The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 9 ตอนที่ 15

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 9 ตอนที่ 15
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 9
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 9 พ.ย. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


กีจองดอง

มุมมองสายตา นาตาลี

สิงหาคม ค.ศ.2026

การเดินทางที่ยาวไกลของฉันสุดท้ายก็ถึงทางตันอุปสรรคจากธรรมชาติเป็นบททดสอบให้อดทน แต่อุปสรรคจากมนุษย์ผู้กดขี่เป็นการท้าทายให้ลุกขึ้นสู้ ยากที่จะบอกได้ว่า Soulless หรือมนุษย์ที่ทรมานมากกว่ากัน ฉันเดินเยี่ยมน้อง ๆ ใต้ร่มเงาของกลุ่มอาคารคอนโดฯสูงที่พาดทับหมู่บ้านสีฟ้าขาว ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้เข้าไปหาไป่ไป๋ของฉันเลย

กลุ่มเด็กทีมงานกลางคืนแต่งตัวลงมาเปลี่ยนให้เพื่อนขึ้นไปพักด้านบน เสียงหยอกล้อหลังเลิกงานสดใส...

“เนกาเจอิลจัลนากา! กลับกลายเป็นคำฮิตติดปากของวัยรุ่นเกาหลีเหนือ เดอะแก๊งปลุกพลังเพื่อน ๆ ด้วยคำ ๆ นี้ // ฉันนี่แหละสุดยอด //

“เลิกงานก่อนนะคะ สหายผู้บัญชาการ” เด็กสาวเดินผ่านมาโบกมือทักทาย ฉันชอบกับบรรยากาศแบบนี้พวกเขาเหมือนพี่น้อง

“ขอบใจที่เหน็ดเหนื่อยนะคะ” ตอนนี้จิตใจของทุกคนระแวงภัยสงครามที่เริ่มลือสะพัดไปทั่วเกาหลีเหนือ

“อันยองฮาชิมนิก๊าซาจังนีม! วัยรุ่นชายชุดเหลืองเดินกอดคอกันสวนมากลุ่มใหญ่

“อันยองฮาเซโย มาเปลี่ยนกะเหรอคะ?” ฉันยกมือทักทายเดอะแก๊งที่พึ่งเดินลงจากคอนโดพักอาศัย

เด็กสาวเข็นรถเข็นออกมาจากหมู่บ้านตาหมากรุกสีฟ้า

“ซาจังนีม! สหายแอนนาถามหาน่ะครับ เห็นเดินอยู่ในหมู่บ้านข้างในครับ” เขาชี้กลับเข้าไปในซอย ฉันรีบวิ่งไปทางทิศที่เด็กชี้คิดถึงยายหมวดจางจังเลย อยากอวด...เอาดิลโด้ช็อกโกแล็ตจากญี่ปุ่นมาฝากด้วย

กีจองดองแบ่งเป็น 2 ส่วน อาคารคอนโดสูงกลุ่มสาวเรดซันยึดเป็นที่พัก ส่วนหมู่บ้านทรงยุโรปชั้นเดียวสีขาวหลังคาสีฟ้าเอาไว้ให้สำหรับผู้ติดเชื้อเพื่อความสะดวกในการดูแล เด็ก ๆ ชุดแดงเวียนมาฉีดยาให้อาหารถึงบ้าน

ฉันเดินมาหยุดหมุนที่สี่แยกกลางหมู่บ้าน เด็กสาวชุดแดงเดินหยอกล้อเล่นกันสวนมา แต่หมวดจางของฉันหายไปไหน อยู่บ้านหลังไหนกันนะ?

“ดอกเตอร์!มีคนเดียวที่เรียกฉันแบบนี้ หันกลับไปตามเสียงยายแอนนาเดินยิ้มนมใหญ่ออกจากซอย คนอะไรหุ่นโคตรดีเลยเวลาเดินเท่มาก

“เจี้ยเจี่ย! คิดถึงจังเลย” ดีใจจังได้เห็นหน้าพี่สาวแล้ว เธอเดินเข้ามาใกล้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเริ่มหงิก ฉันเริ่มรู้สึกถึงภัยคุกคาม

“มานี่เลย! เธอคว้าใบหูหมับ

“เจ็บนะ! ดึงหูฉันทำไม?”

“เมื่อไหร่จะเลิกดื้อฉันเป็นห่วงนะ รู้มั้ยฉันก็หายใจไม่ออกที่ได้ข่าวว่าเธออยู่ในอันตราย ทำอะไรสงสารคนที่เขาเป็นห่วงบ้างสิ มันเหนื่อยนะโว้ย! เธอตะโกนใส่หูก่อนจะกระชากแล้วปล่อย

“อูย! คราวหลังไม่ทำแล้วค่า แล้วคุณมาที่นี่ทำไม?” หูลั่นกร็อบเลย

“ฉันมาช่วยยายเหน่งน่ะสิ! คุณนิสัยไม่ดีทิ้งน้องให้ทำงานคนเดียว ยายเหน่งร้องไห้น้อยใจ พอรู้ว่าคุณโดนไล่ยิงยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไปหาทางปลอบใจเธอซะก่อนที่โรคเก่าจะกำเริบ คุณกลับมาตั้งหลายวันแล้วหายไปไหนมา?”

“โดนเรียกไปด่าแล้วก็โดนลงโทษด้วย”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!ใครบังอาจลงโทษซาจังนีม”

“เจ็ทโด้น่ะสิ”

“เขาลงโทษยังไงคุณเป็นผู้บัญชาการนะ?”

“เขาจับฉันไปนั่งเก้าอี้สำนึกผิดดูทหารทำงานที่ชินอุยจู

“ไปคนเดียวเหรอ?”

“ไปกับเขาสองคนไปหาสหายคังซอจิน พวกเขาเอารถสะพานไปซุ่มจอดริมแม่น้ำตามตะเข็บชายแดน เตรียมพร้อมรับสงคราม”

“คงใกล้ถึงเวลาแล้วสินะ” เธอพยักหน้ารับรู้แล้วหันไปตะโกนเข้าซอย...

“น้องแทนครับ ลีมาแล้ว!...

“ได้เจอน้องสักทีคิดถึงจังเลย”

“เขาขอตามกลับมาด้วย อ้อนอยากเจอพวกคุณ บ่นว่าใจจะขาดเลยเอามาอยู่เป็นเพื่อนไป่ไป๋” เธอยิ้มส่ายหน้าเอ็นดู

ทันใดนั้น...

“ลี! เค้าอยู่นี่...” เจ้าตัวน้อยหัวเหน่งตัวสั่นยิ้มกว้างวิ่งกางแขนออกจากรั้วบ้านถัดไป

“อย่าวิ่ง!เดี๋ยวหกล้มนะคะ”เด็กสาวชุดแดง 2-3 คนวิ่งตามออกมา

“คิดถึงน้องแทนที่สุดในโลกเลย!” ฉันหายเหนื่อยลืมความทุกข์โศกทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มสดใสของน้องแทน

เจ้าตัวน้อยขาสั้นยิ้มกว้างวิ่งดุ๊กดิ๊กดีใจตัวสั่น แสดงความรักและคิดถึงออกทางภาษากาย...

“ลีอุ้ม! วิ่งแขนกางหางชี้มาเลย ฉันนั่งลงเตรียมตัวเพราะรู้ว่าเจ้านี่กระโดดพุ่งใส่แน่ ๆ และก็เป็นดังคาด เขากระโจนตัวลอยใส่...

“อึ้บ!! ว้าย!! ฉันหงายท้องล้มลงนอนกับพื้นถนน

“ลีอุ้มไม่ไหวแล้ว น้องแทนโตเป็นหนุ่มแล้ว”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ไปทำอะไรมา ขาอ่อนเชียวนะ” หมวดจางขยับมาดึงมือเราสองคนให้ลุกขึ้น น้องแทนกอดขาแน่น...

“คิดถึงลีใจจะขาด มากอดกันก่อน” เขากระตุกขากางเกง ฉันต้องย่อลงไปกอด

“ลีก็คิดถึงน้องแทน” ฉันกอดฟัดให้หายหมั่นเขี้ยว ลำตัวน้อย ๆ ที่ฉันเฝ้าฟูมฟักเริ่มโตเกินไปแล้ว หรือว่าฉันแก่กันแน่นะ

“รักกัน! รักกัน!” น้องแทนช้อนใจให้หายเหนื่อย

“ญี่ปุ่นเป็นไงมั่ง?” เธอถามพร้อมก้าวเดิน

“ฉีดไป 350,000 คนค่ะ ฉันอยากไปฟิลิปปินส์ต่อ..แต่คงไม่ได้แล้ว”

“ช่วงนี้ก็ฉีดให้เกาหลีใต้ไปก่อนเถอะ อย่าพึ่งคิดอะไรมาก โชคและวาสนาของพวกเขาอยู่ที่อายุขัยของเรา” วันนี้เธอตอบแปลก ๆ

“ไม่ห้ามฉันเหรอ พลาดได้ยังไง?” ฉันแปลกใจมาก

“ไม่ห้ามหรอก ฉันได้แนวคิดบางอย่างจากจูยอนและเห็นว่าคุณเดินงานแล้ว” เธอเดินเลี้ยวซ้ายกลับไปทางกลุ่มอาคารคอนโดฯ น้องแทนกับสาว ๆ ก้มเก็บดอกพ็อกโกตสีชมพูข้างทาง

“ไป่ไป๋โกรธมากเลยเหรอ?” ฉันรู้สึกผิดจังเลยรักษาสัญญาไม่ได้ ไม่อยากให้เธอกังวล /เวลาทำงานฉันก็ไปเรื่อยเปื่อยไม่อยากกำหนดว่าจะต้องเลิกเมื่อไหร่ การให้อิสระคือเหตุผลหลักที่ฉันรักแทน

“มาก!...ยายเหน่งบ่นยับแน่ ให้ฉันไปบังคับให้แทนลาออกจากทหาร สงสัยหัวว่างต้องพาไปวิ่งหนีลูกปืนอีกสักรอบ” ทำดีมากหมวดจาง

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ฉันหัวโล่งหายอึดอัดใจเลย

“บ้า! เข้าใจเธอด้วยสิ! คนทำงานอยู่กับที่ไม่ต่างจากสัตว์ในกรง ความวิตกกังวลมันเร้าหัว ฉันเข้าใจน้องนะ คุณอย่าห่างให้มากนักสิ!”อ้าว! มาบ่นใส่อีกแล้ว

“เย! เย!เย! แอนนาอนนี่” ฉันโค้งศรีษะให้อย่างงามประชดซะเลย

“ไปหาเยวอนกับฉันหน่อยสิ อยากเห็นความคืบหน้า” หมวดจางหันไปยกมือทักทายกลุ่มเด็กที่สวนมา

“มีอะไรกันเหรอ? พวกคุณชอบแกล้ง เธออึดอัดใจกับคำสั่งของคุณ ไป่ไป๋ก็นิสัยไม่ดีไปแกล้งเธอ เยวอนเป็นคนน่ารักมากนะอย่าไปแกล้งเธอเลย” ฉันไม่ชอบใจเลย

“ช่วยไม่ได้! ไปแตะของรักของยายเหน่งนี่ รู้ก็รู้! ไป่ไป๋ขี้หึงจะตายยังไปแหย่ ส่วนฉันไม่ได้แกล้งกำลังหาแฟนให้เยวอน” เธอดิ้นหนีไปอีก

“คุณใช้งานไม่ถูกคน เธอเกลียดทหารจีนทะเลาะกันทุกวัน” ฉันอยากให้เยวอนได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ไม่อยากให้ต้องทำงานด้วยความกังวลใจ

“หือ! ทะเลาะกันแล้วเหรอ จริงเหรอ?” ยายจางดวงตาวิบวับยิ้มมีเลศนัยมาก ยิ้มอย่างเนี๊ยะน่ากลัว...แล้วจะดีใจทำไมไม่ทราบ

“ใช่! เธอบอกว่า เกลียดทหารจีน” ฉันชักระแวง

“เชื่อสิ! ไม่มีวัน!” เธอหันไปมองน้องแทนกำลังเริงร่าท่ามกลางสาว ๆ หอบดอกไม้กำใหญ่

“น้องแทนครับ อยู่กับไป๋ที่นี่ก่อนนะ ม้ากับลีจะไปค่ายโชซอนฯ”

“ม้า! ไปหลายวันมั้ย?” เขาวิ่งกลับมาเกาะขาแม่

“เดี๋ยวก็กลับมาค่ะ น้องแทนรอป๊าอยู่ที่นี่นะคะ เอาดอกไม้สวยไปให้ใครคะ?”

“เอาไปให้ไป๋กับเซยอง”

“ใจดีจังเลย น่ารักนะเนี่ย” สองแม่ลูกฟัดกันก่อนจาก เพื่อน ๆ ของน้อง 4-5 คนเดินตาม

“รีบกลับมาน้า...” เขาวิ่งกลับไปเกาะกางเกงสาว ๆ เดินตามเข้าอาคารไปหาไป่ไป๋

ธงรวมชาติบนยอดเสาธงสูงสะบัดพริ้วเคล้าเสียงเพลง ฐานเสาเหล็กตั้งตระหง่านหน้าลานคอนโดฯ พลุกพล่านไปด้วยทีมงานหลากสี พวกเขาเข้าไปชวนผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว นั่งคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน

หมวดจาง กระโดดขึ้นรถจี๊ปเปิดประทุน...

“ขึ้นมา!

“บรื้น...นน!! เธอขับรถมาตามถนนชนบท ผ่านทุ่งดอกคอสมอสสีชมพูแซมขาวสะพรั่งสุดลูกตา สายลมอ่อนพัดโชยกลิ่นหอมธรรมชาติเข้าจมูก

“เซยองคือใครเหรอ?” ฉันคุ้นกับชื่อนี้

“คิมเซคยอง เป็น VIP” เธอหันมาชี้ที่ดวงตา

“อ๋า! ฉันรู้จัก” ฉันเข้าใจแล้วคนพิการทางสายตานี่เอง

“น้องติดไป่ไป๋มากอยากช่วยงาน ไป่ไป๋เลยให้คอยฟังวิทยุคอยติดต่องานกับฝ่ายต่าง ๆ”

“อายุเท่าไหร่แล้ว”

13ค่ะ! ยังเด็กมาก อยู่กับพ่อสองคน”

“น่าสงสารจัง ตาบอดจะอยู่ได้ยังไงกัน...เฮ้อ!

“ไม่ต้องห่วง เยริมเป็นคนดูแลมีอีกหลายคนที่เป็น VIP ทำงานกับยายเหน่ง พวกนี้แหละที่จะทำให้เธอโดนด่าน้อยลง”

“ทำไม?”

“ยายเหน่งอยู่ได้เพราะเด็ก ๆเหล่านี้แหละที่เดินเคียงข้าง FCเยอะไม่อย่างนั้นเธอคงตามจิกคุณไปแล้ว”

“ฉันเคยเห็นสิ่งมหัศจรรย์จากเด็กคนนี้” ฉันนึกออกแล้วเธอเป็นอเวนเจอร์เหมือนฉัน

“ยังไง?”

“หูทิพย์!

“อืม!คงเป็นไปได้แหละ ธรรมชาติมักชดเชยในสิ่งที่ขาด ไม่แปลก!” เธอไม่ได้ยินดียินร้าย

ความมืดกำลังคืบคลานเข้าปกคลุมท้องทุ่ง ดาวศุกร์กะพริบต้อนรับและกำลังจากลาหลังแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ลาจาก รถยนต์แล่นฝุ่นตลบเลยบริเวณทุ่งดอกไม้มาถึงสระน้ำกว้างกลางทุ่งหญ้าแห้งกรอบ

“จูยอนน่าจะประกาศสงครามกับจีน เธอบอกให้ฉันเลือก” เธอเปรยเบา ๆ

“เลือกอะไร?”

“กลับจีนหรืออยู่ที่นี่”

“คุณตัดสินใจยังไง?”

“ฉันอยากกลับไปฆ่าหวังฉวนมากกว่า ไม่อยากให้มันเป็นฝันร้ายหลอกหลอนผู้คน ฉันจะได้เดินหน้าทำวัคซีนช่วยคนให้เต็มกำลังสักที”

“อย่าลืมลูกน้องของมันสิ เรากำลังต่อกรกับองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดนะ และตอนนี้ไม่มีกองกำลังสันติภาพที่ไหนจะช่วยเราได้แล้วนะ”

“ฉันเข้าใจการถอนรากถอนโคนของจูยอนแล้ว ถ้ากวาดพื้นไม่สะอาดก็อาจจะโดนเศษแก้วบาดนิ้ว พวกลิ่วล้อสอพลอนี่แหละน่ากลัวกว่าเจ้านายของมันต้องล้างบางให้สิ้นซาก หวังฉวนเป็นคนใจแคบไม่มีเพื่อนกำจัดไม่ยากหรอก”

“คุณจะไม่กลับจีนใช่มั้ย?” ฉันกลัวใจของหมวดจางมาก เรื่องเด็ดเดี่ยวยายนี่ก็ไม่เป็นรองใคร เธอม้วนพวงมาลัยเลี้ยวขวาที่สี่แยกสุสานกษัตริย์คงมินผู้ปกครองสมัยโครยอ

“คุณอยู่ที่ไหนฉันก็อยู่ที่นั่นกลับก็ต้องกลับด้วยกัน ฉันทิ้งคุณไม่ได้ เราต่างก็ไม่มีญาติพี่น้องอีกแล้ว อยู่ที่ไหน...ฉันก็คงไม่มีความสุขหรอกถ้าคุณไม่อยู่ด้วย” เธอกดคันเร่งสุดรถยนต์พุ่งพรวด

นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ฉันโดนเธอหลอกได้ทุกครั้ง ฉันมักจะซึ้งใจกับวิธีพูดและมธุรสวาจาของพี่สาวคนนี้ ถึงเธอจะชอบแกล้งชอบแหย่ แต่ฉันก็รับรู้มาโดยตลอดว่าเธอรัก

“พูดอย่างนี้ จะให้ฉันตัดสินใจน่ะสิ!

“ฉันพร้อมจะสู้อยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะต้านทานคลื่นทหารของมันไหวแค่ไหน ถ้าสู้กันยาวชาวเกาหลีก็สูญพันธุ์”เธอเลี้ยวขึ้นไฮเวย์ที่พยองซาน

ความกังวลเซาะใจกร่อนลงทุกวัน ฉันไม่กลัวตายอีกแล้วทุกอย่างในชีวิตได้สัมผัสมาหมดแล้ว แต่ในใจลึก ๆ เป็นห่วงเด็กว่าจะรอดสงครามไปได้อย่างไร? ทหารของเราที่มีก็แค่ทหารฝึกหัดยังไม่มีประสบการณ์รบสักครั้ง

“ฉันไม่กล้าคิดใหญ่ทำสงคราม แต่อยากให้มันจบเร็ว ๆ ฉันไม่เคยคิดด้วยซ้ำไปว่าจะต้องมาเป็นทหาร” ฉันก็ตกกะไดพลอยโจนมาจนถึงวันนี้เหมือนกัน

“เรื่องสงครามให้พวกผู้ชายจัดการเถอะ คุณไม่ได้ถูกฝึกมาถึงขนาดบัญชาการกองทัพอย่าไปขวางดีกว่า คอยเป็นหน่วยสนับสนุนก็พอ” สายตาของเธอแน่แน่วกับถนนไฮเวย์กว้างใหญ่ไร้รถยนต์ พุ่งตรงเข้าเมืองหลวง

 “นายพลห่าวอู๋เป็นไงบ้าง?” ฉันไม่เคยได้สนใจเรื่องของเชลย เกลียดพวกมัน ตั้งแต่ได้ต่อยไปก็รู้สึกเบาเมื่อต้องเอ่ยชื่อของเขา

“ไป่ไป๋เก่งง่ะ! อ้อนซะจนท่านนายพลอ่อนปวกเปียกเลย เธอเปิดใจเขาได้มากขึ้น เจ็ทโด้บอกว่าจะแสดงความมีน้ำใจปล่อยเขากลับบ้าน”

“จริงเหรอ?” ฉันแอบดีใจ สงครามอาจจะยุติก็ได้

“เขานัดกับซีชาน ถ้าเจรจาจบก็ดีแต่ฉันไม่เชื่อสันดานซีชานหรอก ในสงครามมีแต่เรื่องโกหก มันไม่ถามถึงท่านนายพลสักคำเดียว”

“บรื้น...นน!! รถยนต์แล่นลอดผ่านประตูชัยแกมุนซอง พี่น้องสองสาวยิ้มยื่นดอกไม้ให้กัน

“เก้อเฉิงล่ะ?”

“วันนี้! ฉันตั้งใจจะมาแอบดู” เธอม้วนพวงมาลัยเข้าค่ายโชซอนฯ

“ห่ะ! แอบดูเหรอ ฉันไม่ถนัดเลย” ฉันแอบยิ้มกรุ้มกริ่ม อายจัง!

“ยายบ้า! คุณนี่แหละตัวตะกายเต็นท์เลย” ยายจางหัวเราะลั่นรถยนต์แล่นผ่านโรงอาหารไปด้านหลัง

“ฉันไม่ได้มาค่ายนี้นานเลย ฉันรอดตายเพราะฝึกที่ค่ายนี้แหละ ตอนนี้แทนอยู่ไหนก็ไม่รู้?” พอเรียนทหารจบก็ไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลย พอรถยนต์แล่นลึกเข้ามาก็คิดถึงวันเก่า ๆ

“แทนอยู่ที่ชายแดนแถวดงดัมกำลังกลับ เดี๋ยวคงไปเจอกันที่กีจองดองนั่นแหละ วันนี้เจ็ทโด้เรียกน่าจะมีอะไรบอกพวกเราไม่รู้ว่าทั้งสองคนคิดอะไรกัน?”


“เอี๊ยด!! เธอจอดรถยนต์ก่อนถึงบ้านพัก

“ไปกัน! ใกล้มืดแล้ว ไม่รู้ว่าเยวอนกลับบ้านพักไปหรือยัง?” ยายจางดูรีบร้อนแปลก ๆ จูงมือวิ่งเลาะรั้ว 

ทหารหน้าบ้านพักหันมาเห็นก็ยืดอกเตรียมจะตะโกนทักทาย หมวดจางรีบโบกมือห้ามแล้วจุ๊ปากเข้าไปหา...

“อย่าเสียงดัง! ทั้งสองคนอยู่หรือเปล่า?” เธอพูดเสียงเบาท่าทางยายนี่เหมือนมาทำภารกิจลับ

“อยู่ครับ! สหายผู้กองพึ่งกลับเข้ามาเมื่อสักครู่” ทหารหนุ่มวัยใสยืดอก

“เป็นอย่างไรบ้าง สหายผู้กองคุยกับเชลยดีมั้ย?”เธอกระซิบกระซาบอย่างสนิทสนม เรื่องตีเนียนไม่มีใครเกินยายนี่

“กลับมาถึงก็ทะเลาะกันเลยไม่มีวันไหนไม่ทะเลาะกัน แต่ผมไม่รู้ว่าทะเลาะเรื่องอะไรกันเขาทะเลาะกันเป็นภาษาจีน ส่วนนายพลฯ บอกว่ารำคาญขอย้ายไปอยู่หลังสุดท้ายครับ ไป่ไป๋เซมมาเยี่ยมบ่อยมากครับ” เจ้าทหารนั่นก็เสือกกระซิบด้วยฉันล่ะอึดอัด

“ตอนนี้! สหายผู้กองทำอะไรอยู่ไปดูหน่อยสิ! เธอชะโงกมอง

“เดี๋ยวผมไปดูให้ครับ” เจ้าทหารเดินเตร็ดเตร่เข้าไปดูต้นไม้หน้าประตู ส่วนอีกนายหันมาหาฉัน...

“ซาจังนีมครับ! ผมเกรงว่าจะฆ่ากันตายซะก่อนน่ะสิ ส่วนใหญ่สหายผู้กองจะเป็นคนเปิดซะมากกว่า เชลยไม่ค่อยพูดหรอก”

“เธอออกไปไหนมารู้มั้ย?” หมวดจางปราดเข้ามาถาม

“เธอไปเอาหัวผักกาดกับหัวไชเท้ามากระสอบใหญ่เลยครับ”

“เอามาทำอะไรหรือว่าทำอาวุธฆ่าเชลย” ฉันกลัวใจของเธอจัง

“บ้า!” หมวดจางหันมาตีแขน 

เจ้าทหารเดินผิวปากกลับออกมา

“เธอกำลังปอกหัวไชเท้ากลางบ้านกับเชลยครับ”

“ฉันจะแอบดูได้ยังไง?” เธอชะเง้อมอง

แสงสุดท้ายลาลับไปแล้ว ความมืดปกคลุมทั่วบริเวณค่ายฯ เกาหลีเหนือเป็นประเทศของขุนเขาและสายน้ำ ความมืดจะเข้ากลืนกินพื้นที่มืดสนิท ดวงดาวบนท้องฟ้าสุกใสที่สุด

“มานี่ครับ!” ทหารเปิดบ้านข้าง ๆ ที่เคยเป็นบ้านพักของนายพลห่าวพาเดินออกหลังบ้าน

“ว้าว! ฉันยิ้มออกเลย หลังบ้านเป็นสนามหญ้าสามารถเดินหากันได้ ทหารยามนอกรั้วด้านหลังโบกมือจากป้อมไกล ๆ

“คูมอโย! สหายไปได้แล้ว” หมวดจางไล่ทหารแล้วก้มหลังวิ่งเลาะตัวบ้านไปที่หน้าต่างด้านหลัง ฉันเกาะชายเสื้อตามติด

“แหม! จังหวะดีจริง ๆ” เธอชะโงกมองเข้าไปภายใน สองหนุ่มสาวนั่งหันหน้าเข้าหากัน โดยมีกะละมังผักกาดขั้นกลาง

เสียงเพลง What a wonderful world @ Louis Armstrong คลอเบา ๆ จากเครื่องเล่นเล็ก ๆ บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เก้อเฉิงฮัมเพลงอารมณ์ดีมือก็ฉีกผักกาดขาวหัวใหญ่ไปด้วย ดูแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปรกติ แต่...

“ฉีกให้มันไว ๆ หน่อย ฉันไม่มีเวลามากนักหรอกนะ แล้วเพลงน่ะฟังจีนหรือเกาหลีไม่เป็นรึไง? ชอบเหลือเกินนะกับอเมริกา! เยวอนแว้ดหน้าหงิกใส่ เก้อเฉิงใบหน้านิ่งเรียบร้อยสงบปากสงบคำ

“ผมเป็นทหารอาชีพเอาปืนมาให้ผมซ่อมสิ! ใช้งานแต่ละอย่าง เฮ้อ!...” เขาส่ายหน้าระอาใจ เยวอนโดนตำหนิถึงกับชักสีหน้า...

“ทำไม มีอะไร?” เธอเงื้อหัวไชเท้า ยายนี่จุดเดือดต่ำมาก

“เปล่า?” เขาก้มหน้าสงบเสงี่ยม

ฉันอมยิ้มมองศัตรูสองหนุ่มสาวต่างชาติที่สวยและหล่อสมกัน ทั้งสองเหมือนคู่รักที่เคมีเข้ากันสุด ๆ เยวอนของฉันสวยมาก ไอ้ทหารจีนก็หน้าตาไม่เลวหุ่นดีมากและท่าทางไม่ใช่คนเลวสังเกตได้จากเพลงที่เขาฟัง น่าเสียดายที่ไม่ได้รักชอบกัน

หมวดจางพยักหน้าเบา ๆ ...“ไหนคุณบอกว่าเยวอนไม่ชอบไง นั่นมันเจ้าแง่แม่งอนชัด ๆ” เธอมองยังไงวะ?

เดี๋ยวก็ทะเลาะกันเริ่มแล้วไม่เห็นรึไง?” ฉันเถียงแน่เห็น ๆ กันอยู่

“ยายเด็กน้อยเอ้ย! คุณจะเข้าใจอะไรกับมารยาผู้หญิง?”

“หือ!” ฉันไม่รู้หรอกและไม่อยากจะเชื่อ รอดูต่อ

เสียงเยวอนตวาดจากในบ้าน...

“กินข้าวก็เยอะ โตแล้วต้องทำเป็นทุกอย่างสิ” เยวอนขู่เป็นหมาแม่ลูกอ่อนเลย มารยาตรงไหนวะ?

“............” เขาก้มหน้าฉีกผักกาดอย่างน่าสงสาร ผู้ชายอย่างนี้แหละที่ผู้หญิงต้องการ โดนด่าแล้วไม่เถียง

“ทหารเอาหนังสือมาเปลี่ยนให้รึยัง?”เธอโรยเกลือป่นแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากับหัวผักกาด

“เปลี่ยนแล้ว! เขาห้วนใส่ก้มหน้าก้มตาฉีกผักกาด

“ตอบไม่มีหางเสียง เดี๋ยวเอามีดเสียบซะเลย” เธอกระแทกกะละมังโครมใหญ่

“มีครับ!” เขาก็ยังเฉยเหมือนเดิมฉีกผักกาดอย่างเจียมตัว

“อ๋า!ประชดเหรอ?” เยวอนหาเรื่องนี่หว่า เธอคงเกลียดเขาจริง ๆ

เก้อเฉิงเงยหน้าจ้อง...

“เอาสิ! คุณขู่ผมทุกวัน ถ้าเกลียดมากอยากทำอะไรก็ทำเลย แทงเลย แทงสิ!

“อย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะ” เธอเงยหน้าจ้องตาเขียว หัวไชเท้าในมือสั่นระริก

“เอาสิ! กล้า ๆ หน่อย”

“ป๊อก! ไวเท่าความคิด หัวไชเท้าชิ่งหัวเก้อเฉิงกระเด็นออกมาตกข้างเท้าหมวดจาง

“สบายใจหรือยังเอาอีกสิ!”เก้อเฉิงยืดอก

“ผลัวะ! ผลัวะ!สองมือของเธอหยิบเศษผักปาใส่หน้าเขา สถานการณ์เริ่มเลวร้าย

“ผมไม่ยอมคุณแล้วนะ! เขาถลึงตาขู่

“อ๋า!...ตาแข็ง สู้เหรอไม่ยอมเหรอ?”เธอเอามีดชี้หน้า

“สู้สิ! มีอะไรรึเปล่า?” เขาขว้างหัวผักกาดใส่

“ขวับ! เธอตวัดมีดผักกาดขาดสองท่อน

“ห่ะ! ฉันใจหายวาบ ทำไมมารยาหญิงมันถึงเป็นอย่างนี้ทั้งหัวไชเท้าทั้งผักกาดขาวปลิวว่อน หันไปมองยายจางนั่งอมยิ้มสบายอกสบายใจ

เรื่องชักเลวร้ายเกินไปแล้ว ถ้าปล่อยต่อไปไม่ใครก็ใครต้องเจ็บตัวแน่ต้องรีบเข้าไปห้ามก่อนจะไม่ทันกาล ฉันลุกพรวด...

“ตึง! หัวกระแทกขอบหน้าต่าง แม่งเอ๊ย!!!

“อ้าก!!!! ฉันกุมหัวลงไปดิ้นร้องอยู่ในอก กะโหลกแตกป่าววะเนี่ย?

“ชู่ว! เงียบ ๆสิ” หมวดจางหันมาจุ๊ปาก

“ลูบหัวให้หน่อย เจ็บง่ะ” ฉันน้ำตาเล็ด มันจี๊ดไปทั้งตัว

ภายในบ้านเข้าขั้นวิกฤติ เก้อเฉิงสวมเสื้อกล้ามสีขาวกางเกงขาสั้นหุ่นบึกตั้งท่าพร้อมรับการโจมตี เยวอนในชุดทหารครึ่งท่อนพุ่งเข้าไปเสียบมีดอย่างไม่ลังเล

“ฮึบ! เขาก้าวเท้าซ้ายถอย เบี่ยงตัวหลบมีดแล้วผลักหลังเธอ

“ว้าย!เธอเสียหลักเซแซ่ด ๆ...

“โครม! กระแทกชั้นวางหนังสือทรุดลงไปกองกับพื้น

ฉันคุ้นกับการต่อสู้แบบนี้ เคยโดนยายจางเล่นงานมาก่อน /รู้ผลตั้งแต่เขาตั้งท่าแล้ว/ เยวอนกองกับพื้นนานผิดปรกติ

“หือ! เจ็บเหรอ?” เก้อเฉิงหน้าเสียก้มตัวลงไป...

“ควับ! เยวอนตวัดมีดเฉี่ยวท้องมองตาขวาง ขยับลุกตั้งท่าเตรียมจู่โจม ทหารสาวกัดริมฝีปากปาดเหงื่อบนหน้าผาก สายตาจ้องเขม็ง...

“วืด!! เธอตวัดมีดใส่ เขาถอยไปทางโซฟาริมผนัง

“ย้าก!! เธอพุ่งเข้าใส่ เขาเบี่ยงหลบแล้วตีข้อมือ...

“แคร๊ง!! มีดหลุดมือ แต่เธอไวมากคว้ากอดเอวแล้วดันถอยหลัง

“โคล้ง!เคล้ง! สะดุดกะละมังผักกาดกระจาย เขาเซไปล้มลงบนโซฟา...

“ตึง!เยวอนเสียหลักนอนทับร่างของเขา

“ฮึบ! เธอขยับจะลุกแต่เก้อเฉิงกอดเอวแล้วจ้องตา สายตาของเขาดูอ่อนโยน ฉันเห็นรอยยิ้มที่ดวงตาคู่นั้น

“ปล่อย! เยวอนสะบัดดิ้น

“ไม่!” เขากอดเอวดึงหน้าอกมาชนกัน เธอยกหัวตัวเองเบี่ยงหน้าหนี

“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ! เธอพยายามขัดขืนเธอ จมูกเกือบชนกันแล้ว

“อึ๋ย! ฉันลุ้นมือหงิกแล้ว /ชอบจริง ๆ กับการแอบดู มันเรียลดี/

“ผมยอมเพราะรู้สึกผิด คุณก็ยอมผมบ้างสิ พูดกับผมดี ๆ บ้าง ผมไม่เคยใจร้ายกับคุณเลยนะ”

“นายมายิงคนบ้านฉันทำไม หือ?”

“ผมตอบไปล้านรอบแล้ว ไม่ตอบแล้ว”

“คุณแค้นไป่ไป๋เซมเหรอที่เธอไม่ชอบคุณ?”

“ไม่เกี่ยวเลย อย่าลากเธอมาเกี่ยวข้อง”

“ไม่เกี่ยวข้อง เชอะ! ฉันเห็นเวลาเซมมาเยี่ยมคุณต้องดีใจทุกครั้ง” อ้าว!นี่มันอาการหึงนี่หว่า

“เพื่อนคนเดียวของผมมาเยี่ยม ถ้าผมไม่ดีใจผมก็บ้าแล้วล่ะ”

“เจียมตัวหน่อย! ใครจะเอานายไปทำพันธุ์” ยายนี่แขวะไม่เลิก

“มีก็แล้วกัน” เขาโน้มใบหน้าของเธอลงมาจนจมูกชนกัน ตาใกล้ตา ปากใกล้ปาก

“จูบเลย! เอาลิ้นแหย่เลย” ฉันลุ้นให้เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาว แอบเคลิบเคลิ้มลุ้นฟินไปกับเธอ สำหรับฉันแล้ว...ไม่มีอะไรที่ทำให้หัวใจสูบฉีดได้ดีไปกว่าการแอบดูคนบุ่มบุ๋มกันอีกแล้ว...

“โป๊ก!โดนเขกหัวซ้ำแผลเดิมอีก หมวดจางตวาดแว๊ด...“จับนมฉันทำไม?” /อูย!...จับนมหน่อยก็ไม่ได้ มันเจ็บนะเขกซะแรงเลย/

เก้อเฉิงดึงเยวอนลงมาบดริมฝีปาก สาวน้อยขัดขืนครั้งสองครั้งก็อ้าปากรับลิ้น ทั้งสองตกอยู่ห้วงอารมณ์จากเริ่มต้นอย่างนุ่มนวลเริ่มทวีความรุนแรง สาวเกาหลีเหนือสู้ไม่ถอยเสียงลมหายใจรัวเหมือนเครื่องยนต์กำลังสตาร์ท เก้อเฉิงพลิกตัวเยวอนนอนหงาย อะฮ้า!..โดนแน่เยวอนเอ๋ย...

“โพล้ง!! กะละมังกิมจิกระเด็น หัวไชเท้ากลิ้งหลุน ๆ

“ไอ๋หยา! ทั้งสองคนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม กระโดดแยกร่างนั่งคนละมุมโซฟา

ยายตัวร้ายเป็นคนขว้างหัวไชเท้าเข้าไป เธอหันมาเช็ดมือกับเสื้อของฉันแล้วเดินหน้านิ่งเข้าไปที่กะละมัง เสแสร้งก้มลงดูผัก...

“อ้าว! พวกคุณอยู่บ้านนี้กันเหรอ แล้วนี่!...กำลังทำกิมจิรึไง?” เธอทำเป็นไขสือ ฉันเดินตามทำตอแหลเข้าไป...

“หูย!!น่ากินจัง เยวอนเป็นไงมั่งสบายดีมั้ย?” ฉันสงสัยสุดขั้วว่ายายจางจะเล่นอะไร?

“ชุงซอง! เยวอนลุกยืน

“ตามสบาย! บ้านนายพลหลังไหน?” เธอเฉไฉไปโน่น

“ทำไมสหายถึงเข้าหลังบ้าน?” สาวเกาหลีตาคมระแวงสายตาประหม่ามีพิรุธมาก

ส่วนหมวดจางใบหน้านิ่งมาก ท่าทางแบบนี้เลยเวลาที่เธอจะเล่นงานฉัน ยายนี่วางแผนมาแล้วแน่ ๆเลย...

“ไอ้น้องทหารมันบอกว่าบ้านนายพลอยู่ในนี้ ฉันเห็นบ้านเปิดไฟเลยเดินมาดู ทำไม? มีอะไรเหรอ? ทำอะไรกันอยู่เหรอ? ขัดจังหวะรึเปล่า?” เรื่องกะล่อนนี่ต้องยกให้จริง ๆ ถ้ามาถามฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าจะตอบยังไง คอยดูต่อว่าเธอจะทำอะไรอีก?

“ไม่มี๊! เอาอะไรมาพูดไม่ได้ขัดจังหวะอะไรเลย” เยวอนก็ไม่เบาแถหนี

เก้อเฉิงก็หลุกหลิกหักนิ้วบีบมือตัวเองซะงั้น เงยหน้าที่เหลือ 2 นิ้วขึ้นมา...

“หนีห่าวมะผู้หมวด เกิดสงครามจีนเกาหลีแล้วเหรอ?” เขาเปลี่ยนเรื่องแต่พิรุธร่วงกราว

“อืม! เกิดแน่ นายจะสนทำไมเกลียดพวกเขานี่นา ใช่มะ?” เธอยัดคดีเฉยเลย

“ผมไม่ได้เกลียด ผมทำตามคำสั่ง” นายทหารหนุ่มก้มหน้า

“คำสั่งรุกรานคนอื่นที่นายต้องรับไปปฏิบัติ นายคงไม่รู้ถึงความคับแค้นและขุ่นเคืองของผู้รับกรรม ลองถามเยวอนสิ เธอรู้สึกยังไงนายอยู่ที่นี่มีใครสักคนไหมที่คิดร้าย?”

“ผู้หมวดครับ ผมเป็นทหาร”

“คงไม่มีใครเปลี่ยนใจนายได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนายก็คงไม่สนใจสินะ ใครจะเป็นจะตายก็ไม่สน ขอให้ได้ทำงานรับใช้เจ้านายชั่ว ๆก็พอ นายคงไม่ต่างจากพวกสอพลอที่ทำทุกอย่างเพื่อยศตำแหน่ง ฉันขอแนะนำว่านายอย่ามีความรัก และขอเตือนว่าอย่ามายุ่งกับเยวอนของฉันนะ” ยายจางเล่นแรงมาก

“...........” เขาก้มหน้าไม่เถียง เธอหันไปหาเยวอนที่ยืนแข็งเป็นหุ่นยนต์พิรุธเต็มตัว...

“เยวอน! สหายจูยอนสั่งให้ไปฝึกเดอะแก๊ง สหายไม่ต้องดูแลเชลยแล้ว พรุ่งนี้ไปรายงานตัวกับซอนเซมที่สนามมันกยองแด”

“เย่!” เธอยืดอกเชิดหน้า ฉันสงสัยจังเลยยายจางเล่นอะไร ยายนี่จะทำอะไรเพื่อนของฉันอีก ไม่เห็นรู้มาก่อนว่าจะย้ายเธอไปช่วยซอน

“เก้อเฉิง! ไป่ไป๋มาหามั่งมั้ย?” หมวดจางมองจ้องหน้าเขา

“มาบ่อยมากครับมาเยี่ยมท่านนายพล แล้วก็เลยมาคุยกับผมและเยวอนที่นี่ เธอดูเศร้า ๆ นะครับ”

“ไป่ไป๋เป็นคนดีมากรู้บุญคุณคน เพราะนายเคยทำดีเธอถึงได้ตอบแทนให้นายและนายพลรอดตาย เธอกลัวว่าจะเกิดสงครามและจะมีคนตาย ไป่ไป๋เป็นคนช่วยชีวิตทหารไว้มากมาย เธออยู่กับความเจ็บปวดมาตลอด”

…………”เขาก้มหน้าสลด 

“เธอขอให้ปล่อยนายกลับไปพร้อมท่านนายพล แต่ฉันเชื่อว่าถ้าปล่อยพวกนายกลับไป แทนที่นายจะสำนึกบุญคุณ นายอาจจะโกรธแค้นพาทหารกลับมาฆ่าพวกเราก็ได้ นายคงต้องการเป็นศัตรูกับพวกเราจริง ๆ” เธอมายัดเยียดความผิดให้เชลยทำไมกันนะ ยายนี่แผนเยอะจริง ๆ

“หมวดครับ! ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมก็อึดอัดใจนะครับ ผมชอบทหารมันเป็นความฝันของผม ผมรับรู้ว่าทุกคนที่นี่ดีกับผมมากเกินเชลยศึก พวกเขาไม่เหมือนกับศัตรูที่เคยพบ แต่ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับตัวเอง”

“บอกฉันหน่อยสิ! เราจะไว้วางใจกันได้ยังไง เราจะเป็นเพื่อนที่นั่งกินเหล้า หัวเราะและร้องไห้ด้วยกันได้ยังไง นาย ฉันและไป่ไป๋เป็นลูกจีนเหมือนกัน แต่เราไม่ใช่ลูกของหวังฉวน”

“เอ่อ!...ผมขอโทษไป่ไป๋ไปแล้วที่เคยทำให้เธอไม่สบายใจ ผมสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีกับทุกคนที่เป็นเพื่อนของเธอ” เขาหันมองหน้าเยวอนที่ยืนหน้านิ่ง

“แค่นั้นไม่พอหรอก” เธอเมินเชิดหน้า /ฉันล่ะหมั่นไส้เหลือเกิน เธอจะทำท่าอย่างนี้ตอนที่ชนะทุกครั้ง/

“ผมต้องทำยังไงอีก บอกมาสิ” เขาเริ่มลนลานแล้ว

“นายลบคลิปรึยัง?”

“ห่ะ! ฉันหูผึ่งเธอพูดอะไร ทั้งเราทั้งเชลยหันมองหน้ากัน เยวอนกัดฟันจนเป็นสัน

“ผมลบไปตั้งนานแล้ว ผมโดนลงโทษทุกวันสำนึกผิดทุกวัน เยวอนคงเกลียดผมมากด้วย แต่ผมพูดว่า ขอโทษไม่ได้” เขาทำอะไรกันไว้วะ คลิปอะไร?

“นายก็คิดเอาเองสิ ฉันขอตัวเยวอนคืนนะ คุณสมบัติของเธอสูงเกินกว่าจะมานั่งคอยดูแลเชลยใจหยาบอย่างนาย ถ้าเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปรกติ เยวอนคงได้เป็นนักดาราศาสตร์ตามความฝันของเธอ แต่มันก็หมายถึงจีนต้องไม่บุกเกาหลีหรือหวังฉวนต้องตาย”คำพูดของเธอเหมือนเอาเท้ายันหน้าเชลยออกไป

“เอ่อ!...

“นายรู้จักดอกเตอร์นาตาลีมั้ย?” เธอผายมือมาที่ฉัน

เขาหันมาโค้งศีรษะ

“หนีห่าวมะ! ดอกเตอร์ยังเด็กอยู่เลยนะครับ ใบหน้าเล็กนิดเดียวสวยมากเลยครับ” ไอ้หมอนี่พูดเข้าท่า ตาถึงนะเนี่ย

“นี่ก็เป็นอีกคนที่นายตามฆ่า ดูหน้าเธอสิ! ดูรูปร่างเธอสิ! คนอย่างนี้จะไปสู้ใครได้ แต่พวกนายก็เอากองทัพตามล่า ฉันไปก่อนนะ!” ยายนี่ควบคุมการเจรจาจนเขาไม่มีโอกาสตอบโต้ แล้วเดินไปหาเยวอนที่วันนี้เงียบผิดปรกติ

“เยวอนจะออกไปด้วยกันเลยมั้ย?” เธอกดดันทั้งสองคนอยู่หมัด

“ไปค่ะ!” เธอขยับเดินตาม เก้อเฉิงลุกพรวด...

“เยวอน!...”

“หือ!” เธอหยุดเดินหันมอง

“เมื่อกี๊ผมไม่ได้โกรธคุณนะ ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณจริง ๆ ถ้าผมทำอะไรผิดไปขอโทษด้วยนะครับ ว่าง ๆ มาเยี่ยมผมบ้างนะ” หือ! เมื่อกี๊เขาบอกว่าขอโทษไม่ได้ หมวดจางอมยิ้ม

“........” เยวอนสะบัดหน้าเดินออกไป

ฉันเดินเข้าไปหาเขา...

“เก้อเฉิง! อย่าทำสงครามกันเลยนะ พวกเราอยู่อย่างถ่อมตัวที่สุดแล้ว เราอยากจะมีเวลาออกไปช่วยคนข้างนอก เป้าหมายของเราไม่ใช่ต้องการรบกับจีน เราต้องการช่วยคน”

“เอ่อ! อย่าขอร้องเชลยอย่างผมเลยครับ ดอกเตอร์ให้เกียรติมากไป ผมตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย ผมทำอะไรไม่ได้จริง ๆ” เขาท่าทางท้อ

“อยากกลับบ้านหรือเปล่า ฉันจะลองคุยกับแอนนาให้นะ ถ้านายได้กลับไปก็ขอให้เว้นเกาหลีด้วยนะคะ ไปก่อนนะคะ” ฉันได้ระบายความในใจออกไปก็รู้สึกตัวเบาขึ้น

หมวดจางทำหน้าที่ขับรถเหมือนเดิม เธอขับช้า ๆ เลาะขอบสนามฟุตบอลไปบ้านพักนายทหารหญิง ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าเธอต้องการอะไรกันแน่

“เยวอน! อยากไปหรืออยากอยู่ที่นี่?” ยายจางเริ่มอีกแล้ว ยายแม่มดใจร้ายหลอกให้มารักกันแล้วจับแยกซะงั้น แล้วก็เสือกแยกตอนเข้าได้เข้าเข็มซะด้วย

“แล้วแต่คำสั่งค่ะ ถ้าผู้บังคับบัญชามองเห็นความสามารถแล้วเรียกใช้ถือว่ามีเกียรติมากค่ะ” เป๊ะมากแม่นักรบเกาหลี...พิรุธทั้งนั้นเลย

“ตอนนี้ไม่มีใครแล้วพูดแบบกันเองก็ได้นะ ไม่ต้องเกร็งทำอะไรผิดมาเหรอ วันนี้ทำไมเธอดูแข็งจัง นอนตกหมอนเหรอ?” ยายจางจี้ทุกจุด ต้อนทุกดอก

“เอ่อ...เปล่าค่ะ?” เยวอนอึกอักหลบสายตา

“บ้านพักอยู่ไกลเหมือนกันนะ คืนนี้จะนอนที่นั่นรึไงมืดแล้วก็ยังไม่กลับบ้านกลับช่อง เดินมืด ๆ เดี๋ยวงูกัดตายหรอก” เธอพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันรู้ว่า...มีแน่

“เปล่าค่ะ! เสร็จงานก็ให้ทหารมาส่ง” เธอคงประหม่ามากที่โดนต้อนนั่งเกร็งเอียงพิงประตู ยายจางซะด้วย...เธอไม่มีทางรอดหรอก

“ที่บ้านพักทหารไม่มีเพื่อนเหรอ เลิกงานแล้วไม่กินโซจูกับเพื่อนเหรอ?”

“มีค่ะ! แต่ฉันไม่อยากกินเหล้า”

“เก้อเฉิงคงเหงาอีกนานไม่มีคนทะเลาะด้วยแล้ว ถึงมันจะกลับใจพวกเราก็คงไม่สนิทใจอยู่ดี มันเป็นนายทหารซะด้วย! ฉันอาจจะให้เจ็ทโด้เซมสั่งยิงเป้าเขาเร็ว ๆ นี้” เธอหวังผลแน่กับการพูดแบบนี้

เยวอนหันขวับตาถลน...

“ฮื้อ!เขาก็นิสัยดีนะคะ ด่าก็ไม่โกรธสั่งให้ทำอะไรก็ทำ ถ้าแอนนาอนนี่ให้เวลาเขาอีกสักหน่อยเขาอาจเปลี่ยนใจก็ได้ ฉันคิดว่าเขาก็เป็นคนดีนะคะ สุภาพด้วย” เธอเริ่มคายออกมาแล้ว

“ใครจะเปลี่ยนใจมันได้นอกจากไป่ไป๋เซม ซึ่งเธอก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่มีเหตุผลที่เธอต้องเสียสละคนรักมาช่วยมัน” ยายจางเชิงสูงกว่าเยอะ

“แต่ทั้งสองก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแล้วนะคะ ไป่ไป๋เซมสนิทกับเขามากกว่าเมื่อก่อนอีก เอาเสื้อผ้ามาฝาก เอาขนมมาให้กิน ฉันเห็นว่าเขาไม่ได้บ้าบอแล้วให้ฉันทำต่อก็ได้นะคะ ฉันจะกล่อมเขาเอง” เยวอนติดเบ็ดไปอีกคน

“ได้ยินว่าเธอทะเลาะกันบ่อย ฉันขอโทษนะไม่น่าส่งเธอมาเลย นาตาลีก็ไม่สบายใจที่สหายอึดอัดใจ อย่าเสียเวลาเลยฆ่าแม่งทิ้งไปดีกว่า” แน่ะ! โยนมาให้ฉันอีก เยวอนลนลานหันมาเกาะแขนของฉัน...

“พัคอนนี่! อย่าฆ่าเขาเลยนะคะ เอาไปขังคุกก็ได้”

ยายจางสวนทันที...

“ชอบเขาเหรอ ออกตัวเยอะเลยนะ?” นั่นไง! โดนแล้ว

“เปล่าซะหน่อย! แล้วสะดุ้งทำไม บิดตัวทำไม หน้าแดงทำไม?

“จริงเร้อ?” ฉันช่วยต้อน

“ใครจะชอบก็ชอบไปเถอะ ฉันไม่ได้ชอบค่ะ”แล้วเธอจะหยิกขาตัวเองทำไม มือไม้อยู่ไม่สุขเลยนะ

หมวดจางยิ้มได้กวนตีนที่สุด...

“แปลกนะ! แทนที่จะทำกิมจิที่บ้านพักตัวเองมีเพื่อนช่วยเยอะแยะกลับไปนั่งทำที่นั่น ทั้ง ๆ ที่ไอ้เชลยก็ช่วยอะไรไม่ได้”

“เขาก็ต้องกิน เลยให้เขาช่วย” เยวอนหันหนีมองไปนอกรถ

“ทำไมในบ้านมันถึงเละอย่างนั้น เมื่อกี๊! ปล้ำกันเหรอ?” หมวดจางปล่อยหมัดตรงเข้าเป้า

“เปล๊า! เยวอนเสียงสูงปรี๊ด คอแข็งไม่ยอมหันหน้ากลับ...

“เขาเดินสะดุดกะละมัง ใกล้จะถึงบ้านพักฉันแล้วค่ะ” เธอขยับหันหลังให้หมวดจาง ในใจ...คงอยากจะกระโดดหน้าต่างรถหนีสินะ

“ปากไปเลอะอะไรมา เหมือนน้ำลายอย่างนั้นแหละ?” หมวดจางปล่อยหมัดที่สอง

เยวอนเด้งยกไหล่ปาดปาก...

“ไม่มี๊! เสียงสูงหนักเข้าไปอีกลูบปากใหญ่เลย แต่ก็ยังไม่ยอมหันกลับมา

“ไม่ชอบก็ดีแล้ว อีกไม่กี่วันสหายจูยอนจะไปพบกับประธานาธิบดีของจีนจะเอานายพลห่าวไปคืน ส่วนเก้อเฉิงคงต้องยิงทิ้ง” ยายจางอย่างปั่น เธอหันขวับ

“แอนนาอนนี่จะยิงทำไมคะขังไว้ก็ได้ คนเคยเห็นหน้ากันพอรู้ว่าเขาจะต้องไปตาย มันสงสารใจมันหาย สายตาของเขามันหลอกหลอน” เธอหันไปเกาะแขนหมวดจาง

“เอาอย่างนั้นเหรอ?”

“อย่างนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ ฉันคุมได้ ฉันจะจัดการเขาเอง”

ยายตัวร้ายอมยิ้ม...

“ฉันจะลองคิดอีกทีนะ เธอมาเยี่ยมเขาบ่อย ๆ ก็แล้วกันมันอยู่ที่วาสนาของเขา แล้วอย่าบอกมันล่ะว่าฉันสั่งยิง ถ้าขัดคำสั่งเธอติดคุกหัวโตแน่” ยายจางขู่ฟ่อ

“ได้ค่ะ! ฉันรับปาก ถึงบ้านแล้วค่ะ” เยวอนยิ้มมีความหวังแล้วก้าวลงไป ท่าทางของเธอเหมือนคนโล่งอกยิ้มค้างพิรุธเต็มไปหมด แต่ไม่รอดสายตาของหมวดจางหรอก เรื่องการเล่นงานคนเธอไม่เป็นรองใครเลย ฉันเริ่มมองเห็นแล้วว่าต่อไปอะไรจะเกิดขึ้นกับทั้งสองคนนี้

หลังจากขับรถออกจากค่ายฯ เธอหันมายิ้มอย่างผู้ชนะ...

“คนมักแสดงความรักแตกต่างกัน บางคู่เหมือนลูกหมาขี้เล่นดูแล้วน่ารักเพลิดเพลิน แต่คู่ของเยวอนมันเป็นลูกแมวเหมือนหนังสงคราม”

“สองคนนั้นรักกันแล้วเหรอ?”

“ฉันรู้ตั้งแต่ คุณบอกว่าพวกเขาทะเลาะกันแล้ว” เธอยักคิ้วอย่างคนเหนือชั้น

“ทะเลาะนี่นะ?” ฉันดูโง่ไปเลย

“อื้อ! นิสัยของแมวก่อนมันจะผสมพันธุ์กัน มันจะกัดกัน คู่นี้ก็เหมือนกัน ผัวเมียหลายคู่ก็ทะเลาะกันหนักมาก แต่ไม่เลิกกันเพราะอะไร?”

ฉันแอบคิด...จริงรึเปล่าวะ ยายนี่ชอบอำ

“แล้วคุณจับแยกทำไม?” อันนี้น่าโมโหแทนทั้งสองคน กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มซะด้วย

“นี่แหละ! เป็นจุดหักเหของเรื่อง คู่รักที่มีอุปสรรคมักจะฝ่าฟัน พวกเขาจะเปิดปากพูดความในใจกันเอง เก้อเฉิงไม่ใช่คนเลวหรอกลูกน้องนายพลห่าวอู๋โหดก็จริงแต่ทุกคนก็เก่งและจิตใจดี ยกเว้นซีชาน ตัวท่านนายพลเองก็เป็นผู้ใหญ่ใจดี แต่ไม่รู้ทำไมถึงยอมไปทำงานกับหวังฉวน?”

“แล้วมันจะไม่หักหลังเราเหรอ?”

“มันอยู่ที่เราแล้วว่า จะวางตัวกับเขายังไง?”

“แล้วจะต้องวางตัวยังไง?”

“งานนี้เป็นงานของฉัน คุณไม่ต้องรู้หรอกกลับไปให้ไป่ไป๋มันบ่นเถอะ คุณก็ทิ้งน้องไปเลยปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่สงสารหรือไง?” ยายจางรักไป่ไป๋มากเข้าข้างกันตลอด

“ฉันปล่อยให้เธอดูแลแทน เหงาตรงไหน?”

“ผัวคุณก็ไม่อยู่บ้าน แปลกคนจริง ๆ เชียวมีเมียสวยตั้งสองคนปล่อยให้นอนเหงา ตัวเองกลับไปนอนกับทหารตามชายแดนซะอย่างนั้น ชอบผู้ชายหรือไงวะ ฉันหาผัวใหม่ให้เอามั้ย?” เอาแล้ว มาอีกแล้ว! ฉันเหล่มองอย่างระแวง คิดในใจ...คงถึงคิวฉันแล้วสินะไม่มีใครบนรถแล้วนี่...

“จะพาฉันไปแอฟริกาเหรอ ไม่ต้องแล้วล่ะฉันเอาช็อกโกแลตแท่งจากญี่ปุ่นมาฝากคุณแล้ว”

“อะไรของคุณ?” เธอขมวดคิ้ว

“ดิลโด้ไงล่ะ ฉันเอามาเป็นกระสอบเลย ฝากเยวอนไว้”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ฉันไม่เอา! ดอกเตอร์มีชู้ ฉันจะบอกแทน ไป่ไป๋รู้รึยัง?” ยายตัวแสบไม่เล่นกับฉันแค่สองคน เอาครอบครัวฉันมาเกี่ยวทำไม?...

“รีบไปเถอะ! ฉันมีเซอร์ไพรส์จะบอกกับทุกคน” ฉันตัดบทเลิกคุยดีกว่าเถียงไปก็สู้ไม่ได้ เดี๋ยวเธอเอาเรื่องนี้ไปบอกกับแทน อายตายเลย อุตส่าห์แบกมาตั้งไกลไม่มีคนเล่นด้วยซะงั้น

ทุกอย่างต้องพึ่งพิงกาลเวลา สงครามก็กำลังจะเริ่ม ความรักก็กำลังจะผลิบาน ถ้าสงครามและความรักไปพร้อมกันได้ก็ดี ในสงครามมักจะมีผู้แพ้ แต่ความรักต้องเสมอกัน

………………………………………………….

หมู่บ้านกีจองดอง

“เอี๊ยด...ดด!!

แทนรีบวิ่งยิ้มหล่อละลายใจลงจากอาคารเข้ามาหา เมื่อรถยนต์จอดหน้าลานเสาธง...

“นาตาลีโกโพชิบพอ” แค่ได้ยินคำว่าคิดถึงจากแทนก็ปลื้มแล้ว เขามาเปิดประตูแล้วอุ้มไว้ในอ้อมแขน หมวดจางหันมายิ้มยักคิ้วให้ก่อนจะเดินหลีกเข้าไปในอาคาร

“หายตัวเป็นนิจเลยนะ จะไปไหนบอกกันก่อนสิ ไป่ไป๋บ่นหูชาเลย” เขาก้มลงมาหอมแก้ม จั๊กจี้หนวดเป็นบ้า

“บอกก่อนก็ไม่ได้ไปสิ ทำไมคุณไม่มานอนเป็นเพื่อนไป่ไป๋บ้าง น้องเหงานะ”ฉันนอนยิ้มสบายใจความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ก็ต่อชีวิตของฉันได้แล้ว

“อนนี่! ไป่ไป๋วิ่งหน้าตั้งออกมา

“กลับมาแล้วทำไมไม่มาหาหนู ชอบทำให้เป็นห่วงตลอดเลยนะ หนูก็คอยทุกวันได้ข่าวว่าญี่ปุ่นโดนถล่มก็ใจไม่ดี อนนี่ไม่เคยรักหนูเลย ตั้งใจรึเปล่าเนี่ย? ตั้งใจจะหนีกันใช่มั้ย?” ยายน้องปากจู๋เข้ามาลูบไล้ตามลำตัวอย่างห่วงใย

เขาวางฉันลงแล้วดึงไปกอดนิ่งนาน

“อย่าเสี่ยงอันตรายนักนะครับ เราอยู่ไม่ได้นะถ้าไม่มีคุณ”

ไป่ไป๋เข้ามากอดด้วยอีกคน...

“หนูจะไม่ทำงานที่นี่แล้วนะ หนูจะตามอนนี่ไปทุกที่ไม่ให้ไปไหนคนเดียวแล้ว หนูจะขอตั้งกฎ!

“หือ! ฉันกับแทนหันมองหน้ากัน เอาอีกแล้วเจอกฎของฮองเฮาอีกแล้ว

“อ้าว! ไม่หาไอดอลแล้วเหรอคะ?” ฉันลากไปเรื่องอื่น

“ช่างเถอะ! ถ้าเขามีวาสนาก็ได้เจอกับหนูเอง ถ้าหนูมัวแต่ไปหาไอดอลแต่ต้องเสียอนนี่ไปหนูไม่ยอม แลกกันไม่ได้”

“อย่าคิดเลวร้ายอย่างั้นสิ ไปกันเถอะผู้ใหญ่รออยู่” ฉันรีบโมเมพาเดิน ผ่านกลุ่มน้อง ๆ ที่ยังทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง คนป่วยนั่งจับกลุ่มคุยกัน

“หยุดก่อน!” ไป่ไป๋จับมือของเราสองคนให้หยุดก่อนเข้าห้องอาหารใต้ถุนคอนโดมิเนียม...

“หนูยังไม่ได้บอกกฎเลย” เธอหน้าตึงเม้มริมฝีปากท่าจะเอาจริง

“เอ่อ! ไม่ต้องมีไม่ได้เหรอ?” แทนท่าทางกระอักกระอ่วน

“ไม่ได้! หนูใจดีกับทั้งสองคนมากไปแล้ว เที่ยวกันเป็นคนโสดเลยนะคะ คนที่ต้องทำงานอยู่กับที่อกจะระเบิดมันเป็นห่วงนะคะ” เธองอนหน้าหงิก

“...........” แทนก้มหน้าเงียบปาก ฉันก็ไม่กล้าขัดใจ

“กฎง่าย ๆ แค่ 2 ข้อ” เธอหันมองเหมือนเราสองคนเป็นลูกศิษย์

1. จะไปไหนต้องบอกหนูก่อนและ 2.ต้องมีคนใดคนหนึ่งนอนกับหนูทุกวัน ห้ามไปนอนที่อื่นกันอีก” เธอจ้องหน้าทีละคน

“ออรัสซอโย!” ฉันเสียงอ่อย แทนดึงเธอมากอด...

“พวกเราก็ทำงานในเกาหลีนี่แหละ ไม่ได้ไปไหนหรอก ถ้าไม่ช่วยกันก็เท่ากับเอาเปรียบเพื่อน”

“ไม่รู้ล่ะ! หนูจะรอทุกวัน ถ้าไม่กลับหนูจะตามจิกหนูจะโวยกับสหายโก หนูจะไปไปไลฟ์สดตอนเช้ากับจูยอน เตรียมตัวอายกันได้เลย” เธอคงโกรธจริงหน้าไม่ยิ้มเลย

“ออรัสซอโย!” แทนกุมท้องโค้งหัวพาเดินเข้าห้องอาหาร

พี่น้องทุกคนกลับจากงานมานั่งพร้อมหน้าบนโต๊ะกลม พร้อมด้วยอาหารหลากหลาย โดยเฉพาะเครื่องเคียงแค่เห็นก็อิ่มจนจุกแล้ว จูยอนนั่งยิ้มตาหยีขยับตัวลำบากมากขึ้นทุกที ท้องใหญ่มาก ซอนหันมายักคิ้วยิ้มแก้มบุ๋ม ฉันขยิบตาให้

พวกเรารีบเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ว่าง จูยอนทักซอนเป็นคนแรก...     

“ซอนคะ! ทีมคุณสนุกมากเลยนะ สร้างสีสันดีพวกเด็กสาว ๆ ชอบมาก ทำงานกันสนุกและไม่เหนื่อยเลย” เธอนั่งยิ้มใจดีดวงตาประกายข้างเจ็ทโด้ที่อุ้มน้องแทนไว้บนตัก 

ถัดมาเป็นหมวดจาง-ซอน-แทน-ไป่ไป๋-ฉัน-อีซูมิน-จูยอนนั่งกันเป็นวงกลม ซอนเงยหน้า...

“วันไหนว่างไปดูที่สนามบอลสนุกกว่านี้อีก พวกเขาเล่นโดรนกันเก่งมากใครแพ้วิ่งรอบสนามวุ่นวายกันทั้งวัน” ซอนบอกแล้วตักข้าว ทุกคนใบหน้าอิ่มเอิบเบาใจที่กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตา

หมวดจางหันไปหาซอน...

“ป๊า! ช่วยเอาคิมเยวอนไปทำงานด้วยนะ มีงานอะไรให้เธอทำบ้าง เอาแบบที่มีเวลาว่างเยอะ ๆ นะ” ยายตัวร้ายแสบจริง ๆ

“ดีเลย ผมกำลังหาคนสอนโปรแกรมเสียงให้เด็ก ๆ มาช่วยอุงอิลก็ดีเหมือนกัน” ซอนรับเยวอนทำงานก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเธอมาก

ฉันแอบตัดสินใจคนเดียวจะอาศัยอยู่ที่นี่ฉันชอบชาวเกาหลีเหนือ พวกเขาน่ารักอบอุ่นใจดีไร้เดียงสาและจริงใจเหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ เวลาเดินไปทางไหนก็มีแต่พี่น้อง มันเป็นสิ่งที่ฉันฝันมาตลอดชีวิต ฉันใช้ชีวิตตัวคนเดียวในวัยเด็กกว่าที่จะผ่านมันมาได้ช่างแสนยากลำบาก เหงาจับใจเหลือเกิน

จูยอนพี่สาวคนสวยหันมา...

“มีอะไรหรือเปล่าคะคนเก่ง จากนี้ไปต้องขออนุญาตก่อนเดินทางนะคะ สงครามเกิดแล้ว ฉันติดต่อไปด่าซีชานซะยับเลย เขาบอกว่าไม่ได้ส่งเครื่องบินไปญี่ปุ่น หน่วยลาดตระเวนมันเจอมนุษย์ก็ตามไล่ยิงตามปรกติ”

“ค่ะ!ฉันซวยเอง” ผ่านมาจนถึงวันนี้ ฉันศรัทธาเธอเต็มหัวใจจากสองมือเล็ก ๆ และหัวใจที่แข็งแกร่ง เธอสร้างประเทศของเธออย่างเงียบ ๆ หมวดจางก็คิดไม่ต่างจากฉันเราวางใจในตัวผู้นำมาก

“อยากเห็นหน้าน้องนีน่าแล้ว จะคลอดเมื่อไหร่คะ?” ฉันจะได้สมาชิกของครอบครัวอีกคนที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่นาน

“อีกเดือนกว่า ๆ ค่ะ ฉันก็นับวันรอเลย”

น้องแทนกางแขนกอดท้อง...

“นีน่า!ของเค้า” เอาแล้วเจ้าตัวแสบ

หมวดจางหันไปหาลูกชาย...

“ของนายหมดเลยนะ มิน! ลี! แล้วไป๋ล่ะ! จะทิ้งแล้วเหรอเบื่อล่ะสิ! เดี๋ยวนี้มีสาว ๆ คนใหม่เยอะเลยนะ” เธอย่นจมูกใส่หน้าลูก

เจ้าตัวเล็กตาโต...

“ไม่ทิ้งหรอก! ป๊าสั่งไว้ไม่ให้ทิ้งผู้หญิง” เขายิ้มตาใสพยักหน้ารัวรัว

ซอนเสนอหน้า...

“ลูกผม!!” เขาหน้าบาน หมวดจางหันไปยิ้มให้ผัว...   

“ป๊า! วันนี้นอนไวหน่อยนะ สอนลูกดีจังเดี๋ยวให้รางวัล” เธอแทะน่องไก่ตุ๋นโสม /ยายนี่บำรุงนมน่าดู/

ไป่ไป๋หน้าตาบ้องแบ้วเงยหน้ายิ้มให้น้องแล้วหันไปบอกกับทุกคน

“คืนนี้!เราไปนอนที่หมู่บ้านด้านหลังกันนะคะ หนูเตรียมไว้ให้หลายหลังเลยค่ะ หนูนอนมาหลายคืนแล้วก็สบายดีนะคะ พื้นอุ่นดีด้วย ตอนเช้ากลิ่นทุ่งดอกไม้หอมมาก”

น้องแทนดิ้นดีใจ....

“เย้!...วันนี้เค้าได้นอนกับไป๋แล้ว”

“เคล้ง!ไป่ไป๋ช้อนหลุดมือ...

“โน้โน!! โน้โน!!ร้องห้ามเสียงหลง

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! พวกเราหัวเราะลั่น น้องแทนเกาหัวหันมามองหน้าฉันรีบหลบสายตา เดี๋ยวงานเข้านาน ๆ จะได้นอนพร้อมกันสักที

“เค้านอนกับลีก็ได้” เขาปีนไต่ลงมาหาฉัน สงสารน้องจังเลยมาไม่ถูกจังหวะ

“โน้โน!! โน้โน!! ฉันโบกมือ

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!

“ใจร้าย! น้องแทนนอนกับออมม่านะคะ นอนกับน้องนีน่าดีกว่าเนอะ” จูยอนรู้งาน

“ไม่รักแล้ว!” น้องแทนหน้าหงิกบ่นพึมพำเดินไปหาจูยอน ไป่ไป๋ยิ้มกว้างเอนหัวซบไหล่ของแทน

หมวดจางยิ้มได้กวนใจมากมองจิกมาแล้วยักคิ้ว แอบคิดในใจ...อย่าพูดอะไรเลยนะ ขอร้อง...

“ยายเหน่งเหมาแน่” นั่นไง!เสียงเธอกวนประสาทมาก มองด้วยสายตาอย่างนี้ฉันเงียบดีกว่า

ซอนชะโงกหน้าไปหาลูกชาย...

“ไม่คิดจะมานอนกับป๊าม้าบ้างเลยเหรอ?” ซอนแหย่ลูกชาย น้องแทนหันมามองหน้าซอนแล้วขมวดคิ้ว...

“ป๊าขยันทำงานหน่อยนะ เค้าไม่เคยเห็นเลย” เจ้าตัวน้อยพูดเก่งขึ้นทุกวันซุกหน้าเข้าอกเจ็ทโด้เรียกรอยยิ้มทุกคน

“กูไม่น่าเล่นเลย” ซอนก้มหน้าบ่นอุบ

บรรยากาศบนโต๊ะมีแต่รอยยิ้ม ฉันแอบมองใบหน้าของแทนสุดหล่อของฉันหนวดเคราขึ้นครึ้มอีกแล้ว เราไม่ได้เจอกันเลยต่างคนต่างทำงานไปกันคนละทิศคนละทางเห็นหน้าแล้วแสบตาเปรี้ยวปาก ฉันอาจจะโรคจิตก็ได้ชอบมองเวลาเขากระหน่ำยายเหน่ง ปั้บ!ปั้บ!ปั้บ! ถึงใจมากทั้งคู่เหมาะสมกันดี ผู้ชายก็หล่อผู้หญิงก็สวยอยากให้ทั้งสองรักกันมาก ๆ มีลูกเยอะ ๆ ฉันจะเลี้ยงเอง.

พึ่งคิดขึ้นมาได้ มีเรื่องที่ต้องปรึกษากับทุกคนนี่นา จัดการเลยก็แล้วกัน...

“แก๊ง!แก๊ง!แก๊ง! ฉันเคาะแก้วเรียกร้องความสนใจ ทุกคนเงยหน้ามอง

“ปรึกษาหน่อยค่ะ สหายโกขอให้ฉันช่วยติดต่อน้องซูมิน ทุกคนเห็นว่ายังไงคะ?” ฉันอยากจะเพิ่มสมาชิกครอบครัว เจ็ทโด้หันมามองตาเขียว อีตานี่! ข้องใจฉันอีกแล้ว...

“ไร้สาระ! เมื่อไหร่จะหยุดสร้างเรื่อง สงครามจะกินหัวอยู่แล้ว” เจ็ทโด้โวยใส่หน้า

“.........” ทุกคนเงียบกริบ

“ของอย่างนี้ผู้ชายต้องเป็นคนแสดงเอง ความรักเป็นสิ่งสวยงามต้องใช้เวลาค่อย ๆ สร้างมันขึ้นมา เพราะต่อไปมันจะเป็นประวัติศาสตร์ของคนสองคน ภูมิใจนักเหรอที่จะบอกกับลูกว่าพ่อขอให้เพื่อนบังคับแม่มาแต่งงานด้วย” เขาจ้องหน้าดุฉันคนเดียว/ฉันไม่ได้หมายความว่ายังงั้นสักหน่อย/

“มันจะใช้เวลานานแค่ไหนเขาก็ต้องรอ มันจะยากเย็นแค่ไหนเขาต้องคุยเอง ไม่มีเด็กเส้น!” อูย! เส้นเต็มหน้าฉันเลย

“เขาต้องฝ่าฟันและต้องชนะใจอีซูมินด้วยตัวเองสิ ผมไม่เห็นด้วยที่จะยัดเยียดให้กันง่าย ๆ แบบนี้ ว่างมากนักนะคุณน่ะ!” พอพูดก็ด่าฉันเลยนะ เขาวางช้อนหันมองอีซูมินที่นั่งก้มหน้านิ่ง

ซอนหันมา...

“ความสวยงามของความรักมันต้องมีเรื่องราว เขาต้องใช้เวลาเพื่อสร้างความผูกพันจะได้รู้สึกรักและหวงแหน สำหรับอีซูมินผมก็มีส่วนช่วยให้เธอมีวันนี้นะครับ เธอก็เป็นลูกสาวของผมเหมือนกัน” แหม..ปากดี! หมั่นไส้เหลือเกิน ซอนเองก็โดนหมวดจางจับทำผัวยังมีหน้ามาพูดเรื่องความรัก ตบสักทีดีมั้ย?

“ผมไม่เห็นด้วยที่จะหาทางด่วนให้ความรัก อีซูมินยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างอื่นอีกมากมาย น้องยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ” ซอนวางช้อนอีกคน

แทนเงยหน้า...พ่อรูปหล่อของฉันจะว่ายังไงนะ หมอนี่! ก็ทื่อเป็นสากกะเบือเลย ถ้าฉันไม่พลีชีพก็ไม่ได้มาเป็นครอบครัวเดียวกัน...

“ผมเห็นด้วย! สหายโกเป็นคนสะอาดทั้งร่างกายและจิตใจ ผมอยากได้เขามาเป็นสมาชิกครอบครัว อีซูมินจะได้ไม่เหงามีแฟนก็เรียนรู้ได้ มีลูกตั้งแต่อายุน้อยจะได้อยู่เป็นเพื่อนแม่นาน ๆ จะได้โตทันกัน เป็นเพื่อนกัน” แทนกินข้าวต่อไม่วางช้อน ฉันดีใจที่เขาเข้าข้างหันไปหาคนต่อไป...

“ไป่ไป๋ว่ายังไงคะ?” ลองถามยายเหน่งหน่อยสิ เธอจะคิดยังไง?

“หนูว่าซอนพูดถูก เราต้องมีเวลาผ่านเรื่องทั้งดีและเลวร้ายมาด้วยกัน เวลาที่เราได้อยู่กับคนรักมีความสุขอย่างไรและเมื่อเสียคนรักไปรู้สึกอย่างไร มันทำให้ชีวิตมีความหมายดีค่ะ” ไป่ไป๋ตอบแล้ววางช้อนไม่เห็นด้วย/ยายนี่เข้าข้างซอนทุกเรื่อง/

ฉันถามรายต่อไป แต่พอเห็นหน้าแล้วไม่อยากถามเลย...

“หมวดจางคะ!” ฉันยักคิ้วให้พอจะเดาคำตอบของยายนี่ได้ เธอหันมาตาเขียวตวาดเสียงดัง...

“แอนนา! เมื่อไหร่จะเรียกฉันแอนนาสักที” เธอเอาช้อนชี้หน้า

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ฉันหัวเราะกร้าก “ขอโทษลืมค่ะ! คุณแอนนามีความเห็นอย่างไรคะ?”

“จะเสียเวลาไปทำไม ผู้หญิงอยากรู้อยากลองอยู่แล้วจะได้หมดเรื่องคาใจ ไม่ต้องมาตะกายเต็นท์อยากรู้อยากเห็นเหมือนใครบางคน ซูมิน! ชอบหรือเปล่าล่ะ? ถ้าชอบก็ใส่เลยไม่ดีไม่ได้ค่อยเปลี่ยนตัว ความรักมาทีหลังก็ได้ ฉันไม่มีความเห็น โหวตโน!” เธอแหกคอกแถไปโน่น

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! กะแล้วเชียว ฉันขยับจะถามพี่สาวคนโต แต่อีซูมินสะอึกสะอื้นขึ้นมา

“...........” ทุกคนหยุดเงียบมองน้อง ฉันลูบแขนน้องเบา ๆ…

“ซูมินเป็นอะไรคะ ร้องไห้ทำไม?”

“หนูอยากอยู่กับอนนี่ หนูไม่เคยมีครอบครัวและคิดว่าทุกคนเป็นครอบครัวของหนู อย่าไล่หนูไปเลยนะคะใช้ให้หนูทำอะไรก็ได้ หนูอยากตามไปอยู่ด้วยทุกที่เลย ฮือฮือ!” น้องสะอื้นร้องน่าสารน้ำตาไหลพราก

“ถ้าหนูแต่งงาน หนูก็ต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป หนูจะตามหาอนนี่เจอได้ยังไงให้หนูเลี้ยงน้องให้ทุกคนนะคะ หนูขอเป็นคนรับใช้ก็ได้แต่อย่าไล่หนูออกไปเลย ฮือฮือ!” อีซูมินน้ำตานองหน้ามองไปทีละคน

“เฮ้ย! คิดไกลไปแล้ว!” ฉันใจเสียลุกไปกอดแล้วลูบหัวน้องเบา ๆ  ฉันทำร้ายจิตใจของเธอหรือเปล่านะ?

“อย่าเข้าใจพวกเราผิดสิคะ พวกเราไม่ได้บังคับเลยเพียงแค่ลองถามความเห็นดู สหายโกเขาชอบเธอฉันก็เห็นว่าเขาเป็นคนดี ถ้าเธอไม่ชอบจะไม่มีการบังคับ อีกอย่างนะคะ! พวกเราไม่ได้คิดจะไปอยู่ที่อื่นหรอก” ฉันลูบหัวน้องปลอบใจ/ขอโทษนะที่ทำให้เข้าใจผิด/

อีซูมินเงยหน้าน้ำตานอง...

“หนูขอร้องทุกคนเลยนะคะ หนูยังสนุกกับงานที่ได้รับมอบหมาย หนูไม่อยากละสายตาจากงานค่ะ หนูอยากจะเก่งงานไม่มีอารมณ์ไปรักใครทั้งนั้น หนูเป็นห่วงพวกเลื่อนลอยที่ตายลงทุกวัน หนูช่วยพวกเขาไม่ทัน” พอสิ้นเสียงของเธอ ...

Yes! เจ็ทโด้กับซอนเด้งตีมือกันแล้วปรบมือลั่นยกนิ้วโป้งให้น้อง

จูยอนลูบท้องยืดตัว...

“เราเคารพการตัดสินใจของน้อง ขอให้พวกเราอย่ากดดันนะคะ อีซูมินคะ! พวกเราจะเป็นครอบครัวของเธอไปตลอดกาล น้องดิ้นจังเลย” เธอลูบท้องบ่อย ๆ เจ็ทโด้หันมองจ้องหน้าอีซุมิน...

“ซูมิน!เดี๋ยวอิ่มแล้วมาหาผมหน่อยนะ มีเรื่องจะปรึกษา”

“ค่ะ!” อีซูมินเช็ดน้ำตายิ้มหน้าบาน

แทนยืดแขนบิดขี้เกียจหลังกินข้าวเสร็จ...

“มีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่า ถ้าไม่มีจะไปอาบน้ำแล้วนะอยากแช่น้ำสบาย ๆ มั่ง ที่นี่มีอ่างหรือเปล่า?” เขาเปรยแล้วขยับจะเดิน ไป่ไป๋คว้าแขนหมับ...

“แทนคะ!” เธอยิ้มกว้างดวงตาใส

“อะไรครับ?”

“นี่! หนูมีไอ้นี่ด้วย” เธอยิ้มอายแล้วชูมีดโกน

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! พวกเราหัวเราะลั่น คิดไว้แล้วเชียวยายหัวเหน่งเล่นของอีกแล้ว สงสารน้องจังเลยฉันจะไม่หนีไปไหนแล้ว

เจ็ทโด้หันมองหน้าทุกคนแล้วถอนหายใจแรง...

“ช่วงนี้ห้ามทุกคนไปไหน ใช้เวลาที่เหลือก่อนที่จีนจะติดต่อกลับมา อยู่ด้วยกันทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างความทรงจำดี ๆ ไว้ ผมไปพักก่อนนะ” เขาอุ้มน้องไปขี่คอแล้วจูงมือจูยอนเดินออกไป

ทุกคนรู้ที่เขาพูดหมายถึงอะไร ฉันรู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่ทหารจีนบุก ไม่อยากให้ต้องรบกัน พวกเราพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก สนใจแต่งานของตัวเอง แต่เพราะอะไรกันนะ พวกเขาถึงต้องการบุกเรานัก บางครั้งก็อยากให้จูยอนยิงนิวเคลียร์ใส่จีนไปซะเลย

                     ..............................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม