The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 9 ตอนที่ 14

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 9 ตอนที่ 14
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 9
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 9 พ.ย. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


ฟุกุทสุ ญี่ปุ่น

กรกฏาคม ค.ศ.2026

มุมมองนาตาลี

“ฟ้าว!!!! จรวดจากเครื่องบินผ่านหน้าไปท้ายตลาดกระแทกกับป้ายโฆษณาอย่างจัง...

“บรึ้ม...มม!! ไฟลุกท่วม

เครื่องบินรบร่อนวนเหมือนเหยี่วมองหาเหยื่อ ปล่อยจรวดลงบนหลังคาอีกครั้ง...

“บรึ้ม!!! หลังคากระเบื้องดินเผายุบตัวลงมา ตลาดประมูลปลาสั่นสะเทือนเปลวไฟลุกไหม้

รถยนต์ชนฝาไม้ระแนงทะลุเข้าไปในร้านพังยับเยิน ทุกคนโดนแอร์แบ็คอัดนั่งติดอยู่ที่เก้าอี้ของตัวเอง แทจุนดึงมีดสั้นเจาะถุงลมเอามือกวาดเศษกระจกที่หน้าปัดรถยนต์ กลื่นเน่าเข้าจมูกคลื่นไส้จะอ้วก...

“การต้อนรับไม่ดีเลย กลิ่นต้องปรับปรุงด่วน” ฉันค่อย ๆหายใจปรับความคุ้นคิดกับกลิ่นซากศพ

“ซาจังนีม! เยวอนนูน่า! เป็นอะไรมั้ยครับ ผมขอโทษ!” แทจุนหน้าจ๋อย

กล่องสินค้าตกใส่เกะกะไปหมด ฉันตบไหล่ปลอบใจน้อง...

“สหายทำถูกแล้ว ถ้าสหายไม่ตัดสินใจพวกเราก็โดนจรวดตายไปแล้วล่ะ” โล่งอกโล่งใจเสียงเครื่องบินยังวนอยู่ด้านบน

“แกเล่นฉันซะยอกเลยนะ คังแทจุน โอย!” คิมเยวอนแยกเขี้ยวจะกินหัวเจ้าอ้วน

“ชเวซงนิดะนูน่า!” คังแทจุนโค้งศีรษะขอโทษปะหลก ๆ

“สหายบาดเจ็บหรือเปล่า? อื้อหือ!” ฉันปลดเข็มขัดหายใจไม่สะดวกกลิ่นศพเหม็นฉิวขมคอ

“ผมหิวข้าวครับ” เจ้าอ้วนส่ายหน้า...เยวอนยิ้มจิ้มหัวน้อง

“สหายน่าจะกลัวตายมั่งนะ เหม็นขนาดนี้ยังกินไหวเหรอ?”

“ออกกันเถอะครับ เดี๋ยวทหารจีนมันก็คงเข้ามาแล้ว” เขาโยกตัวออกแรงกระแทกประตูรถยนต์...

“ตึง! ตึง!

“ฝั่งนี้เปิดไม่ออกครับ มันติดชั้นวางของ” เขาหันมองเยวอน

ด้านนอกเต็มไปด้วยกล่องระเนระนาด ชั้นโชว์สินค้าพังครืนลงมา สินค้าตกกระจายเกลื่อนพื้น

“เฟี้ยว!!! เสียงกองทัพเครื่องบินรบบนท้องฟ้าดังกระหึ่ม

“ตะปีนออกหน้าต่างได้มั้ยของฉันก็เปิดไม่ได้” เยวอนบิดตัวดันประตู กระจกด้านหน้าแตกละเอียด ฉันขยับเตรียมจะตะปีนออกด้านหลังโล่งโจ้ง

ทันใดนั้นเยวอนก็ร้องสุดเสียง...

“ว้าย! อนนี่ตัวอะไรเนี่ย?” เธอปัดกล่องและชิ้นส่วนสินค้าออกจากตัว หยึยเหมือนคนขยะแขยงกิ้งกือ

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! นูน่ากลัวชิเมโจได๋ อุ๊ย! ดิ้นได้ด้วย” เจ้าอ้วนหัวร่อร่าตาหยี หยิบดิลโด้ขึ้นมาแหย่พี่สาว

“แทจุน! ฉันจะฆ่าแก เอาออกไปนะ ขยะแขยง! ยิ่งกลัวก็ยิ่งโดนแกล้ง

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ฉันกับแทจุนเจอเรื่องสนุกหัวเราะลั่นลืมตาย ช่วยกันหยิบดิลโด้สารพัดสีหลายขนาดโยนใส่อย่างสนุกสนาน

“ออกไปได้ฉันจะฆ่าทั้งสองคนเลย คอยดู้! เยวอนตาถลน ใช้สองนิ้วคีบอย่างรังเกียจโยนใส่แทจุน

“ไอ้ประเทศบ้านี่เล่นอะไรกันแปลก ๆ ทำซะเหมือนเลย” เธอเม้มปากฟึดฟัดขัดใจ ยายนี่ดุ๊กดิ๊กคล้ายไป่ไป๋เวลาโกรธแล้วน่ารัก

“คลุก! คลุก! คลุก! เสียงรองเท้าวิ่งเข้ามาไกล ๆ จากทางเข้าตลาด ฉันยกมือให้เงียบ

“..........” ความตึงเครียดกลับมาอีกครั้ง รีบสั่งให้สลายตัวก่อนจะเป็นเป้านิ่ง...

“ออกจากรถให้ได้ ปั้ลลี่!” ฉันโหนหลังคา ปีนออกด้านหลังรถยนต์

“ตึง! ตึง! เยวอนพยายามกระแทกประตูฝั่งตัวเอง ฉันรีบเข้าไปผลักโต๊ะให้ออกห่างประตู

“ฉันจะยิงกับมันสักตั้ง” เยวอนกระแทกสุดแรง

“ตึง! ผลัวะ! เธอทิ้งตัวลงไปหมอบกับพื้นแล้วคลานไปแอบข้างชั้นสินค้า ดึงปืนออกจากเอวมาขึ้นลำเตรียมยิง

“ฮึบ!ฮึบ! แทจุนพยายามดิ้นออกจากเบาะของตัวเองอย่างลำบาก พุงใหญ่ติดพวงมาลัยขยับไม่ออก

“คลุก! คลุก! คลุก! เสียงรองเท้าเดินใกล้เข้ามาทุกขณะ ฉันมุดเข้าไปช่วยดึงแขนแทจุน

“ขยับได้มั้ย?”

“ซาจังนีม ผมออกไม่ได้” เขาหน้าเสีย

“แควนจาน่า! สหายอยู่เฉย ๆ ฉันคุ้มครองสหายเอง” ฉันดึงปืนสั้นลงไปแอบข้างเยวอน ลุ้นใจเต้นแรงจ้องเขม็งไปที่ถนนหน้าร้าน

“...........” ทั้งเสียงเครื่องบินและเสียงรองเท้าเงียบหายไป สายลมพัดเศษกระดาษปลิวผ่านหน้าร้าน ป้ายธงรูปสาวกราเวียร์ปลิวไสว ตุ๊กตายางสาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้มในชุดนักเรียนกระโปรงสั้นยืนยิ้มยั่วยวน นมตู้มน่าขยำ

“คลุก! คลุก! คลุก!เสียงรองเท้าเข้ามาใกล้บีบหัวใจ...

“ตึกตึก! ตึกตึก! ตึกตึก! เสียงหัวใจประสานสอดรับกันอีกครั้ง ลมหายใจของเหยื่อติด ๆ ขัด ๆ สายตาจดจ่อกับถนน ฉันอยากอุ้มทั้งสองคนแล้วหายตัวไปจากตรงนี้จังเลย

ทันใดนั้น...ทหารก็โผล่หัวแว้บที่หน้าร้าน...

“ปัง! เยวอนรออยู่แล้ว ซัดทันที

“ย่าห์! ทหารกระโดดเหยง

“หือ! สำเนียงเกาหลีนี่นา ฉันเอื้อมมือแตะเยวอนให้หยุดแล้วตะโกนออกไป...

“สหาย!

“เย่!! ซาจังนีมอยู่ในนี้หรือเปล่า ผมมาช่วยครับเครื่องบินทหารจีนบินหนีไปแล้ว”

“เฮ่อ!! ฉันยิ้มโล่งหันไปตีมือกับเยวอน...

“สหาย พวกเราอยู่ในนี้”

“ซาจังนีม! สิ้นเสียงกลุ่มทหารเกาหลีก็กรูเข้ามาพร้อมกับความโล่งอกโล่งใจความตายผ่านไปสักที ทหารยกวิทยุเรียก...

สหายผู้กองลีจองซุก!

“เย่!

“ซาจังนีมปลอดภัยครับ กำลังเดินทางกลับ”

“ทำดีมาก! พาสหายผู้บัญชาการไปที่ลานหน้าประภาคารสีแดง”

“เย่!!

“ซาจังนีมแควนจาน่า บาดเจ็บมั้ยครับกลับบ้านกันเถอะ!” เขาเข้ามาพยุง

“แควนจานาโย ช่วยแทจุนก่อน”ฉันชี้ไปที่รถยนต์ แทจุนนั่งยิ้มสบายใจพวงมาลัยฝังในพุง

สภาพในร้านยับเยินยากจะเยียวยา ทหารมุดตัวเข้าไปในรถยนต์ช่วยกันดึงแทจุนออก...

“เข้าถูกร้านซะด้วยนะ คังแทจุน!” ทหารหนุ่มร้องแซวแล้วช่วยกัน ผลักชั้นโชว์สินค้าให้เคลื่อนตัว

“คูมับฮัมนิดะฮยองนีม” เจ้าอ้วนขอบคุณเสร็จก็วิ่งไปหาตุ๊กตายางสาวสวยแล้วยิ้มร่าถูกอกถูกใจ...

“ซาจังนีม! ผมขอตุ๊กตากลับบ้านได้มั้ยครับจะเอาไปฝากน้องสาว” เขาอุ้มตุ๊กตาท่าทางดีใจมากจนยากจะปฎิเสธ...

“ได้สิคะ! สหายทหารอยากได้อะไรก็หยิบได้อย่างที่ใจคิดเลยนะคะ ฉันอนุญาต!” ฉันพาดื้อซะเลย ทุกสิ่งอย่างที่มีในโลกนี้ล้วนต้องเรียนรู้ 

“คัมซามนิดะ! ช่วงเวลานาทีทอง...ทหารกวาดรวบหนัง AV ใส่กล่อง โปสเตอร์สาวสวยเปลือยถูกดึงลงมาม้วนเก็บอย่างทะนุถนอมราวกับว่านี่คืองานศิลปะล้ำค่าสมัยเรอเนซองส์

“หูย!..คังแทจุนคิดถึงน้องซะด้วย อำกันรึเปล่าเนี่ย?” ทหารแบกกล่องออกไปกระแทกไหล่ใส่

“ฮย๊องนีม! ผมจะเอาไปฝากน้องสาวจริง ๆ” เขาขึงขังท่าทางไม่ได้คิดเป็นอื่น

“สหายถือตุ๊กตานี่กลับไปนะ เดี๋ยวผมจะเอาตุ๊กตาปิกาจู้กับโดราเอมอนตัวใหญ่ไปแลกกับสหายที่บ้าน ตกลงมั้ยตัวนี้ผมขอ” ทหารหนุ่มต่อรอง

“ไม่เอา! ผมจะเอาตัวนี้ ซาจังนีมผมจะเอาตัวนี้” เจ้าอ้วนไม่ยอมกอดตุ๊กตาแน่นวิ่งหนี

ฉันกำลังเพลิดเพลินกับดิลโด้ ต้องขยับไปห้ามศึก...

“ไอ๊กู่! 2 ตัวแลก 1 ตัวไม่เอาจะไม่ลองถามน้องก่อนเหรอ?” ฉันถามอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจ

“นี่เป็นตุ๊กตาเด็กหญิงจะเอาไปให้น้องสาวไว้เป็นหุ่นลองเสื้อผ้า ตัวนี้แต่งหน้าไว้แล้วด้วย สวยดี!” ท่าทางของคังแทจุนใสซื่อ เขาดัดขาตุ๊กตาแล้วอุ้มเข้าเอวกะเตงถูลู่ถูกังกลับมาแสดงว่าหัวใจของเขาคิดถึงน้องสาวจริง ๆ

“ทหารหาเอาใหม่ค่ะ ลองค้นดูดี ๆ ฉันคิดว่าไม่ได้มีตัวเดียวหรอก อันนี้มันตัวโชว์” ฉันกลับไปสนใจเริงร่าท่ามกลางดิลโด้ โดยมีเยวอนยืนหน้าหงิกอยู่ข้าง ๆ...

“อนนี่โรคจิตว่ะ! ของอย่างนี้เล่นไม่ได้นะ ทหารผู้ชายก็อยู่เต็มเลยไม่อายพวกมันเหรอ?” เยวอนกระทืบเท้าขัดใจ

ฉันยักคิ้วขำในใจ...

“เออ! ฉันจะเอาไปวิจัย” ฉันจะเอาไปฝากหมวดจาง

“กลับกันเถอะครับ ผมหิวข้าว” เจ้าอ้วนเชื้อเพลิงเหลือน้อย ร้องงอแงกินข้าวมาทั้งทาง

“ทหารไปกันเถอะ! พาไปลานจอดเฮลิคอปเตอร์หน่อยค่ะ” ฉันเดินยิ้มร่าออกมาพร้อมถุงพะลุพะลัง คิมเยวอนเดินหน้าหงิกปากจู๋กระทืบเท้าตามหลัง

“อะไรก็ไม่รุ จะฟ้องนินจาเซม!

“คิดมากไปได้แค่ยางซิลิโคน พาแทจุนไปหาอะไรกินดีกว่า” ฉันหันกลับไปมองในตลาดที่เงียบร้าง ควันไฟเริ่มโหมแรง Soulless ประมาณ 20 - 30 คนเดินหลงทิศอยู่ในตลาดปลา

“เอาของมาค่ะฉันถือให้ ถ้าใครมาเห็นเข้าจะหมดความนับถือ” เยวอนกระฟัดกระเฟียดดึงถุงจากมือ


ฉันรีบเดินหนีกลิ่นออกมาจนพ้นร่มเงาของหลังคาตลาด ซึ่งก็ดีกว่าแค่โล่งเท่านั้นกลิ่นเหม็นปั่นจมูกจนแสบ รถยนต์จอดตายเกลื่อนตาบนลานกว้าง

“ซาจังนีมทงมู! ทหารเกาหลีโบกมือเรียกให้ไปขึ้นรถยนต์

“เอ๊ะ! คังแทจุนหยุดชะงัก...

“นั่นอะไรครับผมไปดูหน่อยนะ?” เจ้าอ้วนกระเตงตุ๊กตาวิ่งเข้าไปฉันชะเง้อมองตามตูดสะดุดตากับแสงสะท้อนวับวาวใต้พุ่มไม้ดัดในกระถาง

“ดูดีดีก่อนนะแทจุน” เยวอนร้องเตือนแล้วพยายามเพ่งตามองแต่ขาตุ๊กตาก็บังซะมิด

“นูน่า! ผมเจอทองคำ ผมรวยแล้ว” เจ้าอ้วนดีใจพุ่งพรวด พอได้ยินคำว่าทองขนหัวลุกซู่...

“อย่าจับ!...” ฉันร้องดังที่สุดในชีวิต เจ้าอ้วนคว้าหมับยกขึ้นชูแถมยังจะอวดบิดตูดเด้ง

“วี๊ด...ดด!!! เขาตกใจโยนทิ้งกลิ้งมาตรงหน้า

ภาพเคลื่อนไหวฮาโลแกรมของหวังฉวนในท่าทางหงุดหงิดโผล่กลางอากาศ สีหน้าเคร่งเครียดบูดเบี้ยวชี้นิ้วกราด สั่งเสียงดัง...

“ฆ่ามันให้หมดทุกคน เพื่อหลุดพ้นจากบาป”

สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดโผล่มาอีกแล้ว ช็อกหน้าชาก้าวขาไม่ออก...

Messiah! Messiah! Messiah! Messiah!ร่างกายไร้วิญญาณเดินไร้ทิศทางกลับแข็งแรงปราดเปรียว แม้สภาพร่างกายผุพังแต่ก็เคลื่อนที่เร็ว หยิบไม้หยิบมีดขึ้นมาเป็นอาวุธวิ่งเข้าใส่กันทันที

Messiah! Messiah! Messiah! Messiah!เสียงสยดสยองกระหึ่มกระจายเป็นวงกว้างล้อมรอบกลุ่มทหาร

“พรึ่บ! กลุ่มทหารเกาหลีวิ่งเข้ามาล้อมพร้อมยกปืน

“อย่ายิงค่ะ! สงสารพวกเขา หาทางหนีก็พอ”ฉันกดปลายกระบอกปืนของทหารลง

กลุ่ม Tamer 30 รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาตื่นรู้และสื่อสารกันมาตามเสียงของหวังฉวนที่ยังคงร้องกระตุ้นตลอดเวลา คลื่นมนุษย์ไร้วิญญาณหลั่งไหลมาล้อมตลาด ฉันมองนาฬิกาที่ข้อแขน...

“เที่ยงตรง!

“แกล้งตายเร็ว!” เจ้าอ้วนทิ้งตัวนอนกองเหมือนผ้าห่ม เขาทำตามที่ถูกฝึกมาอย่างดี

“ฮึบ! ฉันหิ้วคอขึ้นมา

“ไม่ทันแล้วพวกเขาเห็นเราแล้ว โยนก้อนทองคำลงไปในน้ำ เร็ว!

“ฮึบ! เจ้าอ้วนขว้าง Golden wave ลงคลองน้ำใสด้านหน้าตลาด

“เฮ้ย! แต่ภาพฮาโลแกรมของหวังฉวนกลับลอยขึ้นเหนือลำน้ำ พร้อมเสียงของเขาก้องกระจาย

ตอนนี้ทั้ง 13 ชีวิตแทบหยุดหายใจ จ้องมองฝูงชนที่กำลังเดินปรี่เข้ามา

Messiah! Messiah! Messiah! Messiah! ฆ่ามันให้หมดทุกคน เพื่อหลุดพ้นจากบาป”

ทหารหนุ่มเตรียมพร้อม

“สหายผู้บัญชาการครับ! พวกมันเข้ามาแล้ว พวกมันเป็นผีดิบไปแล้ว ขอคำสั่งครับ!

“พาฉันหนีหน่อย!” ฉันหันมองตลาดปลา เยวอนผวาหน้าตื่น...

“อนนี่! วิ่งไหวมั้ย?”

“สบายมาก! ฉันวิ่งได้ก่อนเดินอีก ชินซะแล้ว!” ฉันรู้ชะตากรรม

“ทหารกลับเข้าตลาด!”เยวอนจูงมือวิ่งกลับ

พอเข้ามาใต้หลังคาในตลาดก็ต้องชะงัก กลุ่มTamer 30 ยืนหน้าร้านเซ็กซ์ทอยพร้อมมีดทำปลาวาววับ หญิงวัยกลางคนสายตากระหายเลือดจ้องเขม็งในมือถือไม้ไผ่แหลม ชายข้างตัวถือมีดซามูไรยาวอ้าปากกราดเกรี้ยวดวงตาถมึงทึงวิ่งเข้ามา

เยวอนโยนสัมภาระทิ้งทุกอย่าง กางแขนขวางไว้...

“อนนี่ถอยไป! ว๊าก!...แค่เห็นเงามีดก็ขาอ่อนแล้ว เธอหาญกล้าวิ่งเข้าใส่อย่างไม่รีรอ

“เยวอนระวังนะ! ฉันร้องเตือนเมื่อมือซามูไรเงื้อดาบฟันใส่ เธอพลิกหลบแล้วเตะรวบขามือซามูไรหงายท้อง ผู้หญิงเงื้อไม้ไผ่เตรียมแทง

“ตรึ่ด!ตรึ่ด!...” ทหารยิงผู้หญิงแขนขาดกระเด็น เยวอนคว้าซามูไรฟันฉับก่อนที่ผู้ชายจะลุกขึ้นมา

ทหารพาวิ่งหนีเข้ามาถึงกลางตลาด Soullessเริ่มรวมตัวกันหนาตา

“แทจุนขึ้นตึกไป!” ทหารโบกมือไล่แล้วตั้งแถวปิดหน้าประตู

“ตามผมมาครับ!” แทจุนหันมาดึงมือเข้าไปในร้าน กลิ่นฉุนคูณสองเขียงปลาแห้งเกระกรังกะละมังปลาเน่าหนอนยั้วเยี้ย

“ตึงตึงตึง! เราวิ่งต่อขึ้นบันไดไปชั้นบนสุด ฉันยกวิทยุขอความช่วยเหลือ...

“ลีจองซุก! ฉันโดนพวกเลื่อนลอยโจมตี”

“ทหารกำลังเข้าไปช่วย หลบในที่ปลอดภัยก่อนนะครับ”

“พวกมันมามากเหลือเกิน แต่สหายอย่ายิงนะ” ฉันกำชับ

“เอ่อ!...แล้วผมจะต้องทำยังไง?” เขาเสียงอ่อยคงไม่อยากยิงเหมือนกัน ฉันรีบให้เกียรติในการตัดสินใจ...

“แล้วแต่...สหายจัดการได้เต็มที่ แต่อย่ายิงนะ!

“รอหน่อยนะครับให้ฐานตัดสินใจก็แล้วกัน” เขาไม่อยากยิงจริงด้วยโยนไปให้คนอื่นแล้ว

“รีบ ๆ มาช่วยฉันด้วยนะ อย่าสั่งยิงนะถ้าไม่จำเป็น”

เขาอึกอักก่อนจะตอบ...“เย่! แฮะแฮะ!” เสียงเหมือนโล่งใจ ฉันลงไปชะโงกมองด้านล่าง

กลุ่ม Tamer 30 พร้อมอาวุธครบมือรุมล้อมเข้ามา ทหารหนุ่มทั้ง 10 นายตรึงกำลังหน้าร้าน

“สหายคิดว่า มันกำลังจะทำอะไร?” หัวหน้าทีมถามเพื่อน

“มันคุยกันรู้เรื่องซะด้วยสิ ท่าทางเหมือนจะเข้าโจมตีเรานะครับ สยองจัง!” ชายอกสามศอกยังหลอนกับกองทัพปีศาจ

“ถ้ามันเดินเข้ามาสหายยิงเลยนะ” หัวหน้าทีมขัดคำสั่ง ฉันชักฉิว

“แต่ซาจังนีมสั่งห้ามไว้” ยังดีที่มีคนเชื่อ แต่หัวหน้าทีมยกมือห้าม...

“เราจำเป็นต้องปกป้องชีวิตของเธอ ถ้าพวกมันมาถึงหน้าร้านยิงเลยนะ ผมรับผิดชอบเอง!” เขายังยืนยันคำเดิม ฉันรู้สึกโกรธไม่ชอบใจที่พวกเขาขัดคำสั่งสะบัดหน้าเดินงอนกลับขึ้นไปนั่งอึดอัดข้างเจ้าอ้วน...

“แทจุน! กินปลาเค็มไหวมั้ยยังหิวหรือเปล่า?” เยวอนไปรื้อปลาเค็มตากแห้งมาส่งให้น้อง /จะบ้ารึไงใครจะกินได้ ฉันเห็นแล้วหงุดหงิดไปหมด/

“หายหิวแล้วครับ ไอ้พวกนี้ดุร้ายกว่าที่บ้านของเราอีก” เจ้าอ้วนหน้าตื่นกอดตุ๊กตาแน่น พวกเขารู้จักแต่พวกเลื่อนลอยที่ไม่มีพิษภัย

“ฉันก็กลัว! ซ่อนตัวเงียบ ๆ นะ”ฉันพลิกข้อมือดูเวลาแล้วต้องสะดุ้งสุดตัว

“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!!ทหารด้านล่างยิงปืน

“พวกมันบุกแล้ว! เยวอนลุกไปมองที่บันได ฉันเมินหน้าแค้นใจที่ไม่ฟังคำสั่งกันบ้างเลย...งอน

“เพล้ง! กระจกหน้าต่างด้านหลังแตก เงาวูบเข้ามาล็อกคอหายใจไม่ออกไม่รู้จะร้องขอให้ใครช่วย

“โอ๊ย! ยาเม๊ะ ยาเม๊ะเต๊ะ คูดาไซ! ร้องห้ามเป็นภาษาญี่ปุ่นนี่แหละแกะมือดิ้นหนีขนหัวลุกซู่กลัวขีด กลิ่นก็เหม็นใบหน้าก็เละขยะแขยง

“อาโน่! ตายเพื่อหลุดจากบาปซะ! เขานั่งคร่อมบีบคอกดฉันลงกับพื้น

“ยาเม๊ะ! ฉันใจจะขาดดิ้นสุดชีวิต ถีบก็ไม่หลุดดึงก็ไม่ล้ม

“อนนี่! อยู่นิ่ง ๆสิ! เยวอนส่ายปืน

“เฮ้ย! แทจุนทิ้งตุ๊กตาพุ่งเข้ามา...

“ปล่อยซาจังนีม เดี๋ยวนี้!เขาล็อกคอปล้ำสู้อย่างกล้าหาญ

“เพล้ง! Messiah! Messiah! Messiah!คลื่นปีศาจลูกที่ 2 โผล่หัวมาจากหน้าต่างด้านหลัง ควันไฟและกลิ่นไหม้เริ่มเข้าปกคลุมหายใจไม่สะดวก ในขณะที่กลุ่มนี้เอาบันไดมาพาดหน้าต่างปีนขึ้นหลังบ้าน อีกกลุ่มวิ่งไปหิ้วแกลลอนจากรถบรรทุกเข้ามาราดอาคารเตรียมสุมไฟย่างสด

“ทำไมมันฉลาดอย่างนี้ล่ะ?เยวอนหน้าเสีย ฉันรู้สึกว่าความตายเข้ามาใกล้มากไปแล้ว การหลบซ่อนไม่อาจหยุดยั้งการรุกคืบของเหล่าปีศาจ...

“เยวอนยิงแม่งเลย!” ฉันทั้งกลัวตายและเป็นห่วงทุกคน

ปัง! ปัง! ปัง! เยวอนยิงสวนแล้ววิ่งไปชะโงกหน้า กระหน่ำยิงใส่พวกปีนบันได

ฉันกลัวจนตัวสั่นหันไปเห็นแทจุนกดคอผีดิบ เขาหนุ่มกว่าแรงมากกว่ากดคอเจ้าผีดิบที่นอนจ้องหน้าอาฆาตแค้น ฉันดึงปืนขึ้นมาตัดสินใจเด้ดขาด ถ้าก้าวข้ามความกลัวนี้ไปไม่ได้ก็ต้องเป็นอย่างนี้ตลอดไป ฉันไม่อยากเป็นอย่างนี้...

“ไปสู่สุขคติเถอะนะ”...

“ปัง! ฉันก้าวข้ามความกลัวมาได้อีกขั้นดึงแทจุนออกมา เดินไปชะโงกมองนอกหน้าต่างคู่กับเยวอน

“เยวอนมันขึ้นมาตรึมเลย จะหนียังไง?” ฉันอาการไม่มั่นคงความกลัวเข้าทุกรูขุมขน

“ไม่มีทางหนีแล้วค่ะ!

“งั้นยิงมันเลย!

“ปัง!ปัง!ปัง! เราสองคนช่วยกันยิงใส่คนที่กำลังปีนขึ้นมา แทจุนวิ่งเข้าไปผลักบันไดให้ล้มลง

ฉันต้องหยุดยั้งการรุกคืบและรักษาชีวิตทหาร เดินกลับไปมองดูทหารที่ชั้นล่างพวกเขาหันหลังพิงกำแพงรอจังหวะ...

“ทหาร! ยิงเลย!” ฉันตะโกนลงไป

“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด! ทหารซัดทันที

“ปัง!ปัง!ปัง! ฉันกลับมาช่วยเยวอนยิง ปริมาณผีดิบมหาศาลกับลูกปืนน้อยนิดไม่นานลูกปืนของพวกเราก็หมด

“แชะ!แชะ! ฉันคิดไม่ออกว่าจะหนีออกจากตรงนี้ไปได้ยังไง ใครก็ได้มารับฉันหน่อย หยิบวิทยุขึ้นมามองอย่างชั่งใจจะเรียกแทนก็ไม่กล้าเรียกทหารดีกว่า...

“สหายลีจองซุก!

“เย่!ลี!จอง!ซุก!” เสียงเขาอยู่บนเฮลิคอปเตอร์

“มาถึงไหนแล้ว ฉันจะตายแล้วนะ?” ฉันโวยใส่ก่อนเลย

“สหายอยู่ตรงไหนผมมองไม่เห็นเลย พวกมันล้อมตลาดไว้สหายอยู่ในตลาดเหรอ?”

“ใช่! ฉันอยู่ในตลาดนี่แหละ” หงุดหงิดมากถามมาได้ยังไง?

“ผมยิงมันได้มั้ยครับ?” ยังจะมีหน้ามาถามอีก ฉันตวาดแว่ด...

“สหายจะรออะไร ยิงแม่งให้หมดเลยเร็ว ๆ ฉันกลัว!

“สักครู่ครับ!

“3 นาที สหายต้องมาถึงฉันนะ!

“ซาจังนีมมีประตูครับ!” แทจุนวิ่งไปชี้ประตูบนเพดานมุมด้านใน

“ตึง! เสียงประตูด้านล่างปิดกระแทก กลุ่มทหารวิ่งกรูขึ้นมาอัดกันข้างบน จะเอาไงต่อล่ะทีนี้?

“มันมากันเยอะมากลูกปืนไม่พอยิงแล้วครับ” หัวหน้าทีมหมุนมองไปรอบห้องแล้วชะงักที่แทจุน...

“นั่นห้องใต้หลังคานี่ ตามผมมาครับ!” เขาสติดีกว่าคว้าข้อมือพาฉันวิ่งขึ้นบันไดเล็ก ประตูขึ้นห้องใต้หลังคาเป็นแบบปิดทับเหมือนบ้านนินจาต้องดันจากข้างล่างขึ้นไป

“ฮึบ! หัวหน้าทีมผู้กล้าหาญยืนยกบานประตูหนักให้ทุกคนวิ่งผ่านขึ้นไปด้านบน...

“ปั้ลลี่ปั้ลลี่! หนักมาก” เขากัดกรามแบกน้ำหนักบานประตูที่กดจนมือของเขาสั่นเกร็ง

Messiah!Messiah!Messiah!Messiah!ในจังหวะนั้นกลุ่ม Tamer 30 ก็วิ่งกรูขึ้นมา

“นูน่าขึ้นไปก่อน! เจ้าอ้วนดันหลังเยวอน

“สหายขึ้นไป! ขึ้นไป!ปั้ลลี่ปั้ลลี่! หัวหน้าทีมไล่เพื่อนทั้งที่ตัวเองตกอยู่ในอันตราย พวกเราช่วยกันดึงมือเพื่อนขึ้นมาเกือบหมดเหลืออีก 2 นายหันไปซัดปืนใส่ Tamer 30 ยับยั้งการรุกคืบ

หัวหน้าทีมมือสั่นระริกร้องบอกเพื่อน...

“สหายขึ้นไป!

“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด! ทหารยิงแล้วถอยขึ้นบันได

“พันจังนีมเปลี่ยนกันครับ!

“สหายขึ้นไปก่อนไม่ต้องห่วงผม ไปอารักขาซาจังนีม! เขาร้องไล่ ทหารทั้งสองให้วิ่งลอดแขนขึ้นไป

ทันใดนั้น...

“อุ่บ! ดาบซามูไรพุ่งเสียบเข้าที่ท้อง

“เฮ้ย! พันจังนีม!ทุกคนร้องพร้อมกัน เขาทิ้งตัวลงไป...

“ตึง! บานประตูฟาดพื้นสะเทือนพร้อมเสียงร้องเจ็บปวดของหัวหน้าทีม ฉันหลับตากัดฟันเสียใจมากยกนาฬิกาขึ้นดู...

“อีก 10 นาที อดทนไว้นะสหาย”

“ตึง!ตึง! ตึง! บานประตูเผยิบผยาบจากการกระแทกจากด้านล่าง

เยวอนหมุนมองรอบห้อง...

“คงเป็นห้องนอนของลูกสาวบ้านนี้ มีแต่รูปหนุ่มนักกีฬาเบสบอล” โปสเตอร์สารพัดขนาดแปะที่ฝาห้อง ฉันรู้สึกแสบจมูกฟึดฟัด...

“กลิ่นอะไร?” ทันใดนั้น...ควันไฟก็พวยพุ่งเข้ามาตามซอกรู

“ตึง!ตึง!ตึง! กลุ่มผีดิบกระทุ้งประตูกดดันหัวใจ

“แค่ก!แค่ก! ควันไฟตลบอบอวลพวยพุ่งเข้ามาเหมือนกาน้ำเดือด

ฮุ!ฮุ!ฮุ! หาผ้ามาชุบน้ำอุดตามรูก่อน หาสิ! บนนี้มีน้ำมั้ย?” ฉันรู้สึกเหมือนหมาจนตรอก ทำไมถึงซวยซับซวยซ้อนอย่างนี้?

“ไม่มีน้ำเลยค่ะ!” เยวอนรื้อผ้าปูที่นอนอุดตามรูที่ควันพวยพุ่งขึ้นมาทหารสำรวจรอบห้องเล็กที่ไม่มีทางออก

“ฮุ!ฮุ!ฮุ!ทุกคนเริ่มหายใจติดขัดควันขาวอบอวลเต็มห้อง

“ไม่ไหวแน่! หายใจไม่ออกอย่างนี้ตายแน่”

“เราจะรอความตายแบบนี้ไม่ได้!” ทหารหุนหันฮึดสู้

“ใช่! สหายต้องทำอะไรสักอย่างสิ! เราต้องปกป้องซาจังนีมนะ” เยวอนคลานไปหา

“อย่าเคลื่อนไหว อย่าหายใจแรง!” ฉันตะโกนฝ่าควันขาวไปตามเสียง ทันใดนั้น...

“ว๊าก!..” เงาผ่านวูบ...

“อึ่ก! อึ่ก! ทั้งสองชนฝาผนังอิฐร่วงไปกองพื้น

ยิ่งเวลาผ่านควันเริ่มหนา ฉันแสบจมูกหายใจไม่ออกเริ่มคิดหาตัวช่วย ลีจองซุกหายหัวไปไหนวะ? ควานหาวิทยุก็ไม่เจอ...

“แค่กแค่ก! ฉันสำลักควันจนแสบคอ ไอจวนเจียนจะขาดใจ

88! ขอบคุณมากที่ดีกับฉัน ฉันขอโทษที่ช่วยสหายไม่ได้แต่ฉันจะไปเป็นเพื่อนไม่ต้องกังวลใจนะคะ ฮุ!ฮุ!ฮุ!” เยวอนนอนตาลอยพยายามยื่นมือมากุม

“ฉัน..ยัง ..ไม่..อยากตาย อย่าบอกลา”

“ผมก็ยังไม่อยากตาย เนกาเจอิลจัลนากา! เจ้าอ้วนไถลตัวเข้ามาใกล้

“นู่น่าลุกขึ้น! ซาจังนีมตายกับเราไม่ได้” เขาพยุงเยวอนนั่งแล้วปล่อยลมจากตุ๊กตาเข้าปากของเธอ

“88! อีกนิด! อีกนิด! เธอทำดีมากเยวอน พอได้ยินคำว่าอีกนิด...ภาพของจูยอนลอยมา คำดุด่าสมัยถูกฝึกลอยมา...เธอทำได้แค่นี้เองเหรอ? เมื่อไม่ไหวให้บอกกับตัวเองว่า อีกนิด อย่ายอมแพ้!

“ซาจังนีม!อ้าปากครับ” เสียงแทจุนสั่งฉันทำตามรู้สึกถึงแรงลมฟู่เข้าปาก

“แค่กแค่ก! ฉันสำลักควันหนักเข้าไปอีก ดันตัวเองขึ้นนั่งมองทหารนอนงอตัวปิดปากปิดจมูก ถ้าฉันยอมแพ้ทุกคนก็ต้องตาย ไม่ถูกต้องเลยที่ฉันทั้งสร้างภาระเรื่องงานแล้วยังเป็นภาระให้ต้องเสี่ยงชีวิตอีก สายตาเหม่อลอยไปที่หลังคากระเบื้อง...

“มีกระสุนมั้ย?”

“เย่!

“ยิง หลัง...คา” ฉันหัวหมุนดำมืดคล้ายจะจมน้ำภาพของไป่ไป๋ลอยยิ้มมาพร้อมเสียงคลื่น...

“ตรึ่ด!ตรึด!ตรึ่ด! ความรู้สึกเหมือนนอนในเรือเล็กที่ลอยเคว้งคว้าง แทนโยนเชือกเส้นใหญ่ลงมาให้แล้ว...

“เพล้ง!เพล้ง!เพล้ง! แสงสว่างจ้าแทงตา ฉันเด้งขึ้นนั่งความหวังกลับมา...

“สลัดผ้าไล่ควันเร็ว!

ทันใดนั้น...

“ดอกเตอร์! เสียงวิทยุดังครั้งนี้ฉันกระเด้งลุกยืนกำลังใจมาเต็มถัง

“ซอน!...” ฉันพุ่งไปคว้าวิทยุ ซอนมาแล้ว...ฮีโร่ของฉันมาแล้ว

“คุณอยู่ตรงไหน?”

“ฉันติดห้องใต้หลังคา ไฟกำลังไหม้! ช่วยด้วย! ฮุฮุฮุ!

“ใจเย็น ๆ อยู่นิ่ง ๆ อย่าหายใจแรง โยนอะไรก็ได้ออกมาหน่อย ผมจะได้รู้ว่าคุณอยู่หลังไหน?”

“ทหาร! โยนทุกอย่างออกไป เร็ว!

                                                     …………………………………….

มุมมองสายตา ซอน

ลานจอดรถบรรทุกปลา ด้านหลังตลาด

รถยนต์สารพัดชนิดจอดตายเกลื่อนลาน กลิ่นเหม็นทั้งปลาเน่าและซากศพคลุ้งจนไม่อยากจะหายใจ กลุ่มชีวิตไร้วิญญาณกำลังช่วยกันสุมไฟใส่ตัวอาคารทำตามคำสั่งเจ้านายอย่างขยันขันแข็ง ไอ้พวกนี้ทำไมมันน่าขยะแขยงอย่างนี้วะ?

ผมสะพายปืน AK-12 กับดาบซามูไรไขว้หลัง เดินลุยเดี่ยวเข้าหาฝูง Tamer 30 กลางลาน พยายามมองหาเป้าหมายที่อาคารยาวไฟกำลังลุกไหม้

“เห็นแล้ว! รอเดี๋ยวนะนาตาลี!” เจอหลังคาโหว่แล้ว ผมโล่งอกสบายใจ...

I love rock and roll. So put another dime in the jukebox baby.” ผมฮัมเพลงเดิน C-walkเข้าหากลุ่มผีดิบที่ห้อมล้อมอาคารบนลานจอดรถบรรทุก...

“เฮ้ย! พวกมึงไปเล่นอื่น ไป! ผมชี้ซามูไรเดินเข้าใส่ พวกเขากำลังสามัคคีสุมไฟหันมาหน้าตาโคตรน่ากลัว

Messiah! ฆ่ามันเพื่อหลุดจากบาป Messiah!” พวกนั้นหันกลับมาวิ่งเข้าใส่ควงมีดทำปลาเงาวับ

Messiah! ฆ่ามันให้พ้นบาป Messiah! Messiah!” 3 คนแรกวิ่งเข้ามาถึงก่อน...

“ควับ!ผมย่อตัวตวัดดาบเดียวเอวขาดไป 3

“ควับ! ควับ! I love rock and roll. So put another dime in the jukebox baby.” สะบัดซามูไรร่ายรำรุกล้ำเข้าไป ชิ้นส่วนอะไหล่มนุษย์ขาดกระเด็นแหวกเป็นช่องให้เดิน

“ไปเกิดใหม่นะ! รุ่นนี้รักษาไม่ได้แล้วอยู่ต่อก็ทรมาน” ผมฟันดาบจนชักจะเมื่อยแขน พวกเขายังมีอีกเยอะเดินเข้ามาหาไม่ขาดสาย ผมหันไปเห็นรถบรรทุกอาหารทะเลจอดตาย ไปหาตัวช่วยก่อนดีกว่า

“บรื้น!!บรื้น!!บรื้น!! ผมเบิ้ลเครื่องยนต์เรียกร้องความสนใจ

Messiah! Messiah!”กลุ่ม Tamer 30 วิ่งกรูเข้ามากระโดดเกาะประตู แม่งตื้อน่าดู...

“อื้อหือ!ทั้งกระจกหน้าและประตูยั้วเยี้ยเลย ทั้งมีดทั้งไม้ฟาดใส่รถบรรทุกไม่ยั้ง มันหาญกล้ากระโดดขึ้นมาเกาะกระจกข้าง...

“บรื้น...นน! ผมกดคันเร่งพรวดหงายหลังพรืดร่วงพื้น พวกที่ยังเหนียวเกาะแน่นไม่ยอมตก

งั้นมึงเอาไอ้นี่ไปกินก็แล้วกัน...

“ปัง!ปัง!ปัง!ผมยิงกดหน้าผากหงายท้องไปทีละคนแล้วกดคันเร่งสุด เสียเวลากับพวกมันมากไปแล้วต้องช่วยนาตาลีก่อน...

“บรื้น...นน!!รถบรรทุกแช่แข็งขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่อาคาร ผมชำเลืองมองแอร์แบ็คแล้วอุ่นใจที่มีตัวช่วย วิทยุที่เบาะดังขึ้น...

“ซอน! ฉันหายใจไม่ออกแล้ว เร็วหน่อย แค่กแค่ก! เสียงนาตาลีกำลังจะขาดใจ แต่ยังเหลืออีกคนยังเกาะหน้าต่างไม่หลุดเขาเงื้อซามูไร…

“เอี๊ยด!!

“คลุก!คลุก!คลุก! มือดาบกระเด็นกลิ้งไปกับพื้นลาน พยายามลุกยืน

“บรื้น...นน!! รถบรรทุกทับกลางลำตัว...จบข่าว

รถบรรทุกเครื่องเย็นพุ่งเข้ากวาดทุกอย่างที่ขวางหน้าเป้าหมายผนังอาคารชั้นล่าง ผมเหยียบคันเร่งปล่อยพลังเครื่องยนต์เต็มกำลังเตรียมยกขารอแรงกระแทก

                                              ....................................................


มุมมองสายตา นาตาลี

บนชั้น 3 ของร้านอาหารทะเล...

“ฟู่ว! กระแสลมพัดเอาเปลวควันกลิ่นเน่าเข้ามา แต่มันก็ยังดีกว่าควันไฟ เยวอนพยุงทหารบาดเจ็บให้ได้รับอากาศ...

“สหายอีกนิดนะ!” ฉันเข้าไปพยุงทหารที่โดนมีดฟันแขนนอนพะงาบกำลังขาดใจ

“ผมไม่ไหวแล้ว!

“เยวอนมาช่วยหน่อย! ปั้ลลี่!ฉันรีบกระพือไล่ควัน...

“อีกนิดนะสหาย! อีกนิดเดียว!” ฉันทำได้แค่ปลอบทหาร ทันใดนั้นหูของฉันก็ได้ยินเสียงบางอย่าง...

“บรื้นนน!!! เสียงเครื่องยนต์คำรามอย่างโกรธเกรี้ยวพุ่งเข้าหาอาคาร...

“โครม! บ้านทั้งหลังสะเทือน

“บรื้น!บรื้น!บรื้น! เสียงรถบรรทุกถอยหลังยาวแล้วพุ่งเข้าชนซ้ำอีกครั้ง

“โครม!

“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด! เสียงกราดยิงข้างล่าง

“ดอกเตอร์ลงมา! พ่อพระเอกของฉันมาถึงแล้ว ไม่เคยผิดหวังในตัวผู้ชายคนนี้สักครั้ง

ฉันกระเด้งตาเหลือกดีใจ...

“เปิดประตูเร็ว!

“เย่! กลุ่มทหารรีบเปิดประตู

“............” 30 นาทีนรกผ่านไปความสงบกลับคืนมาอีกครั้ง ซอนแบกนายทหารเกาหลีเหนือที่บาดเจ็บออกมานอนเรียงกันบนลาน ฉันแสบหน้าอกก้มหัวพื้นสูดลมไปไล่ควันออก

“โอย!...” สหายทหารอุ้มร่างโชกเลือดของหัวหน้าทีมออกมาวางบนพื้น ซอนปราดเข้าไปจับชีพจรแล้วกดแผลห้ามเลือด...

“สหายเก่งมาก! เดี๋ยว ฮ.มารับแล้ว” เขาดึงผ้ามาฉีกมัดลำตัวปฐมพยาบาลแล้วตะโกนสั่งทหาร...

“ใครบาดเจ็บไปพามาให้หมดจะส่งกลับก่อน เร็ว!ที่พึ่งที่เชื่อใจได้ของฉันโคตรเท่ห์เลย...

“ซอนโอปป้า!..” ฉันกอดพี่ชายแน่น

“มาทำไมไม่บอกใครเลย เห็นมั้ยมันอันตราย?” เขาดุซ้ำแต่ฉันไม่ถือ

“โอ้ปป้า!...อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ เดี๋ยวพวกเขาด่า” ฉันมุดหน้าซบอกพี่ชาย

“ยายเด็กดื้อ! เขารู้กันทั้งประเทศแล้ววุ่นวายกันไปหมด” เขาจิ้มหัวของฉันเบา ๆแต่มันเจ็บจี๊ด

“เรียก ฮ.มาให้หน่อย! ส่งคนเจ็บกลับไปก่อน” เขาบอกแล้วลูบหัวปลอบใจ

“เรียกแล้วค่ะ! นั่นไง!”ฉันชี้ไปที่พลเปลกำลังวิ่งมา อยากจะเข้าไปเขกหัวลีจองซุกเหลือเกินยืนยิ้มข้างเฮลิคอปเตอร์มองมา

“คุณไปให้กำลังใจทหารก่อน เขาเจ็บหนักมาก” เขาชี้ไปที่หัวหน้าทีม ฉันขยับไปนั่งยองกุมมือของเขา...

“พันจังนีม! อดทนอีกนิดนะคะ” ฉันให้เกียรติเรียกเขาว่าหัวหน้าทีม รู้สึกขอบคุณจากใจจริง

“ซาจังนีมปลอดภัยนะครับ” เขายังจะเป็นห่วงฉันอีก

“พันจังนีมชื่ออะไรคะ?” หัวใจที่แน่วแน่เด็ดเดี่ยวเช่นนี้ต้องถึงหูสหายจูยอน

“จางจูซ็อก!” เขายิ้มโรยแรง

“จางจูซ็อกพันจังนีม สหายคือเพื่อนแท้ของฉัน คูมอวาโย!” ฉันขอบคุณจากใจจริงกับคนที่ขัดคำสั่งของฉัน

“สหายเพื่อนมารับแล้ว!” เยวอนเดินเข้ามาพร้อมทหารเปล

“จูซ็อกอดทนนะ ฉันจะไปเยี่ยมบ่อย ๆ” ฉันกุมมือเขาส่งให้ทหารเปลพาไป

เยวอนกระเด้งดึ๋ง ๆ เข้าไปหาซอน

“คูมับฮัมนิดะซอนเซงนีม!” สายตาของเธอประกายระยิบระยับยิ้มปากแทบถึงหู

“เยวอน! ทำไมไม่ห้ามซาจังนีม?” ซอนดุเธอหน้าเลิ่กลั่ก...

“ขอโทษค่ะ!” เยวอนถอยกรูดเข้ามาเกาะแขน ฉันเป็นคนชวนมาเองรีบโบกมือห้ามซอน

คังแทจุนหอบหิ้วถุงดิลโด้กับตุ๊กตามอมแมมเดินเข้ามา ซอนโบกมือร้องทัก...

“แทจุนน่า!... น้ำเสียงของซอนเอ็นดูเจ้านี่มาก

เจ้าอ้วนสะดุ้งตาโตดีใจตะโกนลั่น“เซม!...เซมมาช่วยเหรอ?” เขาวิ่งพุงกระเพื่อมเข้ามากอดเหมือนลูกชายกอดพ่อ

“ข้างบนหายใจไม่ออก ผมเกือบตายแน่ะเซม!” เจ้าอ้วนฟ้องกอดเอวหัวซุกรักแร้ แขนของตุ๊กตาเกี่ยวหัวของซอน

“หือ! เขาชะงักขมวดคิ้วมองตุ๊กตาแล้วอมยิ้ม ยีหัวเจ้าอ้วนอย่างเอ็นดู...

“แทจุน!... สหายชอบสายเงียบเหรอ อีนี่! มันไม่ร้องนะมึง”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ทหารที่นอนบาดเจ็บหัวเราะลั่น ใบหน้าเหยเกเพราะสะเทือนบาดแผล

แทจุนขมวดคิ้วหน้ามุ่ยหมุนมองทหารหัวเราะ ฉันสงสารน้องจับใจเขาไม่ได้ลามกแค่อยากได้ตุ๊กตาไปฝากน้อง เดินเข้าไปแหงนหน้ามองซอน...

“เซมครับ!” เขาหน้าจ๋อยยิ่งน่าสงสารทหารเงียบกริบ ฉันเคืองซอนที่ไปใส่ร้ายเด็ก จิตใจของแทจุนใสซื่อบริสุทธิ์เกินกว่าทุกคนจะเข้าถึง

“หือ!แทจุนบาดเจ็บเหรอ? ” ซอนได้ใจของทุกคน เขาทรุดลงไปลูบลำตัวหาบาดแผลอย่างเป็นห่วง

“ผมหิวข้าว!

“อ้าว!

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! เยวอนหัวเราะลั่นแล้วจูงมือเจ้าอ้วนเดินออกไป ฉันอยากจะเข้าไปบีบคอเจ้าอ้วนให้ตายไปซะเลย ไอ้ตัวต้นเพลิง

“ดอกเตอร์!” ซอนจูงมือเดินออกจากกลุ่ม เขาจับฉันพลิกตัวหมุนดูซ้ายดูขวาบีบแขนจับขาหาบาดแผล...

“เจ็บตัวมั้ย? ดอกเตอร์มาญี่ปุ่นทำไม?” ได้เห็นลักยิ้มของเขาแล้ว

“มาแก้ปัญหาหน้างานค่ะเลยแวะมาดูอนุสรณ์ปรมาณู การฆ่าของมนุษย์พัฒนามาไกลตามกาลเวลา ยิ่งเวลาผ่านอานุภาพของอาวุธยิ่งร้ายแรงขึ้น”

“ลืมมันไปเถอะครับ! มันเป็นอดีตไปหมดแล้วล่ะ ตอนนี้กลุ่มผู้มีอำนาจ 2 กลุ่มสุดท้ายกำลังจะเปิดสงครามกันโดยมีมนุษย์ 2 กลุ่มสุดท้ายของโลกเช่นกันเป็นเดิมพัน นี่คือเรื่องปัจจุบันสนใจเรื่องนี้ดีกว่าครับ” ซอนก็เหมือนกับหมวดจางเป็นพี่ที่คอยดึงขาให้ฉันอยู่ในร่องในรอย

“คุณหมายถึงใครเหรอคะ?”

“จูยอนกับหวังฉวน”

“แล้วสุดท้ายมันจะจบยังไงคะ?”

“ต้องมีใครคนใดคนหนึ่ง...ตาย!

“หือ!ถ้าต้องเลือกคุณจะเลือกใคร?”

“คนที่เคยเจ็บปวดเท่านั้นถึงจะเข้าใจวิธีการเยียวยา ผมเลือกจูยอน”

“............”

การเดินทางของยุคสมัยใกล้ถึงวันสิ้นโลกเข้าไปทุกลมหายใจ อีกเดือนกว่าก็ถึงเวลานั้นแล้ว เมื่อใดก็ตามที่หวังฉวนเปิดประตูประเทศ ปล่อยชาวจีนรุกล้ำเข้าดินแดนผู้อื่น ในวันนั้นเลือดคงสาดพื้นพิภพอีกครั้งและนั่นจะเป็นสงครามครั้งสุดท้าย

                                           .............................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม