลายคางก่อนที่เขาจะฟาดลงมา

“อ่ะ! ดวงตาของเขานิ่งค้าง ปากอ้าขาสองข้างลอยสูงจากพื้น ก่อนที่ก้นจะลงกระแทกพื้นอย่างจัง             

“โป๊ก! หัวของเขาฟาดขอบโต๊ะอย่างแรง ขวดเหล้าหมุนคว้างกลางอากาศ 

“หมับ! แทนคว้าลงมาอย่างนิ่มนวลแล้วเทราดหัว

“วู้ว! สวยงาม หมดจด! แขกตบมือชอบใจ

“ดี! โดนซะมั่ง ไอ้หนุ่มนี่เก่งโว้ย! เสียงแขกชื่นชม               

สมุนสองคนเข้าประคองเจ้านาย เมียของเขาเข้าไปตบหน้าเรียกสติ แทนอมยิ้มถอยหลังกลับพร้อมขวดเหล้าในมือเอาไปคืนโต๊ะข้าง ๆ  

ฉันเดินปั้นยิ้มที่คิดว่าโหดสุดเข้าไป ในมือถือแก้วไวน์แดงเต็มแก้ว

“เจอรี่! เจอรี่!ไป่ไป๋ เขย่าเรียกสามีที่นอนสลบเหมือด

ฉันเดินนวยนาดเข้าไป                    

“เก่งมาก! นินจาเซม! เอียงหัวซบไหล่ แล้วเทไวน์ใส่หัวของไป่ไป๋

“โอ้โห!..แสบทรวงเทเหล้าราดหัวด้วย” เสียงแขกอุทานตกใจ 

“ตื่นสิ! เจอรี่! สาวสวยหัวเปียกโชก นั่งก้มหน้านิ่งไม่กล้าต่อกร

ฉันโอบคอสหายครูฝึกยอดรัก..

“กลับกันเถอะที่รัก! สบายใจที่สุดเลย” ฉันยิ้มกว้างตีมือ

เราสองคนเดินโอบเอว โบกมือให้แขกออกจากร้านมาด้วยรอยยิ้มสุขใจ การได้แก้แค้นมันทำให้ฟินขนาดนี้เชียวหรือ? ฉันหยุดเดิน...ปล่อยให้เขาเดินเลยไปก่อน

“หมั่นเขี้ยวนินจาเซมจังเลย” ฉันกระโดดตัวลอยเข้าเอว เขาอุ้มเดินผ่านผู้คนมากมายอย่างไม่แคร์สายตา ทำเหมือนโรงแรมแห่งนี้มีเพียงเราสองคน                       

“โล่งเลยใช่ไหมครับ?” แทนยิ้มถามขณะกดลิฟต์ขึ้นห้องพัก

“ค่ะ! โล่งมาก เธอออกจากใจฉันไปแล้วค่ะ หวังว่าชาตินี้และชาติไหน ๆ ก็อย่าเจอกันอีก คนโกหกหลอกลวง” ฉันยอมไป่ไป๋มาตลอด อึดอัดและอดทนกับพฤติกรรมของเธอด้วยความรัก เมื่อเธอหักหลังเธอต้องได้รับกรรมนั้น แค่นี้คงเพียงพอแล้ว 
           ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดตัว...
            “รอด้วยค่ะ! ทันใดนั้นมือหนึ่งก็ยื่นเข้ามาขวางประตูไว้...

                                                   ………………………………………

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม