หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 7 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 24 พ.ค. 2567 |
พยองยาง
มุมมองสายตานาตาลี
บ้านบนเกาะคอนยู…
“When the sun goes down and the band won’t play. I’ll always remember us this way.” เสียงเพลงของเลดี้กาก้าดังเศร้าสร้อย ฉันนั่งแกว่งขาที่ปลายสะพานในสระข้างบ้านหลังเล็ก หมวดจางนั่งหน้าตูมหันหลังให้กลิ่นอายความอาลัยยังฟุ้งกระจาย รอยฟกช้ำเริ่มจางหาย
“เจี่ยเจี้ย!สบายใจขึ้นบ้างหรือยัง? น้องแทนล่ะทำไมหายไปเลย?” ฉันสะกิดเบา ๆ
“น้องแทนหายไปเดี๋ยวก็กลับมา แต่ไป่ไป๋จะไม่ได้กลับมาแล้ว คิดถึงน้องจังเลย เธอน่ารักมากจนวันสุดท้าย” หมวดจางน้ำตารินนั่งมองลงไปที่สระบัว
“คุณอย่าพูดอย่างนี้สิ ฉันอกจะแตกตายอยู่แล้วพยายามจะไม่คิด คุณก็เอาแต่กระแนะกระแหน ฉันก็เสียใจนะ” นาตาลีหน้าหงอยซบหลังเพื่อน
“เมื่อคืนฉันฝันเห็นน้องนั่งร้องไห้ถามอะไรก็ไม่ตอบ เธอคงเหงามาก ไป่ไป๋ไม่เคยโทษใครเลย เธอถูกทิ้งแต่ก็ยังคงพยายามเข้มแข็ง แก้ปัญหาด้วยตัวคนเดียว พวกคุณเว้นระยะห่างจากเธอไปแล้วแต่ฉันสนิทกันมาก เห็นกันทุกวันเหมือนเงาที่ติดตามตัวตลอดเวลา เจี่ยเจี้ยกินข้าวรึยัง? เจี่ยเจี้ยเหนื่อยไหม? ทุกวันเธอจะมาคลอเคลียถึงแม้ว่าหัวใจของเธอสลายไปแล้ว เธอก็ยังคงเป็นห่วงและไม่ยอมทิ้งฉันไว้คนเดียว”
“ฉันขอโทษ...” ฉันน้ำตารื้นเข้าใจนิสัยของไป่ไป๋ที่ชอบอ้อน
“เธอพยายามต่อสู้กับตัวเอง ฉันรู้ว่าเธอแก้ปัญหาไม่เป็นและปัญหานั้นก็แก้ไม่ได้ แต่เธอก็พยายามจะทำมัน เพื่อตามหาอีกเสี้ยวของชีวิตที่จากไป ไม่มีใครจะรักแทนได้มากกว่าเธออีกแล้ว” น้ำตาของแม่ใหญ่ไหลนองกระชากความอดทนอดกลั้น
“ฮือฮือ!” สุดท้ายฉันก็ร้องไห้โหยหา ฉันผิดเอง
“เธอยอมให้กับคุณ เธอยอมให้คุณมีความสุขและกำลังจะหันหลังกลับบ้าน เธอเป็นคนเดียวที่เสียทุกอย่างไป ทั้งความฝัน ความรัก แต่สิ่งที่เธอได้กลับมาคือความตาย”
“ฮือฮือ!”
“การจากไปของไป่ไป๋ทำให้ฉันได้รู้เรื่องบางอย่างชัดขึ้น การที่คนเราต้องจากกันไปไกลแสนไกลจะไม่มีใครมาเตือนล่วงหน้า ฉันยังคุยกับน้องตอนเย็นยังแหย่เล่นกันอยู่เลย ไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้าย” หมวดจางแหงนมองขึ้นบนฟ้าน้ำตาไหล...
“ฉันจะจดจำภาพของเธอไว้แบบนี้ตลอดไป ฉันคิดถึงเธอนะ!”เธอป้องปากตะโกน
“ฮือฮือ!จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ถ้าเธอกลับมาฉันยอมทุกอย่าง เอาชีวิตของฉันไปก็ได้ ฮือฮือ!” ฉันอกจะแตกกับการสูญเสีย แค่สัตว์เลี้ยงตายเจ้าของก็แทบจจะตายตาม นี่คนทั้งคนจะตัดใจได้ยังไง
“ฉันจะกลับไปอยู่กับหลงซัน ฉันจะกลับรัฐฉาน” แม่ใหญ่ก็คงจะทิ้งฉันไปอีกคน ฉันขาดใครไม่ได้อีกแล้ว...
“คุณเกลียดฉันเหรอ? สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่เหลือใครเหมือนกัน คุณก็จะทิ้งฉันไปอีกคน”
“ฉันแค่โกรธเดี๋ยวก็หาย ขอให้เรื่องของน้องเบาลงก่อน มันใจหายรู้มั้ย? พวกคุณเล่นอะไรกันไม่เข้าท่าเลย!” หมวดจางสะบัดตัวหมุนหันหลังให้
“แล้วคุณจะกลับรัฐฉานทำไม? หงึ!หงึ!” ฉันขยับตามไปกอดด้านหลัง
“อ้าว! ฉันมีบ้านนะ บ้านมันก็เหงาเหมือนกันที่ทิ้งมันมา ฉันจะกลับไปรวบรวมเสื้อผ้าเผาไปให้น้องด้วย เธอจะได้ไม่หนาว”
“แต่ถ้าคุณออกไปจากเกาหลี ก็โดนหวังฉวนตามล่าไม่ได้หยุดหย่อนแน่”
“เฮ้อ! ลำพังฉันคนเดียวไม่หวั่นมันหรอก ฉันห่วงลูก”
“ลูกเคยห่วงคุณหรือเปล่า? ตอนนี้หายไปเลย ไม่เคยกลับมาเลย” ฉันพูดโดนใจดำเธอหันขวับ...
“จูยอนนิสัยไม่ดีว่ะ! ใจร้ายมากห้ามพวกเธอได้ยังไงวะ? ถ้าเธอไม่ห้ามก็ไม่ต้องเสียน้องไป เธอคงจะเกลียดไป่ไป๋ล่ะสิถึงได้ปล่อยให้ตาย คนไม่มีหัวใจยายกิมจิเน่า เดี๋ยวฉันจะเอาลูกคืนไม่ให้เล่นกับน้องแทนหรอก” เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แกว่งขาเตะน้ำในบ่อกระจายระบายอารมณ์
“อย่าว่าจูยอนเลยนะ คุณยังไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของเธอ อย่าว่าเด็ดขาด” ฉันไม่อยากให้เข้าใจผิด แต่ยิ่งทำให้แม่ใหญ่ปรี๊ดแตกลุกขึ้นยืน เท้าเอวจ้องหน้า...
“คนใจดำอย่างนั้นจะเป็นคนดีได้ยังไง? ฉันจะเอาเจ็ทโด้ของฉันกลับไปด้วย” เธอหน้าบึ้งหมุนตัวเดินกลับขึ้นฝั่ง
“คุณเป็นใครไม่ทราบมาอาศัยบ้านของเขาอยู่ ยังจะเนรคุณอีก” ฉันหมั่นไส้ตะโกนตามหลังแล้วลุกเดินตาม ถ้าแม่ใหญ่ขึ้นแล้วลงยาก ยายงูเห่า //
“ทำไมไม่ช่วยไป่ไป๋กลับมาก่อน ทำไมไม่ทำเรื่องสำคัญก่อน?” เธอทิ้งตัวนั่งลงบนแคร่หน้าบ้าน
“เฮ้อ!…ทุกเช้าฉันก็ร้องไห้ทุกวัน ฉันตะโกนเรียกเธอทุกวัน เราเลิกคุยเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ดีกว่าไหม? อย่าเอาเกลือมาสาดใส่แผลกันเลย เริ่มกันใหม่เถอะฉันไม่ไหวแล้ว รู้อย่างนี้อยู่ในค่ายทหารดีกว่า มาหาก็ซ้ำเติมกันอีก” ฉันคิดถึงเธอแต่พอเจอกันก็มีแต่เสียใจ โดนกัดเซาะจนทำตัวไม่ถูก พอพูดไปก็เป็นประเด็นใหม่ให้ต้องทะเลาะกันม่รู้จักจบ
“จะคุยเรื่องอะไรฉันไม่มีอะไรทำนี่นา” เสียงของเธออ่อนลงหรือว่าหัวของเธอว่าง ฉันรู้แล้ว! ที่เธอโกรธเพราะไม่มีอะไรให้คิดนี่เอง ถึงยังจมไม่ลอยสักที
“บรื้น...นน!” เสียงรถยนต์ข้ามแม่น้ำมา
จูยอนขับรถยนต์เข้ามาจอดหน้าบ้านใหญ่ พวกเธอลงเดินเข้าบ้านใหญ่ไม่ได้หันมองมา
“น้องแทนมาแล้ว!” หมวดจางเด้ง
“ลูกก็ไม่รัก กระโดดน้ำเถอะ” ฉันแหย่ทั้งน้ำตา
“พวกเขามีธุระกับซอนมั้ง? สองคนนั้นเคยรู้จักกันนี่นา”เธอชะเง้อคอมอง
สักพัก...ประตูบ้านก็เปิดออก อีซูมินวิ่งนำหน้าน้องแทนวิ่งหน้าตั้งตามออกมาก่อนที่ซอนและคนอื่นจะเดินออกมา
“ม้า!...เค้ากลับมาแล้ว...” น้องแทนยิ้มฟันขาววิ่งหัวฟูกางเกงหลุดตูดกางแขนกว้างผ่านลานหน้าบ้านเข้ามา หมวดจางยิ้มแฉ่งทรุดตัวย่อเข่ากางแขนรอรับลูกชายสุดที่รัก
“คิดถุงม้าที่สุดเลย...” น้องกระโดดเข้าอ้อมกอดอย่างไม่ลังเล แม่ลูกฟัดกันนัวเนีย
“ม้าดูนี่สิ!” เขาแอ่นอกชี้หัวใจ
“เป็นอะไร โดนอะไรมา?” เธอลนลานเปิดเสื้อลูก
“คิดถุงใจจะขาด” เจ้าหัวฟูยิ้มฟันขาว
“โอ๊ย! ว้าวุ่น” เธอดึงลูกมากอดแล้วเอามือสางหัว
“สงสัยต้องตัดผมแล้วจะเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกทีแล้วนะ กินข้าวเยอะ ๆ สิ เมื่อไหร่จะโตสักทีเนี่ย?” เธอยีหัวบ่นลูกชาย
“อีโม่! ให้กินเยอะจะตาย เค้าก็กินหมดทุกวันเค้าอยากตัวสูงจะได้ไปที่ทำงานของไป๋ คิดถุงไป๋จังเลย พอได้เจอลี ไป๋ก็หายไปอีก” น้องแทนเรียกจูยอนว่าป้า ก้มหน้าสายตาหมองแนบอกแม่แล้วสูดดมสุดแรง
ฉันสะดุดใจกับคำว่าไป๋ เหมือนเข็มแทงใจ...
“เฮ้อ!” ถอนหายใจไล่ความอัดอั้น ไม่อยากยินคำถามเหล่านี้ก้มหน้าลงไปหาน้อง...
“น้องแทนครับ! ไปโน่นเลย ไปศาลาท่าน้ำโน่นเลย!”
“ไม่เอา! เค้าพึ่งมาเค้าอยากกอดม้า” น้องซุกหน้ากอดแม่
“กอดแล้วก็ไปได้แล้ว” ฉันดึงแขนน้องไม่ให้กอด
“เค้ายังไม่ได้กอดลีเลย” เจ้าตัวน้อยผละจากแม่เข้ามากอด ซอนกับจูยอนเดินข้ามลานหน้าบ้านคุยกันมา
เขาหน้ามุ่ย ท่าทางไม่พอใจ…
“ลองคุยกันเองนะครับ ผมยังไงก็ได้แล้วแต่เมีย” เสียงซอนแข็งมาก
“หมวดจางคะ ฉันคุยกับซอนแล้วตกลงว่าจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เขาให้คุณเป็นคนตัดสินใจ อยู่กับพวกเราที่นี่เถอะนะคะ” จูยอนทรุดตัวลงนั่งบนแคร่ข้างเธอ
“อยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้ทำ ฉันขอกลับไปอยู่กับชนเผ่าชาติพันธุ์ของฉันก็แล้วกัน พวกเขาคงคิดถึงซอน” เธอโยนปัญหากลับไปให้ซอน
“บนโลกใบนี้ที่นี่ปลอดภัยที่สุด ไม่สงสารตัวเองเหรอคะ?” จูยอนแตะมือหมวดจางเบา ๆ
“ฉันยังมีหลายอย่างที่ต้องทำกับชาวบ้าน” เธอชักมือกลับเมินหน้า
“ถ้ามีงานให้ทำจะอยู่ด้วยใช่ไหม?” จูยอนใจเย็น ยิ้มหวาน
“ฉันยังมีห่วงอยู่ที่นั่นค่ะ ชาวบ้านรออยู่เราจัดงานปีใหม่กันทุกปี ป่านนี้พวกเขาคงชะเง้อคอรอซอนกลับบ้าน” หมวดจางดวงตาหลุกหลิกโกหกชัด ๆ ฉันแทรกเข้ากลางวง...
“อย่าไปเชื่อ!”
หมวดจางหันมาแยกเขี้ยวง้างมือ...
“เดี๋ยวตบหูหลุดเลย! เธอก็ต้องกลับไปด้วยกัน” เธอชี้หน้าขมุบขมิบปาก ฉันต้องช่วยต้อนเดินเข้าไปกอดเอวจูยอน...
“อนนี่คะ! เธอจะเอาเจ็ทโด้กลับไปด้วย อย่ายอมนะ!” ฉันยุส่ง
“อ้าว! นั่นมันปูชนียบุคคลของฉันนะคะ ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้แล้ว” จูยอนร้องเสียงหลง
ซอนขยับเข้าไปเสยผมให้เมียลูบหัวกันอย่างอ่อนโยนช่วยกันรุมจูยอน...
“คุณก็ไม่มีอันตรายแล้ว บ้านเมืองก็เรียบร้อยแล้ว ผมจะพาเจ็ทโด้ของผมกลับไปฟื้นฟูที่บ้านบ้างที่นั่นก็ต้องการคนช่วย” ซอนเข้าสอพลอเมีย
“แต่คุณโดนตามล่ากันอยู่นะคะ จะเอาเวลาที่ไหน?” จูยอนย้อน
“เราแอบเข้าไปพวกมันไม่รู้หรอก เราจะกลับไปเงียบ ๆ” หมวดจางยืนกระต่ายขาเดียว ฉันเข้าช่วยจูยอน...
“กองทัพจีนเชียวนะ! คุณก็รู้ว่ามันเก่งแค่ไหนออกไปก็ตาย ลูกก็เป็นกำพร้าฉันไม่เลี้ยงให้หรอกนะ”
“ฉันก็อยากตายในที่ ๆ ฉันเลือก” แม่ใหญ่ไม่เคยเสียเชิง เมินหน้า
จูยอนสูดลมหายใจลึก....
“ได้! คุณเอาเจ็ทโด้กลับไป ฉันจะเอาน้องแทนไว้ที่นี่” เธอเสียงสูง
“เฮ้ยไม่ได้! ลูกผม” ซอนพรวดเข้ามา
“ก็คุณขี้โกงก่อนนี่” จูยอนจ้องหน้าซอน ทั้งสองความสูงไล่ ๆ กัน
“ผมกลับบ้าน ขี้โกงตรงไหนไม่ทราบ?” ซอนจ้องกลับไฟแลบออกตา
“ก็ฉันไม่ให้กลับ!” จูยอนไม่หลบสายตา ฉันยกมือต้องรีบช่วย…
“อนนี่! ฉันอยู่ที่นี่ด้วย”
“ตามใจ! อยากอยู่ก็อยู่ไปผมจะกลับ” ซอนเมินใส่แล้วหอมแก้มเมีย
“ป๊า! เอาลูกเรากลับก็พอ ถ้าจะตายอยู่ที่ไหนก็ตายเรากลับบ้านของเราดีกว่า” เธอลุกยืนส่งสายตาพิฆาต
“กลับไม่ได้หรอก” จูยอนยิ้มเจ้าเล่ห์
“ทำไมฉันจะกลับไม่ได้” แม่ใหญ่เชิดหน้า
“ฉันจะเรียกทหาร!”
“ฮ้า!” สองผัวเมียอ้าปากค้าง
“อุ่บ...บบ!!” ฉันต้องก้มหน้าปิดปากกลั้นหัวเราะ
“เชอะ!ใครกันแน่วะที่ขี้โกง?” ซอนเสียงสูงมองด้วยหางตาลุกเข้าประคองเมีย
“ม้าเข้าบ้านกันดีกว่า มีอำนาจแล้วกวนตีน!” ครอบครัวของซอนแพ้ราบคาบ คว้าลูกขึ้นนั่งบนคอเดินจูงมือเมียอารมณ์เสียส่ายหัวเข้าบ้าน ฉันนั่งยิ้มมองตามไป…
“อนนี่! เล่นแรงเดี๋ยวเธอหนีกลับนะ”
“เล่นที่ไหนกันฉันเอาจริง! ลองสู้สิ! จะให้ทหารมาหิ้วไปขังคุกทั้งครอบครัวเลย จับน้องแทนขังไปด้วย”
“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ลดความโหดลงบ้างเถอะ แกล้งฉันคนเดียวก็พอแล้ว”ฉันปวดหัวกับพี่น้องกลุ่มนี้จริง ๆ แต่ละคนไม่ธรรมดาเลย
“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! มีอำนาจนี่มันสนุกจริง ๆ สองหนุ่มของเราเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ได้ติดต่อไปบ้างไหม?” เธอเข้ามากอด
“ไม่ได้ติดต่อเลยค่ะ! ปล่อยให้เขาได้ใช้ความคิด อย่าไปกวนใจเขาเลย” ฉันเชื่อใจในตัวพวกเขา
“ไม่ห่วงเลยเหรอ?”
“จะห่วงทำไมไปกับลูกพี่ใหญ่ ปลอดภัยชัวร์” ฉันซุกรักแร้กอด
“ไปกับฉันหน่อยสิ ฉันจะอัดเสียงนกหวีดและสร้างโปรแกรมคำสั่งให้หลากหลาย เอาไว้ให้ทุกคนได้ใช้ทำงาน”
“ยังไงคะอนนี่?”
“ฉันอยากได้ Golden wave หลาย ๆ อัน แต่มันเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง เราผลิตเองไม่ได้ต้องไปขโมยของหวังฉวน”
“ไม่มีทาง ลืมไปได้เลย” ฉันโบกมือปฎิเสธ มองไม่เห็นทางเลย
“นั่นน่ะสิ! ฉันถึงจะทำโปรแกรมคำสั่งขึ้นมาเอง ไปเป็นเพื่อนหน่อยนะ”
“เอาสิ! หางานมาทำเยอะ ๆ เชื่อฉันสิ! หมวดจางโคตรขยันเลย เธออยู่ไม่สุขหรอกคนมันชอบทำงาน เป็นตายยังไงก็ให้กลับไม่ได้” ฉันรู้จักหมวดจางดี ขอให้เธอใจเย็นลงอีกนิดแล้วค่อยเจรจาใหม่
......................................................................
เราขับรถข้ามสะพานผ่านสนามฟุตบอลมันกยองแด เลี้ยวขวาตรงไปลานที่คิมอิลซุงแล้วขับขึ้นเนินมันซุนแดภูเขาลูกเตี้ยกลางเมือง ด้านบนเป็นลานกว้างใหญ่ อาคารสี่เหลี่ยมทรงรัสเซียขนาดมหึมาบดบังแสงอาทิตย์ยามบ่ายแก่ ๆ รถยนต์จอดชิดหน้าลานบันได
เราเดินคู่กันขึ้นบันไดผ่านลานหินอ่อนเข้าห้องโถงกว้าง ที่นี่เคยเป็นที่เก็บศพของตระกูลคิมและเป็นที่ทำงานเก่าของผู้นำสูงสุด กลางห้องโถงยังมีร่องรอยของแท่นโลงศพ 2 โลงถูกแทนที่ด้วยกระถางต้นไม้ประดับ
ห้องทำงานของพนักงานอยู่ปีกซ้ายและขวาของอาคาร 3 ชั้น พนักงานชายหญิงเดินยิ้มแย้มสวนกันบนระเบียงหน้าห้อง จูยอนผลักประตูห้องขวามือเข้าไปอย่างคุ้นเคย...
“อันยองฮาเซโยอาจอชี่ทงมู” เธอส่งเสียงหวานเข้าไปในห้องทำงานของอดีตผู้นำคนเก่า
สหายคุณลุงคิมจุนซองนั่งเก้าอี้ตัวใหญ่ ก้มหน้าขะมักเขม้นเซ็นเอกสารบนโต๊ะเงยหน้า
“สหายจูยอนมาเหรออันยองฮาเซโย!” คนแก่ดีใจลุกพรวดพราดยิ้มหน้าบาน
“อ้าว! ซาจังนีมก็มาดีใจจังเลย เข้ามา ๆ” เขากุลีกุจอพาเดินเข้าไปนั่งโซฟา
มีแรอาจุมม่าวิ่งยิ้มแก้มปริเข้ามากุลีกุจอยกน้ำชามาวางบนโต๊ะ แล้วเดินบิดอ้อมมาด้านหลัง...
“หูย!...ได้เจอทั้งสองคนเลยดีใจจัง มาบ่อย ๆ สิคิดถึง!” ท่านลูบหน้าลูบหลังอย่างอบอุ่น
“อันยองฮาเซโยมีแรอาจุมม่า” ฉันตื้นตันทุกครั้งที่ผู้ใหญ่เอ็นดู
“สหายคุณลุงคะคิดถึงจังเลย” จูยอนเข้าไปเย้าคนแก่ เขาอมยิ้มสายตาประกาย บรรยากาศภายในมีแต่ความเป็นมิตร นอกห้องเริ่มทิ้งงานเดินมารวมกลุ่มกันในห้องโถง
“ยังไม่ปล่อยให้ลูกน้องกลับบ้านอีกเหรอคะ?” จูยอนหันมองบรรดาทีมงานเดินกันว่อน
“พวกเขาประชุมวางแผนเรื่องเลี้ยงสัตว์กัน เดี๋ยวก็คงกลับแล้ว สหายอึนซอกอยู่ห้องติดกันนี่แหละ สหายยุนโดเดินอยู่นั่นไงเขาจะวางระบบไฟฟ้าใหม่ทั้งประเทศ กระจายทุกอย่างออกไปสู่ชนบท” สหายคุณลุงยิ้มใจดีชี้ไปด้านนอก
“สหายคุณลุงสบายดีนะคะ?” ฉันภูมิใจแทนจูยอนที่มีคนสนับสนุนใจดีขนาดนี้
“ครับสบายดีครับ สหายผู้บัญชาการมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า?”
“ฉันมีค่ะ!” จูยอนชิงตอบก่อน
“สหายมีอะไร?”
“ฉันอยากให้ทำโปรแกรมคำสั่งเสียงและภาพของฉันให้ใช้งานง่าย ๆ เพื่อให้สหายของเราเอาไปใช้ควบคุมพวกเลื่อนลอย”
“สบายมาก! เดี๋ยวให้ทีมเทคนิคช่วยเขียนโปรแกรมให้”
“เอ่อ! แล้วขอลำโพงบลูทูธตัวเล็กแต่เสียงดังให้ด้วยนะคะ เอาไว้เชื่อมต่อกับโปรแกรม”
“หึหึ! คิดจะเล่นอะไรอีกเนี่ย?” คุณลุงยิ้มแปลกใจ
“เราต้องใช้เครื่องมือสักหน่อยจะได้กระจายกันไปทำงานได้ ฉันจะให้ความเท่าเทียมกับทุกคน”
“ดีครับสหาย! ผมนึกว่าจะไม่ได้เจอสหายอีกแล้ว ผมยังโกรธอยู่เลยนะ” คุณลุงอมยิ้ม ในสายตาของเขาใสซื่อ
“ฉันอยากให้สหายคุณลุงใช้ความคิดและความสามารถอย่างเต็มที่ ไม่ต้องคอยระแวงฉัน”
“สหาย! คิดอย่างนั้นไม่ได้นะ ผมไม่เคยคิดหักหลังเลย น้อยใจนะพูดอย่างนี้” เขาสะบัดหน้าหนี จูยอนผวาดึงแขน...
“โอ๋! โอ๋! ระแวงหมายถึงไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่ตัดสินใจค่ะ” เธอเข้าไปกอดด้านหลัง คนแก่ยิ้มปลื้ม...
“ชาวบ้านกดดันหนักมาก ให้ผมไปตามสหายกลับมา สหายตัดสินใจใหม่อีกครั้งเถอะ”
“ฉันขอช่วยอยู่อย่างนี้ดีกว่า สหายตัดสินใจได้เต็มที่” จูยอนแถหลบ ถ้าปล่อยไว้คงโยนกันไปมาอีกนาน ฉันเข้าแทรกเดินเข้าไปหาสหายคุณลุง...
“ฉันขอทำงานในร่มมั่งดีกว่าไม่อยากเป็นครูฝึกทหารแล้ว มีอะไรให้ทำบ้างไหมคะ?”
“โอ้ว! ยินดีมากเลยครับได้คนเก่งมาช่วยยิ่งดี มาเดินเล่นก่อนถ้าถูกใจค่อยทำมีงานให้เลือกเยอะเลยครับ”
“รบกวนแค่นี้แหละค่ะ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” จูยอนหมุนตัว
“อ้าว! ยังไม่ได้ดื่มชาโสมเลยจะไปแล้วเหรอ สาว ๆ นี่ใจร้อนจัง”
“มีคนรออยู่ค่ะ กลับก่อนนะคะ!” ฉันโค้งศีรษะลาผู้ใหญ่แล้วเดินกลับ พนักงานยืนล้อมรถยนต์สงสัยงานนี้จะยาว พวกเขาดักรออยู่ตั้งแต่หน้าประตูถึงลานหน้าอาคาร
“สหาย! พวกเราคิดถึงนะรู้หรือเปล่า?” อาจุมม่ายิ้มกว้างดีใจ มองด้วยรัก
“หายหน้าไปเลยใจคอไม่ดี มาให้เห็นหน้าบ่อย ๆ นะ เห็นแต่บนจอ”
“สหายจูยอน! จะกลับมาทำงานเหรอคะ?” สหายสาวลิงโลด
“พรุ่งนี้! สหายผู้บัญชาการจะมาทำงานด้วย ดีใจมั้ย?”
“วู้ว!แทบัก! พวกเราซาจังนีมทงมูจะมาทำงานกับเรา” อารามดีใจทั้งกลุ่มแตกกระเจิง วิ่งไปบอกเพื่อนฝูง...
“ข่าวดี! พวกเรามีข่าวดี” เสียงตะโกนดีใจเป็นทอด
จูยอนก้มหน้าลงกระซิบ…
“ขึ้นรถเร็วเผ่นเถอะ! กลับไปทำอาหารให้ซอนกับหมวดจางกินกัน ค่อย ๆ ปะเหลาะเดี๋ยวก็ใจอ่อน”
ฉันดี๊ด๊ากระโดดขึ้นรถยนต์ตอนที่พวกเขาเผลอ
“บรื้น!!” รถยนต์จากลา Sun palaceอย่างรวดเร็ว
“คราวก่อนไปชินอุยจูไม่ได้เอาเสือขาวกลับมาด้วย เดี๋ยวว่าง ๆ เราไปกันมั้ย?” จูยอนหันไปชวน
“จะเอาเสือมาทำไมกินได้เหรอ? อนนี่จะกินเหรอ?” ฉันแปลกใจคนที่นี่กินทุกอย่าง อาจจะเพราะความขัดสนของทรัพยากรก็ได้
เธอตาโตหันมา...
“โห! คิดจะกินเสือเลยเหรอคุณนาย?”
“แล้วจะเอามาทำไมน่ากลัว?”
“เผื่อต้องประลองกำลังกับหมวดจาง ดูสิ! ใครจะเก่งกว่ากัน ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! เธอเสร็จฉันแน่ยายทหารจีน” จูยอนทุบหมัด /แย่แล้ว...เธอจะกำจัดหมวดจางเลยเหรอ/
“อนนี่จะเอาเสือมากัดหมวดจางเหรอ?” ฉันชักกลัวใจของเธอ จูยอนก็โหดไม่เบา
“บ้า!เอามาต่อรองย่ะ! ฉันจะเอามาหลอกล่อเด็ก ว่าแต่ว่าคุณจบดอกเตอร์จริงป่าววะเนี่ย?” เธอค้อนแล้วนั่งหลังตรง ตั้งใจขับรถโดยไม่หันมองฉันอีกเลย ฉันพูดอะไรผิดเหรอทำไมต้องถามถึงการศึกษาด้วย งงจริง
ปัญหาของเกาหลีบางเบาลงมาก แต่ปัญหาส่วนตัวกำลังเริ่มต้น ศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างสาวจีนกับสาวเกาหลีเหนือกำลังจะเริ่มในไม่ช้า ต่างคนต่างก็มีดี แม่ใหญ่ไม่มีทางยอมเป็นแน่แท้ กรรมการก็ไป Kala Democracy ไม่มีคนห้ามซะด้วย ฉันจะรับมือไหวมั้ยนะ?...
.............................................................
หลังจากทานข้าวกับสองผัวเมียด้วยความอึดอัดผ่านไป จูยอนก็ขอตัวกลับบ้านฉันก็เตรียมกลับไปนอนกับเยวอนในค่าย สองผัวเมียรั้นมากไม่ฟังคำอธิบายไม่รับคำขอโทษเลย
เรามายืนส่งจูยอนที่หน้าบ้าน เธออ่อนหวานเสมอโค้งศีรษะสุดตัวลากลับบ้าน...
“ฉันกลับก่อนนะ ยังไงก็ยังหวังที่จะร่วมงานกับคุณทั้งสองคนนะคะ”
แม่ใหญ่ยังเชิด…
“สิ่งที่คุณทำลงไป มันตรงกันข้ามกับเป้าหมายชีวิตของฉัน เราร่วมงานกันไม่ได้หรอก ไม่เป็นศัตรูก็บุญหัวแล้ว” อยากควักลูกกะตาของเธอจัง
“ก็ถ้าคุณอยู่ที่นี่มันก็มีงานให้ทำ นาตาลีอยากทำวัคซีน คุณไม่อยากช่วยเธอเหรอ?”
“ไม่ได้ผลหรอก อย่ามาหลอกซะให้ยาก” เธอเชิดคอจะหลุดแล้ว
ฉันรีบเสนอหน้าเข้าช่วย...
“ไม่ได้โกหก พูดจริง!”
เธอหันขวับ ลูกกะตาลอยมาก่อนเลย...
“อย่าพูดเรื่องนี้กับฉันอีกนะ ฉันจะโกรธแล้วไม่พูดกับเธออีก” อูย!แม่ใหญ่เอาจริง ฉันยอมก่อนก็ได้
“งั้นขอตัวก่อนนะคะ” จูยอนหมุนตัว
“อีโม่รอเค้าด้วย!” น้องแทนสลัดมือจากพ่อแล้ววิ่งไปเกาะแขน
“เฮ้ย!” ซอนร้องเสียงหลง แม่ใหญ่หน้าเสีย จูยอนหันมายิ้มหน้าบานนั่งลงกางแขนกว้างน้องแทนกระโดดเข้าหา
“เพิ่งกลับมาจะไปอีกเหรอคะ?” เธอก้มฟัดเด็ก
“เค้าจะไปจับผีเสื้อ”
“ผีเสื้ออะไรไปกับป๊าก็ได้ ข้างบ้านเราก็มี” ซอนเดินเข้าไปหาน้องหันหน้าซุกซอกคอจูยอน…
“เค้านัดไว้แล้ว”
“หือ!” ทุกคนหันสบตากัน
“นัดกับใครคับ?” หมวดจางอมยิ้ม
“แฮอึนน่า”น้องกอดคอจูยอนแน่น
“อ๋า! แฮอึนนูน่า ทหารหญิงที่บ้านค่ะ”
“อ้าว! แล้วซูมินล่ะ?” ฉันแซว
“เดี๋ยวเค้าก็กลับ มินของเค้า”
“ฉันไปก่อนนะทุกคน ลูกชายอยากจับผีเสื้อ ลูกชายอยากจับผีเสื้อ ฮ่าฮ่าฮ่า!” จูยอนเดินหัวเราะลั่น ขับรถยนต์โบกมือยั่วข้ามสะพาน ไป
“ทำไมคุณไม่ห้ามลูก” ซอนหันใส่เมีย
“ก็เขามีนัด หึหึหึ!” เธอชอบใจ นี่แหละแม่ใหญ่ตัวจริง
“ทำอย่างนี้ก็ยิ่งแพ้สิวะ! เดี๋ยวตัดพ่อตัดลูกแม่งเลย” ซอนฉุนเฉียว
“ป๊า!” แม่ใหญ่เสียงเข้ม
“..........” ซอนเม้มปากสนิท
อีซูมินหอบช่อดอกไม้ออกมาจากห้องโถงหลังห้องรับแขก แต่งชุดโกโจรีกระโปรงฟูเขียวอ่อนเสื้อขาวสวยสะดุดตา
“ขอเชิญมานั่งที่โซฟาหน่อยค่ะ!” เธอเข้ามาจูงมือสองผัวเมียไปนั่งที่โซฟากลางบ้าน
“จะทำอะไรคะ?” ฉันสงสัย
“หนูจะคำนับขอบคุณทั้งสองท่านค่ะ” เธอคุกเข่ายื่นช่อดอกไม้
“ปลื้มใจจัง!” หมวดจางยิ้มแป้นรับดอกไม้ขึ้นดม ซอนนั่งตัวตรง ท้งสองผัวเมียยังมีรอยชกช้ำและผ้าปิดแผลเต็มตัว
“ขอบคุณมากที่ช่วยชีวิตหนู!” ซูมินคำนับรัว ๆ หมวดจางก้มไปแตะไหล่
“เงยหน้าสิ!” ดวงตาของเธอประกายเจ้าเล่ห์ยิ้มมุมปาก เชยคางเด็กสาว...
“ฉันจะรับช่อดอกไม้แทนคำขอบขอบคุณ แต่เธอยังติดหนี้ชีวิต ต้องชดใช้”
“ห่ะ!” ฉันกับซอนมองหน้ากันอัตโนมัติ แม่ใหญ่เล่นอะไรอีกแล้ววะเนี่ย
“ค่ะ! หนูจะทำให้ทุกอย่างเลย” ซูมินยิ้มกว้างก้มหัวคำนับ
“ดี! งั้นเริ่มงานแรกก่อนเลย เป็นเพื่อนเล่นกับน้องแทนจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ย้ายมาพักกับฉันบนบ้านด้วย”
“ค่ะ!”
“เฮ่อ!”ฉันโล่งอกแสดงว่าเธอไม่ได้โกรธจริงจัง สมควรแก่เวลาแล้วกลับค่ายดีกว่า
“หมวดจาง! ฉันไปก่อนนะ”
“หนีความจริง มันไม่หายเจ็บปวดหรอก” โดนเธอเหน็บอีกดอกสงสัยยังไม่เคลียร์ หาเรื่องกันตลอดเลยนะ
“ตอนนี้แทนก็อยู่ไกลตาฉันไม่อยากคิดอะไรมาก คุยกับคนที่ไม่รู้เรื่องมันไม่ปวดใจ” ฉันเลือกไปมั่วกับเพื่อนทหาร คุยในเรื่องไกลตัวก็พอได้เบาใจ
“ความจริงคือพวกคุณมันใจดำ” ซอนแขวะ
“ถ้าเวลาย้อนคืนได้ ฉันจะยอมไป่ไป๋ทุกอย่างฉันยกแทนให้เลยก็ได้”
“คุณก็รู้ว่าเวลาไม่ย้อนคืน อย่ามาสร้างภาพ” อีตาซอนคงอยากได้แผลเพิ่ม
“เออ! ฉันผิดคนเดียว พอใจหรือยัง?” ฉันเริ่มไม่พอใจสองผัวเมียนี่แล้ว พูดไม่เสร็จบ่นไม่จบ
“ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปด้วยกัน” แม่ใหญ่จ้องตาเขียว ยายงูเห่ายังไม่เลิกนี่หว่า ฉันลี้ก่อนดีกว่าอยู่ต่อไม่ดีแน่ผัวเมียเข้าขากันอย่างนี้โดนยำแน่ หันไปหาอีซูมิน...
“ซูมินคะ! ถ้าเจ็ทโด้โอปป้ากลับมาแล้วค่อยคุยเรื่องานกันใหม่นะคะ”
“ค่ะ!”
“ฝากดูแลหาข้าวหาน้ำให้สองคนนี้ด้วยนะคะ ไปก่อนนะคะ อันยองฮี คเยเซโย”
“อนนี่อันยองฮี คาเซโย”
ในยามเช้าที่ไม่อยากลืมตาลมหายใจแรกมาพร้อมกับความคิดถึงและความผิดในใจ ฉันยังไม่อยากยอมรับกับการสูญเสียหันไปหาใครก็ไม่มีคนที่จะชุบชีวิตของเธอคืนมา ทุกวันที่พระอาทตย์ลาจาก ยิ่งยืดระยะทางของไป่ไป๋ไกลออกไปทุกที
ในอีกมุมโลกสองหนุ่มของฉันเป็นยังไงบ้างนะ นึกสภาพบ้านเมืองที่ตกอยู่ในสภาวะไร้รัฐไม่ออก หวังว่าชาวบ้านที่เหลือรอดคงรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือกันและฝ่าฟันกับอุปสรรคผ่านไปได้ โลกหลังจากนี้จะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอย่างแน่นอน
…………………………………………………………
หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |