หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 21 พ.ค. 2567 |
พยองยาง
มุมมองสายตา แทน
กุมภาพันธ์ ค.ศ.2026
บ้านบนเกาะคอนยู...
ผมแบกนาตาลีขึ้นหลังมาโยนลงบนเตียง เธอได้กลับมาใช้จิตวิญญาณของชาติกำเนิดอย่างเต็มที่ ชุดฮันบกสีแดงขาวบานเต็มที่นอน ยิ้มร่ากางแขนกว้าง ผมทิ้งตัวลงไปจูบกับปากบางที่เผยอรออยู่แล้ว
หลังจากเยี่ยมทหาร เธอมักจะชวนผมไปเที่ยวบ้านชนบท นั่งแทะปลาเค็มกับดื่มเหล้าต้มมีความสุขท่ามกลางสหายชาวบ้าน เมาแอ๋กลับบ้านทุกวัน ถ้าไม่เมาเธอจะนอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงไป่ไป๋และหมวดจาง
“จูยอนอนนี่ เก่งที่สุดในโลกเลย เธอทำให้ฉันภูมิใจที่ช่วยคนไว้ไม่ผิดตัว รักเธอจัง” นาตาลีนอนตาลอยยิ้มมองเพดาน ผมเองก็ภูมิใจและดีใจที่มีโอกาสได้รู้จักกับจูยอน มีชีวิตมากมายที่ได้รับการปลดปล่อยจากมือที่มองไม่เห็น
ในประเทศที่ไม่มีกลิ่นไอของความกลัวหลงเหลือ ทุกคนต่างก็หัวเราะให้กับความจนอย่างจริงใจ ไม่มีใครบ่นเรื่องการทำมาหากิน ทุกชีวิตเดินเคียงคู่ไปกับธรรมชาติ
“สำหรับผมแล้ว! ถ้าจะให้ศรัทธาใครสักคน นอกจากเจ็ทโด้และพี่ซอนแล้ว คน ๆ นั้นคือจูยอน เด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดมาก” ผมบอกความรู้สึกจากใจ ภูมิใจในตัวของจูยอนไม่น้อยกว่าใคร
นาตาลีพลิกตัวมาหา...
“พวกสหายเกาหลีก็น่ารัก แทนเมารึเปล่า?” เธอนอนพลิกซ้ายขวา หันมาจุ๊บปาก สนุกเธอล่ะ! นาตาลีของผมสนุกกับของเล่นใหม่ทุกวัน ผมไม่ต่างจากตุ๊กตาที่เธอเคยทำหายไป
วันนี้ลองใจเธอเล่นดีกว่า..
“วันนี้เมา นอนดีกว่าเนอะ? ปวดเมื่อยตัวไปหมด ”ผมแกล้งบิดตัวแล้วทิ้งตัวนอนข้าง ๆ
นาตาลีมือเริ่มอยู่ไม่สุขอีกแล้ว...
“เมาก็รู้สึกคึกคึกดีนะคะ สหายครูฝึก!ไม่เสียดายเหรอ? ฉันไม่ได้เมาบ่อย ๆ นา” สายตาเชิญชวนเย้ายวนเร้าอารมณ์ เธอเมาทุกวันยังจะมาบอกว่า ไม่ได้เมาบ่อย...
“ไป่ไป๋! เป็นยังไงบ้างนะ คิดถึงจังเลย ไม่น่าแกล้งเธอแรงอย่างนั้นเลย” สายตาของเธอมองจ้องไปที่เพดาน แสงไฟนวลจับใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอาง สวยงามเหมือนสาวเปรี้ยว
“ผมคิดเรื่องนี้อยู่พอดี” ผมอยากกลับไปหาทางช่วยหมวดจาง ที่เกาหลีเหนือไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว หวังฉวนคงขยาดจูยอนไปอีกนาน
“ฉันรักไป่ไป๋มากที่สุดเลย รักมากกว่ารักคุณอีกนะ คิดถึงมากด้วย โดนลงโทษคราวนี้ คงเข็ดอีกนาน” เธอยิ้มพยักหน้า
“รักแล้วแกล้งกันขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณก็มีมุมใจร้ายเหมือนกันนะดอกเตอร์นาตาลี” ถ้าเรื่องไม่ถูกเฉลยออกมาก่อน ผมคงไม่มองหน้าไป่ไป๋อีกเลยคงสาปส่งกันไปตลอดชีวิต
“แค่อยากจะดัดนิสัย เธอจะได้เป็นผู้ใหญ่เสียทีฉันเสียใจมากเลยนะ และก็ดีใจมากที่เธอกลับมา ฉันอยากจะกอดเธอจะตายไป รู้งี้เอาตัวมาด้วยก็ดีแล้ว” เธอยิ้มดวงตาเพ้อฝัน
“ถ้าผมไม่ให้อภัยเธอล่ะ? เธอใจร้ายกับผมมาก”
“ไม่ได้นะ คุณจะไม่รักไป่ไป๋ไม่ได้นะ” เธอลุกนั่งหน้าเสีย
“ทำไม? ผมมีสิทธิ์จะรักหรือไม่รักใครก็ได้” ได้ทีแกล้งซะหน่อย
“ก็ฉันรักนี่! นะแทนนะ! อย่าโกรธน้องเลย” เสียงสองมาแล้ว
“ไม่เอา!”
“เอาเถอะ! เชื่อฉันนะ” เธอขยับมากอดเอว
“ไม่เชื่อ!”
“เชื่อสิ! น้องรักคุณมากกว่าฉันอีกนะ น้องทำไปเพราะแค้นใจ เธอคิดถึงคุณทุกวัน ร้องไห้ทุกวัน ความรักของเธอไม่เคยลดลงเลย แน่วแน่กว่าฉันอีก ฉันเองยังลืมคุณไปบ้างแต่ไป่ไป๋ไม่เคยลืมคุณเลยแม้แต่วันเดียว เธอยังคงเชื่อว่าสักวันคุณจะกลับมา” นาตาลีแหงนหน้าอ้อนวอน ตาละห้อย
“งั้นคุณก็รักของคุณไป ผมไม่เอา”
“ไม่เอาจริงเหรอ นมกลมมากผิวก็ขาวอมชมพูไม่มีขนสักเส้น ฉันโคตรอิจฉาเลย คิดแล้วหิว”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!อะไรอีกล่ะเนี่ย รักก็ส่วนรักสิ คุณจะเอาเซ็กซ์มาปนทำไม?”
“แทนน่ะ! เอาสิ! ฉันจะเอาไป่ไป๋มาเป็นเมียคุณด้วย สงสารน้อง”
“คุณก็แปลกคน เที่ยวชวนคนมา ไม่กลัวโดนแย่งเหรอ?”
“ฉันรู้ว่าคุณไม่มีวันทิ้งฉัน และที่ต้องการให้น้องมาเป็นเมียคุณ ฉันมีเหตุผลนะคะ”
“ยังไงครับ?”
“เธอจะได้ไม่หนีไปมีผัวไง ฉันขี้เกียจร้องไห้เหนื่อยฉิบหายเลย” เธอลอยหน้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ผมเดินหนีมายืนหน้ากระจกใหญ่เต็มตัว ตลอดเวลาที่เลวร้าย ช่วงเวลาของการทรมานที่ผ่านมา ผมไม่เคยกล้ายืนหน้ากระจก ไม่กล้ามองหน้าตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดเป็นความแค้น นาตาลีชุบชีวิตใหม่พร้อมมอบความรักมาให้ เธอเปรียบเสมือนนางฟ้า เธอคือสิ่งมหัศจรรย์ของผม
เธอเมาเหล้าจนหน้าตาเลอะเครื่องสำอาง ดวงตาดำเป็นหมีแพนดา แต่งหน้าไม่เป็นก็ยังจะแต่ง เธอสวยแบบธรรมชาติดีกว่าตั้งเยอะ
เธอเดินโซเซเข้ามากอด...
“ผมรักคุณนะ” ผมลูบหัวผู้หญิงที่ผมสามารถตายแทนได้ ลองถามในสิ่งที่ผมคาใจก่อนดีกว่า...
“คุณอยากได้ผู้ชายสองคนหรือเปล่า?” ผมถามดักไว้ก่อน เธอยิ่งคิดไม่เหมือนชาวบ้าน เรื่องนี้ผมติดไม่น่าจะยอมรับได้ประสบการณ์ของผม...ไม่ถึง
“ได้ป่ะล่ะ? หมวดจางบอกหลาย ๆ คนมันดี” เธออายมุดหน้ามาที่รักแร้ เรื่องทะลึ่งนี่...เห็นแววตั้งแต่อยู่ในป่าแล้ว เธอทะลึ่งมากส่วนไป่ไป๋นั้นขี้อาย
“เอาสิ Soulless เยอะเลยไปเลือกเอาได้วันละ 30 นาที ไม่ต้องผูกพัน”
“นี่แน่ะ!” เธอกัดที่หัวนม...
“โอ๊ย!เล่นอย่างนี้ ผมจะกัดคุณบ้างนะ” ผมจับใบหน้าของเธอบีบจนปากจู๋
“หล่อใหญ่แล้วนะ” เธอเขย่งขาขึ้นมาโน้มคอผมลง บดขยี้ริมฝีปากอย่างนุ่มนวล
ผมปลดชุดของเธอออกเหลือเพียงชั้นในลูกไม้สีฟ้าสดใส หันมองภาพสะท้อนในกระจกแล้วยิ้มสุขใจ ความสูงของเธออยู่ในระดับคางของผม ใบหน้าขาวสวยผมยาวสลวยถึงกลางหลัง รอยยิ้มกว้างกับสายตาเป็นประกายไปด้วยความเร่าร้อน
หน้าอกตูมล้นฝ่ามือ เอวโค้งเว้าดั่งนาฬิกาทรายหน้าท้องขึ้นลอนกล้ามไร้ไขมัน ยกแขนคล้องคอผมแล้วเอื้อนเอ่ย...
“กลับไปช่วยซอนกับหมวดจางกัน ดีไหมคะ? ปล่อยให้เจ็ทโด้อยู่ที่นี่กับจูยอนแหละ” เธอหันมาถาม
ผมยิ้มมองก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำลงอ่างใหญ่ให้เธอนอนแช่ให้หายเมา ยังไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลอะไรไปขอเจ็ทโด้อีก ก็เขาบอกว่า จะไปช่วยเอง
นาตาลีเดินตามเข้ามา...
“ฉันไม่สบายใจทุกครั้งที่เห็น Soulless ฉันยังคิดจะเอาวัคซีนไปฉีดช่วยคนอยู่นะ” สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นจริงจังอีกครั้ง
“เราสองคนแก่ตายก็ทำไม่หมด คุณมีเวลาแค่ 5 ปี ผมว่า ไม่ทันหรอก เวลาของพวกเขาเหลือน้อยลงทุกวัน” ผมเห็นแย้ง แอบคิดในใจ... ปล่อยให้ตายไปเถอะ ความรู้สึกส่วนตัวของผมก็คิดคล้าย ๆ กับจูยอน ผมเกลียดเจ้าหน้าที่รัฐ
“คุณไม่คิดจะกลับไปช่วยเพื่อนร่วมชาติเลยเหรอ?” เธอมองอย่างตำหนิ
“คิดสิ แต่ผมยังไม่พร้อม”
จูยอนก็พูดถูก มนุษย์ยุคปัจจุบันมีแต่แนวคิดที่แก่งแย่งและทำลายล้างกัน ปล่อยให้ตายไปมาก ๆ ก็ดี ธรรมชาติจะได้พักผ่อนและฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาใหม่ ผมเริ่มมองในมุมเดียวกับเธอ จะพัฒนาความเจริญทางวัตถุไปทำไม ถ้าต้องทำลายโลก
“เราก็ทำเท่าที่ทำได้ฉันยอมให้จูยอนคนเดียวพอแล้ว เรากลับไปช่วยหมวดจางแล้วไปช่วย Soulless กันดีกว่า ฉันพักมานานแล้วหนีเจ็ทโด้ไปก็ได้ ถ้ารอเขาคงอีกนาน” เธอยังมุ่งมั่นเหมือนเดิม หย่อนเท้าลงอ่างอาบน้ำ แต่ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ ผมทรยศเขาไม่ได้
“คุณไม่ได้เห็นด้วยกับจูยอนหรอกหรือ?” ผมก้าวลงไปนั่งพิงอ่างอาบน้ำกลม ยกเท้าของเธอมาบีบไล่ความล้า
“ไม่เลย! ฉันเป็นคนทำวัคซีนขึ้นมา ฉันไม่ได้ต้องการจะฆ่าเพื่อนมนุษย์ ฉันจะแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง หมวดจางช่วยฉันได้อยู่แล้ว”เธอโผเข้ามาจ้องหน้า สายตาเหมือนจะบอกว่า นายต้องไปกับฉันนะ
“งั้น! พรุ่งนี้เราบอกพี่ทั้งสองคนแล้วไปหาไป่ไป๋กัน” ในใจของผมเต้นรัวรู้ตัวว่า โดนด่าแน่ ผมไม่อยากขัดใจพี่ชาย ไม่อยากหาเรื่องให้เขาเดือดร้อนอีก เขาบอกให้รอก็ต้องรอแต่ในใจผมก็ร้อน เพราะเป็นห่วงหมวดจางและไป่ไป๋
ปรับความคิดตัวเองไม่ถูกเลย เพิ่งจะช่วยจูยอนถล่มเกาหลีเหนือซะยับเยินแสดงบทเป็นผู้ทำลายไปหยก ๆ จะต้องไปแสดงบทเป็นพระเอก กู้ชีพพวก Soulless ที่หวังฉวนมันเป่านกหวีดไว้อีกแล้วเหรอ?
มึนหัวไปหมด เป็นคนดีนี่มันเหนื่อยจริง ๆ ถึงผมจะไม่เห็นด้วยกับนาตาลี ผมก็ต้องทำ
“แทนขา! เรื่องของจูยอนก็ส่วนของเธอ เรื่องของฉันก็ส่วนของฉัน เกาหลีเหนือไม่เป็นอะไรหรอก พวกเขารอดตายมากกว่าแต่ชาติอื่นจะโดนจีนกลืนกินหมดนะคะ กลับไปช่วยบ้านคุณก่อนก็ได้”
“เอางั้นเหรอ?” ในใจลึก ๆ ก็อยากกลับไปช่วย
“อย่าลืมนะคะ ยังมีคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนที่รอดอีกมาก พวกนั้นจะโดนฆ่าเมื่อคนจีนอพยพเข้าไป คนจีนใจร้ายมาตลอดนะคะ ยามปรกติพวกเขาก็รุกรานคนอื่นอยู่แล้ว หลายประเทศยากจนลงเพราะพึ่งพาจีน”
เธอเข้ามากอดอ้อนโน้มน้าวให้เห็นด้วย น้ำในอ่างเริ่มเต็มควันกรุ่นลอยเต็มห้อง ฝ้าขึ้นกระจกขาวไปหมด
“ฉันไม่ได้ยอมรับในสิ่งที่เธอทำหรอกนะ แต่ฉันยอมรับจิตใจที่ยึดมั่นในเป้าหมายและกัดไม่ปล่อย รอคอยทำมันจนสำเร็จ เด็ดเดี่ยวจริง ๆ แต่ไม่ชอบสายโหดของเธอ” เธอวักน้ำล้างหน้าไปด้วย
ผมอยู่ในเหตุการณ์นั้น ขนาดผมเป็นผู้ชายที่ถูกฝึกมาเพื่อฆ่าคนยังใจหวั่นเมื่ออยู่ท่ามกลางกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ของเกาหลีเหนือในวันนั้น
" จิตใจที่เอื้อเฟื้อเมื่อได้รับชัยชนะนั้นอีกที่น่าชื่นชม เธอเลี้ยงดูผู้แพ้อย่างดี เธอเป็นคนที่มีพื้นฐานจิตใจดีมากกว่าหวังฉวน เป้าหมายของทั้งสองคนไม่เหมือนกัน เกาหลีปลอดภัยแล้ว เราไปช่วยชาติอื่นกันดีกว่า” เธอพูดมาก็ใช่ แต่ประเทศเหล่านั้นไม่ได้มีความหมายกับผม ตายก็ตายไปสิ เรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับผมสักหน่อย
“คุณจะเริ่มจากอะไรก่อน?” ผมวักน้ำล้างหน้า
“ไปช่วยหมวดจางก่อน ฉันต้องการตัวเธอ”
“ผมยังคิดไม่ออกจะบอกเจ็ทโด้ยังไงเลย เขาบอกให้รอ”
“บอกตรง ๆ อกจะแตกอยู่แล้ว ยิ่งช้า เธอต้องทรมานไปเรื่อย”
“แต่เจ็ทโด้...” ผมไม่อยากขัดใจพี่ชาย
“คุณจะไม่ช่วยใช่มั้ยล่ะ แหม!!!!ทีกับคนอื่น..” โอยจี๊ดเลย เดี๋ยวนี้พูดจิกใจเป็นด้วย เธอหน้ามุ่ยตีน้ำ
ผมต้องรีบตอบ...
“ไม่ช่วยได้ยังไงล่ะ! ผมเป็นลูกน้องคุณนะซาจังนีม!” ผมยืดอกทำความเคารพ
เธอยิ้มหวานพุ่งตัวมาทับ น้ำกระเพื่อม...
“รักคุณที่สุดเลย รู้อยู่แล้วว่าคุณใจดี” เธอก้มมาจูบอย่างแผ่วเบาก่อนจะเปลี่ยนเป็นร้อนแรง มือเริ่มป้วนเปี้ยนที่น้องชายของผม
“พรุ่งนี้ไปเลยนะ ปล่อยไว้นานหมวดจางจะโดนฆ่าเสียก่อน เอาตัวไป่ไป๋กลับมาด้วย”เธอบอกแล้วเอาใบหน้ามาซุกไซร้
ผมพยักหน้ารับทราบอย่างไม่มั่นใจ ปล่อยให้เธอทำตามใจต้องการ กว่าจะได้นอนก็ต้องออกกำลังกายกันทุกวัน ไม่น่าพาเธอไปฝึกทหารเลย แข็งแรงฉิบหาย
………………………………………………
พยองอันใต้
บ้านของจูยอน...
เช้าวันต่อมาเราบึ่งรถไปหาจูยอนที่บ้าน เธอทำอาหารด้วยตัวเองให้พวกเรากิน ชี้ชวนให้กินอาหารแปลก ๆ ที่ไม่เคยได้กินมาก่อน นาตาลีเป็นคนเกาหลีก็ไม่เคยรู้จักและกินไม่ได้เหมือนกัน ผมเงยหน้ามองพี่ชาย เดี๋ยวนี้ก็สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข
จูยอนผายมือไปที่อาหารหอมกรุ่นควันฉุย...
“แทน!นาตาลี! เนื้อนกกระจอกเทศผัดซอสเต้าเจี้ยวใส่โคซูจัง ลองดูค่ะ” จูยอนใบหน้าอิ่มเอิบมีน้ำมีนวล เวลายิ้มดวงตาเหมือนพระจันทร์เสี้ยว พวงแก้มแดงระเรื่อ
นาตาลีตักเข้าปากแล้วดีดดิ้นถูกใจ...
“อร่อยอ่ะ! อนนี่เก่งจังเลยสอนฉันด้วยสิ ฉันทำกับข้าวไม่เป็นเลย อยากทำให้แทนกินมั่ง” เธอเคี้ยวตุ้ย
ผมรวบรวมความกล้าหันไปหาเจ็ทโด้...
“พี่!...ผมจะขอไปช่วยหมวดจางก่อนได้มั้ย ผมไม่สบายใจเลย?” ผมยิ้มแหย
“หือ!” ใบหน้าของเขาเครียดขึ้นมาทันที
ผมเริ่มใจไม่ดี มองหน้าเขาด้วยสายตาอ้อนวอน เขาเอานิ้วเคาะโต๊ะสายตาคิดคำนวณ...
“แทน! มึงไปรับไป่ไป๋มาอยู่ที่นี่ก็พอ ไม่ต้องไปสนใจหมวดจาง เดี๋ยว! กูไปช่วยซอนมันเอง ถ้ามึงพลาดเรื่องจะเป็นอย่างอื่น”
“ถ้าไปช้าพี่ซอนไม่รอแน่ เขาเคยบุกเข้าไปแล้วถ้าไป่ไป๋ไม่ช่วยไว้ พี่ซอนก็ตายไปแล้วนะครับ”
“มึงรู้จักไอ้ซอนมันน้อยไป มันถล่มกองพันนั้นได้กูเชื่อมือมัน อย่าลืมสิ! ที่รัฐฉานยังมีลูกน้องอีกเป็นร้อย ถึงเวลามันก็จัดการเองแหละ” เขาพูดด้วยความเชื่อ น้ำเสียงหนักแน่น
“เขาทำอะไรให้พี่โกรธหรือเปล่า? พี่ช้าไม่ได้นะ พี่ไม่รักเขาแล้วเหรอ?” ผมถามเสียงอ่อย
เขาวางช้อน ยืดตัวมองจ้อง...
“กูช่วยพวกมึงมาเยอะแล้ว ยังหาว่ากูไม่รักอีกเหรอ คราวก่อนถ้ากูไม่ไปช่วย พวกมึงตายกันทั้งหมดแล้ว กูต้องสึกจากพระเพราะพวกมึงหาแต่เรื่อง” เขามองหางตาพูดเท้าความหลัง
นาตาลีวางช้อนยกมือ...
“ก็ใช่ไง! ถ้าคุณไม่ไปวันนั้นพวกฉันก็ตาย คราวนี้คุณไม่รีบช่วยอีกพวกฉันก็ตายอีก อยากให้น้อง ๆ ตายกันหมดล่ะสิ! โด่!” เธอย่นจมูก
เจ็ทโด้เหลือบมอง...
“ปากดี! พูดเก่ง! หาแต่เรื่องปวดหัว” เขาบ่นเบา ๆ
นาตาลีตาขวาง...
“อิโด่! พอมีเมียแล้วทิ้งเพื่อนทิ้งน้อง ไม่ใจเลยว่ะ!” เดี๋ยวนี้เธอปากคอเราะร้ายมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” จูยอนหัวเราะลั่น เจ็ทโด้เงยหน้าขึ้นมามองตาขวาง ...
“คราวก่อนที่มันแพ้เพราะต้องคอยระวังความปลอดภัยให้พวกคุณนั่นแหละ พวกคุณเกะกะ ลำพังมันคนเดียวไม่มีทางจับมันได้ง่าย ๆหรอก ต้องใช้คนเป็นสิบถ้าจะสู้กับมัน เชื่อสิว่ามันสองคนผัวเมียเอาตัวรอดได้” เขายังมั่นใจ
นาตาลีหันมองหน้าจูยอน...
“ฉันอยากไปฉีดวัคซีนให้ Soulless ฉันต้องการตัวของหมวดจาง” เธอตาละห้อย
จูยอนยิ้มมุมปาก แต่ทำไมสายตาโหดวะ...
“ระหว่างชีวิต Soulless ทั่วโลก กับชีวิตเดียวของคุณ ฉันเลือกคุณค่ะ ฉันไม่ให้ไป” เธอปิดประตูความหวังใส่หน้า ทำให้เราเครียดขึ้นมา ทั้งสองคนยืนกรานไม่ช่วยและไม่ให้ไปจากเกาหลีเหนือ
นาตาลีหน้ามุ่ยปากจู๋...
“ฉันไม่ห้ามที่คุณเป่านกหวีด คุณก็อย่ามาห้ามที่ฉันจะช่วยคนสิคะ”
“ฉันก็ไม่ห้ามคุณฉีดวัคซีน แต่ฉันไม่ให้คุณไปจากสายตาของฉัน อยู่ที่นี่ปลอดภัยที่สุด” จูยอนนั่งตัวตรงตักอาหารทานไปเรื่อยท่าทางสบายไม่ทุกข์ร้อน
ผมหันมองพี่ชาย...
“พี่ให้ผมไปช่วยพวกนั้นมาเถอะ!” ผมร้อนใจแทนนาตาลี
เขาหันมองหางตา...
“กูไม่ให้มึงไปรับไป่ไป๋แล้ว เรื่องมาก!”
นาตาลีเด้งตาเหลือก...
“อ๊ะ! เปลี่ยนคำพูดไม่ได้สิ พูดแล้วพูดเลยคุณเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ”
“ได้คืบเอาศอก จะเอามั้ยไป่ไป๋น่ะ?”
“เอา ๆ โอเคตกลงตามนั้น” นาตาลีหน้าตูม
“มึงพักนานไปแล้วมั้งแทน? ว่างจัดหรือไงถึงหาเรื่องฟุ้งซ่านขึ้นมาคิดกัน พรุ่งนี้ไปช่วยกูที่ค่ายทหารชินอุยจูก็แล้วกัน จะไปดูฐานยิงขีปนาวุธที่ชายแดนสักหน่อย เสร็จแล้วมึงค่อยข้ามไปรับไป่ไป๋มา” เขาบอกแล้วกินอาหารต่อ
นาตาลีหน้าตูมไม่พอใจ หันมองจูยอน...
“ฉันยังมีหน้าที่ต้องทำ คุณจะมากักขังฉันอย่างนี้ไม่ได้ ฉันไม่ยอม” เธองอแงหาเรื่องจ้องหน้าจูยอน
“อ้าวไม่จบ! นี่จะหาเรื่องกันใช่มั้ยคะ? ฉันไม่ได้กักขังคุณนะแค่ห่วงเรื่องความปลอดภัย” เธอยิ้มใจดีพูดเสียงอ่อนโยน
แต่นาตาลีเครื่องกำลังติด...
“ที่ไหนมันก็อันตรายทั้งนั้นแหละ Soullessพวกนั้นก็หิวข้าวเหมือนกันนะคะ แค่ช้า 1 วันก็หมายถึงพวกเขาต้องล้มตายเพิ่มขึ้นอีกนับร้อยนับพันนะคะ พวกเขาก็ต้องการเวลาเหมือนกัน คนเหล่านั้นก็มีคนรักมีครอบครัวนะคะ” เธอเสียงเริ่มแข็ง
เจ็ทโด้หันมา...
“ผมรู้ว่าคุณจิตใจดีอยากช่วย แต่ต้องไม่เสี่ยงชีวิตตัวเองสิ อย่าคิดบ้า ๆ เหมือนไอ้นี่มัน” น่าน! เขาหันมาชี้ ผมรีบก้มหน้าโดนด่าเลย ผมไม่กล้าเถียงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนาตาลี
“แต่ฉันตั้งใจแล้ว ฉันจะทำและฉันต้องทำให้ได้!!!!” เธอพูดใส่หน้าเขาและจ้องหน้าไม่เกรงกลัวสายตา
เขายืดตัวตรงชี้หน้ากลับ...
“เออ! อยากทำอะไรก็ทำ ทำที่นี่ไม่ให้ไปทำที่อื่น ถ้าเรื่องมากผมจะเอาคุณไปขังที่ค่ายกักกัน ไปอยู่กับ Soulless ก็ละกันปากดีนัก อย่าหาว่าขู่นะถ้ายังไม่เลิกดื้อ...โดนแน่!” เขาขึงขัง จูยอนอมยิ้มเคี้ยวอาหารทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
นาตาลีเชิดหน้าสู้ ผมช่วยลุ้น.../เมียผมฮึดสู้เว้ยเฮ้ย./
“คุณสองคน!...แกล้งฉันตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เลยนะ ฉันไม่รักคุณสองคนแล้วกลับไปหาซอนดีกว่า ซอนดีกว่าคุณเยอะเลย พูดจริง!” เธอหน้าแดงจมูกเชิดรั้น ถึงจะโกรธยังไงก็มีแต่ความน่ารักไม่มีใครกลัวสักคน
จูยอนขยับยิ้มแล้วพูดกับเธอ...
“คุณจะเอามือที่ไหนไปฉีดให้คนตั้ง 7 พันล้านคน คุณมีกี่มือคะนาตาลี?” เธอเอื้อมมากุมมือยิ้มหวาน
แต่นาตาลีงอนจมูกเชิด...
“ไม่ก้าวขาจะรู้ได้อย่างไรว่า ต้องใช้เวลาเดินเท่าไหร่? ให้ฉันได้ก้าวแรกก่อนสิ” เธอก็ใจเด็ด เรื่องงานก็ไม่แพ้ใครเหมือนกันถ้าเธอตั้งใจจะทำก็ไม่เคยล้มเลิก
เจ็ทโด้วางช้อน...
“คุณไปที่ตึกกลม ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ในเมืองนะ ทำวัคซีนที่นี่ให้ได้มากพอที่คุณต้องการ ผมคนนี้!...”เขาเอาตะเกียบชี้ตัวเอง...
“จะขนชาวบ้านใส่เครื่องบินไปช่วยคุณฉีดเอง คุณแค่ผลิตวัคซีนให้มากพอก็แล้วกัน” เขาลุกอ้อมมายื่นมือให้จูยอนจับลุกขึ้นแล้วเดินออกจากบ้านไปพร้อมกันหน้าตาเฉย
นาตาลีตะโกนโวยตามเสียงดังลั่น...
“ย่าห์! ฉันเป็นแขกนะจะเดินหนีอย่างนี้ได้ยังไง ใครจะล้างจาน?”
เขาหันมาตะโกน...
“แทน! มึงรีบไปช่วยกูทำงานดีกว่า ได้ข่าวว่าทหารจับเสือขาวมาได้แล้ว อย่าไปคิดตามเธอมาก สร้างแต่ปัญหา!” เขาสะบัดหน้าออกไป
“ฮึ! ฮึ! ฮึ!” จูยอนหัวเราะคิกโอบเอวเดินไปโรงรถยนต์หน้าบ้าน
นาตาลีหน้าง้ำ ตะโกนโวยเสียงดัง...
“ไอ้เผด็จการ! อนนี่รักคนอย่างนี้ได้ยังไง?” เธอฮึดฮัดหันมา หน้าตาเหมือนเด็กดื้อไม่ยอมแพ้...
“เอายังไงดี! จูยอนโดนผีเผด็จการเข้าสิงไปแล้ว” น่าน! เธอยังจะหันมาชวนผมไปต่ออีก
“เขาก็พูดถูกนะ!” ข้อเสนอของเจ็ทโด้น่าสนใจที่สุด แต่...นาตาลีของผมโกรธไปแล้วหันมามองตาขวาง...
“อ๋อ!เข้าข้างพี่ชาย ฉันไม่รักคุณแล้ว ไปเลยตามไปอยู่ด้วยกันเลย” เธอพาลโวยวายแล้วก้มกินข้าวต่อ
ผมนั่งอมยิ้มมอง...คนที่ชอบอิสระพอโดนบังคับที่ไรได้เรื่องทุกที...
“ไปรับไป่ไป๋มาทำวัคซีนกัน เดี๋ยวผมไปบอกสหายคุณลุงให้หาคนที่พอมีความรู้มาช่วยคุณ เอาอย่างนี้ดีกว่า” ผมแตะมือเบา ๆ เธอพยักหน้ารับ นาตาลีน่ารักตรงนี้แหละไม่เคยโกรธอาฆาตใคร...
“งั้น! ไปหาเจ็ทโด้กัน ให้เขาเอาเครื่องบินไปขนส่วนผสมที่รัฐฉานแล้วไปฉีดให้คนที่บ้านของคุณก่อน” เธอสีหน้าดีขึ้น พึ่งจะด่าเขาไปแหม็บ ๆ ยังจะไปหาเขาอีก นี่แหละ...นาตาลี
“งั้น! วันนี้ไปดูศูนย์วิจัยฯ กัน คืนนี้ค่อยไปชินอุยจูแล้วหาทางไปรับไป่ไป๋กัน”
ผมสงสารไป่ไป๋ที่โดนนาตาลีแกล้งป่านนี้คงร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้ว หลังจากได้รู้ความจริงจากซอน ผมก็หายโกรธและรักเธอมากขึ้นอีกหลายเท่า ในชีวิตของผมไม่เคยมีใครรักมั่นคงได้เท่าเธออีกแล้วจิตใจหนักแน่นซื่อตรงมาก ในมุมกลับกันผมคงทำไม่ได้เช่นกันหัวใจของเธอช่างน่ากราบจริง ๆ
.......................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |