หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 8 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 1 ก.ค. 2567 |
Kala city
มุมมองสายตา แทน
อีก 5 วันต่อมา...
ตะวันลาลับยอดตึกแสงไฟสนามบินเปิดจ้า ลานบาบีคิวกลางแจ้งควันโขมงโฉงเฉง ผู้คนพลุกพล่านใบหน้ายิ้มแย้มเปี่ยมสุข เวทีเล็กติดไฟแสงสีกระพริบวิบวับสวยงาม เจ้าสัวใจดีจัดงานเลี้ยงรับขวัญชาวบ้าน ผมสวมหมวกก้มหน้าเดินผ่านกลุ่มใหญ่พยายามฟังเพื่อเก็บข้อมูลหลังจากมีปฏิกริยาแปลก ๆ จากผู้ที่รอดชีวิต
“พวกเรา! กลุ่มเจ้าสัวใจดีเลี้ยงรับขวัญให้กับพวกเรา ดีจังเลยเนอะ?” ชาวบ้านต่างก็ตาใสกันถ้วนหน้า คืนกลับสู่ความเป็นมนุษย์เต็มสมบูรณ์และมอบความไว้ใจให้กับกลุ่มเจ้าสัว
“โชคดีที่ยังมีพวกเขาอยู่ อย่างน้อยเราก็มีผู้นำไม่อย่างนั้นอาจโดนไอ้พวกพม่าใช้ให้ไปช่วยคนอีก เหนื่อยตายห่าไม่เอาด้วยคนหรอก”
ความคิดเห็นแตกแยกเกิดขึ้นในชั่วเวลาอันสั้น สายตาของหลายคนที่มองมามีแต่ความเกลียดชังพวกเรา น้องพอดีเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก
“ประเทศนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องแท้ ๆ พวกเจ้าสัวต้องเป็นองค์เทพมาจุติแน่ถึงได้ปลอดภัยและช่วยพวกเราได้”
“นี่เธอ!แต่ฉันได้ยินมาว่าพวกเจ้าสัวจับได้ว่าไอ้พวกพม่ามันเอาวัคซีนปลอมมาหลอกขายให้เขา พวกเขากำลังหาหลักฐานอยู่ คุณแรมโบ้บอกมา”
“พวกมันโดนกระทืบแน่ ถ้ามีใครเป็นอะไรเพราะวัคซีน ผมไม่ไว้ชีวิตมันหรอก” แต่ละคำพูดที่ออกจากปาก ลากพวกเราไปเป็นคู่ขัดแย้ง
ในยามนี้มีคนเก่งมากมายและพวกเขาก็พร้อมจะทำร้ายพวกเรา เหตุการณ์คุ้น ๆ แบบนี้เกิดขึ้นได้เพราะความกลัวและความหูเบาที่ไม่รู้จักการคิดวิเคราะห์ เชื่อผู้พูดเพียงเพราะเขามียศบนบ่า
ผมเดินมองดูอาหารบุฟเฟ่บนโต๊ะยาว มาจนถึงทิศใต้ของลานจอดเครื่องบิน พี่น้องชนเผ่าหัวเราะเริงร่าใบหน้าทุกคนยิ้มกว้าง อาสาสมัครส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่อายุอยู่ในวัยหนุ่มสาว เจ้าขนมปังและเจ้าฮักเดินคอยดูอาหารและเหล้าไม่ให้ขาด พอดีพาไปขนเหล้ามาจาก Duty free กินกันเปรม
สาวน้อยที่ผมภูมิใจเริงร่าท่ามกลางพี่น้องชนเผ่า เดินขึ้นไปยืนบนเวทีเตี้ย ๆ ข้างลานแล้วนั่งพับเพียบ ผมเดินไปถึงพอดีจึงเอ่ยถาม...
“ล้น!..ทำอะไร?”
เธอหันมามองแล้วยิ้มกว้าง....
“หนูจะขอบคุณพี่น้องของเราค่ะ”
“อ้าว! ดีเลย!” ผมหันเข้าลานแล้วป้องปาก...
“ทุกท่านฟังทางนี้ก่อน” เสียงของผมดังพอที่จะดึงทุกคนหันกลับมามอง ผมยกนิ้วโป้งให้สัญญาณเธอ
พอดีขยับพนมมือนั่งพับเพียบตะโกนเสียงดัง
“พี่น้องคะ! ขอบพระคุณมากนะคะ ขอบคุณจากหัวใจ หนูเป็นหนี้ชีวิตของทุกคน ถึงแม้อาหารมื้อนี้จะทดแทนบุญคุณไม่ได้ทั้งหมด แต่...ทุกคนจะอยู่ในใจของหนูตราบนานเท่านาน หนูจะจดบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้ไว้บอกกับลูกหลานว่า พวกเราเป็นหนี้ชีวิตคนชนเผ่าชาติพันธ์และนักรบไทใหญ่”
สาวชนเผ่ากะเหรี่ยง ตะโกนแซว...
“กินข้าวเยอะ ๆ นะเอวจะขาดแล้ว รูปร่างเหมือนมดตะนอยหน้าตาก็สวยใจก็ดี ไปอยู่กับพวกเราก็ได้นะ เราจะดูแลอย่างดีเลย”
“เธออย่าอยู่ที่นี่เลย มันอันตรายเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวไปอยู่กับฉันดีกว่า” สาวม้งก็ไม่น้อยหน้ารีบแย่งตัว
พอดีเป็นที่รักของทุกคน ทุกวันสิ่งที่พวกเราเห็นคือเธอจะยิ้มแย้มเข็นรถไปกับน้องนางฟ้าแล้วร้องเพลงอย่างสุขใจเพื่อช่วยเหลือคนอื่น
“หนูเคยชินกับที่นี่มากกว่าค่ะ ใช้เวลาสักพักหนูคงปรับตัวได้ ขอบคุณมากนะคะ” เธอทำหน้าที่เจ้าของบ้านอย่างดีเยี่ยม ยิ้มแย้มแจ่มใสกับทุกคน ราวกับว่าพี่น้องชนเผ่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอ
“พี่น้องค่ะ! หนูมีวิธีระลึกชาติมานำเสนอ สนใจมั้ยคะ?” เธอยิ้มกว้างตาใส วันนี้เธอแต่งตัวสวยมากดูภูมิฐานมากกว่าทุกวัน
“ฮือฮา!” ยายล้นเรียกความสนใจจากกลุ่มได้สำเร็จ ผมเองชักสนใจยายนี่มีของเล่นเยอะดี
หล้ากับฮักยกมือพร้อมกัน...
“บอกหน่อย ๆ อยากรู้” เสียงเพี้ยน ๆ ดังระงม
“บอกเลย พวกเราก็อยากรู้” ชาวบ้านก็สนใจ
พอดีหาเรื่องมาสุมหัวกันได้แล้ว ทุกคนสนใจในสิ่งที่เธอนำเสนอ เธอลุกยืนแล้วชวนคุย...
“ชาติที่แล้วคือเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ทุกท่านลองกลับไปค้นคว้าประวัติศาสตร์ดูสิคะ เมื่อทุกท่านเริ่มสนใจประวัติศาสตร์ เริ่มอ่านและค้นคว้า เราจะเจอชาติที่แล้วซ่อนอยู่ในระหว่างทางของประวัติศาสตร์ แต่ละคนจะมีที่มาไม่เหมือนกัน”
“เจอได้ยังไง เราไม่เข้าใจแล้วต้องไปอ่านของใคร?” ด้านล่างพร้อมใจตะโกนขึ้นมา
“อ่านประวัติศาสตร์ทุกเรื่องไม่ต้องเลือกหรอกค่ะ พอเราเริ่มอ่านความน่าเบื่อมันจะคัดที่ไม่ใช่ออกไปเอง แต่ถ้าเจอ!...มันจะดึงดูดให้เราอ่านต่อจนเข้าสู่ขั้นค้นคว้า หมายความว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะใช่ คนทุกคนมีวิญญาณ ทุกคนเชื่อเรื่องจิตวิญญาณมั้ยคะ?” ยายนี่ฉลาดที่จะโยนคำถามเพื่อหาแนวร่วม
ผมนั่งยิ้มมองน้องโต้ตอบกับกลุ่มอย่างสุขใจ เด็กคนนี้มีคุณภาพมาก แต่ก็โดนจับกุมคุมขังเพียงเพราะเธอมีความคิดเป็นของตนเอง
“ใช่! เราเชื่อ พวกเรามีชุดความเชื่อเรื่องผีเหมือนกัน” พี่น้องตะโกนตอบเหมือนกับเธอเป็นไอดอลบนเวที
“ทุกชีวิตเคยมีตัวตนในประวัติศาสตร์ ตัวละครที่ถูกบันทึกไว้อาจจะเป็นคนสำคัญ แต่ในยุคสมัยนั้นย่อมมีคนที่เป็นตัวประกอบเสมอ”
“อือ!” มีคนเห็นด้วยซะงั้น
“เธอจะบอกว่าพวกเราเป็นตัวประกอบที่ไม่มีคนพูดถึงเหรอ?” ชาวบ้านตะโกนสวนขึ้นมา
หล้าตะโกนห้าม…
“ให้โอกาสเธอพูดก่อน อย่าพึ่งขัดสิ!” หล้าท่าทางจะเชื่อสนิทใจจ้องเธอไม่กะพริบตา
“อาจจะใช่และอาจจะไม่ใช่ค่ะ บางคนอาจจะเป็นตัวหลักก็ได้ หนูจะบอกว่ายังไงดีน้า!...ดวงชะตา...ของคนไม่เหมือนกัน ใช่!อย่างนั้นแหละค่ะ!” เธอยึกยักลังเล ผมอมยิ้มขำให้กำลังใจเงียบ ๆ
“มั่วรึป่าว! แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า เราเกิดในยุคสมัยใดบ้าง?” เจ็ทโด้ท่าทางจะชอบน้องคนนี้มากยืนยิ้มตาปิด
“ง่ายนิดเดียวค่ะคุณลุง” ยายล้นบิดตัวตาใส
“ฮือฮา! ทำได้จริงเหรอ? ” ฝูงชนสนใจหนักขึ้นมาอีก
“ผมตั้งตารอเลยนะเนี่ย บอกสักทีสิ! ลุ้นจนเยี่ยวเหนียวแล้ว” เจ้าฮักขยับตัวเป็นหนอนยุกยิกป้วนเปี้ยนอยู่บนตัวเจ้าปัง
“เคยมั้ยคะ เวลาเราไปในที่แห่งใหม่ เราอาจจะคุ้นเคยและผูกพันกับบางสถานที่แต่นึกไม่ออกว่าเคยมาเมื่อไหร่?”
“จริง! ผมเคยเป็นเหมือนกับ เดจาวู” เจ้าหล้าเออออกับเธอทุกอย่าง
“เคยมั้ยคะที่เจอกับคนหน้าคุ้น ทั้งเขาและเราต่างรู้สึกดีใจเหมือนกันคุยกันเป็นตุเป็นตะ แต่คุยกันไปคุยกันมาสุดท้ายแล้วเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน บอกลากันแบบงง ๆ ด้วยกันทั้งคู่”
“ผมเคยเป็น / ฉันไม่เคยเป็น” เสียงชาวบ้านเริ่มแตก
“หรือเจอคนบางคนทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักแต่เกลียดมันมาก ในขณะเดียวกันเขาก็เกลียดเราด้วยเช่นกัน”
“ใช่ ๆ ผมเคยเจอ เห็นหน้าก็เกลียดเลย” หล้าเชื่อมั่นมากกว่าใคร
“ผมก็เป็น! แค่มันหล่อกว่าก็เกลียดแล้ว” เจ้าฮักหัวเราะร่วน ยีหัวเจ้าปัง
“ถึงว่าสิ! ทำไมมึงถึงเกลียดกูนัก” เจ้าปังเพื่อนซี้อำกลับ
“มันคงเกลียดทุกคนในโลกนี้แหละ!” หล้ายีหัวลูกน้อง
“อย่ามาว่าพี่ฮักของหนูนะ พี่ฮักหล่อจะตายไป” พอดี สร้างบรรยากาศให้ฝั่งนี้อย่างสนุกสนาน ชาวบ้านมีความสุขแหงนคอตั้งรอเธอเล่าต่อ
“ในหนังสือประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง ย้ำนะคะ! หนังสือที่ถูกต้องจะมีจิตวิญญาณของคนร่วมสมัยนั้นซ่อนอยู่ ซึ่งก็อาจจะเป็นตัวเราที่ซ่อนอยู่ในบางห้วงเวลาของอดีต ประวัติศาสตร์บางเรื่องเราศึกษายังไงก็ไม่เข้าใจ นั่นเพราะเราไม่เคยเกิดในสมัยนั้น เลยไม่มีจิตผูกพัน”
“ผมไม่เข้าใจคำว่าประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องครับ” เจ้าฮักยกมือ
“อ๋อ! ประวัติศาสตร์ที่ถูกชำระและผ่านการค้นคว้ามีหลักฐานอ้างอิงเชื่อถือได้ ไม่ใช่เรื่องแต่งโฆษณาชวนเชื่อล้างสมองของรัฐค่ะ”
“อ๋อ!เข้าใจแล้ว ต่อเลยครับ” เจ้าฮักพยักหน้า
“ในอีกมุมหนึ่ง ประวัติศาสตร์บางเรื่องกลับมีจินตภาพที่เกิดในระหว่างอ่าน จนเหมือนกับว่าเราได้หลุดข้ามมิติเข้าไปในช่วงเวลานั้น เราเข้าใจหัวอกของพวกเขาและมีความรู้สึกร่วมกับเหตุการณ์ เขาเรียกว่า จิตยึดติดและรอคอย มันจะเกิดกับคนที่มีความรักและความแค้นที่ฝังใจก่อนตาย”
“อืม!” อันนี้ผมเห็นด้วยรีบช่วยสนับสนุน...
“มีมูล! ยายล้นพูดมีมูล ใช้ได้นี่หว่า! ผมก็เคยเป็นแต่มันก็หลายครั้งนะ ไม่ใช่เหตุการณ์เดียวกัน บางครั้งก็เป็นคุ้นเคยประวัติศาสตร์ของชาติอื่น”
“ถ้าพี่แทนบอกอย่างนั้น หนูไม่แปลกใจสักนิดเดียว” เธอยืนเด่นเป็นจุดสนใจของทุกคน พูดเป็นปริศนาให้ชาวบ้านแปลกใจ
“ทำไมล่ะ?” ชาวบ้านร้องถาม
“พี่แทนเป็นคนจิตใจสะอาด ชอบช่วยเหลือคน เขาอาจจะได้กลับมาเกิดไวกว่าทุกคนก็ได้” ยายล้นพูดซะผมปลื้มเลย
“น่าคิดเหมือนกันนะ!” เจ็ทโด้ยิ้มพยักหน้าตาม
“ผมไม่เคยเลยแม้แต่ในฝัน” เจ้าฮักร้องสวนขึ้นมาแล้วหันไปกอดคอเจ้าปัง
“เอ่อ!...ทุกชาติที่ได้กลับมาเกิดใหม่ ไม่ได้หมายความว่าจะได้เกิดเป็นคนทุกชาตินะคะ พี่ฮักอาจจะเกิดเป็นหนอนเพื่อชดใช้กรรมก็ได้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เสียงโห่ฮาแห่งความสุขสนั่นลาน
“ไอ้หนอนแมลงวัน!” เจ้าปังได้ทีบีบคอเจ้าฮัก
“อย่าพึ่งโกรธหนูนะคะ ขออธิบายเพิ่มอีกนิด...คนที่ต้องใช้หนี้กรรมแล้วไปเกิดเป็นสัตว์ชั้นต่ำนั้นถือว่าโชคดีมาก ช่วงชีวิตสั้นก็ตายเร็วไม่นานก็ใช้หนีกรรมหมด”
“ยังไง ยังไง?” หล้าขยับจ้องรอคำตอบ
“สมมุติว่าต้องชดใช้กรรม 500 ชาติ ถ้าเกิดเป็นหนอนแมลงวัน 1 ชาติเท่ากับ 28 วันหรือยุง 1 ชาติก็แค่ 7 วันเอง ไม่กี่ปี...เดี๋ยวก็กลับมาเกิดใหม่ แต่จะไม่มีความทรงจำเดิมหลงเหลืออยู่”
“เออว่ะ! คิดอย่างนี้ก็ดีนะ ไม่ต้องกลัวตายดี ” ชาวบ้านชอบใจ
ทันใดนั้น....
“ฮือฮา!” มวลชนกลุ่มใหญ่เริ่มขยับตัว บนเวทีด้านเหนือมีการเคลื่อนไหว ลุงโทนี่สวมสูทแดงสดเดินยิ้มหวานโบกมือไปกลางเวที
“พี่น้อง!...”ภาพของลุงโทนี่บนจอกระจายทั่วลานให้คน 150,000 คนได้เห็นจากทุกมุม
“เฮ้! ลุงโทนี่! ลุงโทนี่!” ชาวบ้านชูมือร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น
พอดีขยับตัวหันไปมอง…
“ลุงโทนี่พูดแล้ว หนูขอไปทำธุระหน่อยนะคะ” เธอขยับตัวเดินออกจากกลุ่ม
“รอด้วย!” หล้าลุกวิ่งตาม
เจ็ทโด้พาพ่อของผมเดินแยกตามลูกน้องเจ้าสัวไปด้านหน้า เสียงลุงโทนี่ดังกังวานผ่านลำโพงรถปราบจลาจลของตำรวจรอบสนาม
“พี่น้อง! ผมมีข่าวดีจะบอก” เขาท่าทางภูมิฐาน ใบหน้ายิ้มแย้ม
“เฮ้! ลุงโทนี่! ลุงโทนี่! คิดถึงจังเลย” Fc กรี๊ดสนั่น
“เกิดภัยพิบัติโลกล่มสลาย พวกเราคือกลุ่มคนที่รอดชีวิต ยินดีต้อนรับทุกท่านกลับมาสู่โลกของเรา กลับเข้ามาสู่อ้อมกอดของชาติ” สายตาของเขามองไปที่โต๊ะอาหารหรูหราของกลุ่มเจ้าสัว ในขณะที่มวลชนส่วนใหญ่นั่งกับพื้นปูน
“มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราครับ?” ชาวบ้านนั่งล้อมวงตะโกนสวนขึ้นมา ลุงโทนี่ยิ้มใจดีเอื้อนเอ่ยด้วยมธุรสวาจา...
“พวกท่านพึ่งได้รับการรักษาหายจากการเป็นผีดิบ เราได้ทุ่มเททุกวิถีทางเพื่อหาวัคซีนมาช่วยเหลือพวกท่านให้รอดพ้นอันตราย” ลุงโทนี่แสดงความเป็นเจ้าของบุญคุณได้อย่างแนบเนียน
“โอ้ว!พระคุณล้นพ้นหัว ลุงโทนี่! ลุงโทนี่!ลุงโทนี่! ลุงโทนี่!” มวลชนเทใจไปให้
“ทุกท่านไม่ต้องวิตกกังวลใด ๆ เราได้เตรียมบ้านและรถยนต์ไว้ให้กับทุกท่านคนละ 1 หลังเพื่อปลอบขวัญ ทุกคนมาอยู่รวมกันในเมืองเพื่อที่เราจะได้ดูแลอย่างทั่วถึง”
“เฮ!!!!” เสียงทรงพลังโห่ฮาดีใจพื้นสะเทือน
“เราต้องการเจ้าหน้าที่ประจำรัฐ 20,000 คน ท่านที่สนใจจะทำงาน ไปเขียนใบสมัครทิ้งไว้ รีบด่วนนะครับ”เขารับบทบาทเป็นซานตาครอสมาแจกของขวัญ ทำคะแนนเรียกความไว้วางใจ
“ไม่ทำได้ไหมครับ?”
“เราอยากกลับบ้านค่ะ”
“ได้สิ! ทุกท่านได้เป็นคนของรัฐแล้ว แต่คนที่ทำงานกับเราจะมีสวัสดิการ มีอาหาร มีอาวุธประจำตัวให้และได้รับสิทธิพิเศษมากมาย คนที่คุณสมบัติดีและยื่นใบสมัครก่อนจะได้เป็นเจ้าคนนายคน”
“เฮ!” พวกเขาร้องรับความหวังใหม่ของชีวิต
“เราทุ่มเงินมหาศาลเพื่อให้ได้วัคซีนนี้มา ทุกท่านจะปลอดภัยและกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนที่ผ่านมา” ลุงโทนี่มัดหัวใจมวลชนสำเร็จงดงาม ถึงมันจะฟังดูเหมือนพวกผมจะโดนเอาเปรียบ แต่เป้าหมายของเรามาเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ไม่ได้ยึดติดกับชื่อเสียงเงินทอง ถ้าเขาดูแลกันได้ก็ปล่อยให้เขาทำไป
ผมทำใจเรื่องนี้ไว้แล้ว แววมันออกตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เดินกลับไปที่รถเหลืองริมขอบลานอาคารสนามบิน พอดีกับหล้านั่งคุยกันอยู่เลยแอบย่องไม่ให้ทั้งสองเห็น สาวน้อยนั่งรื้ออาวุธท้ายรถเหลืองฟังลุงโทนี่กล่อมมวลชน เธอหยิบปืนยาวขึ้นมาตั้งท่ายิง
“พี่หล้าสอนหนูหน่อยสิ พี่แทนสอนหนูยิงปืนสั้นแล้ว”
“ได้สิ! ต่อไปถ้าพวกผมกลับไปแล้วคุณต้องใช้อาวุธให้เป็น คนไม่กลัวปืนหรอกพวกเขากลัวเสียงของมัน” หล้าใช้อาวุธคล่องมากหยิบปืนมาขึ้นลำ แต่ยายล้นหันไปสนใจอย่างอื่น...
“อันนี้อะไรคะเหมือนห่อหมากฝรั่ง?” เธอหยิบ C4 ขึ้นมา
“เปิดช่องเล็กนั้นหน่อยสิ หยิบโทรศัพท์กับซิมสีเหลืองออกมา” เขาชี้ไปที่หลังเบาะ ผมขยับใกล้เข้าไปอีกอยากจะห้าม แต่ก็เข้าใจความหวังดีของหล้าและเธอต้องมีอาวุธเป็นเพื่อนคู่ใจจึงรอดูต่อเงียบ ๆ
“ระเบิดพวกนี้ผมเป็นคนประกอบเอง สั่งงานด้วยคลื่นวิทยุที่นี่ยังมีคลื่นวิทยุ ใช้ได้!” เขาถืออาวุธร้ายแรงเหมือนของเล่น ผมคิดว่าพอดีคงไม่เอากับระเบิดแน่
“ใช้ยังไงคะ?” คิดผิดถนัด ยายล้นระริกระรี้ตาวาวไม่มองปืนยาวเลย
“เอามันไปโยนในที่ ๆ ต้องการทำลาย แล้วกด 1 มันจะบรึ้มเลย”
“อ๋อ! ที่พวกพี่เอาไปถล่มทหารจีนเมื่อวันก่อนนี่เอง”
“เอาลูกนี้ไปสิเล็กดี ทำลายล้างสูงมาก” เขาโยนใส่เธอรับอย่างมั่นใจ ไอ้สองคนนี้มันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเคยพากันไปยิงหัวเชลย ต้องคอยระวังเดี๋ยวพากันไปทำเรื่องอีก
“ลูกกระจี๊ดเดียวเอง” เธอยิ้มพอใจพลิกระเบิดในฝ่ามือ
“เล็กแค่เนี้ยะทำลายอาคารได้ทั้งหลัง ฆ่าคนได้เป็นร้อยเลยนะ”
“หนูจะเก็บไว้ใช้” พอดียัดใส่กระเป๋ากางเกง
ผมเดินพรวดออกไป...
“ทำอะไรกัน?”
“ว้าย! พี่แทนตกใจหมด” ยายล้นร้องลั่น หล้ารีบเข้ามาอธิบาย
“ผมกำลังสอนน้องใช้ระเบิด C4ครับ เธอจำเป็นจะต้องใช้อาวุธ ให้เธอไว้ใช้ป้องกันตัวดีกว่าไม่มีอะไรป้องกันนะครับ”
“ยายล้นจะสู้กับใครได้ ฮึ?” ผมแกล้งสบประมาท
“ถ้าขันมันรั่วก็เอากะลาตักน้ำไปก่อน หนูก็เอาไว้ระเบิดฆ่าตัวตายก็ได้ ไม่เห็นจะยาก” ยายล้นที่ผมรู้จักเริ่มโหดขึ้นตามลำดับ /อย่าบอกนะว่าคิดจะทำระเบิดพลีชีพ/
หล้าหันกลับไปมองเวที เสียงจากลำโพงรถตำรวจปราบจลาจลดังก้อง ชาวบ้านดื่มด่ำกับความสุขแต่ผมกังวลใจลึก ๆ กับสิ่งที่ได้ยินชาวบ้านพูด
“ดูเหมือนว่าลุงโทนี่จะพูดแปลก ๆ นะ” หล้าก็สัมผัสได้กับสิ่งแปลกปลอม
“ดาบที่ 1เขาเริ่มด้อยค่าพวกเราแล้ว มันต้องมีดาบที่ 2 แน่” เธอพูดเบา ๆ แล้วถอนหายใจแรง ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวผู้ใหญ่ของประเทศเลย พวกเขาคงฝากรอยแผลร้าวลึกไว้จนเด็กไม่ยอมรับ
“ลุงโทนี่! ลุงโทนี่!” มวลชนโดนลุงโทนี่เร้าจนเคลิ้ม...
“ทุกท่านเป็นกระดูกสันหลังของชาติ พวกเราต้องช่วยกันกลับมายิ่งใหญ่ Kala Democracy ของเราต้องเป็นสิงห์โตแห่งเอเชีย ทุกท่านพร้อมที่จะก้าวไปด้วยกันไหม?” ลุงโทนี่กระตุ้นใจมวลชน
“พร้อม!” เสียงชาวบ้านสนับสนุน
“สำหรับเพื่อนชาวเขาของเราที่มาช่วยงาน ขอให้ทุกท่านเป็นเจ้าของบ้านที่ดี เลี้ยงพวกเขาให้เต็มที่ พรุ่งนี้! พวกเขาจะกลับกันแล้ว”
“ได้เลย พวกเราจัดเต็มให้พวกเขากัน” ถึงแม้เสียงตอบรับเต็มใจแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมเบาใจ หันกลับไปมองหล้ากับพอดีกำลังซ้อมชักปืนจากเอวจึงเดินเข้าไปกอดคอหล้า...
“หล้า!ระวังตัวกันด้วยนะ! เดี๋ยวผมจะไปหาเจ็ทโด้ข้างหน้าก่อน พอดี!อาวุธใช้ได้ต่อเมื่อจำเป็นนะครับ อย่าเอาไปรังแกคนอื่นนะและห้ามทำอย่างคราวก่อนด้วย” ผมยังเคืองที่ทั้งสองคนแอบไปยิงหัวเชลย
“ค่ะ!”
หล้าหันไปคุยกับน้อง...
“พวกผู้ใหญ่เริ่มงานของเขาแล้ว ต่อไปคุณก็ไม่ต้องลำบากยังเป็นบุญของชาตินะที่ยังเหลือบุคคลสำคัญไว้”
“พี่หล้าคิดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอคะ? หนูไม่ได้คิดแบบนั้นเลย หนูอยากจะเตือนคุณลุงว่าอย่าไว้ใจพวกนั้น หนูก็พูดไม่เต็มปาก พี่แทนต้องเตือนคุณลุงด้วยนะคะ ถ้าไอ้พวกนี้บอกว่าใช่เท่ากับไม่ใช่ ถ้าบอกว่าไม่ทำเท่ากับทำ มันโกหกจนหนูไม่เคยเชื่อพวกมันอีกเลย” จริงอย่างที่คิดเธอโดนผู้ใหญ่หลอกมาจนเข็ด
“อ้าว! ทำไมล่ะครับ?” หล้าไม่เคยรู้ว่าพวกเราโดนหักหลังบ่อย ๆ
“หนูมีลางสังหรณ์ ขอให้สิ่งที่หนูคิดไม่เป็นจริง พี่ก็ได้ยินนี่เขาพูดแปลก ๆ ชาวบ้านก็เห็นแก่ตัวแปลก ๆ” เธอมองไปด้วยสายตาระแวงของคนที่เคยเจ็บมาก่อน
ผมลูบหัวน้องเบา ๆ...
“อย่าซีเรียสมาก อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ พี่ไปก่อนนะ” ผมหมุนตัวเดินจาก
“เดี๋ยวหนูมานะคะ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน พี่แทนรอด้วย” เธอเดินมาเกาะแขนแล้วจะแยกเข้าไปในตัวอาคารด้านข้างของลานสนามบิน
“เฮ้ยนั่น!” เธอชี้ไปที่แรมโบ้เดินกอดคอลูกน้องผ่านมา ท่าทางลุกลี้ลุกลนมีพิรุธ
“หลบก่อนพี่!” เธอดึงผมหลบไปแอบด้านหลังแผ่นไวท์บอร์ดแล้วเขย่งขึ้นมาเอามือปิดปากของผม…
“พี่แทนอยู่เงียบ ๆ นะ”
“อะไรของเธอเนี่ย ปิดปากพี่ทำไม?” ผมดิ้นหนี
“อ้าวกลัวพี่ตกใจร้องโวยวาย ฮี่ฮี่!” ยายล้นหน้าทะเล้น
“เดี๋ยวเขกหัวซะเลย”
“มันมาแล้วเงียบก่อน”
แรมโบ้เดินมาหยุดตรงที่พวกเราแอบอย่างกับนัดไว้ เราสองคนเงี่ยหูฟังมันคุยกัน
“มึงจัดการเรียบร้อยหรือยัง?” เสียงแรมโบ้เครียด
“เรียบร้อยแล้วครับ 5 คน” เขาเดินมาหยุดคุยกัน
“ทำไมยังไม่ออกฤทธิ์สักทีวะ เจ้าสัวเริ่มมองหลายครั้งแล้วนะ”
“เดี๋ยวผมไปจัดการเพิ่มให้”
“ไปเลย รีบจัดการ” ทั้งสองเดินเข้าไปมั่วกับฝูงชน
พอดี เดินออกมามองตามหลังทั้งสองด้วยความสงสัย...
“พี่แทนเชื่อหนูเถอะ! ต้องเกิดเรื่องแน่ ต้องอะไรสักเรื่องแน่ ๆ” เธอหันหลังกลับเดินขึ้นอาคาร ผมเดินเข้าไปรวมกลุ่มชาวบ้าน คิดวนเวียนในหัว...มันจะทำอะไรกันวะ?
ความไม่ไว้ใจไม่ได้เกิดขึ้นปัจุบันทันด่วน มันเกิดจากความเข็ดที่สะสมเหมือนตะกอนปากแม่น้ำ พอนานวันจากตะกอนก็ตกผลึกกลายเป็นสันดอน และผ่านเวลาจนกลายเป็นเกาะที่แข็งแรงและต้านทานกระแสโกหกนั้นได้เหมือนหัวใจของพอดี
………………………………………………….หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |