The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 9 ตอนที่ 17

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 9 ตอนที่ 17
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 9
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 9 พ.ย. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


เกาหลีเหนือ

สิงหาคม ค.ศ. 2026

มุมมองสายตา จูยอน

อาคารหอคอยสูงที่เคยแอบอาศัยเมื่อหลังวันล่มสลายของเกาหลีเหนือถูกปรับแต่งเป็นศูนย์บัญชาการโกลบอลไลซ์ไซบอร์ก ทีมลาซารัสกลับมาประจำการเป็นหน่วยจารกรรมไซเบอร์ หน่วยงานนี้ประกอบไปด้วยหนุ่มสาวเกาหลีเหนือที่วิสัยทัศน์กว้างไกล

“ออมม่า! เค้าชอบพี่คนนั้นจังเลย กดไอ้นี่สนุกดี” น้องแทนวิ่งไปยืนมองน้องเรดซันกำลังคีย์รหัส

“ถ้าน้องแทนอยากทำงานในนี้ ออมม่าจะเป็นคนสอนให้เอง” ฉันก้มลงไปหอมแก้มแล้วหันมองหนุ่มน้อยกำลังรัวนิ้วโจมตีเซิร์ฟเวอร์ฐานทัพจีน

“เจบี! สหายยังเจาะเข้าเซิร์ฟของกลาโหมจีนไม่ได้เหรอ?” ฉันตบไหล่ฮิปฮอปหนุ่มรุ่นน้อง

“นูน่า! มันป้องกันหนาแน่นมากเจาะไฟร์วอลมันไม่เข้าเลย แต่ผมมีอะไรจะอวด...แช๊ง!.” เขาผายมือไปที่เด็กสาวผมเปียแว่นตาหนาเตอะ ปากเลอะขนมมือรัวคีย์บอร์ด...

“นัมมีของเราเจาะสกายเน็ตได้แล้ว” เขาชูมือสาวน้อยยิ้มตาหยี

“เหรอ?” ฉันดีใจเนื้อเต้นยึดขบวนดาวเทียมของสตาร์ลิงค์ได้ก่อนที่มันจะกลายเป็นขยะอวกาศ

“นัมมี! แทบัก!ฉันเข้าไปตีมือกับอัจฉริยะสายตาสั้น

“สหายผู้นำคะ! ดาวเทียมของภารตะเจ๋งสุดรอฉันอีกหน่อย คราวนี้แหละสุดยอดเทคโยโลยีของโลกจะอยู่เกาหลีเหนือทั้งหมด” เด็กสาวลุกขึ้นเต้นบิดตูดสนุกสนาน

ฉันชอบภาพการทำงานแบบนี้สนุกไปด้วยทำงานไปด้วย หมุนมองหาหัวหน้าทีมภายในห้องมีกลุ่มหนุ่มสาววัยรุ่นก้มหน้าทำงานกันหลายสิบคนส่วนใหญ่เป็นเด็ก ๆ ของซอน...

“พันจังนีมไปไหนแล้ว?”

“เย่! เขาก้มหน้าสอนเด็กอยู่ในมุมยกมือขึ้น

“ทำอะไรอยู่คะ?”

“ผมอัพเดทโปรแกรมคำสั่งเสียงเสร็จแล้วครับ ใช้ง่ายขึ้นมากเลยครับ” ทุกอย่างเป็นไปตามแผน กลุ่มนี้ช่วยงานด้านเทคโนโลยีได้ดีมาก

“สหายแบ่งเวลาได้หรือยังคะ? เราจะได้เริ่มสอนพวกเด็ก ๆให้ทีมใหญ่ขึ้น ต่อไปจะได้เกษียณอายุแล้วไปเที่ยวไกลสุดขอบฟ้ากัน”

“ผมกำลังทำแบบทดสอบให้โอกาสกับเด็กทุกคน ผมจะคัดเอาหัวกระทิแค่ 30 คนเท่านั้นครับ ในระดับรองลงไปอีก 200 คนจะสอนให้เป็นโปรแกรมเมอร์คอยซัพพอร์ตงานแล้วพัฒนาไปเป็นครูสอนพื้นฐานคอมพิวเตอร์ อีกไม่เกิน 2 เดือน!...แฮกเกอร์อะคาเดมี่ของผมก็จะเปิดแล้ว ผมจะขอให้ซอนเซมมาอบรมให้ในระยะเริ่มแรกนะครับ” หัวหน้าทีมเดินยิ้มเข้ามา ฉันรู้สึกดีใจมากที่เขาเลือกซอน...

“ขอเหตุผลหน่อยค่ะ ทำไมถึงต้องเป็นซอนเซมคะ?”

“ผมเห็นเด็ก ๆ มีจิตสาธารณะแล้วเกิดความสุขแบบมีความหวัง เด็ก ๆ ของเราเปลี่ยนสันดานไปเลย เดี๋ยวนี้เด็กชายหญิงกล้าพูดกล้าถามงานยิ่งยากก็ยิ่งท้าทายให้ทุ่มเทพวกเขาไม่เคยมีข้อแม้ในการทำงาน ด้านลักษณะนิสัยก็ดีขึ้น...มีระเบียบกระตือรือร้นให้ความร่วมมือให้ความช่วยเหลือมีน้ำใจ มันโคตรสุภาพบุรุษเกาหลีเลยครับ ผมเชื่อว่าที่เด็ก ๆ เป็นเช่นนั้นได้มาจากครูของเขา ผมเคยคุยกับซอนเซม 4-5 ครั้งแล้ว เขาเป็นคนน่าสนใจมากครับ” ซอนได้ Fc ไปอีกกลุ่ม จากสายตาของหัวหน้าทีมบ่งบอกว่าเชื่อมั่นมาก

“ถ้าอีก 2 เดือนเปิดรับสมัคร คงต้องหาคอมพิวเตอร์มาเพิ่มให้อีกแล้วสินะ สหายอยากได้อะไรเพิ่มอีกมั้ยคะ?”

“ผมอยากได้ชั้นล่างของหอประชุมห้องสมุดประชาชนครับ”

“หือ!...ไม่ได้ค่ะ! มันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ฉันจะเก็บไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม”

“ผมไม่ได้คิดดัดแปลงรูปลักษณ์มันหรอกครับ ผมจะจัดเป็นห้องเล็ก ๆ เพื่อสอนแค่ 30 คนเท่านั้น ในนั้นมันเหงาหงอยโดนทอดทิ้งมานานผมสงสารหนังสือพวกนั้นที่ไม่มีคนหยิบมันขึ้นมาอ่านอีกเลย ถ้าพวกผมเดินในนั้นมันจะได้รับรู้ว่ายังมีเพื่อนและพวกมันยังมีความหวังที่จะโดนหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้ง”ความคิดของเขาน่ารักจังเลย

แฮกเกอร์นักรบคีย์บอร์ดห่วงใยความรู้สึกของหนังสือ โลกหันหลังให้เล่มหนังสือไปสนใจจอภาพ ไม่มีใครเข้าไปค้นคว้าหาความรู้ในห้องสมุดกันอีกแล้ว

“ฉันชอบเหตุผลนี้ ฉันอนุญาตค่ะ แล้วอีก 200 คนสอนที่ไหน?”

“ส่วนกลุ่มใหญ่ก็สอนในอาคารนี้ครับจะได้เวียนกันลงมาสอน ผมจะปรึกษากับซอนเซมว่าเขาสร้างทีมได้ยังไง? ผมก็คงเอาวิธีนั้นมาต่อยอดครับ”

“ขอบใจมากพันจังนีม! วันนี้ฉันสบายใจจังเลยสหายเติมเต็มในส่วนที่ขาดได้มาก” ฉันปลื้มใจจังที่ทุกอย่างราบรื่น

ทันใดนั้น...

“จูยอนน่า! ซูมินเรียกบอกว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว! เจ็ทโด้เดินทะเล่อทะล่าเข้ามาตาม

“เสร็จแล้วค่ะ! ฉันหันไปบอกกับทีม “ทุกคนฝากด้วยนะคะ ขอบคุณมากที่ทุ่มเท” /ตายแล้วฉันลืมสนิทเลยวันนี้มีนัดสำคัญด้วย/

“เย่!

“น้องแทนครับกลับบ้านกัน!” เขาอุ้มน้องอย่างรีบร้อนถามหน้าตื่น...

“เกิดอะไรขึ้น! ทำไมอีซูมินสั่งให้ผมใส่สูทด้วย? แล้วจะเอาสูทที่ไหนมาสวมผมมีแต่กางเกงทหาร?”

“อ๋า! ไปหามีแรอาจุมม่ากันก่อน ซูมินเตรียมชุดของทุกคนไว้แล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เธออยากมีคนใส่ชุดหรูมาร่วมงานอยากมีความทรงจำดี ๆ กับพวกเรา เลยจัดให้สักหน่อยถือว่าให้รางวัลตอบแทนการทำงาน” ฉันมัวสนุกกับงานจนลืมสนิทไปเลย

“ออมม่าเมื่อไหร่ไป๋จะร้องเพลงอีก เค้าชอบ!

“ออมม่าก็ชอบ ไป๋ร้องเพลงเพราะที่สุดเลย” ฉันหลงรักน้องแทนมากอยากให้น้องนีน่าออกมาเป็นอย่างนี้ พยายามทำใจให้สงบไม่อยากให้ความเครียดและความกังวลใจไปลงกับลูกในท้อง //ความรู้สึกของแม่เป็นอย่างนี้นี่เอง นิดหน่อยก็ห่วงลูก//

“นีน่า!ไปฟังไป๋ร้องเพลงกันนะคับ” เขาจ้องท้องยิ้มตาพริ้มพราว  เหมือนกับมองเห็นน้องในท้องแล้วก้มมาโอบกอดอย่างหวงแหน  โอย!น่ารักน่าเอ็นดูไม่ไหวจะหลงรัก หน้าตาก็ดีนิสัยก็ดี

พวกเราแวะไปเปลี่ยนชุดใหม่กับมีแรอาจุมม่าแล้วรีบกลับบ้านรถยนต์แล่นผ่านมันกยองแดบ้านเกิดของท่านประธานาธิบดีตลอดกาลก่อนจะมาเลี้ยวขวาหน้าสนามฟุตบอลมันกยองแดที่ทำงานของซอน

“บรื้น!! รถยนต์แล่นเข้ามาประกบด้านข้างซ้ายขวา...

“แป๊น! แป๊น! เจอกับรถยนต์ของแทนกับซอนพอดี พวกเขากำลังขับตรงไปข้ามสะพานบ้านพักบนเกาะคอนยู

รถยนต์ขับตามกันมาจอดที่ลานปูนหน้าบ้าน ไฟแสงสีประดับตั้งแต่หัวสะพานคลุมต้นไม้ระยิบระยับตระการตา อีซูมินจัดงานวันเกิดซะใหญ่โตเชียว ฉันเปิดกระจกรถยนต์ร้องทักพี่น้อง...

“จัดเต็มกันทุกคนเลยนะคะ สาว ๆ” ทุกคนสวยแสบตา

หมวดจางสุดสวยสวมเดรสยาวไหล่เฉียงสีม่วงวิบวับควงแขนซอนในสูททักสิโด้ดำ นาตาลีในชุดเดรสยาวสีแดงเพลิง ไป่ไป๋สวมเดรสยาวสีขาวนวลหัวเต้งเหน่งสะดุดตามากควงแขนคนละข้างของแทนในชุดทักสิโดดำเดินยิ้มเข้ามาหา ไป่ไป๋ยิ้มหน้าบาน...

“นาน ๆ ได้แต่งตัวก็ดีเหมือนกันเนอะอนนี่? เราเข้าไปข้างในกันเถอะจะมืดแล้ว” เสียงเพลง A moment of romance ดังกระหึ่ม ทั้งสามคนควงแขนเดินนำฉันขยับอุ้ยอ้ายลงรถยนต์เดินตาม หมวดจางสาวสวยอยู่ด้านหลัง

น้องแทนหัวเหน่งก็ใส่ทักสิโด้ดำวิ่งต๊อกแต๊กไปจับมือไป่ไป๋...

“ไป๋!โกพอชิบตา” เจ้าตัวน้อยดึงมือเงยหน้ายิ้มมอง

“ไอ๊กู่...!น้องแทนหล่อแสบตาจังเลย” ไป่ไป๋ดี๊ด๊าดีดดิ้น

เจ้าตัวเล็กดีใจซอยขากางแขน...“อุ้ม!

“ห่ะ! เธอหุบยิ้มเมินหน้า...“โน๊โน!!เดี๋ยวชุดเปื้อน! เธอแกะมือน้องแล้วเดินหนี เจ้าตัวน้อยวิ่งอ้อมหลังของแทนมาจับมือนาตาลี

“ลีอุ้ม!”เขากางแขนเดินตาม

“โน๊โน! ไม่อาว...ลีอยากสวย ตัวเองก็เดินเอาสิ” นาตาลีไม่เล่นด้วย

เขาหยุดรอเดินมาเกาะแขนฉัน ...

“ออมม่า! สองคนนั้นไม่อุ้ม นิสัยไม่ดี...” เขาบ่นอุบอิบแล้วเหลียวหลังไปหาหมวดจาง...

“หม่าม้า!... น้องแทนยิ้มกว้างกางแขน หมวดจางสวนทันที...

“โน๊โน!

เขาเดินหน้ายุ่งเกาหัวกลับมาหา ฉันก้มลงไปบอก...

“วันนี้มางานเลี้ยง เห็นไหมทุกคนแต่งตัวสวยกันหมด น้องแทนก็หล่อเจ็บอกต้องเดินเองสิคะ เดินเท่ ๆ เหมือนป๊าเลยค่ะ”ฉันชี้ไปที่ซอน

“เย่!” เขาพยักหน้าแล้วก้าวเดินฉับ ๆ

น้องแทนพูดคำเดียวรู้เรื่อง ยืดอกเดินเป็นทหารไปเลย หม่าม้าก็มาด้วยสวมชุดโกโจรีสีเหลืองแดงยืนยิ้มคู่กับคุณหมอในชุดสูทขาว อีซูมินคงอยากมีความทรงจำดี ๆ เชิญครอบครัวใหญ่มาพร้อมหน้า

“เวฮัลราบอจี้!เวฮัลมอนี่!นอมูโกโพชิบพอ” น้องแทนวิ่งเข้าไปกอดขาทั้งสองคนแล้วบอกว่า ผมคิดถึงมากเลย แค่นี้คนแก่ก็ยิ้มหน้าบานทั้งสองท่านจูงน้องเข้าบ้าน

“อันยองฮาเซโยยอลาบูน เชิญนั่งห้องรับแขกกันก่อนนะคะ! เสียงอีซูมินทักทายกับกลุ่มแรก หมวดจางกับซอนรีบเดินแซงเข้าไป เจ็ทโด้ประคองฉันเดินอุ้ยอ้ายปิดท้าย


ก้าวแรกที่เข้าห้องรับแขกรู้สึกตื่นตากับแสงไฟระยิบระยับ พวกเรามานั่งรวมกันที่โซฟาในห้องรับแขกด้านหน้าเหมือนกับรอรับคำสั่ง อีซูมินยืนข้างเปียโนตัวเก่งของเธอ วันนี้น้องสาวคนเล็กสวมเดรสสีเขียวใบไม้ออร่าระเบิดเจิดจ้าสว่างไสวเป็นสาวเต็มตัวแล้ว ปล่อยผมยาวสลวยยิ้มตาหยีเป็นพระจันทร์เสี้ยวพวกเดียวกับฉัน ทีมเดอะแก๊งเดินแวบ ๆ อยู่ในห้องโถงด้านหลังคงจะมาช่วยงาน

อีซูมินขยับตัวยกมือเป็นสัญญาณ พวกเราหันไปมอง...

“หนูขอขอบคุณทุกท่านก่อนนะคะที่ให้ความร่วมมือ และขอโทษที่ถือวิสาสะเชิญแกมบังคับให้มางาน ทุกอย่างมันกะทันหันและเพื่อความบันเทิงวันนี้หนูมีข้อตกลงที่จะทำความเข้าใจกันก่อนเริ่มงาน หนูจะเป็นคนออกคำสั่งทุกท่านกรุณาทำตามคำสั่งด้วยนะคะ อ้อ! ขอบอกก่อนนะคะ จะไม่มีคำตอบใด ๆ จากหนู เพราะฉะนั้น!...อย่าสงสัยและไม่ต้องถาม” เธอยิ้มสดใส วันนี้น้องคนเล็กมาแปลก

แต่ฉันตื่นเต้นตั้งแต่ก้าวเดินเข้าบ้านแล้ว ยังแอบแปลกใจตัวเองอยู่เลยทำไมวันนี้ใจเต้นแรงจัง น้องนีน่าก็ดิ้นเหมือนรับรู้ความสนุก พวกเราหันมามองหน้าปรึกษากันแล้วพยักหน้าตกลงกับกติกา

ฉันยกมือ...

“ตกลงตามนั้น” นึกสนุกไปกับเธอด้วย นานมากแล้วที่ไม่เคยโดนละลายพฤติกรรมแบบนี้

อีซูมินเดินไปนั่งหลังเปียโนแล้วบรรเลงเพลงเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าพูด ท่าทางของเธอยิ่งทำให้ทุกอย่างเป็นปริศนา... 

“เชิญทุกท่านไปที่ห้องโถงค่ะ คุยกันตามสบายนะคะคิดว่าเป็นบ้านของตัวเอง”เธอยิ้มแววตาวาววับ ได้ผลพวกเราอมยิ้มพยักหน้ากับมุกของเธอแล้วลุกเดินเข้าด้านใน

“ว้าว! ไป่ไป๋ตื่นเต้นหันไปตีมือกับนาตาลี

แสงสีนวลของไฟระย้าสว่างกลางห้องโถงกลม ผ้าม่านแดงคลุมผนังรอบห้อง เวทีเดินแบบสูงราวตาตุ่มคลุมผ้าขาวเล็ก ๆ หันข้างมาที่ประตูทางเข้า อาหารและผลไม้รายรอบห้องวงกลมพร้อมเครื่องดื่มครบครัน อีซูมินคงเหนื่อยไม่น้อยในการออกแบบจัดงาน

ทีมเดอะแก๊งสายเหลืองยืนยืดอกเอามือไขว้หลังรอบห้อง ซอนโบกมือให้เด็กชายวัยรุ่น...

“บ๊กซูมาได้ยังไง ทำไมผมไม่รู้เรื่องเลย?” เขาหันไปตบไหล่ถามคำถามที่ฉันอยากรู้พอดี

“เซม! ผมรับทำภารกิจลับสุดยอดระดับชาติครับ บอกไม่ได้เดี๋ยวไม่เป็นความลับ” เจ้าซนยืดอกยิ่งตอกย้ำความอยากรู้ ซอนหัวเราะหึหึแล้วถลึงตาอ้าปากค้าง...

“คังแทจุน! สหายก็มาด้วยเหรอ?” เขายิ้มกว้างอ้าแขน น้องเดอะแก๊งตัวอ้วนพุ่งเข้ากอดอย่างสนิทสนม

“ซนพันจังนีมขออาสาสมัครครับ แล้วผมก็อยากมาเจอเซมด้วย เอ่อ! ผมได้เป็นคนขับรถของทหารแล้วด้วยครับ ขับได้ทุกอย่างแล้วรถบรรทุก 18 ล้อก็ขับได้แล้วด้วย” เขากอดซอนได้สนิทใจมาก

แทนเดินยิ้มร่าเข้าไป...

“แทจุนเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้เจอกันเลยนะ?”

“เซม! แทจุนโผเข้ามากอด น่าเอ็นดู

ทันใดนั้น...

“อันยองฮาเซโยยอลาบูน!สหายโกมีทักโผล่พรวดเข้ามาจากหน้าประตู

“อ้าว!สหายโกก็มา” ฉันแปลกใจนิดหน่อยที่เขาใส่ชุดบักบินเต็มยศ เดินนำหน้าทหารกองเกียรติยศ

นาตาลีโผเข้าไปหา...

“มานั่งนี่ ๆ แหม...มาอวยพรให้น้องด้วย ดีแล้วทำคะแนนไว้มาก ๆ นะ” เธอจูงมือมานั่งโต๊ะเดียวกัน

อีซูมินจะเล่นอะไรอีกนะลุ้นจังเลย มีคนนอกเข้ามาด้วยจัดเวทีซะสวยมากเชียว งานวันเกิดอะไรของเธอมี Catwalk อย่างกับเวทีนางแบบ ตอนนี้เอากองเกียรติยศมาอีก ไอ้พวกนี้จะเป่าแตรวันเกิดได้เหรอ?

เสียงเพลงเปียโนของเธอบรรเลงคลอเบา ๆ พวกเราเดินตักอาหารยืนกินคุยกัน ไป่ไป๋เดินแฉลบเข้ามาเอาแอปเปิลป้อนใส่ปาก...

“อนนี่อร่อยมาก” เธอน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย

“ท้องรึป่าว?” ฉันลูบท้องน้อง

“ไม่ท้องค่ะ! อวบขึ้นเฉยๆ...โดนเติมบ่อย” เธอพูดเองอายเอง  ม้วนไปเอง ยายนี่ย้อนแย้งแยงตาเป็นอันเข้าใจกัน

นาตาลีและน้องแทนยกอาหารไปเสิร์ฟให้หม่าม้าและคุณหมอ อีซูมินยังไม่สั่งให้ทำอะไรสักที ฉันก็ลุ้นตลอด

แทนเดินไปล็อกคอสหายโก ลากเข้ามา...

“จะเซอร์ไพรส์อะไรพวกเรา?” แทนจ้องตาขู่

“เอ่อ!” สายตาของเขาระแวงหันมองซูมินที่เปียโนแล้วก้มหน้า

“พรึบ! ด้วยความอยากรู้อยากเห็นพวกเราก้มตาม ทั้งฝูงหัวชนกันเหมือนนักอเมริกันฟุตบอลกำลังเข้าสกัม

“ผมประหม่ามากเลย นี่เป็นครั้งแรกของผม” เขาถูมือหยุดพูดแล้วเงยหน้าหันมองอีซูมินอีกครั้ง

“พรึบ! พวกเราเงยหัวมองตามพร้อมกัน

“คืออย่างนี้นะทุกคน” เขาก้มหน้าลงมาใหม่

“พรึบ! พวกเราก็สุมหัวเหมือนเดิม เรื่องอยากรู้อยากเห็นนี่ไม่ต้องสอนกันเลย สามัคคีกันดีจัง

“ซูมินบังคับไม่ให้บอกกับคนอื่นแต่ผมตื่นเต้นมาก ดูสิ!มือสั่นไปหมด ผมเป็นคนเก็บความลับไม่ได้ ใจเต้นแรงมากแล้วเนี่ย ช่วยผมด้วย!ผมอยากพูด” เขากระซิบกระซาบยกมือสองข้างขึ้นมาประสานมันสั่นระริก เขาคงรักเธอมากเลยลนลานไปหน่อย ฉันเริ่มใจเต้นลุ้นว่าเขาจะพูดอะไรต่อ

ทันใด…

“หือ! เขาเงยหน้าหันไปมองอีซูมินอีก

“พรึบ! พวกเราก็เงยหน้าตามอีก อีซูมินไม่รู้อีโหน่อีเหน่กำลังใส่อารมณ์โยกตัวบรรเลงเพลงไม่ลืมตา

สหายโกก้มหน้าอีกแล้ว พวกเราเหมือนโดนแม่เหล็กดูดก้มหัวกลับมาสุมกันเหมือนเดิม คนท้องเริ่มเวียนหัวแล้ว เขาสายตาลอกแล่ก...

“เดี๋ยวทุกคนเข้านั่งที่ ผมจะไปกระตุกผ้าม่านแดงออกความจริงจะปรากฏ ถ้าผิดพลาดอะไรไปก็ขอให้สัญญากับผมสักข้อนะครับทุกคน” เขาเงยหน้าขึ้นอีก

“เฮ่อ! พวกเราเงยตามอีก ยากเย็นจริง ๆ ชักจะท้อแล้ว

“ห้ามโกรธผมนะ ห้ามลงโทษผมนะ” เขาหันมองอีซูมินอีก…

“มาแล้ว ๆ” พวกเรากระจายตัวกลัวโดนจับได้

อีซูมินลุกจากเก้าอี้เดินยิ้มดวงตาประกาย แก้มขาวนวลใบหน้าใสฟุ้งฟิ้งสมวัยก้าวเท้าช้า ๆ มาในชุดเขียว สรุปพวกเราเลยไม่รู้ว่าความลับคืออะไรมัวแต่ก้ม ๆ เงย ๆ

พอเธอก้าวขาผ่านเข้าประตู...

“พรึบ! จู่ ๆ ไฟก็ดับสนิท เดอะแก๊งเข็นรถขนมเค้กจุดเทียนเข้ามา เจ็ทโด้นั่งยิ้มอยู่ข้างคุณหมอ น้องแทนปรบมือชอบใจ

แต่ฉันสิ...คาใจ คนท้องไม่อยากเครียดหันไปจับมือสหายโก พวกเราสุมหัวกันอีกครั้ง...

“ฉันจะไม่โกรธรีบบอกเร็ว ซูมินจะมาถึงแล้ว” ฉันให้สัญญาด้วยความอยากรู้  คนท้องอึดอัดไม่อยากเจอเซอร์ไพรส์

แต่เขาไม่ตอบ รีบถอยออกไปเมื่ออีซูมินเดินยิ้มหวานมาถึง ไป่ไป๋ขยับปรบมือเข้าไปร้องเพลงอวยพรวันเกิด...

“แซงอิลชุกฮา ฮัมนิดา” เธอร้องนำ...

“แซงอิลซุกฮา ฮัมนิดา แซงอิลซุกฮา ฮัมนิดา ซารางฮานึน อีซูมิน แซงอิลชุก ฮา ฮัมนิดา” พวกเราร่วมร้องเพลงอวยพรวันเกิด เดอะแก๊งไม่พลาดที่จะแหกปากตะโกนร้องบรรยากาศอบอวลไปด้วยรอยยิ้ม เจ้าซนบ๊กซูหัวเหน่งยิ้มหวานเข็นรถเค้กยื่นหน้าไปหาเจ้าภาพ...

“นูน่าอธิฐานสิครับอยากได้อะไร?” เขายิ้มปลื้มปริ่ม

อีซูมินเป็นลูกสาวของพระเจ้าหลับตาแล้วสูดลมหายใจลึก เอามือประสานที่หน้าอกอธิฐานก่อนจะปล่อยลมเป่าเทียนดับในครั้งเดียว

“วู้ว วู้ว!!! เสียงปรบมือสนั่นห้อง ฉันปลื้มใจมากนอกจากฉันแล้ว อีซูมินเป็นอีกคนที่นาตาลีดึงขึ้นจากนรกและเธอก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย

“พรึ่บ” ไฟในห้องสว่างขึ้น

“คัมซามนิดะ!” เธอเดินเข้าไปสวมกอดขอบคุณทีละคน ซูมินของเราน่ารักอ่อนหวาน ไม่ดื้อ ไม่เถียง ช่วยงานได้เป็นอย่างดี

บรรยากาศภายในงานทุกอย่างดูเป็นปกติ แต่ทำไมหัวใจของฉันเต้นแรงเหมือนคลื่นลมสงบก่อนจะมีพายุร้าย อีซูมินเดินขึ้นไปยืนบนเวทีแล้วส่งสัญาณให้สหายโก เขาเม้มปากมือกำผ้าม่านแน่นแล้วกระตุก...

“พรึ่บ!! ผ้าม่านสะบัดร่วงกองพื้น เผยให้เห็นมวลดอกไม้สดรอบผนังถูกจัดแต่งอย่างลงตัว ดอกไม้เหลืองแดงที่เห็นนั่นก็มาจากรอบบ้านนี่เอง ฉันจำได้

“ว้าว! สามสาวตีมือกันยิ้มฟันขาว นานมากทีเดียวที่ไม่ได้เห็นรอยยิ้มเต็มหน้าแบบนี้ของทุกคนพร้อมกัน

“โป๊ะ! สหายโกดึงพลุสายรุ้งแล้วเดินขึ้นไปยืนบนเวทีคู่กับอีซูมิน เดอะแก๊งขยับเข้ามาพร้อมพลุในมือ...

“โป๊ะ!โป๊ะ!โป๊ะ!โป๊ะ!” สายรุ้งเศษกระดาษกระจายเต็มหัว ฉันชื่นใจกับงานเล็ก ๆ ของเธอ แต่ไหนล่ะ!..ไม่เห็นมีเซอร์ไพรส์อะไรเลยทำไมสหายโกทำซะเรื่องใหญ่เชียว สงสัยอยากติดคุกอีกล่ะมั้ง?

อีซูมินขยับไปกลางเวทียิ้มยืดอก...

“หนูต้องขอโทษอีกครั้ง หนูอายมากแต่ก็อยากจะทำให้สำเร็จ หนูขอขอบคุณทุกท่านที่เอ็นดูและให้ความกรุณาตลอดมา หนูสัญญาว่าจะเป็นน้องที่ดีและทำงานอย่างเต็มที่ค่ะ” เธอโค้งศีรษะรับเสียงปรบมือ แล้วหันไปกระตุกผ้าม่านด้านหลังออก...

“พรึ่บ!!

“ฮือฮา! ทุกคนอุทานอย่างแปลกใจ

ฉันตลึงอ้าปากค้าง ตัวอักษรภาษาอังกฤษขนาดใหญ่  A moment of romance ประดับดอกกุหลาบหลากสี นี่จะแต่งงานกันเหรอ? ไปรักกันตอนไหนพึ่งจะร้องไห้ไปหยก ๆ เธอจะทำอะไรกันแน่นะ? ในหัวของฉันมีแต่คำถามคนท้องลุ้นไม่ไหวลูกจะไหลแล้ว

ซอนลุกตะโกนลั่น...

“ว้าว! ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ธีมงานแต่งสุดยอดมาก” ซอนหันไปตีมือกับแทน

“วู้ว ๆ ๆ! ยินดีด้วย ๆ ” ไป่ไป๋กับนาตาลีแสดงออกมากว่าใครลุกขึ้นเต้นดีใจ หมวดจางก็เก็บอาการไม่อยู่แหกปากตะโกน...

“พวกเรายินดีด้วยที่น้องจะแต่งงาน ถึงจะแบบงง ๆ ก็ไม่เป็นไร  ชอบกันก็เอากันเลย อย่าเสียเวลา” เธอลุกไปกอดนาตาลี

“เอ๋!...ช้าก่อน! แต่นาตาลีหยุดชะงักเหมือนคิดอะไรออก สายตาสงสัยหันไปจ้องหน้าอีซูมินแล้วยกมือ ทุกคนหยุดกึกทั้งห้องเงียบสนิท....

“ไหนเธอบอกว่าปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติไง เผลอแปบเดียวจะแต่งงานซะแล้ว” นาตาลีโวย

อีซูมินยิ้มหวานยกมือแกว่งนิ้วชี้...

“ไม่มีคำตอบนะคะ! ทุกคนกรุณากลับไปนั่งที่เดิมค่ะ”เธอยิ้มหวานแล้วผายมือเชิญ หมวดจางรีบดึงให้นาตาลีนั่ง

สหายโกขยับไปยืนเคียงข้างกับเจ้าสาวของเขา

“สหายโกยินดีด้วย!! ไฟท์ติ้ง! แทนตะโกนสุดเสียงเชียร์สุดตัวสายตาของเขาจริงใจมาก แทนก็ไม่รู้จะหล่อไปไหนคนอะไรหล่อได้โล่ห์จริง ๆ

“ฉันก็ยินดีด้วยนะคะ!” ฉันป้องปากตะโกนดีใจด้วยที่สมหวัง

วันนี้เป็นวันดีของฉันจริง ๆ ทุกคนอยู่ในอาการเดียวกัน รื่นเริงสุขใจคุยกันเสียงเจี๊ยวจ๊าว อีซูมินยกมือปราม...

“เด็ก ๆ คะ! อย่าเสียงดัง กรุณาอยู่ในความสงบด้วยค่ะ”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! เสียงหัวเราะรับมุกลั่นห้อง

“เราจะเริ่มพิธีแต่งงานเลยนะคะ ขอเชิญเจ็ทโด้ซัมชุนขึ้นมาบนเวทีค่ะ” เสียงเชิญน่ารักสดใส ฉันยิ้มปลื้มมีความสุขที่เห็นน้องจัดงานแต่งเล็ก ๆ น่ารักให้กับตัวเองและเลือกพี่ใหญ่ให้เป็นประธาน

“แท็ก! แท็ก! กองทหารเกียรติยศเดินรัวกลองเข้าประกบทางเดิน Catwalk อีซูมินส่งยิ้มลงมาให้กับคนที่นั่งด้านล่างแล้วผายมือ...

“วู้ว!วู้ว!!เสียงกองเชียร์โห่ร้องสุขใจ เจ็ทโด้กระโดดขึ้นเวทีเดินไปตีมือกับบ่าวสาว

“แทบัก! นี่เองหรือคือเซอร์ไพรส์ ฉันจุกอกตื้นตัน นาตาลีหัวเราะสนุกสนานกับไป่ไป๋และแทน ซอนกับแอนนากอดกันกลม สองผู้เฒ่ายิ้มมีความสุข น้องแทนนั่งยิ้มบนตักคุณยาย

ไป่ไป๋ลุกขึ้นยืนป้องปาก...                   

“ยินดีด้วยนะ อีซูมิน!สหายโก!! เธอโบกมือยิ้มกว้าง

“สหายโก!ไฟท์ติ้ง!!แทนดูท่าจะคึกคักกว่าใครที่เพื่อนได้แต่งงานกอดนาตาลีช่วยกันเชียร์

อีซูมินขยับตัวยกมือปราม...

“เด็ก ๆ ใจเย็น ๆ จากนี้ไปหนูจะเล่นเปียโนนะคะ ขอเชิญซัมชุนต่อเลยค่ะ!” เธอโปรยยิ้มหันไปหาเจ็ทโด้แล้วเดินไปนั่งที่เปียโน สหายโกเดินลงมายืนกับทหารกองเกียรติยศ

“อ้าว!... ฉันเริ่มใจสั่นอีกครั้งหรือนี่คือเซอรไพรส์ คนท้องชักสับสนพวกเราอ้าปากค้างหันมองหน้ากัน มันเกิดอะไรขึ้นเขาเล่นอะไรกัน โอย! คนท้องลุ้นไม่ไหว

บนเวที...เจ็ทโด้ยืนตรงในชุดทักสิโด้ดำรวบผมมวยทำหน้าที่พิธีกร เขายืนยิ้มมองไปรอบ ๆ ช้า ๆ งานก่อนจะเอ่ย...

“คุณหมอ! หม่าม้าและทุกท่านในที่นี้ ในฐานะพี่คนโตของครอบครัวนี้ ผมอยากทำบางอย่างให้น้องชาย 2 คนของผมหน่อย” เขายิ้มมองน้องชายทั้งสองคน

“...........” ทั้งงานเงียบสนิทมีเพียงเสียงขยับตัวของพิธีกร...

“ซอน! แทน! ขอบใจแกทั้งสองคนที่ติดตามพี่มาตลอด โดนด่า โดนดุ โดนลงโทษ โดนห้ามและขัดใจ ที่ผ่านมาพี่ขอโทษพวกแกด้วย” เจ็ทโด้พูดเสียงหนักแน่นสายตามองจ้องไปที่น้องชายทั้งสอง

นี่มันเรื่องอะไรกัน! พวกเราหันมองหน้ากันเลิกลั่ก เปียโนบรรเลงทำนองเพลงผู้หญิงข้าใครอย่าแตะพร้อมเสียงของเจ็ทโด้กล่าว...

“มีคนเคยกล่าวว่า คนที่เหมือนกันจะดึงดูดซึ่งกันและกัน พวกเราอาจจะถูกดึงดูดเข้าหากันเพราะเราขาดความรักจากพ่อและแม่ พวกเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนต่างก็เป็นกำพร้าและเดินผ่านเส้นทางที่หนาวเหน็บมาเพียงลำพัง” เขามองน้องชายทั้งสอง

“พวกแกทั้งสองคนไม่มีผู้ใหญ่ที่จะคอยต้อนรับภรรยาเข้าสู่ครอบครัว เพื่อให้สมเกียรติของคนรัก พี่จะเป็นคนจัดงานแต่งงานนี้เอง จูงมือคนที่เราเลือกแล้วมาสาบานรักด้วยกัน ขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า ในวัยเด็ก...พี่ชอบหนังเรื่องผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พี่ชอบเพลง พี่ชอบทุกอย่างของหนังเรื่องนี้ พี่จะเอาสิ่งที่พี่ชอบที่สุดให้น้องทั้งสองคน” เขาหยุดหันไปยิ้มให้กับผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน...

“คุณหมอ! หม่าม้า! ฟ้าคงลิขิตให้พวกเรามาเจอกัน การพบกันของพวกเราอาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ การที่พวกเราต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคความยากลำบากต่าง ๆ นา ๆ พบแล้วพรากให้พวกเราแยกจากกันไป มันคงเป็นการทดสอบความมั่นคงของจิตใจ” เขามองมาที่นาตาลี    

“บททดสอบนั้นยากมาก พวกเราเฉียดตายกันมาทุกคน แต่ความแน่วแน่ของจิตใจทำให้พวกเราผ่านมันมาได้ เหมือนดั่งจอกแหนที่แตกกระจายเมื่อหินก้อนใหญ่ตกลงน้ำ สุดท้ายก็หุบเข้าหากันอีกครั้งด้วยแรงปรารถนา” เขาพูดด้วยท่าทางสบาย ๆ น้ำเสียงหนักแน่น ผู้ใหญ่ทั้งสองยิ้มพยักหน้า

ฉันลูบท้องนั่งฟังอย่างตื้นตันใจพอจะเดางานนี้ออกแล้ว อดภูมิใจในตัวของเขาไม่ได้ รายละเอียดเล็กน้อยของน้องชายก็ไม่ได้มองข้าม ทั้งซอนและแทนนั่งตัวตรงกะพริบตาปริบ

“พี่มีความลับจะบอกกับน้องชายทั้งสอง พี่เองก็ไม่เคยมีพี่น้อง เพราะยากจนและด้อยกว่าเลยไม่มีเคยเพื่อนที่จริงใจ พอได้เจอกับเจ้าซอนพี่รับรู้ได้ถึงความรักที่แกมอบให้ พี่ตั้งใจจะดูแลแกและอยู่กับแกไปจนตายจากกัน มันเป็นเป้าหมายเดียวที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยว พี่รอดมาได้จากทุกสนามรบเพราะคิดว่าพี่มีแกรออยู่ พี่ต้องรอดและแกต้องปลอดภัย ที่ผ่านมาพี่อยู่ได้เพราะคิดแบบนั้นมาตลอด” เขายิ้มสายตาอบอุ่นมองหน้าซอนแล้วมองเลยไปที่แทน...

“สำหรับแทนก็เช่นกัน ขอบใจมากที่ปลุกให้พี่ตื่นจากความเศร้าโศก การได้ดูแลคนเจ็บใกล้ตายไม่ใช่งานง่าย แต่มันก็เป็นเป้าหมายที่พี่ต้องรับผิดชอบ แกคือคนที่พี่ยึดเหนี่ยวหลังจากที่ไม่ต้องดูแลเจ้าซอนมันแล้ว”

“...........” ทั้งห้องมีเพียงเสียงเพลงเศร้าสร้อยกัดหัวใจ สองหนุ่มนั่งอึ้งน้ำตาคลอ

“ขอให้แกทั้งสองคนรับรู้ไว้ว่า พวกแกคือส่วนหนึ่งของชีวิตพี่เสมอ  และวันนี้คือวันที่พี่จะบอกกับแกทั้งสองคนว่า จากนี้ไป...ตั้งใจดูแลครอบครัวของตัวเองให้ดี คนรวย! คนเก่ง! คนฉลาด! สู้คนที่มีความสุขไม่ได้หรอก ขอให้มีความสุขทุกวัน” เขายิ้มมองอย่างอบอุ่น

ฉันปลื้มใจน้ำตาคลอ แทนดวงตาแดงน้ำตารื้นสะอึกสะอื้นตัวโยนกัดฟันแน่น ซอนที่ทุกคนเห็นว่าทั้งเก่งกล้าและสุดโหด แต่ส่วนลึกของจิตใจอ่อนโยนมากน้ำตาไหลพราก เขาเหมือนเด็กชายไม่รู้จักโตเมื่ออยู่ต่อหน้าพี่ชายของเขา

“พี่ไม่มีอะไรจะตอบแทนความรักของแกทั้งสองคนหรอกนะ งานแต่งนี้มันอาจจะไม่ยิ่งใหญ่อย่างที่พวกแกคิดฝันเอาไว้ อาจจะไม่ถูกใจเพราะไม่ได้เลือกเอง งานครั้งนี้พี่ขอใช้สิทธิ์บังคับครั้งสุดท้าย...ห้ามปฏิเสธ!” เขายิ้มมองไปที่ซอนกับแทน ทั้งสองยังคงนั่งหลังตรงนิ่งจ้องมองพี่ชายด้วยสายตาขอบคุณน้ำในดวงตาสะท้อนแสงระยิบ

เจ็ทโด้ยิ้มมองไปที่มือเปียโนผู้สมรู้ร่วมคิด...

“งานทั้งหมดวันนี้ผมขอให้อีซูมินเป็นแม่งาน จากนี้ไปจะเป็นพิธีการแต่งงานในแบบของพี่ ขอให้ทำตามคำสั่งของเธอด้วย” เขาหันไปยกนิ้วโป้งให้ ซูมินเริ่มบรรเลงเพลงผู้หญิงข้าใครอย่าแตะอีกครั้ง

“เรียนเชิญบ่าวสาวคู่แรก แอนนากับซอนเชิญครับ” เขาส่งยิ้มให้หมวดจางแล้วโค้งศีรษะอย่างสุภาพ

“เซม! เชิญครับ!” คังแทจุนเดินมาจูงมือซอนและหมวดจางขึ้นยืนที่ Cat walk หม่าม้าพาน้องแทนมาที่จุดตามคำชี้แนะ กามเทพตัวน้อยในชุดทักสิโด้จูงมือพ่อกับแม่เตรียมเข้าสู่พิธี พวกเขาแอบซักซ้อมกันอย่างดีทีเดียว

อีซูมินเอ่ยเสียงใสจากด้านหลังเปียโน...

“เนื่องจากครอบครัวของเราเป็นนานาชาติ ต่างมาจากหลายศาสนาและความเชื่อ รวมทั้งผู้ที่ไม่เชื่อในศาสนาก็อยู่ตรงนี้ด้วย” เธออมยิ้มเหล่มองนาตาลี

“ฮิ้ว!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! เสียงหัวเราะของพวกเราทำให้นาตาลีแหงนมอง

“เพราะความรักเป็นเรื่องที่เราตกลงกันเองไม่ได้ร้องขอจากพระเจ้า งานนี้จึงไม่มีพิธีกรรมทางศาสนามาเกี่ยวข้อง คู่บ่าวสาวต้องกล่าวคำมั่นสัญญากับคู่รักของตนให้สักขีพยานได้ยินกันทุกคน หนูจะเป็นคนบอกไปทีละขั้นตอน ซัมชุน! เชิญค่ะ” เธอส่งไม้ต่อให้เจ็ทโด้...

“ขอเชิญทั้งสองคนมาที่นี่ครับ น้องแทนครับ! จูงมือป๊ากับม้ามานี่ครับ” สิ้นเสียงของเจ็ทโด...

“พรึบ! กองเกียรติยศก็ยกกระบี่ตั้งซุ้ม เสียงเปียโนเพลงแต่งงานที่คุ้นหูก็ดังกระหึ่ม ทีมวัยรุ่นเอากลีบดอกแคนารีกับมูกุงฮวาโปรยเพิ่มสีสันงานดูแพงไปเลย งานนี้มีแต่กลิ่นอายของความอบอุ่นตื้นตันใจไปหมด

“โป๊ะ!โป๊ะ!โป๊ะ! สายรุ้งกระดาษปลิวระยิบระยับ ทุกสายตาแวววับระยิบระยับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ไป่ไป๋เด็กขี้แยใจดีซับน้ำตาโผเข้ากอด แทน ฉันเองก็ตื้นตันจนน้ำตาไหลปลื้มใจ ถึงจะไม่ใช่งานใหญ่แต่มันเป็นงานของเรา

น้องแทนยิ้มกว้างเดินจูงมือพ่อกับแม่ลอดซุ้มกระบี่ไปหาเจ็ทโด้ นาตาลีวิ่งไปตะโกนข้างเวที...                       

“เจ็ทโด้โอปป้าซารางเฮ ทำดีมากก้มหน้ามานี่ซิ! นาตาลีซอยขาท่าทางสะใจมากโน้มคอเขาลงมาหอมแก้ม เธอดีใจออกนอกหน้าวิ่งกลับมากอดฉัน...                        

“จูยอนอนนี่ ฉันมีความสุขจังเลย นีน่าจ๋า! อีโม่มีความสุขจังเลย”เธอกอดพุงโตก้มใบหน้าคลุกเคล้าแล้วลุกวิ่งไปเหมือนเด็กที่ดีใจท่ามกลางครอบครัว

“โป๊ะ!โป๊ะ!โป๊ะ!! เดอะแก๊งยิงพลุกระดาษสายรุ้งบิดเกลียวฟุ้งห้อง เจ็ทโด้หันหน้าเข้าหาสองบ่าวสาวแล้วส่งช่อดอกไม้ให้เจ้าบ่าว ซอนหน้าแดงยิ้มเก้อถูมือประหม่าอย่างเห็นได้ชัด มือไม้อยู่ไม่สุข

เขาเดินไปตบไหล่ซอน...

“ยินดีด้วยนะไอ้น้องรัก! แกโชคดีมากที่ได้เพชรน้ำงามมาโดยไม่ต้องเจียรนัย เก็บรักษาเท่าชีวิตนะน้องชาย” แววตาใสดังหยดน้ำของทั้งสองจริงใจต่อกัน

เจ็ทโด้หันไปหาหมวดจาง...

“แอนนาครับ! ผมฝากซอนด้วย ขอบคุณมากที่เลือกใช้ชีวิตที่เหลือกับซอน พวกเราเคยใช้ชีวิตโดยไม่เข้าใจความหมาย ยอมแลกชีวิตตัวเองกับเงินเดือนเพียงน้อยนิดจนเกือบฆ่ากันตาย ผมผิดเองที่มองคุณไม่ออก คุณคือของขวัญที่ฟ้าส่งมาให้ซอนและเป็นของขวัญของพวกเราทุกคนขอบคุณมากที่มีลูกน่ารักเป็นดวงใจของพวกเรา” เขายิ้มจริงใจหมวดจางน้ำตาคลอสบตาเขาอย่างขอบคุณแล้วโผเข้ากอด

อีซูมินยกมือ…

“คำว่ารักเป็นสัญญาจากลมปากที่ฝังลงในใจทั้งสองดวง คนสองคนที่ฟ้ากำหนดให้รักกันยังไงก็ต้องคู่กัน หนูจะให้คู่บ่าวสาวกล่าวคำสัญญารักพร้อมกันให้สักขีพยานฟังนะคะ คู่บ่าวสาวคะ! หันหน้าเข้าหากันแล้วจับมือกันไว้ พูดตามหนูนะคะ!” อีซูมินโยกตัวเล่นเปียโนบรรเลงเพลงแผ่วเบาแล้วเอ่ยเสียงดัง...                   

“ข้อ1.ฉันสัญญาว่าจะมองเห็นแต่สิ่งดี ๆ ที่คุณทำ แม้ว่าบางครั้ง คุณจะทำเรื่องที่ไม่ดีมากกว่าก็ตาม”

“..........” บ่าวสาวจ้องตากันเขิน ๆ หมวดจางกัดริมฝีปากกลั้นหัวเราะ ซอนก็อ้ำอึ้งประหม่า

เจ็ทโด้เอ่ยเบา ๆ ...

“ตั้งใจด้วยครับสักขีพยานมองอยู่” เขาพูดเรียบ ๆ สีหน้านิ่ง น้องแทนเงยหน้าเขย่าขากางเกงป๊า

“ป๊า! ตั้งใจสิ” น้องแทนเคืองแก้มป่อง

ทั้งสองบ่าวสาวยืดอกสูดลมหายใจแล้วพยักหน้า อีซูมินสูดลมหายใจตามยิ้มหวานแล้วเอ่ย...

“ข้อ1.ฉันสัญญาว่าจะมองแต่สิ่งดี ๆ ที่คุณทำ แม้ว่าบางครั้งคุณจะทำเรื่องที่ไม่ดีมากกว่าก็ตาม” ทั้งสองพูดตาม เสียงดังฟังชัด

อีซูมินกล่าวต่อ...             

“ข้อ 2.ฉันสัญญาว่าจะยอมรับในความแตกต่างของเรา เพราะมันจะทำให้เรามองโลกที่สวยงามใบนี้ได้ต่างกัน ฉันจะเป็นคนที่อดทนและเข้าใจที่สุดเพื่อครอบครัว”

“ข้อ 3.เมื่อเราทะเลาะกัน ฉันสัญญาว่าจะไม่หยิบอาวุธขึ้นมาแต่ ถ้าพลาดไปหยิบมา ฉันจะเป็นฝ่ายวางก่อน”

“ข้อ 4.ฉันสัญญาว่าจะรักและสนับสนุนคุณ ไม่ว่าชีวิตจะดีขึ้นหรือแย่ลง เจ็บป่วยหรือแข็งแรง ร่ำรวยหรือยากจน เราจะยกย่องกันและกันจากวันนี้จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต”

“ข้อ 5.ฉันจะจดจำไว้ว่า คุณเป็นคนที่ฉันรักและรักฉันตลอดกาล” ทั้งสองกล่าวตามอีซูมินอย่างแข็งขันแล้วสวมกอดกัน

“โป๊ะ!โป๊ะ!โป๊ะ!โป๊ะ!ทีมสนับสนุนวิ่งเข้ามาดึงพลุ กองเกียรติยศเก็บกระบี่เข้าฝัก เจ้าสาวแสนสวยในชุดเดรสสีม่วงผิวผ่องถึงจะมีลูกแล้วแต่ก็ยังสวยไม่สร่าง ดวงตาของเธอหวานฉ่ำ

“มีความสุขมาก ๆ นะ ขอให้มีแต่ความสุขตลอดไปนะคะ แอนนาอนนี่! ซอนโอปป้า! นาตาลีโห่ร้องเชียร์เพื่อนอย่างบ้าคลั่งอยู่คนเดียว  ไม่เมาก็เหมือนเมา

“พรึ่บ! สหายโกและทหารกองเกียรติยศยืนยืดอกทำความเคารพคู่บ่าวสาว ฉันขนลุกเกลียว

เจ็ทโด้ยกมือปรามให้ทุกคนเงียบ...

“เชิญบ่าวสาวจูบกันได้” เขาผายมือ ซอนดึงหมวดจางมาจูบอย่างดูดดื่ม น้องแทนยืนแหงนมองเต้นดุ๊กดิ๊กชี้ซอนแล้วยิ้มปรบมือชอบใจ...

“อึ๋ย!อึ๋ย!ป๊ากับม้า รักกัน! รักกัน! เจ้าตัวน้อยวิ่งวนแล้วเข้าไปกอดขาแม่

เจ็ทโด้เอ่ยขึ้น...

“ขอเชิญบ่าวสาวลงไปต่อกันข้างล่างนะครับ ต่อไปเชิญ...” เขาหยุดลังเลมองหน้านาตาลีแล้วเลยไปมองหน้าแทนกับไป่ไป๋ กรอกดวงตาไปมาคล้ายกำลังตัดสินใจเลือก สูดลมหายใจลึกแล้วเอ่ย...

“ต่อไปเชิญนาตาลีและครอบครัว” เขาตัดสินใจเชิญนาตาลีก่อน  ดอกเตอร์สาวแสนน่ารักของฉัน ยิ้มฟันขาวดี๊ด๊าถูกใจเดินมาโอบเอวแทนกับไป่ไป๋ขึ้นไปยืนคอย หม่าม้ากับคุณหมอนั่งยิ้มมองอย่างสบายใจ

แทนสีหน้าสลดหันไปหาเมียทั้งสองคนของเขา...

“ผมขอโทษนะครับที่ไม่ได้เตรียมเรื่องนี้ให้คุณทั้งสองคนเลย”

“อย่าโทษตัวเอง พวกเราไม่เคยเรียกร้องอะไรจากคุณอยู่แล้ว ขอแค่อยู่ข้าง ๆ แบบนี้ แค่เดินผ่านให้ฉันเห็นว่าคุณสบายดี ฉันก็พอใจแล้ว” นาตาลียิ้มหวาน

“หนูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน อย่าเจ็บ อย่าหายไป ขอให้หนูได้เห็นคุณตอนแก่หลังค่อมก็พอแล้ว” ไป่ไป๋กอดเอวแทน

“อึ๋ย!อึ๋ย! น้องแทนปล่อยมือจากเจ็ทโด้วิ่งกลับมาจับมือของไป่ไป๋และนาตาลี อีซูมินบรรเลงเพลงผู้หญิงข้าใครอย่าแตะคลอเบา ๆ

ฉันยิ้มมองเจ็ทโด้อย่างสุขใจ เขายืนยิ้มมองทั้งสามคนอย่างเอ็นดู เจ็ทโด้ที่ท่าทางกวน ๆ พูดจาขวานผ่าซาก ปากหมา วันนี้เขาทำให้ฉันภูมิใจมากส่งมอบน้องชายไปมีครอบครัวอย่างสมเกียรติ ฉันเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าเขาแอบตกลงกับอีซูมินตอนไหน ก่อนจะมายังเล่นละครตบตาให้ตายใจอยู่เลย

เขาขยับเรียก...

“ขอเชิญมาด้านหน้าครับ” เขากล่าวจบกองทหารขยับตัวกันพรึ่บ อีซูมินขึ้นเพลงแต่งงานอีกครั้ง น้องแทนเดินนำหน้า คุณหมอควงแขนนาตาลีและไป่ไป๋ หม้าม้าควงแขนลูกเขยเดินตามหลัง

“ครอบครัวนี้พิเศษ ผมขอยกให้นาตาลีเป็นหัวหน้าครอบครัวนะ ผมใช้วิธีเลือกจากความสามารถ อีกอย่างผมเองก็นึกไม่ค่อยออกว่าครอบครัวนี้ ใครเป็นผัวใครเป็นเมียเวียนหัวมาก” เขาหัวเราะเบาๆ

“ฮู้ว! ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! หมวดจางหัวเราะสะใจ

“พวกคุณก็ได้พิสูจน์ความรักของกันและกันแล้ว ผมเชื่อโดยไม่มีข้อสงสัยว่าครอบครัวนี้จะมีความสุขไม่น้อยกว่าใคร นาตาลีดูแลครอบครัวของคุณให้ดีนะ” เขายิงตรงไปที่นาตาลี เธอยิ้มพยักหน้ารัวรัวคอแทบหัก ทั้งไป่ไป๋และแทนยิ้มรับ

ไป่ไป๋ชะโงกหน้า...

“ไม่มีแหวนเหรอคะ?” เธอยิ้มอายตาแป๋ว เวลาที่นางเขินอายใบหน้าจะเป็นสีชมพูใสแสงไฟกระทบหัวเหน่ง เจ็ทโด้เอามือปิดหูน้องแทนแล้วบอกกับไป่ไป๋

“แหวนของคุณสองคนสวมนิ้วเจ้าแทนไปตั้งนานแล้ว” เขาอมยิ้ม

“อะไรเหรอ อะไรคะ?” ไป่ไป๋หน้าเหวอไม่เข้าใจ

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! นาตาลีหัวเราะร่วน ฉันเองก็หลุดขำหัวเราะออกมา /เจ็ทโด้นี่! บ้าชะมัดเลย พูดอะไรทะลึ่งตึงตัง/

หมวดจางได้ทีลุกแทรกตัวไปยืนข้างเวทีแล้วตะโกนใส่...

“แหวนเธอหลวมหมดแล้วมั้ง ฉันมีวิชาซ่อมได้ เอามั้ย?”

“หึ๋ย!จำไว้นะ! นาตาลีหัวเราะกระทืบเท้าชี้หน้า

เจ็ทโด้หันไปส่งสัญญาน อีซูมินยกมือ...

“ยินดีด้วยนะคะ เจ้าบ่าวเจ้าสาวจับมือกันเป็นวงกลมค่ะ” เธอก็ช่างหาของมาเล่น

พิธีการยังเหมือนเดิม ทีมสนับสนุนมาโปรยดอกไม้ สหายโกยืนตรงยืดอกทำความเคารพข้างเวที ทั้งสามกล่าวคำสัญญาพร้อมกันเสียงดังลั่นห้องแล้วกอดกันกลม ไป่ไป๋สาวน้อยแสนซนของฉันซาบซึ้งจนร้องไห้ เจ็ทโด้ดึงกลับเข้าช่วงสุดท้าย...

“บ่าวสาว จูบกันได้” สิ้นเสียงเขาทั้งสามคนก็สลับกันจูบ 2 คนมั่ง 3 คนมั่งวาบหวิวนั่งกันไม่ติด ฉันคิดว่าทั้งห้องต้องคล้อยตามครอบครัวนี้แน่นั่งกันไม่ติดเลย

“.............” ภายในห้องเงียบกริบ พวกเรานั่งมองตาค้าง ไม่มีเสียงปรบมือ ไม่มีเสียงเปียโน มีแต่...

“ซัมชุนพอแล้ว! พอแล้ว! ลีของเค้า! ไป๋ของเค้า! น้องแทนดึงขากางเกงของแทนแล้วหันไปหาเจ็ทโด้...

“อาบอจี้ ! พอแล้ว! พอได้แล้ว! น้องหน้างอวิ่งไปหา เจ็ทโด้เอามือปิดตาน้อง...

“พอแล้วครับ ผมหายสงสัยแล้ว” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม บ่าวสาวแยกกันยืนตรงสีหน้าแววตาของนาตาลีดูช่างสมหวัง เธอเริงร่าประหนึ่งว่าโลกใบนี้เป็นของเธอ ไป่ไป๋หันไปหาเจ็ทโด้...

“โอปป้าแอบสงสัยอะไรพวกหนูเหรอคะ?” ยายน้องคนนี้ทำสีหน้าไร้เดียงสามาก

“ฮ่าฮ่าฮ่า! หมวดจางปรบมือหัวเราะลั่น...“สงสัยว่าพวกเธอทำกันยังไงนะสิ ฉันก็อยากรู้มานานแล้ว พอเห็นแล้วจี๊ดเลย” เธอหันไปหอมแก้มซอน

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! เสียงหัวเราะลั่นห้อง หนุ่มน้อยเดอะแก๊งอายหน้าแดง  โดยเฉพาะเจ้าซนยืนตัวแข็งทื่อ บรรยากาศงานแต่งงานวันนี้อบอุ่นน่ารัก ทุกรายการผ่านไปอย่างชื่นใจ

นาตาลียกมือ

“ฉันมีเรื่องจะขอพูดค่ะ” ทุกคนหยุดยิ้มหันมองเธอด้วยความสงสัย นาตาลีหันไปโค้งศีรษะให้กับคุณหมอและหม่าม้า

“ฉันนั่งนึกถึงวันที่ไป่ไป๋จะได้แต่งงานกับแทนมาตลอด ขอบคุณที่ทำให้ฝันเป็นจริง ฉันรักไป่ไป๋และแทนอย่างไม่มีข้อแม้ ไป่ไป๋จะเป็นเจ้าสาวของแทนตลอดไป ฉันขอเป็นเพียงอะไหล่ชิ้นเล็ก ๆ ของทั้งสองคน จะเฝ้ามองจะคอยดูแลและสนับสนุนให้ทั้งสองคนมีความสุขที่สุด จะไม่สร้างปัญหา...อุ๊บ!” เธอพูดไม่ทันจบ แทนก็ปิดปากไม่ให้พูดต่อ

เขายืดอก...

“ผมต่างหากที่จะต้องพูดอย่างนั้น นาตาลีมีเกียรติเกินกว่าจะลดตัวลงมา ผมจะไม่มีวันทิ้งให้นาตาลีต้องจมกับความทุกข์ยากแสนเข็ญจะคอยดูแลความรักของเธอและไป่ไป๋ตลอดไป ขอขอบคุณทั้งสองคนที่เลือกผมให้อยู่ข้าง ๆ กาย ขอบคุณที่ให้โอกาสได้ดูแล ผมจะเป็นอะไหล่ชิ้นนั้นเองจะคอยรับใช้ทั้งสองคนตามที่ใจเธอต้องการอย่างไม่มีข้อแม้ หม่าม้าครับ! ผมสัญญาจะดูแลไป่ไป๋ให้มีความสุขใกล้เคียงกับที่ท่านเลี้ยงมา ป่ะป๊าครับ! ขอบคุณมากในทุกเรื่องที่ผ่านมานะครับ” แทนโค้งศีรษะให้ผู้ใหญ่

หม่าม้ายิ้มหน้าบานตะโกนสวนขึ้นไปบนเวที...

“ฉันเข้าใจแล้ว! ถึงแม้ประสบการณ์ของฉันจะไปไม่ถึง แต่ฉันก็เข้าใจว่าชีวิตคนเราเลือกได้ รักกันให้มาก ๆ ใช้อารมณ์ได้แต่อย่าใช้กำลัง และฉันต้องการหลานชายรีบ ๆ จัดมาก่อนที่ฉันจะอุ้มไม่ไหว นาตาลีฉันขอเป็นแม่ของเธอนะ ฝากน้องด้วย” ท่านจ้องไปที่ใบหน้าลูกสาว...

“ไป่ไป๋! ดูแลพี่ทั้งสองคนให้ดีกว่าดูแลตัวเองนะ รักและไว้ใจกันให้เหมือนกับนกไว้ใจท้องฟ้าปลาวางใจท้องน้ำตราบชั่วฟ้าดินสลาย อย่ายอมให้อารมณ์แค่เสี้ยววินาทีพังทลายความสัมพันธ์ที่ยาวนาน ขอให้พวกเธอรักกันเหมือนทุกวันนี้ตลอดไป” หม่าม้ายิ้มปลื้ม

เหล่ากองเชียร์สนุกสนานกันเต็มที่ นาตาลีอุ้มน้องแทนส่งให้ไป่ไป๋ แล้วต้อนทั้งสองคนลงเวที ฉันยินดีมากที่แทนอดทนผ่านนรกมาจนเจอสวรรค์ ส่วนนาตาลีของฉันตอนนี้จะเล่นอะไรอีก...

“ขอเชิญทุกคนลงไปค่ะ คุณด้วยโอปป้า!ลงไปเลยค่ะ” เธอไล่ทุกคนลงมา นาตาลีในชุดสีแดงเพลิงยืนสง่าต่อหน้าพวกเรา...

“ขอบคุณมากค่ะที่จัดงานแต่งให้ ฉันมีความสุขมากตื่นเต้นมาก คำสัญญาที่ให้กันในวันนี้ ฉันชอบและถูกใจมากและเพื่อง่ายต่อการจดจำ พวกเราพี่น้องจัดงานแต่งพร้อมกันทั้งหมดนี่เลย ใช้วันเกิดของอีซูมินนี่แหละจำง่ายดี ขอเรียนเชิญจูยอนอนนี่กับเจ็ทโด้โอปป้าเข้าประจำที่ค่ะ”

“ห่ะ! ฉันสะดุ้งเฮือก ทหารกองเกียรติยศขยับตัวอีกครั้ง อีซูมินขึ้นเพลงผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ

ฉันน้ำตาร่วงเผาะหัวใจเต้นแรงมาก น้องนีน่าก็ดิ้นใหญ่เลย เหมือนรับรู้ว่าคุณแม่กำลังดีใจสุดขีด สำหรับฉันแล้วนี่มันเกินฝันมาไกลมาก แค่นี้ก็ดีใจแทบบินได้แล้ว ดีใจปลื้มใจยื่นมือให้เจ็ทโด้พยุงเดินก้าวขึ้นเวที น้องแทนยิ้มหน้าบานวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาจับมือ...

“อาบอนีม! ออมมอนีม! น้องแทนแหงนคอมองดวงตาใส นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหมความสุขท่วมใจจนพูดไม่ออก น้ำตาไหลพราก

นาตาลีสวมบทพิธีกร...

“ทั้งสองคนนี้เป็นที่รักของพวกเรา ที่ผ่านมาขอบคุณเจ็ทโด้โอปป้าที่ดูแลดวงใจของพวกเราและให้ชีวิตใหม่กับแทน คุณเปรียบเสมือนพ่อของเขาเพราะฉะนั้นจงเป็นพ่อของพวกเราด้วย และจงดูแลพวกเราต่อไป ห้ามลาออกและไม่มีวันเกษียณอายุ” นาตาลีจ้องมองมา เขายิ้มอายโบกมือปฏิเสธ แทนเข้ามาสวมกอดเขาไป่ไป๋ยิ้มน้ำตาคลอ...

“เอ็นดูหนูด้วยนะคะ หนูไม่ดื้อแล้ว” เธออ้อนเป็นลูกแมวน้อย

นาตาลีพูดต่อ...

“จูยอนอนนี่ขอบคุณมาก ๆ นะคะสำหรับทุกอย่าง ความสุขมีไว้แบ่งปัน วันนี้พวกเราได้รับความสุขมากก็จะขอแบ่งคืนให้พี่ทั้งสองด้วย  เรามาแต่งงานวันเดียวกันเถอะนะ และเอาวันนี้เป็นวันครอบครัวเก็บไว้ฉลองกันทุกปี ขอเชิญบ่าวสาวมาหน้าเวทีค่ะ” นาตาลียิ้มกว้างตลอดเวลา 

อีซูมินบรรเลงเพลงผู้หญิงข้าใครอย่าแตะแล้วพยักหน้าให้ไป่ไป๋ ร้องเพลง เธอก้าวเดินช้า ๆ เข้าไปกอดเอวแทนแล้วพากันเดินขึ้นบนเวทีไปหานาตาลี....

“ไม่ต้องเอ่ยคำให้อภัยใด เพราะเราได้อยู่ร่วมกันแล้วในชาตินี้
            อดีตได้ตามหา บางท่วงทำนองของชีวิตที่ขาดหาย      

พระอาทิตย์ยังคงลับขอบฟ้าไป แต่เรายังห่วงใย        

อยากให้วัยแห่งหนุ่มสาวนั้นหยุดอยู่กับที่          

ภาพเก่า ๆ ในวันวาน ยังถูกเก็บไปฝันอยู่เสมอ” เสียงไป่ไป๋หวานจับใจเข้ากับเปียโนพลิ้วอย่างลงตัว

ฉันตื้นตันจุกใจน้ำตาไหลพราก คำสัญญาจะผูกโยงกับดวงใจที่มั่นคงของสองเรา ฉันเชื่อในความรักของเขาและเข้าใจความรักที่มั่นคงก็วันนี้นี่เอง ฉันขอเป็นผู้หญิงของเขาตลอดไป ฉันสัญญา...ไม่ว่าเวลาจะผ่านเลยไปนานแค่ไหน ไม่ว่าจะฐานะอย่างไร ความรักของเราจะเพิ่มขึ้นทุกวัน ฉันจะไม่ยอมหักหลังความรักของเขา

เมื่อความรักของทุกคนสมหวังแล้ว ฉันขอพูดกับทุกคนบ้าง...

“คุณหมอ! หม่าม้า! สหายทุกคนในที่นี้รวมถึงน้องเดอะแก๊งด้วย วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ฉันรู้สึกมีความสุขจนล้นอก มีคนเคยบอกว่าหากจะฝากฝังอะไรก็ให้พูดตอนที่มีความสุข ฉันขอฝากสักเรื่องนะคะ” เป้าหมายของฉันคือการกินอิ่มนอนหลับของพี่น้องชาวเกาหลีเหนือ...

“พวกเราทิ้งการทำงานเพื่อเงินมาไกลมาก ทุกคนทำงานสุดกำลังโดยไม่หวังผลตอบแทน ทุกการกระทำของพวกคุณคือการตอกเสาเข็มให้เกาหลีมั่นคง ทุกแนวคิดเหมือนติดปีกให้โบยบิน ทุกการเคลื่อนไหวเหมือนไออุ่นยามหน้าหนาว”

“ก่อนจะเป็นพญานกอินทรีย์ที่งามสง่าต่างก็เคยเป็นลูกนกมาก่อนทั้งนั้น ทุกคนมีคุณค่าในตัวดุจทองคำที่เป็นอมตะ ทุกคนไม่ได้ต่างจากวีรบุรุษวีรสตรีคนใดที่เกาหลีเคยมีมา เกาหลีเป็นของทุกคนฝากช่วยดูแลด้วยนะคะ อย่าให้ใครมาบินโฉบแล้วนั่งทับหัวของเราอีก”

“เดอะแก๊ง! สหายถูกฝึกมาเพื่อเป็นผู้นำ สหายคือความหวังของการเปลี่ยนแปลง จงพาพี่น้องเราโบยบินไปให้ไกลสุดจินตนาการ พาไปให้หลุดพ้นจากฝันร้ายเดิม ๆ จงเป็นปฎิปักษ์กับการเอาเปรียบคนโกงอย่ายอมแพ้กับความอยุติธรรม จงจดจำไว้ว่า นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สหายกำลังจะได้รู้จักกับมันเคยทำให้โลกมัวเมาหมองหม่นมาแล้ว ขอให้สหายเลือกสิ่งที่มีประโยชน์กับมวลชนมากกว่าตอบสนองเฉพาะคนบางกลุ่ม”

“ถ้าวันใดที่สหายเห็นว่าฉันหลังค่อมเดินไม่ไหวอย่าได้เอารถยนต์หรูราคาแพงมาให้ สหายจงเอามูลค่าของมันไปแปลงเป็นรถไฟขบวนยาวที่รับส่งสหายได้หลายคนแล้วมาจูงมือฉันไปนั่งรถไฟขบวนนั้น ในวันที่สหายมีอำนาจ!...จงนำทรัพยากรของชาติไปทำประโยชน์แบ่งปันกับคนกลุ่มใหญ่ เข้าใจมั้ย?”

“อารัสซอโย! พวกเราสัญญาจะทำให้ดีที่สุด” เดอะแก๊งปรบมือโห่ร้องรับแสดงว่าพวกเขาเข้าใจสิ่งที่สื่อออกไป ฉันไม่มีอะไรค้างคาใจอีกแล้วขอให้เกาหลีผ่านเรื่องเลวร้ายด้วยเถอะ

เสียงวิทยุเรียกดังขึ้น...

“สหายจูยอน! ทหารจีนติดต่อมาครับ” ดีใจยังไม่ทันจางหาย มารร้ายก็ปรากฏตัวเสียแล้ว

นี่คืออีกเหตุผลที่ฉันเบื่อมนุษย์ ทำไมคนเราถึงต่างคนต่างอยู่ไม่ได้ ทำไมต้องอยากได้ของคนอื่น ทำไมต้องบีบบังคับให้ยอมจำนน ทำไม ทำไม ทำไม?

.....................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม