หมวดหมู่ | The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 9 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 10 พ.ย. 2567 |
มุมมองสายตาซอน
สิงหาคม ค.ศ.2026
วันนัด...
“พั่บ!พั่บ!พั่บ!พั่บ!”เครื่องบินลัดฟ้าจากพยองยางมุ่งสู่ทิศตะวันออกของเกาหลีเหนือ
กลุ่มของเจ็ทโด้เดินทางมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อวาน พวกเราตามมาทีหลังโดยมีหมวดจางนักบินกิตติมศักดิ์เป็นคนขับ เมืองอันซองแห่งนี้ผมเคยมาเยือนเมื่อคราวพาทีมเดอะแก๊งเข้าไปขนของในวลาดิวอสต็อก ผืนแผ่นดินแห่งขุนเขาและทะเลสาบเงียบสงบ
“ซอนดูนั่นสิ! แล่นโคตรเร็วเลย” ไป่ไป๋ชี้ลงไปด้านล่างขบวนรถไฟสายยาวพุ่งสวนกลับเข้าเมืองหลวง
“อ๋อ! แทยังโฮ รถไฟของอดีตผู้นำคงกำลังขนไข่เป็ดเข้ากรุงมั้ง? คุณยังไม่เคยขึ้นเหรอ?”
“ยังเลย!...หนูไม่อยากเป็นพยาบาลก็เพราะอย่างนี้แหละ โดนขังไปไหนไม่ได้ไกลอาชีพนี้โคตรเสียสละเลย” น้องสาวเสียงอ่อยน่าสงสาร เจ้าแทนก็บ้าแต่ทำงานเลย
“หาวันหยุดสิ! ผมจะพาเที่ยวเองเกาหลีเหนือมีสิ่งที่น่าสนใจเยอะมากมีอีกหลายอย่างที่โลกไม่รู้” ผมนั่งคู่กับนายพลห่าวอู๋
“กลับบ้านของเราเถอะหมวย ที่นี่อันตราย”เขาบอกกับไป่ไป๋
“ดอกเตอร์นาตาลีจะไปอยู่ที่ไหนคะ? คุณลุงก็ตามจับไปขังแล้วก็บังคับให้ทำงานอีก”
“แต่ก็ยังได้อยู่ในที่ปลอดภัยได้รับการดูแลอย่างดีและมีชีวิตที่ยืนยาว”
ผมหันไปเตือนสติ...
“คุณปกป้องใครไม่ได้หรอก”
“ถึงคุณจะไม่ชอบผมก็ไม่เป็นไร แต่อย่าดูถูกกันขนาดนี้เลยผมเป็นนายพลของกองทัพจีนมีเพื่อนฝูงและลูกน้องมากมาย”
“แต่คุณก็ยังมีเจ้านาย อย่าลืมสิ! สิงโตที่ว่าแน่สู้แส้ไม่ได้” ผมไม่อยากพูดมาก
“ผมก็คงได้แต่บอกว่า ถ้าอยากมีลูกหลานก็ต้องกลับไปอยู่ที่จีน ประเทศกว้างใหญ่ถ้าไม่ทะเยอทะยานก็อยู่ได้สบาย”
“หนูก็อยากไปใช้ชีวิตสงบเงียบ แต่หนูทิ้งจูยอนไปไม่ได้ค่ะ พวกเราผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน”
“หมวย!...จะเอาชะตาชีวิตตัวเองไปพัวพันกับชะตาคนอื่นไม่ได้ เธอไม่ควรลำบากตั้งแต่ต้น”
ค่ายทหารพลุกพล่านธงชาติของพันธมิตรสามชาติ จีน เกาหลีเหนือ รัสเซีย โบกสะบัดบนยอดอาคาร
“ถึงค่ายตูเมนกังแล้วค่ะท่านผู้โดยสาร นักบินจะนำเครื่องลงอย่างนุ่มนวลนะคะ” นักบินคนสวยยิ้มกริ่มมาตลอดเส้นทาง ค่อย ๆ ลดเพดานบินลงจอดบนกลางลานกว้างของค่ายชายแดน
ไป่ไป๋กระโดดลงแล้วยื่นมือมารับนายพล...
“คุณลุงค่อย ๆ เดินดี ๆ นะคะ” เธอจับมือนายพลเดินเข้าอาคารสี่เหลี่ยมบึกบึนชั้นเดียวนักบินวิ่งตามไป
ผมหันมองหาลูกชาย...
“น้องแทนครับ!” เขาวิ่งเล่นกับทหารในโรงจอดรถยนต์ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลยรู้บ้างไหมว่าพ่อคิดถึง ผมเดินแยกจากกลุ่มไปหา
“น้องแทนครับ! เล่นอะไรป๊าเล่นด้วยจิ” ผมวิ่งเข้าไปหา ทหาร 3 นายกำลังจับโยนเป็นลูกบาสเกตบอลเลย ลูกชายของผมจะโตเป็นคนปรกติเหมือนลูกชาวบ้านเขาหรือเปล่าวะ? เดินไม่เป็นแล้วอยากจะบินอย่างเดียว เล่นอะไรแต่ละอย่างน่าหวาดเสียวนิสัยเหมือนแม่จริง ๆ
เขาหันมาเห็นก็ดีใจโบกมือ ยิ้มตาใสวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามากอดขาแหงนหน้ายิ้มกว้าง...
“ป๊า!ทำไมไม่มาตั้งแต่เมื่อวาน เค้าไปจับกระต่ายมา คนนั้นพาไป” น้องชี้ไปหาพี่ทหาร
“กระต่ายอยู่ไหน?”
“เค้ากินไปแล้ว”
ทหารพรวดเข้ามาคุกเข่ากอดน้องแทนแล้วยิ้มชื่นชม...
“ซอนเซงนีม! น้องใจกล้าจริง ๆ เมื่อคืนผมทำแร้วไปดักสัตว์ เจ็ทโด้เซมให้พาน้องไปด้วย จับกระต่ายได้ดีใจใหญ่เลย” อย่างนี้นี่เองพากันดื้อจนลูกชายลืมพ่อเลย
“ป๊าอุ้ม!” น้องกางแขนกว้าง
“ม้ากับไป๋ก็มาด้วย อยู่ข้างใน”
“เหรอ ๆ ไปหาม้ากัน”
“ฮึบ!” ผมยกลูกชายขี่คอเดี๋ยวนี้ตัวหนักมากแล้วโตขึ้นทุกวัน แอบภูมิใจ...ยิ่งโตยิ่งหล่อเหมือนพ่อ สำเนาถูกต้องมาก
…………………………………………..
ภายในอาคารหลัก...
เจ็ทโด้ จูยอน ไป่ไป๋ หมวดจางและนายพลจีนนั่งบนโต๊ะกลมกลางห้องประชุมกำลังเจรจากัน ผมอุ้มลูกเดินเข้าไปนั่งด้านหลังของเจ็ทโด้ฟังเขาคุยกัน จูยอนนั่งตัวตรงยิ้มหวาน...
“ท่านนายพล! สมควรแก่เวลาที่คุณจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัว ฉันบริสุทธิ์ใจไม่เคยคิดว่าคุณเป็นศัตรู ทุกคนย่อมมีคนรัก คุณก็มีคนรัก พวกเราก็มีคนรัก เราไม่ต้องการสงคราม” เธอพูดนิ่ม ๆ นายพลเฒ่าพยักหน้าเบา ๆ ท่าทางเปลี่ยนไปจากวันแรกที่เจอกัน /ไป่ไป๋ไปทำยังไงเขาถึงรับฟัง/
เจ็ทโด้เป็นคนเดียวที่พูดจีนไม่ได้ ต้องสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษกับเขา...
“ท่านนายพลครับ! ผมเคยเจอท่านกับซีชานที่ Exon service นอร์มังดี” เจ็ทโด้ยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตรสายตาเปล่งประกาย
“หือ!” นายพลจีนหันขวับหน้าตาตื่น...
“คุณรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”
เจ็ทโด้ยิ้มอ่อนแล้วโค้งศีรษะเล็กน้อย...
“ผมคือคนที่ท่านถามหา วันนั้น!...ผมยืนอยู่ที่คูลเลอร์น้ำ ผมเป็นคนรับภารกิจเก็บนกหวีดให้ท่านงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนะครับ”
“คุณคือ The shadow เหรอ? จริงเหรอ?”เขาขยับตัวนั่งตรงทั้งแววตาสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไป
“ครับผมเอง”
นายพลยิ้มอย่างพอใจ สายตาทึ่งจ้องมองเขาอย่างชื่นชม...
“ทำไมไม่บอกผมก่อนหน้านี้ จะได้คุยกันดี ๆ มาคุยอะไรตอนที่ผมต้องกลับ ผมอยากรู้จักคุณจริง ๆ นะ เสียดายจัง!” ท่าทางที่แสดงออกดูจริงใจ
“หวังฉวนไม่น่ามาเสียเวลากับเกาหลีเหนือเลย เราอาจได้เป็นเพื่อนกันก็ได้” เจ็ทโด้สื่อสารกับนายพลโดยตรง เขานั่งฟังนิ่งไม่โต้ตอบ
เจ็ทโด้พูดต่อ..
“หวังฉวนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวกลัวแต่จูยอน จะรบแต่กับประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีความหมาย ท่านอยู่กับเราที่นี่มาพักใหญ่แล้วได้เห็นแล้วว่าพวกเรารักสันติแค่ไหน เราปรับปรุงบ้านเมืองของเราให้น้ำไหลไฟสว่างเพื่ออยู่อาศัยไม่ได้คิดก่อสงคราม ฝากท่านด้วยนะครับ รักษาสุขภาพด้วย” เจ็ทโด้ก็เป็นไปกับเขาด้วย ไม่เห็นจะต้องสุภาพเลย
ปรกติเชลยมีค่าต่ำกว่าหมาที่เราเลี้ยงไว้อีก ทำไมเขาถึงไม่ฆ่าให้มันสิ้นเรื่อง ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ?
หมวดจางในชุดทหารเกาหลีขยับลุกยืนตรง ท่าทางองอาจมาก...
“ท่านนายพลคะ! ในนามของลูกน้องที่ยังเคารพรักท่านอยู่ ฉันไม่ได้หักหลังท่านแต่ทนเห็นคนตายมากมายไม่ไหว ทุกวันนี้ฉันกับนาตาลีก็พยายามรักษา Soulless ให้กลับคืนสภาพ ชดใช้ความผิดที่ทำมา”
“เกาหลีเหนือเป็นที่พึ่งสุดท้ายที่ให้เราพักพิง รบกวนท่านเว้นวรรคไว้ด้วย ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหนฉันก็ยังเคารพท่านเหมือนเดิม ท่านดูแลคุณพ่อของฉันอย่างดีฉันไม่เคยลืมบุญคุณแค่เป้าหมายของเราต่างกัน รักษาสุขภาพด้วยค่ะท่าน!” เธอโค้งศีรษะอย่างงาม
ไป่ไป๋ขยับหมวกไหมพรม นั่งยิ้มหวานคนละฝั่งเอ่ยขึ้น...
“หนูเตรียมยามาให้เผื่อไว้อีก 3 วันนะคะ เราไม่มีอะไรต่อกันอีกแล้วสิ่งที่หนูเคยเตือนเป็นเรื่องจริงทั้งหมดนะคะ หวังฉวนดันซีชานขึ้นเป็นผู้นำ 3 เหล่าทัพไปแล้ว พวกเราเลือกที่จะอยู่อย่างเจียมตัว รักษาสุขภาพด้วยนะคะ” ไป่ไป๋โค้งศีรษะถอยหลังกลับ
นายพลยืดตัวสีหน้าท่าทางของเขาดูเชื่อมั่นมากขึ้น ใบหน้าสดใสรอยยิ้มอิ่มเอมสบายใจ
“พวกคุณก็แค่เด็กขี้กลัวจะปกป้องบ้านเมืองได้ยังไง?ยังอ่อนแอกันขนาดนี้โดนโจมตีไม่กี่ครั้งก็พังทลาย ถ้าคุณยอมเข้าร่วมกับจีนผมยืนยันว่าจะไม่ก้าวก่ายพวกคุณเลย” เขาพูดเรียบ ๆ ผมมองแล้วหมั่นไส้บีบบ่อยเหลือเกินชักโกรธแล้ว
จูยอนเอ่ยขึ้น...
“พวกเราแค่อ่อนโยนกับผู้ใหญ่มิได้อ่อนแอ ฉันเชื่อว่าผู้ให้ย่อมได้รับความดีจะชนะทุกอย่าง ความรักทำให้สุขใจการให้อภัยได้ความสุขล้น”เธอยังพูดไม่จบประโยค ห่าวอู๋ขัดจังหวะ...
“ไม่ได้นะ! คุณจะคิดแบบนั้นไม่ได้ เรื่องพวกนั้นเขาเอาไว้หลอกเด็กเอาไว้ให้ประชาชนท่องจำ ผู้ปกครองที่ไหนจะคิดแบบนั้นกันล่ะ!” เขากลับดุเราเป็นเด็กน้อย ผมไม่เคยถูกใจเลยสายตาเจ็บปวดของทหารยังหลอกหลอน ...
“มารุกรานยังไม่พอ จะสอนให้กดหัวคนอีกเหรอ?” ผมชักทนจะไม่ไหวพูดโพล่งออกไป เจ็ทโด้ยกมือขวาง
“ป๊า!” หมวดจางโผเข้ามาดึงผมถอยออกมา พอเห็นสายตาของเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าทำผิด หันไปโค้งศีรษะให้ทุกคน
นายพลมองผมอย่างไม่สะทกสะท้าน...
“ไมเคิลแจ็คสัน อย่าเป็นคนวู่วามแบบนี้สิ ต่อไปจะทำงานใหญ่ไม่ได้นะ” น้ำเสียงรื่นหู แต่ขัดใจมากมาเรียกผมว่า ไมเคิล แจ็คสัน
“ป๊า! ขอโทษท่านนายพลเดี๋ยวนี้” เธอเสียงเขียวเข้ามา
“ม้าคนอย่างนี้ปล่อยไปก็กลับมาทำร้ายเราอีก จะปล่อยไปทำไม?” ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าให้เขาขอโทษเรื่องไมเคิลก่อน แต่...เมียจ้องหน้าก็ต้องหยุด เจ็ทโด้มองแล้วส่ายหน้าปราม จูยอนอมยิ้ม
เมียของผมตาเขียวปั้ดโกรธไฟลุก ยังจ้องหน้าไม่เลิก...
“ป๊า! ท่านนายพลเป็นผู้ใหญ่แล้ว ท่านก็ต้องมีฟอร์มบ้างเป็นธรรมดา ไปขอโทษท่านเดี๋ยวนี้!” เธอสั่งเด็ดขาด /เสียหน้าตลอดเลยกู/
ผมชะโงกมองสบสายตากับนายพลอ้วน...
“ขอโทษนะท่าน!” โบกมือให้โดยไม่ได้รู้สึกสำนึกสักนิด เขาอมยิ้มมองผมอย่างเมตตาดูเหนือชั้นไปซะอีก
จูยอนยกมือขอพูด..
“ซีชานมาท้าให้เจ็ทโด้ไปสู้กับเขา ฉันเห็นว่าท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของเขาเลยจะฝากท่านกลับบ้านด้วย”
นายพลเลิกคิ้ว...
“อ้าว! คุณจะปล่อยผมไปเฉย ๆเหรอ ผมนึกว่าเขาต่อรองเอาอะไรมาแลกซะอีก แล้วเก้อเฉิงล่ะปล่อยกลับไปด้วยสิ?” เขาสีหน้าแปลกใจ “ไม่มีคนสนใจพวกท่านเลย เรื่องการปล่อยตัวท่านก็เป็นความคิดของไป่ไป๋กับแอนนาอยากให้ท่านได้กลับไปอยู่กับครอบครัว ฉันขอเวลาให้คุยกับหวังฉวนก่อนนะ มาฟังพร้อมกัน” เธอยกวิทยุติดต่อไปที่ปักกิ่ง
“หนีห่าว! ท่านประธานาธิบดี” เธอทักทายชายชราผมขาวที่ดูภูมิฐานบนจอภาพ สปีกเกอร์โฟนเสียงดังจากลำโพงรอบห้อง
“อันยองฮาเซโยจูยอน” เสียงเขาก้องกังวาน นายพลห่าวอู๋ยิ้มมุมปากที่ได้ยินเสียงเจ้านาย
“คุณอยากให้ฉันยิงนิวเคลียร์จริง ๆ ใช่ไหม? คราวก่อนก็ลอบกัดเข้ามาทางเกาหลีใต้คราวนี้มาโผล่รัสเซียอีก ฉันก็มีหัวใจนะคะอย่าบังคับกันแบบนี้สิ” จูยอนพูดเสียงราบเรียบ
“ฮ่าฮ่าฮ่า! อย่าเข้าใจผิดผมไม่ได้สั่ง ผมสัญญากับคุณแล้วว่าจะไม่ยุ่งด้วย พวกเขาคงไปทำกันเอง” หวังฉวนหัวเราะร่าน้ำเสียงไม่ได้มีความกังวลกับสิ่งที่ลูกน้องมาทำ...
“ตอนนี้ซีชานมาท้าตีท้าต่อย คุณจะบอกว่าไม่รู้อีกใช่มั้ย?” จูยอนถามจี้จุด
“ผมไม่รู้จริง ๆ เกาหลีไม่ได้อยู่ในสายตาของผมแล้ว ใครจะทำอะไรไม่เกี่ยวกับผมนี่นา”เขาลดระดับความสำคัญของเกาหลีลงแล้วส่งลูกน้องมาคอยก่อกวน
“แต่พวกนั้นเป็นคนของคุณ ถ้าคุณไม่จัดการฉันจะเข้าไปตามล่ามันถึงปักกิ่งเลย”เธอขู่กลับไปนิ่ม ๆ
“ผมกลัวจนพูดไม่ออกแล้ว อย่าขู่กันนักสิ ฮ่าฮ่าฮ่า!” ท่าทางที่อหังการ์ของเขาบ่งบอกว่า เขาเหนือกว่าทุกประการ
“ฉันคิดว่าจะคืนนายพลห่าวอู๋สักหน่อย เปลี่ยนใจดีกว่า”
“หือ! ยังมีชีวิตเหรอ?”คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันทันที แสดงว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้
“ใช่! ฉันจับได้”
“งั้นคุณส่งตัวเขาคืนมาเลย ผมจะสั่งให้ลูกน้องกลับทั้งหมด”เขาหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“รักษาสัญญาด้วยล่ะ! ติดต่อทหารของคุณด้วย เวลาเที่ยงวันฉันจะเอาตัวเขาไปส่งให้ที่ลานจัตุรัสตุลาคม วลาดิวอสต็อกแล้วเจอกันนะคะ”
“ได้!” เขาบอกก่อนจะวางสาย จูยอนหันมองนายพล...
“เดี๋ยวคุณไปกับคนของเรา ถ้าอยากจะเนรคุณก็ส่งกองทัพเข้ามาได้เลยนะคะ ขอให้โชคดี ลาก่อนค่ะ” เธอยื่นมือ
เขายื่นมือไปจับกับจูยอน...
“ผมไม่มีอะไรจะตอบแทนคงได้แต่ฝากคำเตือนไว้ เกาหลีเหนือตกเป็นเป้าหมายของการทำลายล้าง กองทัพจีนมาที่นี่แน่ อย่าประมาท ขอให้โชคดีเช่นกัน” เขาโค้งศีรษะลาจูยอน
“ยอโบ้วเอายังไงไม่ต้องไปก็ได้นะ?” เธอหันไปหาสามี
“มันมาท้าแล้วก็ไปต่อยกับมันหน่อย ไม่ต้องห่วงนะ! เดี๋ยวจะกลับมาอย่างปลอดภัย” เขากอดเมียท้องโย้ก่อนจะเดินไปขึ้นเครื่องบิน
“พวกคุณระวังตัวด้วยนะ ฉันจะคอยอยู่ที่นี่กับน้องแทนนะคะ”
“อาป้า! ไพ้ติ้ง!” น้องแทนโบกมือส่งพวกเราขึ้นเครื่อง MI-17
………………………………………………………...
“พั่บ!พั่บ!พั่บ!พั่บ!” เครื่องบินปีกหมุนลอยลำเหนือรูปปั้นทหารสวมหมวกบุชนี่โบกธงแดงที่จัตุรัสตุลาคมกลางเมืองวลาดิวอสต๊อก กลุ่มทหารจีนประมาณสองกองร้อยตรึงกำลังฝั่งทิศเหนือ ส่วนทหารเกาหลีเหนือก็ยึดทางทิศใต้เป็นกำบัง
นักบินหันไปหาเจ็ทโด้...
“คุณจะต่อยกับมันจริงเหรอคะ?”
“อื้อ!จริงเหรอคะ?” ไป่ไป๋ขยับเข้าหาเขา
“อย่าเสียเวลาเลยครับ ผมจะพาเขากลับเอง” นายพลพูดแทรกเข้ามา
เจ็ทโด้ยกมือปราม …
“เอาน่า! วันนี้ถือว่ามาออกกำลังกาย เผื่อจะเป็นเพื่อนกันได้”
ส่วนผมนั้นคิดตรงกันข้าม...มันเป็นลูกน้องถึงยศจะใหญ่โตก็เป็นเพียงหมาที่ถูกเลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้าน ยังไงมันก็ต้องกินข้าวของเจ้านายมัน
“พั่บ!พั่บ!พั่บ!พั่บ!” เฮลิคอปเตอร์ค่อย ๆ แตะลงกลางลาน เจ็ทโด้กระโดดเดินนำหน้าเข้าไปหากลุ่มทหารจีนอย่างกล้าหาญ พวกเราเดินตามเป็นพรวน
“Hi!” เจ็ทโด้เอ่ยทักเดินเข้าไปจับมือซีชานรอยแผลเป็นบากใบหน้าเข้มคล้ำแดด บนพื้นวางมีดสั้น มีดดาบซามูไร ปืนสั้น โซ่ แส้ เรียงกันเป็นแถว แสดงว่ามันยังไม่ล้มความตั้งใจ
ไป่ไป๋โบกมือยิ้มหวาน...
“ท่านนายพลซีชานหนีห่าวมะ หนูเอาคุณลุงมาคืน” เธอจูงมือนายพลเอาไปคืนให้เขา
“ทำความเคารพท่านนายพล” ซีชานยืดอกทำความเคารพ
นายพลเตี้ยเอ่ยทัก...
“ซีชาน! สบายดีไหมไม่เจอกันนานเลยนะ”
“ขอประทานโทษครับที่ไม่ได้ติดต่อมารับท่านกลับ”
“แล้วนี่กำลังจะทำอะไรกัน กลับบ้านกันดีกว่า” เขามองไปที่กองอาวุธบนพื้นลาน แล้วหันมามองพวกเรา...
“พวกเธอก็กลับไปได้แล้ว”
ซีชานยืดอก...
“ขอประทานโทษครับ ผมนัดต่อสู้กับเจ็ทโด้ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ผมเรียนกับท่านประธานาธิบดีไปแล้ว ขอเวลาผมสักครู่”
“เดี๋ยวนี้คุณไม่ฟังคำสั่งผมแล้วเหรอ?” นายพลห่าวอู๋แหงนหน้า
“หามิได้ครับ! ขออนุญาตครับท่าน” เขาไม่สนจ้องมองแต่เจ็ทโด้
“ตามใจอยากสู้ก็สู้ไป” นายพลถอนหายใจขยับถอยไป่ไป๋เข้าประคอง
“คุณลุงคะ ไปนั่งดูกันดีกว่า”
พวกเรามานั่งตรงกลางระหว่างทหารของสองชาติที่ยืนเรียงแถวประจันหน้ากัน เว้นพื้นที่ลานไว้ขนาดสนามบาสเกตบอลให้ทั้งสองได้ต่อสู้กัน ผมบอกตามตรงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเลยและไม่ได้อยากดูด้วยเพราะรู้ผลอยู่แล้ว ถ้าวัดกันซึ่งหน้าเจ็ทโด้ชนะขาด
กลางสนาม...
ชายร่างบึกบึนทั้งสองถอดเสื้อกล้ามเป็นมัด เส้นเลือดเลื้อยอย่างกับรากฝอยเต็มหน้าอก คนหนึ่งเส้นผมดำยาวสลวยผิวคล้ำกว่า ตัวเตี้ยกว่าแต่ดูสด อีกคนตัวขาวเส้นผมหงอกสั้นเกรียน รูปร่างสูงใหญ่กว่าและแก่กว่า ทั้งสองยืนประจันหน้ากันอยู่ที่เส้นรัศมีของวงกลม
เจ็ทโด้ บิดคอหักนิ้วดัดมือร้องถาม ...
“เราจะเริ่มด้วยอะไรดีล่ะ ท่านนายพล?”
ซีชานยังยืนยิ้มนิ่งอย่างใจเย็น ท่าทางข่มน่าดู...
“ไม่จำกัด ผมเริ่มเลยก็แล้วกัน” สิ้นเสียงเขาถีบเข้ายอดอก
“ฮึบ!” เจ็ทโด้รูปร่างเล็กกว่าคล่องแคล่วกว่าเบี่ยงหลบแล้วสวนหมัดซ้ายเข้าลำคอ ร่างสูงใหญ่ล้มตึงในหมัดแรก
“ฮือ!” เสียงกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายคราง
“ฮึบ!” เขาดีดตัวลุกขึ้นสะบัดกางเกง
“ดี! ให้มันได้อย่างนี้สิ ถึงจะสนุก!” เขาเต้นฟุตเวิร์ค วนซ้ายขวาแย็บซ้ายขวา
เจ็ทโด้ดีดแข้งซ้ายหมายก้านคอแต่โดนเตะตัดขา ยกล้อหงายท้องล้มตูดกระแทกพื้นไม่เป็นท่า /ผมเบือนหน้าหนี เจ็บตูดแทนเลย/
“ฮือ!” เสียงกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายคราง
ไป่ไป๋หันไปหาท่านนายพล...
“คุณลุงคงอยากกลับบ้านแล้วสินะคะ?”เธอฉอเลาะน่ารักดวงตากลมใสใบหน้าขาวเนียนยิ้มสวยจับใจ /ผมดูไป่ไป๋คุยกับนายพลดีกว่า/
“อืม!” นายพลหันมาพยักหน้าแล้วมองเลยไปที่หมวดจาง...
“แอนนา!”
“คะ!”
“กลับบ้านของเราเถอะ พาไป่ไป๋กลับไปด้วย”
“หนูเองก็อยากกลับแต่ถ้ากลับไปคุณลุงก็ตามฆ่าหนูอีก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะจบสิ้น” ไป่ไป๋ถอนหายใจ หมวดจางยิ้มหวาน...
“ฉันต้องดูแลนาตาลี และฉันก็ผูกพันกับชาวบ้านของที่นี่ ท่านนายพลคะชาวเกาหลีเหนือน่ารักมากเลยนะคะ พวกเขาต้องการเพียงความเป็นมนุษย์ปรกติคืนมา ฝันที่เขาเฝ้ารอพึ่งผ่านมาได้ไม่นานเองนะคะ ฉันอยากจะช่วยปกป้องฝันให้กับพวกเขาและไม่ต้องการเป็นศัตรูกับท่าน”
“ก็ไปรวมกับหวังฉวนสิ เธอจะห่วงอะไรกับคนเกาหลี เธอเป็นคนจีนนะสายเลือดของพวกเราเหนือกว่าพวกนี้อยู่แล้ว”
“พวกเขาก็ยังตกอยู่ภายใต้จีนอยู่ดี”
“อยู่กับจีนยังดีกว่าตายและไม่ได้ลำบากเหมือนกับอยู่กับผู้นำคนเก่าของมันแน่ เธอแค่ให้ชีวิตของพวกเขาก็พออย่ากำหนดชะตาให้พวกเขาเลย ผมดูแลคุณมาหลายปีไม่อยากเห็นคุณโดนทำลายลงไปต่อหน้า” นายพลตอบแล้วหันไปตามเสียงร้องกลางสนาม ซีชานหงายท้องไปอีกแล้ว
“ย๊าก...กก!!” เขาคว้ามีดสั้นขึ้นมาพุ่งเข้าใส่
“ฮึบ!” เจ็ทโด้ตีลังกากลับหลัง เท้าเตะมีดในมือซีชานกระเด็น
ผมไม่เคยสนใจนายพลคนนี้ตั้งแต่แรกเลยไม่เคยคุยกับเขา วันนี้ได้เห็นแล้วว่าทำไมหมวดจางถึงเคารพ เพราะคนอย่างเขาก็มีค่าควรเคารพอยู่บ้าง ไป่ไป๋คุยกับนายพลต่อ...
“หนูไม่เข้าใจ เราก็เป็นคนพวกเขาก็เป็นคนเหมือนกันและก็มีน้ำใจด้วย อีกอย่างพวกหนูก็อยู่กันเฉย ๆไม่เคยไปยุ่งอะไรกับพวกคุณลุงเลย” ไป่ไป๋ชวนคุยไปเรื่อยไม่สนใจกลางสนาม มีแต่หมวดจางที่จ้องมองเจ็ทโด้ไม่วางตา เธอลุ้นตาโตเมื่อซีชานเสียบมีดซามูไรใส่ท้องเจ็ทโด้
นายพลห่าวอู๋หันมา...
“เฉยที่ไหนล่ะ พวกเธอไปฉีดวัคซีนทำไม? เดี๋ยวพวกนั้นมีสติมันก็กลับมาล้างแค้นพวกผม เราทำงานตรงกันข้ามหมดเลย” เขาคุยกับไป่ไป๋สนิทใจ สายตาดูจริงใจเข้ากันได้อย่างสนิทสนม
“คุณลุงกลับไปก็ต้องระวังตัวหน่อยนะคะ หวังฉวนเอ่อ..” ไป่ไป๋น้ำเสียงเป็นห่วง
“เรื่องนั้นไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ เขาเป็นแบบนี้มานานแล้วคนในวงจรอำนาจมักจะไม่ซื่อ ผมเข้าใจ” สายตาของเขามองไปที่สนามแล้วส่ายหัว
“ฮึบ!” ซีชานฟันดาบฉับในจังหวะที่เจ็ทโด้เสียจังหวะ เขาเอี้ยวคอหนีปลายมีดตัดเส้นผมขาดกระจุย
“ขวับ!” เจ็ทโด้หยิบแส้สะบัดไปที่ข้อมือของซีซานแล้วกระชาก
“เคล้ง!” ซามูไรหลุดมือเซตามแรงกระชาก เจ็ทโด้กลิ้งเข้าไปหาแล้วดีดตัวกระโดดขาคู่ล็อกคอบิด พลิกจนเขาล้มทั้งยืน
“ย๊าก!!” เขากระโดดตัวลอย แล้วทิ้งเข่าคู่ลงบนยอดอก
“อั่ก!!!” ลิ้นปี่เป็นจุดตายของทุกคน ซีชานนอนรวยรินลุกไม่ขึ้น
“เฮ!!! เจ็ทโด้เซม แทบัก!” ทหารเกาหลีวิ่งชูมือร้องอย่างบ้าคลั่ง เขาชูมือเหยียบหน้าอกของซีชานประกาศชัยชนะ
เห็นมั้ยล่ะ! บอกแล้วยังไงเจ็ทโด้ของผมก็ชนะ ผมเห็นเขาล้มทหารอเมริกันนิโกรตัวใหญ่กว่าไอ้นี่อีก
“ท่านนายพล!” ทหารจีนกรูเข้ามาประคองลูกพี่
“ไม่ต้อง!” ซีชานลุกพรวดพราดจะเข้าสู้ต่อ นายพลห่าวอู่วิ่งเข้าไป ยกมือห้าม...
“พอแล้ว ๆ เลิก ๆ เสมอกัน กลับบ้านกันดีกว่า”
“ลูกพี่สุดยอด!” ผมเข้าไปจับมือ ไป่ไป๋เอาสำลีซับเลือดที่ปลายคิ้วและปากให้เขา...“โอปป้าเจ็บไหมคะ?”
เขาลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู แล้วหันมองซีชาน...
“ท่านนายพล! คิดว่าออกกำลังกายนะครับ ต่อไปก็เป็นเพื่อนกันได้แล้ว” เขาก้าวเข้าไปยื่นมือ แต่ซีชานปัดมือจ้องหน้าตาเขียวไม่สมควรต่อสู้ต่อหน้าลูกน้องตั้งแต่แรกแล้ว เสือกโชว์พราวเองนี่
หมวดจางเดินเข้าหา...
“ท่านนายพลซีชาน กลับบ้านดี ๆ นะ”
“ไม่ต้องมายุ่ง คนหักหลังต้องโดนลงโทษ ผมไม่ปล่อยพวกคุณแน่” เขาคงเสียหน้ามากไม่เหลือความเป็นสุภาพบุรุษเลย
นายพลห่าวอู๋ตบหลังลูกน้องเบา ๆ ...
“ไปเถอะ!” เขาพากันเดินลงถนนไปทางด้านเหนือไป่ไป๋ป้องปากตะโกน...
“ลาก่อนนะคะคุณลุง!”
พวกเราหันหลังเตรียมตัวกลับทหารเกาหลีวิ่งเข้าห้อมล้อม เจ็ทโด้ยิ้มร่าท่ามกลางกลุ่มทหารของเขา
“เจ็ทโด้เซม! แทบัก!” ทหารได้กำลังใจขึ้นอีกเยอะเลย ลูกพี่เก่งขนาดนี้จะกลัวอะไรอีก
“กลับบ้านกันเถอะ!” เขาโบกมือไล่ให้ทหารกลับ หมวดจางวิ่งยิ้มแป้นไปขึ้นเครื่องนั่งประจำที่
“บรื้น!” เสียงรถยนต์ของทหารจีนเคลื่อนตัวออกไป ผมหันไปมองรถทหารขนาดเล็กเลี้ยวหลบมุมอาคารออกไป ในขณะที่ซีชานกับนายพลห่าวอู๋ยังยืนคุยกันอยู่ที่จี๊ปทหารข้าง ๆ รูปปั้นทหารสวมหมวก
ไป่ไป๋หันมา...
“ซอน! คุณว่าเขาจะกลับมาโจมตีเราหรือเปล่า?” เธอสีหน้าไม่ดี ชะโงกมองนายพลห่าวอู๋ไม่วางตา
“ยังไงมันก็มาอยู่แล้ว ห่าวอู๋ไม่มาคนอื่นก็มา” ผมไม่เคยเชื่อใจพวกเขาเลย ห่าวอู๋ไม่ได้เป็นคนตัดสินใจคนเดียว
“กลับบ้านเราเถอะ” ผมดึงมือไป่ไป๋ขึ้นมานั่งด้วยกันบนเครื่องบิน
หมวดจางหันมา...
“คราวนี้ซีชานเสียศูนย์เลยนะคะ เขาไม่เคยแพ้ใครคงแค้นน่าดู พวกเราต้องระวังตัวให้มากกว่านี้ ต่อไปมันคงไม่มาดี ๆ แล้วล่ะ ระวังมันลอบกัดด้วยนะคะ ฉันเชื่อว่าเขาต้องกลับมาอีกแน่” เธอยังมีความกังวลในสายตา
เจ็ทโด้กระโดดตามขึ้นมา...
“แค้นสิ! เป็นใครก็แค้น การต่อสู้คราวนี้ไม่เป็นบวกเลย เสียเวลา” เขานั่งข้างนักบินด้านหน้า
“อย่าสนใจแม่งเลยพี่ กลับดีกว่าอย่างน้อยมันก็คงหายไปอีกสักพัก” ผมเชื่ออย่างนั้น
“บรื้น...นน!” รถทหารของเรากำลังเคลื่อนที่ถอนกำลังกลับ แล่นตามกันไปบนถนนกลับเมืองคาซาน
ทันใดนั้น...
“ปัง! ปัง!” เสียงปืนดังจากด้านเหนือ ฝูงนกพิราบแตกฮือ
“คุณลุง!” ไป่ไป๋กระโดดพรวดลงไป ผมคว้าไม่ทัน...
“เฮ้ย! ไป่ไป๋กลับมาจะไปไหน?” ผมกระโดดวิ่งตาม
“บรื้น!..” รถจี๊ปทหารจีนออกตัวพรวดไปทางโบสถ์คริสต์ด้านซ้าย ผมวิ่งตามไป่ไป๋ไปติด ๆ
พอพ้นรูปปั้นทหาร...เจอนายพลห่าวอู๋นอนจมกองเลือดข้างซากศพแห้ง เธอปราดเข้าไปช้อนศีรษะของนายพลอ้วน...
“คุณลุง!” เธอกดมือไปที่หน้าอกเลือดแดงทะลัก เขานอนหายใจพะงาบ ๆ
“ซอนคะ! อุ้มไปขึ้นเครื่องให้หน่อย”
“เย่!” ดูจากบาดแผลแล้ว ผมคิดว่าเขาไม่น่ารอดลูกกระสุนเข้าหน้าท้องกับไหปลาร้าขวา
ผมมองหน้านายพลเฒ่าในอ้อมแขนอย่างสลดใจ เกมของอำนาจไม่มีความปรานี เขาคงได้รับบทเรียนของความจงรักภักดีแล้ว ชีวิตหมาล่าเนื้อเมื่อสิ้นเขี้ยวเล็บก็ขาดคนเหลียวแลและต้องตายอย่างเดียวดาย
ผมถาวนาในใจว่า อย่ารอดเลยตายไปซะดีกว่า ชายชาติทหารอย่างเขาคงจะทนความเจ็บปวดจากการหักหลังไม่ไหว หมดอำนาจแล้วจะอยู่อย่างไร แต่...ถ้าไม่ตายก็ให้ไป่ไป๋มันเลี้ยงไปก็แล้วกัน
…………………………………………………………
โรงพยาบาลพยองยาง...
หลังจากส่งนายพลเข้าห้องผ่าตัด ผมจูงมือลูกพี่ออกมาหน้าโรงพยาบาลพยองยางมีเรื่องคาใจเต็มไปหมด
“พี่คิดอะไรทำไมไม่บอกกันสักคำ ให้ผมฝึกเด็กพอเข้าใจได้แต่ปล่อยนายพลจีนกลับบ้าน ผมไม่เข้าใจเลย” ผมอยากจะเค้นคอเหลือเกิน
เขาอมยิ้ม...
“สิ่งที่ให้มึงทำวันนี้ต่อไปข้างหน้ามันจะมีประโยชน์ ส่วนนายพลนั่นมันผิดแผนไปนิดหน่อย แต่ก็ได้ผลดีเกินคาด” เขาบอกยิ้ม ๆ หมวดจางได้ยินเดินปรี่เข้าหา...
“ผิดแผนเหรอ นี่คุณหลอกฉันกับไป่ไป๋เหรอคะ?” เธอขมวดคิ้วจ้องหน้า เขาอมยิ้มแหย...
“กลัวว่าพวกคุณจะแสดงไม่เหมือน ขอโทษด้วยที่ไม่บอก แต่ผมไม่ขอโทษไอ้นี่หรอกนะ โบ๊ะ!” เขายิ้มกับเธอแล้วหันมาตบหัวผมซะงั้น
“แล้วมันได้ผลเกินคาดยังไง?” ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“อย่างน้อยศัตรูของเราก็ลดลงมา เขาโดนลูกน้องยิงและโดนหัวหน้าหักหลัง เขาอาจจะเป็นพวกเดียวกับเราสักวัน รอเขาหายก่อนเขาจะมีประโยชน์ในวันข้างหน้าเหมือนเดอะแก๊งของมึง แอนนา! ฝากดูแลนายพลด้วยครับ เขาจะเป็นคนที่เราใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง คนระดับนี้ไม่ใช่คนธรรมดา” บอกจบเขาก็วิ่งไปหาจูยอน
หมวดจางยิ้มหน้าบานหันมาค้อนผม...
“เขาฉลาดกว่าคุณก้าวหนึ่งเสมอ ฉันชอบเขานะล้ำลึกจริงๆ” สายตาของเธอชื่นชมมองเขาวิ่งไปอุ้มน้องแทนแล้วเดินหัวเราะกันไปขึ้นรถยนต์
“ซอนคะ! ไปส่งหนูที่กีจองดองหน่อยสิ!”
“ยายเหน่งจะกลับไปทำงานเลยเหรอ?”
“หนูลาหม่าม้าแล้วไปกันเถอะ!”
“ฉันไปด้วย เยวอนยอมจำนนแล้วยายดอกเตอร์จะว่ายังไง?”
อย่างน้อยพวกเราก็ได้หายใจคล่องขึ้นจากนี้ไปพวกเราก็คงไม่ต้องระแวงแล้ว ข่าวลือเรื่องของวันนี้คงจะซับความกลัวออกจากหัวใจของชาวเกาหลีได้บ้าง ขอให้มันหายสาบสูญไปเลยยิ่งดี
...........................................................................หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |