หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 8 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 1 ก.ค. 2567 |
พยองยาง
มุมมองสายตา แทน
เมษายน ค.ศ.2026
โรงพยาบาลพยองยาง...
นานเป็นเดือนแล้ว ผมยังไม่กล้าเข้าไปเยี่ยมไป่ไป๋กลัวว่าจะไปกระทบกระเทือนจิตใจของเธอ ได้แต่มาคอยแอบมองกับนาตาลีหน้าห้องคนป่วยเกือบทุกวัน
วันนี้...ก็โดนกดดันจากนาตาลีให้มาง้ออีก เราสองคนกำลังแอบลุ้นมองอยู่หน้าห้อง
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!” คุณหมอเดินยิ้มมา...
“เข้าไปสิ! กลัวอะไร หึหึหึ!” ท่านคงขำกับท่าทางเหมือนหัวขโมยของเราสองคน
นาตาลียกนิ้วจุ๊ปาก...
“ชู่ว์!!!! อาการเธอเป็นยังไงบ้างคะ?” แล้วก้มหลังลากแขนคุณหมอมานั่งเก้าอี้ยาวข้างห้อง
“หายดีแล้ว ตอนนี้เดินได้แล้ว ก่อนหน้านี้ทรมานอยู่ 2-3 วัน ลอกคราบผ่องไปทั้งตัวเลย ครีมคุณมหัศจรรย์จริง ๆ ถ้าวางขายผมขอเป็นตัวแทนด้วยนะ หึหึ!” สายตาของท่านอบอุ่นจริงใจมาก
“อารมณ์ดีมั่งหรือยังคะ? ถ้าเธออารมณ์ดีจะฮัมเพลงทั้งวัน” นาตาลีรู้จักไป่ไป๋ดีที่สุด
“ยังเลย! นั่งนิ่งแล้วน้ำตาไหล” คุณหมอตอบมาใจเหี่ยวเลย เธอคงโกรธผมมากไม่คิดจะให้อภัยผมอีกแน่
“อาการไบโพล่ากำเริบอีกเหรอครับ?”
“เรื่องนั้นไม่น่าเป็นห่วงแล้ว เธอไม่มีอาการแล้ว ไม่ได้กินยาแล้ว”
“ฮู้ว! เบาใจลงหน่อย แต่ทำไมเธอยังร้องไห้อีกล่ะครับ?”
“คงน้อยใจอะไรมั้ง รอดูต่ออีกหน่อย”
นาตาลีหันมองสายตากังวล...
“งานใหญ่แน่แทน! คุณแก้นะปัญหานี้ คุณนั่นแหละต้นเหตุ!” เธอโยนมาให้เต็ม ๆ
“ผมเนี่ยนะต้นเหตุ” ผมหลิ่วตามอง เธอเม้มปากลอยหน้ายักคิ้ว ผมทำทุกอย่างตามคำสั่งของเธอทั้งนั้นแหละ
“ไป่ไป๋ดื้อ!ไม่ยอมฟังผมหรอก เธอฟังคุณมากกว่าและที่สำคัญเรื่องทั้งหมดคุณเป็นต้นเหตุนะ” ผมก็ใจสั่นแพ้ทางไป่ไป๋ ไม่เจอกันมาหลายปีเสือกสร้างคดีไว้ด้วย ไม่รู้จะเข้าหน้ากันยังไงเลย ปรกติผมก็ประหม่าทุกครั้งที่อยู่ใกล้ไป่ไป๋ ไม่กล้าสู้สายตา
นาตาลีบ่นหน้าง้ำ...
“เราไม่ผิดซักหน่อย เธอน่ะแหละ! เป็นฝ่ายผิด เล่นไม่รู้เรื่องยังจะมาโกรธกันอีก มีอย่างที่ไหนมาเล่นละครหลอกกัน แต่...คุณเป็นผู้ชายยอมรับผิดไปน่ะ ดีแล้ว” ดูจากท่าทางของเธอแล้ว ยังไงผมก็ต้องเป็นคนผิด นาตาลีเองก็กลัวไม่กล้าสู้หน้าน้อง ปอดแหกกันทั้งคู่
“ได้! ผมผิดเองก็ได้ แต่ว่าคุณจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี? สอนผมหน่อยสิ ผมง้อคนไม่เก่งคุณก็รู้”
“หน้าที่คุณ! ไปอ้อน ไปตื้อ ไปฉุดหรือจะปล้ำก็ได้ เอาเธอคืนมาให้ได้ แต่...ระวังซอนด้วยนะ! เมื่อวานก็มาขู่ว่าจะแยกบ้านพาไป่ไป๋ไปด้วย กวนตีนไม่เลิกทั้งสองคนผัวเมีย” นาตาลีชักสีหน้าบ่นยาว
“คนที่จะช่วยได้ก็ไม่พ้นจูยอนอีกน่ะแหละ ไป่ไป๋เคยทำผิดกับเธอไว้ ทุกคนติดหนี้จูยอนหมดเลย” ผมหันไปยิ้มแหย ๆ กับป่ะป๊า
“ไม่รู้! คุณจัดการมาและปกป้องฉันด้วย” นาตาลีโบ้ยอย่างเดียว
“ป๊าครับ! ผมกลับไปทำใจก่อนนะ แล้วจะมาใหม่” ผมยื่นห่อดอกไม้ให้ท่าน แล้วจูงมือนาตาลีกลับบ้าน //มาเกือบทุกวัน...ได้แต่แอบมอง//
“รีบมานะ! ผมจะช่วย เธอไม่ดื้อกับผมหรอก สรุปว่า ผมต้องเป็นคนส่งดอกไม้ให้หัวขโมยอีกแล้วใช่มั้ย? ฮ่าฮ่าฮ่า! ” ป่ะป๊าสุดยอดอยู่แล้ว
วันต่อมา…
ผมอาบน้ำทาแป้งมาหอมฟุ้งพกความมั่นใจมาด้วย วันนี้เป็นไงเป็นกันต้องเข้าไปง้อให้ได้
“ป่ะป๊า! สวัสดีครับ” แวะทักคุณหมอในห้องทำงาน แล้วย่องไปแอบชะโงกหน้ามองเข้าไปในห้องพักคนไข้ หม่าม้านั่งอ่านหนังสือ ลูกสาวนอนฟังเพลง ท่าทางจะอารมณ์ดีแล้ว ทางสะดวก
“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!” ผมหอบช่อดอกไม้กำใหญ่ ใจหลอน ๆ ป๊อด ๆ
“หม่าม้าครับ ผมเอาดอกไม้มาฝาก” ผมยิ้มสุดหวานสวมหัวใจสิงห์เดินเข้าห้อง ไป่ไป๋นอนกระดิกขาอยู่ดี ๆ หันหลังขวับ//งานยากซะแล้ว//
“มาอีกแล้วเหรอ เอาดอกไม้มาจากไหนทุกวัน?” ท่านลุกเอาไปใส่แจกัน แล้วเดินอมยิ้มยกน้ำมาให้
“ที่บ้านครับ ผมรอให้หม่าม้าไปอยู่ด้วย คนไข้หายรึยังครับ?” ผมเหล่มองหนาว ๆ ร้อน ๆ
“หายแล้ว แต่เห็นบอกว่า ยังขี้เกียจอยู่ขอนอนนิ่ง ๆ”
“วันนี้มีงานเลี้ยง หม่าม้าไปทานข้าวด้วยกันนะครับ คนป่วยก็กลับบ้านได้แล้วมีคนคิดถึง” ผมตั้งใจจะเรียกร้องความสนใจ แต่เธอนอนนิ่งไม่สนใจใคร
“ไม่ง้อสักหน่อยเหรอ? กลางคืนนอนตดตลอด หึหึ” หม่าม้าแหวกทางให้เดินก็ต้องเดิน...
“ไป่ไป๋ครับ! ไปงานเลี้ยงด้วยกันเถอะ ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว นาตาลีบ่นคิดถึงทุกวัน เธอมาแอบมองคุณทุกวัน ไม่กล้าเข้ามาเยี่ยม”
“ม้า! หิวน้ำ” เธอไม่เห็นผมในสายตา
“หายแล้วก็ลุกหยิบกินเองสิ” ท่านไม่ขยับ /ผมรีบขยับ...
“ผมไปเอาให้นะ”
“ไม่ต้อง! อิ่มแล้ว” เธอหมุนตัวหันหลังใส่ //ผมหมุนตัวเก้อ เอาไงดีวุ้ย ง้อไม่เป็นด้วย หม่าม้าอมยิ้มแก้มปริ//
“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!” เสียงประตูขัดจังหวะ
“อันยองฮาเซโย!” ซอนกับน้องแทนเดินโยกเข้ามา ไอ้ตัวขวางโลกทั้งพ่อทั้งลูกมาอีกแล้ว//กูจะบ้าตาย//
“อันยองเยโยซัมชุน! มาทำไม?” เจ้าฟูโบกมือ.../เราซี้กันแล้ว/
“มาเยี่ยมไป๋ น้องแทนมาทำไมครับ?”
“มาหาไป๋เหมือนกัน คิดถุงใจจะขาด อยากกอด” เจ้าตัวน้อยวิ่งไปตะปีนเตียง เธอนอนกอดฟัดเจ้าหัวฟูหัวเราะเอิ๊กอ๊าก วิธีอ้อนแบบนี้น่าจะใช้ได้ ผมสนใจมาก
“เค้ารักไป๋มากกว่าใครเลย” เจ้าตัวน้อยอ้อนเสียงเล็กเสียงน้อย นัวเนียหอมซ้ายหอมขวา ผมจำไว้เป็นบทเรียน
ซอนเดินมาเกาะไหล่ของผม เหล่ตามองยิ้มเหี้ยมมาก...
“เยี่ยมเสร็จหรือยังมึง?” เขาถามห้วน //ตามมาทำไมวะ?//
“ยังครับ!” ผมยังไม่ได้ง้อเลย ใจยังสั่นอยู่ สยองมาก
เธอนอนขยับตัวหันมองหน้าซอน...
“ไม่มีอะไรจะคุย ไม่อยากเห็นหน้า” เธอพูดห้วน ๆ ซอนไล่ทันที...
“กลับไปสิ! มึงจะมานั่งแย่งอากาศคนอื่นหายใจทำไม? ไป!” ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด เขารักเธอมากกว่าใคร
“กลับไปอยู่กับนาตาลีนะครับ เธอร้องไห้ทุกวัน” ผมยื่นหน้าเข้าไป
“...........” สาวน้อยคอแข็ง
ซอนยื่นหน้าเข้ามา...
“กูจะย้ายบ้านไปอยู่ริมทะเลนัมโพ เธอจะไปกับกู ไม่เชิญมึงนะ ไม่ต้องตาม” เขาลอยหน้าหาเรื่องยากมาให้อีก ผมคิดในใจ...หมวดจางไปไหนวะ? มาตบให้หน่อยสิ
ผมตั้งสติสู้กับไป่ไป๋ดีกว่ารวบรวมความกล้า สูดลมหายใจลึกไล่ความประหม่า...
“เอ่อ..ผม...เอ่อ..คิดถึง เอ่อ!...ผม...ผม..” ทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้ ผมเป็นเบี้ยล่างของเธอมาตลอด เลยไม่อาจหาญจู่โจม
“เป็นส้นตีนอะไร?” ซอนเสียบเข้ามาอีก
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” หม่าม้าหลุดหัวเราะลั่น
“ไม่เชื่อ!” อ้าว!จะไปทางไหนล่ะทีนี้ เสียงเธอห้วนมากใจของผมยิ่งเหี่ยวลงไปอีก
หม่าม้ายิ้มร่า...
“ฉันเห็นเขาปั่นจักรยานจะมาช่วยแกด้วยนะ หึหึหึ!”
“เย็นนี้ไปกินเลี้ยงด้วยกันนะครับ ทุกคนรออยู่” นึกอะไรได้ก็พ่นไปก่อน หัวใจยังเต้นรัว
ไอ้เข้ซอน โดดมาขวางคลอง...
“ไม่กิน! มึงกลับไปได้แล้ว” หมั่นไส้จังเลย เดี๋ยวเตะตัดขาทั้งพ่อทั้งลูกเลยนี่
“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!” แม่ใหญ่เดินยิ้มเข้ามา //โอ้วสวรรค์...โล่งใจมาไล่พี่ซอนให้ที เอาเขาออกไปจากห้องนี้ให้ด้วย//
“ม้ามาแล้ว!” น้องแทนวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าใส่ ไป่ไป๋ยิ้มหวานแฉ่งลุกนั่ง…
“เจี่ยเจี้ย! มากอดหน่อย” เธอกางแขนรอ
ผมพึ่งได้เห็นใบหน้าของเธอชัด ๆ ขนาดไม่แต่งหน้ายังสวยจัดขนาดนี้ คิ้วเข้ม ดวงตากลมโต ยิ้มแก้มเป็นพวง ทรงผมแหว่งสุดเก๋
“หายแล้วนี่นา กลับบ้านกัน” หมวดจางเข้าไปกอด
“ทำไมอนนี่! ไม่มาเยี่ยมหนูมั่งเลย?” เธอรวบเอวไปกอดถามเสียงอ่อย สรุปว่าเธอโกรธผมคนเดียว
“นาตาลีมาทุกวัน แต่ไม่กล้าเข้าห้อง”
“ทำไมคะ?”
“ยัยดอกเตอร์กลัว! ไปเถอะ! ถึงเวลาเอาคืนแล้ว คิดบัญชีให้หมดทุกคน!” เธอประคองน้องลงจากเตียง/แววไม่ดีแล้วแม่ใหญ่นำทัพเองเลย/
“อย่าไปเสียเวลายุ่งกับพวกมัน นิสัยไม่ดี!” ซอนบ่นกับน้องแทนแล้วเดินช่วยกันเก็บของ
ไป่ไป๋หันไปหาหม่าม้า...
“ม้า!กลับกันเถอะ หนูอยากเห็นบ้านแล้ว” สายตาของเธอไม่แวะมาที่ผมแม้แต่นิด /ปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไรยังมีเวลาง้อ/
........................................................
บ้านบนเกาะคอนยู...
ลานหน้าบ้านควันโขมง ทหารหญิงกำลังย่างหมูป่าตัวกลมเสียบไม้น้ำมันหยดไฟลุกพรึบ แคร่ไม้หน้าเรือนหลังเล็กเต็มไปด้วยเครื่องดื่มและเครื่องเคียงพร้อมกับแกล้มมากมาย
“สหายจองโบริม!” ผมร้องทักนายทหารหญิงที่กำลังง่วนกับการพลิกหมูย่างตัวอ้วน
“เย่! เซมมีอะไรคะ?”
“เยวอนไม่มาเหรอ ทำไมไม่เห็นเลย?”
“เยวอนไปจัดการศูนย์ดาราศาสตร์และไปเยี่ยมทหารชายแดนกับสหายผู้พันโกมีทักค่ะ”
“เสียดายจัง! ไม่เจอหน้าเยวอนนานมากแล้ว”
“เซมไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอคะ?”
“คิดถึงทุกคนแหละ วันนี้มากันครบมั้ยครับ?”
“มีพวกผู้ชายมาด้วยก็ประมาณ 30 คนค่ะ ตอนนี้ก็ทยอยมากันได้ 10 กว่าคนแล้วค่ะ”
“ถึงว่าสิ! อาหารเยอะมาก เมาอ้วกอีกแน่ ๆ” ผมหันไปเห็นเจ้าศิลปินตัวน้อยกำลังละเลงสีบนผ้าใบ จึงเดินแฉลบเข้าไปหา ชวนคุยสักหน่อยเพื่อมิตรภาพ...
“น้องแทนครับ วาดรูปอะไรครับ”
“วาดเสียอีออง” เขาเอาสารพัดสีสาดใส่ เสือของเขาเหมือนหนูย่างเสียบไม้
“โอ้โห...กางขาวิ่งเร็วมาก มองไม่ทันเลยเนอะ” ผมยอส่ง
“เสร็จแล้วครับ” เขาจิ้มลูกตาสองดวงให้เสือของเขา
“ดุมาก มันจ้องจะกัดด้วย”
“น่ากลัวมั้ย? เค้าต้องนอนไม่หลับแน่เลย” จินตนาการสูงมากเลยนะที่มองหนูนาย่างเป็นเสือได้
“แทนโอ้ปป้าคะ!” อีซูมินเดินร้อนรนออกจากตัวบ้านมาตะโกนเรียก
“ครับ!”
“มาเจรจาสงบศึกด่วน”
“ห่ะ!” ผมวิ่งจู้ดไปหาเธอทันที มีเรื่องอะไรอีกแล้วหรือนี่? ไป่ไป๋บีบคอนาตาลีตายไปแล้วมั้ง?
“ซัมชุนรอด้วย!” น้องแทนถือถาดสีวิ่งตามมา
“ผลัวะ!” พอเปิดประตูเข้าบ้านไปใจหายวาบ
ภายในห้องรับแขกสไตล์หลุยส์หรูหราแต่บรรยากาศอึมครึม ไป่ไป๋นั่งไขว้ขาบนโซฟากลางเป็นนางพญา ซอนกับหมวดจางนั่งกระดิกขายิ้มกวนตีนประกบซ้ายขวาบนโซฟาเล็ก ส่วนนาตาลีของผมนั่งพับเพียบเรียบร้อยก้มหน้าอยู่กับพื้น ผมถลาลงไปหา...
“นาตาลีเป็นอะไร?”
“เป็นสนมค่ะ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ซอนกับเมียปรบมือหัวเราะลั่น สองผัวเมียนี่เสือกมายุ่งด้วยทำไม ไม่เข้าใจ
“ม้า! เค้านั่งด้วย” น้องแทนเดินไปหา ไป่ไป๋กางแขน...
“น้องแทนมานั่งกับไป๋ดีกว่า วันนี้ไป๋เป็นฮองเฮา” เธอคว้าเด็กไปกอด ฮองเฮายิ้มได้เหี้ยมมาก...
“ซอนคะ!”
“เย่! ฮองเฮา!” ซอนกวนตีนได้ใจ
“จะลงโทษยังไงดีกับสองคนนี้ดี”
“ไอ้ผู้ชายเอาไปใช้แรงงานในค่ายกักกัน ส่วนนังผู้หญิงคนนี้เอามาเป็นทาสรับใช้คอยเทกระโถนเยี่ยว”
“ดีมาก! แค่นี้เองเหรอยังไม่เพียงพอต่อความผิดเลย มีอะไรจะเสนอเพิ่มมั้ยคะเจี่ยเจี้ย?” ฮองเฮาผ่องมากเหลือบมองแม่ใหญ่
“จับใส่ตุ่มไว้ดีกว่า เอาจับมัดคู่กันไว้กลางถนนแล้วให้ชาวบ้านคอยเติมน้ำให้หนาวตายไปช้า ๆ ประจานให้ชาวบ้านได้เห็นโทษของการลบหลู่ฮองเฮา”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เยี่ยมมากเป็นความคิดที่ดี เจ้าสองคนมีอะไรจะพูดมั้ย?” ฮองเฮาปรบมือถูกใจหัวเราะร่วน
นาตาลียกมือ...
“อาการกำเริบเหรอเพคะฮองเฮา วันนี้เสวยพระโอสถรึยัง?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ผมหลุดขำก้มหน้ามองพื้น เข้าใจแล้วที่หมวดจางบอกว่าถึงเวลาคิดบัญชีคงจะให้ไป่ไป๋แกล้งคืนแน่ /ยอม ๆ ไปจะได้หายโกรธ /
“บังอาจ!” หมวดจางลุกยืนชี้หน้าเล่นใหญ่
“อุ่บ!” ผมรีบหุบปากก้มหน้า ฮองเฮาขยับ...
“ซอน! จัดการกับขันทีก่อนเลย แกล้งทำเป็นจำหนูไม่ได้ ลงโทษให้สาสม” ฮองเฮามีสมุนซ้ายขวาแล้วดุน่าดู
“เย่! ฮองเฮา!” หมวดจางรับคำแล้วเดินเข้าหานาตาลี...
“นังสนมชั่ว สมรู้ร่วมคิดกับขันทีเถื่อนแกล้งฮองเฮาของเรา จงแสดงความจงรักภักดีเดี๋ยวนี้”
“เอ่อ!...ฉันต้องทำยังไง?” นาตาลีเงยหน้ามอง
“เร็ว ๆ” ซอนตวาดทีเดียว สะดุ้งกันยันฮองเฮาเลย
“จะให้ทำอะไรก็บอกมาสิ ฉันต้องขัดรองเท้าเหรอ?” นาตาลีหน้าเริ่มหงิกแล้ว
“แสดงความจงรักภักดีต้องสอนเหรอ? เธอสองคนต้องแสดงให้เห็นว่าใครจงรักภักดีกับฮองเฮามากกว่ากัน” สองผัวเมียนี่กวนตีนไม่เลิกจริง ๆ
“ต้องกราบด้วยมั้ยล่ะ?” นาตาลีเสียงอ่อย
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ผมหลุดขำอีก
“ลบหลู่เหรอ?” แม่ใหญ่ตวาด ผมต้องหยุด
“แสดงความจงรักภักดีใช่มั้ย?” นาตาลีถามย้ำ
“ใช่!”
“พรวด!” นาตาลีพุ่งเข้าหาฮองเฮา มือคว้านมเต็ม ๆ
“ว้าย! เจี่ยเจี้ยช่วยด้วย” ฮองเฮาร้องเสียงหลง หมวดจางคว้าถาดสีของลูกชายป้ายหน้านาตาลี
“นี่แน่ะ! บังอาจ!” เธอกับลูกชายช่วยกันเอาสีละเลงหัวนาตาลี
ฮองเฮาร้องลั่น...
“เจี่ยเจี้ย!! จัดการขันทีสิ อย่าทำร้ายสนมของหนู จับไว้! ซอนคะ!จับแทนให้หนูด้วย” เธอต้องการเล่นงานผม พี่ซอนก็อย่างไวล็อคคอผมทันที
ฮองเฮายิ้มสะใจเยื้องย่างเข้ามาพร้อมกับสีในมือ...
“นี่แน่ะ! นี่แน่ะ!แกล้งหนูเหรอ?” เธอละเลงสีลงที่หน้าผม ทั้งบ้านชุลมุนวุ่นวาย น้องแทนกรี๊ดสนุกสนาน
“อนนี่ด้วย! มาให้หนูทาหน้าซะดี ๆ ชอบแกล้งนักใช่มั้ย?” สองสาววิ่งไล่กวดกันหัวเราะเสียงใส
ทั้งสามสาวและน้องแทนกอดรัดฟัดกัน เสียงหัวเราะสนุกสนาน ทั้งบ้านเละไปด้วยสี
“อ้าว! ฮองเฮาดีกันแล้วเหรอ นาน ๆ จะได้แกล้งดอกเตอร์สักที” ซอนหน้าเลอะกว่านาตาลีซะอีก
“หนูไม่ได้โกรธใครสักหน่อย” ฮองเฮากอดคอนาตาลีกับหมวดจาง
“แล้วร้องไห้ทำไมบ่อย ๆ”
“หนูสงสารตัวเองและสงสารทุกคน หนูทำแต่เรื่องโคตรแย่เลย หนูสัญญาจะไม่ทำอีกแล้ว เหนื่อยมาก”
“ไม่งอนไม่โกรธใครเหรอผมช่วยได้นะ?” ซอนรักน้องจริง ๆ หมวดดึงมือซอนลุกขึ้น...
“ป๊า!ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดกันเถอะปล่อยให้เขาคุยกันเอง เริ่มต้นกันใหม่ดีดีนะ” ต้องขอบคุณแม่ใหญ่ที่ดึงแขนซอนออกไป เหลือเราเพียง 3 คนใบหน้าเละเป็นสายรุ้ง
“หนูจะถือว่า ทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นความผิดของหนูคนเดียว หนูจะเริ่มต้นใหม่เราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน หนูต้องหาโอกาสขอโทษจูยอน อนนี่ด้วย” ไป่ไป๋ของผมเป็นผู้ใหญ่แล้วดีใจจังเลย นาตาลีเข้ามากอด….
“ฉันขอโทษนะ ไม่คิดว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้”
“ช่างมันเถอะค่ะ! เราเริ่มต้นใหม่กันได้ไหมคะ?” ฮองเฮาเหลือแต่ลูกตา
“ได้สิ! ได้เลย ดีใจมากที่กลับมา” เธอดึงไป่ไป๋เข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม
“.............” เหมือนเวลาเดินย้อนหลังกลับไปเมื่อเราอยู่ที่ป่าโบราณ ภาพที่ผมชินตากลับมาอีกครั้ง สองสาวแสดงความรักอย่างร้อนแรง ผมมองด้วยความสบายใจที่สุดในชีวิต
นาตาลีอมยิ้มกรุ้มกริ่มกระซิบข้างหูน้อง…
“จูบกับแทนด้วยสิ!” เริ่มทะลึ่งอีกแล้ว
“บ้า! หนูอายนะ ไม่เอา!” เธอมุดหน้าซบอก นาตาลีพยักหน้าเรียก ผมเข้าไปหา
“แทน!จัดการเลย!” เธอขยิบตา
“ไป่ไป๋ครับ! ผมขอโทษเรื่องทั้งหมดผมเป็นคนผิดเอง ถ้าผมกลับมาก่อนเรื่องพวกนี้คงไม่เกิดขึ้น คุณก็ไม่ต้องเจ็บตัว ผมเลวเองที่ดูถูกน้ำใจของคุณทั้งสองคน ตอนที่คุณไม่อยู่ผมคิดถึงมากหายใจไม่ออกด้วยอีกนิดเดียวก็จะขาดใจตายแล้ว” ผมจำจากน้องแทนมาพูด /นาตาลีเหล่มองแล้วส่ายหัวไม่ถูกใจ/
“หนูรักคุณนะ และหนูจะไม่ยอมเสียการรอคอยนั้นไปฟรี ๆ คุณต้องชดใช้”
“ชดใช้เลยมะ! เอาเลยมะ! เอาเลยดีกว่า?” นาตาลีขยับถอดเสื้อ
“อะไรคะอนนี่?”
“Threesome ที่รอคอยไง!” ยายทะลึ่งเริ่มก่อหวอดอีกแล้ว
“โน๊โน! หนูไปหาเจี่ยเจี้ยดีกว่า” เธออายม้วนเดินบิดออกไป
นาตาลีหันมาจั่วผมก่อนเลย…
“ทำไมไม่ปล้ำ มัวแต่พูดอยู่ได้ ไม่ได้ดั่งใจเลย!”
“หึหึหึ! ไปอาบน้ำกินเหล้ากันดีกว่า” เด่นมากเรื่องทะลึ่ง คุณนายของผม
..........................................................
ลานนอกบ้านท่ามกลางหมู่ดวงดาว เหล่านายทหารหนุ่มสาวนั่งเกาะกลุ่มดื่มกินเสียงหัวเราะสนุกสนานสำเริงสำราญ พี่น้องของเรามารวมกันพร้อมหน้าเป็นวันเวลาที่มีแต่ความสุขอีกครั้ง
“หม่าม้า!คุณหมอ!มาดื่มกันครับ หมดกังวลแล้ว” ซอนนั่งหัวโต๊ะกับสองท่าน
“มาชน ชน! ชน! ทุกคนชนแก้วกันค่า” หม่าม้าหน้าบานเริ่มเมาตุ่ย ๆ แล้ว ลุกขึ้นยืนโซเซชูแก้วเหล้า
“น้องแทน! ชูแก้วชนกับเว่ยโผครับ” ผมกับน้องแทนนั่งกลาง
“เว่ยโผ ชนกัน! ชนกัน!” น้องแทนยิ้มกว้าง
หมวดจางนั่งหัวโต๊ะอีกด้าน รวมกับสองสาวเมาเต็มที่กันหมดแล้วลุกยืนชูแก้ว…
“มาชนกันค่ะ!” แม่ใหญ่เมาแอ๋
หม่าม้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่รินเหล้าเติมให้ทุกคน...
“ทุกคนคะ! ช่วยเป็นพยานด้วยจากนี้ไปฉันจะไม่ห้ามลูกสาวอีกแล้ว อยู่กับพวกคุณสบายใจหายห่วงกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ฉันเคยคิดว่าทำไมไป่ไป๋ต้องมาลำบากกับพวกคุณด้วย ฉันโง่จริง ๆ เลย ขอโทษด้วยนะทุกคน” ท่านโค้งศีรษะอย่างสุภาพ ลูกสาวป้องปาก…
“ขอบคุณค่ะ! อย่าโมเมอีกก็แล้วกัน”
“แอกปลดออกได้แล้วนะไป่ไป๋” หมวดจางดึงน้องไปกอด นาตาลีนั่งอมยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่คนเดียว สายตาที่มองไป่ไป๋นั้น...ชั่วร้ายมาก
ซอนหันมามองพวกเราแล้วขยับเข้าหาหม่าม้า...
“วงเล็บไว้หน่อยครับ ห้ามไอ้แทนกับนาตาลีมายุ่มย่ามกับไป่ไป๋” ไอ้สอพลอจุดชนวนอีกแล้ว
“ก็พวกเขาเป็นเอ่อ! เอ่อ! เป็นแฟนกันนี่นา” ท่านอึกอักชักจะไปไม่เป็น
“เราย้ายไปอยู่ที่อื่นกันดีกว่า จับไป่ไป๋แยกกับพวกนี้ด้วย” ไอ้บ่างช่างยุสร้างเรื่องอีกแล้ว
“เอ่อ!..เอ่อ!” หม่าม้าเริ่มหมุนหาคนช่วย
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” พวกเราหัวเราะลั่นกับท่าทางของท่าน
“ไม่รู้แล้ว!...เรื่องของเด็ก ๆ จัดการกันเองเลือกกันเองอยู่กันเอง เรื่องของเขาเถอะ ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว” หม่าม้าไม่เล่นกับซอน
“ไม่ยุ่งไม่ได้ เดี๋ยวพวกมันแกล้งอีก!” ซอนยังชงต่อ
“ป๊า! จะนั่งลงดี ๆ รึเปล่า?” เมียโวยขึ้นมาทีเดียวซอนหน้าจ๋อยนั่งเงียบ
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“เอาเป็นว่าชีวิตที่เหลือ ฉันขอให้แกมีความสุขมาก ๆ อยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้ไป ฉันขออยู่ด้วยจะไปช่วยทำงานที่โรงพยาบาล” ท่านนั่งลงแล้วสุมหัวกันสามคน
หัวโต๊ะอีกด้าน แม่ใหญ่เมาแอ๋เสียงเปลี่ยน...
“ฉันไม่ได้มีความสุขอย่างนี้มานานแล้ว นาตาลี! ไป่ไป๋! เธอสองคนเป็นน้องสาวของฉัน คืนนี้...เราสามคนมานอนด้วยกัน”
“บ้าเจี่ยเจี้ย ไม่เอา!” ไป่ไป๋ผลักเธอออก
“แหม!...ทีเมื่อก่อนไปเกาะกรงขอนอนกับฉันทุกวัน”แม่ใหญ่ดึงมากอดอีก
“ก็หนูจะนอนกับอนนี่”ไป่ไป๋โผไปกอดนาตาลี
“ไปนอนกับเขาได้ยังไง เกะกะ!” แม่ใหญ่อมยิ้ม
“หึ๋ย! ไม่หรอก ไม่เกะกะเลย” นาตาลีเสนอหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์
“แทน! มานี่สิ” แม่ใหญ่หันมาเรียก
“ครับแม่ใหญ่!” ผมขยับไปมอบตัว
“ดูแลสาว ๆ ให้ดีนะ ความรักของพวกคุณแข็งแรงมาก คุณเป็นคนที่โชคดี ผ่านความตายมาแล้วอย่าย้อนไปหามันอีก เดินหน้าสร้างครอบครัวลุยกับไอ้โลกเฮงซวยใบนี้ต่อไป ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เราจะไม่ยอมรับมัน สักวันฉันจะปฎิวัติ!” แม่ใหญ่เมาหลุดโลกไปแล้ว พูดจบก็ฟุบหน้าลงไป
“นอนได้แล้วมั้งน่ะ! ไม่เห็นเคยเมาขนาดนี้เลย” นาตาลีหันมองพี่สาว น้องแทนเข้าไปกอดแขนแม่...
“ม้าไปนอนด้วยกันดีกว่า ม้านั่งไม่ตรงแล้ว”
“ผมก็ง่วงแล้ว นี่ทุกคน! กินกันให้เต็มที่นะ ผมพาแม่ใหญ่ขึ้นห้องก่อน" ผมหันไปบอกน้อง ๆ ทหารแล้วประคองหมวดจาง น้องแทนเดินตามเกาะขาขมวดคิ้วแหงนมองหน้าแม่ตลอดทาง
“ซัมชุน!”
“ครับ!”
“เค้าจะไม่กินเหล้ากินแล้วหมดแรง วันนั้น!...ลีกินก็นอนกลางถนน ดูม้าสิ! หมดแรงคอตกเลย” เขาช่วยประคองขึ้นบันได
“ดีแล้วลูก เหล้าขมจะตาย” ผมวางเธอลงบนเตียงแล้วเดินไปหยิบผ้าชุบน้ำมาส่งให้น้อง...
“น้องแทนครับ เช็ดหน้าให้ม้าด้วย ม้าจะได้มีแรง”
“ครับ!” น้องแทนรับผ้าแล้วบรรจงเช็ดแก้มแม่แล้วก้มลงหอม เช็ดใหม่แล้วก้มลงหอมอีก ทำอย่างนี้อยู่สองสามรอบก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมาถาม
“ซัมชุน! กลิ่นเหม็นเช็ดไม่ออกเลย”
“กลิ่นอะไรครับ”
“กลิ่นเหล้าเหม็นติดหน้าม้า เช็ดไม่ออก” เขาขยับขึ้นนั่งคร่อมจับผ้าสองมือ
“ฮึบฮึบ!” เขาออกแรงถูใบหน้าแม่ใหญ่
“หึหึหึ! ไม่ใช่อย่างนั้นครับ หน้าม้าถลอกพอดี” ผมดึงผ้ากลับแล้วอธิบายให้น้องเข้าใจ...
“กลิ่นเหล้าต้องแปรงฟันครับเช็ดไม่ได้ออกหรอก เอาผ้านี่เช็ดตัวให้ม้า ไม่ต้องเช็ดหน้าแล้วนะ”
“ครับ!” น้องแทนน่ารักมากดูแลแม่อย่างดี ผมปลื้มใจจังอยากมีโอกาสทำอย่างนี้ให้แม่บ้างสักครั้งก็ยังดีรู้สึกอิจฉาน้องแทนที่เกิดมาท่ามกลางความรักมีพ่อแม่ให้ได้กอดมีคนห้อมล้อมมากมาย เขาเช็ดเสร็จก็ล้มตัวลงกอดแม่หลับตาพริ้ม ผมหมุนตัวกลับห้อง
“ซัมชุน! ไปด้วยสิ เหม็นเหล้า” น้องแทนวิ่งมาเกาะขาเดินลงบันไดกลับห้อง
“มูกุงฮวา โกชี พี้ ออด ซึม นิ ดา” น้องแทนร้องเพลงคุ้นหู กระโดดขึ้นเตียง
“เพลงอะไรครับ” ผมเคยได้ยินเด็กเกาหลีร้องบ่อย ๆ
“อีโม่! สอนให้เค้าเล่นเกมไฟเขียวไฟแดงใครขยับแพ้ พรุ่งนี้เราไปเล่นกันมั้ย?” อ๋อ! เขาหายถึงเกม AEIOU หยุด นี่เอง
“เล่นที่ไหนครับ?” ผมล้มลงนอนข้าง ๆ
“เล่นกับพี่ทหาร เล่นคนเยอะ ๆ สนุกดี มู กุง ฮวา โก ชี พี้ ออด ซึม นิ ดา”
“กลับมาแล้ว!” นาตาลีเมาแอ๋ สลัดกางเกงทิ้งตั้งแต่หน้าห้องเลย
“อนนี่บีบนมหนูแรงไปแล้วนะ หนูจะจับคืนมั่ง” สองสาวช่วยกันถอดเสื้อเหลือเพียงชั้นใน
“คิดถึงจัง มามะ! เรามา Threesome กันให้หนำใจไปเลย” นาตาลีแลกลิ้นกับไป่ไป๋เดินมาพุ่งตัวลงบนเตียง...
“แทนคะ! วันนี้วันดีฉันมีความสุขที่สุดเลย เรามาThreesome กันดีกว่า” เธอคว้าคอผมลงไป
"อึ๋ย!อึ๋ย!อึ๋ย!" น้องแทนยิ้มแป้น โผล่จากใต้ผ้าห่ม…
“ซัมด้วย เค้าเล่นด้วย!”
“คร่อก!!!” นาตาลีตายไปเลย
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ปัญหาทุกอย่างจบลงอย่างสวยงามเหมือนยกภูเขาไปทิ้งทะเล เหมือนนักวิ่งเข้าถึงเส้นชัย ปลอดโปร่งโล่งสบายที่สุดการตัดสินใจเด็ดขาดของจูยอนที่ยอมเสียนกหวีดคู่กายเพื่อแลกกับชีวิตของไป่ไป๋ ช่างกล้าหาญน่ายกย่อง มันตอกย้ำความศรัทธาจนลึกสุดใจ
................................................................................หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |