หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 21 พ.ค. 2567 |
เสิ่นหยาง
มุมมองสายตา ไป่ไป๋
กุมภาพันธ์ ค.ศ.2026
โบสถ์ดวงชะตาแห่งความหวัง (20.00น.ก่อนที่หมวดจางจะหนีออกจากค่าย)
ภายในห้องซ้อมดนตรีของโบสถ์ รูปปั้นพระเยซูคริสต์กางแขนตรึงกางเขนบนผนังสีเหลืองอ่อน สิงโตปั้นอ้าปากอมดวงไฟขาวบนเสาโรมัน กลุ่มเด็กและซิสเตอร์นั่งกันเรียบร้อยรอฟังเพลง อีซูมินนั่งด้านหลังเปียโนใหญ่หลับตารวบรวมสมาธิ เงยหน้าสูดลมหายใจลึกยกมือสองข้างขึ้นสูง แล้วก้มหน้ากระแทกนิ้วลงไปที่แป้นเปียโน
"แต๊ง ๆ" โน้ตตัวแรกของเพลง Faded @ Alan walker ทำเอาขนลุกซู่ เธอพยักหน้าเป็นสัญญาณให้ฉันร้องเพลง...
“You are the shadow to my life. Did you feel us? Another star you fade away.” ฉันชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจจะมีความสุขมากทุกครั้งที่มีโอกาส การร้องเพลงทำให้โลกหยุดหมุนเวลาหยุดเดิน ลืมทุกสิ่งอย่างที่กวนใจ
ความฝันเรื่องการเป็นไอดอลของฉันล่มสลายไปนานแล้วแต่การชอบร้องเพลงไม่เคยจางไปจากหัวใจ มันเหลือเพียงอย่างเดียวที่ยังเป็นของฉัน แทนกับนาตาลีก็หันหลังให้แล้ว พวกเขาคงจะค่อย ๆ จางหายไปจากชีวิตไปเหมือนกับชื่อเพลงนี้
“Where are you now?” เพลงจบลงพร้อมเสียงปรบมือ ในใจของฉันคิดถึงทุกคน พวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้างนะ? ซอนกับหมวดจางหนีออกมาได้หรือเปล่า?
ฉันมองใบหน้ายิ้มของเด็กน้อยหัวฟูที่จ้องขึ้นมาไม่วางตาแล้วสะท้อนในอก ถ้าพ่อแม่ของเขาไม่กลับมาอีก ฉันต้องทำอย่างไร? หลังจากสิ้นสุดการร้องเพลง ซิสเตอร์สาวพาน้อง ๆ ไปเข้าห้องนอน อีซูมินเก็บเปียโนทำความสะอาดเรียบร้อยเดินลงมาหา
“เจี่ยเจี้ยกลับห้องกัน” เธออุ้มน้องแทนเดินนำหน้าออกด้านหลังโบสถ์ บ้านสีอิฐชั้นเดียวหลังเล็กน่ารักซ่อนอยู่ใต้ร่มไม้
“เจี่ยเจี้ย! ร้องเพลงเพราะที่สุดตั้งแต่หนูเล่นเปียโน เก่งมากเลยนะคะ” เธอยิ้มเริงร่าเมื่อเข้ามาในตัวบ้าน
ทีวีเครื่องเล็กตั้งชิดผนังห้องนอนทางซ้าย ชุดโซฟารับแขกเล็ก ๆ ตั้งติดผนังอีกด้าน ห้องโถงเล็กสำหรับนั่งเล่นกะทัดรัดน่าอยู่ ข้าวของจัดเก็บเรียบร้อยในแบบมินิมอล กรอบรูปเด็กชายใบหน้าเศร้านั่งเหม่อ
“ซูมิน! ฉันว่าจะถามหลายวันแล้ว นั่นรูปใครคะ?” ฉันพอทราบประวัติของเธอผ่านซอนมาแล้วบ้างบางส่วน เธอยิ้มสายตาว่างเปล่า....
“เมื่อก่อนหนูอยู่กับน้องชายที่นี่ แต่น้องเสียไปหลายปีแล้วคะ เขาไม่ค่อยแข็งแรง เจ็บออด ๆ แอด ๆ เขาไปสบายแล้วค่ะไม่ต้องทรมาน”
“ขอโทษนะคะ” ฉันใจหายยื่นมือไปกุมมือแล้วบีบเบาๆ คงไม่มีครอบครัวไหนที่ไม่ต้องสูญเสีย ทุกชีวิตต่างก็มีความเศร้าเป็นของตน
น้องแทนแหงนหน้าขึ้นยิ้มกว้าง...
“ไป๋! ร้องเพลงเพราะ ไป๋! เก่งกว่าลีอีก” น้องนั่งกับพื้นเอาเลโก้มาต่อเล่น /ใช่สิ!นาตาลีร้องเพลงไม่เป็น เข้าวงไหนวงนั้นล่มตลอด/
“น้องแทน ชอบเหรอคับ?” ฉันก้มลงถามแล้วนั่งลงข้าง ๆ น้องเอียงหัวมาพิงแขน
“ชอบไป๋ร้องเพลง รักไป๋ที่ฉุด”
“คืนนี้นอนห้องใคร?”
“นอนกับมิน!” แล้วบอกรักไป๋ที่สุด ตอแหลจริงนะ
“น้องแทนชอบอีซูมินมั้ยคับ?” ฉันสังเกตได้ว่าเขากอดอีซูมินทั้งวัน
“เค้าชอบมิน ไป๋! เอามินไปอยู่กับเราด้วยสิ” เจ้าตัวน้อยยิ้มอายแล้วซุกหน้า อีซูมินนั่งยิ้มหวานตาหยีเอามือลูบหัวน้อง
“อีซูมิน! ไปอยู่ด้วยกันกับพวกเราไหมคะ?”
“เอ่อ! หนูไม่อยากเป็นภาระให้คนอื่น หนูช่วยที่โบสถ์เลี้ยงน้อง ๆ ไปก่อนก็ได้ค่ะ ตอนนี้หนูไปสมัครเล่นดนตรีตามห้องอาหารแล้ว คงพอมีรายได้เลี้ยงดูตัวเองได้บ้างค่ะ รอเขาตอบรับแค่นั้นเอง” เธอตอบตะกุกตะกักไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
“ฉันมีงานให้ทำ เธอไม่ได้เป็นภาระหรอก”
“ไปนะมิน ไปอยู่กับเค้า” น้องแทนยิ้มดีใจ พยักหน้ารัว ๆ เธอโผผวายิ้มร่าสายตาดีใจ ถามอย่างเร็ว...
“มีงานให้หนูทำเหรอคะ หนูทำได้เหรอคะ?” เธอยิ้มเต็มหน้าแววตาประกายมีความหวัง
ฉันคิดในใจ...งานที่จะให้ทำก็นั่งที่ตักเธอนั่นแหละ เลี้ยงน้องให้ด้วย ฉันคงต้องไปตามทางของฉัน
“มิน! ไปอยู่กับเค้านะ เค้ามีของเล่นเยอะเลย” น้องแทนเข้ากับคนง่าย เขาต่อรองเก่งเหมือนแม่ของเขา
ฉันก้มหน้าไปหาเขา...
“ตั้งแต่เจอมิน ลืมไป๋เลยนะ” ดึงแก้มซะเลย
“บรื้น...นน!” เสียงรถยนต์แล่นเข้ามา อีซูมินหันไปแง้มผ้าม่าน...
“มีรถใครเข้ามาตอนนี้นะ เดี๋ยวหนูไปต้อนรับก่อนนะคะ” เธอบอกแล้วลุกเดินออกไป น้องแทนนั่งห้อยขามองตาม
“น้องแทนคับ ป๊า!มารับแล้วมั้ง? เสียงรถมาแล้วไปดูกัน!” ฉันจูงมือเขาเดินไปที่หลังโบสถ์
..........................................................................................
รถตู้สีดำจอดที่ลานหน้าโบสถ์แต่ไม่มีใครลงมาฉันไม่คุ้นกับรถคันนี้เลยไม่กล้าเดินออกไป ยืนกอดน้องแอบมองจากมุมมืดด้านหลังโบสถ์ อีซูมินเดินตัวปลิวลงบันไดหน้าไปที่ลานจอด พอเธอเดินเข้าใกล้จวนเจียนจะถึงรถยนต์...
“ครืด!” ประตูรถตู้รูดเปิดอย่างเร็ว นายทหารหน้าบากตัวสูงใหญ่กระโดดลงมา
“ซีชาน!” ฉันใจหายวาบ มันตามมาถึงนี่แล้วหรือ? หัวใจเต้นโครมครามความเครียดถาโถมเข้ามา เกิดอะไรขึ้นกับซอนและหมวดจางกันแน่ ทำไมมันถึงตามฉันมาถึงที่นี่? ก้มกระซิบน้องแทน...
“น้องแทนห้ามพูดนะคะ คุณลุงคนนั้นจะมาจับตัวไป๋” ฉันชี้ไปที่ซีชานที่กำลังคุยกับอีซูมินบนลานหน้าโบสถ์
นายทหารตัวสูงใหญ่ก้มหน้าลงไปที่เด็กสาวตัวเล็ก...
“หนีห่าวซิสเตอร์! ผู้หญิงคนนี้อยู่ไหน?” เขาส่งโทรศัพท์ให้เธอ อีซูมิน รับโทรศัพท์มาดูแล้วส่งคืน...
“ที่นี่! ไม่มีผู้หญิงคนนี้นะคะ”
ซีชานหันไปมองลูกน้องข้างหลัง...
“เฮ้ย! พวกคุณค้นให้ละเอียด มันอยู่ที่นี่แหละ!” สิ้นคำสั่งทหาร 5นายขยับตัวเดิน อีซูมินกระโดดเข้าขวางกางแขนกั้น...
“หยุดอยู่ตรงนั้นนะคะ ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พวกคุณจะบุกรุกสถานที่ของพระเจ้าไม่ได้นะคะ ให้เกียรติกันด้วย” สาวน้อยกางแขนเดินขวางทหารอย่างไม่เกรงกลัว
ซีชานตวาดลั่น...
“นี่ซิสเตอร์! ไปอยู่กับพระเจ้าของคุณก่อน อย่าขวาง!”
“...........” แม่สาวน้อยในเสื้อขาวใจเด็ดมาก ยืนกางแขนแหงนหน้ามองนายทหารร่างยักษ์อย่างไม่สะทกสะท้าน
“พระเจ้าของเราอยู่อย่างสงบไม่เคยไปรบกวนท่าน ถ้าไม่ได้มาสวดมนต์ กรุณาออกไปค่ะ” เธอไม่เกรงกลัวอำนาจของชุดนายพลที่ซีชานสวมเลย
ซีชานชี้นิ้วสั่ง...
“ไปค้น!”
“ไม่ได้ค่ะ!” เธอวิ่งไปดักหน้า กางแขนขวาง...
“ถ้าจะมาทำอะไรที่นี่ อย่างน้อยคุณควรขออนุญาตจากคุณพ่อก่อน เชิญทางโน้น!” เธอก็ไม่ยอมถอยชี้มือไปที่ซิสเตอร์หน้าอาคารเล็กด้านซ้าย ซีชานยึกยักสักพักก็เดินไป
เธอหันมามองทหารทั้ง 5 นายแล้วเดินกลับมา พอลับตาก็รีบวิ่งกลับมาท้ายโบสถ์ ฉันเอื้อมดึงมือเธอไว้
“เจี่ยเจี้ย! ทหารมาจับตัว หนีเร็ว! มาทางนี้!” เธอนั่งยองให้น้องแทนขึ้นขี่หลังแล้วพาวิ่งผ่านบ้านน้อยของเธอเข้าป่าด้านหลัง
“เอิ้ก!เอิ้ก!เอิ้ก!” น้องแทนหัวเราะชอบใจสนุกเขาล่ะ ทางลาดลงภูเขาด้านหลังมืดสลัวมองเห็นเพียงเงาลาง
“มันอันตราย! น้องแทนเดินเองนะคะ” เธอวางน้องลงพื้นแล้วพากันวิ่ง พวกเราทั้งล้มทั้งลุกทุลักทุเล
“เอิ้ก!เอิ้ก!เอิ้ก! อยู่กับมินสนุกจังเลย ชอบ! ชอบ!”
“ซูมิน! เราจะไปไหนคะ?”
“ลงไปที่ริมแม่น้ำด้านหลังค่ะ หนูมีเรือ!”ได้ยินเพียงเสียงของเธอฝ่าความมืด ยิ่งลงลึกยิ่งมืด ผลัดกันกลิ้งเป็นลูกขนุนท่ามกลางความมืด
จู่จู่...
“ไป๋! เค้าเมื่อยแล้ว อุ้มหน่อย” น้องไม่ไหวแล้วคงต้องอุ้ม เอาน้องเข้าเอวเดินคลำทางเหมือนคนตาบอด คมกิ่งไม้ขุดแขนเลือดซิบ
เราเดินหลุดจากแนวป่ามองเห็นท้องฟ้าโล่ง อีซูมินชี้ไปที่ด้านหน้ามองเห็นลานแคบ เงาตะคุ่มของกระต๊อบทำให้บริเวณนั้นดูน่ากลัว //ฉันกลัวผี//
“วาบ!” แสงไฟฉายสาดแวบมาจากด้านบน
“เร็วค่ะ! พวกมันมาแล้ว” อีซูมินเร่งแล้วรีบก้าวเดิน ฉันตื่นเต้นอีกแล้วต้องหนีตายอีกแล้ววิ่งตามขึ้นไปบนลานดินเรียบ ป่าบริเวณนี้ถูกถางเป็นวงกลม กระต๊อบไม้ขนาดกลางแง้มประตูอยู่
อีซูมินชี้ไปที่ประตู...
“เรืออยู่ในนั้นค่ะ!” เธอวิ่งเข้าไปสักพักไฟก็สว่างขึ้น ฉันหันมองกลับหลังไปมอง แสงไฟฉายหายไปแล้ว
ก้าวเดินตามเข้าไปด้านใน ไฟจากแสงเทียนทำให้เห็นเรือขนาด 3 เมตรอยู่บนคาน ด้านล่างเป็นท่อนไม้คู่เหมือนรางรถไฟชนกับฝาบ้าน
อีซุมินยิ้มเมื่อเธอเห็นฉันขมวดคิ้วมองอย่างสงสัย...
“หนูกับเพื่อนหลายคน หลายรุ่นมาช่วยกันทำไว้ เพื่อน ๆ มีคนมารับไปอุปการะหมดแล้ว ตอนเด็ก...หนูตั้งใจว่าจะเอามันพายข้ามแม่น้ำกลับไปตามหาอมม่าที่เกาหลีเหนือค่ะ”
ฉันได้ฟังความตั้งใจแล้วจุกอก เธอมีความทุกข์ไม่ได้น้อยกว่าฉันและฝ่าฟันมันมาด้วยความตั้งใจ ทุกคนต่างมีรอยแผลติดตัว มีเป้าหมายความฝันที่แตกต่าง เงาของพ่อแม่ก็มีความหมายกับลูก
“พอโตขึ้น! หนูก็ไม่กล้าเสี่ยง ไม่แน่ใจว่าอมม่าอยู่ที่ไหน? หนูก็จำบ้านไม่ได้แล้วไม่รู้ว่าบ้านอยู่เมืองไหน? ครอบครัวหนูมีแค่น้องชายคนเดียว พอน้องจากไปหนูก็ไม่มีญาติ”
ฉันสะเทือนใจทุกครั้งที่เธอพูดเรื่องแม่ ฉันก็คิดถึง...เสร็จงานนี้ฉันจะกลับไปอยู่กับแม่ ฉันจะใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ เป็นแม่ค้าขายเสื้อในตลาดและอยู่กับท่านตลอดไป ฉันหันถามด้วยความสงสัย...
“แล้วจะเอาเรือลงแม่น้ำยังไง ไม่เห็นมีแม่น้ำเลย?” ฉันสงสัยเรื่องนี้ที่สุด ดูยังไงก็คิดไม่ออกว่าจะเอาเรือลงน้ำได้ยังไง?
“เซอร์ไพรส์!”เธอยิ้มเดินเข้ามาอุ้มน้องขึ้นไปนั่งกลางลำเรือ
“เฮ้ย!” ทันใดนั้น...แสงไฟก็ฉายแวบเข้ามา
“พรึบ!” เธอเป่าเทียน
“หือ!” ไฟมืดก็หน้ามืดไปด้วย เสียงตื่นเต้นของเธอร้องบอก
“เจี่ยเจี้ย!! ขึ้นไปนั่งบนเรือก่อน!!”
ฉันคลำไปขอบเรือ รีบปีนขึ้นไปนั่งกอดน้องแทน เสียงบางอย่างกลิ้งอยู่ข้าง ๆ
“คลุกคลัก!” มือคว้าไปโดนขวดแก้วที่ท้องเรือ เงาตะคุ่มของเธอเดินไปฝาผนังด้านหัวเรือแล้วกระตุกเชือกผลักมันออกไป
“โครม!” ฝากระต๊อบพังพับลงไปด้านข้าง ด้านหน้าเปิดโล่งเห็นดวงดาว
ในจังหวะนั้น...แสงไฟฉายสาดส่องเข้ามาสว่างจ้า น้องแทนปรบมือหัวเราะชอบใจ...
“เอิ๊ก! เอิ๊ก! เอิ๊ก! หาเราเจอแล้ว เก่งจัง!” เจ้าตัวน้อยหัวเราะสนุกสนาน ไม่ได้เล่นซ่อนหานะลูก
“เจี่ยเจี้ย! พร้อมนะคะ ไปกันเลย”
“ฉับ!” เสียงเหมือนมีดฟันอะไรสักอย่าง
“ครืด!” เรือเริ่มโคลงเคลื่อนตัว
ในจังหวะนั้น...เงาดำวูบวาบพุ่งเข้ามา มือของใครบางคนมาฉุดแคมเรือไว้
“จะไปไหน?”
“ว้าย!!” ฉันตกใจสุดขีด คว้าขวดที่พื้น...
“ตุบ! ตุบ! ตุบ!” ทุบไปที่มือนั้นอย่างแรง
“โอ๊ย!!”
“ครืด!” เรือเคลื่อนตัวอีกครั้ง
“ไป่ไป๋! คุณหนีผมไม่รอดหรอก” เสียงหอบเหนื่อยคุ้นหูของซีชาน เขาพุ่งเข้ามาเอียงตัวออกแรงดึงเรือ รอลูกน้องมาช่วย
“ปล่อยนะคะ!” อีซูมินนั่งท้ายเรือขยับตัวเข้ามา...
“ฉับ!” เธอเอามีดสับไปที่มือ
“โอ๊ย!!!” เขาปล่อยมือ เรือเคลื่อนตัว...
“ครืด...คลึก! คลึก! คลึก!!” เรือเริ่มขยับเดินหน้าช้า ๆ ท้องเรือถูกับอะไรบางอย่าง เสียงไม่ค่อยมั่นคง
“ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!” เรือไหลไปข้างหน้าช้า ๆ ออกพ้นตัวกะท่อม แสงไฟฉายส่องสว่างวาบมาที่เราอีกครั้ง
“ไป่ไป๋! คุณน่าสนใจดีนะ สนุกดี ผมอยากเล่นกับคุณซะแล้วสิ แล้วเจอกันใหม่นะ”เสียงชีซานหัวเราะชอบใจ //ฉันกลัวมันจังเลย//
ทันใดนั้นเรือเอียง...
“วูบ!” ใจหายวาบ
“ว้าย!” ฉันร้องเสียงหลงเสียวหน้าท้องแวบ หัวเรือทิ้งดิ่งลงด้านล่างอย่างเร็วเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา
“ครืด..คราด” เรือทิ้งตัวลงด้านล่าง รอบด้านมืดมิดเป็นความน่ากลัวซ้อนน่ากลัว ทั้งเสียว ทั้งลุ้น
“วู้ว! สนุกเป็นบ้าเลย นอนไว้นะคะ” อีซูมินร้องเสียงดัง
“เอิ๊ก! เอิ๊ก! เอิ๊ก!”น้องแทนชอบใจ ฉันหัวใจจะวายอยู่แล้วกอดน้องไว้แน่น
“ว้าย!” เรือเอียงซ้ายวูบ ด้วยสัญชาติญาณ ความรู้สึกบอกว่า เรือมันไถลลงมาตามรางไกลมาก
“ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!” เรือสลับขึ้นลงก่อนจะวิ่งแนวราบด้วยความเร็วต่อเนื่อง
“วู้ว! โย่ว!”เสียงร้องสะใจของอีซูมิน
“ว้าว! ไป๋ สนุกจังเลย เอิ๊ก! เอิ๊ก! เอิ๊ก!” น้องแทนร้องดัง
“................” เสียงดังใต้ท้องเรือหายเงียบไป...
เงาดำของพุ่มไม้หายไป ฉันรู้สึกเหมือนเรือกำลังลอยอยู่กลางอากาศกำลังพุ่งขึ้นฟ้าไปหาดวงดาว เมื่อสุดแรงส่งหัวเรือที่เชิดค่อย ๆ เอียงลง ฉันเห็นแม่น้ำแล้ว...
“วู้ว! ว้าว” ซูมินกับน้องร้องประสานเสียง สนุกสนาน
“ซึ่ม…มมมม!!” เรือตกกระทบ ละอองน้ำกระเซ็นเข้ามาเปียกตัว
“ไป๋!ชอบ ๆ ๆ เอาอีก! ว้าว ๆ ” น้องแทนกรี๊ดแตก สะใจเขาล่ะ
เมื่อเรือลอยน้ำนิ่งแล้ว ฉันมองย้อนกลับไปด้านหลังเป็นภูเขาสูง ชายป่าถูกเจาะเป็นช่องเล็ก แถบนี้ไม่มีบ้านคนพักอาศัยกระแสน้ำพัดเชี่ยวกรากไหลลงไปที่อ่าวทะเลเหลืองเมืองตานตง
“เก่งมากอีซูมิน!” ฉันชมอย่างขัดใจ ถ้ารู้ล่วงหน้าฉันไม่มีทางขึ้นมันเด็ดขาด ใจยังระทึกอยู่เลย เธอหยิบไม้พายจากข้างเรือขึ้นมาจ้วงไปตามกระแสน้ำ
“เจี้ยเจี่ย!จะหนีไปไหนดี?”
“เราเข้าเกาหลีเหนือได้หรือเปล่า?” ทางเดียวที่ฉันคิดได้ตอนนี้มีแต่แทนอยู่ในหัวถึงเขาจะรังเกียจ แต่ฉันไม่มีทางเลือก
“หนูก็อยากกลับไป แต่เข้าแล้วจะออกไม่ได้น่ะสิ!” เกาหลีเหนือไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอคงยังไม่ได้ข่าว
ฉันกอดน้องแทนไว้แนบอกต้องพาน้องหนีให้ได้ถึงจะปวดใจก็ยอม ถ้าเข้าแผ่นดินจีนพวกเราคงไม่รอดอีซูมินจะพลอยลำบากไปด้วย หมวดจางเป็นยังไงบ้างนะ? ฉันล้อเล่นกับความตายมากไปแล้วไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมกล้าในสิ่งที่คนอื่นกลัว แต่กลับกลัวในสิ่งที่ธรรมดามาก ก
......................................................หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |