The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 9 ตอนที่ 13

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 9 ตอนที่ 13
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 9
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 9 พ.ย. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


เกาหลีเหนือ อันซอง เมืองชายแดนตะวันออก

กรกฏาคม ค.ศ.2026

มุมมองสายตา จาง แอนนา

ภายในห้องสื่อสาร เจ็ทโด้อุ้มน้องแทนมาส่งให้แล้วนั่งลงข้าง ๆ รอ จูยอนไปเข้าห้องน้ำ คนท้องมักจะเข้าห้องน้ำบ่อยเป็นเรื่องปรกติ

“แอนนาสมัยที่คุณทำงานกับนายพลห่าว คุณทราบแผนของพวกเขามั้ย?”

“ฉันไม่ทราบเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ในตอนนั้นฉันหวังแค่เพียงจะมีชื่อเสียงแล้วก็ได้เงินมาก ๆ แต่ฉันรู้ว่าสิ่งที่หวังฉวนทำนั้นรัฐบาลจีนไม่เกี่ยวข้องด้วย”

“แต่รัฐจีนก็ต้องการยึดโลกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ค่ะ! จีนทะเยอทะยานอย่างนั้นมาตลอด จากที่ฉันสังเกตความเคลื่อนไหวในการรุกคืบเข้าไปในแต่ละประเทศ พวกเขาจะเข้าไปจับผู้มีอำนาจก่อน”

“เอาอะไรไปจับครับ”

“เงินกู้และความคุ้มครองค่ะ!

“ยังไงครับ?”

“ประเทศที่เป็นเผด็จการเต็มรูปแบบหรือเผด็จการซ่อนที่รูปในระบอบต่าง ๆ มีความกลัวโลกเสรีอย่างอเมริกาและยุโรปค่ะ หัวโจกของมันต้องการอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการควบคุมทรัพยากรและปิดปากประชาชน พวกนี้มักมีปัญหากับการประท้วงต่อต้านภายในและมักแก้ปัญหาโดยการใช้กำลังเข้าปราบปราม เหตุการณ์แบบนั้นมันโดนประจานไปทั่วโลกค่ะ หัวโจกของมันจึงไม่กล้ามองหน้าใครในเวทีโลกเพราะอายที่โดนประณาม โดนตัดสิทธิ์ทางการค้าและไม่มีที่ยืนในสังคมโลก” ฉันพยายามสื่อสารให้กระชับกับเรื่องซับซ้อน

“ครับ! ผมเคยเห็นภาพที่หัวโจกเหล่านั้นไปขอจับมือกับผู้นำโลกเสรี แต่โดนปฎิเสธจนต้องนั่งจ๋องไม่กล้าลุกจากเก้าอี้ ผมพอเข้าใจ!” เจ็ทโด้ผู้ไม่ชอบการเมืองเข้าใจในสิ่งที่ฉันสื่อ ง่ายต่อการคุยต่อ...

“สิ่งที่ตามมาคือ โลกเสรีบอยคอตสินค้าทำให้เกิดปัญหาทางการเงินภายในประเทศ โอกาสของจีนอยู่ตรงนี้ค่ะ! เมื่อรัฐยังคงดื้อรั้นที่จะฆ่าคนตามอำเภอใจมันก็จำเป็นต้องมีคนหนุนหลัง จีนนี่ไงคะที่เป็นศัตรูกับโลกเสรี”

“อ๋อ!แบบนี้นี่เอง”

“จีนจะจับหัวโจกของประเทศด้วยการให้ความคุ้มครองและให้เงินกู้ โดยขอแลกเปลี่ยนกับการถือครองสิทธิ์ในที่ดินแล้วส่งทีมธุรกิจใหญ่เข้าไปทำลายธุรกิจท้องถิ่นด้วยสินค้าราคาถูก ในขณะเดียวกันก็เป็นโล่ห์ให้กับหัวโจกไปด้วย ไอ้หัวโจกก็ชอบใจเพราะพวกเขาไม่ต้องง้อโลกเสรี ชูคอได้เฉพาะในกลุ่มเผด็จการเดียวกันที่พังกันไปทั้งเอเชียรัฐจีนก็ใช้วิธีนี้ ที่แอฟริกาก็เป็นมณฑลใหม่ของจีนด้วยวิธีนี้เช่นกัน”

“ก็พังหมดล่ะสิแล้วมันยอมเหรอ?”

“พวกนั้นไม่ใช่จูยอนนี่คะ พวกเขาไม่มีจิตใจของผู้นำหรอกแค่มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าเท่านั้นเอง การเอาตัวรอดจึงเป็นงานหลักของคนพวกนี้ มันแอบอยู่ตรงไหนก็ได้ขอให้มันได้เสวยสุขเถอะ มันไม่สนอะไรหรอก”

“อ่ะ! ผมจะถือว่าผู้นำจีนไม่ได้ทำอะไรผิด มันเป็นเกมของคนที่ฉลาดกว่า ไอ้พวกนั้นมันโลภและต้องการสืบทอดอำนาจ แต่ทำไมหวังฉวนถึงไม่รอไปพร้อมกับผู้นำคนเดิม มันทำแบบนี้ทำไม?”

“ฉันเด็กเกินไปเข้าไม่ถึงความคิดของมัน คนที่รู้ดีก็น่าจะเป็นท่านนายพลห่าวอู๋ค่ะ แต่ถ้าให้เดาก็คงไม่ยาก” มันก็เพราะโลภมากอยากได้เกียรติยศ อยากได้รับการบันทึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์

จูยอนกุมท้องหยุดยืนฟังเรากันอยู่หน้าห้องน้ำขยับเดินเข้ามา เจ็ทโด้รีบลุกเข้าไปประคอง ชื่นใจจังที่ผู้ชายตัวโตคอยปรนนิบัติภรรยาตอนท้องใหญ่ ช่วงนี้ของผู้หญิงลำบากสุด ๆ และต้องการการเอาใจใส่จากสามีมากที่สุด...

“พร้อมมั้ยครับ?”เขาถามอ่อนโยน

“เย่!” เธอหยิบวิทยุเจรจา...

“ว่ามาเลยท่านนายพล ทำอย่างนี้ต้องการอะไร?” จูยอนนักเลงใส่ก่อนเลย

“ผมแค่ทักทาย”

“งั้น! ทหารของฉันก็ทักทายกลับเหมือนกัน”

“แต่คุณตอบโต้รุนแรงไปหรือเปล่า? ทำไมต้องไล่ทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านชายแดนของผมทั้งแถบเลย คุณสอยเครื่องบินรบของผมไปตั้ง 7 ลำ ทำลายโรงงานผลิตไฟฟ้าด้วย”เขาไม่ได้สำนึกผิดเลย ฉันคิดในใจ...ไอ้หน้าด้าน ถ้ามึงไม่รุกเข้ามาใครจะไปยิงเครื่องบินของมึงได้วะ

“นั่นแค่คำเตือน! ฉันไม่ล้อเล่นกับพวกคุณจะให้เข้าไปถึงปักกิ่งเลยมั้ย คุณเริ่มก่อนนะเจ้านายคุณรู้หรือยัง?”

“ผมจะขอเจรจาหยุดยิงและนัดเจอกันหน่อย กินน้ำชากัน”

“เชอะ! ทำไมฉันต้องไป ฉันไม่จำเป็นต้องคุยกับคุณ ข้ามขั้นตอนไปหรือเปล่า?”

“อย่าใจร้ายสิครับ ผมแค่อยากเจอกับเจ็ทโด้ ถ้าผมไม่ทำอย่างนี้ ผมจะติดต่อคุณได้ยังไง เอามั้ยแลกกัน...ผมจะสั่งให้ทหารทุกหน่วยกลับเข้าค่ายฯ?”

จูยอนขยับจะตอบ แต่เจ็ทโด้แตะไหล่แล้วพยักหน้า

“ได้! ถ้าคุณสั่งหยุด ฉันก็จะหยุดด้วย”

“โอ้วจูยอน! ใจนักเลงมาก คุณน่ากลัวอย่างที่ประธานาธิบดีของผมบอกไว้จริง ๆ อีก 15 วันผมจะติดต่อกลับมาเพื่อนัดสถานที่ให้เจ็ทโด้เตรียมตัวไว้ให้พร้อมเราจะสู้กันอย่างลูกผู้ชาย ตกลงตามนี้นะครับ” ซีชานพูดเหมือนกับออกคำสั่ง ไม่มีทางที่เธอจะยอมแน่

จูยอนสูดลมหายใจลึก...

“คุณเห็นพวกฉันเป็นตัวตลกเหรอ คิดจะทำยังไงก็ได้เหรอ? อย่าบีบกันนะคะ ถ้าคุณทำอีกครั้งเดียวปักกิ่งเป็นสุสานแน่” น้ำเสียงเข้มมาก

“ใจเย็นครับใจเย็น ๆ เราคุยกันแบบเพื่อนบ้านดีกว่า ผมจะติดต่อกลับมานะครับ ฝากบอกกับเจ็ทโด้ด้วยว่าผมขอต่อสู้กับเขาตัวต่อตัวอย่างลูกผู้ชาย ผมขอไปสั่งให้ทหารหยุดยิงก่อน”

“ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ ไหน ๆ ก็แอบติดต่อมาแล้ว เรามาคุยกันต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน”

“หือ!” เสียงทหารจีนแปลกใจ เจ็ทโด้กับฉันหันมองหน้ากันทันที

“หรือคุณไม่อยากคุยกับฉันก็ตามใจ งั้นจบแค่นี้!” จูยอนเชิงสูงเรื่องต่อรองอยู่แล้ว

“คุยสิ! ผมอยากคุยกับพวกคุณ ผมสนใจ”

“คุณไม่มีเรื่องอื่นจะถามฉันเหรอ?”จู่ ๆ เธอถามอะไรออกไป

“เรื่องอะไรครับ?” อย่าว่าแต่ซีชานงงเลย ฉันกับเจ็ทโด้ก็งง

“ไม่มีจริง ๆ เหรอ?” จูยอนขมวดคิ้วจนหน้ายุ่ง เธอต้องการจะสื่ออะไรนะ

“ไม่มีครับ”

จูยอนถอนหายใจเบา ๆแล้วถามใหม่...

“คุณครองโลกด้วยวิธีนี้มันคุ้มค่ากับการลงทุนเหรอ ฉันมองว่าไม่คุ้มเพราะคุณต้องเสียทรัพยากรในการปรับปรุงเยอะเกินไป”

“ผมไม่ได้เป็นคนต้องปรับปรุงหรือซ่อมสร้างนี่นา เดี๋ยวพวกนักธุรกิจการเมืองที่เกาะกินอยู่มันก็ออกไปสร้างอาณาจักรให้เราเอง เราแค่ตามไปขี่คอพวกมันทีหลัง ยังไงอำนาจก็อยู่กับเราจะทำยังไงกับพวกมันก็ได้” ซีชานตอบมาอย่างนี้เหมือนเปิดโลกใหม่ ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าเขาสร้างอาณาจักรกันอย่างไรและทำไมนายทุนถึงไม่ชอบทหาร

“อ๋า! อย่างนี้นี่เอง ถึงว่าสิ! ทหารนอกจากไม่สนับสนุนเอกชนแล้วยังรอคอยโอกาสอย่างใจเย็น ถ้าพวกเขาประสบความสำเร็จก็ออกกฎหมายเข้าไปควบคุม ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันเข้าใจจิตใจของพวกผู้นำมากขึ้น” เธอก็คงพึ่งจะเข้าใจเหมือนกัน ความโกงซับซ้อนอย่างนั้นไม่มีอยู่ในหัวของจูยอนแน่นอน

“จูยอนขอโทษนะ คุณเป็นคนเก่งก็จริงแต่ก็ยังเด็กไม่เข้าใจเกมยึดโลกของผู้ใหญ่หรอก ทาสไม่มีวันเข้าใจผู้ปกครอง ความแตกต่างไม่ใช่ความสวยงามแต่มันคือปัญหา ถ้าโลกนี้ปกครองโดยคนกลุ่มเดียวกัน ปัญหาจะหมดไป” โอ้โห!เขาตอบแบบนี้ฉันอยากให้แทนมานั่งฟังด้วยจังเลย สิ่งที่เขาคิดกับสิ่งที่ซีชานคิดสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

“เผด็จการพูดไม่สะดุดปากเลยนะคะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่คือเหตุผลที่เราไม่กำจัดคนเลวคนโกง เพราะมันเก่งในทางของมัน พอมันรวยเราก็บีบเอาเงินจากมันด้วยอำนาจ”

“ได้ทั้งโลกแล้วยังจะมายุ่งกับเกาหลีอีก น่าจะพอได้แล้วนะ”

“เวลาที่ใบหน้าขาวเนียนของเรามีสิว เราก็ต้องกำจัดเพื่อจะได้ไม่มีสิ่งแตกต่างรำคาญลูกตา จุดเล็ก ๆ จุดเดียวก็ทำให้หมดหล่อได้ ”ตอบกวนตีนซะด้วย

“ไม่คุยด้วยแล้ว แค่นี้นะ!” เธอจบแบบไม่ให้เกียรติ

“เดี๋ยวครับ!ผมลืมไปผมยังอยากได้ตัวนาตาลีนะครับ ถ้าคุณเอานาตาลีมาแลกก็น่าจะยุติเรื่องราวได้นะ ลองคิดดูดี ๆ”  การสนทนายุติสงคราม 7 วันจบลงอย่างคาใจ

ฉันเครียดหัวคันยิบหันมองหน้าจูยอน...

“แล้วจะเอายังไงต่อคะ?” ถ้ามันไม่เอ่ยชื่อนาตาลีฉันก็ไม่เดือดร้อนอะไร

“ยังไงเราก็ต้องอยู่ในเกมของมัน หนึ่งในเทคนิคการปกครองคือสร้างศัตรูขึ้นมา เราโดนบังคับให้รับบทบาทนั้น”

“ไอ้นี่มันขี้โกง มันไม่ซื่อหรอก” ฉันไม่เคยเชื่อใจเขาเลย ซีชานแสดงออกเหมือนลูกผู้ชาย... แต่มันไม่ใช่

“แค่พูดด้วยก็รู้ถึงใส้ติ่งมันแล้ว มันไม่ห่วงเจ้านายสักนิด ฉันอุตส่าห์ถามย้ำตั้งสองครั้งว่ามีอะไรจะถามหรือเปล่า? พวกเรากลับบ้านไปเตรียมการดีกว่า” เธอไม่แสดงสีหน้ายกวิทยุ...

“จองอัก!

“เย่!

“ถอนทหารชุดเดิมกลับค่ายเปลี่ยนชุดใหม่เข้าไปแทน ส่งทหารไปลาดตระเวนด้วย ถ้าเจอก็อย่าปรานีตอบโต้พวกมันอย่างหนัก”

“เย่!

เธอหันไปหาเจ็ทโด้...

“ยอโบ้ว! ยังไหวมั้ย ไปต่อยกับมันมั้ย?” เธอพูดเหมือนเป็นเรื่องสนุกไปซะแล้ว

“เดี๋ยวกลับไปฟิตสักหน่อย ไอ้บ้านี่มาท้าต่อยตอนแก่” ผัวก็พอกันลุกขึ้นชกลมซะงั้น ไม่ทุกข์ร้อนสนุกไปด้วย

ลูกชายนั่งตักของฉันหันมองหน้าทั้งคู่คุยกัน...

“อะป้า!...ลีบอกว่าต่อยกันเป็นคนไม่ดี”

“ห่ะ!...” เจ็ทโด้หน้าเหวอนั่งลงทันที ทุกคนเงียบกริบ

จูยอนยื่นหน้ามาหาน้อง...

“ออมม่าคิดไม่ออกต้องทำอย่างไรครับ บอกหน่อยสิ?”

“คาวีพาวีโพ! น้องยกมือกำหมัดขวา

“ฮ้า! จูยอนถูกใจเด้งดึ๋ง /ส่วนฉันกับเจ็ทโด้หันมองตากันปริบ ๆ อะไรวะคาวีพาวีโพ?/

“งั้นน้องแทนมาสู้กับออมม่าก่อน” เธอยิ้มร่ากำหมัดเขย่าในท่าเดียวกับน้อง

“เอานะ! ไคไผ่โพ้! ทั้งสองออกกรรไกรเหมือนกัน เป่ายิ้งฉุบนี่เอง

“ไคไผ่โพ้” ออกกระดาษเหมือนกัน

“ไคไผ่โพ้! เค้าชนะ!น้องแทนชนะเป่ายิ้งฉุบ เจ็ทโด้หัวเราะร่าพรวดเข้ามาอุ้มน้องยกสูง...

“ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่ไงสิ่งที่ผมต้องการ จินตนาการของเด็กรุ่นใหม่”

“อะไรเหรอคะ?” จูยอนหัวเราะชอบใจ

“ความคิดนอกกรอบแบบนี้แหละ มันทำให้ผมยิ่งเชื่อว่าเด็กปกครองประเทศได้ ถึงทางออกที่น้องคิดจะไม่ใช่ในความหมายของผู้ใหญ่วันนี้ แต่ก็ถือว่าเขาก็มีวิธีคิดที่จะหาทางออกอย่างสันติ” เขาพูดถึงแผนการปกครองเกาหลีที่เราเคยคุยกันไว้

“จะเริ่มเมื่อไหร่คะ?” ฉันเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาต้องการมากขึ้นแล้ว

“รอให้เดอะแก๊งรุ่นที่ 1ของเราอายุครบ 18 ปีก่อน ฉันจะจัดให้มีการเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่นทั้งประเทศ ตอนนี้ปล่อยให้เด็ก ๆได้เฉิดฉายกันไปก่อน คนที่มีบทบาทผู้นำเข้าไปช่วยชาวบ้านมากที่สุดจะได้รับเลือกในวันข้างหน้า” จูยอนหัวเราะร่วน แล้วยกวิทยุ...

“จูยอนเรียกฐาน!

“เย่! โก! มี! ทัก!” เสียงใสมาเลย เจ็ทโด้ร้อง“ฮ้า!

ฉันก้มหน้าอมยิ้มที่ได้ยินเสียงของเขา คิดในใจก็สมน้ำหน้าที่พานาตาลีไปไกลตา จูยอนเองก็ปิดปากขำ...

“อันยองฮาเซโยหายใจสะดวกหรือยัง นัมดงเเซง?” เธอล้อน้องชาย

“เย่!! ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!

“สหายเปิดรับทหารอาสาเข้ามาฝึกอีกนะคะ เตรียมรับสงคราม แค่นี้แหละคะ”

“เย่!

เจ็ทโด้หน้านิ่วเข้าไปเกาะไหล่สองข้างของเมีย...

“คุณสั่งขังสหายโกทำไมอายคนไปทั้งประเทศ?” น้ำเสียงของเขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอ

“ก็เขาดื้อไปส่งนาตาลี” จูยอนดื้อตาใสเลย

“ก็นาตาลีเป็นเจ้านายของเขา คุณต้องสั่งขังนาตาลีสิ ยายตัวป่วนนั่นจะได้เลิกดื้อ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! คุณลองสั่งขังสิ ฉันว่านาตาลีหนีไปดวงจันทร์เลยล่ะ” ฉันหัวเราะลั่น

เจ้าตัวเล็กตาโต...

“หูย!!! เค้าอยากไปดวงจันทร์กับลี กลับไปหาลีกันเหอะลีได้ไปไกล ๆ ด้วย” น้องครวญคราง ฉันดึงมากอด...

“รอก่อนนะเดี๋ยวม้าพาไปเอง กลับกันเถอะค่ะคิดถึงซอนเหมือนกัน”

“คิดถุงป๊าด้วย”

เจ็ทโด้หันมา...

“ช่วงหลังทำไมเจ้าซอนกับเด็กของมันเงียบจัง มันทำอะไรกันเหรอตอนนี้?”

“ฉันไม่รู้เลย เขาไม่บอกหรอกว่าจะทำอะไร?” ฉันส่ายหน้า จูยอนยกมือ...

“ฉันรู้ค่ะ! พวกเขาเข้าสู่ขั้นตอนการสอบ กวดวิชากันในห้องเรียน ช่วงนี้เลยไม่ค่อยมีเด็กออกมาดื้อกลางถนนให้เห็น” จูยอนยิ้มกรุ้มกริ่ม

“ยังไงคะ?”

“เซอร์ไพรส์ค่ะ ไม่บอกหรอก” เธอก็เป็นซะอย่างนี้แล้วใครจะรู้วะ

“ผมก็มีเรื่องบางอย่างที่อยากจะทำให้เจ้าสองคนมันหน่อย อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะทำให้ก็ได้มีเวลาแค่ 15 วันเอง จะทันมั้ยนะ?” เจ็ทโด้เปรยแล้วกะพริบตาถี่คำนวณในใจ ฉันขยับจ้องด้วยความอยากรู้...

“เรื่องอะไรคะบอกได้มั้ย?”

“เซอร์ไพรส์ครับไม่บอกหรอก เรากลับกันดีกว่า” เจ็ทโด้หมุนตัวเดิน

“เพี๊ยะ! ฉันตีหน้าผากตัวเอง...“ผัวเมียพอกัน รู้แล้วว่าทำไมนาตาลีถึงได้ทะเลาะกับพวกคุณ”

ทันใดนั้น...

“ฐานเรียกสหายจูยอน! สหายโกเสียงสั่น

“ว่ามาค่ะ!

“ทหารจีนโจมตีญี่ปุ่น สหายผู้บัญชาการโดนตามล่าครับ”

“เฮ้ย! สหายสั่งทหารอากาศขึ้นบินเร็ว มากเท่าที่จะทำได้ไล่มันให้ได้” จูยอนร้อนรนทันที ฉันกระเด้งดึ๋ง...

“นาตาลีอย่าเป็นอะไรนะ!” ใจของฉันจะขาด ดึงลูกชายมากอด

การกดขี่รุกรานเป็นสันดานของผู้นำที่ไม่รู้จักพอ แนวคิดกำจัดผู้นำของจูยอนต้องสังเวยชีวิตลิ่วล้อขององค์กรไปด้วย อาจดูเลวร้ายใจดำ แต่ถ้าไม่ทำเช่นนั้นก็ต้องต่อสู้กันอีกยาวนานและผู้ที่รับกรรมก็เป็นชนชั้นล่างอยู่วันยังค่ำ

                                     .....................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม