The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 8 ตอนที่ 16

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 8 ตอนที่ 16
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 8
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 1 ก.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


เกาหลีเหนือ

มุมมองสายตา แทน

มีนาคม ค.ศ.2026

ค่ายทหารตะวันตกชินอุยจู

หมวดจางกับซอนเดินวนในห้องอย่างร้อนรน ป่ะป๊ากุมมือเมียคอยปลอบให้คิดแต่สิ่งดี ๆ สายตากังวลของทุกคนแฝงไปด้วยความหวัง ส่วนนาตาลีของผมนั้น วิ่งกรี๊ดสนั่นจนชาวบ้านร้านตลาดแตกตื่นเมื่อรู้ว่าไป่ไป๋ยังมีชีวิตอยู่

ทุกคนลุ้นรอคำตอบจากจาการเจรจาของจูยอน หายใจได้ครึ่งท้องมา 2-3 วันแล้วในหัวใจทุกดวงต่างส่งกำลังใจไปให้ไป่ไป๋ ผมเองก็เช่นกันหายใจไม่ออก อึดอัดกินข้าวไม่ลงเป็นห่วงและรู้สึกผิด

เสียงเล็ก ๆ กวนประสาทดังขึ้น...

“ลีเค้าไม่ชอบคนนี้!” น้องแทนชี้หน้า /เจ้าเปี๊ยกนี่! ยังไม่กินเส้นกัน มากวนใจตอนที่หงุดหงิด เดี๋ยวบีบคอซะเลย/

ผมเห็นน้องแทนแล้วก็คิดถึงน้องนางฟ้า รู้งี้! เอามาด้วยก็ดี จะให้เจ้าหัวฟูเป็นหมาหัวเน่าไปเลย เขากับผมอยู่คนละมุมเชือกเหมือนนักมวยฝ่ายแดงกับน้ำเงิน เราสองคนไม่เคยญาติดีกันและไม่มีท่าทีว่า...เขาจะยอมรับ

“อย่าเข้าใกล้ลีของเค้า” ไอ้เข้น้อยขวางคลองตลอด เขาเป็นบอดี้การ์ดตัวน้อยป้วนเปี้ยนรอบตัวของนาตาลีทั้งวัน คอยขวาง คอยแซะไม่ให้เข้าใกล้

ผมย่องไปอุ้มน้องแทนจากด้านหลัง...แล้วยกสูง

“เอิ้ก! เอิ้ก! เอิ้ก! เจ้าหัวฟูหัวเราะชอบใจ แต่พอเขาหันมาเห็นว่าเป็นผมเท่านั้นแหละ ลูกตาแทบหลุดจากเบ้า ทั้งมือทั้งเท้าถีบยันมั่วไปหมด....           

“ปล่อย! ปล่อย! อย่าจับ! เขาหน้าแดงดิ้นทั้งทุบทั้งถีบ นาตาลีผวาเข้ามารับ...

“ทำไมล่ะคะ เขาก็รักน้องแทนนะคะ?” เธอกอดฟัดน้องซบซอกคอไม่ตอบ ผมหน้ามึนเดินเข้าไปกอดรวบทั้งสองคน

“ปล่อยนะ! กลับมาอีกทำไม?” เขาสะบัดดิ้น หันมามองตาขวาง กัดริมฝีปากกำหมัดแน่น

“ฮึ้บ! ผมไม่ปล่อยกอดแน่นข้าไปอีก เจ้านักสู้ตัวน้อยหวงของรักไม่ยอมให้ใครแตะต้องดิ้นสู้

“ปล่อย! ไม่ชอบคนนี้ ชอบกอดลีของเค้า เว่ยกงเว่ยโผช่วยเค้าด้วย!น้องหันมองหน้าคุณหมอกับหม่าม้า แต่ทุกคนหน้าเศร้าไม่มีอารมณ์สนุก ยังลุ้นระทึกกับการต่อรองของจูยอน

นาตาลีหันบอก

“ก็ลีรักคนนี้ด้วย รักสองคนเลยนะคะ”

“ไม่เอาไม่ให้รัก ไม่ให้กอดกันด้วย” เขางอนดิ้นลงเดินไปหาอีซูมิน ผมอมยิ้มแล้วคิดในใจ...นั่นแหละพี่เลี้ยงของแก...ไอ้เปี๊ยก! /สาว ๆ เป็นของแกทั้งหมดเลยนะ จะเหมาคนเดียวเลยสิท่า/

นาตาลีหน้าทะเล้นตามไปก้มหน้าลงไปถาม

“น้องแทนไม่ให้กอดกันเหรอคะ?”

“อื้อ...เค้าเสียใจ มันเจ็บตรงนี้” น้องพยักหน้าเอามือกุมหน้าอกตาละห้อย //น่ากระทืบมากกว่า ขี้อ้อนเหลือเกิน//

นาตาลีหันมาตีแขนของผมเบา ๆ ...

“นี่แนะ! ทำให้น้องแทนเสียใจ ลีจะไม่ทำอีกแล้วนะคะ มารักกันรักกัน” เธอก้มลงไปกอดหอมแก้ม เจ้าเปี๊ยกปลื้มซะเต็มประดาแต่ยังไม่วายพูดให้ทุกคนใจหาย...

“เมื่อวานก็ไม่มีไป๋ วันนี้ก็ไม่มีอีก คิดถุงหายใจไม่ออกแล้วด้วย เขาทำให้ทุกคนต้องเงยหน้ามอง

“เว่ยโผเว่ยกง มากอดกันกอดกัน” น้องแทนวิ่งเข้าไปกอดคอทั้งสองท่านแล้วหอมแก้มประจบ น้องยังคงทำหน้าที่บรรเทาความเจ็บในอกให้ทุกคนอย่างไม่รู้ตัว เป็นยาประสานความเจ็บปวดให้ผู้ใหญ่ทุกคน ความน่ารักสดใสไร้เดียงสาของเขาเบี่ยงเบนความรู้สึกที่จมดิ่งให้เบาบาง

หม่าม้าเงยหน้า สายตาสุดโทรม...

“แทนคะ! จูยอนจะช่วยไป่ไป๋ได้ใช่มั้ยลูก เธอคุยมาหลายวันแล้วนะ” ท่านขยับเข้ามาสายตาเศร้า

พวกเราปกปิดเรื่องสภาพร่างกายของไป่ไป๋ พวกนั้นคงพยายามรักษาบาดแผลให้เรียบร้อยก่อนส่งตัวคืน เพราะจากรูปที่เห็นเธอสาหัสมาก

นาตาลียื่นหน้า...

“รอไป่ไป๋อีกนิดนะคะ อีกนิดเดียว”เธอเรียกชื่อไป่ไป๋ได้เต็มปากมากขึ้น ก่อนหน้านี้ร้องไห้ตลอด...ถ้าต้องเอ่ยชื่อนี้

น้องแทนยื่นหน้าเข้ามาดับความหวังของคนแก่...

“ลีพูดอย่างนี้ทุกวัน เค้าก็คอยทุกวัน” น้องแทนพูดเรื่อยเปื่อยปีนขึ้นหลังหม่าม้า ผมเห็นท่าไม่ดีแน่คนยิ่งใจหายใจคว่ำกันอยู่ หันไปกวักมือเรียกน้อง...

“ซูมินครับ พาน้องไปเล่นข้างนอกก่อนนะ”

ผมหันไปปลอบใจคนแก่...

“จูยอนไม่เคยทำงานพลาดครับให้โอกาสเธออีกนิดนะครับ” ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการพูดพยุงใจคนสิ้นหวัง ผมเองก็ใจโหวงเหวงไม่ต่างจากพวกท่าน การเปลี่ยนใจนิดเดียวของหวังฉวนหมายถึงลมหายใจของไป่ไป๋

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยด้วย ป๋อฮ่อ! ป๋อฮ่อ!” เมื่อสิ้นหวัง เทพเจ้าก็เป็นที่พึ่งทางใจเป็นที่เกาะเกี่ยวความหวังริบหรี่ของมวลมนุษย์ ผู้ศรัทธาเท่านั้นที่รอคอยปาฎิหาริย์

เจ็ทโด้กับจูยอนอยู่ห้องสื่อสารฯ วันนี้รู้เรื่องแล้วผมยืนยันให้ท่านสบายใจ

ท่านคุกเข่าต่อหน้านาตาลี...

“นาตาลี! ฉันขอโทษนะคะ ฉันไม่น่าดูถูกความรักของคุณเลย ฉันขอโทษนะนาตาลี ช่วยน้องด้วยนะ” ท่านโผกอดขาร้องไห้โฮ เธอเด้งทรุดลงไปประคอง ...

“เฮ้ย! ไม่ได้สิคะทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ หม่าม้าคะ! อย่าทำอย่างนี้ ไม่ต้องขอโทษ อย่าคุกเข่า หนูไม่โกรธเลยค่ะ” เธอรีบประคองท่านขึ้นนั่งบนโซฟา

“ผมเองก็ต้องขอโทษด้วยนะดอกเตอร์ที่ไม่มีความกล้าพอ” คุณหมอเขามาประคองเมียแล้วนั่งคู่กัน

“ป่ะป๊า! หม่าม้า! ลืมมันไปเถอะค่ะ เรารอรับไป่ไป๋อย่างมีความสุขกันดีกว่า คิดถึงแต่สิ่งดีดีเธอต้องปลอดภัย จูยอนเก่งมากเธอทำได้แน่” นาตาลีพยุงใจ

หมวดจางนั่งอีกมุมเงียบปากมานานสายตาคมดูขวางโลก โยกเก้าอี้ของผบ.กองพันพูดช้า ๆ ...

“ถ้าเธอช่วยไม่ได้ฉันไม่ยอมแน่ ฉันจะพังเกาหลีให้ดู รู้จักจาง แอนนาน้อยไป” แม่ใหญ่หมายหัวจูยอนซะแล้ว เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย?

ในระหว่างที่พวกเราไม่อยู่ ไม่รู้ว่าแม่ใหญ่วางมวยกับจูยอนหรือเปล่า? โจทย์เก่ามาเจอกันต่างคนก็ต่างมีฝีมือ ไม่ยอมลงให้กันง่ายแน่

ซอนยืนกอดคอเมียหันมาค้อน...

“ถ้าไป่ไป๋กลับมา กูขอห้ามไม่ให้มึงคุยกับน้องสาวกูอีก” เขาชี้หน้าอาฆาต ดูเหมือนว่าทั้งหมดเป็นความผิดของผมคนเดียว ทั้ง ๆ ที่ผมไม่รู้เรื่องเลยก้มหน้ายอมรับผิด เถียงไปก็เข้าเนื้อนาตาลีตัวต้นเรื่อง

“พี่ซอน! เจ็ทโด้มีเรื่องเคลียร์กับพี่เยอะเลย เอาไว้ให้อารมณ์ดี ๆ เรามานั่งคุยกันประสาพี่น้อง 3 คนนะ” ผมอ้อมแอ้ม//เป็นลมแน่พี่//

“กูไม่เคลียร์ กูจะกลับบ้านกับเมียกู” เขาก้มกอดหอมสอพลอน่าดู รอดตายมาได้คงรักกันมากขึ้น/ หรือ...กลัวเมียกันแน่วะ?/

หมวดจางสายตากังวลถอนหายใจแล้วเปรยออกมา...

“นอกจากเจ็ทโด้แล้วก็ไป่ไป๋นี่แหละที่จิตใจมั่นคงและแน่วแน่มาก พวกเราดูถูกจิตใจของเธอ ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะไปฆ่าหวังฉวนจริง ๆ คิดใหญ่มากใจกล้ากว่าฉันอีก ตอนไปเจอกันในค่ายฉันยังแปลกใจเลย”

นาตาลีโบกมือห้าม...

“เอาน่า! รอจูยอนก่อน อย่ามองไปทางเลวร้ายสิ คุณอย่าอคติ ถ้าจูยอนช่วยไป่ไป๋ได้ คุณสองคนจะคุยกันใหม่มั้ยล่ะ จะขอโทษเธอมั้ย?” นั่นไงล่ะ! ทะเลาะกันตอนพวกเราไม่อยู่นี่เอง / พลาดงานนี้ไม่ได้ ต้องรอชมการปะทะคารมของสองสาวใหญ่/

“เชอะ! หมวดจางเมินหน้า แต่...พอเธอเปรยออกมาอีกครั้ง ขนหัวลุกกันทั้งวง...

“ซีชานน่ากลัวสุด! มันจ้องจะเล่นเธออยู่ด้วย อยู่ในอุ้งมือมันแล้วจะรอดได้ยังไง หุ่นก็น่ากินเหลือเกิน เฮ้อ! เธอพูดแต่ละอย่างบีบรัดหัวใจเหลือเกิน

นาตาลีแยกเขี้ยว...

“ย่าห์!ไม่เห่าก็ไม่มีใครว่า เป็นหมาหรอกนะ” เธอค้อนตาคว่ำ หมวดจางเชิดหน้าเบะปากไม่แยแสแล้วหันไปกุ๊กกิ๊กกับผัว//กวนตีนจริงนะ//

“คุณ!...ทำยังไงดี?” หม่าม้าร้อนก้นหมุนรอบตัวหันไปหาสามี ผมหันไปยิ้มปลอบใจ...

“อย่าพึ่งคิดอะไรเลย พักกันไปก่อนเถอะครับคุณหมอ รบกวนด้วยนะครับ”

“เจอพวกคุณทีไรมีเรื่องให้วุ่นวายทุกที ฮ่าฮ่าฮ่า!” ท่านยังมีรอยยิ้ม

ไม่รู้ล่ะ ฉันไม่ยอม! จู่จู่ หมวดจางก็ฮึดฮัดขึ้นมาอีก

บ้านนี้กวนประสาทตั้งแต่พ่อแม่ยันลูกชายตัวเล็กเลย ซอนยืนด้านหลังตั้งใจบีบไหล่เอาใจเมีย คลอเคลียไม่ห่างกาย…

“ม้า! เผาแม่งให้หมดเลย เดี๋ยวป๊าจัดให้! นั่นไง! ผัวก็กวนตีนใช่ย่อย

ผัวเมียพอกันจริง ๆ พี่ซอนช่วงหลังเด่นเรื่องกลัวเมียมาก ใคร ๆ ก็รู้ว่าหมอนี่ฆ่าคนตาไม่กะพริบ แต่โดนเมียตบหงอยเหมือนคนโดนหวยแดก

“เอาสิ! เผาเลย ฉันจะเอาน้องแทนไปย่าง” นาตาลีสวนทันที แต่ซอนยังไม่ยอมหยุดหันไปหาหม่าม้า...

“หม่าม้าครับ...ผมเห็นไป่ไป๋ทำยาตกไว้ ชื่อ...โซ...ปรา” วุ่นวายได้ถ้วยจริง ๆ หมวดจางขยับอีกคน...

“ใช่! เธอแอบกินยาฉันก็เห็น น้องเป็นอะไรหรือเปล่า?”เธอหันไปมองคุณหมอ

“ฮือฮือ! หม่าม้าสะอื้นร้องไห้ขึ้นมาอีก ยิ่งบีบรัดหัวใจให้อยากรู้...

“ฉันไม่ดีเอง! หลังจากที่แทนจากไปได้ 3 ปี น้องเครียดมากจมอยู่กับอดีต ที่เธอหนีกลับมาเป็นพยาบาลเพราะเธอเป็นไบโพล่า ฉันคิดว่าถ้าแต่งงานแล้วจะหาย ฮือฮือ!

“ฮ๊า! ทุกคนช็อกเหมือนกัน ผมยิ่งน้ำตาตกใน

“โซ...โน...ถึงว่าสิ! เธอเคยจะกระโดดน้ำตายด้วย” ซอนยังนึกชื่อยาไม่ออก พูดออกมาใจหายวาบทั้งวง

“ฮ๊า!ทุกคนช็อกเป็นครั้งที่สอง นาตาลีร้องไห้โฮ...

“ฮือฮือ!ฉันไม่เคยรู้เลย เธอไม่สบายนี่เองถึงใจกล้าบ้าบิ่น น่าสงสารจังเลย” นาตาลีกอดหม่าม้าร้องไห้จ้า

“ฉันกลัวลูกจะคิดสั้น ถ้าไม่ได้กินยา อาจจะ...ฮือฮือ!

“หนูเข้าใจแล้วค่ะ ทุกคนก็คิดจะช่วยให้เธอหายป่วย ไม่ต้องพูดเรื่องเก่าแล้วนะคะ ไม่ต้องโทษตัวเองอีกแล้วค่ะ”

“ยู...ไอ...น่าห่วง!” ซอนยังคิดชื่อยาไม่ออก นั่งขมวดคิ้วพูดไปเรื่อย

“อัลปราโซแลม” คุณหมอตอบ

“ใช่เลย!...อัลปราโซแลม” ซอนยิ้มกว้างหันไปตีมือกับคุณหมอ

“ให้อภัยไป่ไป๋กันด้วยนะครับ เธอน่าสงสารมากโรคนี้มันทำให้ควบคุมจิตใจตัวเองไม่ได้ เป็นผลมาจากการย้ำคิดย้ำทำเรื่องการตายของแทน เธอไม่เคยปล่อยวางเรื่องนี้เลย” คุณหมอค่อย ๆ มองหน้าทีละคน

ผมเดินวนเป็นหนูติดจั่นหัวแทบจะระเบิด กังวลใจเหมือนโดนทวงหนี้นอกระบบ ผมมีส่วนผิดที่ทำให้เธอต้องเป็นอย่างนี้ ตอนนี้เธอคงจะกลัวและเหงามาก นอนก็คงหลับไม่สนิทอาการจะกำเริบหรือเปล่า?

“เฮ้อ! กังวลจนหัวใจเต้นแรง หน้าอกแทบระเบิดเดินไปเดินมาก็ทำอะไรไม่ได้ นึกอะไรบางอย่างออกแล้ว ในระหว่างที่รอไปตีสนิทกับเจ้าหัวฟูก่อนดีกว่า

         …………………………………………..

น้องแทนกับอีซูมินกำลังขุดทรายเล่นกันอยู่นอกอาคาร ผมเป็นคนเดียวที่น้องไม่เล่นด้วยเขาเกลียดอย่างชัดเจน ผมเดินเฉี่ยวเข้าไปข้าง ๆ แล้วบิดขี้เกียจ

“เอ้อ! เมื่อยจังเลย”

พอเขาเห็นก็ลุกเดินอ้อมไปแอบหลังอีซูมิน สายตาคู่น้อยที่มองมานั้น เชือดเฉือนบาดใจสิ้นดี ผมยิ้มหวานก้มลงไปหา...

“ชื่อแทนเหรอ ชื่อเดียวกันเลยนะมาเป็นเพื่อนกันมั้ย?” ผมทักแล้วยื่นนิ้วก้อยให้

“หึ! เขาสะบัดหน้าเมินมองไปที่อื่น

“มีของเล่นสนุกกว่าขุดดินอีก สนใจป่ะล่ะ?”

“...........”เขาเมิน หันไปป้องมือกระซิบข้างหูอีซูมิน...

“คนนี้นิสัยไม่ดี ไม่ชอบ อย่าไปคุยด้วย” ปากจู๋เมินหน้าไม่สบอารมณ์ /นั่นมันท่าทางของไป่ไป๋ชัด ๆ /อีซูมินอมยิ้มมอง

ผมพูดเสียงดังหวังผล...

“ไปขี่เสือดีกว่า ไปขี่ลีอองตัวใหญ่ ๆ”

“หือ! เขาหันขวับ สายตาของเด็กน้อยเปลี่ยนไปจากเกลียดชังดูเป็นมิตรขึ้นแต่เขายังไม่ขยับ

ผมก้มหน้าลงไปกระตุ้นต่อ...

“ไปรึป่าวขี่เสือตัวหย่าย สนุกนะ?” ผมยักคิ้วให้

เด็กน้อยดวงตาคมสวยเหมือนแม่หล่อเหมือนพ่อท่าทางลังเลและสงสัย สายตาจิกเหมือนแม่ใหญ่มาก เจ้าเล่ห์เชียว

“มีเสียกี่ตัว?” เขายังไว้เชิงลอยหน้ามองหางตา ท่าทางเหมือนหมวดจางเวลาจะเล่นงานคนเลย

1 ตัว สีขาวเชื่องด้วย ขี่หลังก็ได้ เอาป่ะล่ะ?” ผมพยักหน้าชวน ส่งช็อกโกแลตก้อนไปให้...

“อันนี้อร่อยมาก แบ่งกันนะ” ผมต้องชนะใจเจ้าตัวน้อยนี้ให้ได้ คิดแล้วก็น่าสงสารเป็นใครก็ต้องโกรธทั้งนั้น มาแย่งคนรักไปต่อหน้าต่อตา

เขาแกะห่อขนมแล้วแบ่งกับอีซูมินคนละครึ่ง...

“มิน! เสียมันเป็นยังไงเค้าไปขี่ได้หรือเปล่า เค้าอยากเห็น?” เจ้าตัวน้อยหัวยุ่งหันไปอ้อนพี่เลี้ยง

“อยากเห็นก็ไปสิคะ!” อีซูมินปัดเสื้อผ้าให้น้อง เจ้าหัวฟูดวงตาโตยิ้มอายเดินกัดนิ้วบิดตูดเข้ามา...

“ไปด้วยก็ได้” เขาเกาะขากางเกงเดินตามต้อย

ผมจับเจ้าหัวฟูขี่คอสูงพาไปที่กรงใหญ่ขังเจ้าลีออง เสือโคร่งไซบีเรียตัวใหญ่สีขาวปุยขนนุ่มเหมือนหิมะกำลังม้วนตัวเล่นกับหมาดำอย่างเพลิดเพลิน ทหารสองนายนั่งเล่นกันอยู่ที่หน้ากรงเสือ

“อึ๋ย!อึ๋ย!อึ๋ย!” น้องแทนดีใจเนื้อเต้นดึงหัวผมซะเจ็บไปหมด     

“ชุงซองนินจาซอนเซงนีม! ทหารทั้งสองนายยืดอก

“ทหาร! ขออนุญาตเข้าไปเล่นกับลีอองได้มั้ยครับ?”

“จะให้น้องเล่นกับลีอองเหรอครับ? ได้เลย...มันเชื่องมาก” เขากุลีกุจอเปิดกรง

“แมวยักษ์!น้องแทนตื่นเต้นยิ้มกว้างกางแขนวิ่งเข้าไปหาเจ้าสีขาวตัวใหญ่อย่างไม่ลังเล เขาไม่มีความกลัวในใจเลย...

อึ๋ย! อึ๋ย! อึ๋ย! อึ๋ย! แมวไปกินอะไรมา ตัวโตจังเลยเด็กน้อยยิ้มหน้าบานฟันขาวกอดลำตัวอวบอ้วนของมัน เสือขาวลุกเดินยวบยาบแยกเขี้ยวขาวโง้งเข้ามาหาหมาดำ น้องแทนวิ่งตามหัวเราะตาใส

“ขี่หลังดีกว่า!” ผมจับน้องแทนขี่บนแผ่นหลังอวบของเจ้าลีออง...            

“นั่งดี ๆ นะครับ!

เจ้าลีอองหัวโตหูตั้งเขี้ยวใหญ่ยาวดวงตาสีฟ้า ลำตัวยาวราว 3เมตร อุ้งเท้าใหญ่เท่าชามข้าวสูงขนาดเอวเดินบิดตูด

“อึ๋ย! อึ๋ย! อึ๋ย! อึ๋ย!” น้องแทนยิ้มหน้าบาน ดิ้นขยับขาดุ๊กดิ๊กร้องด้วยความตื่นเต้นเมื่อเจ้าลีอองก้าวเดิน

“กลัวมั้ยครับ?” ผมก้มลงไปถาม

“ไม่กลัว ม้า! บอกไม่ให้กลัวอะไร ชอบ ๆ” เขายิ้มปลื้มปริ่มก้มลงกอดหลังเสือขาว

ผมต้องตีซี้เจ้านี่ให้ได้ ถ้าเขาไม่รักก็ขอให้อย่าเกลียดเป็นใช้ได้ คอยเดินประคองน้องแทน เจ้าลีอองเดินบิดตัวอาด ๆ วนรอบกรงใหญ่ ผมต้องหากิจกรรมมาเบี่ยงเบนอารมณ์ของตัวเอง ไม่เช่นนั้นผมก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ในหัวใจร้อนกรุ่นกังวลคิดถึงแต่ไป่ไป๋ เธอจะทนลำบากได้แค่ไหน? พวกมันจะทำร้ายเธอหรือเปล่า? หัวสมองของผมคิดวนเวียนแต่เรื่องความปลอดภัยของเธอ

น้องแทนยิ้มกว้างตูดโด่ง โน้มหน้าแนบหลังเสือ ปัดมือผมออก…

“ไม่ต้องจับ ไม่ต้องจับ” ช่างใจกล้าจริง ๆ กำขนเสือแน่น เจ้าลีอองเดินนวยนาดเลาะกรงพาแขก VIP ทัวร์มาจนถึงหมาดำที่กำลังเล่นกับทหาร...

“โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! เจ้าหมาดำกระดิกหางเห่าเรียกชวนเล่น กางขากระโดดโหยงเหยงไปมา

ทันใดนั้น!...

“โฮก! เจ้าลีอองที่เดินอยู่ดี ๆ ก็แยกเขี้ยวคำรามกระโจนพรวด ...

“อ๊าย! น้องแทนกระเด็นตัวปลิว

“ว้าย! แทนโอปป้า! น้องปลิวไปแล้ว” อีซูมินกรี๊ดยกมือชี้

“เอิ้ก! เอิ้ก! เอิ้ก!” น้องหัวเราะลอยคว้างกลางอากาศ ผมพุ่งตัวไปคว้าแล้วลื่นไถลไปติดกองฟางข้างลูกกรง

“เอิ้ก! เอิ้ก! เอิ้ก! เอิ้ก! เอาอีก” น้องลุกขึ้นวิ่งต๊อกแต๊กเข้าไปกอดคอเสือ หัวของเสือไซบีเรียใหญ่กว่าตัวของเขาอีก

“โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! เจ้าหมามันวิ่ง เสือก็วิ่งตาม น้องแทนได้แต่ยืนหมุนปรบมือหัวเราะท่ามกลางสัตว์เขี้ยวยาวสองชนิดเล่นกัน

ทหารเดินเข้ามา...

“นินจาซอนเซงนีม! สหายผู้กองให้มาตามครับ”

ผมใจเต้นแรง ร้อนรุ่มอยากรู้ผลการเจรจา หันไปหาน้องแทน…

“น้องแทนครับ เราไปหาอีโม่กันดีกว่า อีโม่กลับมาแล้ว” ผมก้มลงไปอุ้ม

“เค้าอยากเล่นอีก” น้องแทนหันมองเจ้าลีออง

“ได้ครับ! แต่เราต้องเป็นเพื่อนกันก่อน” ผมยื่นนิ้วก้อยอีกครั้ง เขาเอียงคอมองสายตาช่างระวังตัวเหลือเกินแล้วหันไปมองซูมิน เธอพยักหน้ายิ้มอนุญาต แต่...น้องทำท่าคิดกรอกสายตาไปมาเหมือนชั่งใจ...          

“เป็นเพื่อนแล้วต้องพามาเล่นอีกนะ” นิ้วน้อยเกี่ยวก้อยสัญญา น้องแทนน่ารักมากต่อรองเก่งเหมือนแม่เลย

“ได้เลยคนเก่งแต่ต้องไปหาอีโม่ก่อนนะ”

เขาพยักหน้าหงึก หันไปมองเสือ...

“อีอองไปก่อนนะ! เดี๋ยวมาใหม่” แล้วโบกมือลา

สิ่งที่ลุ้นรอมาถึงเวลาสุดท้าย หัวใจยิ่งขมวดเกลียวไม่รู้ผลว่าจะออกหัวหรือก้อย ชีวิตของไป่ไป๋ฝากไว้ในมือของจูยอน

………………………………………………

จูยอนกับเจ็ทโด้เดินยิ้มเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา พวกเราปรี่เข้าหาเหมือนฝูงปลากินเหยื่อ หม่าม้าลนลานไปเกาะขาจูยอนอย่างน่าสงสาร ท่านโทรมมากใบหน้าเลอะไปด้วยคราบน้ำตา ส่วนโจทย์สองผัวเมียนั่งกระดิกขาเหล่มองเฉยบนโต๊ะ ผบ.

“มันว่าอย่างไรครับ?” ผมร้อนใจ

จูยอนสีหน้าเครียด นั่งตัวตรง...

“มันโกรธมากที่เรายิงเครื่องบินมันร่วง งวดนี้ทหารของมันโดนไปอีก 55 คนที่สำคัญมันบอกว่า ลูกน้องคนสำคัญของมันเสียชีวิตบนเครื่องบินนั้นด้วย ชื่ออะไรน้า?” เธอนั่งเคาะโต๊ะสายตาครุ่นคิด เจ็ทโด้หันมาบอก

“เสี่ยวปัง!

จูยอนดีดนิ้ว

“ใช่! เสี่ยวปัง”

หมวดจางสะดุ้งสุดตัว...

“ฮ้า! เสี่ยวปัง! เพื่อนฉันตายเหรอ เรื่องใหญ่แล้วไป่ไป๋เอ๋ย! เราช้าไม่ได้แล้ว” เธอจับหน้าอกร้องเสียงหลง พวกเราจิตใจไม่มั่นคงอยู่แล้วยิ่งทวีอาการขวัญผวา จูยอนยืดอกหายใจลึกหันมองหน้าทุกคน

“ไม่ใช่แค่นั้นนะ! หลานชายของเขาก็มาตายด้วย มันยิ่งแค้นมาก”สีหน้าที่กังวลของจูยอนทำให้หม่าม้าร้อนรน...

“ไป่ไป๋ไม่ได้ทำ ฉันเป็นคนยิงมันเอง” ท่านก้มหน้านิ่ง

“รอดยากแล้ว! หมวดจางพูดกดดันทุกคน นาตาลีกัดฟันมองจ้องหน้า...

“หุบปากเดี๋ยวนี้! จะกวนประสาทไปถึงไหนกัน ฮึ?”

หมวดจางไม่สนใจจ้องหน้าจูยอน แล้วพูดห้วนใส่...

“จะช่วยยังไง คิดหรือยัง?”

“มันบอกว่า ให้เอานกหวีดของฉันไปแลกกับไป่ไป๋” จูยอนกล่าวเสียงราบเรียบเอามือเท้าคางสายตาครุ่นคิด นาตาลีพรวดเข้ามา...       

“งั้นไม่เป็นไร แทนคะเราไปกันเถอะ!” เธอใบหน้าเครียดจัดหันมาคว้าข้อมือของผม

หมวดจางเสียงเขียว...

“จะไปไหนดอกเตอร์ เอานกหวีดไปแลกมาสิ” เธอเหล่จูยอน

นาตาลีหยุดหันมองแล้วส่ายหน้า...

“ฉันไม่รบกวนแล้ว นกหวีดเป็นของสำคัญที่จูยอนต้องใช้ ชีวิตคนเกาหลีทั้งประเทศแลกกับไป่ไป๋ไม่ได้หรอก ฉันไปช่วยไป่ไป๋ก่อน”

“ไปกันเถอะแทน! น้องกลัว” เธอฉุดมืออย่างแรงสายตากังวลจัด

ผมก็เกรงใจจูยอนไม่กล้ารบกวนเธออีกแล้ว หลายครั้งแล้วที่เธอต้องเสียเวลากับผมโดยไม่จำเป็น

หมวดจางเชิดหน้าเหล่มองจูยอน...

“ใจมด! รอด้วยฉันไปด้วย” เธอวิ่งเข้ามากอดเอวนาตาลี ซอนขยับเข้าไปยืนเคียง

ผมไม่อยากให้น้องแทนกำพร้าหันไปบอกทั้งสองคน       

“พี่ซอนกับหมวดจางไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมรับมือได้ไม่ต้องห่วง” ผมปากดีไปอย่างนั้นเอง ไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด

เจ็ทโด้นั่งมองพวกเราอย่างไม่ค่อยพอใจ ส่ายหัวพูดเสียงดัง...

“แย่งกันไปตายสนุกมากมั้ย? กูไม่ไปด้วยจะโกรธหรือเปล่า?”

“ไม่เลยครับ! อย่าคิดอย่างนั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่เลย” ผมไม่กล้าคิดแบบนั้น เขาเหนื่อยกับผมมามากแล้ว

“ทำไมจะไม่เกี่ยว กูไม่ใช่พี่พวกมึงแล้วเหรอ?” เขาใส่อารมณ์        

“.............” เงียบกริบกันทุกคน

“นี่ค่ะ!” จูยอนถอดสร้อยคอส่งให้เขาส่งต่อให้นาตาลี

“ให้ฉันทำไมคะจูยอนต้องใช้นะ” นาตาลีหน้าฉงน

“คุณตัดสินใจเอาเอง” เจ็ทโด้ยื่นนกหวีดค้าง

“คุณจะยอมแลกกับไป่ไป๋เหรอ?” แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย หันมองพี่ทั้งสองเพื่อรอคำตอบ

พี่สาวคนสวยผู้ใจดียิ้มหวาน...

“พรุ่งนี้เช้า! ฉันให้มันเอาตัวไป่ไป๋มายื่นหมูยื่นแมวที่สะพานชินอุยจู อยู่ที่คุณตัดสินใจจะแลกหรือไม่แลก” เธอจับนกหวีดยัดใส่มือนาตาลี

“เย้!!!!! อนนี่น่ารักที่สุดเลย” เธอกระโดดตัวลอยวิ่งอ้อมไปกอดด้านหลังหอมแก้มซ้ายขวาพัลวัน

“จูยอนอนนี่! ฉันจะไม่ดื้อกับคุณอีกแล้วนะคะ” เธอเลื้อยเป็นลูกแมวเหมียว จูยอนอมยิ้มลูบหัวเธอ...

“ช่วยน้องมาก่อน เรื่องอื่นคิดทีหลัง”

ผมปราดเข้าไปเกาะขาพี่ชาย แค่เขาตบไหล่ผมก็จุกอกซาบซึ้งที่สุดเป็นหนี้บุญคุณเพิ่มขึ้นไปอีก หมุนตัวไปหาจูยอนแล้วคุกเข่าก้มศีรษะทำความเคารพ...

“ขอบคุณมากครับ ผมไม่รู้จะใช้หนี้คืนยังไงแล้วนะครับ”

“แทน! คุณเป็นคนดี ชัยชนะของฉันในวันนี้ครึ่งหนึ่งมาจากคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันไม่มีวันทำงานสำเร็จ” พี่สาวพูดอย่างนี้อยากจะร้องไห้จังเลยตื้นตันใจมาก

ผมโผเข้ากอด...

“ขอบคุณครับ ขอบคุณจริง ๆ” น้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้ง

“ในวันที่ฉันโดนต้อนเข้าหาหน้าผาแห่งความตาย คุณเป็นคนเดียว ที่ยืนเคียงข้างมาตลอด เราผ่านความตายร่วมกันมาหลายครั้งแล้ว ฉันจะตอบแทนคุณบ้าง” พี่สาวตบไหล่อบอุ่นใจจังเลย

นาตาลีดวงตาสดใส กางแขนกว้างพุ่งเข้าหาเจ็ทโด้...

“โอปป้าคะขอบคุณมาก”

“จึ๋ง! เขาเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากไว้ แล้วขยับลุกหนีปัดมือไล่ทำท่ารังเกียจแล้วร้องห้าม...

“อย่าเข้ามานะ! อย่าถูกตัวจะไปไหนก็ไป” เขาพยายามเบี่ยงตัวหลบ

เธอดิ้นโผเข้าไปกอด...

“ขอบคุณมากนะคะ ซารางเฮโอปป้าหล่อที่สุดเลย” นาตาลีกอดหมับหอมแก้มซ้ายขวา

เขาพยายามผลักตัวเธอออก บ่นอุบ...

“ปล่อย! ปล่อย! แล้วไปไกล ๆ ไม่ต้องมากอด หายหัวไปเลยยิ่งดี” เขารีบแกะมือของเธอ ท่าทางเหมือนน้องแทนรังเกียจผม

จูยอนหัวเราะลั่น

“โอปป้ายังติดหนี้เธออยู่นะ เดี๋ยวโดนทวงหนี้หรอก”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! สองผัวเมียพลอยหัวเราะตามไปด้วย สีหน้าแววตาของทั้งสองดีขึ้นโดยยังไม่รู้ตัวว่าที่จูยอนพูดถึงหนี้คือทองคำของตัวเอง

สองผู้เฒ่าดวงตาแดงน้ำตารื้นกับน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ เดินไปยืนต่อหน้าของจูยอนและเจ็ทโด้

“ขอบคุณมาก ขอบคุณมากจริง ๆ” ทั้งสองท่านยืนโค้งศีรษะ จูยอนผวาเข้าไปกุมมือของทั้งสองท่าน ...

“ไม่เป็นไรค่ะ! บุญคุณต่างตอบแทนกัน ในวันที่ฉันลำบากไป่ไป๋เคยช่วยชีวิตไว้และเธอก็เป็นน้องสาวที่ฉันรัก ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้วพรุ่งนี้น้องก็กลับมาแล้วค่ะ”

เจ็ทโด้สายตาแพรวพราว หันมามองผมแล้วอมยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะหันไปมองซอน เรายังมีเรื่องที่ต้องเคลียร์กัน...

“ซอน!...กูจะอยู่ที่นี่ มึงจะอยู่ด้วยก็ได้หรือจะกลับไปก็ได้” เขาบอกเสียงดัง นาตาลียังกอดนัวเนียไม่ปล่อยมือ

“ผมแล้วแต่เมีย” ซอนโบ้ยต่อ

“ฉันจะกลับบ้าน!” หมวดจางคอแข็ง เสียงแข็ง

“กลับไปก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ขนมาให้หมดแล้ว”เจ็ทโด้ยิ้มซ่อนเงื่อน

“ขนอะไรของผมมา” ซอนขยับดวงตาล่อกแล่ก

“ของมึงกูไม่ได้แตะ กูเอาแต่ของนาตาลีมา” เขาอมยิ้มมองซอน หมวดจางจิกสายตามองมาที่ผม สายตานั้นช่างเยือกเย็นจับขั้วหัวใจ...

“แทน! ไปทำอะไรมามั่ง บอกมาเดี๋ยวนี้?” เธอหันมาเล่นงานที่จุดอ่อน เธอก็ไม่กล้าหือกับเจ็ทโด้ นาตาลีเงยหน้ายิ้มเยาะมองเธอแล้วซบใบหน้าแนบอกของเจ็ทโด้ วันนี้ดูเธอจะรักเขาเป็นพิเศษ

ผมรีบลุกยืนรายงานแม่ใหญ่ด้วยใจตุ๋ม ๆ ต่อม ๆ...

“ชาวบ้าน 7 ชนเผ่าชาติพันธุ์ เสียชีวิตไปประมาณ 1,000 คนครับ”

“ฮ้า! ทั้งสองตาค้าง

“อาซา แป้งและขนมปังเสียชีวิตจากเครื่องบินตก” ผมก้มหน้าเสียงอ่อย

“ฮ้า! เพิ่มเสียงของนาตาลีเข้ามาอีกคน

แม่ใหญ่เดินเข้ามาเท้าสะเอว...

“นี่!...นายพาลูกน้องของฉันไปตายขนาดนั้นเลยเหรอ? ฝีมือกระจอกจริง ๆ” เธอจ้องสายตาดุมาที่ผมคนเดียว เจ็ทโด้อมยิ้มหน้าจ๋อยโดนกระทบชิ่ง

“ผมพากลับบ้านแล้ว แต่...หนีเครื่องบินรบของทหารจีนไม่พ้น” ผมตอบอ้อมแอ้ม

“ไม่เป็นไร! ฉันกลับไปฟื้นฟูปลอบใจพวกเขาเองก็ได้” เธอยังดื้อ ผมยิ้มหวานยื่นหน้าไปใกล้ แล้วอ้อมแอ้มบอก...

“เอ่อ!...ผมปลอบใจไปแล้วครับ...เอ่อ!...ผมเอาทองคำไปแจกให้ชาวบ้านด้วย ไม่รู้จะปลอบใจชดเชยพวกเขาด้วยอะไรหัวหน้าหลงก็ช่วยดูแลทุกอย่าง”

“ฮ้า! ทองกู” ซอนลุกพรวด

“ผมเองก็เสียใจแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรขอโทษด้วยครับ ผมขนทองคำมาให้พี่ด้วยอยู่ในค่ายโชซอนฯ” ผมบอกก่อนจะโดนเตะ

“มึงเอามาทำไม กูจะเก็บไว้ให้ลูกกู?” ซอนตวาด

จูยอนขยับเข้ามาร่วมวง...

“อยู่ที่นี่เถอะนะคะ น้องแทนเดี๋ยวฉันจะเลี้ยงให้อย่างดีเลย” เธอเอ่ยเสียงหวานสงบศึก แต่หมวดจางไม่มีทีท่าจะยอมเลย เชิด...คอเคล็ดไปแล้วมั้งน่ะ?...

“ไอ้นี่มันโจรชัด ๆ ปล้นเสร็จเผาบ้านด้วย แถมยังฆ่าเจ้าทรัพย์อีกต่างหาก” เธอบ่นพึมพำจ้องหน้าผม เจ็ทโด้นั่งอมยิ้มดวงตาหลุกหลิก

“มึงใช้คืนมาเลย” ซอนเอานิ้วจิ้มหัวของผม

เจ็ทโด้ยิ้มยื่นหน้าเข้ามา...

“เดี๋ยวกูใช้ให้! แต่เป็นคนเกาหลีนะ เอาป่ะ?” เขายื่นหน้าล้อน้องชาย

“พี่ไม่ต้องยุ่งเลย ม้าว่ายังไงให้ครอบครัวของมันเป็นทาสเราไปทั้งชีวิตเลยก็แล้วกัน เอาเมียมันมาไว้ล้างส้วม?” เขาต้องการเล่นงานผม นาตาลีมองเมินหันไปซบอกเจ็ทโด้

หมวดจางนั่งกรอกสายตาคำนวณอะไรสักอย่างในหัว...

“อยู่เป็นคุณนายมันที่นี่แหละจะกลับไปลำบากทำไม? แต่บอกซะก่อนนะว่าแค่อยู่รอดูสถานการณ์ ฉันยังไม่ยอมแพ้หรอกนะ” เธอยังไว้เชิงส่งสายตาไปค้อนจูยอน แต่ถือว่าเป็นข่าวดี

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! จูยอนชนะ หัวเราะชอบใจยื่นหน้าถามหมวดจาง...

“หมวดจางคะ! รู้ไหมว่านกหวีดอันที่ 7 มีไว้ทำไม? อันนี้เป็นของยอร์น” เธอยิ้มหวานแล้วหันมองนาตาลี

“นี่ค่ะ!” นาตาลีถอดสร้อยส่งไปให้ แต่หมวดจางยังท่าทางแข็ง ๆ ฝืน ๆ

“เอาไว้เป่าควบคุมพวกคุณมั้ง? ฉันไม่รู้หรอก เดาเอานะ!

“แต่ก็ฟังขึ้นนะ ไม่งั้น! มันจะทำขึ้นมาทำไม?” เจ็ทโด้เห็นด้วย

“ฉันหาคำตอบเรื่องนี้ไม่ได้เลย คุณมาช่วยนาตาลีหาคำตอบกันมั้ยคะ? นาตาลีชมว่าคุณเก่งที่สุดในโลกเลย” จูยอนหยอดคำหวาน ท่าทางเหมือนพี่สาวพูดกับน้องสาว

“ไม่ว่าง! เธอสะบัดหน้าหนี ไม่งับเหยื่อ

นาตาลีเดินอมยิ้มเจ้าเล่ห์เข้าไปกอดคอจูยอน แล้วยื่นหน้าไปหาหมวดจาง...

“ฉันทำคนเดียวก็ได้ เครื่องโครมาโตกราฟที่นี่ดี ๆ ทั้งนั้น ฉันคงได้ค้นพบสิ่งใหม่อีกเยอะแน่ ๆเลย” นาตาลีใช้เหยื่อใหม่มาหลอกล่อเพื่อน นักบวชคุยเรื่องคัมภีร์ นักแข่งคุยเรื่องเครื่องยนต์ นักวิจัยคุยเรื่องเครื่องมือไฮเทคฯ

“คุณจะเอาเวลาที่ไหนไปทำ ต้องทำวัคซีนด้วยไม่ใช่เหรอ?” หมวดจางเสียงอ่อนลง แต่สายตายังดื้ออยากรู้ตามนิสัยนักวิทยาศาสตร์ นาตาลีเหลือบตาไปอมยิ้มกับจูยอน...

“อนนี่!วันนั้นสหายโกเอาเฮลิคอปเตอร์ MI - 28 Havoc มาส่ง บินโคตรไวเลยอาวุธเต็มท้องเครื่อง...ช้อบชอบ!” เธอเล้าโลมจุดอ่อนของเพื่อน คู่นี้รู้ทางกันมายาวนานยั่วให้อยากเข้าไปอีก

จูยอนรับมุก...

“เยอะแยะไป! ฉันมีเครื่องบินเต็มเลย”เธอยิ้มหน้าทะเล้น แม่ใหญ่เงยหน้าขวับ...

“เหรอ! ฮ.มีหลายรุ่นมั้ยล่ะ?” เธอเสียงอ่อนลงมาก จูยอนเกทับ...

“เครื่องบินทั้งกองทัพเป็นของฉัน แทนพาทหารไปขโมยของอเมริกันมาอีกเพียบ”

สีหน้าของหมวดจางพอใจมาก นาตาลีชงต่อหันไปคุยกับเจ็ทโด้

“โอปป้า! ตอนที่ฉันฝึกทหาร เครื่องบินอะไรนะที่มารับกลับ ลำนั้นก็เฟี้ยวปืนเต็มเลย...ช้อบชอบ” เธอตั้งใจอ่อยเพื่อนเต็มที่

“อ๋อ! Kamov Ka-52Alligator ปีก 2 ชั้น รุ่นนั้นบรรจุกระสุนต่อต้านรถถังได้ 12 ลูกเชียวนะ ไม่ค่อยได้ใช้หรอกไม่มีคนขับ ยังหานักบินประจำเครื่องไม่ได้เลย” เจ็ทโด้ช่วยต้อน

หมวดจางเนื้อเต้นนั่งไม่ติดเก้าอี้อย่างกับคนคันก้น ดวงตากลิ้งกลอกคำนวณบางอย่างไปมา สายตาของเธอตอนนี้!...ไม่กลับบ้านแน่ แต่เสือก็ยังเป็นเสือ เธอมองเจ็ทโด้ด้วยหางตา

“ฉันเคยเป็นนักบินน่าจะขับได้”เธอสะบัดมือหักนิ้ว แม่ใหญ่อยากได้เครื่องบินมานานแล้วใคร ๆ ก็รู้

“ม้ากลับบ้านของเราดีกว่า” ซอนกระโดดขวาง

“ป๊า! คิดรึยังว่าจะทำอะไรจะช่วยพวกเขายังไง?” เธอหันไปดุซะงั้น ซอนจ๋อยหน้าเหลือ 2 นิ้ว //พวกเราก้มหน้าอมยิ้ม //

จูยอนเอื้อมไปแตะฝ่ามือของเธอ...

“หมวดจาง!..ฉันขอโทษนะที่คราวก่อนตัดสินใจช้า แต่ฉันได้แก้ตัวให้ไป่ไป๋แล้วในคราวนี้ ตกลงคุณอยู่ด้วยกันที่นี่เนอะเดี๋ยวให้เครื่องบินไปใช้สักลำสองลำ เครื่องบินรบก็มีอยากได้อะไรก็ไปเลือกเอาเลย” เธอหยอดยาชูใจ

“จริงนะ?” แม่ใหญ่ดวงตาประกายวาววับนั่งไม่ติด //พวกเราก้มหน้ากัดฟันกลั้นหัวเราะ//

ซอนฮึดฮัดขึ้นมา...

“ผมซื้อเมื่อไหร่ก็ได้?” ฮั่นแน่! ผัวยังไม่ยอม

จูยอนยิ้มหวานหันมองหน้าแล้วพูดลากเสียงเยือกเย็น...

ซอนคะ!เรามาเคลียร์บัญชีเก่ากันหน่อยมั้ยคะ?” เวลาเธอทำหน้านิ่งก็สยองเหมือนกัน โดยเฉพาะดวงตาใสนั้นนิ่งมาก...

“มาเลย!มีอะไรคาใจบอกมาผมจะชดใช้ให้” ซอนกอดอกลอยหน้าลอยตา มั่นมาก

“เมียคุณเคยทำผิดกับฉัน ในวันที่คุณโดนเธอยิงฉันก็โดนแทง ฉันจะเอามีดแทงเมียคุณคืน ถือว่าหายกัน แล้วคุณก็กลับบ้านไปไม่มีอะไรคาใจกันอีก” จูยอนจ้องหน้าซอน เรื่องกดดันเธอก็เก่งไม่เป็นรองใคร

“เอ่อ...! ซอนอึกอักหันมองหน้าคนนั้นคนนี้ พวกเราพร้อมใจกันหันหน้าหนี

นาตาลีเสี้ยมต่อ...

“ซอนบอกว่าจะฆ่าอนนี่แล้วผ่าท้องเอาตับไปต้มให้หมากิน” เธอฟ้องปากจู๋ ต้อนจนซอนหมดทางเดิน

“เอ่อ! ผมขอโทษคุณก็ได้ ตอนนั้นยังไม่รู้ความจริงนี่” เขายอมแต่โดยดี หมวดจางยิ้มแหยสยบยอมพูดเสียงสองเสียงสาม...

“โหย!.. เรื่องตั้งนานแล้ว เรามาลืม ๆ กันเถอะนะ” แม่ใหญ่ลุกขึ้นยืนยื่นมือมาให้จับ

“ม้า! แต่ไอ้แทนเอาทองของเราไปหมดเลยนะ” ตกลงซอนจะหาเรื่องให้ได้สินะ หมวดจางพยักหน้ายิ้มเหี้ยม...

“ใช่!...แต่ไอ้โจรปล้นบ้าน ต้องเอาคืน! เธอหันมาชี้หน้าผม เตรียมจะด่าอีก นาตาลียื่นหน้ามาดัก...

“ทองคำนั่นของฉันย่ะ ของพวกนั้นฉันเป็นคนสร้างมาทั้งนั้น แทนเป็นสามีของฉันเท่ากับทองเป็นของเขา จบป่ะ?”

………” สองผัวเมียนั่งมองหน้ากัน หม่าม้ากับป่ะป๊าอมยิ้ม

ซอนฮึดฮัดขึ้นมาอีก ไม่ยอมง่าย...

“จบเรื่องทองก็ได้ ถือว่าผมจ่ายค่านกหวีดให้ไป่ไป๋ ไม่มีหนี้บุญคุณต่อกัน” พี่ชายกร่างมาก

แต่

“อ้าว! ไอ้ขี้โกง อัฐยายซื้อขนมยายนี่หว่า ของนาตาลีมันก็ของไป่ไป๋เหมือนกัน” เจ็ทโด้ตบหัวน้องชาย

“ไม่รู้!...ถือว่าจ่ายให้แล้ว และจากนี้ไปห้ามนาตาลีกับไอ้แทนคุยกับไป่ไป๋” ซอนกวนตีนไปเรื่อย

“ทองที่เหลือกูเอามาให้น้องแทนแล้ว กูจะไปขนจากญี่ปุ่นมาให้อีก จะเอามาถมใส่หัวมึงด้วย” พี่ใหญ่สรุปจบทั้งสองยอมแต่โดยดี

“ซัมชุน! น้องแทนเดินแกว่งแขนกลับมา เวลาน้องเดินท่าทางนักเลงเหมือนซอน พี่เลี้ยงวิ่งตามคอยปัดฝุ่นตามตัวให้น้อง

“ซัมชุน! ไปหาอีอองกัน” เขายิ้มหน้าบานเข้ามาเกาะขา ทุกคนหันมองสายตาฉงน

“เฮ้ย! ดีกันแล้วเหรอ เก่งจังเลย” นาตาลีโผเข้ากอดแขนของผมซอน หัวเราะชอบใจ...

“แทน! มึงมีลูกได้แล้ว มึงเป็นพ่อคนได้แล้ว”

น้องแทนเดินหน้าหงิก แหงนมองหน้านาตาลี...

“รู้แล้ว! ลีชอบกอดก่อน ปล่อยมือเลยนะ! นิสัยไม่ดีจะฟ้องไป๋” เขาหน้ามุ่ยปากจู๋ นาตาลีรีบปล่อยแขนแล้วคุกเข่าไปกอด...

“ลีไม่ทำแล้ว” เธอฟัดน้องแทนหัวเราะร่วน

หมวดจางยิ้มมองลูกชาย...

“ช่างจะพูดนะลูกฉัน ใครเขาเสี้ยมสอนมานักหนา” เธอยิ้มแววตาประกายมองลูกชายสุดที่รัก เธอโชคดีมากรอดตายอย่างเฉียดฉิวครั้งแล้วครั้งเล่าได้สามีชั้นเยี่ยมแถมยังได้ลูกชายน่ารักด้วย นาตาลีโวย

“กวนตีนอย่างนี้ มันนิสัยของคุณชัด ๆ จะไปโทษใคร?”

“สำเนาถูกต้องโว้ย” ซอนช่วยเมีย

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! เป็นอันว่าจบลงโดยดี

หัวใจของผมยังวนเวียนคิดแต่เรื่องไป่ไป๋ พรุ่งนี้จะเป็นวันประวัติศาสตร์วันตัดสินชะตาชีวิต เธอหักหลังพวกมันเป็นใครก็โกรธทั้งนั้น ผมได้แต่ภาวนาขอให้เธอปลอดภัย การเล่นกับความรู้สึกของคนแบบนี้มันสร้างแรงอาฆาต การทำแบบนี้ไม่มีวันที่จะได้จากลากันดี ๆ การโดนหลอก การโดนหักหลัง มันต้องใช้ความกล้าสูงมากในการให้อภัย

“เฮ้อ!...เพราะโรคซึมเศร้าสินะ สติสตังเลอะเทอะไปหมด” คิดแล้วก็เครียด ก้มอุ้มน้องแทนขี่คอสูง...

“ซัมชุน! ไปหาอีอองเลย!” น้องแทนร้องสั่งชี้มือ ดีดขาเต้นยุกยิก

ผมเข้าใจได้ในทันทีที่ได้สนิทกับน้องแทน ทั้งสองสาวของผมรอดมาจากความทุกข์ใจได้ก็เพราะความน่ารักสดใสไร้เดียงสาของน้องแทนนี่เอง ในยามนี้เขาก็ช้อนใจของผมให้รอคอยอย่างใจเย็นลงได้ ขอแค่ผ่านคืนนี้ไปไป่ไป๋จะได้กลับมาแล้ว

จูยอนเป็นคนช่วยชีวิตนาตาลีไว้ในคราวตกจากเรือในป่าโบราณ คราวนี้เธอทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมายอีกครั้ง ยื่นข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้ ยอมแลกสิ่งที่สำคัญที่สุดของเธอกับชีวิตของไป่ไป๋อย่างไม่ลังเล น้ำใจอย่างนี้ ผมจะตอบแทนไหวไหม?                  

         .................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,862 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,978 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท8 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม