The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 ตอนที่ 16

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 ตอนที่ 16
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 20 พ.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


เสิ่นหยาง

มุมมองสายตา หมวดจาง แอนนา

มีนาคม ค.ศ.2026

กองพันที่8...

หลังออกจากร้านอาหารในค่าย ทหารทั้งสองนายที่คอยเฝ้าติดตามเดินมาเปิดประตูรถตรวจการณ์ให้ขึ้นนั่งด้านหลัง พวกเขาเริ่มจะเมากรึ่ม ๆ กันแล้ว ขับรถยนต์ผิวปากอย่างสบายใจ

วันนี้ฉันสวมเสื้อวัดใจ เสื้อกล้ามรัดรูปดันหน้าอกตูมล้นออกมายั่วสายตาอย่างตั้งใจ กางเกงขาสั้นจู๋โชว์ขาเรียวผิวขาวผ่อง ยื่นหน้าอกคู่ใหญ่ไปที่ช่องกลางระหว่างเบาะคู่หน้า...

“ก่อนหน้านี้พวกนายประจำการที่ไหนคะ?”

“ฐานยิงขีปนาวุธฉางชุนครับ” คนขับหันมาตอบ

“ทำไมถึงเห็นแต่นายสองคนที่คอยติดตามฉัน”

“มาเป็นทีมครับแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1.ติดตามคนร้าย กลุ่มที่ 2.อยู่ในค่ายนี้ครับรวมถึงผม้วย ผู้กองเก้อเฉิงเป็นผู้นำทีมครับ”

“นายสองคนมาจากที่ไหนกันบ้าง?”

“ผมมาจากกุ้ยโจว ไอ้นี่มาจากปักกิ่ง” คนขับรถยนต์หันมาตอบ

“มีเมียกันรึยัง?”

“โสดทั้งคู่ครับ”คนขับตอบ ไอ้เตี้ยที่นั่งข้างหันมามองบ่อย ๆ สายตาของมันมองต่ำจนเสียวไส้

“ผู้หมวดครับ! ลูกน้องของผู้หมวดคนที่มาวันนี้ สวยเซ็กซี่มากเลยครับ”

“อ๋า! ไป่ไป๋เหรอ?”

“ใช่ ๆ”ทั้งสองหันมาสบตากันแล้วยิ้มกว้าง แสดงว่ามันชอบเธอ

“เธอไม่ชอบคุณหมอ สงสัยจะชอบทหาร”

“จริงเหรอ?”

“เฮ้ย!กูเคยเห็นเธอด่าไอ้หมอนั่นด้วยนะ”

“ติดต่อให้ผมบ้างสิ ผมอยากได้เบอร์ไว้คุย”

“งั้นไปหาที่เงียบ ๆ กินเหล้ากันต่ออีกหน่อยดีกว่า” ฉันยิ้มหวาน อยู่ด้วยกันมาหลายเดือนไม่เคยถามชื่อแซ่เขาเลย         

“ผู้หมวดครับ คุณเป็นเชลยนะครับ พาไปกินข้าวนี่ก็เสี่ยงมากแล้วนะครับ” เจ้าคนขับตัวสูงคนขับเหล่ตามามอง ส่วนอีกคนที่นั่งอยู่ข้างตัวเตี้ยกว่า

ฉันก้มลงไประหว่างเบาะยื่นหน้าไปหาเจ้าโย่งคนขับ ยั่วกันซึ่งหน้านี่แหละ...                         

“เสียดายจัง กำลังคุยกันสนุกเลย ฉันเบื่อนอนอยู่คนเดียว” หน้าอกขาวอูมส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ เจ้าเตี้ยหันหน้ามามองแล้วสูดหายใจลึก...                      

“อยากไป!” เขาจ้องนมในระยะประชิด ฉันสยองก็ตอนเขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากนี่แหละ สายตาของมันหื่นมากพร้อมผสมพันธ์เต็มที่ ฉันแตะมือทั้งสองคน

“ไปเถอะ! วันนี้อยากกินเหล้า อยากทำอะไรสนุก ๆ” พูดกั๊ก ๆ ให้มันคิดเอาเอง ฉันส่งสายตาเชื่อมสื่อความหมายบางอย่าง

“เอ่อ!” ทั้งสองอึกอัก

“คุยในโกดังก็ได้ ผมไม่ติด”เจ้าคนขับต่อรอง

“ผมเห็นด้วยครับ! ออกไปข้างนอกเดี๋ยวคนเห็น ผมติดคุกหัวโตเลย”

“ในโกดังเหม็นน้ำมันเครื่องรถถังจะตายไป พอเหนื่อยแล้วหายใจไม่ออก”

“หือ! เหนื่อยเลยเหรอ?”เจ้าคนขับแปลความหมายออก หันมามองฉันส่งตาหวานแล้วอมยิ้มพยักหน้า

“อาคัง ลื้อว่ายังไง?” เขาลังเลแล้ว /ได้รู้ชื่อเจ้าตัวเตี้ยแล้ว/

“ผู้หมวดแน่ใจนะครับว่าจะดื่มกับเรา” อาคังยื่นหน้ามาเกือบถึงนม

“ถ้านาย 2 คนกลัว! งั้นกลับเถอะ!” วัดใจกันไปเลย

“อากุ่ย! เอายังไงมึงคิดดี ๆ นะ ไม่เคยมีนายมาตรวจพวกเรานะโว้ย คืนเดียวไม่เป็นไรหรอก เธอก็ไม่มีท่าทีว่าจะหนีสักหน่อย”

“วันนี้ผู้พันเสี่ยวปังก็กำชับมาให้ดูแลใกล้ชิด กูเสียวติดคุกฉิบหายเลย”

“ท่านโทรมาแล้ว วันนี้คงไม่ติดต่อมาแล้วล่ะ”

“มึงว่า ที่ไหนดีล่ะ?” พวกเขาเริ่มเห็นคล้อย ฉันยื่นหน้าปิดการต่อรอง...

“สระที่ท้ายกองพันเป็นไง ไกลคนและก็เงียบดีด้วย”

“กลางสระเลย แจ่ม!” อาคังตีปีก                    

"บรื้น!" พวกเขาขับรถยนต์เลยโกดังวัคซีนตรงไปด้านหลังทางทิศตะวันออก ผ่านรันเวย์สนามบินทางซ้ายอาคารโรงจอดยานพาหนะต่าง ๆ และอาคารพักอาศัยนายทหารทางด้านขวา
         "เอี๊ยด!" รถยนต์เข้าจอดลับตาในซุ้มพุ่มไม้ริมสระด้านหลังกองพัน ศาลากลางน้ำตั้งโดดเดี่ยวไกลหูไกลตาผู้คนอากาศหนาวชาวบ้านเข้านอนกันหมดแล้ว ฉันหันมองรั้วกำแพงสูงของค่าย ถ้าลอดออกไปก็ถึงบ้านของฉันแล้ว
           อาคังหันมากะลิ้มกะเหลี่ยเลียริมฝีปาก...
           “ไปที่ศาลาดีกว่านะครับ หิมะกำลังโปรยได้บรรยากาศดี”
      “นายลงไปดูลาดเลาก่อนสิ!” ฉันทิ้งตัวพิงพนักมองตาม พวกเขายืนคุยกันหน้าเครียดแต่สุดท้ายก็ยิ้มให้กัน สงสัยตกลงกันได้ อาคังวิ่งไปที่ศาลา อากุ่ยเดินกลับมา...

“เชิญครับผู้หมวด!

“หิ้วเหล้ามาด้วยนะ” ฉันยื่นมือไปให้เขาพยุงตัวลง

อาการหื่นของพวกเขาทำเอาฉันใจสั่นไปด้วย งานนี้อาจจะเปลืองตัวหน่อย ไม่เป็นไร! ไม่ถือ! อิอิอิ!

อาคังจัดแจงสถานที่เรียบร้อย ศาลากลางน้ำเงียบสงบมีเพียงเราสามคน

“เอ้าดื่ม!” หลังจากเหล้าเข้าปากความเกรงใจก็หายไป ฉันชงเหล้าเข้มให้ทั้งสองกิน แตะเนื้อตัวเขาไปเรื่อย ๆ พูดสองแง่สองง่ามชวนสยิว

“ขอคุยเรื่องไป่ไป๋ต่อดีกว่า เธอมาจากที่ไหนครับ?”

“อู่ฮั่น!

“ถึงว่าสิ! สาวอู่ฮั่นสวยทุกคน” อาคังระริกระรี้ ฉันไม่อยากให้น้องโดนแทะโลมเสียเวลาจัดการด้วย เข้าเรื่องลุยกันเลยดีกว่า

“แล้วปรกติพวกนายไปเที่ยวผู้หญิงที่ไหนกันล่ะ?”

“หลักฮึ้งพาราไดซ์!” อากุ่ยกระดกเหล้า

“อ๋า! ผมทำมือครับ เงินเดือนน้อย” อาคังเสียงอ่อย

“อาคัง! นายชอบผู้หญิงแบบไหน นมใหญ่หรือนมเล็ก เตี้ยหรือสูง”

“ชอบไป่ไป๋ครับ! โคตรน่ากินเลย อิจฉาหมอเจอรี่คงได้กินนมทุกวัน” อาคังดวงตาเชื่อม

“ฉันก็มีไม่แพ้เธอหรอกน่า” ฉันแอ่นอกให้ เจ้าคังคว้าหมับเกือบปัดไม่ทัน

เหลือบมองเวลา 3 ทุ่มใกล้ถึงเวลานัดกับซอนแล้ว ขยับเสื้อให้เห็นหน้าอกมากขึ้นเวลานั่งก็ทำเป็นไม่ระวังให้พวกเขามองลึกเข้ามา ไฟสลัวจากดวงกลมบนหัวไม่สว่างมากนัก ยิ่งทำให้พวกเขาอยากเห็นมันชัดขึ้น ทั้งสองหนุ่มที่ตอนนี้เมาเสียงเปลี่ยนแล้ว

ฉันเอานิ้วชี้ที่หน้าอก...                         

“กินเหล้าไปเยอะ ๆ ไม่มีกับแกล้มแล้วมีแต่นมนี่แหละ มองเป็นกับแกล้มไปก่อนนะ” ฉันขยับเต้า ทั้งสองจ้องตาเป็นมัน

อากุ่ยคนตัวสูงถึงจะเมาแต่ก็ยังพยายามคุมสติสุภาพ เจ้าตัวเตี้ยดูจะหื่นมาก เอื้อมมือมาลูบหน้าอกฉันบิดตัวหลบแล้วดัดจริตใส่

“อุ้ย! อย่าเพิ่งจับสิ มันเสียว! ดูเฉย ๆ ไปก่อน”

ทั้งสองกินเหล้าเป็นน้ำ อากุ่ยยื่นหน้าเข้ามา...             

“ผมขอยกซดได้มั้ย ผู้หมวด?” เขาลูบขา ฉันเสียววาบถึงไส้ติ่ง  บ้า! ใจหวิวหมด ของยิ่งขาดนานอยู่ด้วย                        

“ผู้หมวด! ผมอยากทำมากกว่านี้ ได้มั้ยครับ?” เขาสูดลมหายใจใกล้หน้าอกอูมของฉัน                      

“อยากกินจัง นมใหญ่มาก” อาคังขยับเข้ามาคว้าหมับเต็มมือ ฉันรีบปัดออก /เผลอไม่ได้เลย /

ฉันต้องรีบฉอเลาะเพื่อคุมเกม...                      

“เดี๋ยวให้กินนมพร้อมกันได้เลยนะ กินคนละข้าง แต่ฉันแพ้ยุงน่ะสิ” ฉันเล่นเกมลึกเข้าไปทุกขณะ อาคังคว้านมแล้วโถมตัวลงมาหน้าซุกอกอากุ่ยโถมตัวลงมา ไม่รู้มือใครเป็นมือใครบีบนมของฉันระบม เห็นท่าไม่ดีแน่ปล่อยไว้นานเดี๋ยวบานปลาย..
           "
พวกคุณเริ่มไม่สุภาพแล้วจะสนุกไหมนี่? แทนที่จะทำกันดี ๆ นี่จะข่มขืนกันเลยเหรอ?”
           พวกเขาถอยออกไปนั่งกลืนน้ำลาย  อาคังสายตาหื่นกดเป้าตัวเอง
          “เอาเลยเหอะผมแข็งมาก เกร็งปวดท้องแล้วเนี่ย” 

 ฉันค่อย ๆ ถอดเสื้อกล้ามออก หน้าอกที่ภาคภูมิใจทะลักขาวล้นยกทรง หันไปยิ้มหวานกับอาคัง...

“ไปก่อไฟไล่ยุงก่อนสิคะ”

“ขอมัดจำก่อนสิ!” มันจ้องจะพุ่งหลาวอย่างเดียวเลย

“อยากแล้วเหรอ? งั้นถอดชุดออกก่อนสิ ขอดูของหน่อย...ใหญ่มั้ย?” ฉันเลียริมฝีปากส่งสายตายั่ว

“ยู้ฮู!” ทั้งสองยิ้มกว้าง รีบถอดชุด เหลือเสื้อกล้ามกับกางเกงใน         

“อย่าป๊อดสิคะ! ถอดหมดค่ะ เกะกะ!

ภายในพริบตาทั้งคู่ก็เปลือยเปล่า ท่อนเอ็นเทอร์โบคู่ตั้งเด่ โอ้แม่เจ้า! มาชี้หน้ากันแบบนี้เลยเหรอ ไม่ดีแน่เดี๋ยวฉันเคลิ้มลุกยืนถอยหลบรัศมีของไอ้โตโน่ก่อน 

เจ้าคังยืนแกว่งจะพุ่งเข้ามาอีก ฉันเอามือยันหน้าอกของเขาก่อนที่ไอ้โตโน่จะทิ่มปาก...                     

“อยากจะให้ฉันตัวลายใช่ไหม จะไม่คิดถึงวันหลังเลยใช่ไหม อยากได้แค่วันนี้วันเดียวเหรอ? ฉันแพ้ยุงนะ” ฉันอ้อนส่งสายตายั่วยวน

“ได้ครับ!”อากุ่ยวิ่งกระโดดตูดขาวออกไปก่อไฟ

แต่เจ้าเตี้ยจ้องจะเอาท่าเดียวพุ่งเข้ามาคว้านม  ฉันกดใบหน้าของเขาจมนมแล้วกระซิบข้างหู...                    

“ถ้าไม่ดื้อเดี๋ยวให้เบิ้ล”

“ไปแล้วครับ!ไม่ดื้อ”เขาวิ่งโซเซออกไปช่วยเพื่อนทันที

สองหนุ่มร่างเปลือยตัวขาวโพลนขมีขมันหอบไม้มาสุมกอง ฉันไม่ปล่อยโอกาสทอง หยิบปากกายานอนหลับแบบน้ำหยดใส่แก้วเหล้าทั้งสองคนแล้วนั่งรออย่างสบายใจ

ทั้งสองคนวิ่งโซเซเข้ามา ไอ้โตโน่แกว่งไกว กระบี่พร้อมรบ..

“เรียบร้อยแล้วครับหมวด แทงได้แล้ว” พวกเขายืนยิ้มต่อหน้า

ฉันยิ้มหวานส่งสายตาเชื้อเชิญ...                    

“พร้อมแล้วใช่มั้ย? เอ้า..ดื่มก่อน!” ฉันยื่นแก้วส่งให้ ทั้งสองกระดกทีเดียวหมด           

“ลุยล่ะครับ!”อาคังวางแก้วแล้วพุ่งเข้ามา ใบหน้าของเขาจมร่องอกซุกไซร้สูดดมอย่างหื่นกระหาย /จั๊กกะจี๋เป็นบ้า/

“ขอ...มั่ง...” อากุ่ยตาลอยยืนโงนเงนก่อนจะล้มทับลงมา ทั้งสองฟุบหลับคานม

“เรียบร้อย!” ฉันผลักทั้งสองลงไปนอนกับพื้น ปล่อยให้โตโน่เทอร์โบคู่ตั้งชี้โด่ชี้เด่อย่างนั้น ยุงกัดบวมแน่

ทันใดนั้น...

“กุ่ยเฉียง!กุ่ยเฉียง!นายอยู่ที่ไหน?” เสียงวิทยุทหารเรียก ฉันจับมันโยนน้ำ เผ่นดีกว่า

                           ……………………………………………………..

ฉันมุดออกจากกำแพงค่าย เดินข้ามถนนเลียบหน้าบ้านของชุมชนข้างค่าย 4 ทุ่มกว่านิดหน่อย รีบเดินจ้ำอ้าวก้าวขาเร็วเดินถัดไปอีก 10 หลังก็ถึงบ้านแล้ว เสียวสันหลังเหลือเกิน

เดินระแวง มองหน้ามองมองหลังตลอดเวลา ฝั่งขวาเป็นกำแพงค่ายยาวคู่ไปกับคูน้ำสุดตา ผู้คนเดินท่ามกลางหิมะปรอยสวนมาประปราย แสงไฟจากรถยนต์สว่างจ้าวิ่งสวนไปมา

ซอนยืนล้วงกระเป๋าเดินวนไปมาที่หน้าบ้าน ความรู้สึกดีใจถาโถมเข้ามา สิ้นสุดกันเสียทีกับการหลบหนี 

เขาหันมาเห็นกระโดดตัวลอยยิ้มหน้าบานโบกมือ อีก 2 หลังก็ได้กอดแล้วยอดดวงใจของฉัน ตื่นเต้นดีใจมากความรู้สึกเหมือนสาวบ้านนาที่ได้เจอสามีทหารเกณฑ์กลับจากกรมฯ 

ทันใดนั้น...หนึ่งในรถยนต์ที่แล่นสวนมาก็แตกแถว...ปาดหน้าซอน
            “บรื้นนน!รถยนต์พุ่งเลยตรงมาหา... มันชนแน่ ฉันทิ้งตัวกลิ้งหลบลงข้างทาง
            “เอี๊ยด! ประตูรถแวนทหารเปิดออก เสี่ยวปังก้าวลงมา

“เฮ่อ! ฉันถอนหายใจ จะเจรจาได้ผลหรือเปล่านะ?

"เสี่ยวปัง! เจอกันอีกแล้ว แหะ!แหะ!  

“ไม่ตลก! ผมคิดไว้แล้วว่าคุณต้องหนี นี่จะไปไหน? ไป่ไป๋ล่ะ? ตบตากันซะสนิทเชียวนะ” เขาถามเสียงแข็ง

ฉันมองสำรวจไปที่รถยนต์ เขามากับลูกน้องแค่ 2 คนก็ยังเบาใจ

“คุณมีหลานแล้วนะ จะให้เขาขาดแม่ได้ยังไง?” ฉันขี้ตู่เอา

เขายิ้ม ส่ายหัว...                     

“เด็กนั่นโชคร้ายที่เกิดมาเป็นลูกของคุณ คุณเป็นคนมีกรรม คุณเข้ามาอยู่ในขบวนการแล้ว จะไม่ได้รับการปลดปล่อย”เขาบอกเสียงเครียด

“ฉันรู้นะว่า คุณคิดจะฆ่าฉัน”              

“มันเป็นคำสั่ง ผมถึงได้บอกไงว่าลูกคุณโชคร้ายมาก” เขาเสียงเข้ม //ที่ฉันอึดอัดกับอาชีพนี้ ก็เพราะคำสั่งนี่แหละ //                       

“กลับไปกับผม ก่อนที่ท่านประธานาธิบดีจะรู้เรื่อง ผมช่วยคุณได้เท่านี้ ตอนนี้นายพลซีชานตามล่าไป่ไป๋อยู่”

“หือ!”ฉันสงสารน้องขึ้นมาทันที ไป่ไป๋จะรอดมั้ย? เครือข่ายกองทัพคงหาตัวเธอได้ในไม่นาน ไป่ไป๋อุตส่าห์สละความสุขเพื่อฉัน

เสี่ยวปังเดินมาดึงแขนพาฉันไปขึ้นรถ             

ทันใดนั้น...

“แป๊น!แป๊น!แป๊น! แสงไฟจ้าจากรถยนต์พุ่งเข้ามา ฉันสะบัดมือวิ่งสุดชีวิตพุ่งตัวไปหา         

“เอี๊ยด!                       

“เฮ้ย! แอนนาอย่าหนี ผมไม่อยากยิงคุณ” เสียงเสี่ยวปังดังตามหลัง 

ฉันพุ่งเข้าหน้าต่างหลังรถยนต์ที่เปิดคอย        

“บรื้นนน!!! ซอนออกตัวหนีทิ้งเขาไว้ด้านหลัง

ฉันมองย้อนกลับแล้วถอนหายใจโผเข้ากอดคอหอมแก้มซอน...           

“ป๊า! คิดถึงจังเลย คิดถึงใจจะขาดแล้ว”

เขาหันมาหอมแก้มได้กำลังใจกลับคืนมา การได้กลับสู่อ้อมกอดของคนที่เราเฝ้ารอ เหมือนดินแดนที่แห้งแล้งได้รับน้ำฝนที่ขาดหายมาหลายปี ธรณีกอดรัดรากเลื้อย ใบสะดีดสะดิ้งยิ้มรับฝนชุ่มชื้นชุ่มฉ่ำ           

“ไปรับน้องแทนแล้วกลับบ้านดีกว่า”

“บรื้น!!! เขาเหยียบคันเร่งรถยนต์เต็มแรง รถยนต์พุ่งฝ่าความมืดของขุนเขา แล่นมาได้ไม่ไกลเราก็เจอปัญหา                       

“ป๊า!ด่านที่สี่แยกไปรับน้องไม่ได้แล้ว คุณเลี้ยวขวาข้างหน้านี่แหละ มันจะย้อนกลับไปออกสี่แยกตานตง”

“เอี๊ยด!!..” เขาหักพวงมาลัยลงข้างทางลงสู่ถนนชนบทเล็ก ๆ

“ไปซ่อนที่ตานตงก่อน น้องอยู่ที่โบสถ์ปลอดภัยอยู่แล้ว” ฉันบอกเมื่อผ่านบ้านหลังเล็กกลางทุ่ง

เราพากันย้อนกลับเข้าเมืองผ่านทุ่งนาและสวนลูกท้อ แสงสว่างลิบ ๆ ของไฟฟ้าริมถนนเป็นเส้นสีเหลืองยาวข้างหน้า หมายถึงเราใกล้ขึ้นถนนใหญ่ หันมองด้านหลังไม่มีรถตามมาค่อยรู้สึกโล่งใจ         

“ถ้าพวกมันไม่ตาย มันไม่เลิกตามล่าเราแน่”  ซอนหันมาบอกเสียงเครียด ฉันพยักหน้าเห็นด้วย แต่จะทำอย่างไรได้กองทัพจีนใหญ่มาก มองไม่เห็นทางชนะเลย                      

“บรื้น!...รถยนต์พุ่งท้ายปัดขึ้นจากขอบทาง ทะยานเข้าสู่ถนนหลักชิดขวาเตรียมเข้าเมืองตานตง

ฉันมองไกลสำรวจบริเวณสี่แยก สะดุดตากับรถตู้สีดำที่จอดกระพริบไฟ หันบอกซอน..                     

“เลี้ยวขวาเข้าเมือง” รถยนต์พุ่งตัวเข้าโค้งกลางสี่แยก

“เอี๊ยด..ดด!ล้อบดถนนเสียงลั่น ก่อนพุ่งทะยานต่อไปทางตรงเรียบเข้าเมืองตานตง รถตู้ที่สี่แยกขยับออกตัวตามมา ในขณะที่รถตำรวจเปิดไซเรนวับวาบแล่นสวนมา 3 คัน

“หวอ!หวอ!หวอ!  ในเวลาไม่นานรถยนต์ตำรวจก็กลับลำมาไล่หลัง

“บรื้น...นน!ถนนตรงยาวเข้าเมืองรถยนต์วิ่งกันห่าง ๆ ซอนเหยียบทะลุไมล์ พุ่งทะยานหลบหลีกทุกอย่างที่ขวางหน้า                    

“เลี้ยวซ้าย! ผ่าวงเวียนไปเลย” ฉันหันไปโบกมือให้รูปปั้นท่านประธานเหมา เวลาเกือบเที่ยงคืนรถรายังพอมีให้เห็นหนาตา

ซอนขับรถมาสุดทางที่สามแยกริมแม่น้ำยาลู่             

“เลี้ยวซ้าย” ฉันสั่ง

“เอี๊ยด!... ซอนดึงพวงมาลัยรถเหวี่ยงจนตัวเอียง แม่น้ำยาลู่อยู่ด้านขวา

“หวอ!หวอ!หวอ!  ซอนยังสลัดรถตำรวจทั้ง 3 คันไม่ได้ ฉันปีนข้ามไปเบาะหลังรถ เปิดกระเป๋าหยิบระเบิดมือ M 26 ออกมาดึงสลักถือไว้  

ซอนหันมาถาม...                     

“จะทำอะไร?” เขาประคองรถยนต์ขับขึ้นเหนือ                        

“ต้องสกัดมัน คุณขับรถไปฉันจัดการพวกมันเอง” ฉันแง้มประตูหย่อนระเบิดลงพื้นแล้วเริ่มนับในใจ 1234567

 ตำรวจคันแรกวิ่งมาถึง ...         

“บรึ้ม!! รถตำรวจพลิกคว่ำขวางถนน                        

“เยส! ฉันสะใจมากที่ได้ผลตั้งแต่ลูกแรก รถตำรวจที่ตามมาติดอุปสรรคตามต่อไม่ได้  เมื่อรถวิ่งผ่านมาอีกระยะเห็นว่าปลอดภัยดีแล้ว ฉันชี้ไปที่ลานจอดรถยนต์ของอาคารร้างริมแม่น้ำยาลู่

“จอดที่นี่!รถยนต์เหลืองขึ้นมาจอดบนชั้น 2 ฉันรื้อกระเป๋าหยิบ Colt.45 มาเสียบเอวแล้วลงจากรถยนต์เดินหลบเสาอาคารมองไปถนนด้านล่าง รถยนต์ขาดตอนอาจจะเพราะรถตำรวจขวางไว้ เราได้พักหายใจก่อนจะหาทางหนีต่อ

                                          ..........................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม