The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 8 ตอนที่ 22

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 8 ตอนที่ 22
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 8
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 2 ก.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


รยังกัง

มุมมองสายตา แทน

มิถุนายน ค.ศ.2026

ชนบทห่างจากเมืองหลวงทางทิศเหนือก่อเหตุปล้นชิงอาหารและฆ่าชาวบ้าน ทหารเข้าล้อมหมู่บ้านเชิงเขาปฎิบัตการกวาดล้างครั้งสุดท้ายสหายโกมีทักขับรถยนต์ตรวจการณ์หันมารายงาน...

“กลุ่มนักเลง! เมื่อก่อนมันหากินกับยาเสพติดและของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐหลิ่วตาปล่อยให้มันหากิน มันสร้างกองกำลังแบ่งแยกดินแดนโดยโหนผู้นำคนเก่า พวกมันหนีมาที่นี่” เขาชี้ไปที่หมู่บ้านเชิงเขาที่ควันดำลอยกรุ่น ทหารเข้าประจำการล้อมรอบหมู่บ้านหลังจากยึดพื้นที่คืน

“กองกำลังของเขาใหญ่มั้ย จับหัวโจกได้หรือเปล่า?”  

300 กว่าคน หัวโจกตายครับ!

“จูยอนรู้เรื่องนี้รึเปล่า?”

“รู้ครับ! เธอใจดีอนุญาตให้ปกครองตัวเองได้ เสนอให้พวกมันย้ายไปอยู่เกาะและเปลี่ยนอาชีพเป็นชาวประมงดูแลกันเอง อย่าเข้าปล้นชาวบ้านอีก แต่พวกมันไม่สน มันบอกว่า ปล้นง่ายกว่าจับปลา”

“แล้วยังไงอีกครับ?” รถยนต์ไต่ระดับขึ้นยอดเขาสูง ผ่านจุดชมวิวที่เคยมีนักท่องเที่ยวมาหยุดแหงนคอมองขึ้นไปยอดเขา

“ผมเจรจาทำตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว แต่พวกนี้มันไม่เคยเคารพท่านผู้นำคนเดิมอยู่แล้วและมองว่าผมเป็นเด็ก มันไม่สนและขอเมืองรยังกังแยกออกไป”

“แล้วทำไมถึงถล่มซะเละขนาดนั้นล่ะ?”

“เมื่อตกลงกันไม่ได้ เธอก็ให้ผมตัดสินใจเอง ผมคิดว่าพวกมันเป็นอันตรายและมันได้ลงมือฆ่าชาวบ้านไปแล้ว ผมเลยสั่งโจมตีปิดฉากถาวรไปเลย ตามคำแนะนำของเจ็ทโด้เซมครับ”

ผมแอบคิดในใจ...กะแล้ว! ถ้าถอนรากถอนโคนอย่างนี้แสดงว่าเจ็ทโด้เกี่ยวข้องด้วยแน่ สหายโกหักพวงมาลัยเข้าไปกลางลานหมู่บ้าน ทหารวิ่งกรูเข้ามา...

“ชุงซอง!

“สหายยังเก็บกวาดไม่หมดอีกเหรอ?” เขาเดินเข้าไปกอดคอน้องทหารวิธีการเดียวกับที่เจ็ทโด้ใช้กับทุกคน

“ช่วยชาวบ้านซ่อมแซมใหม่ ใกล้เสร็จแล้ว”

“สหายเหนื่อยกันมากเลยนะ ขอบใจมากที่ทำงานหนัก”

“เย่!

สหายโกพาผมเดินสำรวจบ้านโบราณหลังเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาห่างไกลความเจริญ บ้านทุกหลังทิ้งร่องรอยความอบอุ่นเอาไว้ เตาไฟยังคงมีหม้อหุงข้าวที่ไม่ได้กิน ไก่ หมู คอกแตกวิ่งเต็มลานกว้าง

“เจ้าเสือน้อยแบ็คตูมันโกรธมาก เลยเอา MIG-35 มาถล่มม้วนเดียวจบเลยที่นี่เป็นบ้านเกิดของคิมซองบก ข้างบนคือยอดเขาแบ็คตู ฉายาเสือน้อยแบ็คตู ผมตั้งให้เขาเองครับ”

“อ๋อ! อย่างนี้นี่เอง” ผมคิดถึงใบหน้าทะเล้นของเจ้าซองบก นักบินเด็กดื้อของผม

“ผมเลื่อนตำแหน่งให้นาจองรีกับคิมซองบกขึ้นเป็นผู้คุมกองบินและเป็นครูฝึกนักบิน เซมลองไปเยี่ยมพวกเขาใหม่สิครับ พวกเขาพร้อมมาก”

“ทำไมเหรอ?”

“ตั้งแต่กลับมาจาก Kala Democracy เจ้าซองบกกับนาจองรีทุ่มเทฝึกซ้อมบินท่ายากหนักขึ้นมาก เขาพาลูกน้องฝึกดับฟ้าโดน G - force เล่นงานกันจนต้องพาไปรักษากับคุณหมอทุกวัน พวกเขาคึกคักโดดเด่นจนหน่วยอื่นต้องมาดูพวกเขาฝึก คิมซองบกและนาจองรีเป็นนายทหารได้เขามีความรับผิดชอบสูงมาก”

“มันเกิดอะไรขึ้น?”

“เขาบอกว่าเสียใจที่ช่วยเซมไม่ได้ และความรู้ที่เขามีก็น้อยเกินกว่าจะช่วยประเทศได้ พวกเขาเลยทุ่มเทฝึกซ้อมกันอย่างหนัก เสียดายมากนักบินที่ปลุกขึ้นมาก็มีความรู้จำกัด ผมอยากได้นักบินอเมริกันมาสอนพวกเขาบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะหาที่ไหน?”

“น่าภูมิใจนะครับ สหายได้คนดี ๆ มาช่วยงาน” ผมตื้นตันใจในตัวของพวกเขา

“ทั้งหมดก็มาจากครูฝึกทั้งสองคนนั่นแหละครับ ขึ้นไปข้างบนยอดเขากัน ผมมีเรื่องจะอวด”  

“ยอดเขาแบ็คตู...ที่นี่หรือเปล่าที่คุณเคยชวนนาตาลีมาเที่ยว”

“ใช่ครับ! ซาจังนีมชอบมาที่นี่บ่อยมาก เธอชอบมากินเหล้าต้มช่วงหน้าหนาวหิมะขาวโพลนเลยครับ” เขาอมยิ้มป็นปริศนา     

         .....................................................................

ท้องฟ้าใสไร้ก้อนเมฆสะท้อนแผ่นน้ำในทะเลสาบแห่งสวรรค์ บนปากปล่องภูเขาไฟเเบ็คตูที่ดับแล้ว ยอดเขาสูงที่สุดของคาบสมุทรเกาหลี ยอดเขาที่เต็มไปด้วยตำนานความเชื่อด้านความศักดิ์สิทธิ์

Secret camp ฐานเก็บอาวุธภายในถ้ำบนยอดเขา พุ่มไม้ปิดบังพรางตาจากด้านบนยากที่จะมองเห็นจากบนฟ้า กลุ่มทหารเกาหลีเดินออกมาด้วยท่าทางองอาจสวมชุดวิงสูทสีดำสนิท

            “สหายโก! กลุ่มนี้ทั้งหมดกี่คน” ผมหันมองทหารริมหน้าผายืนแถวยาวกระแสลมเย็นกระแทกตัวจนไหวเอน

100 นายครับ ผมมีชุดวิงสูทแค่ 200 ชุดเอง ผมคิดว่าจะใช้พวกเขาทำงานจู่โจมตอนกลางคืน” สหายโกพาเดินเลาะขอบทะเลสาบสีเขียวไปหากองทหารแล้วโยนชุดมาให้เปลี่ยน

น้ำใสสีเขียวมรกตของทะเลสาบสวรรค์ตัดกับสีฟ้าโปร่งของท้องฟ้ากว้าง ปากปล่องภูเขาไฟสูงจากน้ำทะเลสองพันกว่าเมตร มีปลาได้ยังไง สงสัยพวกมันคงอยากขึ้นสวรรค์มั้ง?

“คุณเป็นคนออกแบบชุดพวกนี้เหรอ? สมัยก่อนผมก็เคยใช้ไปช่วยสหายจูยอนที่สวิสฯ แต่ไม่ใช่แบบนี้” ผมมองชุดของพวกเขาแล้วรู้สึกทึ่ง เกาหลีเหนือมีเทคโนโลยีทางทหารชั้นสูงไม่น้อยหน้าใคร

“ชุดฟอลคอนนี้สร้างตั้งแต่ผู้นำคนเก่า ผมขึ้นมาเจอมันซ่อนอยู่ในแคมป์ ผมใช้ความรู้เรื่องหลักอากาศพลศาสตร์ฝึกพวกเขา”

“คุณรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?” ผมก้าวเดินตามหลัง

“อ้าว! ก็ผมจบวิศวการบินจากเยอรมันนะครับ แค่มองใบไม้ยังรู้เลยว่า ถ้ามันร่วงลงมาจะปลิวไปทางไหน ไปไกลแค่ไหน จะตกลักษณะอย่างไรและใช้เวลาเท่าไหร่?”

“เออจริง! ผมลืมไปเลยขอโทษที!” ผมพลาดไปสงสัยสหายมือซ้ายของจูยอน /น่าอายจัง/

“ผมเห็นผู้หญิงสวย ๆ ตั้ง 3 คนที่มาพร้อมกับสหาย แนะนำให้ผมรู้จักบ้างสิครับ”

“คุณก็เจอกับสหายผู้บัญชาการบ่อย ๆ ไม่เคยเจอกันบ้างเหรอ เพื่อนของเธอทั้งนั้น ลองคุยกับเธอก่อนสิ”

“ผมไปหาซาจังนีมที่ศูนย์ดาราศาสตร์บ่อยมาก ถ้าเธอไม่อยู่กับสหายจูยอนก็อยู่กับสหายคิมเยวอน ไม่เคยเห็นคนอื่นเลย”

“นาตาลีไม่ได้ทำวัคซีนหรอกเหรอ?”

“ไม่รู้สิครับ! เธอสนใจดาราศาสตร์มากชวนคุยแต่เรื่องระบบสุริยะเรื่องแบล็คโฮล ไอ้ผมก็ความรู้ไม่ถึงซะด้วย แต่ฟังเธอคุยก็เพลินดีนะครับ ซาจังนีมเก่งมากอธิบายเรื่องยาก ๆ ให้เข้าใจง่าย”

“คุณฝึกพวกเขาที่ไหน?”

 “อ๋า!ฝึกลอยตัวในอุโมงค์จำลองการโดดร่มที่ศูนย์ดาราศาสตร์กับซาจังนีมครับ วันนี้เธอก็ขอตามมาด้วยแต่ผมไม่อนุญาต”เขายิ้มแหย

“ปรกตินาตาลีกลัวความสูงนี่นา”

“ไม่ใช่ล่ะมั้ง? เธอมาฝึกกับทหารที่นี่บ่อย ๆ เก่งกว่าทหารของผมอีก” เขาทำให้ผมแปลกใจ /สงสัยเธอคงหายกลัวตั้งแต่ไต่เชือกข้ามเหว/

“ทหารพวกนี้ใช้งานได้หรือยัง?” ผมเดินไปชิดหน้าผา

เงยหน้า...เวิ้งฟ้าใสไร้พันธนาการ ฝูงนกโบยบินได้อย่างอิสระเสรี เทือกเขาคลุมด้วยดอกมูกุงฮวา ดอกไม้ประจำชาติชมพูสะพรั่งไปทั่วขุนเขา

ก้มหน้า...หน้าผาตัดมองลึกลงไปจนใจหวิว ด้านล่างเป็นทุ่งนาแห้งกรอบกว้างใหญ่ ถนนสายเล็กด้านล่างคดเคี้ยวเหมือนไส้เดือนดิน เขาถือโทรโข่งเดินออกไป แถวทหารคึกคักเตรียมตัวดิ่งพสุธา

“ฟอลคอน! เสียงเรียกแถวก้องสะท้อนไปทั่วขุนเขา

“เย่!!

“เช็คหมวก! เขาตะโกนสั่ง ผมขยับหมวกกันลมพร้อมวิทยุ

“เช็คหลัง!

ผมแตะปุ่มที่ท้อง...

“ฟู่ว!!!! ท่อด้านหลังชุดวิงสูท ปล่อยไอพ่นควันขาว แสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานปรกติ

“เช็คเท้า!!!!

“ฟู่ว!!!! ท่อที่ขาของชุดวิงสูทปล่อยไอพ่นควันขาว

“สหายโก!ชุดนี้ร่อนไปได้ไกลมั้ยครับ?” ชุดแบบนี้เวลากางแขนจะลู่ไปด้านหลังใช้ลมใต้ปีกพยุงตัว น้ำหนักและแรงโน้มถ่วงเป็นตัวขับเคลื่อน ความสูงมีส่วนสัมพันธ์กับระยะทางที่ร่อนไปในอวกาศ

“มันอยู่ที่ว่าเราปล่อยจากไหน จุดนี้ผมเคยให้เขาแข่งกันคนชนะไปได้ถึง 300 กิโลเมตรเลยนะครับ”

            “ยอดเขานี้สูงเท่าไหร๋”

            “2,700 กว่าเมตรครับ” เขาตอบแล้วหันไปปล่อยทหาร

“ฟอลคอน!

“เย่!!

“ออกบิน!

“เย่! ทหารหนุ่มแถวหน้าวิ่งเข้าหาหน้าผา กระโดดพุ่งหลาวออกไปกลางอากาศอย่างไม่ลังเล

“พรึ่บ!พรึ่บ!พรึ่บ!พรึ่บ! กลุ่มเล็ก ๆ ลอยละลิ่วเหมือนนกกระเรียนร่อนลม

“ไปครับ เซม!” เขากระโดดตามลูกน้องคนสุดท้าย

“พรึ่บ!ผมกระโดดตาม สหายชุดหน้าเข้าซอกภูเขาไปแล้ว

เห็นพวกเขาสามัคคีกันแล้วรู้สึกขอบคุณ สิ่งที่พวกเราเหน็ดเหนื่อย มันคุ้มค่ามาก กองกำลังของเราค่อย ๆ ขยายขนาดใหญ่ขึ้นทุกวัน

                           .......................................................................

พยองยาง

บ้านบนเกาะคอนยู...

เมื่อทุกอย่างลงตัว ทุกคนก็เดินหน้ารับผิดชอบในหน้าที่ หม่าม้ากับคุณหมอทำงานที่โรงพยาบาลย้ายบ้านไปอยู่ที่นั่น ส่วนสาว ๆ ก็แยกย้ายไปทำงานของตัวเอง ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขได้พักหายใจจากการต่อสู้

พวกเธอแปลกมาก พอได้ทำงานก็ไม่มีใครกลับบ้านกันเลย ช่วงฮันนี่มูนของผมแสนสั้น คิดว่าจะได้นอนกอดเมียทั้งสองคนให้หายเหนื่อย แต่เปล่าเลย...ที่บ้านเหลือเพียงผมกับพี่ซอนที่นอนเฝ้าเห็นหน้ากันจนเบื่อ เจ็ทโด้กับจูยอนเอาน้องแทนกับลีอองไปเลี้ยง แยกไปอยู่บ้านของตัวเองที่พยองอันใต้หายหัวไปเลย

วันหยุดนี้ผมลากสาว ๆ กลับมาทำอาหารกินที่บ้าน หมวดจางกับอีซูมินกลับมาก็ช่วยกันทำงานบ้าน คุณหมอกับหม่าม้านั่งแกว่งขาที่สะพานริมสระข้างบ้าน

“แทนขา!” ไป่ไป๋อาบน้ำตัวหอมเข้ามานั่งอ้อนที่โซฟาห้องรับแขกหน้าบ้าน

“ทำไมไม่กลับบ้านกันเลย?”

“คุณน่าจะแวะไปดูทีมหนูมั่ง เด็ก ๆ สนุกกันมากหนูก็สนุก เลยนอนที่โรงพยาบาลอยู่เป็นเพื่อนหม่าม้าด้วย” ทรงผมแหว่งของเธอดูไปก็เก๋ดี

“ผมไปฝึกทหารแดดร้อนทุกวันเลย กลับบ้านก็ไม่เจอใคร เจอแต่ซอน...เบื่อ!

เธอยิ้มแล้วเอียงหน้ามาจุ๊บแก้ม อ้อนทีไรระทวยทุกที         

“หม่าม้า!บอกว่าอยากได้หลานชาย” เธออายหน้าแดงระเรื่อ ซุกหน้าลงมา...             

“หนูอยากมีลูกกับคุณแล้วก็อยากเห็นลูกของอนนี่ด้วย” เธอกอดแน่นเหมือนเด็กสาวกอดตุ๊กตาหมี  ตั้งแต่ไป่ไป๋มาอยู่ด้วยนาตาลีก็มักจะปลีกตัวห่างไปหาโน่นนี่ทำไปเรื่อย ถ้าไม่ทำงานที่ศูนย์วิจัยโชซอนกับหมวดจางก็จะเข้าไปอยู่ในศูนย์ดาราศาสตร์ นั่งส่องกล้องดูดวงดาวกับคิมเยวอนทั้งคืน

“แชร็ง! ๆ ๆ” นาตาลีเดินเอานิ้วรูดเปียโน ยิ้มหวานมาแต่ไกล

“แทน! คิดถึงจังเลย ”เธออ้าแขนวิ่งเข้ามา

“ซาจังนีม! ทิ้งผมแล้วใช่ป่ะ?” ผมขยับกางแขนรับเข้าอ้อมกอด

“ฉันไม่มีวันทิ้งคุณ ” เธอจุ๊บปากเบา ๆ ผมเกรงใจนาตาลีมากและมักจะเป็นฝ่ายเข้าหาเธอก่อนเสมอ ในใจลึก ๆ ก็ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร เสียใจหรือเปล่า? น้อยใจมั้ย? ผมคิดว่าการมีเมียหลายคนไม่ได้มีความสุขแท้จริง เพราะต้องคอยระแวงความรู้สึกของคนรัก

ไป่ไป๋ลูบหัวตัวเอง...                

“หนูอยากตัดผมจังเลย ร้านที่นี่ก็ตัดเป็นแต่ทรงบังคับ อนนี่คะ! ตัดผมให้หนูหน่อยสิ”เธอยิ้มอ้อน

“หือ!...” นาตาลีสายตาทะเล้น ลุกพรวด..                   

“เอาสิ! ไปท่าน้ำกัน แทนคะ! ขอเครื่องมือด้วย” เธอสั่งอย่างมั่นใจแล้วจูงมือน้องเดินลั้ลลาเลาะแปลงดอกไม้สีชมพู ผ่านสวนไปศาลาแปดเหลี่ยมริมแม่น้ำหลังบ้าน 

ผมเข้าไปหยิบอุปกรณ์ในบ้าน เดินสวนกับหมวดจางในมือถือกระป๋องน้ำกับไม้ถูบ้าน...

“นี่คือข้อเสียที่เงินไม่มีความหมาย” เธอหันมายักคิ้ว

“ทำไมครับ?”

“อ้าว! งานราคาถูกก็ต้องให้คนค่าจ้างถูกทำมันถึงถูกต้อง ฉันเป็นคนที่ค่าตัวแพงและทำงานสำคัญจะมาเสียเวลากับงานพวกนี้มากไม่ได้ มันไม่คุ้มค่า” เออ! จริงด้วย ทำยังไงดีวะ?

“ผมจะชวนทหารหญิง เพื่อน ๆ ของนาตาลีมาปาร์ตี้บ่อย ๆ พวกเธอทนไม่ได้หรอก ถ้าเห็นพวกคุณต้องทำงานบ้านกันเอง”

“รีบ ๆ เลยนะ” แม่ใหญ่เดินหายเข้าไปในห้องโถงกลมกลางบ้าน

 อีซูมิน ยิ้มแป้นหอบผ้ากองใหญ่เดินลงมาจากชั้นสอง

“โอปป้า! จะทำอะไรกันคะ?” เธอโยนกองผ้าลงพื้น

“จะตัดผมให้ไป่ไป๋ครับ”

“แทนโอปป้า! เป็นช่างด้วยเหรอตัดให้หนูด้วยสิ” สาวน้อยจับผมของตัวเอง

“ผมตัดไม่เป็นหรอก นาตาลีโน่นเป็นช่าง เสร็จแล้วก็ไปตัดด้วยกันสิ!

“ได้ ๆ รอหนูด้วยนะ ขอหนูแช่ผ้าก่อนนะคะ” เธอยิ้มแป้นวิ่งไปเปิดน้ำลงอ่าง

สายลมพัดสะบัดเย็น ผมเหยียบเท้าลงบนหินรองก้าวที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานจนมันจมลงดินในสวนลูกท้อ ดอกเจอราเนียมส้มแดงกับดอกลิลลี่แมกโนเลียขาวเหลืองบานสะพรั่งเรี่ยพื้นส่งกลิ่นหอมอบอวลขึ้นจมูก

มูกุงฮวา ดอกไม้ประจำชาติเกาหลีกลีบบาง 5 แฉก สีชมพูม่วงแต้มแดงที่โคนกลีบชูเกสรเหลือง ส่งกลิ่นหอมเย็นกระจายฟุ้งตามทางเดินลงไปถึงศาลาหลังคาโค้งยื่นลงไปกลางนาวา แสงแดดอบอุ่นหยอกล้อสายน้ำเชี่ยว เงาตะวันสะท้อนพื้นน้ำแวววับเหมือนมีชีวิต ผมได้ใช้เวลาอยู่กับสองสาวอย่างไม่ต้องรีบร้อนอีกครั้ง เหมือนเมื่อครั้งที่เราสามคนติดอยู่ในป่าโบราณ นี่ต้องเป็นพรหมลิขิตไม่ใช่ผีผลักแน่นอน             

นาตาลีนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่บนเก้าอี้ม้านั่งยาว หวีผมของไป่ไป๋ที่นั่งกับพื้นไม้ขัดเงา

“นี่ครับอุปกรณ์” ผมส่งกรรไกรคมกริบให้ เธอรับไปถืออย่างทะมัดมะแมงพลิกซ้ายพลิกขวาท่าทางชำนาญการใช้กรรไกร

ไป่ไป๋ใบหน้าอิ่มสุขนั่งขัดสมาธิกับพื้น เงยหน้ายิ้มแก้มป่อง...           

“บ็อบนะคะอนนี่!!” สายตาของไป่ไป๋เปี่ยมไปด้วยความรักความจริงใจอารมณ์ดีมีความสุข ตอนนี้เธอไม่ต้องกินยาแก้โรคซึมเศร้าแล้ว

นาตาลีพยักหน้ายิ้มแปลก ๆ เอาหวีรวบผมเหมือนช่างระดับตำนาน ท่าทางจะชำนาญไม่น้อย //นึกชมในใจ...เก่งหลายอย่างนี่นา...//

“แกร็บ!แกร็บ!แกร็บ! ช่างตัดอย่างตั้งใจสายตามุ่งมั่น อยากรู้จัง ว่าเธอเคยได้ถ้วยรางวัลช่างทำผมยอดเยี่ยมดีเด่นแห่งชาติบ้างหรือเปล่านะ? 

ไป่ไป๋ยิ้มปลื้มปริ่ม...                

“หนูไม่เคยรู้เลยว่า อนนี่เก่งเรื่องพวกนี้ด้วย บ็อบนะคะ!” เธอระริกระรี้

“แกร็บ! แกร็บ! แกร็บ!

ผมภูมิใจในตัวของนาตาลีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งปลาบปลื้มใจมากขึ้นไปอีก เห็นสีหน้าท่าทางเอาจริงเอาจังแล้วนับถือ ความรู้ความสามารถรอบตัวจริง ๆ                   

“แกร็บ! แกร็บ! แกร็บ! เธอไม่พูดไม่จาตั้งใจตัดพลิกหน้าพลิกหลัง สลับหวีผมท่าทางคล่องแคล่ว

“หนูอยากหยุดเวลาได้จังเลย อนนี่คะ! คิดเครื่องหยุดเวลาได้หรือเปล่า?” ใบหน้าของเธอเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล

“แกร็บ! แกร็บ! แกร็บ! ช่าง...ไม่สนใจกับเสียงนกเสียงกา พลิกหวีขึ้นมาสางเสียบกรรไกรตัดฉับ ๆ // มืออาชีพชัด ๆ //           

“ยังชอบร้องเพลงอยู่หรือเปล่า?” ผมชวนไป่ไป๋คุย

“???????” ไป่ไป๋ขมวดคิ้วเหล่มอง ผมเห็นใบหน้าของเธอแล้วรู้สึกสงสาร เธอพลาดความฝันทุกอย่างผมต้องชดใช้ให้เธอ          

“ไม่อยากเป็นไอดอลแล้วเหรอครับ?”  

“............”สายตาของเธอยังคงไม่เข้าใจ หรือว่าเธอลืมฝันนี้ไปแล้ว

“แกร็บ! แกร็บ! แกร็บ! นาตาลียังคงเมามันกับการตัด เอียงหัวมองบนมองล่างอย่างมืออาชีพไม่สนใจใคร 

“หนูแก่แล้ว ปีนี้อายุ 25 แล้วนะ” เธอคงผิดหวังมากน้ำเสียงไม่สดใสเลย

“ยอมแพ้แล้วเหรอครับ?”

“หนูเลิกคิดไปตั้งนานแล้ว” ยิ่งมองยิ่งสงสาร

“คิดว่าตัวเองทำได้มั้ย?”

“อะไรเหรอคะ?”

“เปิดคอนเสิร์ตกัน”

“สบายมาก!

“เอามะ?”

“เอามะ?” เธอเงยหน้าตาโต ดวงตาวาววับขยับไหล่กระดี๊กระด๊า...

“เอามะ?”        

“จริงนะ! จริงนะ! ให้หนูร้องเพลงจริงนะ!

“แกร็บ!แกร็บ!แกร็บ! ช่างตัดมุ่งมั่น สายตาดั่งไฮยีน่าจ้องลูกกวางน้อย  

“ไปเปิดโชซอนคอนเสิร์ตกัน!

“เย้!...รักคุณที่สุดเลย! ไป่ไป๋ดีใจยิ้มกว้างดิ้นดุ๊กดิ๊ก หันหน้ากลับ...    “อนนี่คะ!!!

“แกร็บ!!        

“โอ๊ะ!! นาตาลีตาเหลือก                   

“อุ๊!! ไป่ไป๋อ้าปากค้าง                        

“โอ้วโน!!!! ผมร้องเสียงดังกว่า เส้นผมปลิวร่วงพื้นเป็นกำหัวแหว่งขาวหวอ

ไป่ไป๋หน้าเหวอ หันมองหน้าเลิ่กลั่ก...           

“เป็นอะไร! เป็นอะไร! แทนคะ! อนนี่คะ?” เธอเอามือลูบหัวร้องถามเสียงหลง นาตาลีค่อย ๆ วางกรรไกรส่งกระจกให้แล้วลุกเดินมาหลบหลังของผม

ไป่ไป๋ยกกระจกขึ้นส่อง...                    

“จ๊าก!!!อนนี่! บ็อบหนูล่ะ?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!! ไปประชุมดีกว่า ฉันต้องส่งทหารไปที่ชายแดน” นาตาลีวิ่งหนีกลับเข้าบ้าน ไป่ไป๋ลุกวิ่งแยกเขี้ยวตามไป...

“หนูจะฆ่าอนนี่! อย่าหนีนะ!

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! สำหรับผม...ไม่มีอะไรจะสุขมากไปกว่านี้อีกแล้ว

สักพักเสียงดังโหวกเหวกโวยวายจากในบ้าน ก้องมาถึงศาลา...

จ๊าก!!! หนูไม่ให้อนนี่ตัดให้หนูแล้วนะ หนูจะไว้ผมยาว” เสียงอีซูมินร้องลั่น สาว ๆ หัวเราะดังสนั่นบ้าน 

สักพัก ไป่ไป๋หิ้วคอนาตาลี เดินกลับมา…                   

“รับผิดชอบเลยนะ!” เธอเดินใบหน้ายิ้มแย้ม นาตาลีเหมือนจะสำนึกผิดหน้าจ๋อยเชียว...                   

“ก็ฉันตัดผม ไม่เป็นนี่นา”        

“อ้าว! ผมกับไป่ไป๋ร้องพร้อมกัน

“ก็เธอดิ้นเองนี่ หัวแหว่งเลย สมน้ำหน้า”

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ไป่ไป๋หัวเราะลั่น

เธอจับนาตาลีนั่งบนม้านั่งที่เดิม แล้วตัวเองก็ลงนั่งกับพื้นที่เดิมเช่นกัน                      

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูมีสิ่งที่อยากทำมานาน ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ทำ อนนี่!ทำให้ฝันหนูเป็นจริงแล้ว” เธอยิ้มกว้างส่งกรรไกรให้ 

นาตาลีรับมามองแบบแปลกใจ...                   

“จะเอาอีกเหรอ จะให้ฉันตัดอีกเหรอคะ แน่ใจนะ?” ทั้งสีหน้าท่าทางและน้ำเสียงของเธอไม่มีความมั่นใจเลย 

ไป่ไป๋ ยิ้มกว้างตาใสดิ้นยุกยิก...          

“โกนหัวให้หนูที!”                    

“ฮ้า!!! ผมกับนาตาลีหันมองหน้ากัน

 “จริง! หนูอยากโกนหัวมานานแล้ว จัดการเลย” สิ้นเสียงไป่ไป๋ นาตาลีสายตาเปลี่ยนเป็นตื่นเต้น ตัดผมให้น้องอย่างมันมือ          

“นาตาลี! ตัดผมยาวออกให้หมด เดี๋ยวผมโกนหัวให้เอง” ผมสนุกกับเธอไปด้วย 

นาตาลีหนีบกรรไกรจนเส้นผมของไป่ไป๋แหว่งร่วงกองพื้น เราสองคนปล้ำกับหัวของไป่ไป๋จนได้หัวลูกโป่งมาใบหนึ่ง เธอเชยคางน้องจ้องสายตาเป็นประกายก้มลงไปจุ๊บปาก

“ฉันชอบจังเลย ไป่ไป๋!ฉันตื่นเต้นจังเลย เห็นหน้าแล้วจี๊ดเลย” เธอจูบไป่ไป๋แบบเอาจริงเอาจัง ถ้านาตาลีชอบก็เตรียมตัวรับงานเถอะผมจะได้รอดตัว

ไป่ไป๋ดิ้นหนียิ้มอาย...             

“เป็นอะไรไปคะ อนนี่!”เธอเอามือลูบหัวเหน่งของตัวเอง นาตาลีเดินตามมาโน้มคอจูบดูดดื่ม                         

“อืม!เห็นหน้าแล้วมีอารมณ์ เริดมากค่ะ!” เธอบีบนมน้องเฉยเลย ไป่ไป๋ลูบหัวยิ้มกว้าง...
          “เบาสบายเย็นโล่งดีจังเลย หนูอยากทำมานานแล้ว” เธอเริงร่าไม่คิดเสียดายเส้นผมที่สลวยสวยงามนั้นเลย เหมาะแล้วกับศิลปิน

ผมหันแซวนาตาลี...

“คุณชอบของแปลกเหรอ? ตอนผมเป็นปีศาจ คุณก็ข่มขืนผมทุกวันเลยนะ”

เธอหันมาค้อนแล้วย่นจมูกใส่...                       

“ใช่! ฉันชอบนินจามากกว่า หน้าตายับเยินเร้าอารมณ์เวลามีเซ็กซ์ฟินมาก หน้าเละหูแหว่ง ถ้าเอาหนอนใส่ไปด้วยนะ...อึ๋ย!สุโค่ย”

“แล้วตอนนี้ล่ะคะ?” ยายเหน่งเอียงคอ

เธอเบ้ปากส่ายหน้า...

“แต่พอกลับมาเป็นแทนแล้วจืดชืด ไม่ดุดันเหมือนเก่า นินจาหน้าผีของรักของข้า โฮะ!โฮะ!โฮะ!!” เธอหัวเราะได้ทะลึ่งมาก

ไป่ไป๋เงยหน้าถาม...                

“แทนคะชอบมั้ย?” เธอยิ้มอายหน้าแดง ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พวกเธอจะเป็นอะไรก็ได้ขออย่างเดียวอย่าตายก็แล้วกัน ใครอยากทำอะไรก็ได้ตามสบายรับได้หมด

“ผมก็คิดเหมือนนาตาลี” ผมยิ้มแล้วลุกยืนยื่นมือให้ทั้งสองจับลุกขึ้นยืน

ไป่ไป๋ยิ้มร่ากอดรวบผมกับนาตาลี...

“ถูกใจมากที่สุดเลย รักอนนี่ที่ 1 รักแทนที่ 2 รักมาก ๆ เลยค่ะ” เธอซุกมาที่หน้าอก

แต่...พอได้มองใบหน้าขาวใกล้ ๆ คิ้วโค้งเข้มหัวโล้นใสเร้าใจมาก ผมเอามือลูบหัวเธอเบา ๆ เจ้างางอนมันดีดตัวผงาดง้ำขึ้นมา รีบถอยห่างแล้วหันไปหานาตาลี...                   

“นาตาลี! ขึ้นจริง ๆ ด้วย จี๊ดเลย” ผมไม่ใช่คนแบบนี้ เซ็กซ์มาทีหลังความรัก แต่หัวลูกโป่งของเธอเร้าอารมณ์จริง ๆ

“หนูมีชุดสวย เดี๋ยวใส่ให้ดูนะ” สาวน้อยเดินเต้นเข้าบ้าน

                         ……………………………………………………..

เรากลับมานั่งที่ห้องรับแขก รอไป่ไป๋อาบน้ำแต่งตัว นาตาลีนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถูกใจกับสิ่งที่เธอทำ หมวดจางกับอีซูมินเสร็จงานบ้านเดินเข้ามาสมทบ ทั้งคู่สวมชุดโกโจรีสีลูกกวาดปวดตามาก ส่วนนาตาลีในชุดลำลองทหารเสื้อกล้ามกางเกงน้ำตาลนั่งยิ้มมองอีซูมินอย่างเอ็นดู...

“ซูมินร้องเพลงเก่งมั้ย?”

“ก็เก่งนะคะแต่ไป่ไป๋อนนี่สุดยอด เธอร้องไฮโน๊ตเสียงใสมาก” เด็กสาวเดินเข้ามาหาแล้วนั่งกอดนาตาลี

“แทนโอปป้า! จะจัดคอนเสิร์ต” เธอบอกแล้วหันไปยิ้มอวดหมวดจาง

“ไร้สาระ! แม่ใหญ่ส่ายหน้า เธอเลยวัยกรี๊ดไปแล้วไม่สนใจกับเด็ก ๆ อย่างเรา อีซูมินตาลุก...         

“เมื่อไหร่คะ หนูขอไปด้วยนะคะ?” วัยรุ่นร้องขอนาตาลีแล้วหันมองหน้าแม่ใหญ่อย่างเกรงใจ หมวดจางโบกมือไล่...

“อีซูมินไปเที่ยวบ้างเถอะ ทำงานเกินเด็กวัยเดียวกันไปแล้ว ไม่ต้องขยันขนาดนี้ก็ได้ ฉันเหนื่อยทำไม่ทัน” เธอทิ้งตัวทับนาตาลีบนโซฟาแล้ว

“เดี๋ยวนี้นมใหญ่แล้วนะ ขอจับหน่อยสิ” เธอไม่พูดเปล่าคว้าเต็มกำมือ สองสาวนี่เมื่อสมัยก่อนจะฆ่ากันให้ได้ แท้ที่จริงรักกันมากฟัดเหมือนเด็กเล่นกัน

“วี๊วี่วี๊...เนกาเจอิล จัลนากา! เสียงผิวปากอย่างสบายอารมณ์ ไป่ไป๋ยิ้มใบหน้าใสสดชื่นแก้มเป็นพวง หัวกลมเหน่งเหมือนลูกโป่งสวรรค์เข้ากับดวงตากลมโตแววตาดื้อคิ้วเข้ม ห่มผ้าแพรผืนใหญ่ยิ้มฟันขาวเข้ามา

“ว้าว! ตะลึงกันทุกคน           

หมวดจางกระเด้งนั่งอกตรงตาค้าง...

“เฮ้ย!!หลวงจีนน้อยวัดไหนวะเนี่ย? หล่อจัง! มานี่เลย ๆ ใครไปเอาธูปมาให้หน่อยจะจิ้มหัวให้ 8 จุด” เธอลุกพรวดไปกอดแล้วลูบหัวเหน่งน้องอย่างอ่อนโยน

“หล่อจังเลย หมั่นเขี้ยวว่ะ!” เธอหอมแก้มในขณะที่อีกมือแอบบีบก้นน้อง...

“ปี๊น!

“ว้าย! บ้า ๆ เจี่ยเจี้ย! บ้า” ไป่ไป๋หมุนตัวหนี อายหน้าแดง         

 “โอ้โห! อนนี่! เซ็กซี่จังเลย” อีซูมินเบิกตากว้าง ยกมือปิดปาก

“ชุดสวยมั้ยคะหนูจะใส่ไปร้องเพลง?” เธอดึงผ้าแพรคลุมตัวออกไป โชว์ชุดหนังแขนยาวขาสั้นสีแดงเพลิง ชุดรัดนมทะลักล้นตาข่าย หน้าท้องขาวเนียน ตุ้งติ้งที่สะดือแกว่งไกว

“ว้าว! ว้าว! ว้าว! อีซุมินตาเขม็ง ส่วนนาตาลีของผมเหล่มอง ยิ้มมุมปาก อิอิ!

“โดนแน่! โดนแน่! เธอนั่งหมายหัวน้อง

เอวมดตะนอยขาวเว้ารับกางเกงหนังขาสั้นตัวเล็กเอวต่ำรัดรูป ก้นกลมขาวปลิ้นล้นกางเกง สะโพกผายงอนเรียวขากลมกลึงขาวเนียน กางเกงตัวเล็กรัดแนบเนื้อนูนง้ำ แม่ใหญ่ก้มหน้าลงไปไซร้นมน้อง....

“หมั่นเขี้ยวจริง ๆ อยู่เฉย ๆ นะ เดี๋ยวแม่ใหญ่ให้ตังค์กินขนม” เธอฟัดน้องอย่างเมามัน ไป่ไป๋ดิ้นผลักหนี หันไปค้อน...             

“บ้า!เจี่ยเจี้ยจับนมหนูทำไม?”

“อดใจไม่ไหวว่ะ! หุ่นโคตรเด็ดเลย มามะ มาเอาตังค์ไปกินขนม” เธอดึงแขนน้องไปฟัด

“ไม่เอา!” ไป่ไป๋สลัดแล้ววิ่งหัวเราะมาหลบหลังนาตาลี 

สบายใจจังเลยความสุขเล็ก ๆ ของพวกเธอทำให้บ้านสดใส ผมขยับไปหานาตาลี

“ผมไม่มีอะไรจะให้ไป่ไป๋ ผมขอมอบสิ่งนี้ให้คงไม่ช้าไปนะครับ”

“ดูแลน้องให้ดี คุณทำดีแล้ว” เธอหันมาหอมแก้ม

“ผมพยายามหาความฝันของคุณแต่ผมหาไม่เจอ ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณชอบอะไร? ผมไม่เคยมีเงินมาก ๆ ไม่เคยขึ้นไปเดินบนถนนสายเดียวกับคุณ ผมไม่รู้ว่าพวกเขาดูแลคุณอย่างไร?” ผมยอมสารภาพตรง ๆ กับเธอ 

นาตาลียิ้มกว้าง....      

“ฝันของฉันเป็นจริงไปตั้งนานแล้ว นินจาเซมทำให้ตั้งนานแล้ว” เธอยิ้มกรุ้มกริ่ม

“หือ!” ผมพยายามนึกว่าได้ทำอะไรให้เธอบ้าง แต่คิดไม่ออก...           
          “ผมยังไม่ได้ทำอะไรให้คุณเลยนะ”

เธอบิดแขนยิ้มกรุ้มกริ่ม...        

“ฝันของฉันธรรมดามาก ฉันแค่อยาก...” เธอยังพูดไม่จบ แม่ใหญ่เสนอหน้าเข้ามา...             

“ฉันแค่อยากได้เอ็นอุ่น ๆ ของคุณค่ะ ฉันโหยหามาก ช่วยมากระหน่ำฉันหน่อยนะคะ ลื่นปรื้ด! ลื่นปรื้ด!เธอยื่นหน้าเลียนเสียง

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!  นาตาลีหัวเราะลั่น ยกขาถีบ...               

“ยายบ้า! คุณนั่นแหละทำฉันเสียคน หลอกให้ขี่ม้า คิดถึงเรื่องนี้ทีไรคันคอทุกที มาหลอกให้ฉันกินขน” เธอไล่ทุบพี่สาว

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! วันเก่า ๆ เป็นคลังของเรื่องราวที่จะขุดเอามาอำกันได้เสมอ

นาตาลีหันมา...           

“เรามาทำคอนเสิร์ตให้มันประทับใจกันไปเลยดีกว่า ฉันเคยเห็นเด็กผู้หญิงเปิดเพลง K-Pop แล้วเต้น Cover กันเป็นกลุ่ม ๆ เรามาทำอย่างนั้นมั่งดีกว่า เอาให้มันตราตรึงพูดกันทั้งปีก็ไม่จบ” สายตาของเธอวาดฝัน

อีซูมินผวา...                

“หนูเลือกเพลงให้นะคะ ให้น้อง ๆ ไปฝึกเต้นกันก่อน แล้วค่อยมาดูคอนเสิร์ตกัน อย่างนี้สนุกแน่” วัยรุ่นตื่นเต้นยิ้มหน้าบาน

“ซูมินจัดการเลย ฉันเป็นเจ้าภาพเอง” เธอยกวิทยุ...             

“สหายโกคะ!พรุ่งนี้มาหาฉันที่ศูนย์ดาราศาสตร์หน่อยนะคะ” เธอมุ่งมั่นเอาจริง

แต่หมวดจางนั่งหน้าหงิกไม่พอใจ หันมองตามไม่วางตา...

“ย่าห์!! เธอตาเขียวตวาดใส่นาตาลี...

“เป็นอะไรยะ?”

“ฝันของเธอก็สำเร็จไปแล้ว ฝันของยายเหน่งกำลังเริ่มต้น แล้วเครื่องบินของฉันล่ะ ฮ.ของฉันอยู่ไหน? พอฉันตัดสินใจอยู่ด้วยก็ไม่มีใครพูดถึงเครื่องบินอีกเลยนะ ทองคำด้วย! ทองคำของลูกชายฉันล่ะ ฮึ! หมวดจางโวยลั่น

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ไม่รู้ไปคุยกับจูยอนเอาเอง” นาตาลีจูงมือพวกเราเดินหนีออกจากบ้าน

“พวกขี้โกหก! ไม่รู้ล่ะ! ฉันจะเอาเครื่องบิน ฉันอยากได้” เธอตะโกนตามหลัง

จงกอบโกยและสะสมความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ให้มากพอที่จะนึกถึงมันในวันที่ต้องจมอยู่กับปัญหา จะได้มีสิ่งดี ๆ ไว้คิดถึงและปลอบใจตัวเอง

                                    ..................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,861 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,977 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม