หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 21 พ.ค. 2567 |
เสิ่นหยาง
มุมมองสายตา ไป่ไป๋
มกราคม ค.ศ. 2026
กองพันที่ 8...
1 อาทิตย์ต่อมา...ใต้ร่มไม้หน้าศูนย์วิจัยร่มรื่นนกป่าร้องกันระงม บรรยากาศในค่ายเป็นระเบียบ สวย สะอาด ปลอดภัย แต่ในหัวใจของฉันร้อนลุ่ม อยากหนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เริ่มรู้สึกถึงอันตราย เครือข่ายของหวังฉวนมากมาย สักวันมันต้องจับได้
“เอ้า! กาแฟ” พี่สาวส่งถ้วยกาแฟหอมฉุยมาให้
“สองคนนั้นหายไปเลย คงสบายดีเนอะ?” ฉันเปรยถึงแทนกับนาตาลี
“เธอเก่งมากเลยนะไป่ไป๋ อันนี้ฉันชมจริง ๆ เข้มแข็งมากที่ไม่งอแงงี่เง่า เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว”
“หนูคิดแล้ว หนูเป็นคนผิดเอง หนูจะคอยให้กำลังใจทั้งสองคนให้ได้รักกันนาน ๆ ” ฉันยังนอนร้องไห้ทุกวัน
“การเข้าใจผิดมันก็เหมือนท้องผูกนั่นแหละ มันมีช่วงเวลาทรมาน พอได้ถ่ายมันก็หาย การรอมันก็เป็นยาอย่างหนึ่ง ไฟท์ติ้ง!!!”
“ฝันของหนูจบไปแล้ว ไอดอลก็ไม่ได้เป็นความรักก็พังทลาย หนูจะใช้ชีวิตต่อไปกับเจี่ยเจี้ยนะคะ คอยวันที่น้องแทนได้แต่งงานแล้วหนูจะไปอยู่คนเดียวสักที่ หนูอยากเข้าป่าโบราณ”
“อย่าคิดมาก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป นาตาลีชอบพูดอย่างนี้ มันเป็นคำปลอบใจที่ให้กำลังใจคนสิ้นหวังที่ดีที่สุด”
“เจี่ยเจี้ย! หนีกันเถอะ”
“ไปสิ! รออะไร เธอหนีได้ตั้งนานแล้ว”
“คุณล่ะ?”
“เธอหนีออกไปเลย ไม่ต้องสนใจฉันหรอก”
“หนูก็ไม่ไป หนูไม่เหลือใครแล้ว”
“เธอยังเคลื่อนไหวได้ รีบหนีไปก่อนที่มันจะรู้ตัวดีกว่า ไปหานาตาลี รอฉันที่นั่น สักวันฉันก็หนีได้”
“ถ้าเราทำวัคซีน 8 ล้านโดสนั่นเสร็จ พวกมันก็จะฆ่าคุณทันที”
“ฉันคิดว่า จะทำให้พวกมันก่อนจะหนี อย่างน้อย...ฉันยังได้ช่วยคนอีก 8 ล้านคน” เสาหลักในใจของเธอไม่เคยเอียงเลย ตั้งใจมั่นมาก
“คิดถึงตัวเองก่อนเถอะ ถ้าไม่คิดถึงตัวเองก็คิดถึงลูกกับผัวบ้าง?”
“โตแล้วนะเนี่ย กล้าสั่งสอนฉันด้วย” เธอเข้ามาเชยคาง
“หนูไม่เข้าไปเกาหลีแล้ว ถ้าช่วยคุณได้แล้ว หนูจะกลับบ้าน”
“อ้าว! ไม่ไปหานาตาลีเหรอ?”
“ไม่คุยเรื่องนี้นะคะ หนูไม่อยากพูดถึงอีก” น้ำตาเอ่อ อยากไปหามาก แต่ไม่อยากเห็นสายตาเย็นชาของทั้งสองคน
“อืม!! เข้มแข็งไว้นะ” เธอเข้ามากอดแล้วลูบหลัง ฉันน้ำตาไหลพราก ถึงยังไงฉันก็ยังรักของฉัน
“ขอบใจมากนะ ที่เป็นห่วง ฉันขอโทษนะที่เคยมองเธอผิดไป”
“หายโกรธหนูแล้วนะคะ” ฉันกล้ำกลืนความขมขื่นลงคอ
“อื้อ! เธอทำไปเพราะความรักแท้ ๆ ฉันเข้าใจแล้ว หัวใจของเธอยิ่งใหญ่มาก เธอกล้ากว่าที่ฉันคิดเยอะเลย”
“พอแล้ว! ไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้วนะคะ หนูจะเข้มแข็ง”
“โอเค! เราจะเดินหน้ากัน” พี่สาวเข้ามาสวมกอด
ฉันสลัดความรู้สึกโหยหาทิ้งไป...
“หนูรู้สึกว่ากำลังมีอันตราย แต่บอกไม่ได้ว่าเรื่องอะไร? หนูรู้สึกไม่ดี ซอนต้องหาที่อยู่ใหม่ด้วย”
“แน่ใจนะว่า จะไม่หนี เธอเอาตัวรอดได้สบายเลยนะ”
“เพื่อนร่วมทางของหนูเหลือแค่ 2 คน ถ้าไม่มีพวกคุณ หนูก็ไม่มีเพื่อนแล้ว วันที่หนูแก่ หนูจะได้กลับมาคุยกับคุณ” หัวใจของฉันเศร้ามาก
“เธอไปเตรียมตัวให้หน่อยนะ ไปบอกกับซอนให้เอาน้องแทนไปฝากไว้ที่ โบสถ์ดวงชะตาแห่งความหวังให้ด้วย”
“มันอยู่ที่ไหน? แล้วจะเอาน้องไปฝากทำไม?”
“เออน่า! ซอนจะได้เบาตัว เกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมา เขาจะได้หนีทัน น้องจะได้ไม่เสี่ยงเกินไป”
“คุณจะให้น้องเป็นเด็กไร้ญาติเหรอ?”
“เธอคิดว่าน้องไร้ญาติเหรอ พวกเธอเป็นอะไรกับเขา”
“นั่นน่ะสิ แล้วเอาน้องไปฝากทำไม?”
“ที่นั่นมีเพื่อน น้องจะได้ไม่เหงาและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เธอไปเคลียร์ปัญหาของตัวเองให้จบ แล้วไปบอกซอนด้วยให้เขาทำตามที่ฉันบอก ห้ามสงสัย”
“วันนี้มันจะมาหาหนูอีกแล้ว หนูเบื่อ เมื่อไหร่จะจบสักที?”
“ใครวะ ทำให้เธอหงุดหงิดได้ เดี๋ยวฉันตบให้?” เธอยิ้มกวน
“เจอรี่น่ะสิ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่จบ! ปล่อยคลิปลง TikTok หรือยัง?”
“ปล่อยไป 3 - 4 วันแล้ว อายจะตายโป๊มาก แนะนำแต่ละอย่างต้องอายทุกที”
“ไหนขอดูหน่อยสิ” เธอยิ้มระริกระรี้ ฉันยื่นโทรศัพท์ให้ดู เสียงเพลงจีนจังหวะสนุกดังขึ้น
“โอ้โห! กางเกงรัดเห็นร่องเลยนะ นมกลมมาก ขอจับหน่อยนะ” เธอเล่นบีบนมทีเผลอ โดนเต็ม ๆ
“ว้าย! จะบ้าหรือไง?” ฉันเด้งลุก หายเศร้าไปเลย
“แก๊ก! แก๊ก!” ปืน .22 ที่ฉันซ่อนในยกทรงตกพื้น
“มานี่ขอจับจิ๊หน่อย อูมมาก!” เธอไม่สนใจวิ่งเข้ามาลูบที่เป้า…
“พิการรึไงเนี่ย กีบอูฐใหญ่มาก?”
“ว้าย! บ้า! บ้า! เจี่ยเจี้ยมันโดนนะ” ดิ้นยังก็ไม่หลุด เธอคว้าเป้าเต็มมือ
“เบอร์ใหญ่นี่หว่า ฉันยอมแพ้ ฮ่าฮ่าฮ่า!” จะบ้าใหญ่แล้วยายทะลึ่ง
“บ้า! ไม่เล่นนะ” ฉันวิ่งอ้อมไปกอดคอ
“มีคนคอมเมนต์ตรึมเลย มีแต่คนอยากจะอึ้บเธอน่ะ” เธอจ้องตาเป็นมัน สนใจดูฉันเต้นยั่วในโทรศัพท์
“อือ! คอมเมนต์บ้า ๆ แต่มันจะได้ผลใช่มั้ย? ได้ผลแน่นะ?” ฉันต้องบ้าบอทำตามคำแนะนำของเธอ //ยังหวั่นใจอยู่ลึก ๆ เธอเคยหลอกนาตาลีขี่ม้ามาแล้ว ยายนี่โกหกหน้านิ่งมาก//
“ได้ผลสิ! เชื่อฉันเถอะ! ถ้านิสัยมันเป็นอย่างที่เธอบอก มันเลิกแน่ แต่ถ้ามันยังไม่ไป เธอแก้ผ้าแม่งเลย”
“โห! แนะนำแต่ละอย่าง หนาวมาก แค่ชุดรัด ๆ นั่นก็เห็นเหมือนแก้ผ้าแล้ว” ฉันดูเองยังเสียว
“เนอะชัดมาก! น่ากินมาก มีผัวเถอะเชื่อฉัน! ลื่นปรื้ดลื่นปรื้ด!” ยังจะมีหน้ามาพูดอีก
“บ้า! หนูไม่ใช่นาตาลีนะ ไม่ต้องมาล่อหนูเลย”
“โน่น! เจอรี่มาแล้ว ฉันไปก่อนนะ” เธอหันไปมองป้อมทหารยามแล้วลุกเดินขึ้นไปทำงาน
..............................................................
ฉันก้าวขึ้นนั่งรถยนต์ของเจอรี่ด้วยความรู้สึกหงุดหงิด อึดอัด ขัดใจ กังวลใจ ร้อนรุ่มกับสารพัดปัญหาที่พุ่งเข้ามา
“คุณไม่อยากแต่งงานกับผมจริง ๆ เหรอ?” เขาเอื้อมมือมากุม
“เราเป็นเพื่อนกันเถอะนะ อย่ายื้อเลย” ฉันชักมือกลับอย่างนุ่มนวล
“คุณป้า กับอาเหล่าซือกำลังเดินทางมา มีเรื่องต้องคุยกัน”
ฉันเครียดหนักเลย เอาพ่อแม่ของฉันมายุ่งทำไมวะ?...
“ทำไมไม่บอกกันก่อน คุณเอาแต่ใจตัวเองมากไปแล้วนะ?”
“คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง” เขาเมิน
“มากไป! อย่าบังคับให้ฉันต้องทำในสิ่งไม่ดีเลย”
“เรื่องนี้เดินมาไกลกว่าจะกลับลำแล้ว ผมก็ไม่อยากทำในสิ่งไม่ดีเหมือนกัน ผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับคุณด้วย”
“หยาบคายมากไปทุกวัน”
“หยาบคายเหรอ แล้วคลิปนี้หมายความว่ายังไง ชอบโชว์เหรอ ผมเคยบอกว่ายังไง?” เขาโยนโทรศัพท์มาให้ คงได้เห็นแล้วสินะ...
“แล้วยังไง?” ฉันรออยู่แล้ว
“ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า อย่าให้เป็นข่าว คุณจะหาเรื่องใช่มั้ย?” สีหน้าของเขาโกรธแดง
“ฉันก็บอกแล้วใช่มั้ยว่า ไม่แต่งงาน”
“ทำตัวเป็นผู้หญิงชั้นต่ำ แต่งตัวยั่วผู้ชาย คุณดูคอมเมนต์สิ มีใครชมบ้าง มีแต่จะมาล่อคุณทุกคน”
“ฉันชอบ อยากโดนล่อ” ฉันกวนกลับ
“เอี๊ยด!!” เขาเบรกรถจอดข้างทาง
“อยากโดนล่อ ผมจะล่อคุณในรถนี่แหละ” เขาปลดเข็มขัดนิรภัย
ฉันตกตะลึง…
“จะทำอะไร? อย่าคิดบ้า ๆ นะ” ฉิบหายแล้ว มันเอาจริง
“ผมไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ หรอก” เขาหันมองไปนอกรถ ในค่ายช่วงนี้เป็นป่า ไม่มีคนสัญจร
“ช่วยด้วย...ยย!” ฉันแหกปาก เปิดประตูหนี
“หนีไม่พ้นหรอก มานี่เลย!” เขากระชากกลับเข้าไป แล้วกระชากเสื้อ
“แควก!” เสื้อคลุมสีขาวขาด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ฉันดิ้นเอาตัวรอด รถก็แคบ โดนมันบีบแขนจนเจ็บ
“ผมจะล่อคุณก่อน อยากจะเลิกนักใช่มั้ย?” เขาง้างมือจะตบ
ฉันล้วงหยิบ ปืน .22 จากยกทรง...
“ตบสิ! ตบ!”
“ปัง!” ลูกปืนเฉี่ยวหัวทะลุหลังคา จ่อปืนไปที่ใบหน้าซีดของเขา
“ไอ้เลว! รีบไปเลย” ฉันถีบกระเด็นตกรถ
“แป๊น แป๊น!” รถทหารแล่นมาตามเสียงปืน
“เฮ้อ!” ฉันถอนหายใจยาว โบกมือเรียก...
“ทหาร! มาที่นี่ค่ะ”
“บรื้น!” เจอรี่ขับรถหนีไป
เรื่องมันยังไม่สะเด็ดน้ำ ยังไม่จบ มันค่อย ๆ แสดงสันดานออกมาแล้ว ไปหาหม่าม้าดีกว่าดูสิว่าคนที่ท่านเชียร์นักหนาทำเลวขนาดนี้ ท่านจะว่ายังไง?
..........................................................
ลอบบี้โรงแรม ตานตงอามาเรีย...
โรงแรมนี้ไม่เคยขาดแขกมาพัก ผู้คนเดินกันวุ่นวาย หม่าม้ากับป่ะป๊ายิ้มร่าเมื่อเห็นฉันเดินหน้าคว่ำเข้ามา
“หม่าม้า! ป่ะป๊า! กินข้าวรึยัง?” ฉันทิ้งตัวลงนั่งหน้าหงิก
“เจอรี่ล่ะ?”
“มันยังมาไม่ถึงอีกเหรอ หนูไม่รู้?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ป่ะป๊าหัวเราะร่วน สายตามองมาอย่างเข้าใจ
“แกนี่นับวันยิ่งหยาบคาย พูดถึงเขาดี ๆ สิ” หม่าม้าไม่เคยเข้าใจฉันเลย ท่านเข้าใจแต่ว่าที่ลูกเขยคนโปรดคนเดียว
“หนูไม่เอาลูกปืนยัดปากมัน ก็ดีแค่ไหนแล้ว” ฉันยังเดือด
“ฮ่าฮ่าฮ่า! น่าจะไม่เหลียวหลังแล้วสินะ” ป๊าหัวเราะตาหยี
หม่าม้าหน้าคว่ำ...
“ว่าแต่แกเถอะ ตกลงกันไม่ได้หรือไง? เขาบอกให้ฉันมาจัดงานแต่ง รวบรัดเลยก็ได้ฉันไม่ถือ”
“งานแต่งบ้าบออะไรกัน จัดงานศพสิไม่ว่า” เหนื่อยใจจริง ๆ
“แกก็ยอม ๆ เขาหน่อยเถอะ ลิ้นกับฟัน”
ป่ะป๊ายื่นหน้าเข้ามา...
“หมากับแมวมากกว่ามั้งคุณ ฮ่าฮ่าฮ่า!” ท่านน่ารักกว่าหม่าม้าอีก
“หยุดไปเลยนะ คุณชอบเข้าข้างจนลูกเสียนิสัย” หม่าม้าแหวใส่...
“อย่าไปบังคับลูกอย่างนั้นสิ ลูกอายุเท่าไหร่แล้ว?”
หม่าม้าหันไปจ้องหน้า...
“คุณไม่มีปัญหาทำลูกให้ ฉันก็ต้องหาหลานสิ” ท่านหันไปค้อน ป่ะป๊าก้มหน้าเงียบปาก โดนจี้จุดล่ะสิ
เจอรี่เดินหน้าเครียดเข้ามา...
“เหล่าซือ! คุณป้า! กินข้าวรึยัง?” เขาใบหน้าเครียด ทักทายผู้ใหญ่
“เจอรี่มาแล้วเหรอ? สั่งอะไรมากินก่อนสิ!” ป่ะป๊า ยิ้มชวนคุย
“รบกวนแล้ว! ผมเรียบร้อยมาแล้วครับ” นอบน้อมเชียวนะมึง
หม่าม้าตาเขียวใส่ฉัน...
“แกเป็นอะไร? หน้าเป็นตูดแมวเลย ยิ้มให้เขาหน่อยสิ”
“เบื่อ! หนูเบื่อมาก หนูจะขอชีวิตของหนูคืน อย่ามายุ่งกับหนูอีก” ฉันแวดใส่
“ทะเลาะกันมาเหรอ? ดีดี! จะได้สนิทกันมากขึ้น” ท่านจะเห็นดีเห็นงามกับเขาไปทุกเรื่องเลยรึไง? ฉันถูกเก็บมาเลี้ยงใช่มั้ย?
“หนูจะไม่แต่งงานแล้วนะ หนูไม่เอาแล้ว พอแล้ว”
“แกก็ใจร้อนตลอด คุยกันดีดีสิ”
“หนูไม่แต่งกับเจอรี่ ชัดมั้ย?” ฉันเหลือบตาไปเห็นเก้อเฉิงเดินเข้ามากับลูกน้อง สงสัยมาตามล่าซอน ทุกอย่างจวนตัวไปหมดบีบเข้ามาอย่างเป็นระบบ
“ไม่ได้นะครับคุณป้า ท่านประธานาธิบดีก็รู้แล้วผมจะเสียหาย” ไอ้บ้าเอ๊ย! มึงเสียหายคนเดียวหรือไง? ฉันต้องเต้นยั่วไม่เสียหายรึไงวะ? ยิงหัวแม่งซะก็ดีแล้ว...
“ยังไงกันคุณ! เขารู้แล้วฉันต้องแต่งเหรอ? คุณเสียหายเหรอ?” ฉันอยากเอานิ้วจกตา
“คุณจะทำเป็นเล่นขายของไม่ได้นะ”
“คุณไม่มีศักดิ์ศรีหรือไงผู้หญิงบอกเลิกยังหน้าด้านอยู่ได้”
“คุณป้าดูสิครับ” เขาหันไปฟ้อง
“ไป่ไป๋! แกจะมากไปแล้วนะ พูดจาให้เกียรติกันบ้างสิ ใครสั่งสอนให้เป็นอย่างนี้” ท่านรับลูกทันที นี่แหละ! ถึงไม่อยากอยู่บ้าน
“ม้าก็แต่งเองสิ!”
“เพี๊ยะ!” ใบหน้าฉันสะบัด
“แกจะมากไปแล้วนะ!” ท่านกระชากคอเสื้อ
“ได้ตบหนูแล้ว คงสบายใจแล้วสินะ หนูไปล่ะ! ป๊าขา! หนูไปก่อนนะ” ฉันหมุนตัวเดินหนี
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ!” เจอรี่เดินมากระชากแขน
“อย่ามายุ่ง!” ฉันสะบัด เดินผ่านหน้าโต๊ะของเก้อเฉิง
เขาลุกขึ้นยืน...
“คุณหมอ! คุณป้า! จำผมได้มั้ย? เก้อเฉิงไงครับ” เขายิ้มกว้างสายตากระตือรือร้น ไอ้หนุ่มเอ๊ย! มาผิดจังหวะจริง ๆ
“ตอนนี้ฉันไม่สะดวกคุยนะคะ” หม่าม้าโบกมือ ฉันหยุดเดินต้องข่มใจปรับสีหน้า...
“ขอโทษค่ะ”
“ผมก็ขอโทษครับ” เขายิ้มจ๋อย
เจอรี่ผลักอก...
“คุณถอยไป เสือกไม่เข้าเรื่อง” ...เขาเซถอยไป
“เก้อเฉิง! ขอโทษนะ! ฉันมีปัญหาแล้วค่อยคุยกันนะ” ฉันก้มหัวขอตัว เดินออกมายืนหน้าโรงแรม
เจอรี่เดินมาดึงแขน...
“คุณจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ ผมผิดอะไร?”
พวกเขาเดินตามมายืนล้อมกลางลานบันได ฉันหมดความอดทนแล้ว พอได้แล้ว
“ทำไมจะไม่ได้ คุณผลักฉันต่อหน้าคนมากมาย คุณตวาดแสดงอำนาจ คุณไม่เคยเกรงใจ คุณลวนลามจะข่มขืนฉันด้วย พอใจหรือยัง?”
“ห่ะ!!...” หม้าม่ากับป่ะป๊า ยกมือปิดปาก
ฉันเผ่นหนีออกไปที่ริมแม่น้ำยาลู่ ปล่อยให้เขาคุยเรื่องบ้า ๆ กันเองก็แล้วกัน เรื่องร้ายแรงขนาดนี้ ถ้ายังบังคับฉันอีกจะหายตัวไปเลย ไม่กลับมาให้เห็นหน้าอีกเลย
……………………………………………………………
สะพานขาด...กลางแม่น้ำยาลู่...
ฉันกลับมานั่งมองสายน้ำยาลู่ที่เดิม อากาศเย็นลมแรงดวงอาทิตย์ใกล้ตกดิน หนุ่มสาวเดินหยอกล้อตามสันเขื่อนริมน้ำน่าอิจฉา ชีวิตของฉันค่อย ๆ พังทลายลงไปทุกที เริ่มมีปัญหาพัวพันกับทุกคน ทั้งหมดมาจากการกระทำของตัวเอง นั่งปล่อยใจสำนึกผิดไปกับสายน้ำ แค่ข้ามแม่น้ำนี้ไปก็เข้าเกาหลีเหนือได้แล้ว แต่ถ้าเข้าไปก็คงเสียใจหนักเข้าไปอีก ไม่มีใครต้องการฉันแล้ว /ไม่ข้ามไปหรอก/
“ไป่ไป๋!” ฉันสะดุ้งหันกลับไปมอง
“อ้าว! เก้อเฉิง คุณแอบตามมาเหรอ?”
“ใช่!”
“ทำอย่างนี้ทำไม?” ฉันรู้สึกวืด
“ผมแค่เห็นโอกาสที่จะได้คุยด้วยเลยแอบตามมา ผมจำคุณได้ตั้งนานแล้ว แต่คุณทำเป็นจำผมไม่ได้ รังเกียจผมเหรอครับ?”
“เก้อเฉิง! คุณก็เห็น...ฉันพึ่งจะมีปัญหากับเจอรี่มา คุณจะซ้ำเติมอีกทำไมเหนื่อยใจมาก”
“ขอโทษครับ! อย่ามองว่าผมเป็นศัตรูสิ ผมมาตามหาคนที่เคยบุกเข้าไปช่วยผู้หมวดจางแอนนาในกองพัน ได้ข่าวว่ามันอยู่แถว ๆ นี้” เขานั่งลงข้าง ๆ มองข้ามฝั่งน้ำไป
“คุณจะตามมาฆ่าเขาเหรอ? คุณไม่มีคนรักไงถึงได้ใจดำ” ฉันแขวะ
“ถ้ามีคนรักอย่างเจอรี่ ผมเป็นโสดดีกว่า” เขายิ้มกวนใจมาก
“คุณรู้จักเขาเหรอ?”
“ใคร ๆ ก็รู้ว่าคนตระกูลนี้เลวขนาดไหน? พอรู้ว่าคุณจะแต่งงานกับไอ้นั่น ผมสงสารคุณจับใจแต่ก็ไม่รู้จะเตือนยังไง? ยังรักเขาอยู่หรือเปล่าครับ?”
“ไม่ได้รัก ฉันไม่เคยรักมันเลย”
“อ้าวเหรอ?”
“คุณมีครอบครัวหรือยัง?” ฉันไม่อยากคุยเรื่องเจอรี่
“โสดครับ ที่บ้านมีพี่น้องหลายคน ผมต้องส่งเสียพวกเขาเรียน มีแฟนไม่ได้ เงินไม่พอเลี้ยงเธอครับ”
“น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย” ฉันชอบที่เขาใจดี
“ก็รักสิครับ รักผมได้นะ”
“ขอบใจ! ไม่เอาค่ะ ตามฉันมามีปัญหาอะไรหรือเปล่า? อย่าบอกนะว่าจะมาจีบอีกคน” แปลกใจกับสายตาที่มองมา
“ผมเห็นคุณในคลิป ใจสั่นหมดเลย กล้าจังเนอะ?” เขายิ้มตาเชื่อม อย่ามาพูดเหลวไหลนะ //อายฉิบหาย//
ฉันเปลี่ยนเรื่องคุย...
“คุณหายดีแล้วใช่มั้ยไม่มีผลข้างเคียงอะไรใช่ไหม?”
“ผมซึ้งใจกับครอบครัวของคุณ ทุกคนทุ่มเททำงานอาสาโดยไม่หวังผลตอบแทน ผมแปลกใจมากที่เจอคุณครั้งแรกในห้องประชุม คุณก้าวเข้าเขตความตายมาได้ยังไง?”
“ถ้าฉันหนี คุณจะฆ่าฉันไหม?”
“หนักใจเหมือนกัน อย่าหนีเลยคุณก็ทำงานของคุณไป ผมจะคอยดูแลไม่ให้ใครรังแกคุณ ผมสัญญา”
“แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว วันนี้อารมณ์เสียทั้งวัน คุณทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก”
“ระวังตัวดี ๆ นะครับ มันคงไม่รามือง่าย ๆ”
“พวกเขาจะข้ามไปถล่มเกาหลีวันไหนคะ?”
“เร็ว ๆ นี้มั้งครับ ผู้พันเสี่ยวปังเรียกแถวทหารอยู่ 2 - 3 วันมาแล้ว”
“ทำไมทหารต้องเที่ยวรุกรานชาวบ้านด้วย ไม่คิดถึงใจเขาใจเราบ้างเลยเหรอคะ?” ฉันขัดใจจริง ๆ หน้านิ่วหันไปมอง
“ผมเคยบอกแล้วว่าคุณมีปัญหากับทหาร มีจริง ๆ ด้วยใช่มั้ย? ฮ่าฮ่าฮ่า!”เขาเคยบอกไว้เมื่อตอนที่ยังป่วย
“เกาหลีก็อยู่เงียบ ๆ ไม่ได้มายุ่งกับเรา จะไปรุกรานทำไม?”
“เฮ้อ! ผมเป็นทหาร นายสั่งก็ต้องทำ บุกเกาหลีไม่ง่ายหรอก ที่นั่นมีทหารเก่ง ๆ เยอะ ผมส่งลูกน้องมือดีเข้าไป ตายหมดเลย”
“ถามหน่อยสิ! ทำไมไม่เคยเห็นผู้บัญชาการหน่วยงานอื่นเข้ามาประชุมด้วยเลย มีแต่พวกคุณ”
“ตัวแปรสำคัญคือเสียงนกหวีดครับ พวกเราทำงานกันแค่กลุ่มเล็ก ๆ กับทหารแค่ 5 กองร้อย ที่ท่านประธานาธิบดีต้องการวัคซีนก็เพราะทหารร่อยหลอลงทุกวัน”
“อ๋อ! ทหารจีนส่วนใหญ่ ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอกหรือ? คุณยังคงเชื่อว่า คุณทำถูกใช่มั้ย? คุณไม่สงสารคนบ้างเหรอ?”
“ผมเป็นทหารต้องทำตามคำสั่ง ถูกหรือผิดไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องคำนึง เป้าหมายคือสิ่งที่ต้องทำครับ ถึงต้องตายก็ถือว่าเป็นหน้าที่ครับ”
“คุณจะไปไหนต่อ ฉันขอตัวก่อนจะกลับเข้ากองพันสักหน่อย” ฉันส่งข้อความไปหาซอนให้เขาออกมาพบข้างนอก คิดถึงน้องแทนไปอยู่กับเด็กดีกว่าหัวใจจะได้ปลอดโปร่ง
“ผมจะไปเฝ้าแถวโรงแรม เผื่อเจอ”
“โอเค! แยกย้ายนะคะ ขอบคุณมากที่เอ็นดูฉัน” ฉันยิ้มขอบคุณ
“ผมรักคุณเลยแหละ ผมชอบคุณจริง ๆ นะ”
ฉันหุบยิ้มแยกเขี้ยว...
“อย่านะ! เป็นเพื่อนกันนะ ฉันจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณเลย” ฉันรีบโบกมือลา อย่ามาคิดกับฉันเรื่องนี้เลย ฉันขอร้อง
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ผมพูดจริงนะ ขอบคุณมากที่เคยร้องเพลงให้ฟังและดูแลผมจนหายดี” เขาโบกมือให้
ตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือพาพี่สาวหนีออกจากเงื้อมมือของมัจจุราชให้ได้ก่อน เรื่องอื่นยังมีเวลาแก้ตัว เกาหลีเหนือต้องหาทางช่วยตัวเองเพราะไม่รู้จะส่งข่าวให้พวกเขาได้ยังไง ไปหาน้องแทนก่อนดีกว่า ต้องพาน้องไปฝากที่โบสถ์
......................................................................
หิมะโปรยปราย สายลมเย็นจับขั้วหัวใจ ภารกิจสำคัญการพาหมวดจางหนีออกมาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การจะให้ซอนเอาลูกไปฝากที่โบสถ์ยากยิ่งกว่า...
“เธอจะบ้าหรือไง?” เขาอึดอัดใจส่ายหน้า แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธคำสั่งเมีย
“มันเป็นแผนการ” ฉันคอยปลอบประโลม
“คิดอะไรก็ไม่เคยบอกคนอื่น จะเอาลูกมาไว้ที่นี่ทำไมผมหนีไปกับลูกก็ได้” เขาบ่นกะปอดกะแปด
“คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าแม่ใหญ่วางแผนเก่งแค่ไหน เราก็เคยอึ้งกันมาแล้ว” ฉันตบไหล่เตือนความจำ
“แต่ผมเป็นผู้ชายนะ”
“ก็จริง! ทหารในค่ายก็ผู้ชาย เยอะกว่าคุณอีก” ฉันหมั่นไส้ เดี๋ยวให้หมวดจางบ้องหูสักที
“เอี๊ยด!” ซอนขับรถเข้าเทียบหน้าโบสถ์ดวงชะตาแห่งความหวัง อาคารสีเหลืองอ่อนตัดกับสีเขียวของร่มไม้ใหญ่ แผ่ปกคลุมรอบบริเวณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของทุกศาสนา มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือความเงียบสงบร่มรื่นและสบายใจ
“เฮ้อ!” สายตาของซอนเศร้ามาก
เขาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่ามาตลอดทาง แอบน้ำตาไหลเป็นระยะ ฉันเข้าใจหัวอกของเขา ผู้เป็นพ่อไม่มีใครหรอกที่อยากจะเอาลูกของตัวเองมาฝากไว้กับคนอื่น
“เฮ้อ!” เขานั่งถอนหายใจไม่ยอมลงจากรถยนต์ น้องแทนแหงนหน้ามองแล้วทำตาม...
“เฮ้อ!”
ซอนมองไปที่เด็กชายหญิงวิ่งเล่นกันที่ลานด้านหน้าโบสถ์แล้วกอดลูกชายแน่น เอ่ยเสียงเบาบาง...
“ผมทำไม่ได้! เอาน้องมาฝากที่นี่ไม่ได้ ผมจะเข้าไปกองพันอีกครั้ง ครอบครัวของเราไม่จำเป็นต้องเสียสละใครทั้งสิ้น ผมทิ้งหมวดจางไม่ได้ จะกลับไปอีกครั้ง” เขาบอกเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอ
ฉันสะท้อนใจเมื่อมองหน้าน้องแทน เขายังเด็กไม่รู้เรื่องราวอะไร
“แค่ฝากชั่วคราว หนูก็อยู่ด้วย คุณอย่าทำให้ใจเสียสิ อย่าตีโพยตีพาย อย่าดรามา”
เขาเปิดประตูรถยนต์น้องแทนกระโดดลงวิ่งหายไป ฉันชะเง้อมองตามน้องวิ่งอ้อมหลังรถยนต์มาเปิดประตูให้ฉันนี่เอง...
“ไป๋! ลงมา” สายตาบ้องแบ๊วยิ้มยื่นมือมารับ
ซอนหันมาบอก...
"ผมไปโทรศัพท์หาหลงซันก่อนนะ ปล่อยหมวดจางไว้คนเดียวไม่ได้หรอก ผมไม่ยอมหนีไปคนเดียวแน่” เขาเดินไปนั่งม้ายาวใต้ต้นชัยพฤกษ์ดอกเป็นพวงเหลืองอร่าม
น้องแทนดึงมือ...
“ไป๋! ไปเล่นกับเพื่อนกัน” เขาจูงมือเดินลิ่วเข้าไปหากลุ่มเด็ก
แม่ชีสาววัยรุ่นแก้มขาวเนียน รูปร่างอ้อนแอ้นสวมเสื้อขาวกระโปรงเทายาวดูสะอาดตาเดินออกมาจากมุมโบสถ์ อมยิ้มดวงตาฉายแววใจดีอายุราว 16 -17 ปี ...
“หนีห่าว! ซิสเตอร์”
“คะ! มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ? ” เธอยิ้มเดินเข้ามา รูปร่างสูงพอ ๆกับนาตาลี มาถึงก็นั่งยองคุยกับน้องแทน...
“มากับคุณแม่เหรอคับ? น้องชายชื่ออะไรคับ?” เธอหยิกแก้มเจ้าหัวฟูยิ้มฟันขาว
“น้องแทนคับ!” เขายืดอกบอกเสียงดัง น้องแทนไม่กลัวคนอยู่แล้วเธอชอบใจขยับเข้ากอด
“หอมแก้มได้ไหม?” น้องแทนยิ้มตาหยีจ้องแก้มสาวสวย
“ได้สิคะ!” เธอเอียงแก้มให้น้องแทนหอมสุดใจตัวสั่น เจ้าชู้นะเนี่ย
ฉันขยับยิ้มเข้าหา...
“ซิสเตอร์คะ! ที่โบสถ์นี้มีเด็กหลายคนไหมคะ?” สายตามองไปที่เด็กชายหญิงวิ่งเล่นกันในสนาม
ถ้าให้น้องมาอยู่ที่นี่ตลอดไปฉันก็ไม่ยอม เอากลับไปเลี้ยงเองดีกว่า เงินทองของฉันก็มีมากมายเหลือจะใช้ เลี้ยงน้องได้สบาย ๆ
“13 คนค่ะ รวมหนูด้วย” เธอบอกแล้วดึงน้องแทนเดินไปเข้ากลุ่ม
“อ้าว! หนูก็..” ฉันเก้อ
“ค่ะ!” เธอพยักหน้า
“ขอโทษนะ!” ฉันเอามือแตะไหล่เธอ
“ไม่เป็นไรค่ะหนูเข้าใจ เพราะหนูโตเป็นสาวแล้วยังไม่ออกไปจากโบสถ์หางานทำเหมือนคนอื่น คนที่เข้ามา...จะมองหนูด้วยสายตาดูถูกดูแคลน เดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ!” เธอยิ้มใสซื่อ
ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ไม่ได้คิดดูถูกเธอ ขยับจะถามต่อ...
“Rrrr!!!” โทรศัพท์ของฉันดังขัดจังหวะ
“เหวย! หนีห่าว! นี่เป็นเสียงตอบรับอัตโนมัติ กรุณาเลือกกดเลขหมายตามรายการ กด1! โทรมาเพราะคิดถึง อยากคุยด้วย กด2! โทรมาเพราะมีเรื่องอยากระบาย หาเพื่อนคุย กด3! โทรมาติดต่อเรื่องงานอื่น ๆ กดวางสาย! ถ้าจะโทรมาด่า ถ้าอยากฟังซ้ำ กดโทรมาใหม่!”
พอสิ้นเสียงของฉันเท่านั้นแหละ...
“ทำไมแกทำอย่างนี้ แกจะเนรคุณฉันใช่มั้ย? ฮือฮือ!” หม่าม้าร้องไห้ยกใหญ่
ฉันพอจะเดาออกว่าเรื่องอะไร? ทำไมเรื่องที่ทำแต่ละเรื่อง มันถึงบานปลายใหญ่โต กระทบคนอื่นไปหมด คราวนี้เป็นหม่าม้าร้องไห้ นรกกินกบาล โอ๊ย!หัวจะปวด
“แกถ่ายคลิปบ้าอะไรของแก ทำไมไม่แก้ผ้าไปเลยล่ะ เสียชื่อเสียงหมด”
“หนูตั้งใจ หนูไม่อยากแต่งงาน”
“เจอรี่! บอกเลิกคบแกกับฉันแล้วนะ ถ้าไม่อยากแต่งงานกลับมาบ้านเถอะ ฉันจะไม่บังคับแกอีกแล้ว” ท่านเสียงสั่นยังร้องไห้สะอื้นไม่หยุด
“ดีแล้วล่ะ จะได้จบ ๆ ไปช่างมันเถอะ ม้าเป็นอะไรมากรึป่าว?” ฉันโล่งอก หายใจคล่องที่เรื่องเจอรี่จบไปสักที
“แกคิดอะไรของแก ทำอย่างนี้ฉันก็ไม่ได้อุ้มหลานสักที ทั้งอายทั้งเสียหน้า” น้ำเสียงของท่านกังวล
“คนเลวแบบนั้นให้มันไปไกล ๆ เถอะ อย่าเสียน้ำตาให้มันเลย”
“แกนี่ ไม่รู้จะดื้อไปถึงไหน? ฉันไม่ได้เลี้ยงแกมาอย่างนี้นะ”
ต้องบอกให้ท่านสบายใจก่อน ฉันไม่อยากเป็นคนอกตัญญู…
“หนูมีข่าวดี ดีมากที่สุดในโลกเลย”
“ไม่มีอีกแล้ว ข่าวดีจากแก” ท่านเสียงเขียว
“แทน! กลับมาแล้ว แทน! ยังไม่ตายค่ะหม่าม้า ฮือฮือ!” ฉันจุกอกคราวนี้ร้องไห้ซะเอง มันเป็นน้ำตาของความสุขความตื้นตัน ไหลพรั่งพรูด้วยความดีใจ
“จริงเหรอ? เป็นไปไม่ได้ คนตายไปแล้วจะฟื้นมาได้ยังไง? ฉันไม่อยากเชื่อ!” ท่านเสียงสูง
“จริงสิ! เขายังไม่ตาย”
“แล้วเขาอยู่ที่ไหน?”
“เกาหลีเหนือ ตอนนี้เขาโกรธหนู ไม่ยอมคุยด้วย”
“อ้าวไม่ได้เจอกันตั้งนานจะมาโกรธแกได้ยังไง?”
“ก็เรื่องไอ้เจอรี่นี่แหละ”
“อ๋อ! เรื่องเป็นอย่างนี้นี่เอง แกใจร้ายมากเลยนะ ยัย!เด็กขี้โกง ใครเขาสั่งสอนให้เป็นคนอย่างนี้ แล้วแกเจอนาตาลีหรือยัง? ฉันต้องขอโทษเธอด้วย” หม่าม้าน้ำเสียงเปลี่ยนไป
“เจอแล้ว! อยู่เกาหลีเหนือกับแทน เป็นเมียเขาไปแล้ว” ฉันพยายามเก็บอาการ ไม่อยากให้ท่านต้องกังวล
“อ้าว! แล้วแกล่ะ?”
“หนูจะกลับไปอยู่บ้านนะคะ กลับไปช่วยอาหงส์ขายเสื้อปรับปรุงร้านใหม่” ทางเดียวที่จะรอดจากความเศร้า ต้องรีบลืม
“มั่นใจไหมลูก?” น้ำเสียงที่ห่วงใยกระชากใจฉันพังทลาย
“ไม่เลย หนูไม่โอเคเลย ฮือฮือ! หนูคิดถึง ” ความพยายามที่อดทนมาพังทลายลง
“ร้องไห้ได้เลย มันสมควรแล้วที่แกจะร้องไห้ เรากลับมาเริ่มต้นกันใหม่นะ เดี๋ยวฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อน” ท่านน่าจะรับรู้ได้ ท่านไปกับฉันที่ตำหนักหวนคืนตั้งหลายครั้ง
“หนูขอทำธุระอีกอย่างนะคะ แล้วหนูจะกลับไปหา” สุดท้ายฉันก็ต้องกลับบ้าน เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไม่มีเพื่อนกลุ่มเดิม
“แกต้องหาเพื่อนคุยนะ กินยาให้ตรงเวลา อย่าลืมนะ”
ซอนเดินกลับมาพอดี
“หม่าม้าขา! แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวโทรหาใหม่” ฉันตัดบทแล้วยิ้มให้ซอน
“มีอะไรให้ดีใจเหรอ? ท่าทางสบายใจเชียว” สายตาของเขาสบายใจขึ้น ซอนถึงจะอายุมากก็ยังหล่อเหมือนเดิม ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้าม
“หม่าม้า! โทรมา จบปัญหาเรื่องเจอรี่แล้ว”
“หม่าม้าเหรอ?” เขายิ้มกว้างพยักหน้า หันมองไปที่สนาม น้องแทนกำลังสไลด์ลงจากกระดานลื่นกับเพื่อน ๆ
“ไปหาน้องกันดีกว่า” ซอนเดินไป ฉันกระโดดตาม ซิสเตอร์สาวน้อยคอยดูแลเด็ก ๆ
เธอหันมามองซอนแล้วขมวดคิ้วยกมือขึ้นปิดปาก เดินปรี่เข้ามาหาซอนแล้วโค้งศีรษะอย่างสุภาพ...
“หนีห่าว!!” ท่าทางของหญิงสาวน่าประทับใจ ดูนอบน้อม กิริยาท่าทางเรียบร้อย ยิ้มกว้างประกายตาดีใจสุด...
“คุณลุงจำหนูได้ไหมคะ?” เธอเปิดผ้าคลุมหัวให้เห็นดวงตาใสซื่อใบหน้าของสาวเกาหลีชัด ๆ
ซอนยิ้มแก้มบุ๋มกะพริบตาถี่มองหญิงสาว แล้วส่ายหน้า...
“จำไม่ได้ครับซิสเตอร์! เรารู้จักกันเหรอ?” ซอนพูดจีนเก่งมาก ยิ้มตาใสเอามือกุมเป้านอบน้อม
“5 ปีมาแล้ว...คุณลุงกับผู้หญิงสวย ๆ อีกคนหนึ่ง แล้วก็...พัคอนนี่ เอ่อ!..นาตาลี พัคเป็นคนพาหนูกับน้องชายมาอยู่ที่นี่ค่ะ”
“หือ!” ซอนยืนมองใบหน้าของเธออย่างพิจารณา
“หนูไม่เคยลืมใบหน้าของพวกคุณลุงเลย เมื่อกี๊!ตอนเห็นครั้งแรก ใบหน้าของคุณลุงเหมือนที่หนูฝันเห็นเลย หนูอยากเจอกับทุกคนและอยากเจอกับนาตาลีพัคอีกสักครั้ง หนูจะขอบคุณทุกคน” เธอพูดจาเรียบร้อยชวนฟัง
“อ๋อ! จำได้แล้ว! โตเป็นสาวแล้วสวยมากเลยนะ ไม่เหลือเค้าลางเด็กมอมแมมขี้ขโมยเลย” ซอน แววตาประกายสายตาดีใจ
“เธอชื่ออะไร? จำไม่ได้แล้ว” เขายิ่งคุยกัน ฉันยิ่งแปลกใจ
“ซูมิน! อี! ซู! มิน!”
“ใช่แล้ว! อีซูมิน” ซอนยิ้มตาปิดเลย
“นาตาลีพัค! ไม่มาด้วยเหรอคะ?”
“เธออยู่พยองยาง” สายตาของซอนภูมิใจในตัวเด็กสาว
“ไปได้ยังไงคะ? อันตรายจะตาย”
ซอนหันมาหาฉัน...
“ไป่ไป๋มานี่! ลูกสาวของนาตาลีมารู้จักกันไว้” เขากวักมือ
อีซูมินหน้าแดง เธอหน้าตาสวยแบบคนเกาหลีผิวขาวผ่อง ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาพูดเรื่องอะไรกัน เดินยิ้มเข้าไปหา
ซอนหันไปหา อีซูมิน...
“รู้จักพี่สาวคนนี้ไว้ เพื่อนรักของนาตาลีชื่อ ไป่ไป๋”
หญิงสาวโค้งศีรษะยิ้มกว้าง ฉันใจหายแวบที่ได้ยินคำว่าเพื่อนรัก
“อันยองฮาเซโยอีซูมินอิบนิดะ ฝากตัวด้วยนะคะไป่ไป๋อนนี่!” เธอคงคิดว่าฉันเป็นคนเกาหลี ร้องทักด้วยท่าทางกระตือรือร้นดีใจ เดินเข้ามาเกาะแขนอย่างสนิทสนม
“อันยองฮาเซโย! ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันเป็นคนจีนค่ะ” ฉันลูบแขนเธอเบาๆ เธอยิ้มเอียงหัวมาซบไหล่ อ้อนเก่งซะด้วย
“ไป่ไป๋เจี่ยเจี้ย! สวยจังเลย” ดูท่าเธอจะชอบฉันซะแล้ว
ซอนยืนมองหน้าเด็กสาวแล้วยิ้มออก...
“ผมคิดอะไรได้แล้ว ไป่ไป๋อยู่ที่นี่กับน้องแทน ผมจะได้สบายใจทำงานได้สะดวก” ซอนตีปีกดีใจยิ้มกรุ้มกริ่ม
“เจี่ยเจี้ยอยู่กับหนูนะ หนูเล่นเปียโนเก่งจะเล่นให้ฟังทุกวันเลย” เธอยิ้มหวาน
“อืม!” ฉันพยักหน้าเบา ๆ เอาเพลงมาล่อ ฉันยอมอยู่ด้วยก็ได้...
“ฉันไม่มีปัญหา ฉันรออยู่ที่นี่ก็ได้ ไปทำงานที่กองพันก็ไม่ไกลเท่าไหร่?” ฉันหันยิ้มกับเธอ
“มิน! ไปเล่นกันเถอะ” น้องแทนมาคว้าแขนของเธอไป
ซอนยังไม่จบ หันมองตามหลังแม่ชีสาว...
“ผมคิดวิธีพาหมวดจางออกมาได้แล้ว”
“ยังไงเหรอ ลูกพี่?”
“คุณหาโอกาสปั๊มลูกกุญแจห้องขังมาด้วย แล้วเอายาสลบไปให้หมวดจาง บอกเธอว่าผมจะรอหลงซันมาถึง พร้อมเมื่อไหร่ผมจะเข้าไปช่วย” เขาถอนหายใจโล่งอกสายตามีความหวัง เดินไปเล่นม้าหมุนกับลูกชาย ฉันต้องกลับไปเป็นหนอนบ่อนไส้สินะ
.................................................................................หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |