The last man stand วบัติ 2026 เล่มที่ 10 ตอนที่ 5

The last man stand วบัติ 2026 เล่มที่ 10 ตอนที่ 5
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 10
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 19 ต.ค. 2568
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


บันมุนจอง
(JSA)

มุมมองสายตาเจ็ทโด้

กันยายน ค.ศ.2026

ผมหมุนพวงมาลัยเลี้ยวขวาข้ามสะพาน 72 ชั่วโมง บริเวณพื้นที่ (JSA) Join Security Area เต็มไปด้วยต้นไม้พุ่มหนาทึบและฝูง Soulless กว่าจะผ่านมาได้ ทหารต้องเข้ามาช่วยกันต้อนเปิดทาง

 “ผมกังวลใจเรื่องตัดไฟจังเลยผมสลัดความคิดนี้ไม่ออกเลยรถยนต์เคลื่อนต่อไปที่อาคารทงกิลกัก อาคารสี่เหลี่ยมชั้นเดียวโดดเด่นกลางลานปูนอยู่ด้านซ้าย

ยอโบ้วคะ! ตัดไฟแค่ในเมือง นอกเมืองไม่มีปัญหาหรอกค่ะ! แถบนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่คะเธอยังคงวางใจ

“ไม่รู้สิ!แต่ผมรู้สึกอึดอัดใจ ถ้าผมเดาไม่ผิดพวกมันตายเพราะลำโพงนกหวีด มันต้องแอบเข้ามาโจมตีตอนเราเผลอผมห้ามเรื่องตัดไฟฟ้าไม่ได้การตัดสินใจเป็นงานของพวกเธอ ได้แต่ยอมรับแบบกังวลใจ

อย่ากังวลมากสิเดี๋ยวแก่ไวนะ มันบุกรุกเข้าโดยไม่ขออนุญาต ตายไปก็สมควรแล้วนี่คะ?เธอหันมาชี้ไปอาคารทงกิลกักบนลานปูนทางซ้าย ...

จอดรถที่นี่แหละค่ะ เดินไปกันดีกว่าออกกำลังขาบ้างก็ดีดูเธอจะไม่ทุกข์ร้อนจูงมือน้องแทน

อาคารทงกิลกักบนลานปูนด้านซ้าย บอบช้ำแสนสาหัสจากการโดนโจมตีจาก Tamer30 ของนายพลห่าวคราวก่อน เจ้าแทนกับทหารมาติดอยู่ในนี้

เละเลย! ดีนะที่เจ้าแทนมันรอดตาย หึหึหึ! เห็นแล้วก็ขำ กระจกหน้าต่างอาคารแตกมองทะลุถนนด้านหลัง ซุ้มต้นแมคโนเรียเหลืองบานสะพรั่ง

“แทนของฉันไว้ใจได้อยู่แล้ว ป่านนี้คงรู้เรื่องโดนโจมตีแล้วมั้งคะ?” เธอไม่เคยมีข้อแม้กับแทนเลย แต่ตอนนี้กลับให้เจ้าแทนถอยห่างจากกองทหาร

“คุณชอบไปแกล้งมัน สักวันมันไม่รักแล้วจะหนาวทำไมถึงไม่ยอมให้มันไปสนามรบ”

“แทนให้ฉันมากเกินกว่าที่จะรับน้ำใจของเขาได้อีก ถึงเวลาที่เขาจะได้มีความสุขบ้างแล้ว สหายโกต้องทำหน้าที่ปกป้องในฐานะเจ้าของบ้าน เกาหลีต้องยืนด้วยขาของตัวเอง” เธอสนิทกับเจ้าแทนยิ่งกว่าพี่น้องคลานตามกันมาซะอีก

“ระหว่างเจ้าแทนกับสหายโก ผมเชื่อใจเจ้าแทนมากกว่า” ผมรู้สึกอย่างนั้นอาจจะเป็นเพราะว่า แทนอยู่กับผมมานานและผ่านสมรภูมิมาด้วยกันหลายครั้ง

“ฉันก็เหมือนกันค่ะ แต่สหายโกก็เป็นคนดีทีเดียวไว้ใจได้ค่ะ”

 น้องแทนเดินไปเด็ดดอกหญ้ามากำใหญ่

ออมม่า! นั่งลงครับ นี่สวย ๆ” น้องเสียบดอกไม้ทัดหูทั้งสองข้างให้จูยอนแล้วเอียงคอยิ้มมอง...

ออมม่าสวยเหมือนกับหม่าม้าเหมือนไป๋เหมือนลีเลยเจ้าตัวน้อยจับแก้มยิ้มปลื้ม

เธอดึงเข้ามากอดขอบคุณ...คูมอโย!

จูยอนสวยอิ่มเอิบในชุดฮันบกสีฟ้าสดใส กระโปรงขาวบานอล่างฉ่างพองฟูปิดบังท้องของเธอได้สนิท ดูแล้วไม่เหมือนคนท้องเลย

จู่จู่...

แป๊น! ผมสะดุ้งสุดตัวหันกลับไปมองถึงกับผงะ

รถหัวลากสแกนเนียคันใหญ่เครื่องยนต์เงียบกริบกำลังเคลื่อนเข้ามา คนขับเป็นเด็กผู้ชายตัวอ้วนหัวหลิมชะโงกหน้ายิ้มแก้มยุ้ยตาหยีมีเด็กผู้หญิงนั่งติดรถมาด้วย

สหายผู้นำ! เจ็ทโด้เซม! อันยองฮาชิมนิก๊า ขึ้นรถสิครับผมจะไปส่ง น้องเดอะแก๊งตัวอ้วนใหญ่ตะโกนลงมา

จูยอนหันไปยิ้มกว้างโบกมือ...คังแทจุนทงมู! เหนื่อยมั้ยคะ?

ไม่เหนื่อยครับ! วันนี้ไม่ได้สอนขับรถ ผมเลยมาช่วยสร้างเขื่อนกั้นน้ำไว้ใช้ทำนาแถบนี้ครับเด็กวัยนี้แข็งแรงทำงานโต้รุ่งได้สบาย ๆ

กินข้าวเยอะ ๆ นะคะ ข้างบนสันเขื่อนเป็นยังไงบ้างคะ?

วันนี้เละ! อุงอิลพันจังพาสมุนขึ้นมาเต็มเลยเจ้าอ้วนหัวเราะร่วน

อะไรเละคะ?

แก๊งศิลปินจินตนาการมาครับ หึหึหึ!

อ๋า!..อุงอิลมาถึงนี่แล้วเหรอให้กำลังใจน้องด้วยนะคะ รูปศิลปะล้ำค่าแบบนั้นหาดูยากนะคะ ไม่ได้ลอกแบบมาจากใครมันเป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจของน้อง ๆ

ฮ่าฮ่าฮ่า!” เจ้าอ้วนหัวเราะตาหยีส่ายหน้าไม่เอาด้วย รูปวาดจิตรกรรมฝาผนังที่เจ้าซอนหัวเสียมาก

เอ๊!...สหายมีแฟนแล้วเหรอคะ?เธอเลิกคิ้วแหงนหน้าคุยกับน้องโชเฟอร์

แฟนของเขานั่งคู่กันมาปากนิดจมูกหน่อยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักมาก...แต่เอ๊ะ!..ทำไมแฟนมันยิ้มค้างวะ?

ตุ๊กตาญี่ปุ่นครับ เอามานั่งเป็นเพื่อน

ตุ๊กตาอานิเม๊ะของมันเอ็กซ์มาก

สหายเอาชุดโกโจรีมาสวมให้ด้วยสิ เดี๋ยวน้องหนาวนะ! ฉันขอตัวก่อนนะคะจูยอนยิ้มแก้มใสโบกมือลา

เย่!!

“แป๊น! แป๊น! รถหัวลากเลี้ยวออกถนนด้านหลังทงกิลกักเข้าป่าไปที่ Ouellette Camp  

“ขอเหตุผลหน่อยครับ ทำไมถึงให้เด็กเล็กไปวาดรูปบนกำแพง ขนาดเป็นรูปกราฟฟิตี้ยังโดนลบเลยนะครับ”

“ก็สวยดีนั่นแหละเหตุผล” เธอเล่นลิ้น

“ไม่จริงหรอก คุณไม่ได้คิดแค่นั้นแน่” ผมรู้ทัน

“มี 2 เรื่องที่ต้องแก้ไขด่วน 1.เกาหลีเหนือโดนตราหน้าว่าเป็นแดนสนธยามีแต่ความน่ากลัว ภาพลักษณ์ของเรามีแต่ เผด็จการ ขีปนาวุธ อาวุธสงคราม รถถัง ทหาร ยิงเป้า สถานกักกัน บลา! บลา! บลา! แม้กระทั่งอาคารต่าง ๆ ก็ดูบึกบึนข่มขู่ไม่มีความอ่อนช้อยเลย 2. ชนชั้นซองบุนที่ยังหลงเหลืออยู่คือสีของบ้าน บ้านแต่ละหลังจะถูกกำหนดชนชั้นเอาไว้ด้วยสีต่าง ๆ ต้องลบมันออก รูปภาพไร้เดียงสาของเด็กจะกลืนกลบลบภาพความทรงจำที่โหดร้ายและความเศร้าโศกทุกข์ระทมตลอดมา ฉันจะเริ่มต้นใหม่ด้วยวัยเยาว์ เกาหลีจะมีแต่ความจริงใจและรอยยิ้มต้อนรับที่อบอุ่น เด็กของเราจะพาแขกมาชมรูปภาพพวกนี้ในวันที่เขาโตขึ้น...”

“โอเค!” ผมเข้าใจแล้ว แต่ถ้าเอาไปอธิบายให้ซอนฟัง มันต้องบอกว่า วาดอย่างอื่นก็ได้

ฉีดเลย! ฉีดเลย! เสียงร้องเชียร์ปรบมือเป็นจังหวะดังไกลออกไปบนถนนฝั่งหน้าอาคารสันติภาพเกาหลีใต้ กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวในชุดวอร์มทั้งสามสีกำลังสนุกสนานกับการฉีดวัคซีนบนถนนหน้าอาคาร ทั่วบริเวณดูโล่งโจ้ง ต้นไม้โดนระเบิดเผาเกรียมเหลือแต่ตอ

โอปป้า! คนนี้ฉันฉีดแล้ว ขีดกากบาทหน้าผากให้ด้วยค่ะ!” น้องสาวเกาหลีเหนือคนสวยเย้าทหารหนุ่ม ความสดใสน่ารักไร้เดียงสาดูแล้วเพลินตาสบายใจ

โอ๊ย! แสบตาจัง!” สาวน้อยบลูสกายกระเซ้าทหารหนุ่ม

แสบมากมั้ย? เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้นะ” หนุ่มน้อยลนลานด้วยความเป็นห่วง

แสบตาเพราะแสงในตัวของโอปป้านั่นแหละค่ะ!

“ไอ๊กู่!...” น้องทหารอายหน้าแดงก่ำ หนุ่มเกาหลีเหนือส่วนมากขี้อายและสุภาพเพราะอยู่ในวัฒนธรรมแช่แข็งมานาน

แม้สภาพของพวกเลื่อนลอยไม่บันเทิงสายตาเท่าใดนัก แต่ความหดหู่นั้นกลับโดนกลบได้ด้วยรอยยิ้มสดใสราวกับดอกไม้บนหลุมศพ หดหู่แต่ก็ชื่นใจ

จูยอน ผมสงสัยอยู่อย่าง?ผมคาใจกับบางเรื่อง

โยวโบ้! สงสัยอะไรคะถามได้เลย ฉันไม่มีความลับอยู่แล้ว

คุณกล้ายิงนิวเคลียร์ถล่มจีนจริง ๆ เหรอ?ผมสงสัยเรื่องนี้มากที่สุด ลำพังตัวผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะกล้าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้

ฮ่าฮ่าฮ่า! เธอป้องมือหันมา...อย่าไปบอกใครนะ! ฉันไม่กล้าหรอกค่ะ!ฮ่าฮ่าฮ่า”

อ้าว!

โยวโบ้คะ! ฉันไม่เคยคิดจะยิงเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันบอกแล้วไงคะว่า...ฉันรักโลกและจะไม่ยอมเป็นคนทำลายมัน

คุณขู่หวังฉวนซะอยู่หมัดเลย

ก็เอาไว้แค่ขู่ การมีอาวุธไม่ได้หมายความว่าต้องยิงทุกครั้งนี่คะ ฉันจะบอกความลับให้...เธอยิ้มเจ้าเล่ห์เดินแกว่งแขนสบายใจ

หือ! ซ่อนอะไรไว้อีก?

ฉันปลดชนวนระเบิดขีปนาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดแล้ว

อ้าว!

ฉันไม่มีวันทำร้ายโลกใบนี้ ฉันคิดอย่างถี่ถ้วนและทำมันอย่างตั้งใจ ฉันจะส่งมอบโลกที่สวยงามให้กับลูกหลานของมนุษย์โลกที่จะเกิดขึ้นมาใหม่

เอ่อ... ด้วยสายตาที่มุ่งมั่นนั้นทำเอาผมพูดไม่ออกเลย

เนก้าเจ๋อิลจั๋ลนาก้า! เสียงของคนรุ่นใหม่ร้องเพลงผ่านหน้าเราไป เสียงแห่งความสุขนี้กลืนกลบลบความเจ็บปวดของอดีต

อันยองฮาเซียว!!! น้องสาวเกาหลีในชุดสีฟ้าเดินเรียงแถวเป็นระเบียบหันมาเริงร่าโบกมือ

ฉันจะปกป้องธรรมชาติจนถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้ คืนความสบายใจให้กับมวลมนุษย์

ความคิดนี้ผมไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่

ออม่อ!...โย้วโบ้!” จู่จู่เธอก็ร้องลั่นกุมหน้าอกหันมองเลิ่กลั่ก

น้องแทนล่ะ! ไปไหนแล้ว! เดี๋ยวเหยียบกับระเบิดนะคะ ไปตามหาลูกเร็ว!

เอ่อ! ผมหมุนมองหาใจคอไม่ดีไปด้วย...

โน่นแน่ะ! ผมชี้ไปที่ด้านหลังอาคารบันมุนกัก น้องแทนขี่คอทหารอารักขาหัวเราะร่วน

“หนีไปตอนไหน ไวจริง ๆ เลย” เธอยิ้มเก้อ ผมก็ใจหายใจคว่ำกับความซนของน้องแทนหลายครั้งแล้ว

“ฮาซามินจุน! ผมโบกมือเรียกจ่าสิบตรีมินจุน...

น้องอยากเล่นยิงปืนจัดชุดใหญ่ให้ด้วย

“เย่!

น้องแทนทำให้เวลาของพวกเราเดินผ่านไปเร็วมาก ความสุขจากเด็กชายที่มอบให้เป็นพลังทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผมไม่มีเป้าหมายอื่นแล้วตั้งใจไว้ว่าจะอยู่คอยดูแลจูยอนและดูลูกของเราโตเป็นผู้ใหญ่ คอยตามใจให้เธอได้มีเวลาอยู่กับตัวเองบ้าง

ผมหันกลับมาคุยเรื่องที่ค้างคาใจต่อ...

ยังมีเรื่องที่ผมไม่รู้อีกมั้ยครับ เล่าให้ฟังหน่อยสิผมไม่เคยถามแผนงานของเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไรผมมีหน้าที่สนับสนุนเท่านั้น

เป็นความลับระหว่างนาตาลีกับฉัน เรามีเป้าหมายร่วมกัน 2 อย่างค่ะ

มีเรื่องอะไรกันเหรอ?

เรื่องของความเหลื่อมล้ำจบไปแล้ว อีกเรื่องเป็นสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติค่ะ แน่ใจนะว่าจะฟัง?”

“เชิญครับ! สงสัยว่าจะยาวแน่ ๆ เธออมยิ้ม ตั้งท่าเหมือนนักร้องผิวสีเตรียมตัวร้องแร็พ...

“ภาวะโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลายจนสัตว์ไร้ที่อยู่และหลายชนิดกำลังจะสูญพันธ์ การขุดน้ำมันจนโพลงใต้ดินพังทลายเกิดเป็นหลุมยุบไปทั่วโลก แม่น้ำบนท้องฟ้าเคลื่อนที่เร็วผิดปรกติทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม่น้ำแอมะซอนแห้งเหือดในรอบหมื่นปี ขยะปริมาณมหาศาลในมหาสมุทรใหญ่กว่าทวีป ปริมาณสัตว์ป่าที่ลดลงน่าใจหาย พวกมหาเศรษฐีเหล่านั้นทำลายธรรมชาติมาโดยตลอดและพวกมันอยู่เบื้องหลังรัฐบาลทั่วโลกและอาจจะยังมีชีวิตอยู่ เมื่อคืนซอนบอกว่าขายวัคซีนให้พวกมันไปด้วย...น่าเจ็บใจจัง!” เธอแร็พยาวเลย ท่าทางเริ่มเดือดดูท่าน่าจะไม่จบแน่

ผมรีบยกมือเบรก...

โอ้ว! เยอะไปแล้ว...ภาระนี้หนักกว่าการสร้างชาติซะอีก ผมค่อย ๆ คิดตามก็เห็นภาพของความจริง ความสิ้นหวังของชาวบ้านความยากไร้ของชนชาติ ต้นกำเนิดของความเหลื่อมล้ำมาจากคนกลุ่มนี้มีอำนาจเหนือนักการเมืองและใช้ให้เป็นเครื่องมือกอบโกย

คุณไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน ผมยอมรับเลยนะว่าหลายเรื่องที่พวกคุณคุยกัน ผมไม่เคยรู้มาก่อนผมมอบตัวด้วยความด้อยปัญญา

ถ้ามองจากภายนอก เธอก็สดใสน่ารักไม่ต่างจากหญิงสาวทั่วไป แต่ความคิดของเธอล้ำไปไกลกว่าผมหลายช่วงตัว ในบางสิ่งผมก็คิดไม่ถึงและไม่เคยรู้มาก่อน อายุที่มากกว่าไม่ได้บอกว่าฉลาดกว่าเหมือนที่น้องพอดีเคยพูดไว้จริง ๆ

อ๋า! ในระหว่างที่ฉันเดินทางทำงานให้กับยอร์น ฉันสะดุดกับโปสเตอร์ของกลุ่มเด็กออกมาเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ส่งมอบโลกที่ดีกว่าให้กับพวกเขา ฉันเห็นด้วยและตระหนักถึงปัญหาที่พวกผู้ใหญ่ละเลยและกำลังส่งมอบขยะกองใหญ่ให้เป็นมรดก ฉันเลยตามหาต้นตอว่าใครเป็นเจ้าของแนวคิดนี้”

ค่อย ๆ เล่าครับ ผมตั้งใจฟังอยู่” ถึงผมจะไม่ฉลาดก็พอมองออกว่า จุดเริ่มต้นของเกียรติ ความร่ำรวย ความเหลื่อมล้ำและจุดจบของโลกมันคือจุดเดียวกัน

โลกของเราอยู่ในภาวะวิกฤติสิ่งแวดล้อมตั้งนานแล้ว ในขณะที่สังคมถูกบีบให้สนใจแต่เรื่องเศรษฐกิจปากท้องจนมองไกลไม่ได้ พวกที่พอมีพอกินหน่อยก็หันไปสนใจแฟชั่นติดกับดักความฟุ้งเฟ้อ รวยขึ้นมาหน่อยก็สนใจชื่อเสียงเกียรติยศเป็นเหยื่อของผู้กุมอำนาจที่สร้างกลไกครอบคลุมขึ้นมาเรียกว่า ระบบชนชั้นเศรษฐกิจ

แบบนี้ใช่มั้ยถึงไม่มีคนต่อต้านอย่างจริงจัง แม้กระทั่งนักข่าว?

ทุกคนต่างก็เป็นทาสของระบบ จึงมองไม่เห็นความพินาศมวลรวม แต่มีเด็กผู้หญิงวัย 14 ปีชาวสวีเดนคนหนึ่งชี้ให้เห็นปัญหา เธอหยุดเรียนหนังสือแล้วออกมาประท้วงหน้ารัฐสภาด้วยตัวคนเดียว เรียกร้องให้ผู้นำประเทศของตนหยุดทำลายธรรมชาติ เด็กคนนี้แหละที่เป็นไอดอลของฉัน!

เด็กผู้หญิงอีกแล้วเหรอ?ผมรู้สึกทึ่งอีกครั้ง หัวใจของเด็กผู้หญิงละเอียดอ่อนสัมผัสภัยได้ก่อนและกล้าหาญที่จะออกมาพูดความจริงเตือนผู้ใหญ่

ใช่ค่ะ! แต่น่าสลดใจที่พวกผู้ใหญ่พยายามดิสเครดิตเด็กและด้อยค่าหาว่าเด็กกร้าวร้าวใส่ นี่แหละคือความเลวทรามของผู้ใหญ่ พวกเขาพยายามโจมตีทำให้คำพูดของเด็กหมดความหมายไป พวกเขาปกป้องนายทุนจนตาบอดจมูกโหว่ชี้ไปที่กองขยะและบอกกับทุกคนว่ามันคือทองคำ

ผมเชื่อนะ! เพราะในทุก ๆ กิจกรรมที่กล้าหาญเด็กผู้หญิงมักจะใจถึงกว่าเด็กผู้ชาย เล่าต่อสิชักสนุกแล้ว

ใบหน้าของน้องพอดีลอยเด่นขึ้นมา ผู้กล้ามักจะปรากฏตัวหลังวิกฤติและผู้กล้ามักจะเป็นเด็กผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ พวกเธอรู้ร้อนรู้หนาวก่อนเด็กผู้ชายเสมอหรืออาจเป็นเพราะว่าการปกป้องอุ้มชูเป็นสัญชาตญาณของเพศแม่

เธอรณณรงค์ด้วยตัวคนเดียว เรียกร้องให้รัฐบาลฟังคำแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์ การกระทำที่กล้าหาญด้วยหัวใจบริสุทธิ์นั้นทรงพลังมาก ส่งผลให้เกิดกระแสนักเรียนหัวก้าวหน้าในหลายประเทศหยุดเรียนเพื่อช่วยเธอเรียกร้อง วันหนึ่งเธอได้ขึ้นพูดในที่ประชุมสหประชาชาติเรื่อง คุณทิ้งภาระนี้ให้เด็กได้อย่างไร? ฉันยังจำประโยคที่ฉุดให้ตระหนักและหลงใหลไม่เคยลืม...

ขอฟังหน่อยสิ!

เธอขึ้นไปพูดบนเวทีด้วยใบหน้านองน้ำตา พูดด้วยความคับแค้นใจใส่หน้าผู้นำประเทศที่นั่งในที่ประชุมว่า คุณกล้าดีอย่างไร? พวกคุณขโมยความฝันและวัยเด็กของเราด้วยคำพูดจอมปลอม ในโลกนี้ยังมีผู้คนอยู่อย่างทรมานเพราะขาดอาหาร บาดเจ็บ ล้มตาย และระบบนิเวศทั้งหมดกำลังล้มลง เรากำลังจะสูญพันธุ์กันอยู่แล้ว แต่พวกคุณกลับพูดกันแต่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ และผลการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ คุณกล้าดีอย่างไร?

เธอพูดกับกลุ่มผู้นำโลกว่า คุณกล้าดีอย่างไรเลยเหรอ?ผมทึ่งไปด้วย

ใช่ค่ะ! ชี้หน้าด้วย

เด็ดขาดสุดยอดมาก!” ผมยิ่งคิดถึงหัวใจเด็ดเดี่ยวของน้องพอดี โลกใบนี้ต้องการคนแน่วแน่แบบนี้มาเปลี่ยนแปลง

ถ้าไม่มีคนคิดแตกต่าง ทุกอย่างก็ถูกกลืนกินโดยกลุ่มมหาเศรษฐีโลภมากประมาณ 5,000 ตระกูลและสมุนของพวกมัน มวลมนุษย์อีก 7,000 ล้านคนก็เป็นเพียงเหยื่อที่ต้องดิ้นรนตั้งแต่เกิดจนตาย

แรงไปมั้ยครับ?

นี่คือความจริงที่แสนเจ็บปวด มันตรงซะจนคนที่เป็นทาสฟังไม่ได้ นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ฉันไม่รู้สึกเสียดายที่ประชากรโลกลดลง เพราะในวันที่โลกยังแก้ไขได้กลับไม่มีคนสนใจ ฉันอยากจะทำมันเพราะฉันก็ได้ยินเสียงเรียกร้องนั้นเช่นกัน

ตั้งแต่ผมได้ฟังเรื่องราวอีกมุมของคนรุ่นใหม่จากคุณลุงเขมรแดง ได้สังเกตพฤติกรรมของเดอะแก๊งและทีมวัยรุ่นเกาหลี ผมเริ่มเชื่อและรับรู้โดยสัญชาติญาณว่าการเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจากเด็กไม่ใช่คนแก่ จินตนาการของเด็กล้ำค่ากว่าความคิดยึดติดของคนแก่ ที่ผ่านมาปัญหามันอยู่ที่คนแก่เลอะเทอะมีอำนาจมากเกินไป

แต่เด็กคนนั้น คงไม่ต้องการลดประชากรโลกด้วยมั้งครับ?

การช่วยมนุษย์กลุ่มเดิมกลับมาไม่ได้ช่วยให้โลกนี้ดีขึ้น เริ่มต้นกันใหม่ดีกว่าและที่สำคัญผู้ที่รอดไม่ได้เริ่มจากศูนย์นะคะ ทรัพย์สินและเทคโนโลยีมากมายที่จะช่วยให้พวกที่เหลือรอดใช้ชีวิตอย่างไร้กังวล ฉันเชื่อว่ามันเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนแปลง คนทั่วโลกที่รอดประมาณ 3% ไม่ใช่ผู้ประสบภัยนะคะ จะไม่มีใครหิวโหยเพราะความยากจนแล้ว ฉันเสียดายมากที่รู้ว่าซอนช่วยชีวิตพวกตัวการเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว

จูยอนกับหมวดจางมีความกล้าหาญและมุ่งมั่นไม่ต่างกัน แต่คนหนึ่งต้องการช่วยมนุษย์กลับคืนมา อีกคนเห็นในทางตรงกันข้าม

“คุณเกลียดพวกเขามากเลยนะ” จุดเด่นของเธอเลย

“โอปป้า! ฉันขอยกตัวอย่างเรื่อง PM2.5 ก็ได้ค่ะ ไม่มีผู้นำคนใดในโลกออกมาจัดระเบียบอุตสาหกรรมในชาติ แต่กลับออกกฎหมายจับชาวบ้านที่เผาขยะเผาหญ้าข้างบ้าน...ปัญญาอ่อนชัด ๆ ที่เลวร้ายกว่าก็กองเชียร์รัฐนั่นแหละ”

คุณเหมือนธานอสว่ะ! ดีดนิ้วทีเดียวโลกเปลี่ยนไปเลย

ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! หวังฉวนโน่น!...มันเก่งกว่าเยอะ โลกเก่าพังลงไปเพราะเขา ไม่ใช่ฉัน”

“อยากทำอะไรก็ทำเลย เอาสิ่งที่คุณคิดไปใส่หัวเจ้าซอนเยอะ ๆ มันจะช่วยคุณได้มาก เริ่มต้นจากเดอะแก๊งนี่แหละ”

“ขอบคุณมากเลยนะคะที่ตัดสินใจใช้ชีวิตกับฉัน นอกจากพวกคุณแล้วก็คงไม่มีใครเข้าใจฉันอีกแล้ว

“ผมพอแล้วกับการแสวงหาทรัพย์เพื่อปกปิดปมด้อย ผมรู้แล้วว่าถ้าเราไม่อนุญาตใครก็ดูถูกเราไม่ได้ ผมมีความสุขมากและขอบคุณเช่นกันที่มาเติมเต็มในสิ่งที่ผมขาด”

“แต่โอปป้าอาจจะต้องลำบากอีกนะคะ”

“คุณตัดสินใจได้ทุกอย่าง ผมจะแบกรับการตัดสินใจนั้นเอง”

การยอมรับและเข้าใจกันคือสิ่งที่ง่ายที่สุดของการใช้ชีวิตคู่กัน ขาที่ไม่ทำงานประสานกันตามท่วงทำนองย่อมเดินไม่สะดวก เมื่อตัดสินใจใช้ชีวิตด้วยกันแล้วใครเป็นคนตัดสินใจไม่สำคัญเท่ากับการยอมรับกันและกัน

“เจ็ทโด้! เจ้าซอนเรียกวิทยุมา

“ว่าไง!

“ทหารจีนตายลอยน้ำมาติดชายหาดนัมโพ ประมาณ 3 กองร้อย คาดว่าตายไม่เกิน 6 ชั่วโมง”

“กูรู้แล้ว! มึงอยู่แถวนั้นรึเปล่าไปตรวจให้หน่อยสิ!

“ผมกำลังไปหาไป่ไป๋ พี่อยู่ที่ไหน?”

“อยู่ที่ JSA ข้าง ๆ ไป่ไป๋นี่แหละ มึงรีบไปหาน้องเลยไม่ต้องกังวล สหายโกเตียมตัวรับมือแล้ว”

“พี่สั่งยกเลิกงานก่อนเถอะ ปล่อยเด็ก ๆ กลับบ้านก่อน ผมมีลางสังหรณ์ไม่ดีว่ะ”

“ยกเลิกฉีดวัคซีนเหรอ ได้สิ! แต่นัมโพกับบันมุนจองไกลกันมากเลย 200 กว่ากิโลเมตรเชียวนะ”

“เอาชัวร์ก่อนพี่! ผมไปหาไป่ไป๋ก่อนนะ ไอ้แทนมันอยู่แคซ็องกำลังกลับมาเหมือนกัน”

“โอเค! กูจะสั่งยกเลิกให้ มึงรับไป่ไป๋กลับบ้านเลยก็ได้”

…………………………………………………

กลิ่นอาหารโชยคลุ้งอบอวลไปทั่วบริเวณอาคารบันมุนกัก กลุ่มอาจุมม่าช่วยกันลงครัวคุยกันดังโช้งเช้งตามปะสาคนแก่

อันยองฮาเซโยยอลาบูน! เหนื่อยกันมั้ยคะจูยอนตะโกนทักทาย

สหายจูยอนมาด้วยเหรอ? คังมีแรอาจุมม่าวิ่งเข้ามาลูบหน้าลูบหลัง...

อั๊ยกู่! ท้องใหญ่มากแล้ว อันจ้ะ!อันจ้ะ!เธอกุลีกุจอยกเก้าอี้เรียกให้นั่ง

มีแรอาจุมม่ามาที่นี่ทำไม วันนี้หยุดไม่ใช่เหรอคะ?

กลับไปบ้านก็เหงามาทำงานกับสหายดีกว่า เอาไว้พักตอนตายก็ได้ เด็ก ๆเหนื่อยกันขนาดนี้จะให้คนแก่นั่งมองก็กระไรอยู่ สายตาที่มองจูยอนนั้นช่างอ่อนโยนมาก

“ไม่ไปชอปปิ้งที่โซลล่ะคะ?”

“กลัวหลง!” ท่านเรียกเสียงฮาได้อีก

คังมีแรอาจุมม่าแม่ม่ายที่เสียลูกชายคนเดียวไปในคดีอาฆาตมาดร้ายท่านผู้นำโดนยัดข้อหาจากกล้องติดรถยนต์ส่วนตัว ต้องใช้ชีวิตคนเดียวจมอยู่กับความโศกเศร้าจนจูยอนไปฉุดขึ้นมา

อาจุมม่าพักผ่อนบ้างนะคะ เราไม่ได้รีบร้อนอะไรค่อย ๆ ทำกันไป อาจุมม่าต้องมีชีวิตที่ยืนยาวอยู่เป็นฮัลแมของเด็กไปนาน ๆ จูยอนเข้ากอดเอว เธออ่อนหวานจนคนเฒ่าคนแก่เสร็จหมด

บอกตัวเองด้วยนะสหายผู้นำ ฉันเห็นหน้าทีไรก็อยากขอบคุณทุกครั้งท่านเข้ามากอดท้องหัวเราะร่า

อึ๊บ! หญิงชราเส้นผมหงอกขาวนั่งข้างหม้อนึ่งลุกยืนบิดตัวไล่ความปวดเมื่อยแล้วเดินกะย่องกะแย่งเข้ามาหา ดวงตาฝ้าส่งแสงพิฆาตเม้มปากหมุบหมิบ ท่าทางแบบนี้คงจะตำหนิผมแน่ ๆ  ต้องรีบโค้งทักทายไว้ก่อน...

ฮัลแมอันยองฮาเซโย กินข้าวหรือยังครับ? ผมรีบนอบน้อมแต่ไม่รอด ท่านชี้หน้าหมายหัว...

ซอนเซงนีม! ท้องแรกอย่าพาออกมาโดนลมบ่อย ๆ สิ ใกล้คลอดไม่ต้องมาทำงานแล้ว เดี๋ยวตีตายเลย!ท่านเงื้อมือราวกับว่าผมเป็นลูกชาย

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!

สังคมครอบครัวใหญ่ไม่เคยเหงาหงอย รู้สึกอบอุ่นและผูกพันกับการแสดงความรักที่ไม่เสแสร้ง การแสดงออกแบบนี้ห่างหายไปจากสังคมทุนนิยมนานมากแล้ว

“ปั้ลลี่! ปั้ลลี่! ชั้นล่างของอาคารอบอวลไปด้วยกลิ่นอาหาร

จูยอนปิดจมูกสีหน้าไม่ค่อยดี หันมากวักมือเรียกมีแรอาจุมม่าไปสั่งงานข้างเสากลางแล้วเดินหน้าซีดมาหา...

โยวโบ้! ฉันจะอ้วกพาออกไปข้างนอกหน่อยใบหน้าของเธอขาวซีด ผมเข้าไปประคองพาเดินออกไปประตูหน้า

ไม่ดื่มน้ำชากันก่อนล่ะคะ?

เธอคลื่นไส้ครับผมหันไปโบกมือปฏิเสธแล้วพาเธอออกไปเดินรับลมนอกอาคาร

ลานหินกรวดข้างอาคารสายลมพัดเย็นสบาย ระฆังเหล็กสมัยโชซอนเขร่งขรึมสงบบนหอศาลาสี่เสาทอดเงาทาบทับ หลังคากระเบื้องแอ่นโค้งราวกับแขนของนางรำทอดยาวมาที่อาคารฮันนกชั้นเดียวที่สร้างในยุคสมัยเดียวกัน สวนก้อนหินจัดวางลงตัวแทรกแซมพุ่มไม้ใบเขียว

โย้วโบ้! นั่งตรงนี้ดีกว่าลมเย็นดีจูยอนยื่นมือมาให้ดึง

เธอขึ้นมานั่งแกว่งขาบนระเบียงยิ้มมองไปที่กลุ่มแม่ครัวที่บันมุนกักทางด้านซ้าย ลานหินกรวดสี่เหลี่ยมกว้างด้านหน้าโล่งเตียนต้นไม้ใหญ่ขอบลานปริหักจากแรงระเบิด อาคารสีฟ้าหายไปหมดสิ้น

เสียงตามสายประกาศเตือนดังขึ้น...

อ้าอ้า!อ้าอ้า! คำสั่งด่วน! เมื่อได้ยินเสียงนี้ให้ทุกคนเลิกงานแล้วแยกย้ายทันที ปล่อยพวกเลื่อนลอยไว้สหายทหารจะเป็นคนรับงานต่อ อ้าอ้า! ได้ยินแล้วออกจากบันมุนจองด่วน! ขอบใจทุกคนที่ทำงานหนัก

จูยอน อมยิ้มแล้วหันมาพยักพเยิด...

โน่น! มากันแล้ว!เธอโบ้ยปาก

เนกาเจอิล จัลนากา! น้องสาวเกาหลีเดินปรบมือร้องเพลงสนุกสนาน

อันยองฮาชิมนิก๊าสหายผู้นำ! ดอกไม้แรกแย้มยิ้มแจ่มใสวิ่งกรูเข้ามาหาโค้งศีรษะ

อันยองฮาเซโยบลูสกาย! รีบกลับกันเลยนะคะ! จูยอนยืนโบกมือเป็นนางงามไปเลย

เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงเลิกงานไวจังเลย หนูยังไม่อยากกลับบ้านเลย ?กลุ่มบลูสกายแวะคุยด้วย สาว ๆ ด้านหลังส่งยิ้มโบกมือแล้วเดินลอดอาคารไปถนนด้านหลังอาคารบันมุนกัก

กลับไปนอนดูซีรีย์ที่บ้านเถอะ!” จูยอนยืนโบกมือ สาว ๆ กลุ่มนี้เดินไปสาว ๆ กลุ่มใหม่เดินเข้ามา...

โอปป้าทหารบอกว่าไป่ไป๋ซอนเซงนีมร้องเพลงเก่งมาก พวกหนูอยากดูค่ะ คราวก่อนพวกหนูไม่ได้ไปเพราะยังไม่ได้สมัครทำงานด้วยเด็กสาวหันไปพยักหน้ากัน

ได้สิคะ! ไป่ไป๋เซมวางแผนจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่ลานคิมอิลซุง ไปบอกต่อกันได้เลยนะคะ! เอ่อ!..เธอบอกว่าจะออกแบบท่าเต้นมาให้ฝึกกันก่อนด้วยนะ เธอขายฝันให้สาว ๆ ดี๊ด๊ากระโดดกระเด้ง

“นี่สหาย! ฉันเหมือนเจนนี่แบล็คพิ้งคึมั้ย?” กลุ่มวัยรุ่นกรี๊ดกร๊าดชอบใจ

จูยอนรีบโบกมือไล่...

“รีบไปกันก่อนเถอะค่ะ! รถมารับแล้ว” เธอชี้ไปที่รถบัสเสียบเข้ามาจอดด้านหลังอาคารบันมุนกัก

อุ๊ย!...” เด็กสาวหน้าตาตื่นชี้ข้ามหัวของผมไปด้านหลัง

“ตัวอะไรคะ! นั่นน่ะ? สาวน้อยจ้องตาเขม็งขยับมาใกล้แล้วชี้ให้จูยอนดูที่พุ่มไม้ด้านหลังหอระฆังกิ่งไหวยวบยาบ

“..........” ผมมองจ้องจนเห็นสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมตัวเขื่องกำลังคลานซ่อนตัวในสวนก้อนหิน

หมามั๊ง?ผมบอกแล้วหันกลับไม่สนใจ

หมาเหรอ? ดีเลยไม่ได้กินนานแล้ว โอปป้ายิงให้หนูหน่อย หนูจะไปตุ๋นใส่โสมมาให้กินแก้หนาวเธอป้องปากบอกทหารด้านหลังอาคาร ประเทศที่จมอยู่กับสงครามกินหมาทุกชาติ ผมก็ประสบการณ์ไม่ถึงเหมือนกัน

จูยอนละสายตาจากเจ้าหมา หันมายิ้มดวงตาประกายวาววับเอียงหัวมากระซิบ...

น้องแทนค่ะ!

หือ! ผมหันกลับไปมอง...ใช่จริง ๆ ด้วย

เจ้าทหารหมวกแดงตัวน้อยมุดหน้าคลานศอกพยายามซ่อนตัวข้างซอกหิน พวกพี่เลี้ยงทหารยืนยิ้มแอบมองอยู่ด้านหลังอาคาร พวกเขาพาน้องมาเล่นกันตรงนี้เอง

เซมคะ! ดื่มน้ำก่อนค่ะ!”  น้องสาวเกาหลีส่งขวดน้ำมาให้

คูมอโย!ผมรับน้ำแล้วลุกไปเก็บก้อนกรวดเล็ก ๆ บนพื้น เดินเข้าไปยืนขอบลานป้องปากตะโกนไปหาทหารหลังอาคาร...

ทหาร! ถ้าซุ่มโป่งต้องนิ่ง มดกัดห้ามขยับ คันก็ห้ามเกา ฝนตกก็ห้ามลุก ลมพายุมาก็ต้องหมอบเอาไว้ หายใจลึก ๆ เข้าไว้ หูคอยฟังเสียงรอบด้าน คลานให้เงียบที่สุด ผมสื่อไปถึงน้องที่กำลังนอนราบหายใจแรง

เย่!!!”  ทหารอมยิ้ม

จูยอนระริกระรี้เข้ามาเล่นด้วย...

โย้วโบ้! ระวังตัวด้วยนะคะ สงสัยศัตรูจะส่งหน่วยจู่โจมเข้ามา

น้องแทนคลานศอกคว่ำหน้ามุดดิน เกลือกกลิ้งเหมือนกับปลาหมอแถกแห้งไปหาบ่อน้ำ พุ่มไม้ไหวยวบยาบ

ก้มหัวไว้! ห้ามเงยหน้า!” ผมปาก้อนกรวดเล็ก ๆ ไปโดนเจ้าตัวน้อยเลื้อยหนีเป็นงูไปเลย ดุ๊กดิ๊กน่ารักเป็นบ้า...ลูกชายของผม

เราต้องอดทนกับอุปสรรค ไม่เจ็บไม่ร้อนอย่าให้ถูกจับได้ ฝนตกห้ามลุกร้อนห้ามร้องผมบอกเสียงดังเดินเข้าไปตรงที่เขานอน

“ฝนตกแล้ว! ผมส่ายขวดน้ำดื่มฉีดลงไป /เขานอนก้มหน้านิ่งไม่ขยับตัวใจเด็ดจริง ๆ สาว ๆ หัวเราะคิกคัก/

ปลอดภัยแล้วตรงนี้ไม่มีอะไรเลย ผมหันหลังกลับ

ทันใดนั้น...

หยุด!...จะยิงนะ กิ่งไม้ไหวโยกเจ้าตัวน้อยพยายามลุกยืน หมวกแดงติดกิ่งไม้ หนามเกี่ยวเสื้อ ปืนหลุดมือ ดูมันช่างเกะกะไปหมดเหมือนแกล้งกัน

โอ๊ะ! อย่ายิงนะ ยอมแพ้แล้วครับ ผมยกสองมือยอมแพ้

กลัวแล้ว! อย่ายิงพวกเรานะ สาว ๆ ยกมือกันพรึบ

แส่ก!แส่ก!แส่ก! พุ่มไม้ยังคงสั่นไหว เจ้าทหารยังแกะกิ่งไม้ออกไม่ได้

“..........” สักพักปืนไม้ก็โผล่ออกมาพร้อมกับทหารหมวกดาวแดง

ห่ะ!..ออม่อ!” ทุกคนตะลึงตาค้าง

ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! สาว ๆ ขำล้มกลิ้งถีบขาสะใจ

เฮ้ย! ไปโดนอะไรมาลูก ผมผวาเข้าไปหา

หยุด! เจ้าทหารจิ๋วโดนทหารเอาดินหม้อละเลงใบหน้าดำปื๋อกะพริบตาปริบ ๆ แต่ท่วงท่ายังขึงขัง เล็งปืนส่ายไปมาเหมือนตุ๊กตาหุ่นยนต์

จูยอนเด้งพรวด...

อุ้มน้องไปล้างหน้าหน่อยค่ะ จูยอนโบกไม้โบกมือ น้อง ๆ วิ่งเข้าไป

นูน่านีม! อย่ามา! เจ้าตัวน้อยยังไม่เลิก หันปืนใส่

อย่ายิง! สาว ๆ หยุดกึกยกมือกันสลอน

ผมก้าวเข้าไปหาเพื่อเจรจาสงบศึก...เจ้าทหารจิ๋ว เจ้ามากี่คน?

หนึ่งคนยกนิ้วชี้ซะด้วย

เจ้าต้องการอะไร?

“เอ่อ!...เขากะพริบตาปริบ ๆ รีรอลังเลก่อนจะหันไปหาจูยอน…

“ออมม่า! เค้าต้องการอะไรเหรอ? เจ้าทหารจิ๋วยืนเก้อ สาว ๆ ฮากระจาย

ต้องการสงบศึกค่ะจูยอนปิดปากกลั้นหัวเราะ

ข้าต้องการสงบศึก ยิงเลย!เขาคงไม่เข้าใจคำว่าสงบศึก...

นี่แน่ะ ๆ พิ่ว ๆ ๆ ๆ ทหารจิ๋วยิงปืนซะตัวสั่นเชียว

พวกเราก็เป็นงานเล่นตามน้ำไป...

อ้าก...กกก!! สาว ๆ ล้มชักดิ้นชักงอ

ทันใดนั้น...

โอ๊ย!ฉันถูกยิง ช่วยด้วย จูยอนล้มตัวลงนอน

โอ๊ะ! จูยอนถูกยิง! เจ้ายิงคนท้องได้ยังไง น้องต้องเจ็บแน่ ๆ

ไม่เจ็บ! ไม่เจ็บหรอก!” น้องแทนตกใจหยุดมอง

“อูยส์! แต่จูยอนยังแสดงอยู่ น้องหน้าเสียทิ้งปืนไม้วิ่งหน้าตั้งเข้าไปหา...

ออมม่า!! เค้าขอโทษ ออมม่าเจ็บหรือเปล่า? น้องเจ็บมั้ย? น้องแทนน้ำตาคลอหน้าเสียซบท้อง กระโปรงยาวของเธอดำเป็นปื้น

“.........” ผมอึ้งซึ้งใจ น้องแทนเป็นเด็กใจเด็ดเหมือนหมวดจางตีให้ตายก็ไม่ร้องไห้

ในขณะเดียวกันจูยอนก็แสดงซะเหมือนเลย ร้องโอดโอย...

โอ๊ยเจ็บจัง น้องนีน่าดิ้นใหญ่เลย!” จูยอนอมยิ้มก้มหน้ามองน้อง

ไม่เอาแล้ว! เค้าไม่เล่นแล้ว! อะป้า!มาดูออมม่าหน่อยเขาก้มกอดท้องร้องไห้น้ำตาละเลงดินหม้อเละเทะไปอีก

เค้าไปเอายาให้น้องแทนเลื่อนตัวถอยลงจากท้องของจูยอน แล้ววิ่งร้องไห้จ้าไปที่อาคาร อีซุมินยืนยิ้มมองอยู่

มิน!มิน!ขอยาหม่องหน่อย เอายาหม่องให้หน่อยซูมินเดินหัวเราะเข้ามาอุ้มน้องแล้วเดินไปด้านหลัง น้อง ๆ ที่แกล้งตายลุกขึ้นปัดฝุ่นหัวเราะเสียงใส

ในขณะที่ทุกชีวิตกำลังสุขใจ เสียงวิทยุทหารเรียกเข้ามา...

เซม! หนีออกจากบันมุนจองด่วน! ทหารจีนบุกโจมตีจากอินชอนครับ

เฮ้ย! มันเข้ามาใกล้มากแล้วนี่ ผมใจหายวาบมันโจมตีเราทางจุดอ่อนจริง ๆ...

ติดต่อนินจาเซม!

เย่!

ทันใดนั้น...

ฟ้าว!!!! เสียงโซนิคบูมทำให้ผมหนาวใจ

จู่ ๆ เครื่องบินรบโผล่จากน่านฟ้าเกาหลีใต้แบบสายฟ้าแลบไม่มีการเตือนล่วงหน้า อุปสรรคที่ขวางกั้นการเดินหน้าของเราปรากฎตัวขึ้นแล้ว

                      ..............................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,906 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด11,022 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท23 ต.ค. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม