หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 8 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 2 ก.ค. 2567 |
พยองยาง
มุมมองสายตา แทน
มิถุนายน ค.ศ.2026
สนามฟุตบอล เมย์เดย์ สเตเดียม...
ตะวันคล้อยลงต่ำแสงแดดยามบ่ายแก่ ๆ เริ่มอ่อนแรง ผมใจเต้นแรงรู้สึกตื่นเต้นตลอดทาง เลี้ยวรถยนต์เข้ามาในร่มเงาของสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก กองทหารและกลุ่มวัยรุ่นยิ้มแย้มฟรุ้งฟริ้งแออัดรอบสนามด้านนอก จอภาพด้านนอกใหญ่โตถ่ายทอดสดมาจากภายใน
“นินจาเซม!” สหายโกมีทัก โบกมือแล้ววิ่งหน้าตั้งมาหา...
“ชุงซอง!”
“เย่!” ผมยืดอกรับแล้วเดินเข้าสวมกอด เราสองคนอายุเท่ากันสนิทกันมากทีเดียว เขาเป็นครูฝึกให้ผมพูดภาษาเกาหลี เราต่างก็เป็นครูของกันและกัน ผมดึงเขามายืนเคียงข้าง...
“ยอลาบูนทักทายกันสิ! ผมจะแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เราคงเคยเจอกันเฉี่ยว ๆ หลายครั้งแล้ว นี่! สหายโกมีทัก ผู้นำทหารสูงสุดและนักบินที่เก่งที่สุดใน 3 โลก คนที่จูยอนไว้ใจที่สุดในเกาหลีเหนือ” ผมนึกถึงวันเก่าที่เคยนั่งเครื่องบินรบกับเขาแล้ว...เสียวตูด
สหายโกสูดหายใจลึกยืดอกใบหน้านิ่ง แววตาประกายวับ...
“โกมีทักอิบนิดะ! ผมเคยเห็นกลุ่มสหายในวันที่สหายจูยอนกลับมาทำงาน ยินดีที่ได้รู้จักฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” สหายผู้พันนอบน้อมน่ารัก
ผมผายมือแนะนำไปทีละคน...
“ร้อยโทหญิง จาง แอนนาแห่งกองทัพปฎิวัติประชาชนจีน คุณแม่ของน้องแทนเป็นพี่สาวคนที่ 2 ของพวกเรา เป็นเพื่อนรักของสหายผู้บัญชาการ เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งมากด้วย”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” หมวดจางยื่นมือทักทาย โกมีทักจับสองมือเขย่าแล้วโค้งศีรษะอย่างนอบน้อม...
“ฝากตัวด้วยครับสหายผู้หมวดจาง แอนนา ลูกชายน่ารักมากเลยนะครับ เขามาอ้อนให้ผมขับเครื่องบินพาเที่ยวด้วยล่ะ เขาชอบเครื่องบิน” นายทหารยิ้มอ่อน
หมวดจางยิ้มหวาน สายตาคมกริบ...
“เรียกฉันว่า แอนนานะคะ ขอบคุณมากที่เอ็นดูน้องแทน” เธอยิ้มสายตาวาวตั้งแต่ได้ยินคำว่าเครื่องบิน
“ครับ! แอนนานูน่า!” เขายกให้เธอเป็นพี่สาวอีกคน
คนต่อไปไป่ไป๋ของผม เธอสวมชุดวอร์มสีแดงสวมหมวกแก็ปคลุมฮู้ดเดินยิ้มคิ้วเข้มใบหน้าโดดเด่น ก้าวเข้ามายื่นมือให้เขาจับ
“เอ่อ...” สหายโกอึกอักเสียอาการทันที กัดริมฝีปากกรอกสายตาประหม่า...
“โก..โก มีทัก อิบ..นิดะ” เขาตะกุกตะกักก้มหน้า จับแค่ปลายมือนิดเดียว
“เงยหน้าสิคะ! มองตาจริงใจกันหน่อย” ไป่ไป๋คว้าจับเต็มมือดึงเข้ามาหา //บริหารเสน่ห์อีกแล้วสิ ยายหัวเหม่ง//
“เอ่อ!...” สายตาขี้เล่นของนางยากจะต้านทาน นายทหารหนุ่มท่าทางประหม่ารีบก้มหลบสายตา
“ไป่ไป๋นะคะ! ฝากตัวด้วยนะคะโอปป้า ขอบคุณมากเลยที่ช่วยจูยอนอนนี่มาตลอด ขอบคุณจากใจจริง ๆ” เธอเขย่ามือแล้วก้าวถอยหลัง
สาวน้อยคนต่อไป อีซูมินเดินยิ้มเข้ามา ...
“อันยองฮาชิมนิก๊า! ชอนึน อีซูมินอิมนิดะ ชัล พูทักดีริมนิดะ” เธอแนะนำตัวเองเสียงใสสมวัยสาว
“ออม่อ!” สหายโกอุทาน ขมวดคิ้วยิ้มมองด้วยความแปลกใจ
อีซูมินยืดอกพูดต่อ...
“หนูเป็นคนเกาหลีเหนือค่ะ หนูมาทำงานรับใช้พัคอนนี่ เอ้ย!สหายผู้บัญชาการค่ะ” เธอยืดอกภาคภูมิใจยิ้มแก้มปริ ผมรีบแทรกตัวเข้าไป...
“อย่าเข้าใจผิดนะครับ! เธอไม่ใช่คนรับใช้ เธอคือน้องคนเล็กของนาตาลี เราเป็นพี่น้องกัน” ผมเข้าไปลูบหัวกอดคอน้อง
“แทนโอปป้า!” อีซูมินยืนอึ้งดีใจดวงตาประกาย
“อันยองฮาเซโยโกมีทักอิบนิดะ” สหายผู้พันทักทายเสียงดัง
ผมหันมองหานาตาลี...
“สหายผู้บัญชาการอยู่ที่ไหนครับ?”
“เดี๋ยวก็มาครับไปขึ้นรถกันเถอะ ห้องพักของเราอยู่ใต้เวที เจ็ทโด้เซมอยู่ในนั้นครับ” เขาพาเดินไปขึ้นรถยนต์ พอผ่านกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปในสนาม พวกเราต่างก็ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็น ...
“โอ้โห! อลังมาก เลิศฮ่ะ!” แม่ใหญ่อ้าปากค้าง
สนามฟุตบอลทรงรังนก หลังคารูปกลีบดอกไม้ขนาดมหึมา ยิ่งใหญ่อลังการ เก้าอี้รอบสนาม114,000 ตัวบนพื้นแดงเล่นระดับลวดลายดอกไม้
วงกลมกลางสนามฟุตบอลโดนครอบด้วยเวทีใหญ่ขนาด 2 สนามบาสเกตบอลสีเหลืองสด ตัวเวทีตั้งสูงเด่นตัดกับสนามหญ้าเขียว ป้ายธงห้อยพลิ้วรอบสนาม
“บรื้น…นน!!” สหายโกขับรถยนต์มุดเข้าใต้เวที...
“ผมว่าที่นั่งไม่พอหรอก รวมข้างล่างด้วยนะ” เขายิ้มอลังการกับงานสร้างของตน ท่าทางถูกอกถูกใจ
กลุ่มทหารเดินขึ้นไปนั่งด้านบนสุด เด็กหนุ่มสาวเริ่มทยอยมานั่งที่พื้นสนามใครมาก่อนได้นั่งใกล้
“ตื่นตามากสหายโก คุณใช้เวลาแค่อาทิตย์เดียวทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ?” ผมตื่นเต้นมาก เขาจัดงานได้จึ้งมาก..แบบหยุดหายใจทีเดียว
“เพื่อซาจังนีมทงมู! ผมยอมไม่ได้ครับ เธอต้องการให้เป็นของรับขวัญเด็ก ๆ และเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของชาวเกาหลี” เขาพาเดินเข้าห้อง
“โอ้โห! แดนเซอร์มโหฬาร” ผมตื่นเต้นกับน้องสาวเกาหลี นักเต้นCover เต็มห้องกว่า 100 ชีวิต
เขาหันมาอมยิ้ม...
“ต้องขอบคุณสหายครูฝึกและเพื่อน ๆ จริง ๆ ที่เอาความฝันกลับมาคืนให้เด็ก ๆ พวกเขาไม่ต้องมาร้องเพลงสรรเสริญบ้าบอคอแตกอีกต่อไปแล้ว”
ภายในสนามเริ่มพร้อมแล้ว สีสันแต่ละชั้นสวยงามไปด้วยธงสะบัดพลิ้ว แถวชั้นบนสุดเป็นของพี่ทหารและถัดลงมาเป็นกลุ่มเด็กสามสี
“หนูไปทำหน้าที่ก่อนนะคะ” อีซูมินในชุดหนังรัดรูปสีดำวิ่งขึ้นไปบนเวที ทำหน้าที่ละลายพฤติกรรมกลุ่ม ไป่ไป๋เดินตรงไปหาทีมแดนเซอร์
เราเดินเข้าห้องคอนโทรล เจอพี่ชายทั้งสองกำลังสั่งงานผ่านวิทยุกันอยู่ หมวดจางเข้าไปกอดคอสามีที่สายตาจดจ่อจอมอนิเตอร์สลับปรับเปลี่ยนไปตามจุดต่าง ๆ ...
“อีซูมินขึ้นเวทีแล้ว ทุกคนเตรียมตัว” เจ็ทโด้สนุกกับการเป็นโปรดิวเซอร์สั่งการผ่านวิทยุ
“ซูมไปที่อีซูมินเร็ว เธอกำลังเดินขึ้นเวที” ซอนสั่งผ่านวิทยุ
จอภาพทั้งสี่มุมรอบสนามใหญ่ยักษ์ จับภาพอีซูมินที่เดินยิ้มเส้นผมยาวสลวยในชุดหนังดำยาวรัดรูป โบกมือทักมวลชนแล้วไปหย่อนก้นนั่งที่เปียโนหลังใหญ่มุมเวที...
“ยอลาบูน! ก่อนที่พิธีกรจะมาถึง เรามาฟังเพลงเบา ๆ ไปก่อนนะคะ ใครร้องได้ร้องตามเลยค่ะ All with you.”
“ต๊องแต๊ง!” เสียงเปียโนไล่ตัวโน๊ตอินโทรเพลงประกอบซีรี่ดังของเกาหลีใต้ Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo
หมวดจางนั่งจ้องจอ ดีดดิ้นดีใจที่เห็นน้องกำลังสะกดจิตมวลชน ซูมินได้กลับมาบ้านเกิดและแสดงความสามารถด้านดนตรีกล่อมหัวใจของพี่น้องเกาหลี ไป่ไป๋วิ่งหน้าตื่นเข้ามามองจอมอนิเตอร์...
“โอ้โห! แค่ขึ้นอินโทรเพลง หนูก็เห็น IU ทำหน้าทะเล้นกับเจ้าชายทั้ง 13 คนของเธอเลย อีซูมินเล่นเปียโนเก่งกว่าคิดเลขจริง ๆ” เธอยิ้มปลื้มมองน้องสาวบรรเลงเพลงโปรดที่ไอดอลของเธอเป็นนักแสดงนำ
ซอนนั่งติดมุมหน้าจอ หันมาชูกำปั้นให้น้อง...
“ไป่ไป๋ไฟท์ติ้ง!! Do your best!!” พวกเขาแอบทำงานลับหลัง ไม่มีใครบอกผมเลย
“หือ!” ทันใดนั้นข้างขาของซอนก็ดิ้นยุกยิก ตัวดำ ๆ อะไรวะนั่น แอบอยู่ข้างซอน...
“ไป๋ไพ้ติ้ง!! เค้าขอหอมหน่อย” น้องแทนโกนหัวเต้งเหน่งมาเลย ใส่ชุดหนังเหมือนกันแต่เป็นชุดสไปเดอร์แมน กางแขนวิ่งมาหาเธอยิ้มตาโต...
“ว้าว! ใครโกนหัวให้คะ หล่อเลย?” เธอก้มลงไปหอมหัวเหน่งน้อง
“เค้าให้อาบอจี้ทำให้ เค้าอยากทำเหมือนไป๋จะได้เป็นเพื่อนกัน” น้องแทนทำให้ทุกคนอึ้งอีกแล้ว ไป่ไป๋ก้มหน้าลงไปเอาจมูกชนกับน้องอย่างสุดรัก
“น้องแทนทำไมน่ารักอย่างนี้คะ อยากร้องไห้จังเลย”เธอดึงน้องมากอดแน่น
“ไป๋อย่าร้องนะ ม้ามองอยู่ เดี๋ยวโดนดุ” เขาแอบกระซิบ
“โอ๊ยรักจังเลย!” ไป่ไป๋กอดน้องแน่น
“ไป๋!...ดูมินสิ สวยจังเลย” เขายิ้มชี้ไปที่จอ...
“ต๊องแต๊ง! ต๊องแต๊ง!” เสียงเปียโนพลิ้วหวานดังกังวานเรียกความสนใจจากผู้ชมรอบสนามให้หันมอง
“เนกาคือ แด กยอทเทอีซ ซอซอ แฮงบก คัมนีดา” เธอเปล่งเสียงหวานออกไปสะกดทุกคนให้อยู่กับที่ จู่จู่...
“กรี๊ด…ดด!! ซูมินอนนี่! แทบัก!” เด็กสาววัยรุ่นด้านล่างตัวสั่นลุกขึ้นกรี๊ดท่ามกลางผองเพื่อน รอบสนามหัวร่อกันสนั่น
“เนกาคือ แด กยอทเทอีซ ซอซอ กูมึลกุมนีดา” เธอเข้าสู่ภวังค์ของอารมณ์เพลง หลับตาไล่นิ้วพรมไปตามแป้น ภาพตัดเป็นรีแอคของผู้ชมที่อ้าปากค้าง
สหายโกมองจอ ใบหน้ายิ้มเปี่ยมสุข...
“สาว ๆ บ้านนี้นอกจากจะเก่งแล้ว ความสวยระดับผู้ชายยอมตายเลยนะครับ โดยเฉพาะไป่ไป๋เซมสวยเหมือนตุ๊กตา” สายตาของเขาบ่งบอกว่า ปลื้มทะลุมิติ
“สำเร็จ!” แม่ใหญ่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ปลื้มปริ่มดีใจที่เห็นผู้ชมในสนามเริ่มโยกตัว ขยับปากร้องเพลงตามอีซูมิน เธอเดินโยกตามเพลงเข้าไปกอดไป่ไป๋...
“ซูมินเอาอยู่แล้ว ลูกสาวของฉันสุดยอดไม่ต้องถึงมือเธอแล้วมั้ง ยายเหน่ง?” เธอจูงมือไป่ไป๋เข้าห้องแต่งตัว
“อือ! น้องเก่งจริง” ไป่ไป๋ชมออกหน้า
ซอนตะโกนสั่งทหาร...
“เฮ้ย! คุณจับรีแอ็คของผู้ชมไว้ เอาตอนที่พวกเขาตาค้างนี่แหละ”
ภาพบนจอทั้งสี่มุมในสนาม ฉายภาพอิริยาบถในสนามแตกต่างกัน ภายในสนามคนกว่า 300,000 อัดแน่นขนัด ที่มาไม่ทันเข้าไม่ได้นั่งดูจอถ่ายทอดสดด้านนอก
ผมยิ้มปลื้มตื่นเต้นตื้นตันใจ มองภาพที่ซูมลงไปจับใบหน้าของเด็กสาวที่หลับตาร้องเพลง นิ้วมือเรียวเล็กไล่แป้นเปียโนท่วงท่างดงาม จนกระทั่งเพลงถึงท่อนฮุก ทั้งสนามลุกยืนตะโกนร้องตาม…
“เน มัมมีโบยอโซ เน ชินชีมีนือ กยอจิน ตามยอน” ทุกคนแหกปากสุดเสียงเอียงตัวพลิ้วไหวเหมือนคลื่นในแม่น้ำแทดง
“เน มัมมีโบยอโซ เนเกโอนึนกิล ชอจนึน ตามยอน” เสียงคนรุ่นใหม่กระหึ่มสนาม
“เพราะจริง ๆ เพลงเดียวอยู่เลย” เจ็ทโด้นั่งมองจอยิ้มไม่หุบ เพลงแรกจบลงอย่างประทับใจ
สนามกีฬาถูกอีซูมินสุมไฟเรียบร้อย เธอบรรเลงอินโทรเพลงต่อไป โดยยังใส่อารมณ์โยกตัวไม่ขาดตอน เสียงกรี๊ดยังดังสนั่นแม้เพลงที่เธอเล่นเป็นเพลงรัก ช้า ๆ
“I miss you” เธอบอกชื่อเพลงโดยไม่ได้ลืมตาขึ้นมา
“วู้ว วู้ว!!” เสียงวัยรุ่นกรี๊ดตอบรับดังสนั่น
“พารา โพมยอน ชากกู นุน มูรีนานึนคอน แวนจี มลราโท” เสียงร้องของเธอเศร้าสร้อยจับใจตั้งแต่โน๊ตตัวแรก ผมเคยดูซีรี่เรื่องนี้กับไป่ไป๋ ผมชอบนางเอกเรื่องนี้มาก เธอเป็นไอดอลที่ผมชื่นชอบใบหน้าของเธอคล้าย ๆ กับจูยอนของเรา
“แทนคะ!” ไป่ไป๋วิ่งเข้ามากอดข้างหลัง...
“นี่ไงเพลงประกอบซีรี่ย์ ก็อบบลิน คุณชอบคิมโกอึนไม่ใช่เหรอคะ?” เธอจ้องตาใสไปที่ภาพของน้องบนจอ ซูมินกำลังอินขั้นสุด…
“I love you.Love you.Love you. อินยอนิน กอลนือ กยอท จโย นัน And I miss you. Miss you. นาเออุน มยองงิน ซารัม” เสียงวัยรุ่นเกาหลีร้องตามสนั่น ไป่ไป๋ยืนบิดปลื้มปริ่มมองจอตาไม่กะพริบ...
“ขนลุกเลย ซูมินเก่งมากทีเดียว ร้องเพลงสะกดทุกคนตายสนิทเลย” เพลงเศร้าช้า ๆ กินใจ ทุกคนในสนามทำได้เพียงพนมมือแล้วเอียงหัวซ้ายขวาเคลิ้มตามเพลงจนจบลงอย่างประทับใจ
ซูมินลุกเดิน เยื้องย่างมากลางเวทีแล้วแหงนหน้าหมุนมองไปรอบสนาม ท่ามกลางเหล่าพี่น้องร่วมชาติของเธอ...
“เวทีวันนี้...ไม่ใช่เพลงหวาน เราจะมาแดนซ์กัน แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ขอเชิญทุกท่านพบกับเจ้าภาพและพิธีกรของงานนี้ก่อน” เธอชี้มือขึ้นฟ้า ผมคิดในใจ...อะไรอีกวะแหงนมองตามมือ
ทันใดนั้น...
“ครืด...ดด!!” หลังคาสนามฟุตบอลที่เหมือนกลีบดอกไม้ซ้อนกัน ค่อย ๆ บานออก เปิดให้เห็นฟ้าแดงใสยามเย็น
“วู้ว!!!!!” ทหารที่นั่งชั้นบนสุด ลุกขึ้นชี้มือไปบนฟ้า
จุดดำเล็ก ๆ 10 จุดดิ่งลงมาจากฟากฟ้าด้วยความเร็วสูงปล่อยควันหลากสีพวยพุ่งยาวเป็นหางว่าว
“ว้าว!!! ฟอลคอน” ผมทึ่งไปกับทุกสิ่งที่พวกเขานำเสนอ หันมองพี่ชายทั้งสองคนวิทยุสั่งการปล่อยคิวแสดงสายตาจ้องจอเขม็ง
เจ้าฟอลคอน 10 นายดิ่งลงมากระจายยืนขอบหลังคาด้านบน ด้านใต้เรียกเสียงกรี๊ดจากด้านล่าง ฟอลคอน 2 นายพุ่งตัวบินร่อนต่ำเรี่ยหัวผู้ชมด้านล่างแล้วเหินขึ้นทางด้านทิศเหนือ ม้วนตัวกลับเป็นวงกลมก่อนจะพุ่งขึ้นยืนตรงกางแขนกลางสนาม
“ฟู่ว!!!” ไอพ่นที่หลังและเท้าทำงาน พยุงตัวค่อย ๆ ลงกลางเวที
อีซูมิน ประกาศต้อนรับ...
“ยอลาบูน!...สหายอันเป็นที่รักและสหายผู้บัญชาการค่ะ!”
“ฮูย่าห์ ฮูย่าห์!!” กองทหารกระโดดตัวลอย วัยรุ่นสามสีรอบสนามลุกยืนขย่มอัฒจันทร์...
“สหายอันเป็นที่รัก! สหายผู้บัญชาการ!”
ทั้งสองสาวฟอลคอนเข้าสวมกอดกันแล้วถอดหมวกกันลม เผยให้เห็นใบหน้า นาตาลีเดินหลบไปด้านหลัง
จูยอนยืนเดี่ยว ชูมือหมุนตัวรอบสนาม...
“เด็ก ๆ คะ! ชอบแบบนี้มั้ยคะ?” ระบบเสียงเซอราวด์รอบสนาม
“กรี๊ด...ดดด!!! ” เสียงกระหึ่มแทนคำตอบ
“สหายผู้บัญชาการ! สั่งให้ฉันมาเปิดงาน อย่าช้าอยู่เลยเรามาสนุกกันเถอะ พบกับเจ้าภาพดีกว่า” เธอผายมือให้นาตาลีแล้วหลบไป
ร่างสูงเพรียวผมยาวตากลมในชุดหนังสีดำแบบเดียวกันกับอีซูมิก้าวเดินออกไปยืนคู่กันกลางเวที มือถือไมโครโฟนยิ้มมองไปที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นด้านล่าง
“กรี๊ด!!! ซาจังนีม!ซาจังนีม!ซาจังนีม!” เด็กสาวโห่ร้องเบียดเสียดกันเข้ามาใกล้เวทีดังคลื่นน้ำทะลัก
“อันยองฮาเซโยยอลาบูน นาตาลีพัคอิบนิดะ”
“วู้ว ๆ ๆ ๆ” วัยรุ่นเกาหลีเหนือหลังการล่มสลายเปิดโลกทัศน์ใหม่
นาตาลีเดินยิ้มโยกตัว โบกมือไปรอบสนาม...
“สหายวัยรุ่น! ตัวสั่นกันรึยัง ขนลุกกันรึยัง?”
“เย่!! สั่นแล้ว”
“เอาเลยมั้ย? เอาเลยมั้ย?” นาตาลีแหย่มวลชน
“เย่!!”
“เรามาแดนซ์ลืมอดีตกัน เอาให้ไขมันกระจายไปเลย” เธอผายมือตะโกนสุดเสียง...
“ยอลาบูน!...ไป่ไป๋ซอนเซงนีม!”
“วู้ว...วว!!” เสียงสดใสของวัยมันส์ดังทั่วสนาม เกาหลีเหนือถูกปลุกจากหลับใหลอีกครั้ง
เสียงกลองแต๊กรัวกระหึ่ม...
ไป่ไป๋สวมชุดคลุมยาวปิดตั้งแต่หัวเหมือนดาร์กเวเดอร์ ก้าวเดินนำด้วยท่าทางของหุ่นยนต์พร้อมกลุ่มแดนซ์โคเวอร์อีก 100 คน ออกมายืนกลางเวที คลื่นกองเชียร์กระเพื่อมรอบสนามไหวพลิ้ว
“ไป่ไป๋ซอนเซงนีม! ไป่ไป๋ซอนเซงนีม! ไป่ไป๋ซอนเซงนีม!” กองเชียร์เรดซันดังขึ้นก่อนใคร เมื่อได้เห็นคุณครูของพวกเขาปรากฎตัว
“อันยองฮาเซโยยอลาบูน ไป่ไป๋อิบนิดะ” เธอโค้งหัวลงต่ำ
“วู้ว ๆ ๆ ๆ เย่!!!”
“มาทำอะไรกันมากมายขนาดนี้” เธอเงยหน้าขึ้นแล้วเปิดฮู้ดโชว์หัวเต้งเหน่ง
“.................” ทั้งสนามอ้าปากค้างเงียบกริบ ที่เกาหลีเหนือจะหาผู้ชายผมยาวกับผู้หญิงหัวโล้นสักคนยากมาก เนื่องจากต้องตัดผมตามระเบียบที่ทางรัฐจัดให้เท่านั้น
“เฮลโล! มีคนอยู่มั้ย?”
“ไป่ไป๋เซม!ไป่ไป๋เซม!” สาวเรดซันในชุดแดงลุกพรึ่บ
ไป่ไป๋ยืนด้วยท่าทางมั่นคงและท้าทายชี้มือขึ้นไป...
“เนกาเจอิล จัลนากา!”
“เนกาเจอิล จัลนากา!” วัยรุ่นทั้งสนามตะโกนสวนกลับมา
เสียงดนตรี Backing track อินโทรเพลง I am the best @ 2N1 ดังกระหึ่มเร้าใจ ไป่ไป๋และแก๊งแดนเซอร์ตั้งท่าเตรียมพร้อม หน้าม้าทั้งสามสาวกระโดดปรบมือตามจังหวะไปรอบ ๆ เวที
“เนกาเจอิล จัลนากา” พวกเธอเริ่มปลุกระดมอีกครั้ง...
“มาสนุกกันไม่ใช่เหรอ ทุกคนลุกขึ้น! วันนี้ไม่มีเรียน!” จังหวะดนตรีเร้าใจ ทีมแดนเซอร์บนเวทีปรบมือเข้าจังหวะ หนุ่มสาวทั้งสนามลุกขึ้นยืนชูแขนสูงเหมือนต้องมนต์
“เนกาเจอิล จัลนากา”
“เนกาเจอิล จัลนากา” เสียงกระหึ่มราวหิมะถล่ม
ซอนยื่นหน้ามา...
“แทน! มันแปลว่าอะไรวะ ทำไมเด็ก ๆ ถึงกรี๊ดสุดตัวขนาดนั้น?”
“ฉันนี่แหละเจ๋งที่สุด! เนกาเจอิล จัลนากา” ผมโยกไหล่แล้วยักคิ้วให้ สายตาไปสะดุดบางอย่างในจอมอนิเตอร์
“เนกาเจอิล จัลนากา” ด้านล่างหน้าเวที...ไอ้เดอะแก๊งหัวเกรียนรูปร่างผอมสูงในชุดเหลือง กางแขนถลาร่อนไปมาหน้าเวทีเต้นโยกตูดอย่างกับตัวเองเป็นบอยแบนด์ กวนตีนได้ใจมากเต้นน่าโดนกระทืบ
“เนกาเจอิล จัลนากา” มันแหกปากเต้นไม่สนใจดนตรีเลย ซอนอมยิ้มมองลูกศิษย์ของเขา
ภาพตัดไปที่ไป่ไป๋...
“ห้ามนั่งนะคะ! เราจะมันส์กันจนเพลงสุดท้าย เอ้า! เนกาเจอิล จัลนากา” เธอนำทั้งกลุ่มแดนเซอร์บนเวทีขยับแขนขาอย่างพร้อมเพรียง
วัยรุ่นเกาหลีเหนือซ้อมเต้นเพลงพวกนี้กันมาแล้ว ถึงเวลาปล่อยของแดนซ์กันกระจาย มันเป็นภาพของแดนซ์โคเวอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ ทั้งสนามพลิ้วไปตามจังหวะดนตรี ผมก็อยู่นิ่งไม่ได้ต้องโยกตัวตามคิดถึงน้องหยกจังเลย
“The feel @Twice” ดนตรีจังหวะเร้าใจต่อเนื่อง สาวน้อยยักย้ายส่ายสะโพก นาตาลี อีซูมิน จูยอนเต้นลืมเด็กในท้องไปเลย จังหวะเพลงสนุกสนานเร้ามวลชน แฟนเพลงจิตหลุดเมามันส์เมื่อเพลงร้องไปถึงท่อนฮุก พื้นดินสั่นสะเทือน กระโดดไม่กลัวพัง…
“I got the feels for you, yeah, yeah, yeah, yeah…” แดนเซอร์ทั้งแถวเด้งเข้าจังหวะสวยงาม
“Yeah!yeah!yeah!” แม่ใหญ่กับเจ้าสไปเดอร์แมนหัวเหน่งเต้นกันกระจายหน้าจอมอนิเตอร์
“โคตรมันส์เลย!” ซอนขยับเต้นตามยิ้มปลื้มปริ่มมองจอ นักร้องกระชากผ้าคลุมออก เปิดเผยเรือนร่างขาวอมชมพูในชุดแดงรัดรูป...
“กรี๊ด!!...”
“เฮ้ย! สหายห้ามซูมหน้าอกกับเป้านะ หันกล้องไปจับภาพรีแอคชั่น เดี๋ยวนี้!” เขาสะดุ้งเฮือก ลนลานหันไปสั่งทหาร…
“กรี๊ด...ดด!!!” ฝูงชนเริ่มคลุ้มคลั่งลุกกระโดด ผมเชื่อสนิทใจว่าไม่มีใครหยุดคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้แล้ว
“yeah, yeah, yeah !!” กองทหารกระโดดโลดเต้นตามเพลง ทั้งสนามมีแต่รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะ
ไป่ไป๋เร้ามวลชนผ่านเพลงแล้วเพลงเล่า ยิ่งนานยิ่งสนุกหัวใจทุกดวงเปิดอ้ารับความสุข บนอัฒจันทร์ไม่มีใครนั่งอีกแล้วทุกคนต่างร้องตะโกนเชียร์...
“ไป่ไป๋เซม!ไป่ไป๋เซม!ไป่ไป๋เซม!” เสียงเรียกร้องดังกระหึ่ม ดนตรีเพลงต่อไปก็เริ่มตามแบบ Non-stop ...
“ Aha! Listen boy my first love story. My angle and my girl. My sunshine Ah! Ah! Let’s go.” เพลง Gee ของ Girl generation เร้าสนามดึงใจของคนเรือนแสนอยู่หมัด รอบเวทีมั่วซั่วอีลุงตุงนัง ทีมเสื้อเหลืองน่าจะแสบสุดดิ้นกันกระจาย
“Gee gee gee gee baby baby baby” ไอ้เด็กหัวเกรียนตัวผอมสูง กับเจ้าอ้วนลูกน้องของซอนดูจะกล้าบ้าบิ่นกว่าใคร กวนตีนกว่าเพื่อนเต้นได้เรียกแขกมาก
คอนเสิร์ตจากนักร้องไม่มีค่าย งัดเอาเพลงยอดนิยมจากศิลปินเกาหลีใต้มาปล่อยเต็มแม๊กซ์ Black pink ก็มา Red velvet ก็มี ขาดไม่ได้ก็ IU ขวัญใจของเธอ เสียงเพลง Hold my hand @ IU กำลังสนุก นาตาลีและเพื่อนเดินหัวเปียกเข้ามากอดเอว…
“แทนคะ!สนุกมากเลย ขอหอมหน่อย” เธอเขย่งเท้าขึ้นมาหอมแก้ม สหายโกมีทักเดินยิ้มกรุ้มกริ่มตามเข้ามา…
“นินจาเซม! ติดต่อไป่ไป๋เซมให้ผมหน่อยสิ ผมตกหลุมรักอีกแล้ว” เขายิ้มอาย
“ไม่ทันแล้ว!” นาตาลีหันไปยิ้ม เขาขมวดคิ้วหน้าเสียสายตาผิดหวัง...
“ว้า!ทำไมผมชอบใครต้องมีแฟนทุกที น่าอิจฉาแฟนของเธอนะครับ สหายรู้จักกันไหมครับ?” เขาหันมองจอ สหายโกเป็นคนมีคุณธรรม ถ้ารู้ว่ามีเจ้าของแล้วเขาจะไม่ก้าวล่วง
นาตาลียืดอกยิ้มภูมิใจแล้วชี้ไปที่จอ...
“คนนั้นเป็นฮองเฮา ฉันเป็นสนมเอกค่ะ”
“หือ!” เขาหันขวับมาจ้องหน้าเธอ…
“แล้วทำไมคนที่ผมชอบ ต้องเป็นแฟนของสหายครูฝึกทุกคนเลยจะเหมาคนสวยไว้คนเดียวเลยรึไง เหนื่อยแย่เลยนะครับ” เขางอนหน้าตึง
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ผมก็อายเหมือนกัน ไม่ได้โลภมากสักนิดแค่รักทั้งคู่
“ดูบนเวทีดีกว่า ไป่ไป๋ใกล้จะจบการแสดงแล้ว” ผมเงยหน้ามองจอปลื้มใจ เธอยืนถือไมโครโฟนเด่นสง่าอย่างกับวีรสตรี ถ้าเปรียบเทียบว่า ปืนคืออาวุธของทหาร ไมโครโฟนนั้นก็คืออาวุธของเธอที่เก็บกวาดดวงใจของทุกคนไว้รวมกัน
เธอแสดงพลังของตัวเองจนเหงื่อท่วมและจบการแสดงด้วยเพลง Dynamite @ BTS แดนเซอร์ใบหน้าเปื้อนยิ้มหายใจหอบแรง กำลังยิ้มโบกมือบอกลากับทุกคน
“ทุกคนมานี่ค่ะ!” นาตาลีปรบมือเรียก...
“พวกเราขึ้นไปสร้างความทรงจำไว้ว่า ครั้งหนึ่งเราได้ทำแบบนี้ในดินแดนต้องห้าม” เธอเดินนำ
ห้าสาวสวยเหงื่อเต็มตัวยืนเรียงหน้ากระดาน ประจันหน้ากับมวลชนมหาศาลในสนามฟุตบอล ผมสะดุดตากับเจ้าสไปเดอร์แมนตัวน้อยหัวใสเหน่งยิ้มกว้างวิ่งดุ๊กดิ๊กตามตูดมาด้วย คลื่นวัยรุ่นด้านล่างร้อนระอุเต็มที่แล้วถึงเวลาสลายม็อบ
“อังกอร์!อังกอร์! อังกอร์!!” ด้านล่างตะโกนโบกมือ
“เอาอีก! เอาอีก! เอาอีก! เอาอีก!” วัยรุ่นอารมณ์ค้างดังกึกก้อง สนามฟุตบอลอันดับ 1 ของโลกจะแตกก็เพราะคอนเสิร์ตวันนี้นี่แหละ
นาตาลีคว้าไมโครโฟน...
“สหาย! ยังไม่หนำใช่ไหม? ” เธอตะโกนลั่นสนาม
“เย่!!!” เสียงดังปานฟ้าถล่ม
“ยังสั่นอยู่ใช่มั้ย?”
“เย่!! จัดหนักเลย” พวกเขาร้องลั่นแล้วเริ่มปรบมือเชียร์เป็นจังหวะ…
“ซาจังนีมทงมู! ซาจังนีมทงมู! ซาจังนีมทงมู!”
การแสดงความรักโดยไม่ได้ถูกบังคับสื่อสารผ่านดวงตาสดใส ความรักที่ปราศจากความกลัว รักด้วยความสมัครใจเป็นอย่างนี้นี่เอง เหล่าไอดอลถึงมีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรค ฝึกซ้อมเพื่อขึ้นมายืนตรงนี้
“เอาอีกมั้ย?” นาตาลีวิ่งไปรอบเวที เธอยังมีพลังล้นเหลือ
“เย่!!!”
“สหาย! เราจะร้องเพลงชุดสุดท้ายให้ฟังนะคะ ขอเชิญสหายครูฝึกทุกท่านขึ้นมาด้านบนด้วยค่ะ”
“ซอนเซม! ซอนเซม! ซอนเซม!” เสียงเชียร์ซอนของเด็ก ๆ ดังกระหึ่มกลบเสียงทหารของผมสนิทเลย เราสามพี่น้องวิ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็วโบกมือให้บรรดาสหาย หัวใจของผมเต้นรัว ตื่นเต้นกับมวลชนจำนวนมหาศาล
เจ้าภาพพูดต่อ...
“วันนี้นินจาเซมจะร้องเพลงคู่กับไป่ไป๋เซมให้ทุกคนฟังนะคะ ดีมั้ย?”
“เย่!!!” สหายกำลังสนุก
ซอนยิ้มฟันขาวลักยิ้มบุ๋มโดดเด่น โบกมือล้อเล่นกับกลุ่มเดอะแก๊งด้านล่าง เขาถอดเสื้อยืดโยนทิ้งโชว์มัดกล้ามอย่างบ้าพลัง เจ้าสไปเดอร์แมนหัวเหน่งก็จ้องจะปล่อยใยท่าเดียว เขาคว้าไมค์เรียกสมุน ...
“เดอะแก๊ง!!!!” เท่านั้นแหละ…
“เย่!!!!” สนามแทบแตก วัยรุ่นเสื้อเหลืองดิ้นพล่านอย่างกับโดนน้ำร้อนลวก ตะโกนเสียงโห่ฮาดังขึ้นไปอีก...
“ซอนเซม! ซอนเซม!! ซอนเซม!!!”
“เดอะแก๊ง! ห้ามแพ้นะโว้ย! สนุกให้เต็มที่คิดซะว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของโลก”
“เย๋เย่!!” เหล่าเดอะแก๊งระริกระรี้ กรี๊ดสนั่น ...
“กุหลาบดินไม่มีวันตาย! กุหลาบดินไม่มีวันตาย!!!” เจ้าตัวผอมหัวเกรียนหน้าเวทีตะโกนคำขวัญของทีม ทั้งสนามขานรับ...
“กุหลาบดินไม่มีวันตาย! กุหลาบดินไม่มีวันตาย!!!” เสียงกระหึ่มก้องสนาม ผมขนลุกซู่
นาตาลีกระโดดโบกมือ...
“สหาย! เรามามันส์ด้วยกันกับ 3 เพลงสุดท้าย Senorita. Havana และ Despacito” สิ้นเสียงนาตาลี ดนตรีก็ขานรับ
“เย่!!!!” เราทั้งหมดบนเวทีเต้นกันสุดเหวี่ยง ไม่มีใครห้ามใคร ไม่มีใครมาแย่งความสุขของพวกเรา ช่วงเวลานี้จะอยู่ในความทรงจำของพวกเราไปอีกนานแสนนาน
......................................................
พวกเราจากสนามฟุตบอลกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เป็นความทรงจำที่งดงามล้ำค่าหวังว่าจะเติมเต็มหัวใจของไป่ไป๋ได้ ผมเดินตามก้นเข้าห้องเป็นคนสุดท้าย ไป่ไป๋หันมายิ้มดันผมติดประตูห้อง...
“แทนขา! ขอบคุณมากนะคะที่ทำให้ฝันของหนูเป็นจริง” เธอเข้ามาสวมกอดใบหน้าแนบอก ผมก้มสูดดมหัวเกลี้ยงเกลาเร้าความตื่นเต้นให้ตื่นตัว
“เซ็กซี่จังเลย” ผมซุกไซร้ซอกคอสูดดมกลิ่นสาวงาม ถึงแม้จะเป็นคู่รักกัน แต่ผมตื่นเต้นมากสำหรับวันนี้
“เหนื่อยจังเลย” นาตาลีเดินอ่อนระทวยหมดแรงไปทิ้งตัวนอนบนโซฟา
“อนนี่นอนไปก่อนเลยนะ” ไป่ไป๋ล็อคประตูห้องแล้วไม่พูดพล่ามทำเพลง จู่โจมจูบเร้าอารมณ์บรรเลงเพลงรัก
“แทนขาหนูจะให้รางวัล ทำให้หนูหน่อยนะ” เธออายม้วนแต่ผมว่ามันน่ารักดี
“ทำอะไร?”
“ไฟท์ติ้งฟอร์เบบี๊!”เธอมุดม้วนอาย
“อืม!ได้เลย ขอกินหน่อยนะ” หัวลูกโป่งมันน่าอร่อย ลิ้นหนาลากไปบนศีรษะโล้นลามเลียรอบหัวเหน่ง
ผมพึ่งรู้ว่าเป็นโรคจิตก็วันนี้แหละ ส่งสายตาเว้าวอนว่าผมก็ต้องการเธอเหมือนกัน ก้มลงจูบริมฝีปากชมพูระเรื่อที่เผยออยู่ต่อหน้าอย่างตะกละตะกราม แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไป่ไป๋! ไป่ไป๋ครับ!” เสียงลมหายใจหอบรุนแรงผสมผสานกัน ผลักเธอพิงประตูบดริมฝีปากไม่พักหายใจ ล้วงมือเข้าไปบีบหน้าอกอุ่น อีกมือเลื่อนลูบไล้ลงหว่างขาอูม
“แทนขา!อูยส์!!” เธอตาลอย ใบหน้าอมชมพูซ่านเสียว
“ผมต้องการคุณ” ผมกระชากเสื้อหนังตัวน้อยขาดติดมือ หน้าอกอูมทะลักออกมา ก้มหน้าลงไปงับยอดอกสีชมพูใสดูดกินอย่างหิวกระหายเหมือนคนตายอดตายอยากมาพันปี กลิ่นเหงื่อผสมฟีโรโมนเร้าอารมณ์เตลิดมือไม้สั่นอย่างกับเป็นแอลกอฮอล์ลิสซึ่ม ปลดกระดุมกางเกงเอวต่ำของเธอลงอย่างลนลาน //นี่ไม่ใช่นิสัยของผม แต่วันนี้ไม่ไหวจริง ๆ จะลงแดง//
“ซี๊ด!!แทนขา” เสียงเธอขาดหายใบหน้าเสียว
“งึมงึม!” ผมหื้ออื้อตาลายนั่งคุกเข่า ดึงกางเกงตัวจิ๋วของเธอลงมา เนินขาวเกลี้ยงง้ำนูนโหนกไร้ชุดชั้นใน หน้ามืดตามัวพุ่งใบหน้าเข้าหาทันที หมายจะกินให้หนำใจ
ทันใดนั้นเอง...
“แชร๊ง!” กรรไกรเงาวับเสียบเข้ามาเฉี่ยวปลายจมูกไปนิดเดียว
“ชะอึ๋ย!” ผมสะดุ้งเฮือก ค่อย ๆ เหลือบตาเงยหน้าขึ้นไปมอง นาตาลียิ้มสยองจ้องสายตาดุ
“แหะ! แหะ!” ผมตาค้างหำฝ่อลงทันที
“โกนหัวให้ฉันด้วยสิ คุณ Hot มากอยากได้อย่างนี้มั่ง”
“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!” พวกเราหัวเราะกันกระจาย ใจหายหมดเลย
หมดงานรื่นเริงแล้ว ต่อไปเป็นเรื่องการสร้างชาติงานยากที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน ทุกคนกลับไปเข้าที่ประจำตำแหน่งของตน การเดินทางของพวกเราอาจจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า
……………….………………………….หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |