หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 20 พ.ค. 2567 |
เสิ่นหยาง
มุมมองสายตา หมวดจาง แอนนา
มีนาคม ค.ศ.2026
กองพันที่8...
หลังออกจากร้านอาหารในค่าย ทหารทั้งสองนายที่คอยเฝ้าติดตามเดินมาเปิดประตูรถตรวจการณ์ให้ขึ้นนั่งด้านหลัง พวกเขาเริ่มจะเมากรึ่ม ๆ กันแล้ว ขับรถยนต์ผิวปากอย่างสบายใจ
วันนี้ฉันสวมเสื้อวัดใจ เสื้อกล้ามรัดรูปดันหน้าอกตูมล้นออกมายั่วสายตาอย่างตั้งใจ กางเกงขาสั้นจู๋โชว์ขาเรียวผิวขาวผ่อง ยื่นหน้าอกคู่ใหญ่ไปที่ช่องกลางระหว่างเบาะคู่หน้า...
“ก่อนหน้านี้พวกนายประจำการที่ไหนคะ?”
“ฐานยิงขีปนาวุธฉางชุนครับ” คนขับหันมาตอบ
“ทำไมถึงเห็นแต่นายสองคนที่คอยติดตามฉัน”
“มาเป็นทีมครับแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1.ติดตามคนร้าย กลุ่มที่ 2.อยู่ในค่ายนี้ครับรวมถึงผม้วย ผู้กองเก้อเฉิงเป็นผู้นำทีมครับ”
“นายสองคนมาจากที่ไหนกันบ้าง?”
“ผมมาจากกุ้ยโจว ไอ้นี่มาจากปักกิ่ง” คนขับรถยนต์หันมาตอบ
“มีเมียกันรึยัง?”
“โสดทั้งคู่ครับ”คนขับตอบ ไอ้เตี้ยที่นั่งข้างหันมามองบ่อย ๆ สายตาของมันมองต่ำจนเสียวไส้
“ผู้หมวดครับ! ลูกน้องของผู้หมวดคนที่มาวันนี้ สวยเซ็กซี่มากเลยครับ”
“อ๋า! ไป่ไป๋เหรอ?”
“ใช่ ๆ”ทั้งสองหันมาสบตากันแล้วยิ้มกว้าง แสดงว่ามันชอบเธอ
“เธอไม่ชอบคุณหมอ สงสัยจะชอบทหาร”
“จริงเหรอ?”
“เฮ้ย!กูเคยเห็นเธอด่าไอ้หมอนั่นด้วยนะ”
“ติดต่อให้ผมบ้างสิ ผมอยากได้เบอร์ไว้คุย”
“งั้นไปหาที่เงียบ ๆ กินเหล้ากันต่ออีกหน่อยดีกว่า” ฉันยิ้มหวาน อยู่ด้วยกันมาหลายเดือนไม่เคยถามชื่อแซ่เขาเลย
“ผู้หมวดครับ คุณเป็นเชลยนะครับ พาไปกินข้าวนี่ก็เสี่ยงมากแล้วนะครับ” เจ้าคนขับตัวสูงคนขับเหล่ตามามอง ส่วนอีกคนที่นั่งอยู่ข้างตัวเตี้ยกว่า
ฉันก้มลงไประหว่างเบาะยื่นหน้าไปหาเจ้าโย่งคนขับ ยั่วกันซึ่งหน้านี่แหละ...
“เสียดายจัง กำลังคุยกันสนุกเลย ฉันเบื่อนอนอยู่คนเดียว” หน้าอกขาวอูมส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ เจ้าเตี้ยหันหน้ามามองแล้วสูดหายใจลึก...
“อยากไป!” เขาจ้องนมในระยะประชิด ฉันสยองก็ตอนเขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากนี่แหละ สายตาของมันหื่นมากพร้อมผสมพันธ์เต็มที่ ฉันแตะมือทั้งสองคน
“ไปเถอะ! วันนี้อยากกินเหล้า อยากทำอะไรสนุก ๆ” พูดกั๊ก ๆ ให้มันคิดเอาเอง ฉันส่งสายตาเชื่อมสื่อความหมายบางอย่าง
“เอ่อ!” ทั้งสองอึกอัก
“คุยในโกดังก็ได้ ผมไม่ติด”เจ้าคนขับต่อรอง
“ผมเห็นด้วยครับ! ออกไปข้างนอกเดี๋ยวคนเห็น ผมติดคุกหัวโตเลย”
“ในโกดังเหม็นน้ำมันเครื่องรถถังจะตายไป พอเหนื่อยแล้วหายใจไม่ออก”
“หือ! เหนื่อยเลยเหรอ?”เจ้าคนขับแปลความหมายออก หันมามองฉันส่งตาหวานแล้วอมยิ้มพยักหน้า
“อาคัง ลื้อว่ายังไง?” เขาลังเลแล้ว /ได้รู้ชื่อเจ้าตัวเตี้ยแล้ว/
“ผู้หมวดแน่ใจนะครับว่าจะดื่มกับเรา” อาคังยื่นหน้ามาเกือบถึงนม
“ถ้านาย 2 คนกลัว! งั้นกลับเถอะ!” วัดใจกันไปเลย
“อากุ่ย! เอายังไงมึงคิดดี ๆ นะ ไม่เคยมีนายมาตรวจพวกเรานะโว้ย คืนเดียวไม่เป็นไรหรอก เธอก็ไม่มีท่าทีว่าจะหนีสักหน่อย”
“วันนี้ผู้พันเสี่ยวปังก็กำชับมาให้ดูแลใกล้ชิด กูเสียวติดคุกฉิบหายเลย”
“ท่านโทรมาแล้ว วันนี้คงไม่ติดต่อมาแล้วล่ะ”
“มึงว่า ที่ไหนดีล่ะ?” พวกเขาเริ่มเห็นคล้อย ฉันยื่นหน้าปิดการต่อรอง...
“สระที่ท้ายกองพันเป็นไง ไกลคนและก็เงียบดีด้วย”
“กลางสระเลย แจ่ม!” อาคังตีปีก
"บรื้น!" พวกเขาขับรถยนต์เลยโกดังวัคซีนตรงไปด้านหลังทางทิศตะวันออก ผ่านรันเวย์สนามบินทางซ้ายอาคารโรงจอดยานพาหนะต่าง ๆ และอาคารพักอาศัยนายทหารทางด้านขวา
"เอี๊ยด!" รถยนต์เข้าจอดลับตาในซุ้มพุ่มไม้ริมสระด้านหลังกองพัน ศาลากลางน้ำตั้งโดดเดี่ยวไกลหูไกลตาผู้คนอากาศหนาวชาวบ้านเข้านอนกันหมดแล้ว ฉันหันมองรั้วกำแพงสูงของค่าย ถ้าลอดออกไปก็ถึงบ้านของฉันแล้ว
อาคังหันมากะลิ้มกะเหลี่ยเลียริมฝีปาก...
“ไปที่ศาลาดีกว่านะครับ หิมะกำลังโปรยได้บรรยากาศดี”
“นายลงไปดูลาดเลาก่อนสิ!” ฉันทิ้งตัวพิงพนักมองตาม พวกเขายืนคุยกันหน้าเครียดแต่สุดท้ายก็ยิ้มให้กัน สงสัยตกลงกันได้ อาคังวิ่งไปที่ศาลา อากุ่ยเดินกลับมา...
“เชิญครับผู้หมวด!”
“หิ้วเหล้ามาด้วยนะ” ฉันยื่นมือไปให้เขาพยุงตัวลง
อาการหื่นของพวกเขาทำเอาฉันใจสั่นไปด้วย งานนี้อาจจะเปลืองตัวหน่อย ไม่เป็นไร! ไม่ถือ! อิอิอิ!
อาคังจัดแจงสถานที่เรียบร้อย ศาลากลางน้ำเงียบสงบมีเพียงเราสามคน
“เอ้าดื่ม!” หลังจากเหล้าเข้าปากความเกรงใจก็หายไป ฉันชงเหล้าเข้มให้ทั้งสองกิน แตะเนื้อตัวเขาไปเรื่อย ๆ พูดสองแง่สองง่ามชวนสยิว
“ขอคุยเรื่องไป่ไป๋ต่อดีกว่า เธอมาจากที่ไหนครับ?”
“อู่ฮั่น!”
“ถึงว่าสิ! สาวอู่ฮั่นสวยทุกคน” อาคังระริกระรี้ ฉันไม่อยากให้น้องโดนแทะโลมเสียเวลาจัดการด้วย เข้าเรื่องลุยกันเลยดีกว่า
“แล้วปรกติพวกนายไปเที่ยวผู้หญิงที่ไหนกันล่ะ?”
“หลักฮึ้งพาราไดซ์!” อากุ่ยกระดกเหล้า
“อ๋า! ผมทำมือครับ เงินเดือนน้อย” อาคังเสียงอ่อย
“อาคัง! นายชอบผู้หญิงแบบไหน นมใหญ่หรือนมเล็ก เตี้ยหรือสูง”
“ชอบไป่ไป๋ครับ! โคตรน่ากินเลย อิจฉาหมอเจอรี่คงได้กินนมทุกวัน” อาคังดวงตาเชื่อม
“ฉันก็มีไม่แพ้เธอหรอกน่า” ฉันแอ่นอกให้ เจ้าคังคว้าหมับเกือบปัดไม่ทัน
เหลือบมองเวลา 3 ทุ่มใกล้ถึงเวลานัดกับซอนแล้ว ขยับเสื้อให้เห็นหน้าอกมากขึ้นเวลานั่งก็ทำเป็นไม่ระวังให้พวกเขามองลึกเข้ามา ไฟสลัวจากดวงกลมบนหัวไม่สว่างมากนัก ยิ่งทำให้พวกเขาอยากเห็นมันชัดขึ้น ทั้งสองหนุ่มที่ตอนนี้เมาเสียงเปลี่ยนแล้ว
ฉันเอานิ้วชี้ที่หน้าอก...
“กินเหล้าไปเยอะ ๆ ไม่มีกับแกล้มแล้วมีแต่นมนี่แหละ มองเป็นกับแกล้มไปก่อนนะ” ฉันขยับเต้า ทั้งสองจ้องตาเป็นมัน
อากุ่ยคนตัวสูงถึงจะเมาแต่ก็ยังพยายามคุมสติสุภาพ เจ้าตัวเตี้ยดูจะหื่นมาก เอื้อมมือมาลูบหน้าอกฉันบิดตัวหลบแล้วดัดจริตใส่
“อุ้ย! อย่าเพิ่งจับสิ มันเสียว! ดูเฉย ๆ ไปก่อน”
ทั้งสองกินเหล้าเป็นน้ำ อากุ่ยยื่นหน้าเข้ามา...
“ผมขอยกซดได้มั้ย ผู้หมวด?” เขาลูบขา ฉันเสียววาบถึงไส้ติ่ง บ้า! ใจหวิวหมด ของยิ่งขาดนานอยู่ด้วย
“ผู้หมวด! ผมอยากทำมากกว่านี้ ได้มั้ยครับ?” เขาสูดลมหายใจใกล้หน้าอกอูมของฉัน
“อยากกินจัง นมใหญ่มาก” อาคังขยับเข้ามาคว้าหมับเต็มมือ ฉันรีบปัดออก /เผลอไม่ได้เลย /
ฉันต้องรีบฉอเลาะเพื่อคุมเกม...
“เดี๋ยวให้กินนมพร้อมกันได้เลยนะ กินคนละข้าง แต่ฉันแพ้ยุงน่ะสิ” ฉันเล่นเกมลึกเข้าไปทุกขณะ อาคังคว้านมแล้วโถมตัวลงมาหน้าซุกอกอากุ่ยโถมตัวลงมา ไม่รู้มือใครเป็นมือใครบีบนมของฉันระบม เห็นท่าไม่ดีแน่ปล่อยไว้นานเดี๋ยวบานปลาย..
"พวกคุณเริ่มไม่สุภาพแล้วจะสนุกไหมนี่? แทนที่จะทำกันดี ๆ นี่จะข่มขืนกันเลยเหรอ?”
พวกเขาถอยออกไปนั่งกลืนน้ำลาย อาคังสายตาหื่นกดเป้าตัวเอง
“เอาเลยเหอะผมแข็งมาก เกร็งปวดท้องแล้วเนี่ย”
ฉันค่อย ๆ ถอดเสื้อกล้ามออก หน้าอกที่ภาคภูมิใจทะลักขาวล้นยกทรง หันไปยิ้มหวานกับอาคัง...
“ไปก่อไฟไล่ยุงก่อนสิคะ”
“ขอมัดจำก่อนสิ!” มันจ้องจะพุ่งหลาวอย่างเดียวเลย
“อยากแล้วเหรอ? งั้นถอดชุดออกก่อนสิ ขอดูของหน่อย...ใหญ่มั้ย?” ฉันเลียริมฝีปากส่งสายตายั่ว
“ยู้ฮู!” ทั้งสองยิ้มกว้าง รีบถอดชุด เหลือเสื้อกล้ามกับกางเกงใน
“อย่าป๊อดสิคะ! ถอดหมดค่ะ เกะกะ!”
ภายในพริบตาทั้งคู่ก็เปลือยเปล่า ท่อนเอ็นเทอร์โบคู่ตั้งเด่ โอ้แม่เจ้า! มาชี้หน้ากันแบบนี้เลยเหรอ ไม่ดีแน่เดี๋ยวฉันเคลิ้มลุกยืนถอยหลบรัศมีของไอ้โตโน่ก่อน
เจ้าคังยืนแกว่งจะพุ่งเข้ามาอีก ฉันเอามือยันหน้าอกของเขาก่อนที่ไอ้โตโน่จะทิ่มปาก...
“อยากจะให้ฉันตัวลายใช่ไหม จะไม่คิดถึงวันหลังเลยใช่ไหม อยากได้แค่วันนี้วันเดียวเหรอ? ฉันแพ้ยุงนะ” ฉันอ้อนส่งสายตายั่วยวน
“ได้ครับ!”อากุ่ยวิ่งกระโดดตูดขาวออกไปก่อไฟ
แต่เจ้าเตี้ยจ้องจะเอาท่าเดียวพุ่งเข้ามาคว้านม ฉันกดใบหน้าของเขาจมนมแล้วกระซิบข้างหู...
“ถ้าไม่ดื้อเดี๋ยวให้เบิ้ล”
“ไปแล้วครับ!ไม่ดื้อ”เขาวิ่งโซเซออกไปช่วยเพื่อนทันที
สองหนุ่มร่างเปลือยตัวขาวโพลนขมีขมันหอบไม้มาสุมกอง ฉันไม่ปล่อยโอกาสทอง หยิบปากกายานอนหลับแบบน้ำหยดใส่แก้วเหล้าทั้งสองคนแล้วนั่งรออย่างสบายใจ
ทั้งสองคนวิ่งโซเซเข้ามา ไอ้โตโน่แกว่งไกว กระบี่พร้อมรบ..
“เรียบร้อยแล้วครับหมวด แทงได้แล้ว” พวกเขายืนยิ้มต่อหน้า
ฉันยิ้มหวานส่งสายตาเชื้อเชิญ...
“พร้อมแล้วใช่มั้ย? เอ้า..ดื่มก่อน!” ฉันยื่นแก้วส่งให้ ทั้งสองกระดกทีเดียวหมด
“ลุยล่ะครับ!”อาคังวางแก้วแล้วพุ่งเข้ามา ใบหน้าของเขาจมร่องอกซุกไซร้สูดดมอย่างหื่นกระหาย /จั๊กกะจี๋เป็นบ้า/
“ขอ...มั่ง...” อากุ่ยตาลอยยืนโงนเงนก่อนจะล้มทับลงมา ทั้งสองฟุบหลับคานม
“เรียบร้อย!” ฉันผลักทั้งสองลงไปนอนกับพื้น ปล่อยให้โตโน่เทอร์โบคู่ตั้งชี้โด่ชี้เด่อย่างนั้น ยุงกัดบวมแน่
ทันใดนั้น...
“กุ่ยเฉียง!กุ่ยเฉียง!นายอยู่ที่ไหน?” เสียงวิทยุทหารเรียก ฉันจับมันโยนน้ำ เผ่นดีกว่า
……………………………………………………..
ฉันมุดออกจากกำแพงค่าย เดินข้ามถนนเลียบหน้าบ้านของชุมชนข้างค่าย 4 ทุ่มกว่านิดหน่อย รีบเดินจ้ำอ้าวก้าวขาเร็วเดินถัดไปอีก 10 หลังก็ถึงบ้านแล้ว เสียวสันหลังเหลือเกิน
เดินระแวง มองหน้ามองมองหลังตลอดเวลา ฝั่งขวาเป็นกำแพงค่ายยาวคู่ไปกับคูน้ำสุดตา ผู้คนเดินท่ามกลางหิมะปรอยสวนมาประปราย แสงไฟจากรถยนต์สว่างจ้าวิ่งสวนไปมา
ซอนยืนล้วงกระเป๋าเดินวนไปมาที่หน้าบ้าน ความรู้สึกดีใจถาโถมเข้ามา สิ้นสุดกันเสียทีกับการหลบหนี
เขาหันมาเห็นกระโดดตัวลอยยิ้มหน้าบานโบกมือ อีก 2 หลังก็ได้กอดแล้วยอดดวงใจของฉัน ตื่นเต้นดีใจมากความรู้สึกเหมือนสาวบ้านนาที่ได้เจอสามีทหารเกณฑ์กลับจากกรมฯ
ทันใดนั้น...หนึ่งในรถยนต์ที่แล่นสวนมาก็แตกแถว...ปาดหน้าซอน
“บรื้น…นน!” รถยนต์พุ่งเลยตรงมาหา... มันชนแน่ ฉันทิ้งตัวกลิ้งหลบลงข้างทาง
“เอี๊ยด!” ประตูรถแวนทหารเปิดออก เสี่ยวปังก้าวลงมา
“เฮ่อ!” ฉันถอนหายใจ จะเจรจาได้ผลหรือเปล่านะ?
"เสี่ยวปัง! เจอกันอีกแล้ว แหะ!แหะ!”
“ไม่ตลก! ผมคิดไว้แล้วว่าคุณต้องหนี นี่จะไปไหน? ไป่ไป๋ล่ะ? ตบตากันซะสนิทเชียวนะ” เขาถามเสียงแข็ง
ฉันมองสำรวจไปที่รถยนต์ เขามากับลูกน้องแค่ 2 คนก็ยังเบาใจ
“คุณมีหลานแล้วนะ จะให้เขาขาดแม่ได้ยังไง?” ฉันขี้ตู่เอา
เขายิ้ม ส่ายหัว...
“เด็กนั่นโชคร้ายที่เกิดมาเป็นลูกของคุณ คุณเป็นคนมีกรรม คุณเข้ามาอยู่ในขบวนการแล้ว จะไม่ได้รับการปลดปล่อย”เขาบอกเสียงเครียด
“ฉันรู้นะว่า คุณคิดจะฆ่าฉัน”
“มันเป็นคำสั่ง ผมถึงได้บอกไงว่าลูกคุณโชคร้ายมาก” เขาเสียงเข้ม //ที่ฉันอึดอัดกับอาชีพนี้ ก็เพราะคำสั่งนี่แหละ //
“กลับไปกับผม ก่อนที่ท่านประธานาธิบดีจะรู้เรื่อง ผมช่วยคุณได้เท่านี้ ตอนนี้นายพลซีชานตามล่าไป่ไป๋อยู่”
“หือ!”ฉันสงสารน้องขึ้นมาทันที ไป่ไป๋จะรอดมั้ย? เครือข่ายกองทัพคงหาตัวเธอได้ในไม่นาน ไป่ไป๋อุตส่าห์สละความสุขเพื่อฉัน
เสี่ยวปังเดินมาดึงแขนพาฉันไปขึ้นรถ
ทันใดนั้น...
“แป๊น!แป๊น!แป๊น!” แสงไฟจ้าจากรถยนต์พุ่งเข้ามา ฉันสะบัดมือวิ่งสุดชีวิตพุ่งตัวไปหา
“เอี๊ยด!”
“เฮ้ย! แอนนาอย่าหนี ผมไม่อยากยิงคุณ” เสียงเสี่ยวปังดังตามหลัง
ฉันพุ่งเข้าหน้าต่างหลังรถยนต์ที่เปิดคอย
“บรื้น…นน!!!” ซอนออกตัวหนีทิ้งเขาไว้ด้านหลัง
ฉันมองย้อนกลับแล้วถอนหายใจโผเข้ากอดคอหอมแก้มซอน...
“ป๊า! คิดถึงจังเลย คิดถึงใจจะขาดแล้ว”
เขาหันมาหอมแก้มได้กำลังใจกลับคืนมา การได้กลับสู่อ้อมกอดของคนที่เราเฝ้ารอ เหมือนดินแดนที่แห้งแล้งได้รับน้ำฝนที่ขาดหายมาหลายปี ธรณีกอดรัดรากเลื้อย ใบสะดีดสะดิ้งยิ้มรับฝนชุ่มชื้นชุ่มฉ่ำ
“ไปรับน้องแทนแล้วกลับบ้านดีกว่า”
“บรื้น!!!” เขาเหยียบคันเร่งรถยนต์เต็มแรง รถยนต์พุ่งฝ่าความมืดของขุนเขา แล่นมาได้ไม่ไกลเราก็เจอปัญหา
“ป๊า!ด่านที่สี่แยกไปรับน้องไม่ได้แล้ว คุณเลี้ยวขวาข้างหน้านี่แหละ มันจะย้อนกลับไปออกสี่แยกตานตง”
“เอี๊ยด!!..” เขาหักพวงมาลัยลงข้างทางลงสู่ถนนชนบทเล็ก ๆ
“ไปซ่อนที่ตานตงก่อน น้องอยู่ที่โบสถ์ปลอดภัยอยู่แล้ว” ฉันบอกเมื่อผ่านบ้านหลังเล็กกลางทุ่ง
เราพากันย้อนกลับเข้าเมืองผ่านทุ่งนาและสวนลูกท้อ แสงสว่างลิบ ๆ ของไฟฟ้าริมถนนเป็นเส้นสีเหลืองยาวข้างหน้า หมายถึงเราใกล้ขึ้นถนนใหญ่ หันมองด้านหลังไม่มีรถตามมาค่อยรู้สึกโล่งใจ
“ถ้าพวกมันไม่ตาย มันไม่เลิกตามล่าเราแน่” ซอนหันมาบอกเสียงเครียด ฉันพยักหน้าเห็นด้วย แต่จะทำอย่างไรได้กองทัพจีนใหญ่มาก มองไม่เห็นทางชนะเลย
“บรื้น!...” รถยนต์พุ่งท้ายปัดขึ้นจากขอบทาง ทะยานเข้าสู่ถนนหลักชิดขวาเตรียมเข้าเมืองตานตง
ฉันมองไกลสำรวจบริเวณสี่แยก สะดุดตากับรถตู้สีดำที่จอดกระพริบไฟ หันบอกซอน..
“เลี้ยวขวาเข้าเมือง” รถยนต์พุ่งตัวเข้าโค้งกลางสี่แยก
“เอี๊ยด..ดด!”ล้อบดถนนเสียงลั่น ก่อนพุ่งทะยานต่อไปทางตรงเรียบเข้าเมืองตานตง รถตู้ที่สี่แยกขยับออกตัวตามมา ในขณะที่รถตำรวจเปิดไซเรนวับวาบแล่นสวนมา 3 คัน
“หวอ!หวอ!หวอ!” ในเวลาไม่นานรถยนต์ตำรวจก็กลับลำมาไล่หลัง
“บรื้น...นน!”ถนนตรงยาวเข้าเมืองรถยนต์วิ่งกันห่าง ๆ ซอนเหยียบทะลุไมล์ พุ่งทะยานหลบหลีกทุกอย่างที่ขวางหน้า
“เลี้ยวซ้าย! ผ่าวงเวียนไปเลย” ฉันหันไปโบกมือให้รูปปั้นท่านประธานเหมา เวลาเกือบเที่ยงคืนรถรายังพอมีให้เห็นหนาตา
ซอนขับรถมาสุดทางที่สามแยกริมแม่น้ำยาลู่
“เลี้ยวซ้าย” ฉันสั่ง
“เอี๊ยด!...” ซอนดึงพวงมาลัยรถเหวี่ยงจนตัวเอียง แม่น้ำยาลู่อยู่ด้านขวา
“หวอ!หวอ!หวอ!” ซอนยังสลัดรถตำรวจทั้ง 3 คันไม่ได้ ฉันปีนข้ามไปเบาะหลังรถ เปิดกระเป๋าหยิบระเบิดมือ M 26 ออกมาดึงสลักถือไว้
ซอนหันมาถาม...
“จะทำอะไร?” เขาประคองรถยนต์ขับขึ้นเหนือ
“ต้องสกัดมัน คุณขับรถไปฉันจัดการพวกมันเอง” ฉันแง้มประตูหย่อนระเบิดลงพื้นแล้วเริ่มนับในใจ 1234567
ตำรวจคันแรกวิ่งมาถึง ...
“บรึ้ม!!” รถตำรวจพลิกคว่ำขวางถนน
“เยส!” ฉันสะใจมากที่ได้ผลตั้งแต่ลูกแรก รถตำรวจที่ตามมาติดอุปสรรคตามต่อไม่ได้ เมื่อรถวิ่งผ่านมาอีกระยะเห็นว่าปลอดภัยดีแล้ว ฉันชี้ไปที่ลานจอดรถยนต์ของอาคารร้างริมแม่น้ำยาลู่
“จอดที่นี่!” รถยนต์เหลืองขึ้นมาจอดบนชั้น 2 ฉันรื้อกระเป๋าหยิบ Colt.45 มาเสียบเอวแล้วลงจากรถยนต์เดินหลบเสาอาคารมองไปถนนด้านล่าง รถยนต์ขาดตอนอาจจะเพราะรถตำรวจขวางไว้ เราได้พักหายใจก่อนจะหาทางหนีต่อ
..........................................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |