หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 22 พ.ค. 2567 |
ชินอุยจู
มุมมองสายตา เจ็ทโด้
กุมภาพันธ์ ค.ศ.2026
ตลาดชินอุยจู ชายแดน...
ก้าวแรกที่มาถึงที่เกาหลีเหนือ ผมเคยลักลอบผ่านเมืองนี้ตอนกลางคืน สภาพบ้านเมืองตอนนั้นสกปรกเละเทะ Soullessเดินกันเพ่นพ่าน หลังจากบ้านเมืองเข้าสู่สภาพปรกติ ชาวบ้านต่างก็ช่วยกันทำความสะอาด ส่ง Soulless ไปเข้าค่ายกักกัน แต่บ้านเมืองก็ยังดูหงอยเหงา เพราะสิ่งก่อสร้างมากเกินความจำเป็น ทำให้ดูเหมือนเมืองร้างสถานีรถไฟกว้างใหญ่เงียบเหงา
"บรื้น!...." รถยนต์แล่นเข้าเมืองมาได้ไม่ไกล
“จอดรถ!” ผมสั่งแล้วกระโดดลงเดินสำรวจอาคารตึกแถวสองข้างทางเงียบสนิท รถยนต์จอดระเกะระกะเกลื่อนถนนสภาพบ้านเรือนทรุดโทรมอย่างเร็ว เศษกระดาษปลิวล่องลอยตามสายลม
“พวกมันอยู่ที่อาคารกองกำลังป้องกันตนเอง ทางท้ายตลาดครับ” สหายนายหนึ่งบอกออกมา
ผมหันขวับ...
“งั้นเราเข้าไปที่นั่นกัน” ผมสั่งแล้วเดินกลับไปขึ้นรถ
เสียงคุ้นหูทักมา...
“ซอนเซงนีม!” สหายคังซอจินวิ่งเข้ามา
“รายงานมา!”
“พวกมันคงเป็นหน่วยล่าสังหารข้ามแม่น้ำเข้ามาทางตลาดครับ มันยึดตึกของเราไว้แล้ว” เขารายงานหน้าตาตื่น ทหารใหม่ของผมเพิ่งเคยได้เจอกับสถานการณ์จริงก็วันนี้
“มันมากันกี่คน?” ผมโยนคำถามใส่
“20 คนครับ เมื่อคืนมันเกิดการยิงกันสนั่นขึ้นกลางดึกริมแม่น้ำทหารจีนตายไป 30 คน มันไล่ล่าผู้ชายกับผู้หญิงมาครับ ผมไม่ทราบว่าสองคนนั้นเป็นใครพวกเขาพึ่งล้อมจับได้ที่อาคารนี้พอดี พวกมันกระทืบซะสลบไปเลย พวกผมก็ไม่กล้าช่วยและไม่กล้ายิงด้วยครับ ได้แต่ล้อมพวกมันไว้ไม่ให้มันออกไปครับ”
“ดีมาก! ไปไล่มันออกจากประเทศกัน”
“บรื้น...นน!!” รถแวนสองคันขับมาจอดหน้าสำนักงานป้องกันตนเอง อยู่ถัดออกมาทางด้านท้ายของตลาด ถนนมาสิ้นสุดที่สะพานข้ามแม่น้ำ เลยไปอีกไม่ไกล...ประตูเหล็กกั้นสะพานรถไฟขนาดใหญ่ถัดออกไปเป็นสะพานข้ามแม่น้ำยาลู่ไปจีน
อาคารสองชั้นของสำนักงานป้องกันตนเอง เงียบสนิทประตูกระจกด้านหน้าปิดไว้ แต่ด้วยสัญชาติญาณผมรู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างใน หันมาคว้าปืน AK74 ขึ้นมาเช็คความพร้อม ก้าวขาเดินลุยเดี่ยวเข้าไปยืนจังก้ากลางถนน หน้าประตูอาคาร...
“มีใครอยู่ข้างในออกมาคุยกันก่อน พวกคุณล่วงล้ำเข้ามาในประ เทศของเรา” ผมพูดภาษาอังกฤษเพราะพูดจีนไม่เป็น
“..........” เงียบ...ไม่มีสัญญาณตอบรับ
อาคารของที่นี่ก็สร้างรูปร่างเหมือนกับสำนักงานในเมืองหลวงที่นาตาลีโดนขังคุก ประเทศที่บริหารราชการจากส่วนกลางมักจะใช้แบบสร้างอาคารราชการเหมือนกันทั่วประเทศ สหายโจมินกุกพาลูกน้องวิ่งตามมาตั้งแถวเรียงหน้ากระดานบนถนนปิดทางออก
ทันทีที่ผมเดินผ่านประตูหน้าเข้าด้านใน...
“แก่รก! แก่รก! แก่รก! แก่รก!” เสียงปืนขึ้นลำพร้อมกัน หันมองซ้ายมี 2 คน ขวาข้างประตูอีก 2 คน ราวบันไดอีก 3 คน ด้านหลังแอบข้างประตูอีก 2 คน มองผ่านไปที่ห้องขังมีคนถูกขังนอนอยู่
“เซม! ผมอยู่ข้างหลังนะครับ” คังซอจินร้องบอก ผมยกมือรับทราบทหารคนนี้ใช้ได้จริง ๆ
ผมหันไปเจรจากับทหารจีน...
“ใครเป็นหัวหน้าของคุณ ออกมาคุยกัน” ก้าวเดินต่อไปนั่งม้านั่งกลางห้องโถงทางเดิน คังซอจินเดินมายืนข้าง
“..............” พวกเขาหน้าตาขึงขังเล็งปืนมา เสียงเดินคลุกคลักด้านบนชั้น 2 สักพักเสียงรองเท้าหนักก็เดินลงบันไดมา...
“ต้องการอะไร?” เสียงห้วนมีอำนาจดังก่อนที่ตัวของเขาจะปรากฏ นายทหารยศร้อยตรี รูปร่างสมส่วนเดินลงจากบันได ท่าทางองอาจ
“เฮ้ย..คุณเข้าบ้านคนอื่นแล้วยังมีหน้ามาถามว่าต้องการอะไรอีกเหรอ? มากไปไหมน้องชาย?” ผมลุกขึ้นยืน
“พรึบ!” พวกลูกน้องของเขายกปืนขึ้นเล็ง นายทหารยกมือห้าม
“ผมชื่อร้อยตรี หยางเฟยเทียน กองร้อยจู่โจมฉางชุน”เขาแนะนำตัวอย่างสุภาพค่อยยังชั่วหน่อยที่นายทหารพูดอังกฤษได้
“คุณเข้ามาทำไม?” ผมมองหน้า
“ผมตามจับคนร้าย มันหนีข้ามมา” เขาพูดเหมือนกับที่นี่เป็นประเทศของเขา
“คุณไม่มีสิทธิ์ทำตามใจบนแผ่นดินนี้ พาคนของคุณออกไป เดี๋ยวนี้!”
พวกเขาค่อย ๆ ทยอยลงมาจากชั้น 2 ทีละคน
“เราขอรอเจ้านายอีก 1ชั่วโมงได้ไหม? ท่านกำลังเดินทางมา”เขาต่อรองหน้าตาเฉย ผมคิดในใจ...เจ้านายมึงเกี่ยวอะไรกับกู ไปรอที่อื่นสิ
“ข้ามไปรอฝั่งโน้นสิ คุณบุกรุกอย่างนี้ไม่ได้ เชิญ!!” ผมไล่หน้าตาเฉยเหมือนกัน แค่ข้ามแม่น้ำไปก็หมดเรื่องหรือจะเดินไปครึ่งสะพานก็ได้ ผมนั่งท่ามกลางทหารจีนรอบตัว
“ก็ผมขอกลับตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว คนของคุณไม่อนุญาตให้กลับเองนะ” เขายิ้มกวนแล้วพูดต่อ...
“ผมมาดี ไม่ได้ประสงค์ร้ายกับพวกคุณ ขอเวลาพวกเราอีกนิดเดียว หัวหน้าของผมก็มาถึงแล้ว” เขายังดึงเวลาโยกโย้
“คุณไม่น่าบังคับผมอย่างนี้เลย คุณก็กลัวเจ้านาแล้วผมไม่ต้องกลัวรึไง? ไปกลับไป” ผมไล่ จะมาแสดงอำนาจเหนือดินแดนคนอื่นไม่ได้
เขาเดินวนไปมาสักครู่
“;%$#$@^^$%$” เสียงวิทยุดังขึ้น เขาคุยกันเป็นภาษาจีนซึ่งผมไม่เข้าใจ สักพักก็หันมาหันมา....
“โอเค! ผมเสร็จภารกิจแล้วกำลังจะออกไป พวกเรากลับ! เอานักโทษออกมาด้วย” เขาหันสั่งลูกน้อง แปลกใจมาก! ทำไมมันพูดง่ายจังเลยผมลุกเดินลงไปยืนกับกองทหารที่กลางถนนคังซอจินเข้ามาประกบข้าง
ทหารจีนพร้อมอาวุธเต็มพิกัดทยอยลงมารวมกันบนถนนหน้าอาคาร ดูจากรูปร่างท่าทางเหนือชั้นกว่าทหารของผมหลายขุม กวาดสายตานับอย่างเร็ว 20 คนตามที่ทหารรายงาน ทหาร 4 นายเดินไปเปิดห้องขังหิ้วตัวนักโทษชายออกมา เขาถูกซ้อมจนหัวห้อยยังไม่ได้สติ อีกคนสภาพไม่ต่างกันโดนหิ้วปีกหัวห้อย ผมไม่ได้ใส่ใจเพราะยังกังวลกับทหารด้านนอก
“บรื้น!!” เจ้าแทนนำรถทหารมาอีก 2 คันรถ/ สบายใจแล้วผม/
“สหายโจสั่งทหาร เข้าที่เตรียมพร้อมรบ คังซอจินอยู่ข้างผมไว้” ผมสั่งแล้วหันมองไปที่นักโทษ
ทหารจีนกลุ่มสุดท้ายกำลังผ่านประตูออกมา ทหาร 2 นายประคองปีกนักโทษผู้น่าสงสาร เขาสลบหัวห้อยเสื้อผ้าเปื้อนเลือดเกรอะกรังขาดวิ่น ผมมองด้วยหัวใจห่อเหี่ยวคิดในใจ...แกจะได้กลับไปหาลูกเมียอีกไหมนะโดนจับเป็นเชลยโดนยิงตายเสียยังดีกว่าไม่ต้องทรมาน พวกเขาลากกันออกมาอีกคนถูกหิ้วปีกออกมา ขาขาวจั้วเป็นผู้หญิงนี่นา...นมเบ้อเริ่ม
“เอ๊ะ!!” ผมสะดุดใจปรี่เข้าไปหาไอ้สองคนนี้คุ้นตามากไปแล้ว จับใบหน้าพลิกขึ้นมา....ใจหายวาบ เห็นแค่ปลายจมูกก็จำได้แล้ว
“ฉิบหายแล้ว!” ผมอุทานออกมาเบา ๆ ร่างโทรมเลือดนี่เป็นหมวดจาง และนั่นเจ้าซอน
“เฮ้ย.หยุด!” ปากไวเท่าความคิด ผมเข้าประคองเจ้าซอนออกมา เจ้าแทนพุ่งเข้ามาหิ้วปีกหมวดจางทันที
“เฮ้ย!” พวกเขาหันมามองเลิกลั่ก คงไม่เข้าใจว่าผมจะทำอะไรจึงไม่ทันห้าม แค่หันมาถาม...
“คุณจะทำอะไร?”
ผมไม่สน รีบประคองเจ้าซอนพาออกมา เจ้าแทนประคองหมวดจาง สหายโจกับพวกวิ่งเข้ามาช่วยหิ้วออกไปที่รถบรรทุก
“ปล่อยนักโทษของผมเดี๋ยวนี้ ส่งคืนมา!” นายทหารตวาดเสียงสั่น
“พรึบ!!” กลุ่มทหารจีนยกปืนขึ้นประทับบ่า
“ไม่หยุดผมยิงนะ!” นายทหารจีนร้องขู่
ผมถอยไปข้างรถยนต์ เจ้าแทนเข้าที่กำบังข้างรถขนทหาร มองไปรอบตัวทหารกว่า 50 นายพร้อมอาวุธกำลังเล็งไปที่พวกเขา นายทหารจีนคนเดิมเดินกลับมา...
“คุณจะชิงตัวผู้ร้ายหรือ?” เขาเดินมาหยุดตะโกนถาม
“ที่นี่ประเทศของผม คุณไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งใด ๆ บนผืนดินนี้ ถ้าคุณอยากได้ตัวนักโทษ ให้ผู้ใหญ่ของคุณติดต่อมาเจรจากับผู้ใหญ่ของผม ทหารเข้าที่กำบัง!” ผมสั่งแล้วถอยแอบหลังรถยนต์ สถานการณ์กำลังเริ่มตึงเครียดบรรยากาศของการต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้นกระสุนนัดแรกใกล้ระเบิด
“ส่งตัวผู้ร้ายกลับมา เดี๋ยวนี้!” เขาตวาด สั่งผมเป็นลูกน้องเลย
“คุณเอานักโทษออกไปไม่ได้ เขาได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายของประเทศนี้ เราจะสอบสวนและลงโทษเขาเองตามความผิดที่เขากระทำ” ผมพูดไปถูกหรือเปล่าไม่รู้ บอกมันมั่ว ๆ ไปก่อน
“นั่นมันนักโทษของผมหนีมา เราไม่ปัญหาอะไรกันนี่นาพี่ชาย อย่างไรเสีย ประเทศของเราก็ส่งผู้ร้ายให้กันอยู่แล้ว” เขาก็ช่างเจรจา ดูจะเป็นคนใช้ได้ทีเดียว
“ทำอย่างไรดีล่ะ? ผมก็คืนไม่ได้ซะด้วย ต้องให้เจ้านายอนุญาตเจ้านายผมดุมากคุณก็รู้” ผมคืนไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับกฎหมายบ้าบออะไรเลย น้องชายของผมทั้งคน
“ผมก็ไม่อยากใช้กำลัง ถ้าไม่ได้คนร้ายกลับไปเป็น ๆ ผมก็ต้องยิงให้ตายนะครับ ขอเถอะพี่ชาย”เขาพูดพลางเดินถอยพลางเข้าไปหลบข้างรถยนต์ การต่อสู้กำลังเริ่มขึ้น
“ให้ไม่ได้จริง ๆ ขอเถอะน้องชาย นายพาลูกน้องกลับไปเถอะจะได้ไม่เสียเลือดเนื้อ” ผมก็ไม่ต้องการยิงกับพวกเขา
ผมตะโกนสั่ง...
“คังซอจิน! พานักโทษกลับไปหาสหายผู้กองด่วน” ผมจ้องมองปลายปืนของทหารจีน สหายซอจินช่วยกันพยุงทั้งสองไปขึ้นท้ายรถทหาร
แอบให้กำลังใจกับเจ้าซอนในใจ อดทนอีกหน่อยนะไอ้น้อง พวกเรามาช่วยแล้วมึงรอดแล้ว ลูกชายมึงรออยู่ที่ค่ายเดี๋ยวก็ได้เจอ
นายทหารจีนเริ่มขยับ ผมว่าพวกเขารนหาที่ตายเองถ้าเขาหันหลังกลับไปตอนนี้ ผมก็จะไม่สั่งยิง
แต่...
“ยิง!” เสียงฝั่งโน้นสั่งยิงก่อน
“ตรึ่ด! ตรึ่ด!” ทหารจีนลั่นไกพร้อมกันไฟแลบปลายกระบอก มันห้าวมากไปแล้ว
“ยิง!” ผมสั่ง เสียงปืนโต้กลับทันที
“ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!”เสียงปืนดวลกันหูดับตับไหม้
“ตรึ่ด! ตรึ่ด!”เสียงปืนกลตระกูลไทป์ของจีนผสมผสานกับAKของเราดังกึกก้อง คมกระสุนพุ่งเข้ามาทะลุตัวถังรถยนต์เป็นรู กระจกแตกละเอียด
ผมก้มหัวหลบถอยไปยืนหลังรถรถบัส ซัดกระสุนใส่พวกมันเป็นระยะ เพ่งสายตามองไปที่ทหารจีนมองหาอาวุธหนักของพวกเขา
“บรื้น...นน!” เสียงรถทหารกำลังพาเจ้าซอนออกไปแล้ว ค่อยสบายใจหน่อย พวกมึงเสร็จกูแน่
“ทหาร! ซัดให้หนักเลย อย่าให้รอดข้ามไปได้มันหยามกันมากไปแล้ว”
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!” ในขณะเดียวกันเฮลิคอปเตอร์ Z-10 ลำใหญ่ของจีนก็มาถึงเช่นกัน มันบินลอยลำต่ำอยู่บนหัวกระแสลมแรงจากใบพัดทรงพลังซัดข้าวของกระจัดกระจาย
กระบอกปืนกลกลมขนาด80มิลติดปลายปีกทั้งสองพร้อมเริ่มหมุน เครื่องยิงจรวดพิสัยใกล้ทำลายวัสดุภาคพื้นกำลังกางปีกออกจากตัวลำเครื่องและพร้อมทำงาน มันเฮลคอปเตอร์บินโฉบเฉี่ยวเกี้ยวกราดหันปลายกระบอกมาทางนี้
“ทหารหลบเข้าอาคาร!” ผมตะโกนสั่ง
“พรึบ!” ทหารบนรถกระโดดลงกระจายกันไป
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!” เครื่องบินจีนโฉบหัวลงพร้อมระเบิดกระสุนจากปลายกระบอกกลม ประกายไฟพุ่งต่อกันเป็นสายยาวลงพื้นดั่งฟ้าพิโรธ เสียงกัมปนาทกึกก้อง....
“พรึ่ด! พรึ่ด! พรึ่ด! พรึ่ด!” กระสุนเพชฌฆาตจากอากาศสู่พื้น ผ่ากลางรถบัสที่ผมแอบด้านท้าย
“พรึ่ด! พรึ่ด! พรึ่ด! พรึ่ด!” ผมทิ้งตัวกลิ้งออกข้างเข้าแอบมุมตึก สายกระสุดซัดเข้าที่กลางรถยนต์คันต่อไป
“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม!” เสียงรถยนต์ระเบิดต่อเนื่องเมื่อสายกระสุนซัดผ่านไปด้านหลัง แรงคมกระสุนแยกรถยนต์ออกเป็นสองซีกพร้อมระเบิดอย่างรุนแรง
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!” เฮลิคอปเตอร์ลอยออกไปกลับลำ
“ตรึ่ด! ตรึ่ด!” เหล่าทหารทั้งสองฝ่ายข้างหน้าก็ยังซัดกันนัว
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!”เสียงเฮลิคอปเตอร์บินกลับมาจากด้านหลังอีกครั้ง
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!” สายกระสุนซัดจากอากาศลงพื้นมาอีกครั้ง กระสุนกระทบพื้นเกลี้ยวกราดไฟแลบจวนเจียนจะถึงตัว ผมพุ่งหลบหลังตึกเฉียดฉิว
“บรึ้ม! บรึ้ม! บรึ้ม!”รถยนต์ระเบิดกระจาย กระจกอาคารแตกละเอียด
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!” เฮลิคอปเตอร์บินผ่านไปอีกด้าน ผมชะเง้อมองไปฝั่งตรงข้าม เจ้าแทนคว้า FN6 อาวุธต่อต้านอากาศยานบินต่ำ เครื่องยิงจรวดจากทหารข้าง ๆ ขึ้นประทับบ่า
“ฮื่อ!” ผมลุ้นมองเจ้าแทนเล็งไปที่เฮลิคอปเตอร์ วาระสุดท้ายของมึงแล้ว
“ฟู้วว!” จรวดพุ่งควันขาวเป็นหางเข้าหาเป้าหมาย เฮลิคอปเตอร์ชะตาขาดกำลังกลับลำแต่ช้าเกิน เจ้าจรวดที่ถึงตัว...พวกมันเสร็จเจ้าแทนแล้ว
“บรึ้ม!!!” เสียงดังกัมปนาท เฮลิคอปเตอร์หมุนคว้างตกลงมา
“บรึ้ม! บรึ้ม!” กองไฟลุกท่วม หันกลับไปมองทหารราบ 20 นายนอนตายอนาถเกลื่อนกราด คิดในใจก็สมน้ำหน้ามึงแล้วบอกให้กลับไปดี ๆ ไม่ชอบ
“ทหาร!!” สิ้นเสียงของผม พวกเขาวิ่งกรูกันออกมา
“พาคนเจ็บกลับค่าย ที่เหลือเคลียร์เมืองนี้ให้สะอาดเรียบร้อย” ผมสั่งการแล้วเดินไปขึ้นรถยนต์เตรียมกลับ ได้แต่คิดในใจว่าจะเอายังไงต่อดี ผมผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงที่ใจเย็นมองข้ามความปลอดภัยของไป่ไป๋ นาตาลีไม่มีทางยอมเรื่องนี้แน่ คงจะหูชาอีกหลายวัน
จีนก้าวข้ามความเกรงใจเข้ามาแล้ว สงครามที่ไม่ต้องการกำลังก่อตัวเงียบ ๆ ไม่ว่าเราจะคิดปล่อยวางอย่างไรแต่ถ้ายังอยู่ในตำแหน่งผู้นำก็ยังคงเป็นเป้าหมายของการโดนกำจัด เราจะเอายังไงกับพวกมันดี?....สู้หรือหมอบ
หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |